คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

[คนคอน]

หมายถึงอันนี้รึป่าวฮะ CWC จากงบกระแสเงินสด

- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

เป็นอันว่าผมมาถูกทางแล้วใช่ปะฮะ

[คนคอน]

หมายถึงอันนี้รึป่าวฮะ CWC จากงบกระแสเงินสด

- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

เป็นอันว่าผมมาถูกทางแล้วใช่ปะฮะ

รึว่า
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน มาลบ กับ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน

ผมเข้าใจถูกปะฮะ

[คนคอน]

[คนคอน]

ขอถามอะไรหน่อยนะฮะ คืออยาก ทราบว่า สมมุติที่ดินอาคาร ที่บริษัทซื้อและบันทึกในงบกระแสเงินสด ปี51
บริษัทจะนำที่ดินอาคารที่ซื้อมารวมกะของเก่าและแสดงในงบดุลของปี 51 ใช่ปะคับ

[krisy]

ขอถามอะไรหน่อยนะฮะ คืออยาก ทราบว่า สมมุติที่ดินอาคาร ที่บริษัทซื้อและบันทึกในงบกระแสเงินสด ปี51
บริษัทจะนำที่ดินอาคารที่ซื้อมารวมกะของเก่าและแสดงในงบดุลของปี 51 ใช่ปะคับ

ถูกต้องค่ะ

[VIB007]

หมายถึงอันนี้รึป่าวฮะ CWC จากงบกระแสเงินสด

- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

รึว่า
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน มาลบ กับ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน

ผมเข้าใจถูกปะฮะ


เป็นอันว่าผมมาถูกทางแล้วใช่ปะฮะ

ถูกทางแต่ท่าทางจะเป็นทางเข้าป่าเข้าพง

ผมแนะนำให้ไปเข้าคอร์สบัญชีของคุณมนสักครั้งเถอะครับ
น่าจะได้ประโยชน์

หรือเอาเร็วๆก็หาหนังสือเกี่ยวกับงบกระแสงเินสดมาอ่าน
หาไม่ยากหรอก ถ้าอยากจะหาจริงๆ
ยังไงก็เจอ

ส่วน CWC ในงบกระแสเงินสด
ให้ไปทำการบ้านมาใหม่

[aitim]

รบกวนหน่อยครับ คือผมเพิ่งจะศึกษาการลงทุนในหุ้นและได้มีผู้รู้แนะนำการลงทุนแบบหุ้นคุณค่า(VI) และที่เห็นก็มีการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร

แล้วจะมีการลงทุนแบบอื่นๆบ้างเปล่าครับ และแบบที่ว่าเขาลงทุนกันยังไงครับ

ขอโทษนะครับ นอกเรื่องหน่อยนะครับ

ขอบคุณมากครับ ที่ให้ทำชี้แนะ

[VIB007]

รบกวนหน่อยครับ คือผมเพิ่งจะศึกษาการลงทุนในหุ้นและได้มีผู้รู้แนะนำการลงทุนแบบหุ้นคุณค่า(VI) และที่เห็นก็มีการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร

แล้วจะมีการลงทุนแบบอื่นๆบ้างเปล่าครับ และแบบที่ว่าเขาลงทุนกันยังไงครับ

ขอโทษนะครับ นอกเรื่องหน่อยนะครับ

ขอบคุณมากครับ ที่ให้ทำชี้แนะ

ก่อนอื่นลองบอกมาหน่อยซิครับว่า
"การลงทุนแบบหุ้นคุณค่า"และ"แบบเก็งกำไร"มันเป็นอย่างไร
ในความเข้าใจของตนเอง

[aitim]

ในความเข้าใจของผมแบบแรก

การเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร ก็คือ

ผู้ที่เล่นหุ้นจะหาซื้อหุ้นเพื่อส่วนต่างจาก Capital Gain ของตัวหุ้นที่ซื้อในการทำกำไร โดยจะซื้อหุ้นตัวนั้นโดยไม่จำเป็นต้องทราบถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ อาจจะใช้เทคนิคในการวิเคราะห์ว่าหุ้นตัวนั้นกำลังจะขึ้น ก็ทำการซื้อหุ้นตัวนั้นไว้ก่อนและทำการขายเมื่อหุ้นตัวนั้นขึ้นถึงจุดๆหนึ่งที่ตัวเองพอใจแล้ว อาจจะให้เวลาในการซื้อขายเป็นวัน เป็นชั่วโมง หรือเป็นนาที ก็เป็นได้

