อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 92
ฮอนด้าส่งออกไตรมาสแรกฮวบ40%
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 เมษายน 2552 17:09 น.
ข่าวในประเทศ - เอเชี่ยนฮอนด้า เผยยอดส่งออกไตรมาสแรกปีนี้ทำได้16,131 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหตุภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก แต่คาดถึงสิ้นปีทำได้ 72,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากปีที่แล้ว
ฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยอดส่งออกโดยรวมในไตรมาสแรกของปี 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 16,131 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2551 สาเหตุหลักมาจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก ทำให้ตลาดในแต่ละภูมิภาคหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่องนับจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบในไตรมาสแรกของปี 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 9,914 ล้านบาท ลดลง 42% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจำนวนรถยนต์สำเร็จรูปลดลงมาอยู่ที่ 12,497 คัน ลดลง 36% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปัจจุบันฮอนด้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งหมด 5 รุ่น คือ ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์วี ไปยังประเทศต่างๆกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในบรรดารุ่นที่ส่งออกทั้งหมดในไตรมาสแรกนี้ ฮอนด้าซิตี้นำมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 6,386 คัน หรือคิดเป็น 51% และท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ ฮอนด้ายังสามารถขยายตลาดไปสู่ประเทศใหม่ๆ โดยส่งออกฮอนด้าซิตี้ไปยังภูมิภาคยุโรปรวมไปถึงประเทศในแถบหมู่เกาะแคริบเบียน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,873 คัน
ในส่วนรถจักรยานยนต์ที่ความต้องการ ในภูมิภาคต่างๆ ชะลอตัว ส่งผลให้ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบในไตรมาสแรกของปี 2552 ลดลง 40% มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,447 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป มูลค่า 204 ล้านบาท และชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ 3,243 ล้านบาท
ด้านการส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์และชิ้นส่วนในไตรมาสแรกของปี 2552 มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกัน โดยมีจำนวน 299,680 เครื่อง ลดลง 43% คิดเป็นมูลค่า 1,836 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากความต้องการของลูกค้าที่หดตัวลงอย่างมากในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักของฮอนด้า
อย่างไรก็ตามฮอนด้าคาดการณ์ว่ายอดส่งออกรวมของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ณ สิ้นปี 2552 จะฟื้นตัวขึ้น โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 72,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากปีที่แล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 เมษายน 2552 17:09 น.
ข่าวในประเทศ - เอเชี่ยนฮอนด้า เผยยอดส่งออกไตรมาสแรกปีนี้ทำได้16,131 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหตุภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก แต่คาดถึงสิ้นปีทำได้ 72,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากปีที่แล้ว
ฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยอดส่งออกโดยรวมในไตรมาสแรกของปี 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 16,131 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2551 สาเหตุหลักมาจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก ทำให้ตลาดในแต่ละภูมิภาคหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่องนับจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบในไตรมาสแรกของปี 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 9,914 ล้านบาท ลดลง 42% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจำนวนรถยนต์สำเร็จรูปลดลงมาอยู่ที่ 12,497 คัน ลดลง 36% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปัจจุบันฮอนด้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งหมด 5 รุ่น คือ ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์วี ไปยังประเทศต่างๆกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในบรรดารุ่นที่ส่งออกทั้งหมดในไตรมาสแรกนี้ ฮอนด้าซิตี้นำมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 6,386 คัน หรือคิดเป็น 51% และท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ ฮอนด้ายังสามารถขยายตลาดไปสู่ประเทศใหม่ๆ โดยส่งออกฮอนด้าซิตี้ไปยังภูมิภาคยุโรปรวมไปถึงประเทศในแถบหมู่เกาะแคริบเบียน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,873 คัน
