เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
RichDAD
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบงานเขียน richdad series แต่ผมได้อ่านมา 3 เล่มแรก ผมรู้สึกว่า ผู้เขียน

บอกเพียงปรัชญาคร่าวๆ และกระตุ้นแรงบันดาลใจให้เท่านั้น

ไม่ได้อธิบายถึงวิธีการ การคำนวน เหตุการณ์จริงที่เป็นรูปธรรมให้ผู้อ่านเห็นกันชัดๆ เลย เนื้อหาเพียงวกไปวนมา ทั้งๆที่ จริงๆ แล้วสามารถสรุปเนื้อหา 5-6 เล่มให้จบภายในเล่มเดียว หรือ สองเล่ม

ผิดกับหนังสือ The Buffethology หรือ หนังสือของ ดร.นิวเศน์

ที่พอได้อ่านแล้วจะเห็นภาพ และเข้าใจการลงทุนอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากกว่าเยอะ

ผมขออนุญาตสงสัยกับการกระทำดังกล่าวว่า การที่คิโยซากิ เขียนหนังสือเนื้อหาคลุมเครือ และเยิ่นเย้อ วกไปวนมาเช่นนั้นมาจากสาเหตุ

1.ผู้เขียนต้องการขายหนังสือให้ได้เยอะๆ อีกหลายๆ เล่ม และเกมcash flow101 เท่านั้น (ข้อนี้สมมติฐานคือ คิโยซากิมีอิสรภาพทางการเงินจากการลงทุนจริง และมีความรู้จริง)

หรือ 2.ผู้เขียนอาจจะเป็นแค่เพียงคนที่เขียนหนังสือเก่ง

แต่ไม่ได้มีความรู้และอิสรภาพทางด้านการเงินแบบที่ได้กล่าวอ้างไว้

(ใครมีข้อมูลช่วยบอกด้วย) หรือ มีอิสระภาพทางการเงินได้เพราะ รายได้จากยอดขายหนังสือกันแน่

จุดประสงค์ของกระทู้นี้ เพื่อขอความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหนังสือของนักเขียนท่านนี้ มิได้ต้องการโจมตีหนังสือเล่มนี้ ถ้าเพื่อนๆที่ได้อ่านแล้วได้วามรู้จากหนังสือ series นี้อย่างเป็นรูปธรรม ก็เป็นสิ่งที่ดี และ ขอให้เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็น หรือช่วยชี้แนะข้าพเจ้าเรื่องนี้ด้วยครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เห็นด้วยครับ ว่าวกวน โดยเฉพาะเล่มที่เขียนเกี่ยวกับการลงทุน พยายามอ่านอย่างไร ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เหมือนคนที่ไม่แตกฉานการลงทุนจริงๆมาเขียน
ส่วนเรื่อง E B S I หรือเงินสี่ด้านนั้น ก็อ่านแล้วได้พื้นฐานความคิดที่ดี 1 เรื่อง และ 1 เรื่องนั้น ก็คุ้มแล้ว คือเรื่อง ความแตกต่าง ระหว่าง เจ้าของกิจการ กับการจ้างตัวเอง

ผมเองก็ซื้อเกือบทุกเล่ม และไม่คิดว่าเสียดายเงิน
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมเชื่อว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ".. หนังสือชุด Richdad ทำได้ดีครับในเรื่องจินตนาการ แม้จะไม่ละเอียดนักในเรื่องความรู้

ขอชมหนังสืออีกเล่ม "บุรุษผู้มั่งคั่งที่สุดในบาบิโลน" เล่มนี้สรุปใจความได้ดี
เนื้อหากระชับกว่า Richdad ครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป

-จีรนุช เปรมชัยพร
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

รายได้จากสินทรัพย์ ให้มากกว่าค่าใช้จ่ายเรา โดยเราไม่ต้องทำงาน

จินตนาการนั้นผมเห็นด้วยกับคุณนักดูดาวว่าสำคัญ แต่ความรู้นั้นผมว่าก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เช่น ผมจินตนาการว่าผมเป็น VI แล้วซื้อกิจการที่ดี ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า (ที่จินตนาการหรือ วิเคราะห์อย่างไม่มีความรู้) แล้วไปซื้อที่ราคาแพงมากกกกกก ผมว่าผมโอกาสประสบความสำเร็จน้อย

ผมว่าซื้อ RichDad แค่เล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังสือที่ดี แล้วไปหาหนังสือการลงทุนอย่าง Buffett ,Lynch ,Soros, Fisher etc.. แล้วลองนำมาประยุกต์และปฏิบัติจริง จะดีกว่า การมัวไปอ่าน "ของไม่จริง แค่ทำเหมือน" มากกว่าครับ
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

