คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
sombat222
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3301

โพสต์

ผมขอแนะนำโรคภูมิแพ้ครับ  พอดีลูกชายเปน ~ 2 ปี
ไปรักษา ที่ bgh  ตรวจ skin test  พบแพ็ไรฝุ่น  
rx  โดย ใช้ผ้ากันไรฝุ่น + ฉีดสารเพื่อกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกัน
ฉีด~ 5 ปี   ตอนนี้อาการปกติดี  แนะนำคับลองไปตรวจดู
(  มีหุ้นอยู่บ้างครับ)
niyom_value
Verified User
โพสต์: 362
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3302

โพสต์

เอ่ ... พี่วิบูลย์ครับ
 คือ ถ้ามีผมเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ แล้วสามารถดื่มนมโคได้หรือเปล่าครับ  หรือต้องหันกลับมาดื่นนมถั่วเหลือง แต่บางสำนักก็บอกว่านมถั่วเหลืองเนี่ยะ เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า ดีต่อฮอรโมน (เคยได้ยินมาครับ) สำหรับเพศชายก็ต้องนมโค อะครับ หรือว่าต้องหันไปดื่มนมอย่างอื่นครับเนี่ยะ

ว่าแต่สงกรานต์นี้พี่วิบูลย์มีโปรแกรมพาครอบครัวไปเที่ยวไหนหรือเปล่าครับเนี่ยะ ก็ขอให้เดินทางโดยสวสคิภาพนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับผม
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3303

โพสต์

[quote="niyom_value"]เอ่ ... พี่วิบูลย์ครับ
final
Verified User
โพสต์: 74
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3304

โพสต์

ดิฉันก็เป็นภูมิแพ้ และต่อมาก็เป็นลมพิษ(เกาเป็นลิง) ก็ไปรักษากับคุณหมอเอื้อชาติที่รพ.รามคำแหง (คุณอาเป็นภูมิแพ้มาเป็นสิบปี รักษาหายกับคุณหมอคนนี้) ราคาไม่แพงค่ะ  อาการของดิฉันก็ดีขึ้น ต่อมาก็ไปรักษาด้วยวิธีฝังเข็มก็ดีขึ้น หายไปหลายปี  แต่ตอนนี้เลิกหาหมอ ดูแลสุขภาพ อาหาร  ถ้าวันไหนอาการกำเริบ ก็กินยาระงับอาการค่ะ

ลางเนื้อชอบลางยา ก็ลองเลือกหมอและวิธีที่เหมาะกับท่านนะคะ

ปล. ดิฉันทานข้าวกล้องโรยงาดำคั่วป่น เพื่อให้ร่างกายได้แคลเซียมและวิตามิน โดยไม่อ้วนและสะดวกดีค่ะ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3305

โพสต์

การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน

การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ

ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3306

โพสต์

คนคอน เขียน:การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน

การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ

ขอบคุณครับ
อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
พี่Chatchai
น้องลูกอีสาน
และท่านอื่นๆ
phons
Verified User
โพสต์: 11
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3307

โพสต์

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
niyom_value
Verified User
โพสต์: 362
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3308

โพสต์

เมื่อคืนวาน ได้มีโอกาสดูกบนอกกะลา พาไปตามหาที่มาของก๊าซและน้ำมันที่เราใช้กันอยู่ครับ ราคาที่เปลี่ยนแปลงขึ้นกับอะไรบ้าง น่าสนใจดีครับ ถ้าเพื่อนๆ สนใจอาทิตน์หน้ายังติดตามดูได้มีตอน 2 ครับ เพื่อจะเข้าใจที่จะลงทุนในธุรกิจพลังงานมากขึ้นครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3309

โพสต์

phons เขียน:คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
ลองอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายสักสองรอบครับ
น่าจะหาได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3310