ในส่วนรถจักรยานยนต์ที่ความต้องการ ในภูมิภาคต่างๆ ชะลอตัว ส่งผลให้ยอดส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบในไตรมาสแรกของปี 2552 ลดลง 40% มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,447 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป มูลค่า 204 ล้านบาท และชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ 3,243 ล้านบาท
ด้านการส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์และชิ้นส่วนในไตรมาสแรกของปี 2552 มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกัน โดยมีจำนวน 299,680 เครื่อง ลดลง 43% คิดเป็นมูลค่า 1,836 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากความต้องการของลูกค้าที่หดตัวลงอย่างมากในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักของฮอนด้า
อย่างไรก็ตามฮอนด้าคาดการณ์ว่ายอดส่งออกรวมของผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ณ สิ้นปี 2552 จะฟื้นตัวขึ้น โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 72,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากปีที่แล้ว
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 93
โตโยต้ารับ500คนงานกลับโรงงาน
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เริ่มดี รับ 500 พนักงานชั่วคราว กลับมาทำงาน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้โตโยต้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบริษัทได้รับพนักงานชั่วคราวกลับมาทำงานอีก 500 คน จากที่มีการปรับลดลงไป 2,000 คน ในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตลาดรถยนต์ในภาพรวมได้ หลังจากที่ยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกหดตัวลงไปกว่า 30% ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือประเทศอื่นๆ จะส่งผลต่อตลาดเอเชียหรือไม่ โดยต้องรอให้ผ่านไตรมาส 2 ไปก่อน
ตลาดรถยนต์ที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่กลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่ เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นความมั่นใจเริ่มกลับมา ก็เลยกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายการจำหน่ายยังคงเดิมที่ 2.2 แสนคัน ขณะที่ภาพรวมของการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคัน โดยอาจจะมีการปรับได้หลังไตรมาส 2 เพราะการส่งออกไม่ค่อยดีนัก โดยไตรมาสแรกหดตัวไปกว่า 35%
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและยอดจำหน่าย โตโยต้าได้มีการแนะนำโคโรล่า อัลติส เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร วางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 9.49 แสน-1.184 ล้านบาท และยังมีการปรับสเปกรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมลดราคาลง 5-6 หมื่นบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดตัวอัลติสรุ่นพิเศษดังกล่าว จะทำให้ยอดจำหน่ายของอัลติสเพิ่มขึ้น 10% หรือมียอดจำหน่าย 2,200 คันต่อเดือน โดยในรุ่น 2.0 ลิตร ตั้งเป้าจำหน่ายที่ 250 คันต่อเดือน
สำหรับกระแสข่าวการโยกย้ายนายมิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ออกจากตำแหน่งนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่น่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 1 ก.ค. หลังการประชุมบอร์ดบริหารในเดือนมิ.ย. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ หากมีการปรับเปลี่ยน จะต้องเป็นตำแหน่งสูงขึ้น