หามิได้ครับคุณ Guest ถ้าในความหมายนั้นคงจะไม่ประสบความสำเร็จเป็นแน่ ที่ยกประโยคนั้นขึ้นมาก็เพียงจะชมเชยประโยชน์ของชุด Richdad เท่านั้นเอง ว่าหากได้อ่านแล้วก็น่าจะบังเกิดจินตนาการที่จะใฝ่หาความรู้และลงมือทำ

แต่ถ้าไม่มีจินตนาการ ต่อให้เอาหนังสือ Buffett, Lynch, Soros, Fisher ครบชุดมาตั้งคงไม่มีใครอ่านจริงมั้ยครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป

-จีรนุช เปรมชัยพร
enokwan
Verified User
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ตั้งแต่อ่านมาชอบเล่มแรกมากที่สุดค่ะ
เป็นการเปิดมุมมองใหม่ ทำให้ตาสว่างขึ้น
แต่เล่มหลังๆรู้สึกว่า ความเข้มข้นจะลดน้อยลง
(เริ่มอ่านมั่งไม่อ่านมั่ง ผิดกับเล่มแรก ที่วางไม่ลง)
พายเรือในอ่างมากขึ้น แต่จะเน้นที่การจุดประกายความคิดมากกว่า
เหมือนเป็นหลักการคิดกว้างๆ แต่วิธีปฏิบัติ ต้องหาเอง
ดังนั้น ถ้าอ่านอย่างเดียวแล้วไม่มีการคิดต่อให้เป็นรูปธรรม
ก็คงจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรค่ะ
(แต่ขอสารภาพว่าตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ 555)

จำได้ว่าพี่ซีเคเคยบอกว่ารายได้หลักของผู้แต่งมาจากเกมส์+นส.
ซึ่งก็น่าจะจริงค่ะ เพราะทุกคนที่ได้อ่าน จะต้องอยากเล่นเกมกันทุกคน
เหมือนกับการโฆษณาเกมส์โดยผ่านทางนส.ไปด้วย...
งานนี้ได้ 2 เด้งค่ะ ..อิๆๆๆ
เถ้าแก่
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

คำถาม "อิสรภาพทางการเงิน"
คำเฉลย "ทำให้สินทรัพย์มีมากกว่าหนี้สิน"
จริงๆเขียนแค่2ประโยคนี้ก็พอ เขียนทำไมตั้งเล่ม

เหมือนอริยสัจสี่ มีแค่4ข้อแต่ทำไมเขียนกันไม่รู้จักหมดเป็นพันเป็นหมื่นเล่ม
เรียกว่าวกไปวนมาด้วยหรือเปล่า
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เรื่องธรรมมะ นั้น ไม่ใช่วกไปวนมา แต่เพราะรายละเีอียดของเนื้อหานั้นมากมายและลึกซึ้งจริงๆ และ พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้ตรัสรู้นั้น "รู้จริง" ในเรื่องธรรมมะ (เป็นความคิดเห็นจากการที่ได้ศึกษามาบ้าง)

ส่วน RichDad นั้นหลังจากทำใจเป็นกลางและศึกษาเนื้อหาแล้ว อย่างที่ผมบอก เป็นการจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจมากกว่า ดังนั้นผมจึงยกให้ เล่มที่หนึ่ง เป็นหนังสือที่ดีที่สุด ส่วนเล่มอื่นไม่คุ้มค่าที่จะอ่าน (สำหรับผม แต่สำหรับท่านอื่นที่ "จินตนาการ และประยุกต์" ได้จากเนื้อหาเล่มอื่นๆนั้น ผมขอสนับสนุนให้อ่าน)

ที่ผมโพสต์ขึ้นมานี้ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวว่า การเขียนหนังสือเนื้อหาวกวนเช่นนั้น เป็นการไม่เคารพคนอ่านซึ่งเคย "เคารพและศรัทธา" ในตัวคุณ คิโยซากิ เหมือนกับว่า ยิ่งเวลาผ่านไป จุดประสงค์ที่ซ่อนเร้น คือ การขายหนังสือ+เกมส์กระแสเงินสด ยิ่งเด่นชัดออกมา โดยที่ผู้เขียนไม่ได้มีความรู้แตกฉาน หรือมีประสบการณ์การลงทุน และ อิสรภาพทางการเงินจาก "การลงทุน" จริงๆ ไม่ใช่อิสรภาพจกาการ "ขายหนังสือ"

แต่ยังไงก็ตาม อย่างที่เค้าเคยบอกเค้าเป็นนักเขียน "Best Seller" ไม่ใช่ "Best Book" หนังสือเค้าขายได้ ไม่ว่าจะเพราะเค้าโดนใจคนอ่านมากกว่า เนื้อหาการลงทุนที่ ยอดเยี่ยมจริงๆ

