ผู้ถือหุ้นปตท.กรี๊ดสลบ

[vichit]

ผู้ถือหุ้นปตท.กรี๊ดสลบ
คลังสั่งปันผลเพิ่มปี52
เป็น12.50บาทต่อหุ้น
อุดรายได้ไม่เข้าเป้า

สำนักรัฐฯบีบปตท.หรือ PTT ควักเงินจ่ายเงิยปันผลปีหน้าเพิ่มเป็น 12.50 บาท จากปีนี้  12.00 บาท หารายได้เข้ารัฐบาลเพิ่มหลังคาดการณ์ปีหน้าอาจไม่เข้าเป้า ระบุปันผลเพิ่มขึ้นทุก 50 ส.ต. ได้เม็ดเงินกว่า 700 ล้านบาท ทั้งกองวายุภักดิ์ และกองทุนรวมยิ้มรับข่าวดี ด้านนักวิเคราะห์แนะเก็บ PTT รับปันผลงาม

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)กล่าวว่า บมจ.ปตท. หรือ PTT เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ส่งรายได้ให้รัฐบาลมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากมีการนำส่งรายได้ 2 ทาง คือ ในรูปของเงินปันผลและภาษีนิติบุคคล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับสัดส่วนเงินปันผลให้เพิ่มขึ้นเพื่อที่รัฐบาลจะสามารถเก็บรายได้ตามเป้า โดยผู้ถือรายย่อยก็จะได้เพิ่มสัดส่วนเงินปันผลไปด้วย

"ปตท.จะต้องรักษามาตรฐานการจ่ายผลตอบแทนที่ดีไว้  เนื่องจากกองทุนต่างๆเก็บหุ้นปตท.ไว้เป็นจำนวนมาก  หากจ่ายน้อยก็จะกระทบต่อผลตอบแทนของกองทุนและราคาหุ้นของปตท.ด้วย"นายอารีพงศ์กล่าว

สำหรับเป้าหมายการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจปี 2552 นั้น ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 93,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายได้จะลดลงกว่าปี 2551 ถึง 6,000-7,000 ล้านบาท เนื่องจากค่าไฟฟ้าและพลังงานมีการชะลอตัวลงเกือบ 2% อย่างไรก็ตาม สคร.จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดแบบเดือนต่อเดือน  เพื่อคอยกำชับให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งนำส่งรายได้เข้ารัฐตามที่กำหนดไว้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าปี 52 นี้คลังต้องการให้บมจ.ปตท.จ่ายปันผลในอัตรา  12.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จ่ายในอัตรา 12.00 บาท โดยการเพิ่มขึ้นทุกๆ 50 สตางค์ต่อหุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 700 กว่าล้านบาท

ดังนั้นการจ่ายปันผลของบมจ.ปตท.ในปีหน้า จึงต้องจ่ายในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นกว่าปีนี้ซึ่งปกติแล้วจะจ่ายไม่ต่ำกว่า  30% ของกำไรสุทธิ แต่ในปีหน้าจะสูงกว่า 30% จากการประเมินว่ากำไรสุทธิจากผลประกอบการของปตท.จะลดลง  โดยบมจ.ปตท.จะแบ่งจ่ายปันผลเป็น 2 งวดตามปกติ

สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ปตท. ประกอบด้วย 1. กระทรวงการคลัง 51.69% 2. กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดยบลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 7.72%3. กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง โดยบลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 7.72%

ด้านบล.เอเชียพลัส แนะนำซื้อ หุ้น PTT เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนปัจจัยลบต่างๆไปมากแล้ว จึงเป็นโอกาสดีในการสะสมลงทุน โดยเน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผลมากกว่า เพราะยังมีความเสี่ยงในระยะสั้นจากทิศทางราคาน้ำมันและปิโตรเคมีที่ยังผันผวนในระดับต่ำ

สำหรับแนวโน้มกำไรยังอ่อนตัวต่อในงวด 4Q51 และปี 2552 คงประมาณการกำไรปี2551-2552 โดยคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงกลั่น น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากงวดก่อนหน้าภายใต้สมมติฐานไม่เกิดกำไรต่อขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน แต่ในความเป็นจริงอาจจะยังเผชิญกับขาดทุนสุทธิอยู่หากราคาน้ำมันในตลาดโลก ณ สิ้นงวด 4Q51 ต่ำกว่าสิ้นงวด 3Q51

นอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมีที่อยู่ในภาวะขาลงตามราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยฯทั้งสายโอเลฟินส์  (PTTCH) และสายอะโรเมติกส์(PTTAR) ขณะที่กำไรจาก PTTEP คาดว่ายังทรงตัวใกล้เคียงงวด 3Q51 ได้แม้ราคาน้ำมันจะอ่อนตัวแต่ได้ราคาขายก๊าซฯที่ปรับตัวสูงขึ้นมาพยุงไว้ และสำหรับในปี 2552 ภาพรวมของกำไรปกติยังอ่อนตัวลง จากผลกระทบของบริษัทลูก
วันที่ 19 ธ.ค. 2551 แสดงข่าวมาแล้ว 2วัน 12ช.ม. 23นาที
 





PTT Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.05 1.22
PTTCH Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 1.94 0.49
PTTAR Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 4.50 0.47
PTTEP Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 8.12 2.70

http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=22002

[ปรัชญา]

น่าสนใจนะครับ  สั่งจ่ายได้

แต่ปัญหาในปีต่อไป  ผลประกอบการเผาจริง  หากแย่ลงไปอีก

มีใครยืนยันได้ไหมว่า  จะมีการสั่งจ่ายเพิ่มให้อีก

[007-s]

ผู้ถือหุ้นปตท.กรี๊ดสลบ

เข้ามาฮาพาดหัวค่ะ

:lol:

[น้ำครึ่งแก้ว]

อืมมม...............   เข้ามาฮา เหมือนคุณ 007 ครับ
พาดหัวได้น่าตื่นตะลึงจังเลย......คิกๆๆๆ

เห็นหลายเวปเลย เรื่องกระทู้ ปตท. กรี๊ดสลบเนี้ย



ขอบคุณครับ

[Sumotin]

จากคิดว่าดีอาจจะกลายเป็นแย่สำหรับบริษัทในระยะยาวก็ได้นะครับ  :roll:  อาจจะต้องหาเงินโดยการกู้มาลงทุนแทน interest เพิ่มขึ้น อีก

แต่ก็แล้วแต่ผู้ถือหุ้นหละครับ  :o