+รถหรูขึ้นป้าย SP+
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 3
รถที่มาจอดส่วนใหญ่ไม่ใช่รถของ SECCpongo เขียน:ปิด ไม่ปิด ไม่รู้
รู้แต่ตามโชว์รูมไม่มีรถจอดแล้ว สินทรัพย์บริษัทเหลือเท่าไร ลองคิดดู
ศูนย์บริการก็ได้ข่าวว่าเปิดบริการถึงสิ้นเดือน
พนักงานก็ปลงแล้ว ตามข่าว นสพ นะ ฮิฮิ
เป็นรถของ Supplier จอดโชว์ หรือเช่ามาจอด โดยมีข้อตกลงแบ่งกำไรให้ 10-15% หากขายได้
ที่ดินของแต่ละสาขาก้อไม่มีกรรมสิทธิ์ เช่าเขาอีกทีทั้งนั้น
จะมีกรรมสิทธิ์ก้อแต่ตัวตึก ซึ่งหากหมดสัญญาเช่าที่ดิน ตึกก้อเป็นของเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่ SECC
เวรกรรมครับ เจอผู้บริหารแบบนี้ :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 5
อย่างนี้ กลต. กับ IPO Financial Advisor สมควรรับผิดชอบอะไรบ้างมั้ย
หรือว่าเป็นความผิดของรายย่อยที่เข้ามาซื้อหุ้นเอง เพราะบอกไว้แล้วว่า
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน
หรือว่าเป็นความผิดของรายย่อยที่เข้ามาซื้อหุ้นเอง เพราะบอกไว้แล้วว่า
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 7
ไม่น่าเชื่อว่า ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 10
ความผิดของรายย่อยมังครับ เพราะลืมอ่านตัวอักษรเล็ก ๆ ที่ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน.........กลุ้มเลยนะครับ กับพวก ที่ไปลงทุนร่วมด้วย ดีหน่อย หุ้นใหม่ ๆ ผมไม่ได้สนใจเลย เพราะไม่เชื่อในการจัดหาหุ้นเข้าตลาด ...สัจจธรรมที่ว่า ของดีเขาคงเก็บไว้ แต่ของเสียเอามาแบ่งให้กัน.....นี่ยังมีอิทธิพลอยู่อีกนะ..... จะหาพวกที่เข้าตลาดเพราะต้องการขยายงานและใช้ความสามารถนั้นยากกันหน่อย .... ฉะนั้นพวกที่เข้าตลาดเพื่อหาเงินชำระหนี้ที่มีอยู่เป็นหลัก นั้นผมไม่ชอบเลยครับ......เพื่อตลาดที่ดีและมั่นคงในอนาคต ก็ควรหา หุ้นที่กระจายให้น้อย เข้ามาเพราะต้องการมีชื่อเสียงว่าติดบริษัทจดทะเบียน และเผื่อไว้ว่า จะขยายงานในอนาคต เมื่อมีโอกาส.........สรุป ว่า ผิดกันทุกฝ่าย แล้ว broker ไหนเป็นผู้เอาเข้าละครับ ใครเป็น FA ให้ครับ......คราวหน้าจะได้ระวังกันหน่อย :D :DFinancial Engineer เขียน:อย่างนี้ กลต. กับ IPO Financial Advisor สมควรรับผิดชอบอะไรบ้างมั้ย
หรือว่าเป็นความผิดของรายย่อยที่เข้ามาซื้อหุ้นเอง เพราะบอกไว้แล้วว่า
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 11
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความไม่รู้คือความเสี่ยง เราไม่มีทางรู้เลยว่า บริษัทเล็กๆเหล่านั้นหมกเม็ดอะไรไว้บ้าง
ลองมาเทียบกับบริษัทใหญ่ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ บริษัทที่ใหญ่ มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องเยอะมาก หลายฝ่ายช่วยกันตรวจสอบ
ทำให้อย่างน้อย การหมกเม็ด ก็น่าจะน้อยลง หรือไม่ก็หมกเม็ดแบบไม่น่าเกลียด ค้นเจอ ก็พอรับได้
ลองมาเทียบกับบริษัทใหญ่ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ บริษัทที่ใหญ่ มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องเยอะมาก หลายฝ่ายช่วยกันตรวจสอบ
ทำให้อย่างน้อย การหมกเม็ด ก็น่าจะน้อยลง หรือไม่ก็หมกเม็ดแบบไม่น่าเกลียด ค้นเจอ ก็พอรับได้
-
- Verified User
- โพสต์: 601
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 12
เจอข่าวแบบนี้ คนทั่วไป ไม่กล้าเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะทำให้ภาพรวมเสียหมด ลองฟังคุณสุนันท์ กับ อ.นิเวศน์ พูดก็ดีนะครับ.......
