หลังจากอ่านมาเยอะพอสมควร เกิดความสงสัยครับ

[DJC]

ว่าทำไม  esso ถึงไม่เป็น Vi ละครับ (ผมลืมไปครับว่า esso เพิ่งเข้าตลาดได้ไม่นาน)





ส่วน 2 บริษัทหลังนี้ผมดูจากกระทู้ล่างๆ นะครับ แล้วเอามาเปรียบเทียบ









ขอคำชี้แนะด้วยครับ

จากนี้ไปผมจะตั้งใจศึกษาหาความรู้อย่างจริงจังละครับ


ขอบคุณครับ

[DJC]

อ้างจากกระทู้  http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=36729

ของ “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”

1) รายได้ไม่ลด
2) กำไรไม่ลด
3) หนี้ไม่มี
4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก
5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง
6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด

ตามความคิดน้อยๆๆ ของผม esso ก็เข้าข่ายอยู่นะครับ

ช่วยชี้ทางสว่างทีครับบบ  

[V_accy]

ว่าทำไม  esso ถึงไม่เป็น Vi ละครับ (ผมลืมไปครับว่า esso เพิ่งเข้าตลาดได้ไม่นาน)

Vi คืออะไรครับ....

ท่าทางคุณจะมือใหม่เหมือนผม
ลองศึกษาเรื่อยๆครับ ที่นี่มีพี่ๆใจดีมาให้ความรู้มากมาย

แนะนำเวปนี้ด้วยครับ

http://www.bbznet.com/scripts3/board.ph ... r=numtopic

อ่านดู มีประโยชน์มากมาย

[V_accy]

ลืมเตือนอีกอย่างว่า...อย่าซื้อหุ้นตามคนอื่นบอกนะครับ

[ก้อนหิน]

[quote="DJC"]อ้างจากกระทู้

[charnengi]

ข้อ 5 ปันผลต้องดูอนาคตนะครับ อย่าดูตัวเลขในอดีต ถ้า Q3 Q4 ล่าสุดขาดทุนคงไม่จ่ายปันผลแน่ หรืออาจจ่ายเป็นน้ำจิ้มปลอบใจ
ข้อ 6 esso การตลาด ก็สู้พี่ ปอ ไม่ได้ ทั้งโฆษณา เทค Jet/Jiffy โปรโมชั่นกับบัตรเครดิต อื่นๆ

มือใหม่วันนี้ อาจเป้นมือเก๋าในวันหน้า

ผมก็มือใหม่ครับ สงสัยโดนย้ายไปห้องมือใหม่แน่ๆ 55

[chatchai]

1) รายได้ไม่ลด
2) กำไรไม่ลด
3) หนี้ไม่มี
4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก
5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง
6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด

รายได้  และกำไร  คงไม่มีบริษัทไหนที่จะไม่มีโอกาสลดลง  เพียงแต่บางธุรกิจรายได้และผลการดำเนินงานมีความผันผวนสูงมากๆ  ซึ่งผมคิดว่า ESSO มีความผันผวนมากกว่าความมั่นคง

หนี้ของบริษัทมีเงินกู้ยืมสูงถึง 30,000 ล้านบาท  ทำไมถึงบอกว่าไม่มี

เงินปันผลจะสูงหรือน้อย  ปัจจัยหลักก็มาจาก  ผลการดำเนินงาน  และสภาพคล่องของบริษัท  ถ้าผลการดำเนินงานผันผวน  เงินปันผลก็ย่อมผันผวนตาม

ESSO มีจุดแข็งทางการตลาดยังไงหรือครับ  ผมมองไม่ออกแฮะ  ช่วยลองอธิบายหน่อยครับ

[naris]