โพสต์

VIB007 เขียน: อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
พี่Chatchai
น้องลูกอีสาน
และท่านอื่นๆ
การเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ มันมีที่มามาจากมาตรฐานของต่างประเทศค่ะ เมืองไทยใช้มาตรฐานไทยในการลงบัญชีก็จริง แต่มันก็ลอกมาจากเมืองนอกทั้งนั้น แล้วก็แก้ไขบางส่วนให้ตรงกับธุรกิจในเมืองไทย เท่าที่ทราบ IAS หรือ International accounting standard ลงบัญชีเงินลงทุนแบบวิธีทุน เพราะเค้าเห็นว่าสะท้อนความเป็นจริงได้ดีกว่าวิธีส่วนได้เสีย เพราะส่วนได้เสียมีการรับรู้กำไรขาดทุนจากลูกๆลงไปในรายการเงินลงทุนของแม่ในงบเดี่ยว กำไรขาดทุนที่บันทึกเป็นรายการทางบัญชีล้วนๆไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสเงินสดแต่อย่างใด รายการกำไรขาดทุนจากบริษัทลูกจะเกิดจริงก็ต่อเมือคุณคิดเลิกกิจการของบริษัทลูกค่ะ

ตัวมาตรฐานก็เลยพยายามปรับปรุงให้งบสะท้อนความเป็นจริงและสอดคล้องกับวิธีสากลก็เท่านั้นค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
ภาพประจำตัวสมาชิก
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3311

โพสต์

เสริมคุณ Kristy ครับ

เข้าใจว่า ที่บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนในปี 2551 ไม่ได้เป็นเพราะบริษัทเลือกเองนะครับ แต่เป็นเพราะมาตราฐานการบัญชีใหม่เกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนกำหนดให้เริ่มบังคับใช้ในงวดบัญชี ดังกล่าว

โดยมาตราฐานดังกล่าวจะมีผลต่องบการเงินเฉพาะบริษัท แต่ไม่มีผลต่อการบันทึกงบการเงินรวม  (งบการเงินรวมตามมาตราฐานการบัญชีเก่าและใหม่บันทึกเหมือนกัน)

ตามมาตราฐานการบัญชีเก่า บริษัทจะบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วม ด้วยวิธีส่วนได้เสีย (Equity Method) ในงบการเงินเฉพาะบริษัท (งบเดี่ยว) แบบคร่าวๆ คือ บริษัทย่อยมีกำไรเท่าไร บริษัทแม่ก็จะร่วมยินดีด้วย ด้วยการบันทึกกำไรตามสัดส่วนที่บริษัทแม่ลงทุน เช่น
A ถือหุ้น B ร้อยละ 75
ต่อมา B มีกำไร 100 ล้านบาท
บริษัท A จะบันทึก กำไรจากการลงทุนใน B 75 ล้านบาท (100 ล้านบาท * 75%)

การที่มาตราฐานเก่ากำหนดเช่นนั้น เพื่อให้งบเดี่ยว (งบเฉพาะบริษัท) สะท้อนสภาพที่เป็นจริงของกิจการ บังคับให้บริษัทบันทึกผลขาดทุนจากบริษัทย่อยโดยไม่ชักช้า เช่น เมื่อก่อนมีบริษัทไทยผลิตปลากระป๋อง ชื่อบริษัทยูนิคอร์ค ได้เข้า takeover บริษัทบับเบิลบีในอเมริกา ยูนิคอร์ด มีกำไร แต่บับเบิลบีขาดทุนมาก การบันทึกวิธี Equity ทำให้ ยูนิคอร์ค ต้องบันทึกผลขาดทุนจากบับเบิลบีตามสัดส่วนที่ลงทุน ผลขาดทุนที่ต้องรับรู้ในงบเดี่ยวนี้ทำให้กำไรที่ยูนิคอร์ดสามารถจะจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นน้อยลงไป (โดยหากพิจารณาว่า ยูนิคอร์ดต้องกันเงินส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มทุนให้บับเบิลบีตามสัดส่วนที่ขาดทุน การบันทึกบัญชีแบบนี้ ก็สมเหตุสมผลกับหลักความระมัดระวังของนักบัญชีดีแล้ว)

ส่วนมาตราฐานใหม่  กำหนดให้บริษัทบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและร่วม โดยวิธีราคาทุน (Cost Method) ในงบเดี่ยว คือรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทย่อยตามเงินปันผลที่ได้รับจริงจากบริษัทย่อยครับ ส่วนบริษัทย่อยจะกำไรหรือขาดทุนเท่าไร บริษัทแม่ไม่ต้องทำอะไร