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เริ่มดี รับ 500 พนักงานชั่วคราว กลับมาทำงาน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้โตโยต้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบริษัทได้รับพนักงานชั่วคราวกลับมาทำงานอีก 500 คน จากที่มีการปรับลดลงไป 2,000 คน ในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตลาดรถยนต์ในภาพรวมได้ หลังจากที่ยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกหดตัวลงไปกว่า 30% ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือประเทศอื่นๆ จะส่งผลต่อตลาดเอเชียหรือไม่ โดยต้องรอให้ผ่านไตรมาส 2 ไปก่อน
ตลาดรถยนต์ที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่กลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่ เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นความมั่นใจเริ่มกลับมา ก็เลยกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายการจำหน่ายยังคงเดิมที่ 2.2 แสนคัน ขณะที่ภาพรวมของการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคัน โดยอาจจะมีการปรับได้หลังไตรมาส 2 เพราะการส่งออกไม่ค่อยดีนัก โดยไตรมาสแรกหดตัวไปกว่า 35%
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและยอดจำหน่าย โตโยต้าได้มีการแนะนำโคโรล่า อัลติส เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร วางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 9.49 แสน-1.184 ล้านบาท และยังมีการปรับสเปกรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมลดราคาลง 5-6 หมื่นบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดตัวอัลติสรุ่นพิเศษดังกล่าว จะทำให้ยอดจำหน่ายของอัลติสเพิ่มขึ้น 10% หรือมียอดจำหน่าย 2,200 คันต่อเดือน โดยในรุ่น 2.0 ลิตร ตั้งเป้าจำหน่ายที่ 250 คันต่อเดือน
สำหรับกระแสข่าวการโยกย้ายนายมิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ออกจากตำแหน่งนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่น่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 1 ก.ค. หลังการประชุมบอร์ดบริหารในเดือนมิ.ย. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ หากมีการปรับเปลี่ยน จะต้องเป็นตำแหน่งสูงขึ้น
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 94
ตามแบบห่าง ๆ กะจะเอาอย่าง Peter Lynch อิอิ
ปัญหาอยู่ที่ว่า หุ้นในเมืองไทย sector นี้ หาดี ๆ ยากจัง
ชอบที่ไม่มีโบรคไหน cover เลยตอนนี้ .. แต่หุ้นวิ่งเร็วเกิน
ราคาเก่าไม่รู้แพงไป หรือผมมองไม่เห็นสิ่งดี ๆ ในตัวมัน
ปัญหาอยู่ที่ว่า หุ้นในเมืองไทย sector นี้ หาดี ๆ ยากจัง
ชอบที่ไม่มีโบรคไหน cover เลยตอนนี้ .. แต่หุ้นวิ่งเร็วเกิน
ราคาเก่าไม่รู้แพงไป หรือผมมองไม่เห็นสิ่งดี ๆ ในตัวมัน
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 98
ถ้าคิดว่าบริษัทที่เราลงทุนรอด และมีที่ยืนในธุรกิจเหมือนเดิม
ต่อให้รอ 3 ปีแล้วราคาหุ้นขึ้นไป 1 เด้งเป็นการลงทุนที่ไม่เลวนะครับ :lol:
ต่อให้รอ 3 ปีแล้วราคาหุ้นขึ้นไป 1 เด้งเป็นการลงทุนที่ไม่เลวนะครับ :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 99
โตโยต้ารับ500คนงานกลับโรงงาน
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เริ่มดี รับ 500 พนักงานชั่วคราว กลับมาทำงาน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้โตโยต้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบริษัทได้รับพนักงานชั่วคราวกลับมาทำงานอีก 500 คน จากที่มีการปรับลดลงไป 2,000 คน ในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตลาดรถยนต์ในภาพรวมได้ หลังจากที่ยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกหดตัวลงไปกว่า 30% ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือประเทศอื่นๆ จะส่งผลต่อตลาดเอเชียหรือไม่ โดยต้องรอให้ผ่านไตรมาส 2 ไปก่อน
ตลาดรถยนต์ที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่กลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่ เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นความมั่นใจเริ่มกลับมา ก็เลยกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายการจำหน่ายยังคงเดิมที่ 2.2 แสนคัน ขณะที่ภาพรวมของการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคัน โดยอาจจะมีการปรับได้หลังไตรมาส 2 เพราะการส่งออกไม่ค่อยดีนัก โดยไตรมาสแรกหดตัวไปกว่า 35%
