ตลท.แจ้งจับผู้บริหาร "เอสอีซีซี" ปลอมใบหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
ตลท.แจ้งจับผู้บริหาร "เอสอีซีซี" ปลอมใบหุ้น
โพสต์ที่ 1
ตลาดหลักทรัพย์นำร่องแจ้งความเอาผิดอาญาผู้บริหาร "เอสอีซีซี" กรณีปลอมใบหุ้น ทำให้เกิดความเสียหาย ขณะที่ข้อหาอื่นรอผลตรวจสอบพิเศษร่วมกับ ก.ล.ต.หากพบผิดพร้อมส่งดีเอสไอฟันทันที
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้บริหาร บริษัทเอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (เอสอีซีซี) ในกรณีที่มีการปลอมใบหุ้น เนื่องจากมีผู้ได้รับความเสียหาย
ก่อนหน้านี้นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ เอสอีซีซี ได้หนีออกนอกประเทศ และบริษัทได้ชี้แจงถึงความเสียหายที่ได้รับว่ามีรถยนต์หายกว่า 476 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ราว 1.36 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของสินทรัพย์รวม
นางภัทรียา กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการลงโทษเอาผิดในขั้นตอนอื่น จะเป็นไปตามกระบวนการ คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ซึ่งเมื่อมีข้อสรุปแล้ว ก็จะส่งต่อไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อลงโทษตามข้อบังคับทางกฎหมาย
ก.ล.ต.ขู่ฟันบอร์ดตรวจสอบ
นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอสอีซีซีนั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบและทยอยดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้ในไม่ช้า
ทั้งนี้ประเด็นเรื่องใบหุ้นปลอมนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันไม่บังคับว่าหุ้นของ บจ.ทุกแห่งต้องเข้าสู่ระบบ Scriptless ผู้ถือหุ้นที่ต้องการโกงจึงมีการทำใบหุ้นปลอมขึ้นเพื่อหาประโยชน์ และจะตรวจพบก็ต่อเมื่อมีการนำใบหุ้นปลอมดังกล่าวไปฝากในระบบของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
นายธีระชัย กล่าวว่า กรณีที่ ก.ล.ต. สั่งการให้เอสอีซีซีทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) นั้น เพื่อให้เอสอีซีซี เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีหนังสือถึงกรรมการและบอร์ดตรวจสอบของเอสอีซีซีแต่ละราย เพื่อกำชับให้ดูแลให้เอสอีซีซี เร่งดำเนินการตามคำสั่งการของ ก.ล.ต. ไม่เช่นนั้น กรรมการแต่ละรายจะถือว่าฝ่าฝืนมาตรา 58(3) ซึ่งมีโทษทางอาญาด้วย
สมาคมรายย่อยเสียหายพันล้าน
ด้านนายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า สมาคมอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายจากกรณีการลงทุนในหุ้นเอสอีซีซี หลังจากได้ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทตามข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ โดยจะรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายให้ได้มากที่สุด เบื้องต้นน่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน ในการรวบรวมรายชื่อ จากนั้นสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งภายในเดือนม.ค.2552 ในฐานะผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้เสียหายและในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้น คาดว่ามูลค่าเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท
ข้อหาที่จะดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งคือการให้ข้อมูลเท็จที่ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความเสียหาย โดยจะเอาผิดทั้งประธานกรรมการบริษัท คือนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ รวมถึงคณะกรรมการบริษัท กรรมการอิสระ รวมถึงกรรมการตรวจสอบเนื่องจากประเมินว่ามีความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่จนผู้อื่นเกิดความเสียหาย
ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดจากกรณีนี้ได้เพราะเพิ่งรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลภายใน 5 วัน จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และจะยื่นฟ้องในเดือนหน้า แต่เชื่อว่าความเสียหายครั้งนี้จะอยู่ในหลัก 1,000 ล้านบาท
นายวิชา กล่าวว่า นอกจากการดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งแล้ว สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะนำเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลความเสียหายของนักลงทุนที่รวบรวมได้ทั้งหมด ส่งมอบให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเอสอีซีซีเป็นเรื่องใหญ่ มีทั้งเรื่องการให้กู้ยืมนอกระบบ เรื่องรถหาย เรื่องใบหุ้นปลอม เรื่องป้ายทะเบียนซ้ำซ้อน ซึ่งในหลายกรณีไปเกี่ยวพันกับบุคคลหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าหนี้ ลูกค้า คณะกรรมการบริษัท ผู้สอบบัญชีและแม้กระทั่งนักลงทุน ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เขากล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ติดตามข้อมูล ทางดีเอสไอ ได้เริ่มเข้าไปดำเนินการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวแล้วหลังจากได้รับข้อมูลจาก ก.ล.ต. และเชื่อว่า หากดีเอสไอได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ทางสมาคมฯส่งมอบให้ การดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดจะกระชับมากขึ้น
ฟินันซ่าปิด บง.-ไม่เกี่ยวเอสอีซีซี
แหล่งข่าวจากบริษัทฟินันซ่า กล่าวว่า การที่ บง.ฟินันซ่าจะปิดกิจการนั้น ไม่ได้เกิดจากความเสียหายกรณีธุรกรรมกับเอสอีซีซี แต่เป็นแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจาก บง.ฟินันซ่า ต้องการยกฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยการควบรวมกับบริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาทร แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยจะยุบในส่วนของ บง.ฟินันซ่า
"ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแผนการยุบ บง.ฟินันซ่า ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับปัญหาของเอสอีซีซี แพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้น บง.ฟินันซ่าได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ประมาณ 10 ล้านบาทเท่านั้น และไม่ได้มีผลกระทบที่จะต้องทำให้เป็นสาเหตุของการปิดบริษัท ซึ่งข่าวลือที่เกิดขึ้นน่าจะเกินความจริง"
ขณะที่ บล.ฟินันซ่า ได้รับผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นของเอสอีซีซี ประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น และไม่ได้พบว่ามีปัญหาเรื่องใบหุ้นปลอม เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทได้ห้ามลูกค้าทำการซื้อขายแบบชอร์ตเซลของหุ้นเอสอีซีซี ตั้งแต่ตอนที่ราคาหุ้นเริ่มหวือหวา
สคิบโดนหางเลข 30 ล้าน
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการด้านหลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย ได้ยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการ บล.เพื่อแสดงสปิริตกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการทำธุรกรรมมาร์จินโลน ในหุ้นไลฟ์อินคอร์ปอเรชั่น และไออีซี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด
การยื่นใบลาออกของคุณสาธิต เป็นการแสดงสปิริตที่บริษัทได้รับความเสียหายจากมาร์จินโลน ไม่เกี่ยวกับหุ้นเอสอีซีซี เพราะ บล.ไม่ได้ทำการปล่อยกู้ให้กับเอสอีซีซี คนที่ปล่อยคือแบงก์นครหลวงไทยในวงเงินไม่ถึง 30 ล้านบาท ปัจจุบันยังเป็นลูกหนี้ปกติ เพราะมีการชำระดอกเบี้ยทุกเดือน
http://www.bangkokbiznews.com/2008/12/1 ... 321175.php
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้บริหาร บริษัทเอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (เอสอีซีซี) ในกรณีที่มีการปลอมใบหุ้น เนื่องจากมีผู้ได้รับความเสียหาย
ก่อนหน้านี้นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ เอสอีซีซี ได้หนีออกนอกประเทศ และบริษัทได้ชี้แจงถึงความเสียหายที่ได้รับว่ามีรถยนต์หายกว่า 476 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ราว 1.36 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของสินทรัพย์รวม
นางภัทรียา กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการลงโทษเอาผิดในขั้นตอนอื่น จะเป็นไปตามกระบวนการ คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ซึ่งเมื่อมีข้อสรุปแล้ว ก็จะส่งต่อไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อลงโทษตามข้อบังคับทางกฎหมาย
ก.ล.ต.ขู่ฟันบอร์ดตรวจสอบ
นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอสอีซีซีนั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบและทยอยดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้ในไม่ช้า
ทั้งนี้ประเด็นเรื่องใบหุ้นปลอมนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันไม่บังคับว่าหุ้นของ บจ.ทุกแห่งต้องเข้าสู่ระบบ Scriptless ผู้ถือหุ้นที่ต้องการโกงจึงมีการทำใบหุ้นปลอมขึ้นเพื่อหาประโยชน์ และจะตรวจพบก็ต่อเมื่อมีการนำใบหุ้นปลอมดังกล่าวไปฝากในระบบของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
นายธีระชัย กล่าวว่า กรณีที่ ก.ล.ต. สั่งการให้เอสอีซีซีทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) นั้น เพื่อให้เอสอีซีซี เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีหนังสือถึงกรรมการและบอร์ดตรวจสอบของเอสอีซีซีแต่ละราย เพื่อกำชับให้ดูแลให้เอสอีซีซี เร่งดำเนินการตามคำสั่งการของ ก.ล.ต. ไม่เช่นนั้น กรรมการแต่ละรายจะถือว่าฝ่าฝืนมาตรา 58(3) ซึ่งมีโทษทางอาญาด้วย
สมาคมรายย่อยเสียหายพันล้าน
ด้านนายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า สมาคมอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายจากกรณีการลงทุนในหุ้นเอสอีซีซี หลังจากได้ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทตามข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ โดยจะรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายให้ได้มากที่สุด เบื้องต้นน่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน ในการรวบรวมรายชื่อ จากนั้นสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งภายในเดือนม.ค.2552 ในฐานะผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้เสียหายและในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้น คาดว่ามูลค่าเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท
ข้อหาที่จะดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งคือการให้ข้อมูลเท็จที่ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความเสียหาย โดยจะเอาผิดทั้งประธานกรรมการบริษัท คือนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ รวมถึงคณะกรรมการบริษัท กรรมการอิสระ รวมถึงกรรมการตรวจสอบเนื่องจากประเมินว่ามีความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่จนผู้อื่นเกิดความเสียหาย
ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดจากกรณีนี้ได้เพราะเพิ่งรวบรวมข้อมูล คาดว่าจะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลภายใน 5 วัน จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และจะยื่นฟ้องในเดือนหน้า แต่เชื่อว่าความเสียหายครั้งนี้จะอยู่ในหลัก 1,000 ล้านบาท
นายวิชา กล่าวว่า นอกจากการดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งแล้ว สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจะนำเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลความเสียหายของนักลงทุนที่รวบรวมได้ทั้งหมด ส่งมอบให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเอสอีซีซีเป็นเรื่องใหญ่ มีทั้งเรื่องการให้กู้ยืมนอกระบบ เรื่องรถหาย เรื่องใบหุ้นปลอม เรื่องป้ายทะเบียนซ้ำซ้อน ซึ่งในหลายกรณีไปเกี่ยวพันกับบุคคลหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าหนี้ ลูกค้า คณะกรรมการบริษัท ผู้สอบบัญชีและแม้กระทั่งนักลงทุน ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เขากล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ติดตามข้อมูล ทางดีเอสไอ ได้เริ่มเข้าไปดำเนินการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวแล้วหลังจากได้รับข้อมูลจาก ก.ล.ต. และเชื่อว่า หากดีเอสไอได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ทางสมาคมฯส่งมอบให้ การดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดจะกระชับมากขึ้น
ฟินันซ่าปิด บง.-ไม่เกี่ยวเอสอีซีซี
