** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
- tummeng
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 1
วันนี้วันสิ้นสุดการซื้อขายของปี 2551 พอร์ตเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
มาทำเป็นโพลจะได้เห็นกันชัดๆๆ
ของผมงวดนี้หนักสุดเท่าที่เคยลงทุนมาเลย 40 % แล้วบวกกับขนาดพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นด้วยเลยโดนไปเต็มๆๆงานนี้ ได้ถือกันยาวๆๆแน่
ลงทุนกันต่อไปนักลงทุน VI
มาทำเป็นโพลจะได้เห็นกันชัดๆๆ
ของผมงวดนี้หนักสุดเท่าที่เคยลงทุนมาเลย 40 % แล้วบวกกับขนาดพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นด้วยเลยโดนไปเต็มๆๆงานนี้ ได้ถือกันยาวๆๆแน่
ลงทุนกันต่อไปนักลงทุน VI
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 2
ถ้าปิดราคาเดิมบวก1.5% ครับ
bid please!!
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 3
ราคา ณ วันที่ 29
ลบไป 20 กว่า % ครับ
ลบไป 20 กว่า % ครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 5
-20% รวมปันผล -14.5%
น่าจะซื้อรถได้คันมั้ง
ปีแรกครับ ที่ลงเงิน เลยติดลบ
ปีก่อนๆ ลงลม เลยไม่ลบไม่บวก :lol:
แต่สนุกมากครับ รู้สึกว่ามันผ่านไปรวดเ็ร็วมาก (ลงเร็วมาก :lol: )
ปีหน้าเริ่มใหม่ Happy New Year everybody :cheers:
น่าจะซื้อรถได้คันมั้ง
ปีแรกครับ ที่ลงเงิน เลยติดลบ
ปีก่อนๆ ลงลม เลยไม่ลบไม่บวก :lol:
แต่สนุกมากครับ รู้สึกว่ามันผ่านไปรวดเ็ร็วมาก (ลงเร็วมาก :lol: )
ปีหน้าเริ่มใหม่ Happy New Year everybody :cheers:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- zolomon
- Verified User
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 6
กำไรแค่ 1 % แต่ไม่อยากกรอกลงช่อง 1-10 .... ใส่ 0 ก็ไม่ได้เพราะพอร์ตไม่ว่าง
“If we wait for the moment when everything, absolutely everything is ready, we shall never begin.”
Ivan Turgenev
Ivan Turgenev
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 7
ขาดทุนประมาณ 5 %ไม่ใช่เพราะเก่งแต่เป็นเพราะตั้งแต่ต้นปีถือเงินสดอยู่ 80 เปอร์เซ็นต์ (เพราะถ้านับเฉพาะพอร์ทหุ้นขาดทุนประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์)ปีหน้าสุ้กันใหม่
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 12
เริ่มช้าแต่เฉลี่ยเข้ามาเร็วไปหน่อยครับกระสุนเลยหมดตอนอยู่ต่ำสุด
ตอนนี้กำไรอยู่ 18% :x แต่เป็นเพราะผมเพิ่งจะเปิดพอร์ทใหม่ครับ คนมันดวงดีน่ะ อิๆๆ