นี่อาจเป็นเพียงผู้ที่ผิดหวังกับหนังสือชุดนี้ เพราะ "คาดหวัง" ไว้สูงมาก

...... ก็เ่ท่านั้น :cry:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

คนส่วนใหญ่ซื้อ และหนังสือก็ขายดี ก็น่าจะเป็นตัววัด ว่า คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ เพียงแต่ ผู้อ่านบางท่าน อาจจะมีฝีมือสูงเกินไป ก็เลยไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่มนี้ไม่มีประโยชน์

เหมือนอย่างหลวงปู่ท่านหนึ่ง ชอบปลุกเสกพระ แล้วมีชาวบ้านไปถามว่า อย่างนี้น่าจะไม่ดี เป็นการมอมเมา หลวงปู่ตอบว่า ท่านช่วยให้คนติดในวัตถุมงคล ดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล ไม่ดีหรือ

อย่างน้อยที่สุด ถ้ามองในด้านดี ผมก็หวังว่า มีคนจำนวนมากอ่านแล้ว รู้สึกดี ( ผมเดาเอา )
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมว่าคนเขียนต้องการผู้ถึงเกมที่เค้าทำขึ้นครับ แต่หลังๆหนังสือขายดีกว่าเกม เล่มหลังๆจึงค่อนข้างอธิบายได้ชัดเจนขึ้น

ผมคิดว่าเค้าต้องการผู้ถึงหลักการมากกว่าจะชี้แนวทาง เพราะเค้าก็บอกเสมอว่าแต่ละประเทศนั้นมีกฎเกณฑ์แตกต่างกันไป เค้าก็จะพูดถึงว่าอเมริกามีกฎหมายอะไรที่ทำให้สามารถทำเงินได้ง่าย ก็ทำธุรกิจ ลงทุน กับสิ่งที่กฎหมายเอื้อ แต่เราก็ต้องรู้มากพอที่จะไม่พลาดด้วย

ผมว่าคนที่อ่านแล้วงง ไม่เข้าใจ น่าจะอ่านหลายๆรอบ แล้วคิดตามด้วย จะทำให้เข้าใจครับ ผมอ่านหลายรอบแล้ว ในหนังสือเกี่ยวกับการทำให้รวย และเกี่ยวกับการลงทุนครับ ที่สำคัญเปิดใจกว้างครับ อยู่ในกะลาไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นครับ
Expecto Patronum!!!!!!
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมว่าเค้าเขียนบอกปรัชญาการลงทุนและอิสรภาพทางการเงินครับ

โดยที่เค้าไม่เน้นเรื่องการลงทุนในแต่ละประเภทมากนัก ผู้อ่านจึงควรพิจารณาตัวเองว่าสนใจในการลงทุนประเภทไหน และต้องอ่านหลักการลงทุนจากเล่มอื่นเพิ่มครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
noone
Verified User
โพสต์: 26
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เล่มที่น่าอ่าน

1.เล่มแรก --- ได้ concept realesatte
2.เกษียณรวย + เร็ว --- ได้ review concept realestate + business
3.Why too money --- ได้เรื่อง paper asset ครับ

ตอนนี้กำลังอ่านเล่มสามอยู่ครับพึ่งซื้อมาสดๆ
@^.^@
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมว่าน่าอ่านทุกเล่มนะ จริงๆแล้วเล่มหนึ่งคือภาพรวมทั้งหมด แล้วเล่มต่อมา คือการเอาแต่ละหัวข้อมาแยกแยะให้ละเอียดครับ ถ้าเป็นเล่มที่แปลเป็นไทยแล้ว ผมอ่านทุกเล่มแล้วครับ
Expecto Patronum!!!!!!
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เป็นหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดเฉยๆแหล่ะครับ ถ้าหวังเรื่องปฏิบัติคงไม่มี แต่ผมว่าก็ได้อะไรเยอะนะครับ โดยเฉพาะเงินสี่ด้าน ชอบมากครับ ถ้าผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ววันนึงอยากทำธุรกิจผมคงต้องตกไปอยู่ในช่องธุรกิจส่วนตัวแน่เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมว่าที่เค้าเขียนแล้ววกวนนั้น
ส่วนหนึ่งมาจากที่ว่าเค้าเขียนหนังสือไม่เก่งครับ
ถ้าลองได้อ่านในบางเล่มจะมีพูดถึงนักเขียนสัมภาษณ์ robert
ว่าทำอย่างไรถึงเขียนหนังแล้วขายดี .. เค้าเลยแนะนำให้นักเขียนคนนี้ไปเรียนเรื่องการขาย
โดยเค้าบอกให้ดูที่หนังสือของเค้า ... หนังสือเค้าเป็น best seller ไม่ใช่ best writter
เลยเข้าว่าที่เค้าเขียนกว้างๆเพราะต้องการจับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างออกไป
มากกว่าที่จะมาเขียนลงในรายเอียด แล้วขายได้เพียงคนกลุ่มเดียว
เพราะฉะนั้นแทนที่หนังสือของเค้าจะลงในรายละเอียด และวิธีการ
เค้าก็เขียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนหวังที่จะปลูกฝังแนวคิดมากกว่า
ส่วนที่ลงรายละเอียดก็ทำแยกออกเป็นเล่มๆไป ที่เมืองนอกเค้ามีออกมาเยอะมากเกือบ 10 เล่มแล้ว มีทั้งตั้งบริษัท อสังหา เรื่องภาษี เรื่องหุ้น เรื่องทรัพย์สินทร์ทางปัญญา ใครสนใจเล่มไหนก็ไปเลือกซื้อกันตามคนสน ....
ส่วน concept ของ rich dad คือเขียนให้คนจำนวนมากอ่าน
ถ้าลองไปสังเกตูดูหนังสือที่ขายดีระดับโลกหลายเล่ม
จะเห็นว่าลักษณะการเขียนวกวนทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
และก็ series ของเดลคาเนกี้ ...

