** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ

โพลจบเมื่อ จันทร์ มี.ค. 30, 2009 11:22 am

กำไรมากกว่า 30 %
3
2%
กำไรประมาณ 11-20 %
8
5%
กำไรประมาณ 1-10 %
17
10%
0% - เพราะพอร์ตว่าง
5
3%
ขาดทุนประมาณ 1-10%
17
10%
ขาดทุนประมาณ 11-20%
17
10%
ขาดทุนประมาณ 21-30%
30
17%
ขาดทุนประมาณ 31-40%
34
20%
ขาดทุนประมาณ 41-50%
37
21%
ขาดทุนมากกว่า 60%
6
3%
 
โหวตทั้งหมด: 174

อินทรีทอง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณคุณ Blueblood กับ พี่ลูกอีสานมากๆครับ  :bow: ที่แชร์แนวคิดและประสบการณ์ที่มีค่าในปีที่ผ่านมา ส่วนตัวผมเองปีที่ผ่านมาถือว่าโชคดีมากที่หุ้นที่ถือหลักๆในพอร์ตตัวนึงมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ส่วนอีกตัวก็ยังบวกขึ้นมาได้เมื่อเทียบกับต้นปี เมื่อรวมกับตัวอื่นๆในพอร์ตที่ตกลงแล้วพอร์ตก็ยังโตขึ้น 3.81%

โดยส่วนตัวตั้งแต่แรกผมตั้งกรอบเวลาการลงทุนของผมไว้ 28 ปี โดยปีที่ผ่านมาก็ถือว่าผ่านมาได้ 1 ควอเตอร์แล้ว ผลตอบแทนก็ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกมาก คือเจ็ดปีที่ผ่านมาผลตอบแทนทบต้นอยู่ที่ 39.1% ปีที่ได้ผลตอบแทนสูงที่สุดและเป็นปีเดียวที่ผลตอบแทนแพ้ตลาดคือ ปี 2546 ได้ 103.43% ปีที่ผลตอบแทนต่ำสุดคือ ปี 2547 ติดลบ 11.58% ซึ่งก็เป็นปีเดียวที่พอร์ตติดลบ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของผลตอบแทน 7 ปี อยู่ที่ 44.49%

เท่าที่สังเกตุการลงทุนที่ผ่านมาในรอบ 7 ปี ก็พบว่ามีหุ้นอยู่ไม่กี่ตัวที่ทำผลตอบแทนหลักให้พอร์ตซึ่งก็แปลว่ามีการตัดสินใจเพียงไม่กี่ครั้งที่ส่งผลทำให้พอร์ตโตขึ้นมาได้ ไล่เรียงมาก็มี SPSU TVO IRP PTTEP UEC TUF OISHI  โดยที่ระยะเวลาการถือหุ้นดังกล่าวอยู่ระหว่าง 3 เดือน ถึง 3 ปี ระยะเวลาการถือหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณปีเศษๆ ส่วนการลงทุนหลักๆที่เสียหายไม่ประสบความสำเร็จก็มี EGCOMP ILINK TNH STANLY และจำนวนหุ้นที่ลงทุนในแต่ละช่วงเวลาอยู่ระหว่าง 2 ตัว ถึง 8 ตัว โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5 ตัวโดยจะเน้นน้ำหนักหลักๆในหุ้นไม่เกิน 3 ตัว

ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าการตัดสินใจในการลงทุนแต่ละครั้งมีความสำคัญมาก ผมจะพยายามตัดสินใจให้น้อยครั้งที่สุดโดยคิดถึงการรักษาเงินต้นไว้ก่อน (กฏที่สำคัญข้อนึงคือไม่เล่นมาร์จิ้นครับ) และจะไม่ทำอะไรผลีผลามและคาดหวังผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยไม่ผ่านการวิเคราะห์ทั้งทาง MACRO และ ในตัวกิจการเองอย่างระมัดระวังและอนุรักษ์นิยม รวมไปถึงจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้นด้วย ผมมีความรู้สึกว่าเจ็ดปีแรกที่ผ่านไปผลตอบแทนก็ถือว่าได้สูงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก (ประมาณ 10-15% ทบต้น) มาก ทำให้มีความรู้สึกว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือจะต้องไม่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงเกินจริงและจะต้องไม่ประมาท ไม่เหลิงไปกับผลตอบแทนในอดีตที่ผ่านมา

สวัสดีปีใหม่ ไม่เจ็บไม่จนครับ  :8)
Always stay humble or be swallowed by the market.
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 32