แต่ผมกะว่าอีก 3.5 ปีผมจะเคลียร์พอร์ทไปลงทุนอย่างอื่นต่อเพราะรู้สึกเศรษฐกิจบ้านเรามันจะเจ๊งทุก 4-5 ปี
ส่วนพอร์ทคนอื่นที่ผมดูให้จะดีเลย์เลยกำไรมากกว่า ที่ 40-50% (5-6 เดือน)
ตอนนี้แม่ให้หุ้นมาบริหารต่อเลยต้องจัดการปรับพอร์ทให้ใหม่ไม่รู้จะลงทุนกับอะไรต่อเพราะตอนเล่นเองศึกษาลึกๆอยู่ตัวเดียว คิดว่าจะลงทุนกับบริษัทพื้นถานดีที่คนรู้จักมากหน่อยเพราะถ้าเล่น Mai นี่คงโดนด่าชัวร์ (ไว้เล่นพอร์ทตัวเองจะซื้ออะไรก็ได้)
แต่หุ้นที่ได้มานี่เจ๊งไปเยอะเลยครับ บางตัวนี่หายไป 70% ของมูลค่าเดิมได้มั้ง
เห็นแล้วเซ็งแต่ทำไงได้ อย่างน้อยเราไม่ได้เป็นคนทำเจ๊งละกัน อิๆๆ
แต่ช่วงนี้หุ้นมันผันผวนมากผมว่าระยะสั้นอาจจะติดลบได้ เพราะเศรษฐกิจ และ ก็ชาวเสื้อแดง
แต่ระยะ2-3 ปีผมว่ายังไงก็กำไรครับมั่นใจเกินร้อย :lol:
ตอนนี้กำไรอยู่ 18% :x แต่เป็นเพราะผมเพิ่งจะเปิดพอร์ทใหม่ครับ คนมันดวงดีน่ะ อิๆๆ
แต่ผมกะว่าอีก 3.5 ปีผมจะเคลียร์พอร์ทไปลงทุนอย่างอื่นต่อเพราะรู้สึกเศรษฐกิจบ้านเรามันจะเจ๊งทุก 4-5 ปี
ส่วนพอร์ทคนอื่นที่ผมดูให้จะดีเลย์เลยกำไรมากกว่า ที่ 40-50% (5-6 เดือน)
ตอนนี้แม่ให้หุ้นมาบริหารต่อเลยต้องจัดการปรับพอร์ทให้ใหม่ไม่รู้จะลงทุนกับอะไรต่อเพราะตอนเล่นเองศึกษาลึกๆอยู่ตัวเดียว คิดว่าจะลงทุนกับบริษัทพื้นถานดีที่คนรู้จักมากหน่อยเพราะถ้าเล่น Mai นี่คงโดนด่าชัวร์ (ไว้เล่นพอร์ทตัวเองจะซื้ออะไรก็ได้)
แต่หุ้นที่ได้มานี่เจ๊งไปเยอะเลยครับ บางตัวนี่หายไป 70% ของมูลค่าเดิมได้มั้ง
เห็นแล้วเซ็งแต่ทำไงได้ อย่างน้อยเราไม่ได้เป็นคนทำเจ๊งละกัน อิๆๆ
แต่ช่วงนี้หุ้นมันผันผวนมากผมว่าระยะสั้นอาจจะติดลบได้ เพราะเศรษฐกิจ และ ก็ชาวเสื้อแดง
แต่ระยะ2-3 ปีผมว่ายังไงก็กำไรครับมั่นใจเกินร้อย :lol:
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 15
ลบไป 20.5% ครับ รู้สึกราวๆ 1x% จะเป็น PTL นะ เลยไม่ค่อยเครียดมากเพราะจนบัดนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าจะถลุงกันทำไมเนี่ย สงสัยจะได้รู้ปลาย มกรา :lol:
ปีที่ผ่านมาที่ผมพลาดจริงๆคือไปเล่น SVI-W2 แล้วกะถือยาวทั้งๆที่ warrant น่าจะเป็นการเล่นรอบ (ซึ่งผมก็ไม่ถัด) ในช่วงตลาดดีๆมากกว่า อีก 2 ตัวที่พลาดแต่ไม่เจ็บมากก็คือ TIPCO กับ STANLY
TIPCO นี่ผมเก็งกำไรราคา RM ผิด ส่วน STANLY โดนกรณีถูกแล้วมีถูกกว่าเข้าไป
ปีนี้ที่ดีใจคือหุ้นใน port ทุกตัวเป็นบริษัทที่ทำกำไรเพิ่มได้มากๆ ตอนนี้ทั้ง P ลด E เพิ่ม CF บวกๆๆ จนผมสบายใจที่จะลงทุนต่อ ดีใจที่ปรับ port รอล่วงหน้าไว้ไม่ค่อยพลาด
