ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ในสายตาของแต่ละคน ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้างครับ
The way out is in
Alaforie
Verified User
โพสต์: 45
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 2

โพสต์

กำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
osama
Verified User
โพสต์: 59
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 3

โพสต์

1. เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี
2. กำไร และ เงิดสดเพิ่มขึ้นทุกปี
3. หนี้สินลดลงทุกปี
4. เป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรม และทิ้งห่างจากที่ 2 เป็นอย่างมาก
5. ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาได้ลำบากมากๆ
6. เป็นสินค้าจำเป็นสิ้นเปลืองที่ต้องซื้ออยู่บ่อยๆ
zoftdev2
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เจ้าของลิทสิทธิเฉพาะ หรือ เทคโนโลยีปิด หรือสัปทานผูกขาด
เจ้าของ trademark ที่มี loyalty สูง
ภาพประจำตัวสมาชิก
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Celling 3 วันติด  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
satantuey
Verified User
โพสต์: 743
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เล็กๆ  ไม่

ใหญ่ๆ ทำ :lol:  :lol:  :lol:


ประโยคโฆษณาคุ้นๆหู   :lol:  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ( ไม่ใช่ธุรกิจที่ยอดเ้ยี่ยมในแง่การลงทุน)
สำหรับผม ต้องเป็นธุรกิจที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง
และสินค้าและบริการนั้นไม่ืส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
เช่น อาจจะย่อยง่าย หรือ สินค้าทำมาจากวัสดุจากธรรมชาติ
โดยขายให้กับผู้บริโภคในราคาที่ยุติธรรม

และที่สำคัญที่สุด  "ต้องเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อสังคม
และผู้มีส่วนกี่ยวข้องในระยะยาว"
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2203
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ของผม หมายถึง
ธุรกิจที่เรียบง่าย ขายของที่ทุกคนใช้
สินค้าคุณภาพดี มี brand royalty
มีกำไรสม่ำเสมอทุกปี ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล (แต่ข้อนี้ดูยากครับ)
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมหมายถึง great company อ่ะครับ

สำหรับผมแล้ว ต้องเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นได้ทุกๆปี

ไม่จำเป็นต้องมี market cap มากที่สุด แต่จะต้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และเพิ่มมากกว่าคู่แข่ง อย่างนี้เป็นได้มั้ยครับ

พี่ๆเพื่อนๆคนไหนเห็นว่าไงกันบ้างครับ
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 10

โพสต์

gorilla เขียน:ผมหมายถึง great company อ่ะครับ

สำหรับผมแล้ว ต้องเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นได้ทุกๆปี

ไม่จำเป็นต้องมี market cap มากที่สุด แต่จะต้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และเพิ่มมากกว่าคู่แข่ง อย่างนี้เป็นได้มั้ยครับ

พี่ๆเพื่อนๆคนไหนเห็นว่าไงกันบ้างครับ
ถ้าเช่นนั้นผมเห็นด้วยกับคุณ gorilla ครับ
:D

แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหม
ผมว่าเป็นไปได้ครับ แต่อาจจะไม่ตลอดไป

เว้นแต่ว่าธุรกิจนั้นจะเป็นธุรกิจแบบ Holding Company
ซึ่งมีการลงทุนในบริษัทและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย

เพราะการลงทุนในอุตสาหกรรมเดียวอย่างบริษัททั่วไป
โอกาสที่จะโตไปเรื่อยๆคงจะยากครับ
และทุกอุตสาหกรรมก็มีวัฎจักรของมัน
ซึ่งไม่มีทางที่วัำฎจักรจะเป็นขาขึ้นตลอด

ถึงจุดจุดหนึ่งแต่ละอุตสาหกรรมก็จะเกิดการอิ่มตัีว
ถ้าโชคดียอดขายและกำไรก็จะคงทไปอีกหลายปีหลังจากอิ่มตัว
แต่ถ้าโชคร้ายกำไรก็จะลดลงอย่างชัดเจนเลยครับ

แต่ถ้าลงทุนในหลายอุตสาหกรรม
พออุตสาหกรรมนี้ไม่ดีก็เปลี่ยนไปอุตสาหกรรมอื่น
อาจจะพอทำให้บริษัท Holding Company เติบโตไปได้เรื่อยๆ
โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัฎจักรของธุรกิจหรืออุตสาหกรรม
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คุณ kornjackrit พูดมาก็ถูกน่ะครับ แต่ผมคิดว่ามันคงน่าจะเป็นว่า