ESSO น่าจะเข้าข่าหุ้นกึ่งวัฎจักรนะครับ หุ้นกลุ่มนี้ ถ้าเรามีกระจกมองหลังในระยะยาวๆแล้ว หาจุดซื้อในช่วงก่อนวัฎจักรจะเริ่ม น่าจะได้หลายเด้งครับ แต่ทำนองกลับกัน ถ้าไปซื้อช่วงไฮของวัฎจักร มีโอกาสขาดทุน90%ได้เช่นกัน

ถ้ามองให้เชิงVIต้องหาค่าเฉลี่ยของกำไรกลุ่มนี้ให้เจอ และควรซื้อมันเมื่อเราเห็นสัญญาณการฟื้นของน้ำมัน และมั่นใจว่าหลังจากนี้ไปเขาไม่ขาดทุนหนักๆแล้ว และราคายังต่ำbookอยู่มากๆ (แต่PEอาจจะยังขาดทุนหรือสูงอยู่)

ส่วนเกณฑ์ของ ดร.ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเกณฑ์สำหรับหุ้นVIพื้นฐานดีครับ เพราะท่านมีเงินมากพอที่จะไม่ต้องมาสนใจกับหุ้นเสี่ยงสูงๆครับ

[GeneraX]

ถ้าให้ว่ากันตรงๆ ESSO ไม่น่าจะเข้าข่าย 6 ข้อเลยแม้แต่ข้อเดียวครับ

[satantuey]

ถ้าตระกูลโรงกลั่น  ไงผมว่า TOP ก็ดูดีก่านะ  :)

[akekarat]

เป็นหรือไม่เป็น VI มันอยู่ที่ตัวคุณ มากกว่าตัวหุ้น นะครับ

[ส.สลึง]

1) รายได้ไม่ลด
2) กำไรไม่ลด
3) หนี้ไม่มี
4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก
5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง
6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด
ตามความคิดน้อยๆๆ ของผม esso ก็เข้าข่ายอยู่นะครับ
ช่วยชี้ทางสว่างทีครับบบ

แต่ตามความคิดของผม
การวิเคราะห์ควรใช้ความจริงครับ

ปล.
ว่าแต่... ความจริงคืออะไร..?

[atsu]

ตามความคิดของผม(เอามั่ง  :lol: )พี่เสือเอสโซ่นี่หุ้นวัฏจักรตัวแม่เลยครับ
มีทั้งโรงกลั่น ทั้งปิโตรเคมี

เดาว่าพี่ DJC คงเลือกหุ้นโดยดูจากตัวเลข พีอี ,พีบีวี ,เปอร์เซ็นต์ปันผล ย้อนหลังเป็นหลัก
การดูเฉพาะตัวเลขย้อนหลังนี่อันตรายมากครับสำหรับหุ้นวัฎจักร
ควรระวังจะติด"กับดักวีไอ"นะครับ

จริงๆถ้าแค่ดูแยกย่อยเข้าไปในไตรมาสล่าสุดก็น่าจะพอได้คำตอบแล้วนะครับ
ไตรมาสสามที่ผ่านมา เอสโซ่ขาดทุนไป สามพันกว่าล้าน
สมมุติว่าไตรมาสสี่ขาดทุนเท่าไตรมาสสาม
กำไรที่โชว์รวมสามไตรมาสอยู่ตอนนี้ก็จะหมดไปทันที
แล้วทีนี้ พีอี ก็จะสูงปี๊ดเลย , ปันผลก็ไม่ได้

ความน่าสนใจจากการดูตัวเลขอย่างเดียวจะหมดไปทันที
ซึ่งอันที่จริงแล้วอาจจะกลายเป็นช่วงที่น่าซื้อของหุ้นวัฏจักรก็ได้ครับ
:lol:  :lol:

[picatos]