โพสต์

[quote="dome@perth"]-20%  รวมปันผล -14.5% quote]

อยากมาแชร์ ประสบการณ์ และ ความผิดพลาดที่ได้เรียนรู้ปีนี้ ครับ

1. ถือหุ้น 100% ตลอดเวลา ไม่มีเงินสดนอนในบัญชีแม้แต่วันเดียว
รู้ตัวว่า ยังขาดความอดทนอยู่มาก พอหุ้นลงคิดอยู่อย่างเดียวว่า ต้องซื้อเฉลี่ย
ไม่คิดว่า หุ้นถูก แล้วยังมี ถูกกว่า

2. 9เดือนแรก มั่นใจว่าหุ้นที่ตัวเองเลือก ดีแล้ว เวลาราคาหุ้นขึ้นเกินเป้าหมายตัวเองตั้งไว้แล้วก็ไม่ขาย นอนใจว่า หุ้นดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ที่ไหนได้ ปะ รำ ปำ ป้ำ เกรียมเลย

3. หลังเดือนตุลาทมิน รู้ซึ้ง ว่าไม่มีอะไรเที่ยง ตั้งเป้าหมายสำหรับหุ้นตัวใหม่ที่ซื้อ กำไร 10-15% แล้วขาย (ตัวเก่า พยายามซื้อเฉลี่ย) ที่ไหนได้ ขายหมูทั้งนั้น ความกลัวเข้ามาครอบงำ กลัวไม่กำไร เด็ดดอกขาย ก่อนที่จะได้ผล

4. มารู้ว่า เราลงทุนหุ้น คือการซื้ออนาคต จริงๆเมื่อ ซื้อหุ้น โภคภัณฑ์ เขามองกันข้ามเดือนข้ามปีกันเลย รู้ได้ยังไงว่าสินค้าพวกนี้ มาขาขึ้น หรือ ขาลง ต้องเรียนรู้อีกเยอะ  โชคเข้าข้าง ในกลุ่มเหล็ก กำไรไป40-50% แต่โง่มากในกลุ่มน้ำมันปาล์ม ไม่นึกไม่ฝันว่าผลกระทบ ของราคาน้ำมัน มันรุนแรงขนาดนี้ มันจะขึ้นสูงสุด แล้ว ลงต่ำสุด ในประวัติการ 30-40ปี ภายใน 4-5เดือน

5. คิดว่าถือหุ้นหลายตัวเพื่อลดความเสื่อง ที่ไหนได้ 18 ตัว ติดลบ 15 ตัว
โชคยังดี ถึงวันสิ้นปี มีบวก 3 ตัว( SVI +28% CPALL +24% UMS+3%)  แต่ 3 ตัวนี้ รวมกันแล้วแค่ 1.20% ของพอร์ต  :cry:  
ข้อเสียของการถือหลายตัวอีกอย่างคือ ไม่ได้นอนหลายคืนติดต่อกัน ตอนงบ ออก ตามแกะ ตามแงะ งบการเงิน ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อาศัยชาวบ้านบ้าง :lol:

6. หุ้นทีขาย มีกำไร GSTEEL  SSI   TFI  BTG  CPALL  LPN  BAY  SVI  SVI-W2 CIG
   หุ้นที่ขายขาดทุน UPOIC UVAN ESSO KTB CIG-W1

7. เงินปันผล 4.35% ดีกว่าฝากประจำไหมเนียะ แต่คิดว่าดีกว่านะเพราะไม่ได้ลงตุมเดียว ค่อยๆเพิ่มทุกๆ2เดือนจากเงินประจำ

8.วันแรกที่เอาเงินไปฝากไว้กับตลาดหุ้น ของชีวิต วันพุธ ที่ 12 มีนาคม 2550  173,476 บาท หุ้นสองตัวแรกที่ซื้อ TNH 6.20 PTL 7.20

9. ซื้อขาย ไปทั้งหมด 104 ครั้ง โบรกยิ้มร่า  :twisted:  
ซื้อ 72 ครั้ง
ขาย 32 ครั้ง กำไร 21 ครั้ง  ขาดทุน 11 ครั้ง สรุปรวมกันแวเสมอตัว :cry:

10. ได้ความรู้มากมายเหลือเกิน จากที่ ไม่เคยรู้แม้กระทั้ง ดัชนีหลักทรัพย์ คืออะไร ได้ประสบการณ์ และ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ในวงการการลงทุน ที่สำคัญ มีความสนุก กับการลงทุนอย่างมาก ทำให้รู้สึกว่า เวลามันชั่งผ่านไปเร็วเหลือเกิน "Time flies"
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 33