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและยอดจำหน่าย โตโยต้าได้มีการแนะนำโคโรล่า อัลติส เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร วางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 9.49 แสน-1.184 ล้านบาท และยังมีการปรับสเปกรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมลดราคาลง 5-6 หมื่นบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดตัวอัลติสรุ่นพิเศษดังกล่าว จะทำให้ยอดจำหน่ายของอัลติสเพิ่มขึ้น 10% หรือมียอดจำหน่าย 2,200 คันต่อเดือน โดยในรุ่น 2.0 ลิตร ตั้งเป้าจำหน่ายที่ 250 คันต่อเดือน
สำหรับกระแสข่าวการโยกย้ายนายมิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ออกจากตำแหน่งนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่น่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 1 ก.ค. หลังการประชุมบอร์ดบริหารในเดือนมิ.ย. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ หากมีการปรับเปลี่ยน จะต้องเป็นตำแหน่งสูงขึ้น
http://www.posttoday.com/business.php?id=46293
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เริ่มดี รับ 500 พนักงานชั่วคราว กลับมาทำงาน
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้โตโยต้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบริษัทได้รับพนักงานชั่วคราวกลับมาทำงานอีก 500 คน จากที่มีการปรับลดลงไป 2,000 คน ในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตลาดรถยนต์ในภาพรวมได้ หลังจากที่ยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกหดตัวลงไปกว่า 30% ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือประเทศอื่นๆ จะส่งผลต่อตลาดเอเชียหรือไม่ โดยต้องรอให้ผ่านไตรมาส 2 ไปก่อน
ตลาดรถยนต์ที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากการที่กลุ่มลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่ เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นความมั่นใจเริ่มกลับมา ก็เลยกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายการจำหน่ายยังคงเดิมที่ 2.2 แสนคัน ขณะที่ภาพรวมของการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคัน โดยอาจจะมีการปรับได้หลังไตรมาส 2 เพราะการส่งออกไม่ค่อยดีนัก โดยไตรมาสแรกหดตัวไปกว่า 35%
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและยอดจำหน่าย โตโยต้าได้มีการแนะนำโคโรล่า อัลติส เครื่องยนต์ใหม่ 2.0 ลิตร วางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 9.49 แสน-1.184 ล้านบาท และยังมีการปรับสเปกรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมลดราคาลง 5-6 หมื่นบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดตัวอัลติสรุ่นพิเศษดังกล่าว จะทำให้ยอดจำหน่ายของอัลติสเพิ่มขึ้น 10% หรือมียอดจำหน่าย 2,200 คันต่อเดือน โดยในรุ่น 2.0 ลิตร ตั้งเป้าจำหน่ายที่ 250 คันต่อเดือน
สำหรับกระแสข่าวการโยกย้ายนายมิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ออกจากตำแหน่งนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่น่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 1 ก.ค. หลังการประชุมบอร์ดบริหารในเดือนมิ.ย. ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ หากมีการปรับเปลี่ยน จะต้องเป็นตำแหน่งสูงขึ้น
http://www.posttoday.com/business.php?id=46293
-
- Verified User
- โพสต์: 400
- ผู้ติดตาม: 0
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 100
ถ้าไล่กันรายตัว แล้ว ผมว่า stanly น่าสนใจที่สุด เพราะ ROE ค่อนข้างสูง แต่จะเอา แบบ หลายเด้ง น่าจะเสี่ยงที่ AH ครับ ผมไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้หรอก เหมือนอย่างที่ปีเตอร์ว่า ครับ หมอชอบซื้อน้ำมัน วิศวชอบซื้อโรงบาล อะไรประมาณนั้น
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 101
โตโยต้าเผยขาดทุนครั้งแรกหลังยอดขายลด โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 436,900 ล้านเยนในปีงบการเงินที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มรายงานผลประกอบการเมื่อปี 2484 และเป็นการขาดทุนเกินคาดอย่างมาก โดยคาดก่อนหน้านี้ว่าจะขาดทุนจากการดำเนินการ 8,600 ล้านดอลลาร์ หลังจากเพิ่งทำสถิติได้กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.72 ล้านล้านเยนเมื่อปีก่อนหน้านั้น
นายคัตสึอากิ วาตานาเบ ประธานโตโยต้า กล่าวว่า การขาดทุนครั้งนี้เป็นผลจากยอดขายที่ลดลงในสหรัฐและยุโรป เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร และราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด โดยโตโยต้ามียอดขายทั่วโลกลดลง 15% เหลือ 7.57 ล้านคันในปีที่แล้ว
