ลดสิ่งที่ไม่ดี

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
areliang
Verified User
โพสต์: 432
ผู้ติดตาม: 0

ลดสิ่งที่ไม่ดี

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เคยได้ยินบางคนเปรียบเปรยว่า ชีวิตคนคล้าย แก้วที่บรรจุน้ำ หรือ น้ำที่อยู่ในแก้ว  
แก้วคล้ายตัวเรา ส่วนน้ำคือสิ่งที่เรารับเข้าไป
บางแก้วน้ำก็ขาด บางแก้วน้ำก็พอดี บางแก้วน้ำก็ล้น
บางแก้วมีสิ่งไม่ดีอยู่มากสีก็ไม่สวยงาม บางแก้วมีสิ่งดีมากก็ดูสีสวยงาม บางแก้วก็จืดไม่มีสีสัน
ล้วนต่างกันไป ถ้าเป็นแก้วที่มีสีดีๆอยู่แล้ว หรือเรียบง่าย นั่นคงเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วหรือไม่แปลกอะไร

แต่ผมเคยไปถามบุคคลคนหนึ่งว่า แล้วถ้าแก้วนั้นเป็นแก้วที่ไม่ขาดน้ำแต่สีสันแย่มากไม่สวยงามเอาซะเลย และคนกลุ่มนี้มักจะทุกข์ วุ่นวายในใจสม่ำเสมอทั้งขณะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว จะแก้ยังไง

เค้าตอบมาว่า แก้ไม่ยากหรอก แค่เอาน้ำเสียออกไปทุกวันวันละนิดก็พอ นิดเดียวจริงๆ แล้วพอเอาน้ำเสียออกไปได้ แก้วก็จะมีที่ว่าง และพอเป็นที่ว่างก็ค่อยๆใช้ชีวิตหาสีดีๆเติมกลับเข้าไปใหม่ ให้มีน้ำพอดีมีที่เหลือนิดๆเป็นเช่นนี้จนสีสวยขึ้นเรื่อยๆ
(ในใจก็คิดพูดโค..รง่ายเลยถึงมันจะจริงก็เถอะ555)

ผมก็เลยถามต่อว่า แล้วคนที่มีสีในแก้วน้ำไม่สวยงามจะรู้ได้ไง ว่าสีอะไรในแก้วที่ไม่สวยงามแล้วควรตักออก หรือ สีไหนที่จะสวยงามแล้วควรใช้ชีวิตนำมาเติม เพราะ สีที่ออกในแก้วไม่สวยงามเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะไม่รู้ เพราะถ้าพวกเขารู้ เขาคงไม่เลือกสีไม่สวยงามมาใส่ในแก้ว หรือชีวิตของตัวเอง
เค้าตอบมาว่า อันนี้ต้องพยายาม เคยได้ยินมั้ยทารกเปรียบเหมือนผ้าขาว เติบโตอย่างไรนั้นก็แล้วแต่สีที่ถูกแต้มจากรอบข้าง อันนี้ก็เหมือนสีที่เข้าไปในแก้วบางทีเราก็รับเข้าไปเองโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เด็กจนโต สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือ เมื่อเราเติบโตถึงวันเวลาที่ เรามี สติ และปัญญาของตัวเราเองแล้ว เราจะใช้สิ่งนี้ เรียนรู้จักสีต่างๆในตัวเราเอง ว่าสีอะไรที่เป็นสีที่สวยงามและสร้างความสุขให้กับตัวเราจริงๆ สีไหนเป็นสีที่ไม่สวยงามบางทีก็สร้างสุขบางทีก็สร้างทุกข์ หรือสีไหนนั้นแย่และสร้างทุกข์ตลอดเวลา และถ้าเข้าใจได้ก็จะเลือกเป็นว่าสีไหนดีหรือไม่ดี

ผมก็อืม และถามต่อว่า สีที่เรามีอยู่ เราอาจจะเรียนรู้และเข้าใจได้ และตักออกจนมีที่ว่างในแก้วได้ แต่ปัญหามันยังอยู่ที่การหาสีใหม่ที่ดีมาเติม ซึ่งเราจะใช้ชีวิตตัวเองเพื่อหาสิ่งดีๆหรือสีดีมาเติม และหวังจะได้สีดีๆอย่างที่หวัง เราจะรู้ได้ยังว่าอะไรคือสิ่งดีๆที่เราควรจะหามาเติม แล้วถ้าคิดว่าดีแล้วเอามาเติมแต่กลับไม่ดีจริงล่ะ จะทำยังไง