โพสต์

สัจธรรมของตลาดหุ้นคือ no pain no gain

ปีนี้ก็ได้แผลเหมือนกันสำหรับผม

ผมเองมีประสบการณ์อยากมาแชร์ด้วยคน

พวกนักเล่นหุ้นระดับโลกเวลาจะซื้อหุ้นมักจะตั้งคำถามว่า

how to protect loss หรือ ทำยังไงป้องกันการขาดทุน

แต่นักลงทุนทั่วไปมักตั้งคำถามว่า

ชั้นจะกำไรเท่าไหร่

ผมเองก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่อง เศรษฐศาสตร์มหภาค

และความสำคัญกับ fundflow ไม่มากนัก ผมเชื่อในเรื่องของการเลือกหุ้นรายตัว

แต่ปีนี้แนวคิดผมเปลี่ยนไปมาก  การเล่นหุ้นนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้เล่นแค่เพราะหุ้นนั้นๆดี เช่น a เป็นหุ้นดี b เป็นหุ้นปันผล

ถ้าสภาพปกติการคาดการณ์ราคาเป้าหมายโดยหา forward eps *pe ที่เหมาะสม น่าจะใช้ได้ผลพอสมควร

แต่สภาพที่โลกเน่าไปครึ่งโลก(ยืมคำพี่สุมาอี้) หุ้นที่จะเปลี่ยน valuation ไปในทันที

คนจะไม่สนแล้วว่า a เคยดี b เคยเจ๋ง แต่คนจะคิดว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป

และ valuation หุ้นจะเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน

เอาง่ายๆ หุ้นไทยไม่เคย trade แพงกว่าหุ้นประเทศอื่นๆในเอเซียเลย

เพราะว่า หุ้นส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่น้ำมันเยอะ  ถ้าโลกเน่าแล้ว dowjone

ลงเยอะๆ หุ้นประเทศอื่นจะยืนอยู่ได้อย่างไร ดังนั้นถ้า dowjone ลงไปเรื่อยๆ

set ก็ต้องลงตามอยู่ดี เพื่อคงสภาวะถูกกว่าประเทศในเอเซียและอเมริกา

ผมว่าสิ่งที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญก็คือ  เราต้องประเมินเรื่องเม็ดเงิน

แรงจูงใจในการซื้อและขายหุ้นด้วย เช่นการที่ lehman ล้ม หรือ aig ล้ม

ก็ต้องทำให้มีการขายสินทรัพย์ต่างๆเพื่อดึงเงินกลับไปที่ประเทศแม่

พี่หรั่งก็เลยเล่นขายแบบเทกระจาดปีนี้ขายไป 160000 ล้าน หุ้นลง 400 จุด

ผมคิดว่าในปีหน้า ถ้าเราสามารถประเมินเรื่องเม็ดเงินได้ว่าจะต้องมีการขาย

แบบเทกระจาดอีกหรือไม่ และ เศรษฐกิจใกล้ถึงจุดฟื้นตัวหรือยัง ต่างๆ

จะทำให้เรามีสิทธิ์กำไรหุ้นปี 2009 คำโตๆ

ผมว่าประเด็นนี้สำคัญกว่าพื้นฐานหุ้น(ผมมองสั้น) สำหรับปีหน้า

ผมมีของดีมาฝากเอาไป 1 รูป

รูปภาพ

รูปนี้บอกเราว่าเมื่อ nominal gdp หดตัวลงครั้งก่อนๆ

จะมีหุ้นอยู่ 4 กลุ่มที่ยังมีรายได้โตมากกว่าค่าเฉลี่ย ซึ้งค่าเฉลี่ยนี้

ไม่นับหุ้นอย่าง แบงค์ หรือ ไฟแนน

รูปนี้จะสื่อว่าคนที่อยากเล่นหุ้นที่ safe ปีหน้า(ได้รับผลกระทบน้อย หุ้นอาจลงหรือขึ้นก็ไม่รู้นะ) ก็คือ กลุ่ม โรงบาล ค้าปลีก อาหาร สื่อสาร
เพราะรายได้โตมากกว่าค่าเฉลี่ยที่เป็นรวมทั้งหมด ในภาวะเศรษฐกิจหดตัว
(ปีหน้าก็หดตัว)