ผลประกอบการของโตโยต้าถือเป็นการตอกย้ำความยุ่งยากในอุตสาหกรรมรถยนต์โลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 5,980 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุน 3,300 ล้านดอลลาร์ แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุน 10,900 ล้านดอลลาร์
ยอดขายรถที่ทรุดลงทั่วโลกถ่วงรายได้จีเอ็มร่วงลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยยอดขายของจีเอ็มในช่วงเดือนม.ค.- มี.ค.ปีนี้ ลดลง 47% เหลือ 22,400 ล้านดอลลาร์ จาก 42,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 436,900 ล้านเยนในปีงบการเงินที่สิ้นสุดเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มรายงานผลประกอบการเมื่อปี 2484 และเป็นการขาดทุนเกินคาดอย่างมาก โดยคาดก่อนหน้านี้ว่าจะขาดทุนจากการดำเนินการ 8,600 ล้านดอลลาร์ หลังจากเพิ่งทำสถิติได้กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.72 ล้านล้านเยนเมื่อปีก่อนหน้านั้น
นายคัตสึอากิ วาตานาเบ ประธานโตโยต้า กล่าวว่า การขาดทุนครั้งนี้เป็นผลจากยอดขายที่ลดลงในสหรัฐและยุโรป เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร และราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด โดยโตโยต้ามียอดขายทั่วโลกลดลง 15% เหลือ 7.57 ล้านคันในปีที่แล้ว
ผลประกอบการของโตโยต้าถือเป็นการตอกย้ำความยุ่งยากในอุตสาหกรรมรถยนต์โลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 5,980 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุน 3,300 ล้านดอลลาร์ แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุน 10,900 ล้านดอลลาร์
ยอดขายรถที่ทรุดลงทั่วโลกถ่วงรายได้จีเอ็มร่วงลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยยอดขายของจีเอ็มในช่วงเดือนม.ค.- มี.ค.ปีนี้ ลดลง 47% เหลือ 22,400 ล้านดอลลาร์ จาก 42,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
อุตสาหกรรมรถยนต์ น่าสนใจไหมตอนนี้?
โพสต์ที่ 103
จีนยังครองแชมป์ยอดขายรถยนต์สูงสุดในโลก โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
จีนยังคงครองความแชมป์ยอดขายรถยนต์มือหนึ่งสูงที่สุดในโลก สวนกระแสเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลประกาศลดภาษีให้กับรถยนต์เล็ก
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีน เผยว่า เมื่อเดือนที่แล้ว จีนยังคงครองสถิติมียอดจำหน่ายรถยนต์สูงที่สุดในโลก เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยยอดขายรถใหม่สูงถึง 1.5 ล้านคัน นับเป็นตัวเลขมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วถึง 25%
สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มือหนึ่งของจีนเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดภาษีให้กับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กกว่า 1.6 ลิตร ไปเมื่อเดือน ม.ค. ทำให้ยอดขายรถยนต์พุ่งกระฉูด สวนทางกระแสเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ทำให้ตลาดรถรายใหญ่ทั่วโลกยอดขายซบเซา เป็นที่คาดกันว่า ผู้ผลิตรถของค่ายสหรัฐและญี่ปุ่น ต่างจะเพิ่มกลยุทธ์และพยายามกระตุ้นยอดขายในจีนให้มากขึ้น
จีนยังคงครองความแชมป์ยอดขายรถยนต์มือหนึ่งสูงที่สุดในโลก สวนกระแสเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลประกาศลดภาษีให้กับรถยนต์เล็ก
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีน เผยว่า เมื่อเดือนที่แล้ว จีนยังคงครองสถิติมียอดจำหน่ายรถยนต์สูงที่สุดในโลก เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยยอดขายรถใหม่สูงถึง 1.5 ล้านคัน นับเป็นตัวเลขมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วถึง 25%
สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มือหนึ่งของจีนเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดภาษีให้กับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กกว่า 1.6 ลิตร ไปเมื่อเดือน ม.ค. ทำให้ยอดขายรถยนต์พุ่งกระฉูด สวนทางกระแสเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ทำให้ตลาดรถรายใหญ่ทั่วโลกยอดขายซบเซา เป็นที่คาดกันว่า ผู้ผลิตรถของค่ายสหรัฐและญี่ปุ่น ต่างจะเพิ่มกลยุทธ์และพยายามกระตุ้นยอดขายในจีนให้มากขึ้น
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก