ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 1
สมมุติ ว่ามีไฟท์บังคับ ให้นักลงทุนมีสิทธิ์ลงทุนในหุ้นได้เพียง 1 ตัว เท่านั้น ฉะนั้นเราก็จะต้องเลือกหุ้นที่เรามั่นใจที่สุด แล้วอย่างนี้จะเลือกลงทุนในบริษัทไหนดีหนอ
ถ้าเลือกหุ้นได้ 1 ตัว และต้องถือยาว 3-5 ปี
++ หุ้นในดวงใจนั้นคือ?
++ เหตุผลชี้นำ?
ถ้าเลือกหุ้นได้ 1 ตัว และต้องถือยาว 3-5 ปี
++ หุ้นในดวงใจนั้นคือ?
++ เหตุผลชี้นำ?
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 2
สำหรับผมนะครับ
TICON เหตุผลก็เพราะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือร้าย บริษัทที่อยู่ในภาวะการณ์นั้น ถ้าจะขยับขยายโรงงาน ก็ต้องเลือกที่จะเช่าหรือซื้อโรงงานอยู่ดี
ถ้าเศรษฐกิจดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน บริษัทก็ต้องซื้อโรงงาน หรือเช่าโรงงานเพิ่ม ซึ่ง TICON ก็มีโรงงานทั้ง 2 ลักษณะให้เลือก
ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็คงดำเนินงานด้วยการขอเช่าโรงงาน เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจไปก่อน และแน่นอนว่า ทาง TICON ก็มีโรงงานรอบรับการให้เช่า
ดังนั้นแล้วผมก็เชื่อว่า TICON เป็นบริษัทที่ทนได้ทุกในภาวะเศรษฐกิจ เป็นบริษัทที่ "งานเข้า" เสมอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คาดการณ์// ถึงแม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ จะทำให้ TICON ไม่สามารถทำยอดได้เช่นเดิม ทั้งในส่วนของการบริหาร และรวมทั้งการขาย โรงงาน - คลัง สินค้าให้กับ TFUND
(ผมมองว่า ของที่ TFUND รับไปจาก TICON เมื่อไตรมาส 4 ยังเอาไปบริหารปล่อยออกได้ไม่หมดมือเลย ดังนั้น TFUND ก็น่าจะส่งสัญญาน ให้ทาง TICON ชะลอการสร้างเพี่อขายเข้า -- ภายในปีนี้ -- แต่ยังคงน่าจะสร้างเอาไว้กึ่งหนึ่ง -- เพื่อทำให้ธุรกิจเกิดกิจกรรมขึ้น -- <แต่ไม่มียอดพอจะส่งเข้า TFUND ตามเกณฑ์> -- แล้วค่อยรวบรวมกับที่จะสร้างขึ้นในปี 53 -- จากนั้นจึงขายเข้า TFUND ในช่วงต้นปี 53)
แต่ในระยะยาวแล้ว ผมก็มองว่าบริษัท TICON ก็ยังคงเป็นบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ดีเยี่ยม
และถ้าใครบอกว่า TICON ไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร็ง ผมก็ค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว
TICON เหตุผลก็เพราะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือร้าย บริษัทที่อยู่ในภาวะการณ์นั้น ถ้าจะขยับขยายโรงงาน ก็ต้องเลือกที่จะเช่าหรือซื้อโรงงานอยู่ดี
ถ้าเศรษฐกิจดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน บริษัทก็ต้องซื้อโรงงาน หรือเช่าโรงงานเพิ่ม ซึ่ง TICON ก็มีโรงงานทั้ง 2 ลักษณะให้เลือก
ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็คงดำเนินงานด้วยการขอเช่าโรงงาน เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจไปก่อน และแน่นอนว่า ทาง TICON ก็มีโรงงานรอบรับการให้เช่า
ดังนั้นแล้วผมก็เชื่อว่า TICON เป็นบริษัทที่ทนได้ทุกในภาวะเศรษฐกิจ เป็นบริษัทที่ "งานเข้า" เสมอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คาดการณ์// ถึงแม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ จะทำให้ TICON ไม่สามารถทำยอดได้เช่นเดิม ทั้งในส่วนของการบริหาร และรวมทั้งการขาย โรงงาน - คลัง สินค้าให้กับ TFUND