ผมคิดว่าก่อนที่จะจัด port ใหม่ปีหน้าเราควรคิดก่อนว่าเราหวังผลตอบแทนแค่ไหน  จะเล่นหุ้นที่ลงลึกแล้วหวังเด้งแรง หรือหวังหุ้นที่ทนทานเศรษฐกิจถดถอยได้

สำหรับผมไม่เล่นหรอก 4 กลุ่มนั้น เพราะมันช้าไม่ทันใจ 555555555

เอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้ถือไอ้ 4 กลุ่มนี้เหมือนกัน

ตอนนี้เพิ่งถือเงินสดใหม่อีกรอบ

อิอิอิ เพื่อนๆวางแผนบริหาร port กันหรือยังครับ ผมวาง plan เรียบร้อยหมดแล้วนะ ว่าจะเล่นยังไงบ้าง
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
ภาพประจำตัวสมาชิก
Golden Stock
Verified User
โพสต์: 615
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 34

โพสต์

นับเป็นเงิน  ปีนี้มูลค่าพอร์ตผมลดลงไปเกือบ 20 ล้านบาท

นับจากต้นปี ถึง เดือนกันยายน  พอร์ตทรงๆ  แต่ดีกว่าตลาด

พอเข้าเดือนตุลาคมเท่านั้น  หุ้นหลายๆ ตัวติดลบกระจาย 10 - 40 %  อย่าง SVI เจอไปหนึ่ง floor  เดือนนี้เดือนเดียวติดลบเกือบ 20 ล้านบาทแล้ว  

ตุลาคม  เป็นเดือนที่ตลาดลงแรงแบบที่แทบไม่แตะเบรก ซึ่งเหนือความคาดหมายจริงๆ ครับ  ชนิดที่เร็วจนปรับเปลี่ยนอะไรไม่ทันเลย  ยิ่งหุ้นสภาพคล่องต่ำไม่ต้องทำอะไรเลย  เพราะยิ่งทำอาจจะยิ่งหนักกว่าเดิม  ส่วนหุ้นสภาพคล่องสูง  และเป็นที่นิยมของตลาดมีการขายออกไปก่อนหน้านี้หลายตัวแล้ว  ไม่งั้นเจ็บหนักกว่านี้

อย่างไร  ผมไม่ได้หนักใจอะไร  เพราะเชื่อว่าหุ้นหลายๆ ตัวที่ถือนั้น  ยังสามารถออกไข่ให้ผมได้  เมื่อเศรษฐกิจถดถอยผ่านพ้นไป  และเริ่มฟื้นตัว  แล้วตลาดกลับมามั่นใจ  ราคาหุ้นมันก็จะกลับมาเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1522
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ปีนี้ดุเดือดมาก โดยเฉพาะเดือนต.ค.

รายการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นหางว่าว ปรับพอร์ตเยอะมากช่วงนั้น

บทเรียนคงจะเป็นว่าถือหุ้นเยอะตัวเกินไปหน่อย บางตัวผมลืมดูจริง ๆ

ทิ้งไว้นาน ตามงบบ้าง แต่คิดตามน้อย ก็เลยเสร็จไป เช่น SF

อีกเรื่องคงจะเป็นว่าหุ้นบางตัวเป็นศิษย์โปรด เลยขายช้าไปหน่อย

เข้าตลาดมาสี่ปี ปีนี้ปีที่ห้า มีช่วงนึง นึกว่าจะต้องคืนกลับไปหมดซะแล้ว

ปีนี้ตั้งใจเอาเงินเข้ามาเพิ่ม อยากมีพอร์ตโต ๆ หลายสิบล้านกับเค้าบ้าง ก็ถอยชะรูดตอนเดือนต.ค.

ปกติผมจะค่อย ๆ ใส่เงินเข้าไปเพิ่มทุกปี การไม่ aggressive เกินไป ก็ทำให้รอบนี้เจ็บตัวน้อย มีเงินลงทุนเหลือมาก

ปีหน้าคงไม่ได้กะจะเอาคืนอะไร เงินที่ขายหุ้นออกมามาก ทำให้ Cash flow ทั้งปี ปีนี้เป็นปีแรกที่เป็นบวก

ก็เอาเงินลงทุนค้างปีที่แล้ว รวมกับปีนี้มาใช้ ซื้อหุ้น ตาม budget นี่แหละ

สรุปว่าปีนี้เฉพาะหุ้นโดนไปเกือบ -30% ถ้ารวมเงินสดที่มีด้วย ก็เหลือ -10 กว่า %

สวัสดีปีใหม่ครับ ปีหน้ามีสติในการลงทุนนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 36