การบันทึกแบบนี้ ก็เกิดจากหลักความระมัดระวัง (กลัวไว้ก่อน กลัวอะไรก็ไม่รู้) ของนักบัญชีอีกนั้นแหละ แต่คราวนี้กลัวว่าบริษัทแม่จะมีกำไรที่สามรถจ่ายเงินปันผลออกไปได้เยอะเกินไป โดยที่ไม่มีเงินสดจริง เช่น
A เป็น Holding ไม่มีธุรกิจอื่น ถือหุ้นใน B 100%
B มีกำไร 100 ล้านบาท
B เป็นบริษัทที่ต้องขยายงานจึงไม่จ่ายเงินปันผล แต่เก็บกำไร 100 ล้านบาทไว้เพื่อใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์
กรณีนี้ ถามว่า A สามารถจ่ายเงินปันผลจากกำไรใน B ได้หรือไม่    

หากบันทึกวิธี Equity
A จะรับรู้กำไรจากการลงทุนใน B 100 ล้านบาท
A ก็สามรารถจ่ายเงินปันผลได้โดยที่ยังไม่ได้งินสดจาก B เลย

หากบันทึกวิธี Cost
A จะไม่รับรู้กำไรใน B
ตราบใดที่ B ยังไม่จ่ายเงินปันผลขึ้นมาให้  A ก็จะไม่สามรถจ่ายเงินปันผลจากกำไรส่วนนี้

เนื่องจากการถือหุ้นของบริษัทในปัจจุบันมีความสลับซับซ้อน คือไม่ได้ลงทุนในบริษัทย่อย (หรือบริษัทลูก) เพียงชั้นเดียว แต่บริษัทใหญ่ๆ ถือหุ้นหลายทอด เป็น ลูก หลาน เหลน โหลน และแต่ละชั้นก็มักไม่ได้จ่ายเงินปันผลทั้งหมด (payout ratio < 100%) แต่กันไว้ลงทุน ใช้จ่ายนู้นนี่ มาตราฐานฉบับใหม่จึงกำหนดให้ ใช้ Cost Method เพื่อให้บริษัทแม่สามารถจ่ายเงินปันผลเฉพาะที่ได้รับเงินปันผลจากบริษัทลูกๆ ขึ้นมาแล้วจริง ๆ (กันไม่ให้จ่ายเงินปันผลเกินตัว ว่างั้นเถอะ)  

การเปลี่ยนแปลงมาตราฐานฉบับนี้ จะกระทบต่อความสามรถในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทแม่ที่มีลูกหลานขี้เกียจครับ (ขี้เกียจจ่ายเงินปันผล) หากบริษัทลูกจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราสูงเช่นร้อยละ 60-70 ก็ไม่น่ามีปัญหาเท่าไหร

ส่วนบริษัทแม่ที่มีบริษัทลูกขาดทุนเยอะๆ ขาดทุนอยู่เป็นนิจ กลับได้อานิสงค์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ครับ ต่อไปไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทลูกในงบเดี่ยวแล้ว ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลกลับเพิ่มขึ้น (ประหลาดไหม) [อย่างไรก็ตาม ถ้าขาดทุนเยอะจริงๆ ขนาดมองแล้วว่า ชาติหน้าก็ไม่หายขาดทุน อาจโดนนักบัญชีให้บันทึก ผลขาดทุนจากการด้อยค่าแทน]

โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนมาตราฐานการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีเงินลงทุนนี้ จะกระทบเฉพาะความสามารถในการจ่ายเงินปันผล ไม่กระทบต่อพื้นฐานการทำกำไรของบริษัทที่เราสามารถวิเคราะห์ได้จากงบการเงินรวม (ซึ่งมาตราฐานเก่าและใหม่บันทึกเหมือนกัน โดยกำไรจะเท่ากับงบเดี่ยวที่บันทึกเงินลงทุนด้วยวิธี Equity)

วิธีไหนดีกว่ากัน ถามนักบัญชี ก็คงต้องบอกว่ามาตราฐานใหม่ดีกว่า (เขาเป็นคนประกาศใช้นี่) เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากกว่า