พอโตแบบก้าวหน้าถึงจุดนึง ก็จะเป็นโตแบบคงที่แบบน้อยๆตาม GDP หรือเปล่าครับ

เพราะถ้ามันไม่โตเลย ทำกำไรได้เท่าเดิมตลอด วันนึงมันก็จะโดนคู่แข่งแซง

มันจะไม่มีอุตสาหกรรมไหนเลยเหรอครับ ที่ไม่เป็นวัฏจักร

และผมว่า มันจะเป็นไปได้เหรอครับ ที่จะสามารถเปลี่ยนไปลงทุนได้ถูกอุตสาหกรรมได้ทุกครั้งอ่ะครับ
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมไม่ค่อยชอบบริษัท Holding Company ที่ลงทุนหลายอุตสาหกรรมเลยครับ เวลางบออกที่ หมายเหตุประกอบงบยาวชะมัด :vm:

อุตสาหกรรมนึงขึ้น อีกอุตสาหกรรมนึงลง บริษัทก็แค่เสมอตัวหรือเติบโตแบบช้าๆ เพราะมีอีกตัวคอยถ่วงไว้

สู้ผมซื้อหลายๆบริษัทที่เรียบง่ายดีกว่า อ่านงบเพลินเกินห้ามใจ :lol:

คิดว่าอุตสาหกรรมไหนไม่ work ก็ขายหุ้นไป อันไหน work ก็ซื้อหุ้นมา
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
chatchaivi
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ต้อง มีรายได้จากการขายเป็นเงินสด  รายได้เงินสด สด ไหลเข้าบริษัท 24 ช.ม. สินค้าที่นำมาขายขอเครดิตเจ้าหนี้การค้ามา ขายไม่ดีเอาสินค้าออกจากร้านไป  ที่สุดยอดคือ สินค้ายังไม่ได้ขายแต่มีเงินสดไหลเข้ามาโดยรับเป็นสมาชิกแบบบัตรเงินสด สุดยอดจริงๆ  หวังว่าบริษัทจะบริหารเงินสดได้ดีนะครับ
อีกนิดคือ ผู้บริหารขอให้มีธรรมาภิบาล ยิ่งมีมากยิ่งดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="chatchaivi"]ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ต้อง มีรายได้จากการขายเป็นเงินสด
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 1

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ธรุกิจที่โตมากๆ เช่น 15% ทุกปีไม่กลัวว่ามันจะใหญ่คับโลกไปหรือครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 16

โพสต์

gorilla เขียน:พอโตแบบก้าวหน้าถึงจุดนึง ก็จะเป็นโตแบบคงที่แบบน้อยๆตาม GDP หรือเปล่าครับ

เพราะถ้ามันไม่โตเลย ทำกำไรได้เท่าเดิมตลอด วันนึงมันก็จะโดนคู่แข่งแซง

มันจะไม่มีอุตสาหกรรมไหนเลยเหรอครับ ที่ไม่เป็นวัฏจักร

และผมว่า มันจะเป็นไปได้เหรอครับ ที่จะสามารถเปลี่ยนไปลงทุนได้ถูกอุตสาหกรรมได้ทุกครั้งอ่ะครับ
ผมคิดว่า ถ้าคิดแค่โตตาม GDP ก็น่าจะเป็นแค่เสมอตัวหรือเปล่าครับ
( คล้ายๆบอกว่าโตตามเงินเฟ้อ ) ดังนั้นผมจึงคิดว่าไม่น่าจะเรียกว่าเป็นการเติบโตของธุรกิจจริงๆ
แตุ่่ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นอย่างที่คุณ gorilla ว่ามาก็ได้ครับ
เพราะนิยามของการเติบโตของธุรกิจ ของผมอาจจะไม่เหมือนกัน
ของคุณ gorilla
ถ้าไม่โตเลย ทำกำไีรได้เท่าเดิมตลอด
วันนึงมันจะถูกคู่แข่งแซงไหม
ผมเห็นด้วยครับ ดังนั้น ถ้าจะชนะคู่แข่งได้ตลอดไป
ก็แสดงว่าต้องโตมากกว่าคู่แข่่งตลอดเวลา ซึ่งมันก็ยากอยู่นะครับ
และผมก็คิดว่ามีบริษัทน้อยแห่งมากๆที่จะทำได้เช่นนี้ตลอดไป
( โดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจประเภทเดียวหรืออยู่ใ )
มันจะไม่มีอุตสาหกรรมไหนเลยเหรอครับ ที่ไม่เป็นวัฏจักร
ผมว่าไม่มีครับ ทุกอุตสาหกรรมมีวัฎจักรหมด เพียงแต่ระยะเวลา
ของวัฎจักรแต่ละอุตสาหกรรมอาจจะยาวสั้นไม่เท่ากัน
เช่น อุตสาหกรรมไอที วัฎจักรอาจจะสั้น แต่ อุตสาหกรรมสาธารณูปโภคอาจจะมีวัฎจักรที่ยาวนาน
และผมว่า มันจะเป็นไปได้เหรอครับ ที่จะสามารถเปลี่ยนไปลงทุนได้ถูกอุตสาหกรรมได้ทุกครั้งอ่ะครับ
ตามทฤษฎีอาจจะเป็นไปได้ แต่เรื่องจริงคงยากมากครับ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้บริษัทเติบโตได้เรื่อยๆ
มากกว่าเงินเฟ้อ, GDP และทำให้มีช่องว่างในการเติบโตมากขึ้น
เพราะไม่ถูกจำกัดด้วยขนาดของอุตสาหกรรม

ยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ บริษัท Berkshire Hathaway ของท่านบัฟเฟ็ต
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 17

โพสต์

sorawut เขียน:ผมไม่ค่อยชอบบริษัท Holding Company ที่ลงทุนหลายอุตสาหกรรมเลยครับ เวลางบออกที่ หมายเหตุประกอบงบยาวชะมัด

อุตสาหกรรมนึงขึ้น อีกอุตสาหกรรมนึงลง บริษัทก็แค่เสมอตัวหรือเติบโตแบบช้าๆ เพราะมีอีกตัวคอยถ่วงไว้

สู้ผมซื้อหลายๆบริษัทที่เรียบง่ายดีกว่า อ่านงบเพลินเกินห้ามใจ
เรื่องอ่านงบยากผมเห็นด้วยกับพี่ sorawut ครับ
แต่เรื่อง Model ธุรกิจของ Holding Company
ผมคิดว่าอาจจะไม่จำเป็นจะต้องอุตสาหกรรมหนึ่งขึ้น
อุตสาหกรรมหนึ่งลงแล้วเสมอตัว
Holding Company อาจจะถือหุ้นในอุตสาหกรรมหลายอุตสาหกรรม
ที่ไม่ได้ขึ้นลงในทางตรงข้ามกัน แต่ขึ้นลงในทางเดียวกัน


ประเด็นสำคัญของ Holding Company
อยู่ที่การไม่มีข้อจำกัดในแง่ของขนาดของตลาด
และความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะสามารถทำให้บริษัทโตได้เรื่อยๆ
โดยไม่ต้องพึ่งพิงอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง


แน่นอนครับว่า Holding company อาจจะไม่สามารถเลือกอุตสาหกรรม
ที่จะลงทุนได้ถูกต้องตลอดเวลา แต่ถ้าพูดในแง่ของข้อจำักัด ในเรื่องการเติบโตแล้ว ผมคิดว่า Holding company มีข้อจำกัดน้อยมาก เมื่อเทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 18

โพสต์

บริษัทที่ยิ่งใหญ่ ที่แท้จริง ต้องได้เปรียบการค้าทุกประตู
ทั้งประตูซื้อ และ ประตูขาย

ซื้อเชื่อ.... ขายสด ....ยังไม่พอ

ซื้อเชื่อ...และ... กำหนดราคาซื้อ..และ... กำหนดระยะเวลาจ่าย

ขายกระดาษ หรือ บัตรพลาสติก(รับงินก่อน)แล้ว..
ส่งของหรือเคลมที่หลัง...และ...กำหนดราคาขาย...และ..
กำหนดระยะเวลาให้จ่าย :lol:

ได้เปรียบทางการเงินเห็นๆ

นี่...ถ้าบริษัทใด ถึงขั้นนี้...ไร้เทียมทาน :lol:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 19

โพสต์

kornjackrit เขียน:แต่เรื่อง Model ธุรกิจของ Holding Company
ผมคิดว่าอาจจะไม่จำเป็นจะต้องอุตสาหกรรมหนึ่งขึ้น
อุตสาหกรรมหนึ่งลงแล้วเสมอตัว
Holding Company อาจจะถือหุ้นในอุตสาหกรรมหลายอุตสาหกรรม
ที่ไม่ได้ขึ้นลงในทางตรงข้ามกัน แต่ขึ้นลงในทางเดียวกัน
เห็นด้วยครับ ไม่จำเป็น แต่มักจะเป็น(มั๊ง :roll:)
ถ้าเค้าใช้หลักกระจายความเสี่ยง