การลงทุนหุ้นแบบหุ้นคุณค่า คือ

ผู้ที่จะทำการลงทุนในหุ้นนั้นๆจะต้องศึกษาเกี่ยวกับบริษัทหุ้นตัวนั้นเป็นอย่างดี(แฟนพันธุ์แท้)และมั่นใจ เช่น บริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีคู่แข่งที่ไหนบ้าง ผู้บริหารเป็นคนมีธรรมาภิบาลหรือไว้ใจได้แค่ไหน สามารถนำพาบริษัทเติบโตไปข้างได้หรือเปล่า วิเคราะห์หามูลค่าที่แท้จริงของตัวหุ้น โดยเมื่อลงทุนไปแล้วอาจจะถือหุ้นตัวนั้นเป็นวัน เป็นเดือน หรือเป็นสิบๆปี ถ้าหากหุ้นตัวนั้นยังคงเป็นหุ้นคุณค่า ที่ให้ผลตอบแทนในแบบปันผลที่เหมาะสม และยังสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบ Capital Gain ได้อีกด้วยหากหุ้นตัวนั้นมีปัจจัยทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น(ราคาหุ้นสูงขึ้น)อาจทำการขายเพื่อลดต้นทุนในการถือหุ้นตัวนั้น และถ้าหากหุ้นตัวนี้เกิดมีราคาที่ตกลงมาต่ำกว่าราคาหุ้นที่แท้จริงที่เราวิเคราะห์ไว้ ผู้ลงทุนก็จะทำการซื้อเก็บไว้เรื่อยๆ เมื่อราคาหุ้นกลับไปยังราคามูลค่าหุ้นที่แท้จริง เราก็จะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น
ที่สำคัญถ้าหากจะขายหุ้นตัวนั้นจนหมดก็ต่อเมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นเปลี่ยนอาจจะมีปัจจัยมาจาก ผู้บริหารเปลี่ยน สินค้ามีคู่แข่งหน้าใหม่ที่เติบโตและแย่งส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น หรืออื่นๆ ก็ต้องขายหุ้นตัวนั้นไป

-------------------------------------------------------------------------------

ถ้าหากเข้าใจผิดพลาดประการใดช่วยให้คำชี้แนะด้วยนะครับ จะได้แก้ใขความคิดให้ถูกต้อง



คือผมเพิ่งจะมาสนใจในการลงทุนหุ้น แต่ยังไม่มีกำลังทรัพย์ในการซื้อขาย
เลยศึกษาจากหนังสือบ้างจากกระทู้ต่างๆบ้าง โดยอาศัยประสบการณ์จากพี่ๆเพื่อที่จะนำมาใช้จริงในวันข้างหน้า เมื่อพร้อมที่จะลงทุน

และที่ผมเคยได้ยินๆมาก็มีอยู่ ก็ มีรูปแบบอยู่สองแบบ แมงเม่า กับ แบบVI  แบบอื่นผมไม่รู้ว่าจะมีอีกหรือเปล่าเลยอยากจะถามพี่ๆว่า การลงทุนแบบอื่นๆ เขามีวิธีการแบบไหน

[VIB007]

[quote="aitim"]
-------------------------------------------------------------------------------

ถ้าหากเข้าใจผิดพลาดประการใดช่วยให้คำชี้แนะด้วยนะครับ จะได้แก้ใขความคิดให้ถูกต้อง



คือผมเพิ่งจะมาสนใจในการลงทุนหุ้น แต่ยังไม่มีกำลังทรัพย์ในการซื้อขาย
เลยศึกษาจากหนังสือบ้างจากกระทู้ต่างๆบ้าง โดยอาศัยประสบการณ์จากพี่ๆเพื่อที่จะนำมาใช้จริงในวันข้างหน้า เมื่อพร้อมที่จะลงทุน