ปกติผมเป็นคน cut lost ช้าไป แต่ปีนี้ cut เจ้า BAFS ได้เร็วพอควรเลยจำกัดความเสียหายได้เยอะ เรื่องสุดท้ายที่พอใจคือ ตอนนี้วิเคราะห์หุ้นรอบคอบกว่าเมื่อก่อน ซึ่งก็หวังว่าปีต่อๆไปจะหาวิธีมองหุ้นให้แม่นยำขึ้นเรื่อยๆครับ
ปีนี้ครบ 5 ปีที่เริ่มลงทุนมาพอดี สรุปว่ากำไร 4 ปี ขาดทุน 1 ปี ชนะตลาด 4 ปี แพ้ตลาด 1 ปี รวมๆแล้วเฉลี่ยแบบ Geometric Mean ได้ +24% ไม่ High So มาก แต่ผมก็พอใจแล้วหล่ะ คิดว่าต่อไปจะพยายามรักษาระดับนี้ไปเรื่อยๆ คงถึงฝั่งสักวัน
ปีที่ผ่านมาที่ผมพลาดจริงๆคือไปเล่น SVI-W2 แล้วกะถือยาวทั้งๆที่ warrant น่าจะเป็นการเล่นรอบ (ซึ่งผมก็ไม่ถัด) ในช่วงตลาดดีๆมากกว่า อีก 2 ตัวที่พลาดแต่ไม่เจ็บมากก็คือ TIPCO กับ STANLY
TIPCO นี่ผมเก็งกำไรราคา RM ผิด ส่วน STANLY โดนกรณีถูกแล้วมีถูกกว่าเข้าไป
ปีนี้ที่ดีใจคือหุ้นใน port ทุกตัวเป็นบริษัทที่ทำกำไรเพิ่มได้มากๆ ตอนนี้ทั้ง P ลด E เพิ่ม CF บวกๆๆ จนผมสบายใจที่จะลงทุนต่อ ดีใจที่ปรับ port รอล่วงหน้าไว้ไม่ค่อยพลาด
ปกติผมเป็นคน cut lost ช้าไป แต่ปีนี้ cut เจ้า BAFS ได้เร็วพอควรเลยจำกัดความเสียหายได้เยอะ เรื่องสุดท้ายที่พอใจคือ ตอนนี้วิเคราะห์หุ้นรอบคอบกว่าเมื่อก่อน ซึ่งก็หวังว่าปีต่อๆไปจะหาวิธีมองหุ้นให้แม่นยำขึ้นเรื่อยๆครับ
ปีนี้ครบ 5 ปีที่เริ่มลงทุนมาพอดี สรุปว่ากำไร 4 ปี ขาดทุน 1 ปี ชนะตลาด 4 ปี แพ้ตลาด 1 ปี รวมๆแล้วเฉลี่ยแบบ Geometric Mean ได้ +24% ไม่ High So มาก แต่ผมก็พอใจแล้วหล่ะ คิดว่าต่อไปจะพยายามรักษาระดับนี้ไปเรื่อยๆ คงถึงฝั่งสักวัน
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 17
พึ่งเริ่มลงทุนปีแรกครับ เริ่มต้นก็ลงแบบเต็มๆไม่ยั้งมือเลยครับ แถมเริ่มเข้าตลาดตอนปลายเมษา (~850) เลยโดนไปเต็มๆครับ แถมปันผลตอนต้นปีก็แทบจะไม่ได้อีก
ยังดีที่มีพี่ๆหลายคนคอยแนะแนวทางให้ ก็เลยยังพอประคองตัวไปได้
สิริรวมปีแรก -22.76% ครับ โดยทั้งปีมีเงินสดเฉลี่ย 15% ของพอร์ตครับ
ค่าเทอมก็ 6 หลัก แต่คิดว่าสิ่งที่ได้กลับมาในระยะยาวมันมีค่ามากกว่านี้มากครับ
ปีหน้าเริ่มกันใหม่ หวังไว้แค่ว่าจะบเรียนที่เจอในปีนี้มาให้ใช้เป็นประโยชน์มากที่สุดครับ :cheers: [/b]
ยังดีที่มีพี่ๆหลายคนคอยแนะแนวทางให้ ก็เลยยังพอประคองตัวไปได้
สิริรวมปีแรก -22.76% ครับ โดยทั้งปีมีเงินสดเฉลี่ย 15% ของพอร์ตครับ
ค่าเทอมก็ 6 หลัก แต่คิดว่าสิ่งที่ได้กลับมาในระยะยาวมันมีค่ามากกว่านี้มากครับ
ปีหน้าเริ่มกันใหม่ หวังไว้แค่ว่าจะบเรียนที่เจอในปีนี้มาให้ใช้เป็นประโยชน์มากที่สุดครับ :cheers: [/b]
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 18
ลบไป 60 กว่า% ครับ