(ผมมองว่า ของที่ TFUND รับไปจาก TICON เมื่อไตรมาส 4 ยังเอาไปบริหารปล่อยออกได้ไม่หมดมือเลย ดังนั้น TFUND ก็น่าจะส่งสัญญาน ให้ทาง TICON ชะลอการสร้างเพี่อขายเข้า -- ภายในปีนี้ -- แต่ยังคงน่าจะสร้างเอาไว้กึ่งหนึ่ง -- เพื่อทำให้ธุรกิจเกิดกิจกรรมขึ้น -- <แต่ไม่มียอดพอจะส่งเข้า TFUND ตามเกณฑ์> -- แล้วค่อยรวบรวมกับที่จะสร้างขึ้นในปี 53 -- จากนั้นจึงขายเข้า TFUND ในช่วงต้นปี 53)
แต่ในระยะยาวแล้ว ผมก็มองว่าบริษัท TICON ก็ยังคงเป็นบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ดีเยี่ยม
และถ้าใครบอกว่า TICON ไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร็ง ผมก็ค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 3
ศก ไม่ดีจะขยายโรงงาน ดูมันขัดกันพิกล
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 4
ไม่คิดว่าที่เขาเช่าอยู่แล้วจะเลิกเช่าเลิกกิจการเหรอครับ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี?
bid please!!
- jung_oh
- Verified User
- โพสต์: 734
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 6
มีตัวเลขอะไร Support หรือป่าวครับ ?Coca-Cola เขียน:สำหรับผมนะครับ
TICON เหตุผลก็เพราะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือร้าย บริษัทที่อยู่ในภาวะการณ์นั้น ถ้าจะขยับขยายโรงงาน ก็ต้องเลือกที่จะเช่าหรือซื้อโรงงานอยู่ดี
ถ้าเศรษฐกิจดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน บริษัทก็ต้องซื้อโรงงาน หรือเช่าโรงงานเพิ่ม ซึ่ง TICON ก็มีโรงงานทั้ง 2 ลักษณะให้เลือก
ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็คงดำเนินงานด้วยการขอเช่าโรงงาน เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจไปก่อน และแน่นอนว่า ทาง TICON ก็มีโรงงานรอบรับการให้เช่า
ดังนั้นแล้วผมก็เชื่อว่า TICON เป็นบริษัทที่ทนได้ทุกในภาวะเศรษฐกิจ เป็นบริษัทที่ "งานเข้า" เสมอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คาดการณ์// ถึงแม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ จะทำให้ TICON ไม่สามารถทำยอดได้เช่นเดิม ทั้งในส่วนของการบริหาร และรวมทั้งการขาย โรงงาน - คลัง สินค้าให้กับ TFUND
(ผมมองว่า ของที่ TFUND รับไปจาก TICON เมื่อไตรมาส 4 ยังเอาไปบริหารปล่อยออกได้ไม่หมดมือเลย ดังนั้น TFUND ก็น่าจะส่งสัญญาน ให้ทาง TICON ชะลอการสร้างเพี่อขายเข้า -- ภายในปีนี้ -- แต่ยังคงน่าจะสร้างเอาไว้กึ่งหนึ่ง -- เพื่อทำให้ธุรกิจเกิดกิจกรรมขึ้น -- <แต่ไม่มียอดพอจะส่งเข้า TFUND ตามเกณฑ์> -- แล้วค่อยรวบรวมกับที่จะสร้างขึ้นในปี 53 -- จากนั้นจึงขายเข้า TFUND ในช่วงต้นปี 53)
แต่ในระยะยาวแล้ว ผมก็มองว่าบริษัท TICON ก็ยังคงเป็นบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ดีเยี่ยม
และถ้าใครบอกว่า TICON ไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร็ง ผมก็ค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 7