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 14
อนึ่งคิดถึงพอสังเขป
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=u9U=
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=19793
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊คคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้น SECC ยังมีข่าวดีรออยู่ข้างหน้าเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ที่คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยเงินลงทุนน่าจะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
“ ประเด็นการลงทุนในหุ้น SECC ไม่มีปัญหา เพราะข่าวดีที่รออยู่ยังมีทั้งการเข้าร่วมประมูลรถเช่า ขสมก. จำนวน 4,000 คัน และการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท โดยโชว์รูมดังกล่าวคาดว่าจะสร้างประโยชน์และรายได้ให้ SECC ในอนาคตได้เป็นจำนวนมาก เพราะจะเปิดเป็นลักษณะช็อปปิ้งมอลล์ที่จะนำเข้ารถยนต์เพื่อจัดจำหน่ายได้ถึง 200 กว่าคันและมีศูนย์บริการช่องซ่อมบำรุงที่รองรับถึง 100 ช่อง” นายรณกฤตกล่าว
รอบนี้ต้องเล่นเก็งกำไร
http://www.thunhoon.com/highlight/47010/47010.html
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=u9U=
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=19793
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊คคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้น SECC ยังมีข่าวดีรออยู่ข้างหน้าเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ที่คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยเงินลงทุนน่าจะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
“ ประเด็นการลงทุนในหุ้น SECC ไม่มีปัญหา เพราะข่าวดีที่รออยู่ยังมีทั้งการเข้าร่วมประมูลรถเช่า ขสมก. จำนวน 4,000 คัน และการก่อสร้างโชว์รูมแห่งใหม่มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท โดยโชว์รูมดังกล่าวคาดว่าจะสร้างประโยชน์และรายได้ให้ SECC ในอนาคตได้เป็นจำนวนมาก เพราะจะเปิดเป็นลักษณะช็อปปิ้งมอลล์ที่จะนำเข้ารถยนต์เพื่อจัดจำหน่ายได้ถึง 200 กว่าคันและมีศูนย์บริการช่องซ่อมบำรุงที่รองรับถึง 100 ช่อง” นายรณกฤตกล่าว
รอบนี้ต้องเล่นเก็งกำไร
http://www.thunhoon.com/highlight/47010/47010.html
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 15
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 16
5555 เออจริงด้วยนะ
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 17
นิทานเรื่องนี้ถ้าจะยาว คงมีอะไรออกมาอีกเยอะ นี่แค่รายงานรอบแรกหลักทรัพย์ SECC
แหล่งข่าว SECC
หัวข้อข่าว แจ้งการประเมินเบื้องต้น
วันที่/เวลา 08 ธ.ค. 2551 14:03:47
วันที่ 8 ธันวาคม 2551
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการ บริษัทฯ ครั้งที่ 13/2551 (เพิ่มเติม)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่คณะกรรมการบริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC
ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการของบริษัทฯ ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ ได้หลบหนีออกนอกประเทศนั้น คณะทำงานได้แต่งตั้ง
ให้พนักงานของบริษัทฯ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเป็นผู้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้น
ของบริษัทฯ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้รับรายงานว่า คาดว่ามีรถยนต์จำนวน 476 คัน ได้สูญหายไป
จากคลังสินค้าของบริษัทฯ และมีจำนวนอีก 5 คัน ที่ถูกเจ้าหนี้ส่วนตัวของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์
ยึดเอาไปจากโชว์รูมของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก ว่ารถยนต์จำนวนดังกล่าว ได้
หายไปจากคลังสินค้าได้อย่างไร และดำเนินการติดตามเอารถยนต์ที่หายไปกลับคืนมาต่อไป ส่วน
มูลค่าความเสียหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าคิดเป็นมูลค่า 1,358,372,103.14 คิดเป็นร้อยละ
60 ของสินทรัพย์รวม(สินทรัพย์รวม ณ กันยายน 2551 มูลค่ารวม 2,252,333,000 บาท)
ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งบริษัท
ฯ จะรายงานให้ทราบต่อไป และจะรายงานความคืบหน้าของการตรวจสอบดังกล่าวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ )
กรรมการผู้จัดการ
อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อว่าไม่มีคนอื่นสมรู้ร่วมคิดด้วย :lol:
(แต่คนที่สอบสวนเรื่องนี้อาจจะเชื่อก็ได้ :lovl: )
-
- Verified User
- โพสต์: 503
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 18
:vm: :vm: :vm:
ข้อมูลเพิ่มเติม ครับ นี้เเค่ความเสียหายบ้างส่วนเบื้องต้น
วันที่ 8 ธันวาคม 2551
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการ บริษัทฯ ครั้งที่ 13/2551 (เพิ่มเติม)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่คณะกรรมการบริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC
ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการของบริษัทฯ ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ ได้หลบหนีออกนอกประเทศนั้น คณะทำงานได้แต่งตั้ง
ให้พนักงานของบริษัทฯ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเป็นผู้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้น
ของบริษัทฯ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้รับรายงานว่า คาดว่ามีรถยนต์จำนวน 476 คัน ได้สูญหายไป
จากคลังสินค้าของบริษัทฯ และมีจำนวนอีก 5 คัน ที่ถูกเจ้าหนี้ส่วนตัวของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์
ยึดเอาไปจากโชว์รูมของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก ว่ารถยนต์จำนวนดังกล่าว ได้
หายไปจากคลังสินค้าได้อย่างไร และดำเนินการติดตามเอารถยนต์ที่หายไปกลับคืนมาต่อไป ส่วน
มูลค่าความเสียหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าคิดเป็นมูลค่า 1,358,372,103.14 คิดเป็นร้อยละ
60 ของสินทรัพย์รวม(สินทรัพย์รวม ณ กันยายน 2551 มูลค่ารวม 2,252,333,000 บาท)
ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งบริษัท
ฯ จะรายงานให้ทราบต่อไป และจะรายงานความคืบหน้าของการตรวจสอบดังกล่าวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ )
กรรมการผู้จัดการ
ข้อมูลเพิ่มเติม ครับ นี้เเค่ความเสียหายบ้างส่วนเบื้องต้น
วันที่ 8 ธันวาคม 2551
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการ บริษัทฯ ครั้งที่ 13/2551 (เพิ่มเติม)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่คณะกรรมการบริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC
ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการของบริษัทฯ ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ ได้หลบหนีออกนอกประเทศนั้น คณะทำงานได้แต่งตั้ง
ให้พนักงานของบริษัทฯ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเป็นผู้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้น
ของบริษัทฯ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้รับรายงานว่า คาดว่ามีรถยนต์จำนวน 476 คัน ได้สูญหายไป
จากคลังสินค้าของบริษัทฯ และมีจำนวนอีก 5 คัน ที่ถูกเจ้าหนี้ส่วนตัวของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์
ยึดเอาไปจากโชว์รูมของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก ว่ารถยนต์จำนวนดังกล่าว ได้
หายไปจากคลังสินค้าได้อย่างไร และดำเนินการติดตามเอารถยนต์ที่หายไปกลับคืนมาต่อไป ส่วน
มูลค่าความเสียหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าคิดเป็นมูลค่า 1,358,372,103.14 คิดเป็นร้อยละ
60 ของสินทรัพย์รวม(สินทรัพย์รวม ณ กันยายน 2551 มูลค่ารวม 2,252,333,000 บาท)
ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งบริษัท
ฯ จะรายงานให้ทราบต่อไป และจะรายงานความคืบหน้าของการตรวจสอบดังกล่าวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ )
กรรมการผู้จัดการ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 19
สินทรัพย์หายไป 60% เหลือแค่ไม่ถึง 900 ล้าน
บริษัทมีหนี้สินอยู่ 9 ร้อยกว่าล้าน ถ้าตามรถกลับมาไม่ได้ ส่วนทุนก็ติดลบเรียบร้อยแล้ว
บริษัทมีหนี้สินอยู่ 9 ร้อยกว่าล้าน ถ้าตามรถกลับมาไม่ได้ ส่วนทุนก็ติดลบเรียบร้อยแล้ว
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- pongo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 22
คาดว่ามีรถยนต์จำนวน 476 คัน ได้สูญหายไปจากคลังสินค้าของบริษัทฯ และมีจำนวนอีก 5 คันที่ถูกเจ้าหนี้ส่วนตัวของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ยึดเอาไปจากโชว์รูมของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก ว่ารถยนต์จำนวนดังกล่าว ได้หายไปจากคลังสินค้าได้อย่างไร และดำเนินการติดตามเอารถยนต์ที่หายไปกลับคืนมาต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าคิดเป็นมูลค่า 1,358,372,103.14 คิดเป็นร้อยละ 60 ของสินทรัพย์รวม(สินทรัพย์รวม ณ กันยายน 2551 มูลค่ารวม 2,252,333,000 บาท)