และที่ผมเคยได้ยินๆมาก็มีอยู่ ก็ มีรูปแบบอยู่สองแบบ แมงเม่า กับ แบบVI

[aitim]

ขอบคุณสำหรับคำตอบด้านบนครับ

ผมไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนเลย ได้แต่คิดๆว่าถ้าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นพวกพี่ๆชาว VI จะแก้ปัญหากันอย่างไร เลยอยากจะขอความคิดเห็นหน่อยครับ

สมมุติ ถ้าเรามองเห็นบริษัท A และ บริษัท B ซึ่งทำธุระกิจแบบเดียวกันเรียกง่ายๆว่าเป็นคู่แข่งกัน แบบคู่คี่สูสีกันเลย ซึ่งทั้งสองบริษัทก็ต่างน่าลงทุนเป็นอย่างมาก จะซ้ายก็ดีขวาก็เจ๋ง แล้วเราจะเลือกลงทุนกับบริษัทไหนดีละครับแบบนี้  แล้วถ้าจะลงทุนทั้งสองบริษัทเลยแบบนี้เป็นไปได้เปล่าครับ มันจะขัดกันเปล่าครับ ตัวหนึ่งขึ้นอีกตัวหนึ่งลงในระยะเวลาสั้นๆ อีกซักพักกลับตรงกันข้าม แล้วแบบนี้นักลงทุนแนวVI จะจัดการกับมันอย่างไรดีครับ

----------
ในความคิดของผมน่ะโดยใช้เหตุผลส่วนตัวล้วนๆนะครับ ไม่มีประสบการณ์เลย ก็จะซื้อทั้งสองตัวเลยแบบว่า เราซื้อคู่แข่งไปด้วยเหมือนกับว่าตลาดนั้นไม่มีคู่แข่งที่จะทัดเทียมเราได้ แต่ในความเป็นจริงผมอาจจะตอบไม่ได้นะครับ

[krisy]

[quote="aitim"]ขอบคุณสำหรับคำตอบด้านบนครับ

ผมไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนเลย ได้แต่คิดๆว่าถ้าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นพวกพี่ๆชาว VI จะแก้ปัญหากันอย่างไร เลยอยากจะขอความคิดเห็นหน่อยครับ

สมมุติ ถ้าเรามองเห็นบริษัท A และ บริษัท B ซึ่งทำธุระกิจแบบเดียวกันเรียกง่ายๆว่าเป็นคู่แข่งกัน แบบคู่คี่สูสีกันเลย ซึ่งทั้งสองบริษัทก็ต่างน่าลงทุนเป็นอย่างมาก จะซ้ายก็ดีขวาก็เจ๋ง แล้วเราจะเลือกลงทุนกับบริษัทไหนดีละครับแบบนี้

[VIB007]

ขอบคุณสำหรับคำตอบด้านบนครับ

----------
ในความคิดของผมน่ะโดยใช้เหตุผลส่วนตัวล้วนๆนะครับ ไม่มีประสบการณ์เลย ก็จะซื้อทั้งสองตัวเลยแบบว่า เราซื้อคู่แข่งไปด้วยเหมือนกับว่าตลาดนั้นไม่มีคู่แข่งที่จะทัดเทียมเราได้ แต่ในความเป็นจริงผมอาจจะตอบไม่ได้นะครับ

ผมคงตอบแทนไม่ได้
ต้องขึ้นกับหลักการของแต่ละคน

ถ้าสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
ผมว่าปีเตอร์ลินซ์คงเก็บทั้งสองบริษัท
แต่บัฟเฟตคงเลือกเพียงแค่บริษัทเดียว

[niyom_value]

ถ้าในความคิดเห็นของผมนะครับ
คงต้องดูตลาดทั้งตลาดว่ายังโตหรือมีโอกาสโตอยู่หรือไม่ เพราะถ้าตลาดยังเล็กอยู่ การแข่งขันของทั้งสองบริษัทจะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตขึ้นไปอีก อย่างเช่น เอ่อ.. อย่างตอนนี้โทรศัพท์มือถือต่างๆ ทั่วโลก มียอดขายตกไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่มีมือถือประเภทหนึ่งเติบโตสวนกระแสขึ้นมา และเติบโตมากเสียด้วย ใช่แล้วครับ นั่นก็คือ Smart Phone (ประเภทต้องลูบไล้ สัมผัส) ทำให้ตอนนี้ Iphone ขายดีมากๆ และก็มีของ Black berry เข้ามาในตลาด เป็นคู่แข่งขัน ทำให้ตลาด smart phone ยิ่งโตมากขึ้น เพราะความต้องการยังมีมากอยู่ ทำให้เป็นไปได้ว่าจะมีบริษัทรายที่ 3-4-5 เข้ามาในตลาด อย่างที่ผมรู้ตอนนี้ก็ HTC นะครับ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นของ smart phone ที่ถูกกว่า 2 เจ้าแรกด้วย ทำให้ตลาดยิ่งโตมากขึ้น

ในส่วนแง่ของการลงทุน ถ้าจะให้เลือกผมของเลือกบริษัทที่ 3 เพราะว่า ตลาดยังไม่ให้มูลค่ากับบริษัทมากกว่า 2 เจ้าแรก ราคาจึงน่าจะถูกกว่า และที่สำคัญเรามองแล้วว่าอุตสาหกรรมนี้น่าจะโตต่อไปได้ครับ ทำให้บริษัทที่ 3 สามารถเติบโตต่อได้ในอนาคตด้วยครับ

ปล. ยังมีรายละเอีดปลีกย่อยให้ดูอีกแยะครับ แต่ผมจับแค่แนวความคิดส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ

[dome@perth]

ถ้าในความคิดเห็นของผมนะครับ
คงต้องดูตลาดทั้งตลาดว่ายังโตหรือมีโอกาสโตอยู่หรือไม่ เพราะถ้าตลาดยังเล็กอยู่ การแข่งขันของทั้งสองบริษัทจะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตขึ้นไปอีก อย่างเช่น เอ่อ.. อย่างตอนนี้โทรศัพท์มือถือต่างๆ ทั่วโลก มียอดขายตกไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่มีมือถือประเภทหนึ่งเติบโตสวนกระแสขึ้นมา และเติบโตมากเสียด้วย ใช่แล้วครับ นั่นก็คือ Smart Phone (ประเภทต้องลูบไล้ สัมผัส) ทำให้ตอนนี้ Iphone ขายดีมากๆ และก็มีของ Black berry เข้ามาในตลาด เป็นคู่แข่งขัน ทำให้ตลาด smart phone ยิ่งโตมากขึ้น เพราะความต้องการยังมีมากอยู่ ทำให้เป็นไปได้ว่าจะมีบริษัทรายที่ 3-4-5 เข้ามาในตลาด อย่างที่ผมรู้ตอนนี้ก็ HTC นะครับ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นของ smart phone ที่ถูกกว่า 2 เจ้าแรกด้วย ทำให้ตลาดยิ่งโตมากขึ้น

ในส่วนแง่ของการลงทุน ถ้าจะให้เลือกผมของเลือกบริษัทที่ 3 เพราะว่า ตลาดยังไม่ให้มูลค่ากับบริษัทมากกว่า 2 เจ้าแรก ราคาจึงน่าจะถูกกว่า และที่สำคัญเรามองแล้วว่าอุตสาหกรรมนี้น่าจะโตต่อไปได้ครับ ทำให้บริษัทที่ 3 สามารถเติบโตต่อได้ในอนาคตด้วยครับ

ปล. ยังมีรายละเอีดปลีกย่อยให้ดูอีกแยะครับ แต่ผมจับแค่แนวความคิดส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ

พูดยังงี้ก็เข้าทางหุ้นผมดิ :lol:

[Linzhi]

ถ้าในความคิดเห็นของผมนะครับ
คงต้องดูตลาดทั้งตลาดว่ายังโตหรือมีโอกาสโตอยู่หรือไม่ เพราะถ้าตลาดยังเล็กอยู่ การแข่งขันของทั้งสองบริษัทจะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตขึ้นไปอีก

มีวิจัยของ HBS เรื่องนี้เหมือนกัน
เช่นถ้าคุณวางสินค้าใน super อย่างเดียว คนจะซื้อน้อย
ถ้าวางมากเกินไป คนก็จะซื้อน้อยอีก