ถามผม ผมก็ว่ามาตราฐานใหม่ก็ยังมีจุดอ่อน อีกสัก 10 ปี มีบริษัทอย่างยูนิคอร์คเพิ่มมากขึ้น เกิดปัญหาอีก เขาก็อาจกลับไปให้บันทึกแบบ Equity เหมือนเดิมตามหลักความระมัดระวัง (อีกแล้ว) ก็ได้ ใครจะไปรู้
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3312

โพสต์

คนคอน เขียน:การที่ บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุน

การที่บริษัทเปลียนแปลงแบบนี้เพื่ออะไรครับ และ มันมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้างครับ พอดี อ่านในกระทู้เก่าๆแล้ว ยังงง กะความหมายอยู่อะครับ

ขอบคุณครับ
อันนี้ขอตัวช่วย
ใครรู้มั่งช่วยตอบหน่อยครับ
ขอบคุณคุณkrisy และ คุณ il genio มากครับ
ลูกศิษย์คุณมนหรือเปล่า
เห็นคุณมนสอนบัญชีไปหลายรุ่น

ผมว่ามุขนี้ดีนะ
ให้มาช่วยๆกันตอบ
ได้มุมมองขึ้นอีกเยอะเลย

ต่อไปต้องขอตัวช่วยบ่อยๆ อิ อิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3313

โพสต์

krisy เป็นลูกศิษย์พี่มนค่ะ แต่คงรู้ไม่ละเอียดเท่าคุณ il genio  :lol:

จริงๆจะลงบัญชีแบบไหน ถ้าเข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไรอย่างที่คุณ il genio  อธิบายไว้ การอ่านงบการเงินก็ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย เพราะเราเข้าใจที่เนื้อแท้ของรายการ

จริงๆแล้ว งบที่แต่งตัวไม่ได้เลย คือ งบกระแสเงินสด เพราะเงินสดมันมีตัวตนจริง การลงบัญชีปรับกำไรเพิ่มขึ้นลดลงได้ แต่ปรับเงินสดให้เพิ่มขึ้นลดลงไม่ได้ ท่านใดที่มึนๆกับการเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน เพราะมันทำให้งบปีนี้เปรียบเทียบกับปีก่อนๆไม่ได้ ถ้าต้องการตรวจสุขภาพกิจการ ดูงบกระแสเงินสดไปก่อนก็ได้ค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
ภาพประจำตัวสมาชิก
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3314

โพสต์

ผมเป็นแฟนติดตามงานเขียนของคุณมน พี่วิบูลย์ และดร. นิเวศน์ครับ นอกจากนั้น ยังเป็นนักลงทุนฝึกหัดที่ยังขาดทุนเยอะอยู่ (เพราะเริ่มลงทุนเมื่อต้นปีที่แล้ว ดัชนีประมาณ 850)

เห็นด้วยกับคุณ Krisy (ขออภัยที่พิมพ์ผิด ครั้งที่แล้ว) กระแสเงินสดคือของจริง บิดเบื้อนได้ยากที่สุดจริงๆ ครับ

ส่วนงบกำไรขาดทุนนั้น อาจเปรียบเทียบผลการดำเนินงานโดยเปรียบเทียบงบการเงินรวมครับ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3315

โพสต์

ว่าแต่ คุณมน เค้ายังเปิดคอร์สสอน การอ่านงบบัญชี ยุปะครับ - -
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3316

โพสต์

คนคอน เขียน:ว่าแต่ คุณมน เค้ายังเปิดคอร์สสอน การอ่านงบบัญชี ยุปะครับ - -
ไปที่นี่เลย

http://board.viknowhow.com/index.php?PH ... 8409826908&

จ่ายค่าโฆษณามาด้วยนะ คุณมน
niyom_value
Verified User
โพสต์: 362
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3317

โพสต์

แต่เอ.. ผมเคยได้ยินมาว่า ตอนนี้ งบกระแสเงินสด ก็เริ่มที่จะมีการตกแต่งบ้างแล้วครับ ไม่ทราบว่าเท็จจริงประการใดเหมือนกันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
il genio
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3318

โพสต์

ไม่แน่ในแฮะ

ส่วนตัว คิดว่ายาก เพราะงบกระแสดงินสด หลักๆ มี 3 ส่วน คือ กระแสเงินสดจากการดำเนินการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน

เมื่อบวกลบทั้ง 3 ส่วนจะได้ การเปลี่ยนแปลงของเงินสดระหว่างงวด และต้องตรวจสอบกับจำนวนเงินสดคงเหลือปลายงวดได้

กระแสเงินสดจากกิจการลงทุน และการจัดหาเงิน มักเป็นรายการใหญ่ ตรงไปตรงมา เช่น จ่ายเงินซื้อทรัพย์สิน, เงินสดรับจากการกู้ยืม, จ่ายชำระเงินกู้, จ่ายเงินปันผล ไม่น่าจะตกแต่งได้มากนัก

หากจะตกแต่งกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ก็ไม่ง่ายอีก เพราะมีจำนวนเงินสดคงเหลือปลายงวดกำกับอยู่

แต่ไม่แน่ใจว่ามีวิธีการตกแต่งอะไรใหม่ๆ หรือเปล่า อาจต้องถามผู้รู้ในแวกวงบัญชี ครับ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3319

โพสต์

รบกวนพี่วิบูล ช่วย คิดFCF ปัจจุบันของ lanna หน่อยครับ

คือผมอยากจะรู้ว่า ที่ผมคิดถูกต้องแล้วรึป่าว

พอดีเพิ่งได้ หนังสือพี่สุมาอี้มา สุดยอดมาฮะ บังเอิญไปเจอเข้า

ขอบคุณครับ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3320

โพสต์

รบกวนพี่วิบูล ช่วย คิดFCF ปัจจุบันของ lanna หน่อยครับ

คือผมอยากจะรู้ว่า ที่ผมคิดถูกต้องแล้วรึป่าว

พอดีเพิ่งได้ หนังสือพี่สุมาอี้มา สุดยอดมาฮะ บังเอิญไปเจอเข้า

ขอบคุณครับ

อ่อ อีกอย่าง เพิ่งอ่าน หนังสือของพี่กะพี่มน จบครับ ได้อะไรหลายๆ อย่างเลย

โดยเฉพาะ ธรรมะ หลับสบาย ฮ่าๆ[หมายถึงว่าอ่านแล้วหลับสะงั้น]
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3321

โพสต์

คนคอน เขียน:รบกวนพี่วิบูล ช่วย คิดFCF ปัจจุบันของ lanna หน่อยครับ

คือผมอยากจะรู้ว่า ที่ผมคิดถูกต้องแล้วรึป่าว

พอดีเพิ่งได้ หนังสือพี่สุมาอี้มา สุดยอดมาฮะ บังเอิญไปเจอเข้า

ขอบคุณครับ
ทำกลับข้างกันดีไหมครับ
ลองทำมาให้ดูก่อน
แล้วผมจะบอกให้ว่ามันถูกหรือผิดอย่างไร

ดีกว่าไหม...เออ

เขียนในกระทู้นี้หละ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3322

โพสต์

ผมได้ 2101.57 ล้านบาทอะครับ


แล้วมีอีกเรื่องนึง ทำไมค่าเสื่่อม ของlanna เค้ามี มากกว่า สินทรัพย์สุทธิละครับ
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3323

โพสต์

2101.57=1,260.53 + (1-0.3) + 1,288.19 - 422.47 - ( -353.48) ล้านบาท


FCF= EBIT + (1-T) + DA - CAPEX - CWC


ตามนี้เลยฮะ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3324

โพสต์

คนคอน เขียน:ผมได้ 2101.57 ล้านบาทอะครับ


แล้วมีอีกเรื่องนึง ทำไมค่าเสื่่อม ของlanna เค้ามี มากกว่า สินทรัพย์สุทธิละครับ
สินทรัพย์สุทธิคืออะไรครับ

ไม่ได้กวนนะ แต่อยากให้อธิบายให้ละเอียด
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3325

โพสต์

คนคอน เขียน:2101.57=1,260.53 + (1-0.3) + 1,288.19 - 422.47 - ( -353.48) ล้านบาท


FCF= EBIT + (1-T) + DA - CAPEX - CWC


ตามนี้เลยฮะ
เอาสูตรนี้มาจากไหนครับ
สูตรนี้หาจากงบกำไรขาดทุน

ลองหาดูสูตรจากงบกระแสเงินสดดูซิครับ
แล้วเอามาเทียบกัน
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3326