โพสต์

-34.49% ครับ รวมปันผล ดอกเบี้ยของเงินที่อยู่บัญชีลงทุน และเงินที่จะได้คืนจากการเครดิตภาษีแล้ว :cry:

ผมเริ่มลงทุนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คิดเป็นกำไรทบต้นก็ 18.88% ต่อปี

กลางปีนี้เริ่มคิดลงทุนจริงจังกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เลยขอยืมเงินแม่มาเพิ่มคิดเป็น 66% ของเงินที่คิดจะลงทุนทั้งหมด

ทำให้ port หุ้นใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า :shock:  :shock:  :shock:

Jackpot เลยครับ ขาดทุนปีนี้กินกำไรที่ได้มา 3 ปีไป 3 เด้งกว่า :cry:

ปีนี้บทเรียนที่ได้มากมาย แต่บทเรียนที่สำคัญน่าจะเป็น

อย่าซื้อหุ้นเพราะความโลภ เพราะมันลงมาจากเดิม 50% โดยที่ไม่ทำการบ้าน และวัดมูลค่าหุ้นด้วยวิธีที่เราคิดแล้วว่าเหมาะสมกับ EQ ของเรา :roll:

ปกติผมจะเป็นคนที่หุ้นถือทนมาก เท่าที่ผมสังเกต จุดที่ผมทนไม่ได้มักจะเป็นจุดที่ใกล้ๆ Low :twisted:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
conseto
Verified User
โพสต์: 1184
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ลบไป 38% เป็นปีที่สองที่ติดลบจากทั้งหมด 8 ปี
บทเรียน
เจอหุ้นราคาถูกแล้วยังมีถูกกว่า
ทนถือเงินสดนานไม่ได้
ไม่ได้ดูภาพ macro ก่อนซื้อ
ทำ..เพื่อไม่ต้องทำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 38

โพสต์

[quote="naris"]คุณณัฐ เราเริ่มปีเดียวกันเลยนะครับ :D
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 39

โพสต์

[quote="Alastor"][quote="naris"]คุณณัฐ เราเริ่มปีเดียวกันเลยนะครับ :D
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 40

โพสต์

[quote="naris"][quote="Alastor"][quote="naris"]คุณณัฐ เราเริ่มปีเดียวกันเลยนะครับ :D
Small Details Make a Big Difference
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ปีที่แล้ว มีคนมา ตอบโพลล์ ผลตอบแทน ตั้ง 210 คน
ปีนี้ เหลือไม่ถึงร้อยคน แฮะ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0

ปล.พี่ลูกอีสานสุดยอดครับ  :bow:  :bow:  :bow:
อยากให้พี่เขียนหนังสือจัง
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 42

โพสต์

miracle เขียน: by the way
ผลทึ่งท่านประธานมากเลยครับ
ขนาดตลาดแย่ ท่านประธานยังทำ + ได้
หายากน่าครับ
:)
ไม่รู้ว่าหมายถึงผมหรือเปล่า
อ่านๆดูน่าจะพูดถึงลูกอิสานมากกว่า  :lovl:

แต่ก็ขอแจม ก็เราเป็นประธานนิ  :lol:

ปีนี้ผมอยู่ในกลุ่มบวก 1-10%
แต่ถ้านับดอกเบี้ยที่ต้องเสียเพราะใช้มาร์จิ้นก็เกือบจะไม่บวก
ก็ได้บทเรียนเยอะอยู่ครับ

อ้อ......เกือบลืมเตือนเรื่องการสรุปบทเรียน
จริงๆแล้วบทเรียนที่เราได้แต่ละปีนั้น มีค่ามาก
และจะมากขึ้นไปอีกถ้าเรานำไปใช้ถูกกับเวลาและสถานที่
แต่ถ้าผิดที่ผิดเวลา
นำบทเรียนปีนี้ไปใช้กับปีหน้า อาจจะไม่ได้ผลมากนัก
เพราะเหตุการณ์อาจจะไม่เหมือนกัน

อย่างเช่น
ปีนี้เซทลงเกือบ 50%
ก็แน่นอนว่าการใช้มาร์จิ้นน่ากลัวมาก และเป็นเรื่องต้องห้าม
แต่ถ้า นำบทเรียนปีนี้ไปใช้กับปีหน้า
ก็แปลว่าปีหน้าเราไม่ใช้มาร์จิ้น
ถ้าปีหน้าเซทก็ลงอีก 50%
เราก็รอดตัวไป
แต่ใครจะไปรู้อนาคตได้ว่าจะลงหรือจะฟื้น
ถ้าสมมติว่าปีหน้าเซทบวก30% การใช้มาร์จิ้นก็จะมีประโยชน์กว่า
เป็นต้น