ถ้ามีพอดี ๆ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ อย่าง coke กับ pepsi นี่
เข้าข่ายถ้าไม่มีชั้นก็ไม่มีเธอ

[niyom_value]

dome@perth

พูดยังงี้ก็เข้าทางหุ้นผมดิ

ไม่ทราบว่าเข้าทางหุ้นตัวไหน บอกกันมั่งก้ได้นะครับ 555

Linzhi

วิจัยของ HBS เรื่องนี้เหมือนกัน
เช่นถ้าคุณวางสินค้าใน super อย่างเดียว คนจะซื้อน้อย
ถ้าวางมากเกินไป คนก็จะซื้อน้อยอีก

ถ้ามีพอดี ๆ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ อย่าง coke กับ pepsi นี่
เข้าข่ายถ้าไม่มีชั้นก็ไม่มีเธอ

ครับ 2 บริษัทนี้เลยไม่ทำสงครามราคากันครับ ไม่งั้นเจ๊งทั้งคู่ จะสังเกตุเห็นได้ว่า โฆษณาของทั้งคู่จะออกมาเกือบ พร้อมๆกันด้วยซ้ำ  ถ้า coke ออกโฆษณาใหม่ pepsi สักพักก็จะมีบ้าง หรือถ้า pepsi เริ่มโฆษณาสักพัก coke ก็จะมีบ้าง ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคในตัวสินค้าอย่างต่อเนื่องครับ

[oilpaint]

คุณวิบูลย์ไม่เขียน คอลัมในหนังสือพิมกรุงเทพธุรกิจ แล้วหรือค่ะ      ตามหลายอาทิตย์แล้วไม่เห็นเลยค่ะ

[VIB007]

คุณวิบูลย์ไม่เขียน คอลัมในหนังสือพิมกรุงเทพธุรกิจ แล้วหรือค่ะ      ตามหลายอาทิตย์แล้วไม่เห็นเลยค่ะ

เห็นแฟนๆถามหาเยอะเหมือนกัน
พอดีคนมนตรีแกบอกว่าอยากจะโซโลเรื่องทองสักสองเดือน
ผมเลยหยุดชั่วคราว
แต่รู้สึกคุณมนจะเบี้ยวส่งต้นฉบับทางบก.บ่อย
เดี่ยวผมต้องลงไปดูสักหน่อย

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ผมคิดในใจนะว่าอยากเขียนเรื่อง
"รอบนี้ขึ้นจริงหรือขึ้นหลอก...เออ"
ดีมั๊ยครับ
รอบนี้ลากจาก 430 ต้นเมษามา 530 จุดวันนี้
ขึ้นมาแล้ว 23%
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

[noooon010]

เวลาอ่านกรุงเทพธุรกิจฉบับวันจันทร์แล้วไม่เจอ value way
ผมเหมือนรู้สึกว่า หนังสือพิมพ์มันขาดอะไรไปนะครับ

(รู้สึกเหมือนวันพุธที่ต้องอ่าน column พี่สุมาอี้น่ะครับ)

[VIB007]

เวลาอ่านกรุงเทพธุรกิจฉบับวันจันทร์แล้วไม่เจอ value way
ผมเหมือนรู้สึกว่า หนังสือพิมพ์มันขาดอะไรไปนะครับ

(รู้สึกเหมือนวันพุธที่ต้องอ่าน column พี่สุมาอี้น่ะครับ)

วันจันทร์หน้ามีแน่นอน
โปรดติดตามชม

สรุปว่าเรื่องทองของคุณมนจบอวสานแล้ว (หมดมุข)
ก็พบกับเรื่องใหม่ๆต่อไป

[dome@perth]

ผมคิดในใจนะว่าอยากเขียนเรื่อง
"รอบนี้ขึ้นจริงหรือขึ้นหลอก...เออ"
ดีมั๊ยครับ
รอบนี้ลากจาก 430 ต้นเมษามา 530 จุดวันนี้
ขึ้นมาแล้ว 23%
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