ปีนี้เป็นปีที่สุดยอดจริงๆ ความผิดพลาดทั้งหมดสรุปเป็นข้อๆดังนี้
1. ตามสไตล์ผมจะอัดซื้อหุ้นน้อยตัว และพยายามศึกษาเยอะๆเพื่อลดความผิดพลาดจากการคาดผิดเอา ที่พลาดปีนี้ทำให้พอร์ตเสียหายถึงกว่า 50% ตัวเดียวเลยนั่นคือ SNC ซื้อที่ราคา 10 บาท ลงมาเรื่อยๆ ผมมามั่นใจว่าข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานไม่เป็นไปดังคาดตอนประมาณ 6-8 บาท(ขายจริงแถวๆ 4 บาทกว่า) แต่ไม่สามารถออกได้เนื่องจากในขาลงสภาพคล่องของหุ้นหดหายจนซื้อขายกันวันนึงแค่หลักหมื่นหรือแสนหุ้นเท่านั้น และผมก็ไม่กล้าพอที่จะยอมขายโดยกดราคาลงมาเยอะๆเพื่อให้ขายได้หมดเหมือนทุกทีที่คาดผิด โดยผมมีเหตุผลสนับสนุนการไม่ยอมขายกดราคาลงมาคือ
a. ถึงแม้ผลประกอบการปีนี้ไม่ดี แต่ปีหน้าก็จะดีมาก
b. หุ้นยังสามารถให้ผลตอบแทนปันผลในระดับสูง ถือรอกินปันผลไปก่อนก็ได้
เหตุผลเหล่านี้อาจจะใช้ได้จริงกับ snc ในภาวะเศรษฐกิจโลกปกติ แต่เหตุการณ์ซัพไพรม์ยิ่งโหมหนักมากขึ้นทำให้เหตุผลที่ผมคิดปลอบใจตัวเองไว้ ยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากขึ้นๆในปีหน้า ถึงแม้ปันผลจะเยอะแต่ก็เกิดจากปันผลในอัตราสูงขึ้น ไม่ได้เกิดจากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
โดยที่การขาดทุนเยอะๆแบบนี้กับหุ้นตัวเดียวผมไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้การตัดสินใจสวิทช์หุ้นหรือทำการบ้านหาตัวอื่นชะงักไปโดยทันที อันนี้เป็นความผิดพลาดด้านอารมณ์โดยแท้
ป.ล. snc ที่ราคานี้ผมไม่ได้สนใจว่าถูกหรือแพงในตัวมันเองแต่ผมสนใจว่าตัวอื่นที่เกรดดีกว่านี้มูลค่าเทียบกับราคาถูกกว่า snc เท่านั้นครับ
2. การใช้มาร์จิ้น ซึ่งเป็นดาบสองคมและอันตรายมากๆในตลาดขาลง(เหมือนที่เค้าบอกกันมาจริงๆ ) โดยเฉพาะขาลงที่ไม่สนใจพื้นฐานเช่นปี 2008 นี้ การมีหนี้ทำให้เราไม่กล้าถือหุ้นยาวๆถึงแม้จะพื้นฐานดีเนื่องจากการ call และ force sell เมื่อราคาตกมาถึงจุดนึงซึ่งไม่มีใครรับประกันว่าจะมาไม่ถึงจุดนั้น
โดยปกติที่ผมใช้มาร์จิ้นผมไม่กลัวเรื่อง leverage ของมันเท่าไหร่ในภาวะตลาดปกติที่นักลงทุนยังมีเหตุผลอยู่ แต่อนิจจา..ตลาดหุ้นสามารถไร้เหตุผลได้อย่างที่เราไม่คาดคิดอย่างเช่นในปีนี้
สรุป การขาดทุนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าราคาหุ้นที่เราเข้าซื้อนั้นจะถูกมากๆในการประเมินมูลค่าไม่ว่าทางใดก็ตามถ้าเรามีหนี้ติดตัวอยู่