ทำไมถึงเลือก TICON ไม่เลือก AMATA ละครับ ขอความเห็นหน่อย กำลังศึกษาอยู่Coca-Cola เขียน:สำหรับผมนะครับ
TICON เหตุผลก็เพราะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือร้าย บริษัทที่อยู่ในภาวะการณ์นั้น ถ้าจะขยับขยายโรงงาน ก็ต้องเลือกที่จะเช่าหรือซื้อโรงงานอยู่ดี
ถ้าเศรษฐกิจดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน บริษัทก็ต้องซื้อโรงงาน หรือเช่าโรงงานเพิ่ม ซึ่ง TICON ก็มีโรงงานทั้ง 2 ลักษณะให้เลือก
ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี -- บริษัทต่างๆ ต้องการขยายโรงงาน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็คงดำเนินงานด้วยการขอเช่าโรงงาน เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจไปก่อน และแน่นอนว่า ทาง TICON ก็มีโรงงานรอบรับการให้เช่า
ดังนั้นแล้วผมก็เชื่อว่า TICON เป็นบริษัทที่ทนได้ทุกในภาวะเศรษฐกิจ เป็นบริษัทที่ "งานเข้า" เสมอ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คาดการณ์// ถึงแม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ จะทำให้ TICON ไม่สามารถทำยอดได้เช่นเดิม ทั้งในส่วนของการบริหาร และรวมทั้งการขาย โรงงาน - คลัง สินค้าให้กับ TFUND
(ผมมองว่า ของที่ TFUND รับไปจาก TICON เมื่อไตรมาส 4 ยังเอาไปบริหารปล่อยออกได้ไม่หมดมือเลย ดังนั้น TFUND ก็น่าจะส่งสัญญาน ให้ทาง TICON ชะลอการสร้างเพี่อขายเข้า -- ภายในปีนี้ -- แต่ยังคงน่าจะสร้างเอาไว้กึ่งหนึ่ง -- เพื่อทำให้ธุรกิจเกิดกิจกรรมขึ้น -- <แต่ไม่มียอดพอจะส่งเข้า TFUND ตามเกณฑ์> -- แล้วค่อยรวบรวมกับที่จะสร้างขึ้นในปี 53 -- จากนั้นจึงขายเข้า TFUND ในช่วงต้นปี 53)
แต่ในระยะยาวแล้ว ผมก็มองว่าบริษัท TICON ก็ยังคงเป็นบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ดีเยี่ยม
และถ้าใครบอกว่า TICON ไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร็ง ผมก็ค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว
- apothecary
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 12
MINT ครับ
เพราะคนเรา ติดบริโภคนิยมครับ ตามสมัยนิยม
และเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ
เพราะคนเรา ติดบริโภคนิยมครับ ตามสมัยนิยม
และเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ครับ
นอนตื่นขึ้นมา เงินก็จะงอกเงย ZZzzzZZzz อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 361
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 13
ticon เพราะวันนี้ผมเพิ่งซื้อไป :lol: :lol:
ticon มี dca พอสมควรหากใครคิดจะเข้ามาแข่ง
ถ้าจะลดรายจ่ายก็ต้องปลดคนงานก่อน เลิกเช่าน่าจะเป็นระยะสุดท้ายก่อนเลิกกิจการ
แล้วตอนนี้เลิกกิจการกันยังไม่เยอะมาก
ส่งน Amata กับticon รู้สึกว่าโมเดลธุรกิจจะไม่เหมือนกันนะครับ ลองอ่านในร้อยคนดูหรือไม่ก็กระทิงเขียว
ปล.ความเห็นล้วนๆ
ขออีกตัว cpall
โมเดลธุรกิจดีมาก
แต่ยังไม่มีประดับปอดเลย
ticon มี dca พอสมควรหากใครคิดจะเข้ามาแข่ง
ผมว่าเศรษฐกิจตอนนี้คนยังไม่ถึงกับเลิกเช่าหรอกครับไม่คิดว่าที่เขาเช่าอยู่แล้วจะเลิกเช่าเลิกกิจการเหรอครับ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี?