จาก http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1499.0
ถ้าอย่างที่คุณ beammy บอก ว่ารถเป็นของ supplier ซะส่วนใหญ่
ซึ่ง SECC ไม่น่ามีกรรมสิทธิ์ แล้วสินค้าคงคลัง (รถ) นี่ทาง SECC ลงบัญชียังไงเหรอครับ
ไม่น่าจะลงได้ทั้งมูลค่าของรถนะ ท่านใดเก่งบัญชี ขอเป็นความรู้หน่อยครับ
ถ้าตามที่โพส ก็ตกคันละ 2.85 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก ว่ารถยนต์จำนวนดังกล่าว ได้หายไปจากคลังสินค้าได้อย่างไร และดำเนินการติดตามเอารถยนต์ที่หายไปกลับคืนมาต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าคิดเป็นมูลค่า 1,358,372,103.14 คิดเป็นร้อยละ 60 ของสินทรัพย์รวม(สินทรัพย์รวม ณ กันยายน 2551 มูลค่ารวม 2,252,333,000 บาท)
จาก http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1499.0
ถ้าอย่างที่คุณ beammy บอก ว่ารถเป็นของ supplier ซะส่วนใหญ่
ซึ่ง SECC ไม่น่ามีกรรมสิทธิ์ แล้วสินค้าคงคลัง (รถ) นี่ทาง SECC ลงบัญชียังไงเหรอครับ
ไม่น่าจะลงได้ทั้งมูลค่าของรถนะ ท่านใดเก่งบัญชี ขอเป็นความรู้หน่อยครับ
ถ้าตามที่โพส ก็ตกคันละ 2.85 ล้านบาท
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 26
มันไม่่มีรถ(จริงๆ) 476 คันในคลังอยู่แล้วหรือเปล่าครับ
มีแต่เลขทางบัญชี :lol:
มีแต่เลขทางบัญชี :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 28
[quote="พี่หมอเค (ได้ถ้วย)"]อนึ่งคิดถึงพอสังเขป
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=u9U=
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=19793
นายรณกฤต
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=u9U=
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=19793
นายรณกฤต
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
+รถหรูขึ้นป้าย SP+
โพสต์ที่ 30
โดยทั่วไปแล้วนั้น การทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ จะต้องอาศัย Order เป็นหลัก เพราะมิเช่นนั้นบริษัทจะต้องสต๊อก "รถยนต์นำเข้า" บางรุ่นโดยไม่จำเป็น เนื่องจากไม่รู้ว่า "ยี่ห้อไหน สีไหน รุ่นไหน" จะขายได้
ดังนั้น การสต๊อกรถยนต์มากถึงเกือบ 500 คัน จึงแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เพราะเท่าที่ทราบมาจากการที่ผมทำธุรกิจลักษณะแบบนี้มาก่อน บริษัทที่ทำแบบนี้ได้ จะต้องมี "โกดังสินค้า" ที่ใหญ่มาก และ "Order" ก้อต้อง เยอะมาก เช่นกัน
แต่ SEC ไม่ได้มีเช่นนั้น :P และไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นด้วย เพราะอะไร ???
บริษัทนำเข้ารถยนต์ทั่วไปเมื่อมีคำสั่งซื้อจากลูกค้า บริษัทฯ ก้อจะ Order ไปยัง Stocklist Centre ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพราะจะมีรถประเภทแบบที่ลูกค้าต้องการเยอะมาก
พิจารณากระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ รถยนต์นำเข้านี้ จะถึงมีลูกค้าซึ่งเป็น End User ภายในกำหนดเวลา 2-3 สัปดาห์ เท่านั้น :8)
เมื่อพลิกดูงบการเงินต่างๆ ก้อแปลกใจอีกเช่นกัน
มีที่ไหนในธุรกิจนี้ ที่ NPM จะต่ำเตี้ยเพียง 10 กว่าเปอร์เซนต์ :roll:
เป็นไปไม่ได้ครับ ตัวเลขจริงเยอะกว่านั้นมากมายมหาศาลทีเดียวเชียว :8)
ดังนั้น การสต๊อกรถยนต์มากถึงเกือบ 500 คัน จึงแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เพราะเท่าที่ทราบมาจากการที่ผมทำธุรกิจลักษณะแบบนี้มาก่อน บริษัทที่ทำแบบนี้ได้ จะต้องมี "โกดังสินค้า" ที่ใหญ่มาก และ "Order" ก้อต้อง เยอะมาก เช่นกัน
แต่ SEC ไม่ได้มีเช่นนั้น :P และไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นด้วย เพราะอะไร ???
บริษัทนำเข้ารถยนต์ทั่วไปเมื่อมีคำสั่งซื้อจากลูกค้า บริษัทฯ ก้อจะ Order ไปยัง Stocklist Centre ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพราะจะมีรถประเภทแบบที่ลูกค้าต้องการเยอะมาก
พิจารณากระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ รถยนต์นำเข้านี้ จะถึงมีลูกค้าซึ่งเป็น End User ภายในกำหนดเวลา 2-3 สัปดาห์ เท่านั้น :8)
เมื่อพลิกดูงบการเงินต่างๆ ก้อแปลกใจอีกเช่นกัน
มีที่ไหนในธุรกิจนี้ ที่ NPM จะต่ำเตี้ยเพียง 10 กว่าเปอร์เซนต์ :roll:
เป็นไปไม่ได้ครับ ตัวเลขจริงเยอะกว่านั้นมากมายมหาศาลทีเดียวเชียว :8)