เค้าตอบมาว่า ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละ
สีไม่สวยงามก็เรียนรู้ที่ตักออก แล้วก็หาสีที่หวังว่าสวยมาเติม พอเติมสีสวยขึ้นจริงก็จะสุขขึ้น แล้วตักสีไม่ดีออกวนไปเรื่อยๆทีละนิด
สีไม่สวยงามก็เรียนรู้ที่ตักออก แล้วก็หาสีที่หวังว่าสวยมาเติม พอเติมแล้วสีนั้นไม่สวยอย่างที่คิด ก็ตักออกแล้วหมุนไปหาสิ่งดีมาเติมอีก วนไปเรื่อยๆอยู่ดี
และนี่คือการที่พยายามลดสิ่งที่ไม่ดี แต่การที่จะเปลี่ยนแก้วจากสีไม่สวยเป็นสวยนั้นจะช้าหรือเร็ว คงขึ้นกับสติและปัญญาเป็นส่วนใหญ่ คิดได้ว่าสิ่งใดดีและไม่ดีในตัวเอง แล้วค่อยๆลดสิ่งที่ไม่ดี แล้วคิดให้ได้จากสิ่งที่เราเห็นรอบข้างในการดำรงชีวิตว่าสิ่งใดดีและจะดีจริง นำมันมาเติมในแก้วของเรา
พอเข้าใจป่ะ

การลงทุนหุ้นนั้น มักจะต้องมี พอร์ตโฟลิโอ เพื่อซื้อขายหุ้น

หลายๆครั้งเคยได้คำว่า ติดหุ้นว่ะทำไงดี หุ้นเต็มพอร์ตเลย และคนเหล่าบางทีก็พูดโดยไม่รู้ว่าจะแก้ยังไงจริงๆ และอยากให้มีผู้ที่จะมาช่วยเพื่อให้เขาแก้ไขสถานการณ์ได้จริง ไม่ใช่แค่คำที่พูดกันว่า ถือไปเถอะเดี๋ยวมันก็ขึ้น สวิตช์มั้ยครับ ตัวนี้ดูมีอนาคตดีกว่า ซื้อเฉลี่ยเพิ่มสิครับ ต้นทุนจะได้ดูถูกลง และอีกมากมาย

ถ้าถามแล้วได้คำตอบแบบนี้ มาพึ่งตัวเองดีมั้ย ในเมื่อ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ลองมาเปรียบ พอร์ตโฟลิโอเป็นแก้ว หุ้นที่อยู่ในพอร์ตเป็นสี
เรียนรู้สีที่อยู่ในแก้วของตัวเราเองในแต่ละสีเลยทีเดียว ด้วย สติและปัญญาของตัวเราเอง
เรียนให้รู้ว่าสีใดที่ดีและไม่ดี เก็บสิ่งที่ดี ค่อยๆลดสิ่งที่ไม่ดี และใส่สิ่งที่ดีๆกับเข้าไปเพิ่ม ด้วยสติและปัญญาของตัวเราเอง

ทั้งหมด ลดสิ่งไม่ดี ทีละนิดก็เพียงพอ นิดเดียวจริงๆ และพยายามไม่ทำให้สิ่งที่ไม่ดีเพิ่มนะครับ 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ลดสิ่งที่ไม่ดี

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:cool:
เปรียบเทียบได้เห็นภาพมากครับ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ

ผมเห็นด้วยครับ สิ่งที่เข้าใจยากที่สุด คือ ตัวเราเอง
เพราะเรามักจะมองอะไรๆเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอ
ความผิดของตนเองมักจะมองว่าเล็กน้อย
แต่ความผิดของคนอื่นมักจะมองว่าิยิ่งใหญ่

การที่เราติดหุ้น จริงๆแล้วผมคิดว่าเป็นเพราะเราไม่เข้าใจในเป้าหมาย
และวัตถุประสงค์ในการลงทุนของตัวเองดีพอ เมื่อหุ้นที่ถืออยู่ราคาลดต่ำลงมาก
ทำให้เราไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเราควรจะทำเช่นไร ถ้าเราเข้าใจตัวของเราดีพอ เข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการลงทุน
รวมไปถึงเข้าใจหุ้นที่เราลงทุนอย่างถ่องแท้แล้ว
ผมคิดว่า เราก็จะรู้ว่าเราควรจะทำอย่างไรถ้าหุ้นที่เราถืออยู่ราคาลดต่ำลง

ภาวะการติดหุ้นก็คงจะมีน้อยลง
เพราะภาวะการติดหุ้นจะกลายมาเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ เหตุการณ์หนึ่ง ที่เราประเมินไว้ก่อนและหาทางรับมือไว้แล้วนั่นเอง
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

ลดสิ่งที่ไม่ดี

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อาเหลียง เขียน:ถ้าถามแล้วได้คำตอบแบบนี้ มาพึ่งตัวเองดีมั้ย ในเมื่อ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ลองมาเปรียบ พอร์ตโฟลิโอเป็นแก้ว หุ้นที่อยู่ในพอร์ตเป็นสี
เรียนรู้สีที่อยู่ในแก้วของตัวเราเองในแต่ละสีเลยทีเดียว ด้วย สติและปัญญาของตัวเราเอง
เรียนให้รู้ว่าสีใดที่ดีและไม่ดี เก็บสิ่งที่ดี ค่อยๆลดสิ่งที่ไม่ดี และใส่สิ่งที่ดีๆกับเข้าไปเพิ่ม ด้วยสติและปัญญาของตัวเราเอง
ตามกฏของpareto
จะมีแมงเม่า20ตัวจาก100ตัว
ที่รอดไปเป็นแมงเม่าปีกเหล็กได้ครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
โพสต์โพสต์