ถ้าเทียบเหตุการณ์กันแล้ว
ผมว่ามีผู้ที่เคยอยู่ในวิกฤติต้มยำกุ้งน่าจะเล่าตำนานและให้บทเรียนได้ดี
เพราะดูเหตุการณ์จะคล้ายกันอยู่
สามารถนำมาใช้กับปีหน้าได้
แต่ที่จริงก็ไม่เหมือนกันทีเดียว

คราวที่แล้วประเทศเราแย่ แต่โลกไม่ได้แย่นัก
ค่าเงินดิ่งเหว กลุ่มนำเข้าสาหัสไปตามๆกัน
แต่กลุ่มส่งออกได้ผลบวกรับเต็มๆและฟื้นตัวก่อน
กลุ่มสถาบันการเงินร่วงหนักที่สุด และก็เป็นกลุ่มที่ฟื้นลำดับต้นๆ

แต่คราวนี้อเมริกาแย่ กลุ่มอสังหาประกันยานยนต์โดนก่อน
ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะฟื้นก่อน  :lol:
และนานแค่ไหนกว่าจะฟื้น  :?:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 43

โพสต์

สามัญชน เขียน:
ไม่รู้ว่าหมายถึงผมหรือเปล่า
อ่านๆดูน่าจะพูดถึงลูกอิสานมากกว่า
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านนะครับ
ผมว่า ผลตอบแทนเป็นตัวเลขไม่สำคัญเท่าวิธีการลงทุนและการทบทวน และการปรับการลงทุนครับ
ไม่ว่า เราจะทำผลตอบแทนให้ได้กำไร หรือ ขาดทุน เท่าไหร่
มันจะไม่มีประโยชน์เลยนอกจาก เราจะสรุปสิ่งที่เกิดขึ้น
ความรู้สึกขณะนั้น

และทางเลือกอื่นๆที่เราไม่ได้ทำ

ผมเปลี่ยนคำว่า รู้งี้ มาปรับปรุงเพื่อวางแผนการลงทุนให้ตนเองในช่วงต้นปี
ผมชอบ Plan Do Check Act (หลักของ ไคเซ็น) ครับ

อันนี้เป็นกระทู้ที่ผมชอบใน temple ครับ

http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1508.0

ส่วนอันนี้ผมชอบมากๆครับ
ดร.ท่านพูดไว้ดีมากๆครับ

http://radio.mcot.net/fm965/programView.php?id=46573

มีหลายครั้งที่ผลตอบแทนเป็น % อาจไม่มีความหมาย ถ้าคุณทำเงินได้ +200 % จาก 100 บาท เป็น 300 บาท

ปริมาณเงินใน port ก็ทำให้เรามีข้อจำกัดในการลงทุนเหมือนกัน

แต่เรามีวิธีใดที่ดีกว่าการซื้อถูก ขายแพง
มีวิธีใดที่เราขจัด ข่าววง(เหมือนจะ)ใน
ขจัดข้อจำกัด ที่เราไม่ต้องตามข่าวแบบ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เดี๋ยวข่าวร้ายโผล่มาเราถอยไม่ทัน

...ผมว่า เรากำหนดการลงทุนที่มีความสุขของเราได้ครับ

สวัสดีปีใหม่ 2552 ครับผม
มีความสุขกับการลงทุนหุ้นคุณค่านะครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
V_accy
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ติดลบเกือบ20เปอร์เซ็น

โดนไปกับ Draco Snc อุตสาหกรรมทั้งคู่ จำจนวันตาย :twisted:  :twisted:
ศึกษาไม่มากพอ

ตัวที่ได้กำไรก็Oishi Tnh Vayu1 แต่ดันถืออย่างละนิดหน่อย
แต่ก็ดีใจที่ผ่านปีนี้มาได้อย่างน่าพอใจ ปีหน้าฟ้าใหม่ หวังว่าจะแทงหวยถูก  :lol:
meee
Verified User
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 46

โพสต์

-34% ครับ โดน bank, energy, petro
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 47

โพสต์

สามัญชน เขียน:
ไม่รู้ว่าหมายถึงผมหรือเปล่า
อ่านๆดูน่าจะพูดถึงลูกอิสานมากกว่า
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
bevyma
Verified User
โพสต์: 75
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 48