3. การอดทนถือเงินสดบ้างเมื่อไม่เจอหุ้นในมูลค่าเทียบกับราคาที่เราถูกใจ ยกตัวอย่างอีกครั้ง snc ตอนผมซื้อที่ 10 บาท ผมคาดกำไรปีนี้ไว้ 1 บาทต่อหุ้น ปีหน้าอย่างน้อยๆ 1.5 บาท ผมพลาดที่ไปให้ premium กับหุ้นเกรด B ถึง C ถึงขนาดนั้น (p/e 10) อีกทั้งยังให้ premium ในภาวะตลาดแย่มากๆ ทำให้ผิดพลาดถึงสองเด้ง และยังบวกอีกหนึ่งเด้งจากการใช้มาร์จิ้นด้วย เลยครบสามเลย
นิสัยเสียที่สุดอันนึงของผมคือถือเงินสดรอไม่เป็น
4. การถือหุ้นน้อยตัว ถ้าเราตามติดจริงๆและหุ้นมีสภาพคล่องไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือเรารู้ว่าผิดแล้วหุ้นไม่มีสภาพคล่องพอให้ออก ผมเคยคิดมาตลอดว่าหุ้นดีเดี๋ยวสภาพคล่องก็มาเองและที่ผ่านมาการลงทุนของผมก็เป็นอย่างนั้น พอคนเริ่มเห็นคุณค่าราคาหุ้นก็จะขึ้นมาพร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่มากขึ้น แต่ผมก็คิดแต่ทางบวก ไม่ได้สนใจว่าถ้าคาดผิดจะเป็นอย่างไร โดยคิดว่าเราศึกษามาดีโอกาสผิดพลาดน้อยมาก แต่อนิจจา .. (อีกครั้ง) โมเดลการลงทุนของผมนั้นออกแบบมาสำหรับคนที่แพ้ไม่เป็น แต่ในความเป็นจริงใครจะแพ้ไม่เป็น ปีนี้เป็นปีที่ทำให้ผมยอมรับในข้อนี้อย่างหมดหัวใจครับ
สุดท้ายนี้ผมมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์จากปีนี้จะทำให้ผมเป็นนักลงทุนที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน " แล้วผมจะกลับมา "
สวัสดีปีใหม่ครับ
ปีนี้เป็นปีที่สุดยอดจริงๆ ความผิดพลาดทั้งหมดสรุปเป็นข้อๆดังนี้
1. ตามสไตล์ผมจะอัดซื้อหุ้นน้อยตัว และพยายามศึกษาเยอะๆเพื่อลดความผิดพลาดจากการคาดผิดเอา ที่พลาดปีนี้ทำให้พอร์ตเสียหายถึงกว่า 50% ตัวเดียวเลยนั่นคือ SNC ซื้อที่ราคา 10 บาท ลงมาเรื่อยๆ ผมมามั่นใจว่าข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานไม่เป็นไปดังคาดตอนประมาณ 6-8 บาท(ขายจริงแถวๆ 4 บาทกว่า) แต่ไม่สามารถออกได้เนื่องจากในขาลงสภาพคล่องของหุ้นหดหายจนซื้อขายกันวันนึงแค่หลักหมื่นหรือแสนหุ้นเท่านั้น และผมก็ไม่กล้าพอที่จะยอมขายโดยกดราคาลงมาเยอะๆเพื่อให้ขายได้หมดเหมือนทุกทีที่คาดผิด โดยผมมีเหตุผลสนับสนุนการไม่ยอมขายกดราคาลงมาคือ
a. ถึงแม้ผลประกอบการปีนี้ไม่ดี แต่ปีหน้าก็จะดีมาก
b. หุ้นยังสามารถให้ผลตอบแทนปันผลในระดับสูง ถือรอกินปันผลไปก่อนก็ได้
เหตุผลเหล่านี้อาจจะใช้ได้จริงกับ snc ในภาวะเศรษฐกิจโลกปกติ แต่เหตุการณ์ซัพไพรม์ยิ่งโหมหนักมากขึ้นทำให้เหตุผลที่ผมคิดปลอบใจตัวเองไว้ ยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากขึ้นๆในปีหน้า ถึงแม้ปันผลจะเยอะแต่ก็เกิดจากปันผลในอัตราสูงขึ้น ไม่ได้เกิดจากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