โพสต์

สินทรัพย์สุทธิที่ผมเอามาคำนวณ เอามาจากในงบดุลอะ ที่ดิน อาคาร สุทธิอะคับ

ถ้าผิดตรงไหน ช่วยบอกด้วยนะคับ พอดีมือใหม่ๆ - -


สูตรนี้เอามาจาก หนังสือของ คุณนรินทร์อะครับ

ว่าแต่สูตรที่หาจากที่งบกระแสเงินสดที่ว่า สูตรมันมีหน้าตาเป้นยังไงเหรอคครับ


ช่วยสอนด้วยครับ ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3327

โพสต์

คนคอน เขียน: สินทรัพย์สุทธิที่ผมเอามาคำนวณ เอามาจากในงบดุลอะ ที่ดิน อาคาร สุทธิอะคับ

ถ้าผิดตรงไหน ช่วยบอกด้วยนะคับ พอดีมือใหม่ๆ - -
บริษัทไม่ได้มีแค่ที่ดินและอาคารอย่างเดียวเป็นสินทรัพย์นะครับ

ถ้าค่าเสื่อมมากกว่ามูลค่าที่ดินอาคารแล้วละก็
ตัดค่าเสื่อมปีเดียว มูลค่าเหลือศูนย์เลย
มันไม่น่าเป็นไปได้

ลองหาดูดีๆแล้วตั้งคำถามใหม่
ผมยังไม่เข้าใจ

คนคอน เขียน: สูตรนี้เอามาจาก หนังสือของ คุณนรินทร์อะครับ

ว่าแต่สูตรที่หาจากที่งบกระแสเงินสดที่ว่า สูตรมันมีหน้าตาเป้นยังไงเหรอคครับ


ช่วยสอนด้วยครับ ขอบคุณครับ
ลองหาดูในกูเกิ้ล
แล้วบอกผมด้วย
ว่ามีสูตรอย่างไร

อย่าเป็นเหมือนนักเรียนไทยที่รอครูเอาวิชามาป้อน
ลองหาเองก่อน
แล้วจะบอกว่าใช่ไม่ใช่
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3328

โพสต์

คนคอน เขียน:2101.57=1,260.53 + (1-0.3) + 1,288.19 - 422.47 - ( -353.48) ล้านบาท


FCF= EBIT + (1-T) + DA - CAPEX - CWC


ตามนี้เลยฮะ
คราวนี้ช่วยอธิบายตัวเลขแต่ละตัวได้ไหมครับ
ว่ามากจากไหนบ้าง
คนคอน
Verified User
โพสต์: 883
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3329

โพสต์

EBIT ผมเอามาจาก งบกำไรขาดทุน เท่ากับ 1,260.53 ล้านบาท
T = อัตราภาษี เอามาจาก งบกำไรขาดทุน 0.3
DA = ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย = 1,288.19 จากงบกระแสเงินสด
CAPEX = เอามาจาก กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน ซื่อที่ดินและอาคาร+ทรัพย์สินไม่มีตัวตน 420.8+1.67 ล้านบาท
CWC = เอบงามาจาก หกลบ รายการสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน ที่ใช้ดำเนินการ  ไม่ใช่เงินสดและ ไม่มีดอกเบี้ย จากงบดุลปี 51 และ 50

[ปี51] 237.05 ล้านบาท - [ปี50]509.54 ล้านบาท = - 353.48 ล้านบาท
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 3330

โพสต์

[quote="คนคอน"]EBIT ผมเอามาจาก งบกำไรขาดทุน เท่ากับ 1,260.53 ล้านบาท
T = อัตราภาษี เอามาจาก งบกำไรขาดทุน 0.3
DA = ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย = 1,288.19 จากงบกระแสเงินสด
CAPEX = เอามาจาก กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน ซื่อที่ดินและอาคาร+ทรัพย์สินไม่มีตัวตน 420.8+1.67 ล้านบาท
CWC = เอบงามาจาก หกลบ รายการสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน ที่ใช้ดำเนินการ