โพสต์

ลบประมาณ 23% ครับ  เพิ่งลงทุนมาปีกว่าๆ ยังไม่เคยเจอคำว่า กำไร ในพอร์ตครับ  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
SupachaiZ594
Verified User
โพสต์: 834
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 49

โพสต์

ลบไปไม่ถึง  10% ครับ เข้า ๆ ออก ๆ หลายครั้ง โชดดีด้วย แต่ LTF โดนไปเกิน 20%
ขอชื่นชมท่านแม่ทัพหลาย ๆ ท่านครับที่มาแชร์ประสพการณ์ โดยเฉพาะคุณ Blueblood ครับ
investment biker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1284
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ยังไม่ได้ vote เลยครับ ไม่รู้ว่าทำไม click ไม่ได้
ผมอยู่ที่ ลบ 1-10% ครับ ยังดีที่มีเงินออมใหม่ใส่เพิ่มทำให้ขนาด port อยู่เท่า ๆ กับสิ้นปีที่แล้วครับ

ปี 2008 ที่ผ่านมาเหมือนนั่ง roller coaster เลยครับ ช่วงกลางปี port โตกว่า 50% แต่มาจบสิ้นปีที่ลบครับ

ลงทุนครบ 3 ปี ผลตอบแทนเป็นดังนี้

2549     +40%
2550     +60%
2551     - 7%

เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30% ต่อปี  

โชคดีปีใหม่ทุกท่านครับ stay calm stay invest ครับผม
In search of super stocks
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ปีนี้โดนไปห้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์... ขอวิพากษ์ความผิดพลาดของตัวเองดังต่อไปนี้

1) ใช้มาร์จิ้นเล่นหุ้น
 - มาร์จิ้นถือเป็นอาวุธทำลายล้างที่รุนแรงมาก ผมดันพึ่งมารู้จักและเริ่มใช้ตอนต้นปี
 - การใช้มาร์จิ้นนอกจากจะทำให้รวยเร็วขึ้น และจนเร็วลง มันยังทำให้ความโลภและความกลัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
 - การใช้มาร์จิ้นมีข้อจำกัดในการลงทุนเป็นอย่างมาก เช่น
      - เมื่อหุ้นตัวนั้นติดดาว ทำให้ไม่สามารถซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มได้ ซึ่งจำกัดการทำ Short Against Port
      - เมื่อมูลค่าหุ้นลดลงจนทำให้ Excess Equity ติดลบ กลยุทธการ Switch หุ้นจะทำได้ไม่สมบูรณ์ เมื่อ Switch หุ้น จะต้อง Realize Loss ก่อน จึงจะเข้าไปซื้อใหม่ได้ ส่งผลให้เราไม่สามารถฉวยโอกาสที่เราเห็นได้เต็มที่
 - Force Sell และ Call Margin ของคนอื่น อาจจะทำเราซวยไปด้วย

2) เล่นหุ้น Commodity แต่ไม่ตามติด Demand/Supply (ไม่ศึกษาวัฎจักรหุ้น Commodity ให้ดี ก่อนลงทุน)

3) กรอบความคิดที่ผิดพลาด มองเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจจะแย่ และน่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นโดยรวม แต่เชื่อมั่นว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนที่พึงพอใจ เลยไม่ลดการถือครองหุ้น เตรียมเงินเพื่อรอซื้อหุ้นที่คุณภาพดี ราคาถูก ประกอบกับเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารพอร์ตมีแต่การ Switch หุ้น ยิ่งไปบวกกับข้อจำกัดของมาร์จิ้น เลยทำให้ต้องเสียหายหนัก

4) สำคัญที่สุด คือ อัตตา และ ความมั่นใจตัวเองจนเกินไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 52

โพสต์

เห็นด้วยในเรื่องมาร์จิ้นมากๆครับ ดาบสองคมจริงๆ เพราะตอนกลางปีผมบวกเกือบ50% แต่สิ้นปีลบ14กว่า เพราะไม่ยอมคายมาร์จิ้น และอยากซื้อเพิ่มหลายตัวแต่ซื้อไม่ได้ เพราะเขาไม่ปล่อย
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
tum_H
Verified User
โพสต์: 1857
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 53