โดยที่การขาดทุนเยอะๆแบบนี้กับหุ้นตัวเดียวผมไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้การตัดสินใจสวิทช์หุ้นหรือทำการบ้านหาตัวอื่นชะงักไปโดยทันที อันนี้เป็นความผิดพลาดด้านอารมณ์โดยแท้
ป.ล. snc ที่ราคานี้ผมไม่ได้สนใจว่าถูกหรือแพงในตัวมันเองแต่ผมสนใจว่าตัวอื่นที่เกรดดีกว่านี้มูลค่าเทียบกับราคาถูกกว่า snc เท่านั้นครับ
2. การใช้มาร์จิ้น ซึ่งเป็นดาบสองคมและอันตรายมากๆในตลาดขาลง(เหมือนที่เค้าบอกกันมาจริงๆ ) โดยเฉพาะขาลงที่ไม่สนใจพื้นฐานเช่นปี 2008 นี้ การมีหนี้ทำให้เราไม่กล้าถือหุ้นยาวๆถึงแม้จะพื้นฐานดีเนื่องจากการ call และ force sell เมื่อราคาตกมาถึงจุดนึงซึ่งไม่มีใครรับประกันว่าจะมาไม่ถึงจุดนั้น
โดยปกติที่ผมใช้มาร์จิ้นผมไม่กลัวเรื่อง leverage ของมันเท่าไหร่ในภาวะตลาดปกติที่นักลงทุนยังมีเหตุผลอยู่ แต่อนิจจา..ตลาดหุ้นสามารถไร้เหตุผลได้อย่างที่เราไม่คาดคิดอย่างเช่นในปีนี้
สรุป การขาดทุนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าราคาหุ้นที่เราเข้าซื้อนั้นจะถูกมากๆในการประเมินมูลค่าไม่ว่าทางใดก็ตามถ้าเรามีหนี้ติดตัวอยู่
3. การอดทนถือเงินสดบ้างเมื่อไม่เจอหุ้นในมูลค่าเทียบกับราคาที่เราถูกใจ ยกตัวอย่างอีกครั้ง snc ตอนผมซื้อที่ 10 บาท ผมคาดกำไรปีนี้ไว้ 1 บาทต่อหุ้น ปีหน้าอย่างน้อยๆ 1.5 บาท ผมพลาดที่ไปให้ premium กับหุ้นเกรด B ถึง C ถึงขนาดนั้น (p/e 10) อีกทั้งยังให้ premium ในภาวะตลาดแย่มากๆ ทำให้ผิดพลาดถึงสองเด้ง และยังบวกอีกหนึ่งเด้งจากการใช้มาร์จิ้นด้วย เลยครบสามเลย
นิสัยเสียที่สุดอันนึงของผมคือถือเงินสดรอไม่เป็น
4. การถือหุ้นน้อยตัว ถ้าเราตามติดจริงๆและหุ้นมีสภาพคล่องไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือเรารู้ว่าผิดแล้วหุ้นไม่มีสภาพคล่องพอให้ออก ผมเคยคิดมาตลอดว่าหุ้นดีเดี๋ยวสภาพคล่องก็มาเองและที่ผ่านมาการลงทุนของผมก็เป็นอย่างนั้น พอคนเริ่มเห็นคุณค่าราคาหุ้นก็จะขึ้นมาพร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่มากขึ้น แต่ผมก็คิดแต่ทางบวก ไม่ได้สนใจว่าถ้าคาดผิดจะเป็นอย่างไร โดยคิดว่าเราศึกษามาดีโอกาสผิดพลาดน้อยมาก แต่อนิจจา .. (อีกครั้ง) โมเดลการลงทุนของผมนั้นออกแบบมาสำหรับคนที่แพ้ไม่เป็น แต่ในความเป็นจริงใครจะแพ้ไม่เป็น ปีนี้เป็นปีที่ทำให้ผมยอมรับในข้อนี้อย่างหมดหัวใจครับ
สุดท้ายนี้ผมมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์จากปีนี้จะทำให้ผมเป็นนักลงทุนที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน " แล้วผมจะกลับมา "
สวัสดีปีใหม่ครับ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 19