ผมจะสน Holding Company ก็ต่อเมื่อแต่ละบริษัทในเครือสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นการประหยัดทรัพยากร และใช้ทรัพยากรที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ใช่ทำอะไรไม่เกี่ยวกันเลย ไม่รู้จะรวมกันไปทำไม :wink:

ให้ความรู้สึกเป็นกองทุนรวมมากกว่า :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 20

โพสต์

holding company เนี่ย ก็มีความเสี่ยงพอสมควรนะครับ

อย่างเช่น เรื่องผู้บริหารของแต่ละบริษัทที่เข้าไปรวมลงทุนด้วย

อีกอันนึงก็คือ ความเสี่ยงของการที่ ผู้บริหารของholding company กับ ผู้บริหารของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน มีข้อตกลงกันลับๆอ่ะครับ

แต่ผมเห็นด้วยกับคุณ kornjackrit นะครับ เกี่ยวกับ holding company ที่ไม่มีข้อจำกัดในแง่ของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค โดยการเปลี่ยนอุตสาหกรรม


ปล. ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ คุณ kornjackrit สนุกครับ  :o
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 21

โพสต์

อย่างนี้แปลว่า คุณสมบัติอันนึงที่ holding company ต้องมีก็คือ

ต้องมีความเข้าใจอย่างดีในทุกๆ อุตสาหกรรมใช่มั้ยครับ

ถ้าเป็นอย่างนั้นยากเหมือนกันนะครับ
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 22

โพสต์

อย่างนี้แปลว่า คุณสมบัติอันนึงที่ holding company ต้องมีก็คือ

ต้องมีความเข้าใจอย่างดีในทุกๆ อุตสาหกรรมใช่มั้ยครับ

ถ้าเป็นอย่างนั้นยากเหมือนกันนะครับ
ผมเห็นด้วยครับ เท่าที่เคยเห็นมาก็มีแต่ของท่านบัฟเฟ็ต
ที่พอจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องครับ

Holding Companyอื่นๆที่ผมเคยเห็นมักจะไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เ็ป็นเพื่อกระจายความเสี่ยง อย่างที่พี่ sorawut ยกมาครับ หรืออาจจะทำเป็นในลักษณะครบวงจร
เช่น ธุรกิจรถยนตร์ ก้ทำตั้งแต่เหล็ก หรือ วัสดุที่ใช้ในการผลิตรถยนตร์ ไปจนกระทั่งดีลเลอร์ขายรถยนตร์
holding company เนี่ย ก็มีความเสี่ยงพอสมควรนะครับ

อย่างเช่น เรื่องผู้บริหารของแต่ละบริษัทที่เข้าไปรวมลงทุนด้วย

อีกอันนึงก็คือ ความเสี่ยงของการที่ ผู้บริหารของholding company กับ ผู้บริหารของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุน มีข้อตกลงกันลับๆอ่ะครับ
ถูกต้องที่สุดครับ ยิ่งมีธุรกิจในเครือเยอะ ยิ่งดูแลยากครับ
ปล. ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ คุณ kornjackrit สนุกครับ
:D เช่นกันครับ
ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบเป็นเหตุเป็นผลเช่นนี้
ผมยินดีมากๆครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
AuI_a VI
Verified User
โพสต์: 413
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 23

โพสต์

[quote="zesar"]Celling 3 วันติด
Even Sir Isaac Newton loss in stock market

"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."

ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่  นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 24

โพสต์

:D  :D  ดีใจมากครับ เจอเด็กเซนต์ด้วยกัน

พี่ AuI_a VI จบปีอะไรอ่ะครับ

ผมจบปี 2547 รุ่น 84 ครับ

พี่ได้กลับไปโรงเรียนบ้างมั้ยครับพี่
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 25

โพสต์

AuI_a VI เขียน:ปล. น้องกร เปลี่ยนรูปใหม่ เท่และเป็นปรัชญามากคับ
ขอบคุณครับ ( ที่เอารูปนี้เพราะหารูปอื่นไม่ได้แล้วคับ :oops: ตอนแรกจะเอารูปดราก้อนบอล แต่มันขนาดใหญ่เกินครับ 55+ )

ปล.ขออนุญาติเจ้าของกระทู้นอกเรื่องนิดนึงนะครับ :oops:

จิบเบียร์ครั้งนี้พี่อุ้ยได้ไปหรือเปล่าครับ

ผมไม่ได้ไปเสียดายมากๆ ติดสอบพอดีคับ

 :cry:  :cry:  