และสุดท้าย .คือ การลงทุนไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าต้องทำอย่างไร ทำอะไรจึงดี
มันขึ้นอยู่กับความถนัดของบุคคลด้วย ... บางคนเก่งวิเคราะห์แต่ไม่เก่งบริษัทก็ไปเล่นหุ้น
อีกคนเก่งบริหารขึ้นมาหน่อยก็อาจจะไปทางอสังหา
ส่วนใครที่ชอบเรื่องบริหารมากๆ ก็ไปเปิดบริษัท ... หนังสือไม่ได้มีคำตอบเหล่านี้ให้ ผู้อ่านต้องไปหาทางที่เหมาะสมด้วยตัวเอง ...
นี่แหละครับจุดที่ทำให้ผมชอบ rich dad อ่านแล้วได้คิด ..
ไม่ได้เหมือนกับหนังสือ how to ทั่วไปที่อ่านแล้วลักจำ เอาไปทำตามได้เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 16

โพสต์

noone เขียน:เล่มที่น่าอ่าน

1.เล่มแรก --- ได้ concept realesatte
2.เกษียณรวย + เร็ว --- ได้ review concept realestate + business
3.Why too money --- ได้เรื่อง paper asset ครับ

ตอนนี้กำลังอ่านเล่มสามอยู่ครับพึ่งซื้อมาสดๆ
ขอต่อครับ
เกษียณรวย เร็ว ได้เรื่อง leverage
who took my money ผมได้เรื่องผลประโยชน์ทางภาษี และ synergy
success story ผมได้เรื่องอสังหา
Pornthep
Verified User
โพสต์: 35
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ส่วนตัวแล้ว ผมว่าเป็นหนังสือซีรีส์ที่ดีนะครับ เป็นการเปิดโลกทัศน์ของผมอย่างฉับพลัน กระตุ้นความต้องการที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน ทำให้หลายๆคนที่พอใจกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนมากๆเพียงอย่างเดียว เริ่มตั้งคำถามในสิ่งที่กำลังทำอยู่และมองหาโอกาสอื่นๆที่มีอยู่มากมายแต่เราไม่เคยสนใจมาก่อน

ผมจึงเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่าย ศึกษาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตราสารประเภทต่างๆ ในรายละเอียด ถึงแม้เพิ่งเริ่มต้นและเส้นชัยยังอีกไกลแต่ก็รู้สึกดีที่ได้เริ่ม

และเริ่มพอมองเห็นลางๆว่าควรจะทำยังไงและอีกนานเท่าไรจึงจะได้อิสระ

ที่สำคัญ คือ ถ้าเราได้ concept แล้วผมว่ามัน apply กับการลงทุนแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง attitude, good debt vs bad debt, leverage
+++unlog
ผู้ติดตาม: 0

เพื่อนๆช่วยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับ RichDad Series ด้วย

โพสต์ที่ 18

โพสต์

:D :D

อิอิ ... โดยรวมถือว่าดีครับ
แต่น้ำเยอะไปหน่อย
อ่านแล้วต้องขีดเส้นใต้ไว้
มาย้อนอ่านแค่ที่ขีดไว้ก็พอ



แต่เรื่องพายเรือแล้ว
พบว่า Buffettology series ของ Marry Buffett
นั้น พายเก่งกว่าเยอะครับ อิอิ
ล็อคหัวข้อ