ถ้าจะลดรายจ่ายก็ต้องปลดคนงานก่อน เลิกเช่าน่าจะเป็นระยะสุดท้ายก่อนเลิกกิจการ
แล้วตอนนี้เลิกกิจการกันยังไม่เยอะมาก
ส่งน Amata กับticon รู้สึกว่าโมเดลธุรกิจจะไม่เหมือนกันนะครับ ลองอ่านในร้อยคนดูหรือไม่ก็กระทิงเขียว
ปล.ความเห็นล้วนๆ
ขออีกตัว cpall
โมเดลธุรกิจดีมาก
แต่ยังไม่มีประดับปอดเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 17
ผมเลือก น้ำประปาไทย ครับ
1. ขายน้ำให้ การประปา แต่คนเดียว ซึ่งการประปา จะนำไปจ่ายในพื้นที่ที่ขาดน้ำแคลน แถวๆปริมณฑล ซึ่ง กฏกระทรวงได้กำหนดให้เลิกใช้น้ำบาดาลได้แล้ว เพราะแผ่นดินทรุด
2. เป็นสัญญาแบบ BOO กล่าวคือ ท่อส่งน้ำ โรงกรอง เป็นของ TTW แปลว่าเมื่อหมดสัญญาอีก 20 ปีมั้ง การประปา ก็ต้องมาขอต่อสัญญาซื้อน้ำอยู่ดี เพราะ ลองคิดดูว่าอีก 20 ปี ระบบท่อ ระบบกรอง จะต้องลงทุนสูงอีกมหาศาล การประปา ลงทุนไม่ไหวหรอกครับ
3. การประปา มีนโยบายเลิกผลิตน้ำเองแล้วครับ ตอนนี้พึ่งเอกชนอย่างเดียวครับ แบบว่าจ้างให้ผลิต แล้วการประปารับซื้อนะครับ
4. ราคาขายน้ำ adjust ตาม inflation ดังนั้นไม่ต้องกลัว
5. ปริมาณขายน้ำ มีปริมาณรับซื้อขั้นต่ำจาก การประปา ไม่ต้องกลัวปริมาณลด
สรุป
สมบูรณ์ทั้ง P x Q ขณะที่นโยบายภาครัฐมุ่งสนับสนุนการทำงานของบริษัท อีกทั้ง ในระยะยาวมี Barrier of Entry ที่แข็งแรงมาก........
1. ขายน้ำให้ การประปา แต่คนเดียว ซึ่งการประปา จะนำไปจ่ายในพื้นที่ที่ขาดน้ำแคลน แถวๆปริมณฑล ซึ่ง กฏกระทรวงได้กำหนดให้เลิกใช้น้ำบาดาลได้แล้ว เพราะแผ่นดินทรุด
2. เป็นสัญญาแบบ BOO กล่าวคือ ท่อส่งน้ำ โรงกรอง เป็นของ TTW แปลว่าเมื่อหมดสัญญาอีก 20 ปีมั้ง การประปา ก็ต้องมาขอต่อสัญญาซื้อน้ำอยู่ดี เพราะ ลองคิดดูว่าอีก 20 ปี ระบบท่อ ระบบกรอง จะต้องลงทุนสูงอีกมหาศาล การประปา ลงทุนไม่ไหวหรอกครับ
3. การประปา มีนโยบายเลิกผลิตน้ำเองแล้วครับ ตอนนี้พึ่งเอกชนอย่างเดียวครับ แบบว่าจ้างให้ผลิต แล้วการประปารับซื้อนะครับ
4. ราคาขายน้ำ adjust ตาม inflation ดังนั้นไม่ต้องกลัว
5. ปริมาณขายน้ำ มีปริมาณรับซื้อขั้นต่ำจาก การประปา ไม่ต้องกลัวปริมาณลด
สรุป
สมบูรณ์ทั้ง P x Q ขณะที่นโยบายภาครัฐมุ่งสนับสนุนการทำงานของบริษัท อีกทั้ง ในระยะยาวมี Barrier of Entry ที่แข็งแรงมาก........