เอาครับๆ จะติดตามครับ ผมก็อยากรู้จริงๆเหมือนกันครับ

วันนี้เห็นตอนเช้าทำท่าว่าจะถอย แต่ก็ยังขึ้นได้อีก เออ เอาสิเอา
นายตลาดนิ่ ไม่สารถมารถยั่งรู้ได้เลยนะ

อยาให้ท่านเทพ ชี้แนะจริงๆครับ

[Pekko]

หวัดดีครับ พี่วิบูลย์ (ผมหายไปนาน จำผมได้หรือเปล่า) สัปดาห์ก่อนที่จัดงาน MONEY EXPO มีนักลงทุนหน้าใหม่หลายคนต้องการหาหนังสือซักเล่มอ่านศึกษาหาความรู้ พอดีมาสอบถามผม ผมเลยแนะนำหนังสือ VALUE WAY ของพี่กับอ.มนตรีไป เลยอุดหนุนกันยกใหญ่เลย

ที่สาธยายมาตั้งยืดยาว ไม่ใช่บอกเพียงว่าหนังสือ VALUE WAYดีเท่านั้น คือผมขอค่า COMMISSION เล็กๆ น้อยๆ จากพี่ได้ไหมอ่ะ จะเอาไปซื้อ ปอตอทอ สอพลอ  น่ะครับ  Please Please    

[hongvalue]

พี่วิบูลย์ครับ

ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ

สำหรับเรื่องก่อนหน้านี้

ที่ผมเคยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม

ในกระทู้ของพี่



ขอบคุณพี่ที่เตือนผมเรื่องอย่าเป็นคนมุทะลุมากครับ


ตอนนี้ผมตาสว่างแล้วครับ

คนเราถ้าไม่ผิดพลาด บางทีมันก็ไม่รู้ตัวครับ



เคารพ พี่วิบูลย์ครับ

[Gondar]

สอบถามคุณวิบูลย์ครับ

ถ้าเราหา Intrinsic Value ได้แล้วเราซื้อที่ราคาดังกล่าว

ผลตอบแทนที่เราคาดหวังจะเท่าักับเท่าไรครับเท่ากับ ROE หรือเปล่า

ขอบคุณครับ

[VIB007]

หวัดดีครับ พี่วิบูลย์ (ผมหายไปนาน จำผมได้หรือเปล่า) สัปดาห์ก่อนที่จัดงาน MONEY EXPO มีนักลงทุนหน้าใหม่หลายคนต้องการหาหนังสือซักเล่มอ่านศึกษาหาความรู้ พอดีมาสอบถามผม ผมเลยแนะนำหนังสือ VALUE WAY ของพี่กับอ.มนตรีไป เลยอุดหนุนกันยกใหญ่เลย :

โทษทีที่ตอบช้าครับ
เสาร์อาทิตย์ไม่ได้เข้าเวป

ขายดีแสดงว่าหนังสือพิมพ์มาขายไม่หมด
หวังว่าคงไม่ได้เหลือเล่มละสิบบาทเลหลังนะ อิ อิ

ที่สาธยายมาตั้งยืดยาว ไม่ใช่บอกเพียงว่าหนังสือ VALUE WAYดีเท่านั้น คือผมขอค่า COMMISSION เล็กๆ น้อยๆ จากพี่ได้ไหมอ่ะ จะเอาไปซื้อ ปอตอทอ สอพลอ

[VIB007]

พี่วิบูลย์ครับ

ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ

สำหรับเรื่องก่อนหน้านี้

ที่ผมเคยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม

ในกระทู้ของพี่



ขอบคุณพี่ที่เตือนผมเรื่องอย่าเป็นคนมุทะลุมากครับ


ตอนนี้ผมตาสว่างแล้วครับ

คนเราถ้าไม่ผิดพลาด บางทีมันก็ไม่รู้ตัวครับ



เคารพ พี่วิบูลย์ครับ

เออ...คนเรารู้ตัวดีกว่าไม่รู้ตัว
ถ้าให้ดีตั้งสติก่อนสตาร์ท....ก่อนทำอะไร แม้แต่จะพูดหรือเขียน