รวมแบบยังไม่ final เนื่องจากยังไม่ได้ key การซื้อขายเพิ่มเติม อีกไม่กี่ตัวmiracle เขียน:สรุปจากตัวเลขในport -20-30%
ไม่รวมที่ซื้อขายไปแล้วที่ book ปีนี้
และปันผล
(ซื้อซักส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขาย)
ขาดทุน 10-20% ยังไม่รวมปันผล
รวมปันผล (ก็ยังไม่ final อีก) ก็ขาดทุนประมาณ 10-20 %
ที่บอกว่าไม่ final เนื่องจาก ครึ่งปีหลังมีแต่งานประจำเข้ามาตลอด
ไม่ได้พักเลย ไม่ว่างทำบัญชีเลย
เดี๋ยวหยุดยาวนี้มานั่งทำ ปิดสมุดบัญชีประจำปี คงหัวหมุนอีกรอบล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 21
เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองได้คือยอดคนครับ
ปีนี้ผมเองก็เจอชุดใหญ่ไปเหมือนกัน ดีที่มีบุญสะสมจากต้นปีมา
เลยไม่ถึงขั้นติดลบ
หลักๆที่เจอ
การตีมูลค่าจากตลาด ที่เปลี่ยนรูปแบบไปจากอดีตที่
หุ้นกำไรนิ่ง pe 7 กำไรโตนิดหน่อย pe 10 กำไรโตมาก pe 15-20
เจอการปรับฐานในรูปแบบ pe เป็น
กำไรนิ่ง pe 4 กำไรโตนิดหน่อย pe 7 กำไรโตมาก pe 10
ถึงแม้ผลประกอบการณ์จะยังออกมาดี แต่หุ้นก็จะลง
เพราะไม่ได้ออกมาดีมากๆ เกินความคาดหมาย
ตามรูปแบบ fund flowไหลออกนี้
ถึงแม้หุ้นตัวนั้นจะไม่ได้โดนผลกระทบจากการขายของต่างชาติ
แต่หุ้นที่พอมีคุณสมบัติใกล้เคียงที่ต่างชาติขายลงไป 50-60%
นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะ switch ไปตัวที่ลงมามาก
โดนการขายหุ้นที่ไม่ลงมาก
ปีนี้ผมเองก็เจอชุดใหญ่ไปเหมือนกัน ดีที่มีบุญสะสมจากต้นปีมา
เลยไม่ถึงขั้นติดลบ
หลักๆที่เจอ
การตีมูลค่าจากตลาด ที่เปลี่ยนรูปแบบไปจากอดีตที่
หุ้นกำไรนิ่ง pe 7 กำไรโตนิดหน่อย pe 10 กำไรโตมาก pe 15-20
เจอการปรับฐานในรูปแบบ pe เป็น
กำไรนิ่ง pe 4 กำไรโตนิดหน่อย pe 7 กำไรโตมาก pe 10
ถึงแม้ผลประกอบการณ์จะยังออกมาดี แต่หุ้นก็จะลง
เพราะไม่ได้ออกมาดีมากๆ เกินความคาดหมาย
ตามรูปแบบ fund flowไหลออกนี้
ถึงแม้หุ้นตัวนั้นจะไม่ได้โดนผลกระทบจากการขายของต่างชาติ
แต่หุ้นที่พอมีคุณสมบัติใกล้เคียงที่ต่างชาติขายลงไป 50-60%
นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะ switch ไปตัวที่ลงมามาก
โดนการขายหุ้นที่ไม่ลงมาก
bid please!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 22
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ป.ล. snc ที่ราคานี้ผมไม่ได้สนใจว่าถูกหรือแพงในตัวมันเองแต่ผมสนใจว่าตัวอื่นที่เกรดดีกว่านี้มูลค่าเทียบกับราคาถูกกว่า snc เท่านั้นครับ
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1054