ยกมาก็ดีครับ... จะได้ว่ากันเป็นข้อๆ

1) รายได้ไม่ลด - ราคาขายน้ำมันลดลง รายได้ไม่ลดจริงเหรอครับ?
2) กำไรไม่ลด - ขาดทุน stock กำไรไม่ลดเหรอครับ?
3) หนี้ไม่มี - หนี้ 4.5 หมื่นล้าน จาก 7.5 หมื่นล้าน (ตาม set.or.th) นี่เรียกว่าไม่มีรึเปล่าครับ?
4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก - ไม่มีความเห็นครับ
5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง - Business Model แบบนี้จ่ายปันผลได้สูงจริงเหรอครับ?
6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด - ผมมองไม่เห็นจุดแข็งทางการตลาดของ ESSO... ผมว่าบางจากยังมีจุดแข็งทางการตลาดมากกว่าอีก (แบบนี้ซื้อ BCP-DR ดีกว่าไหมครับ อย่างน้อยก็รับประกันที่ 13 บาท)

ส่วนที่ถามว่าเป็นหุ้นคุณค่ารึเปล่า อันนี้อยู่ที่มุมมองคนซื้อครับ ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ

[sai]

ยกมาก็ดีครับ... จะได้ว่ากันเป็นข้อๆ

1) รายได้ไม่ลด - ราคาขายน้ำมันลดลง รายได้ไม่ลดจริงเหรอครับ?
2) กำไรไม่ลด - ขาดทุน stock กำไรไม่ลดเหรอครับ?
3) หนี้ไม่มี - หนี้ 4.5 หมื่นล้าน จาก 7.5 หมื่นล้าน (ตาม set.or.th) นี่เรียกว่าไม่มีรึเปล่าครับ?
4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก - ไม่มีความเห็นครับ ความเสี่ยงตรงนี้ไม่ได้หมายถึงว่าความต้องการลดลงอย่างเดียวนะครับถ้าโดนคู่แข่งแย่งตลาดไปหรือมี supply ใหม่ใหม่เพิ่มขึ้นมากมากก็จะทำให้ความต้องการสินค้ากับทางบริษัทเราลดน้อยลงครับ เหมือนปิโตรช่วงนี้แหละครับ
5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง - Business Model แบบนี้จ่ายปันผลได้สูงจริงเหรอครับ?
6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด - ผมมองไม่เห็นจุดแข็งทางการตลาดของ ESSO... ผมว่าบางจากยังมีจุดแข็งทางการตลาดมากกว่าอีก (แบบนี้ซื้อ BCP-DR ดีกว่าไหมครับ อย่างน้อยก็รับประกันที่ 13 บาท)

ส่วนที่ถามว่าเป็นหุ้นคุณค่ารึเปล่า อันนี้อยู่ที่มุมมองคนซื้อครับ ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ

[Ryuga]

แทนที่จะซื้อลูก ซื้อแม่ (XOM) แทนมั้ยครับ  :lol:  เจ้าของบ่อน้ำมันนี่ดีหลายอย่าง บ่อน้ำมันต้นทุนถูกๆ เยอะ ตอนน้ำมันลงไปบาร์เรลละ 10 เหรียญต้นๆ กำไร Exxon ก็ลงไปนิดเดียวเอง ราคาหุ้นขึ้นสวนอีกเพราะตลาดหุ้นช่วงนั้นเขาบูมบวกกับรับข่าวที่ไปรวมกับ Mobil เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจอย่างงั้นอย่างงี้ ราคา XOM ลงมานิดเดียวเอง ไม่เหมือน PTT และครอบครัวแถวบ้านเรา ต้องไปซื้อของเขามาขายมากลั่นเป็นส่วนใหญ่ก็งี้แหละ  :8)

หมายเหตุ - แซวเล่นนะครับ อย่ายึดถือเป็นจริงเป็นจัง :lol:

[ศิษย์เซียน007]

esso เป็นหุ้นวัฏจักรครับ ชาวviส่วนใหญ่สนใจในการลงทุนในหุ้นแข็งแกร่งครับ หรือไม่ก็หุ้นโตเร็วที่มีโอกาสเป็นหุ้นแข็งแกร่งในอนาคต