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 18
[quote="jaroonpan"]ผมเลือก น้ำประปาไทย ครับ
1. ขายน้ำให้ การประปา แต่คนเดียว ซึ่งการประปา จะนำไปจ่ายในพื้นที่ที่ขาดน้ำแคลน แถวๆปริมณฑล ซึ่ง กฏกระทรวงได้กำหนดให้เลิกใช้น้ำบาดาลได้แล้ว เพราะแผ่นดินทรุด
2. เป็นสัญญาแบบ BOO กล่าวคือ ท่อส่งน้ำ โรงกรอง เป็นของ TTW แปลว่าเมื่อหมดสัญญาอีก 20 ปีมั้ง การประปา ก็ต้องมาขอต่อสัญญาซื้อน้ำอยู่ดี เพราะ ลองคิดดูว่าอีก 20 ปี ระบบท่อ ระบบกรอง จะต้องลงทุนสูงอีกมหาศาล การประปา ลงทุนไม่ไหวหรอกครับ
3. การประปา มีนโยบายเลิกผลิตน้ำเองแล้วครับ ตอนนี้พึ่งเอกชนอย่างเดียวครับ แบบว่าจ้างให้ผลิต แล้วการประปารับซื้อนะครับ
4. ราคาขายน้ำ adjust ตาม inflation ดังนั้นไม่ต้องกลัว
5. ปริมาณขายน้ำ มีปริมาณรับซื้อขั้นต่ำจาก การประปา ไม่ต้องกลัวปริมาณลด
สรุป
สมบูรณ์ทั้ง
1. ขายน้ำให้ การประปา แต่คนเดียว ซึ่งการประปา จะนำไปจ่ายในพื้นที่ที่ขาดน้ำแคลน แถวๆปริมณฑล ซึ่ง กฏกระทรวงได้กำหนดให้เลิกใช้น้ำบาดาลได้แล้ว เพราะแผ่นดินทรุด
2. เป็นสัญญาแบบ BOO กล่าวคือ ท่อส่งน้ำ โรงกรอง เป็นของ TTW แปลว่าเมื่อหมดสัญญาอีก 20 ปีมั้ง การประปา ก็ต้องมาขอต่อสัญญาซื้อน้ำอยู่ดี เพราะ ลองคิดดูว่าอีก 20 ปี ระบบท่อ ระบบกรอง จะต้องลงทุนสูงอีกมหาศาล การประปา ลงทุนไม่ไหวหรอกครับ
3. การประปา มีนโยบายเลิกผลิตน้ำเองแล้วครับ ตอนนี้พึ่งเอกชนอย่างเดียวครับ แบบว่าจ้างให้ผลิต แล้วการประปารับซื้อนะครับ
4. ราคาขายน้ำ adjust ตาม inflation ดังนั้นไม่ต้องกลัว
5. ปริมาณขายน้ำ มีปริมาณรับซื้อขั้นต่ำจาก การประปา ไม่ต้องกลัวปริมาณลด
สรุป
สมบูรณ์ทั้ง
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 21
ไม่มีใครเลือกกลุ่มขาวเลยเหรอคับ :8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 44
- ผู้ติดตาม: 0
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 24
LIVE = มีชีวิต (ไม่ตาย) อิอิ
แซวเล่นหนะ แค่เข้ามาป่วน :lol:
แซวเล่นหนะ แค่เข้ามาป่วน :lol:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้ามีสิทธิ์ลงทุนได้เพียง 1 บริษัท จะเลือก?
โพสต์ที่ 28
สำหรับผมการลงทุนในบริษัทเดียวถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเกินไปแม้ว่าจะมั่นใจมากเพียงใดก็ตามครับเพราะมีหลายปัจจัยที่อยู่เหนือการคาดการณ์ได้เช่นภัยจากธรรมชาติอัคคีภัยถึงแม้จะมีการประกันภัยก็เสียค่าโอกาสไปมากครับ ลองอ่านการบริหารพอร์ตฟอริโอ้ของบัฟเฟตต์จากหนังสือที่ดร.นิเวศน์แปลก็ดีครับ :)