ผมชอบนิทานเรื่องหนึ่ง
มีอยู่ว่าเด็กคนหนึ่งเป็นเด็กขี้โมโหมาก
พ่อเห็นจึงให้ค้อนกับตะปูไป
แล้วบอกลูกว่า
"ถ้าโมโหเมื่อไหร่ให้ตอกตะปูกับรั้งข้างบ้านไว้
โมโหหนึ่งครั้งก็ตอกหนึ่งตัว

ปรากฏว่าวันแรกเด็กน้อยตอกตะปูไปห้าตัว
วันที่สองตอกไปอีกสิบตัว

พอวันที่สาม พ่อบอกว่า
ถ้าเรื่องนั้นหายโกรธแล้ว
ให้ถอนตะปูที่ตอกออกได้

เด็กน้อยมาบอกพ่อว่า
ตะปูทั้งหมดสิบห้าตัว
ตอนนี้เหลือแค่สองตัวเอง

พ่อพาลูกเดินมาที่รั้วแล้วบอกลูกว่า
เห็นรอยตะปูที่รั้วนั้นไหม
ถึงแม้เราจะถอนตะปูออกไปแล้ว
รอยตะปูที่รั้งยังคงมีอยู่

เช่นเดียวกัน
ถึงแม้เราจะหายโกรธเพื่อนหรือคนอื่นแล้ว
แต่ความรู้สึกดีๆต่อกันก็หายไปด้วย

ดังนั้นก่อนที่เราจะโกรธใคร
ให้เราคิดถึงรอยตะปูที่รั้งนี้ทุกครั้ง

ตั้งแต่นั้นมาลูกก็ไม่เป็นคนขี้โมโหอีกเลย"
เล่านิทานให้ฟังนะ

เอาละ เรามาคุยกันต่อได้แล้วหรือยัง...ฮง
ว่าแต่ว่ารอบที่ผ่านมารับไปหลายละซิ
ช่วยบอกหน่อยว่าทำอย่างไร ดูอะไร

[VIB007]

สอบถามคุณวิบูลย์ครับ

ถ้าเราหา Intrinsic Value ได้แล้วเราซื้อที่ราคาดังกล่าว

ผลตอบแทนที่เราคาดหวังจะเท่าักับเท่าไรครับเท่ากับ ROE หรือเปล่า

ขอบคุณครับ

ฟันธงไม่ใช่ในระยะสั้น
เราไม่ได้ซือหุ้นที่ราคามูลค่าที่แท้จริง
เราซื้อในราคามีส่วนลดครับ
ดังนั้นผลตอบแทนขึ้นกับราคาที่เราซื้อในตอนต้นด้วย

ถึงแม้เราจะซื้อของเต็มราคาเท่ากับมูลค่าที่แท้จริง
มูลค่าที่แท้จริงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
ยิ่งวุ่นกันใหญ่

แต่ถ้าถือหุ้นนั้นเป็นยี่สิบสามสิบปีขึ้นไป
โอกาสที่ผลตอบแทนจะเข้าใกล้ ROE จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น
บนพื้นฐานที่ว่าบริษัทนั้นทำ ROE ได้ใกล้เคียงเดิม

[VIB007]

เอาครับๆ จะติดตามครับ ผมก็อยากรู้จริงๆเหมือนกันครับ

วันนี้เห็นตอนเช้าทำท่าว่าจะถอย แต่ก็ยังขึ้นได้อีก เออ เอาสิเอา
นายตลาดนิ่ ไม่สารถมารถยั่งรู้ได้เลยนะ

อยาให้ท่านเทพ ชี้แนะจริงๆครับ

อย่าเรียกว่าเทพเลยครับ
ผมยังเท้าติดติน
เป็นแค่"นักลงทุนธรรมดา"เท่านั้น..ขอบอก

[por_jai]

อย่าเรียกว่าเทพเลยครับ
ผมยังเท้าติดติน
เป็นแค่"นักลงทุนธรรมดา"เท่านั้น..ขอบอก

พี่โดมแกไม่ได้อยู่เมืองไทยครับ
ที่เ้มืองไทยเขาไม่ใช่คำว่า"เทพ จิงๆ"มานานแล้ว
เขาใช้คำว่า"เมพ ขิงๆ"แทน