โพสต์

picatos เขียน:เล่นหุ้น Commodity แต่ไม่ตามติด Demand/Supply (ไม่ศึกษาวัฎจักรหุ้น Commodity ให้ดี ก่อนลงทุน)
ปีนี้ผมเองก็ได้ประสบการณ์จากหุ้นกลุ่มโรงกลั่น TOP พอสมควร ตอนแรกกะ
ซื้อเก็งกำไรเล็กๆ แต่ดันเจอเหตุลดค่าการกลั่นและช่วงขาลง และยังไม่ทัน
ได้ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ดันเติมเงินเข้าไปเพิ่ม ทำให้ขาดทุนสูงสุดตั้ง
แต่ลงทุนมา(3 ปี)

แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้และทำให้ได้ประสบการณ์ที่มีค่าก็คือ เหตุผลต้องอยู่เหนือ
ความกลัว เมื่อใดที่เรากลัวจนไม่คิดถึงเหตุผล มักทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด
และขาดสติ จนทำให้ลงทุนผิดพลาดได้

ปีนี้ก็มีอย่างน้อยหลายๆตัวที่ศึกษาข้อมูลมาดีและให้ผลตอบแทนที่ดีมากกว่า
ตลาด ทำให้ช่วยชดเชยผลขาดทุนไปได้บางส่วน ประสบการณ์การลงทุนปี
นี้ทำให้ความคิดของผมโตขึ้นเยอะ และเชื่อว่าระยะยาวเวลาอยู่ข้างเราเสมอ
ที่สำคัญอย่าโลภ

สรุป คำนวณไปคำนวณมา -11.5% ครับปีนี้
:drink:
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 54

โพสต์

naris เขียน:เห็นด้วยในเรื่องมาร์จิ้นมากๆครับ ดาบสองคมจริงๆ เพราะตอนกลางปีผมบวกเกือบ50% แต่สิ้นปีลบ14กว่า เพราะไม่ยอมคายมาร์จิ้น และอยากซื้อเพิ่มหลายตัวแต่ซื้อไม่ได้ เพราะเขาไม่ปล่อย
ถ้ามีเวลาว่างพี่ naris ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเป็นความรู้ได้ไหมครับ
ในเรื่องนี้ล่ะครับ ว่ามาร์จิ้น ดาบสองคม ในเหตุการณ์ของปีที่แล้วอย่างไง
เป็นเครื่องเตือนสติของนักลงทุนทั่วไปครับ

:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ปี 51 นี่ทมิฬ มากๆ
Tasco ---- เจ้ง
Draco ---- เฮกำไรนิดหน่อย
TCCC  ----  กำไรทะลักแต่ซื้อนิดเดียว
Pato ------ เหมือน TCCC

 ธุรกิจส่วนตัว -----  เจ้ง

สรุป เจ้ง สนิท 5555555

 อ้อ ยังมีอันที่ลงทุนกับแม่ยาย อันนี้ ----- กำไร โว้ยยยย แต่ เมียเก็บตัง  :cry:  :cry:
leksmile
Verified User
โพสต์: 2126
ผู้ติดตาม: 1

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ทำตัวเลขเสร็จแล้ว สรุปว่าปีนี้ขาดทุน 20.35%

ต้องยอมรับว่าปีนี้ปีหน้าผมต้องการใช้เงินเยอะ ทำให้พยายามหากำไรทั้งที่ตลาดไม่เอื้อยเท่าไหร่ บทเรียนของผมคือน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง ฮ่าๆๆ ปีใหม่นี้คงเหนื่อยมากขึ้นเพราะต้องถอนเงินไปใช้พอควร ทำให้ port เล็กลง
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 57

โพสต์

พอร์ตลงพอๆกับตลาดเลยครับ ตลาดไปไหนผมไปนั้น เพราะช่วงปลายปีเปลี่ยนใจไม่รัก epco ดันไปรักคนอื่นซะได้ เลยโดนซะ
zephyr
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 962
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 58

โพสต์

ปีนี้ผม ลบไป 20กว่า% ครับ  :?
keng56
Verified User
โพสต์: 431
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 59

โพสต์

ปี51 บวก 3.3%  โชคดีที่หนีทันก่อนจะกลายเป็นขาดทุน
ภาพประจำตัวสมาชิก
charnengi
Verified User
โพสต์: 2395
ผู้ติดตาม: 0

** สิ้นสุดปี 2551 ผลประกอบการพอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ **

โพสต์ที่ 60

โพสต์

กราฟยังเกือบเป็น normal แต่เบ้ซ้ายชัดเจน ดูแล้วคนในเวป VI ผลตอบแทนก็ยังพอๆกับตลาดอยู่ดี

ปีนี้พยายามกันใหม่ครับ