ปล2.อยากเจอพี่ๆอีก คราวหน้าถ้าพี่ไปผมคงไม่น่าพลาด
:8)
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ลืม เห็นด้วยกับพี่ AuI_a VI มากๆครับ

ถ้าผู้บริหารไม่ดี กำไรมาเท่าไรก็เสร็จผู้บริหารไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะมาถึงเรา

ยิ่งถ้าผู้บริหารเข้ามาถือหุ้นเยอะๆด้วยแล้วเนี่ย กิเลสมันยิ่งเยอะครับ
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
pom.chanin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 27

โพสต์

kornjackrit เขียน:
ขอบคุณครับ ( ที่เอารูปนี้เพราะหารูปอื่นไม่ได้แล้วคับ :oops: ตอนแรกจะเอารูปดราก้อนบอล แต่มันขนาดใหญ่เกินครับ 55+ )

ปล.ขออนุญาติเจ้าของกระทู้นอกเรื่องนิดนึงนะครับ :oops:

จิบเบียร์ครั้งนี้พี่อุ้ยได้ไปหรือเปล่าครับ

ผมไม่ได้ไปเสียดายมากๆ ติดสอบพอดีคับ
The way out is in
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 28

โพสต์

พี่ AuI_a VI เขียน: ปล.2 ยังนึกความเห็นไม่ออกเหมือนกันครับว่าจะตอบกระทุ้นี้ยังงัย โดนแย่งตอบที่คิดไว้หมดแล้ว  555
ขอแซวพี่อุ้ยบ้างดีกว่า

พี่อุ้ยไม่รู้จะตอบอะไร หรือกลัวว่าตอบแล้วเด็กๆอย่างผมจะทึ่ง อึ้ง เสียว ครับ
ประมานว่าคิดไม่ถึง
:lol:  :lol:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 29

โพสต์

kornjackrit เขียน:ขอแซวพี่อุ้ยบ้างดีกว่า

พี่อุ้ยไม่รู้จะตอบอะไร หรือกลัวว่าตอบแล้วเด็กๆอย่างผมจะทึ่ง อึ้ง เสียว ครับ
ประมานว่าคิดไม่ถึง
:lol:  :lol:
นั่นคงไม่ใช่แค่คำตอบของหมออุ้ยแล้วมั๊งครับ :rofl:  :rofl:  :rofl:

เข้าข่าย RATE 7 ตามมาตราฐานใหม่หรือเปล่าเนี้ย :roll:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
AuI_a VI
Verified User
โพสต์: 413
ผู้ติดตาม: 0

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่!

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ตอบน้อง gorilla พี่เข้ามหาลัยปี43อ่ะนะ แต่จบเซนต์แค่ม.3แล้วออก จำได้แค่เนี๊ย ไล่รุ่นให้หน่อยจิ  ส่วนเรื่องกลับรร.พี่กลับแค่ปีแรกๆ หลังจากนั้นก้อห่างๆไป แต่ตอนนี้กลายเป็นว่ารุ่นน้องที่จุฬาไปเป็นมาสเตอร์ที่นั่น  แถมหลายเดือนก่อนตรวจๆอยู่เจอคนไข้หน้าคุ้นๆ อ้าว มาสเตอร์โกศล นี่นา คุยกันเพลินเลย


น้องกร จะว่ามีก้อมีนะ เรื่องที่พี่คิดๆอยู่นี้ฟังแล้วน้องกรต้องอึ้งทึ่ง แน่ๆ ถ้าน้องกรยังถือหุ้นตัวนั้นอยู่ 555 :8)

เฮียsorawut ครับ เรื่องที่ผมจะแซวน้องกร ก้อแนวๆเดียวกะเรื่องที่ผมแซวเฮียช่วงนี้บ่อยๆน่ะแหละคับ  :rofl:  :rofl:  

เพื่อป้องกันการถูกย้ายเข้าห้องนั่งเล่น  :rofl:  ขอตอบเพิ่มว่า แม้เป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แล้วก็ใช่ว่าราคาหุ้นจะเหมาะกับการลงทุนเสสมอไป เพราะโดยมากราคาหุ้นมักยิ่งใหญ่ตามไปด้วย เคล็ดลับจึงควรเพิ่มว่าเป็นการหาธุรกิจที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่ามันยิ่งใหญ่ครับ
Even Sir Isaac Newton loss in stock market

"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."

ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่  นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
โพสต์โพสต์