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 24
ปีนี้ ลบประมาณ 17-18 %
โดยส่วนตัว ปีนี้ก็พอใจอยู่ครับ
แต่ปีหน้า จะมีนิวโลว์หรือเปล่า เรามาลุ้นไปด้วยกัน (หวังว่าจะไม่มี)
หุ้นสนุกดีนะครับ
เกมส์อะไรก็ไม่รู้ มันมาก
โดยส่วนตัว ปีนี้ก็พอใจอยู่ครับ
แต่ปีหน้า จะมีนิวโลว์หรือเปล่า เรามาลุ้นไปด้วยกัน (หวังว่าจะไม่มี)
หุ้นสนุกดีนะครับ
เกมส์อะไรก็ไม่รู้ มันมาก
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
-
- Verified User
- โพสต์: 592
- ผู้ติดตาม: 0
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 26
-18 %
แต่ยังอยาก -30 % แบบตอนกลางพ.ย. อยู่เพราะ 4 ตัวที่อยากซื้อเพิ่มมันดันขึ้นมาเยอะแล้ว
จะได้เอาเงินเหลือแต่ละเดือนอันน้อยนิดมาซื้อเพิ่ม
เห็นด้วยกับหลายๆท่านเลยกับเรื่องสภาพคล่องขนาดเราปริมาณน้อยนนะเนี่ย
แต่ยังอยาก -30 % แบบตอนกลางพ.ย. อยู่เพราะ 4 ตัวที่อยากซื้อเพิ่มมันดันขึ้นมาเยอะแล้ว
จะได้เอาเงินเหลือแต่ละเดือนอันน้อยนิดมาซื้อเพิ่ม
เห็นด้วยกับหลายๆท่านเลยกับเรื่องสภาพคล่องขนาดเราปริมาณน้อยนนะเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **
โพสต์ที่ 27
กว่าคิดเสร็จmiracle เขียน: รวมแบบยังไม่ final เนื่องจากยังไม่ได้ key การซื้อขายเพิ่มเติม อีกไม่กี่ตัว
(ซื้อซักส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขาย)
ขาดทุน 10-20% ยังไม่รวมปันผล
รวมปันผล (ก็ยังไม่ final อีก) ก็ขาดทุนประมาณ 10-20 %
ที่บอกว่าไม่ final เนื่องจาก ครึ่งปีหลังมีแต่งานประจำเข้ามาตลอด
ไม่ได้พักเลย ไม่ว่างทำบัญชีเลย
เดี๋ยวหยุดยาวนี้มานั่งทำ ปิดสมุดบัญชีประจำปี คงหัวหมุนอีกรอบล่ะ
ปันผล เอาเป็น CASE ๆ ไปล่ะกัน
ผลรวมของ Portทั้งหมด ณ สิ้นปี แสดงกำไร-ขาดทุน / เงินทุนทั้งหมด ที่แสดง ใน Port *100 ติดลบ ไป 23%
ผลรวมของ port ทั้งหมด ณ สิ้นปี แสดงกำไร- ขาดทุน รวมกับ เงินปันผล /เงินทุนทั้งหมด ที่แสดงใน port *100 ติดลบไป 19%
ผลรวมของ port ทั้งหมด ณ สิ้นปี แสดงกำไร- ขาดทุน รวมกับ เงินปันผล รวมกับกำไรที่ทำได้ในระหว่างปี/เงินทุนทั้งหมด ที่แสดงใน port *100 ติดลบไป 12%
นั้นคือ ถ้าเอากันจริงๆ คือ 19% ครับ
เพราะกำไรที่ได้ระหว่างปี นำเอาไปลงทุนต่อทั้งหมด
ผมถือ 100% ทำให้อยู่ใน rate ที่บอกครับ
เนื่องคือผลการคำนวณล่าสุด และจบกันซักที
นั่ง update บัญชีซื้อขายหลายเดือน update ที่เหนื่อยจังเลย
ขนาดปีนี้ไม่ค่อยได้ขายอะไร ซื้ออย่างเดียว ในพักหลังๆ
เล่นเอาใช้เวลาหลายชั่วโมงเลย
by the way
ผลทึ่งท่านประธานมากเลยครับ
ขนาดตลาดแย่ ท่านประธานยังทำ + ได้
หายากน่าครับ