แหล่งข่าวจากบริษัทฟินันซ่า กล่าวว่า การที่ บง.ฟินันซ่าจะปิดกิจการนั้น ไม่ได้เกิดจากความเสียหายกรณีธุรกรรมกับเอสอีซีซี แต่เป็นแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจาก บง.ฟินันซ่า ต้องการยกฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยการควบรวมกับบริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาทร แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยจะยุบในส่วนของ บง.ฟินันซ่า
"ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแผนการยุบ บง.ฟินันซ่า ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับปัญหาของเอสอีซีซี แพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้น บง.ฟินันซ่าได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ประมาณ 10 ล้านบาทเท่านั้น และไม่ได้มีผลกระทบที่จะต้องทำให้เป็นสาเหตุของการปิดบริษัท ซึ่งข่าวลือที่เกิดขึ้นน่าจะเกินความจริง"
ขณะที่ บล.ฟินันซ่า ได้รับผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นของเอสอีซีซี ประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น และไม่ได้พบว่ามีปัญหาเรื่องใบหุ้นปลอม เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทได้ห้ามลูกค้าทำการซื้อขายแบบชอร์ตเซลของหุ้นเอสอีซีซี ตั้งแต่ตอนที่ราคาหุ้นเริ่มหวือหวา
สคิบโดนหางเลข 30 ล้าน
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการด้านหลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย ได้ยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการ บล.เพื่อแสดงสปิริตกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการทำธุรกรรมมาร์จินโลน ในหุ้นไลฟ์อินคอร์ปอเรชั่น และไออีซี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด
การยื่นใบลาออกของคุณสาธิต เป็นการแสดงสปิริตที่บริษัทได้รับความเสียหายจากมาร์จินโลน ไม่เกี่ยวกับหุ้นเอสอีซีซี เพราะ บล.ไม่ได้ทำการปล่อยกู้ให้กับเอสอีซีซี คนที่ปล่อยคือแบงก์นครหลวงไทยในวงเงินไม่ถึง 30 ล้านบาท ปัจจุบันยังเป็นลูกหนี้ปกติ เพราะมีการชำระดอกเบี้ยทุกเดือน
http://www.bangkokbiznews.com/2008/12/1 ... 321175.php
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
ตลท.แจ้งจับผู้บริหาร "เอสอีซีซี" ปลอมใบหุ้น
โพสต์ที่ 2
ประสพการณ์
ผมนำใบหุ้นไปขายที่ บริษัทหลักทรัพย์
กว่าจะขายได้ ขั้นตอนมากมาย
เริ่มต้นต้องคุยกับมร์เก็ตติ้ง มีสำเนาบัตรประชาชน
เซ็นต์ตรงช่องด้านหลังใบ้หุ้น
ผู้อำนวยการห้องค้า รับเรื่องบอกให้รอ
แฟ็กซ์เอกสารไป ศูนย์ฝากหลักทรัพย์
มีหนังสือยืนยัน หมายเหขทะเบียนหุ้น ตรงกับชื่อผู้ถือ
(แถมมาเก็ตติ้งต้องรับรองลูกค้า)
แล้วงานนี้ยอดเงินมากมาย ทำไม ผ่านไปได้
น่าจะมีการร่วมมือกันเป็นขบวนการ
ผมนำใบหุ้นไปขายที่ บริษัทหลักทรัพย์
กว่าจะขายได้ ขั้นตอนมากมาย
เริ่มต้นต้องคุยกับมร์เก็ตติ้ง มีสำเนาบัตรประชาชน
เซ็นต์ตรงช่องด้านหลังใบ้หุ้น
ผู้อำนวยการห้องค้า รับเรื่องบอกให้รอ
แฟ็กซ์เอกสารไป ศูนย์ฝากหลักทรัพย์
มีหนังสือยืนยัน หมายเหขทะเบียนหุ้น ตรงกับชื่อผู้ถือ
(แถมมาเก็ตติ้งต้องรับรองลูกค้า)
แล้วงานนี้ยอดเงินมากมาย ทำไม ผ่านไปได้
น่าจะมีการร่วมมือกันเป็นขบวนการ
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
ตลท.แจ้งจับผู้บริหาร "เอสอีซีซี" ปลอมใบหุ้น
โพสต์ที่ 4
หันไปดูร้อยคนร้อยหุ้น
ก็ดีใจด้วยครับที่น้องบีมมี่ คุณ kij99 ออกตัวทัน
มีร้อยคนร้อยหุ้นพันสมาชิกก็ดีอย่างนี้แหละครับ
มีอะไรๆก็รีบเตือนกัน
ปล. มีสมาชิกวีไอบางท่านเกือบโดนหางเลข secc ไปด้วยนะครับ
เห็นว่าเคาะซื้อไปแล้ว แต่เครื่องไม่รับเพราะติดเงื่อนไขต้องวางเงินก่อน
ไม่งั้นล่ะก็......
เซียนก็เกือบหัวทิ่มเหมือนกัน :lol:
แซวขำๆนะครับ ไม่ต้องพีอ็มมาถามว่าเป็นใคร เพราะไม่บอก อิอิ
ก็ดีใจด้วยครับที่น้องบีมมี่ คุณ kij99 ออกตัวทัน
มีร้อยคนร้อยหุ้นพันสมาชิกก็ดีอย่างนี้แหละครับ
มีอะไรๆก็รีบเตือนกัน
ปล. มีสมาชิกวีไอบางท่านเกือบโดนหางเลข secc ไปด้วยนะครับ
เห็นว่าเคาะซื้อไปแล้ว แต่เครื่องไม่รับเพราะติดเงื่อนไขต้องวางเงินก่อน
ไม่งั้นล่ะก็......
เซียนก็เกือบหัวทิ่มเหมือนกัน :lol:
แซวขำๆนะครับ ไม่ต้องพีอ็มมาถามว่าเป็นใคร เพราะไม่บอก อิอิ