ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 1
ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้ครอบครัวเข้าใจแล้วครับ
ผมพยายาม อธิบายให้ พ่อ-แม่ผม เข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำเนี่ย ผมคิดแบบนักลงทุนนะ ไม่ใช่เก็งกำไร เค้าก็บอก มันเสี่ยงๆ เค้าอยากให้ผมทำงานประจำ ซึ้งอยู่ในความคิดผมในลำดับ สุดท้ายในหัวเลยครับ ตื่นแต่เช้า ไปทำงาน จนถึงเย็น
พอผมบอกว่า ผมจะซื้อ ที่ราคาต่ำ กว่ามูลค่าที่แท้จริง ที่ผมประเมิณได้ เค้าก็จะพูดแต่ว่า เป็นไปไม่ได้ๆ ผมรู้สึกเหมือนผมกับเค้าพูดกันคนละภาษา
ขอความคิดเห็นหน่อยเถอะครับ เป็น idea ไปอธิบาย ให้ ท่านฟัง
ผมพยายาม อธิบายให้ พ่อ-แม่ผม เข้าใจว่าสิ่งที่ผมทำเนี่ย ผมคิดแบบนักลงทุนนะ ไม่ใช่เก็งกำไร เค้าก็บอก มันเสี่ยงๆ เค้าอยากให้ผมทำงานประจำ ซึ้งอยู่ในความคิดผมในลำดับ สุดท้ายในหัวเลยครับ ตื่นแต่เช้า ไปทำงาน จนถึงเย็น
พอผมบอกว่า ผมจะซื้อ ที่ราคาต่ำ กว่ามูลค่าที่แท้จริง ที่ผมประเมิณได้ เค้าก็จะพูดแต่ว่า เป็นไปไม่ได้ๆ ผมรู้สึกเหมือนผมกับเค้าพูดกันคนละภาษา
ขอความคิดเห็นหน่อยเถอะครับ เป็น idea ไปอธิบาย ให้ ท่านฟัง
- Renne
- Verified User
- โพสต์: 322
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 2
ส่วนหนึ่งคงต้องโฟกัสไปงานประจำแหละครับ อยู่ในวัยทำงานต้องทำงานให้หน้าที่การงานโตเร็วที่สุด เรื่องหุ้นเราก็เปรียบเทียบกับการฝากธนาคารได้ครับ บอกว่าที่ทำไปเหมอืนการออม เงินเหลือเก็บจากเงินเดือน10%แทนที่จะเอาไปฝากธนาคาร ได้ดอกเพียง1% เราสามารถทำให้ผลตอบแทน10%ต่อปีในระยะยาวได้
ผมเข้าใจความหวังดีของพ่อแม่นะ เข้าใจว่าต้องการให้เราให้ความสำคัญกับงานหลักก่อน ซึ่งมันก็ถูกต้องครับ ดร นิเวศน์เองก็แนะนำว่าให้ขยันในหน้าที่การงานหลักเป็นอันดับ1ก่อนครับ เรื่องการซื้อหุ้นให้เรามองเป็นการผ่อนส่งความรวย ทยอยสะสมไปเรื่อยๆครับ คงต้องใช้เวลาอธิบายกับหาข้อมูลมาให้ท่านดู เชื่อว่าถ้าเหตุผลดีแล้วเราตั้งหน้าตั้งตากับงานหลักจริงท่านจะเห็นด้วยครับ
ผมเข้าใจความหวังดีของพ่อแม่นะ เข้าใจว่าต้องการให้เราให้ความสำคัญกับงานหลักก่อน ซึ่งมันก็ถูกต้องครับ ดร นิเวศน์เองก็แนะนำว่าให้ขยันในหน้าที่การงานหลักเป็นอันดับ1ก่อนครับ เรื่องการซื้อหุ้นให้เรามองเป็นการผ่อนส่งความรวย ทยอยสะสมไปเรื่อยๆครับ คงต้องใช้เวลาอธิบายกับหาข้อมูลมาให้ท่านดู เชื่อว่าถ้าเหตุผลดีแล้วเราตั้งหน้าตั้งตากับงานหลักจริงท่านจะเห็นด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 3
จงทำตัวเป็นแสงสว่าง แล้วความมืดจะจ่างหายไปเอง
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 4
เงินลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
การลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
ชีวิตเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
แล้วก็งาน...
เป็นของคุณเองด้วยหรือเปล่า..?
ค่าของคนอยู่ที่การทำงานครับ และ...
วัดความสำเร็จจากงานของคุณ
ด้วยรอยยิ้มของคนรอบข้าง
ปล.
งานประจำมันไม่ได้แย่นักหรอกครับ
ประเด็น.. คือ คุณค่าของงานที่เราทำต่างหาก ...
การลงทุนเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
ชีวิตเป็นของคุณเองหรือเปล่า..?
แล้วก็งาน...
เป็นของคุณเองด้วยหรือเปล่า..?
ค่าของคนอยู่ที่การทำงานครับ และ...
วัดความสำเร็จจากงานของคุณ
ด้วยรอยยิ้มของคนรอบข้าง
ปล.
งานประจำมันไม่ได้แย่นักหรอกครับ
ประเด็น.. คือ คุณค่าของงานที่เราทำต่างหาก ...
- songwit
- Verified User
- โพสต์: 279
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 5
ทำงานไปด้วยลงทุนในหุ้นไปด้วยก็ได้นี่ครับ...
เวลาเลิกงานคุณก็ประเมิณราคาหุ้น แล้วส่งคำสั่งซื้อ-ขายเวลาเช้า
เวลาเย็นเลิกงานก็กลับมาดู
หรือว่าคุณเป็นแบบรายวัน
หรือว่าคุณยืมเงินพ่อ-แม่มาเล่น
ผมทำงานไปด้วย-ลงทุนในหุ้นไปด้วย
เวลาเลิกงานคุณก็ประเมิณราคาหุ้น แล้วส่งคำสั่งซื้อ-ขายเวลาเช้า
เวลาเย็นเลิกงานก็กลับมาดู
หรือว่าคุณเป็นแบบรายวัน
หรือว่าคุณยืมเงินพ่อ-แม่มาเล่น
ผมทำงานไปด้วย-ลงทุนในหุ้นไปด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 6
ขออนุญาติยืมคำตอบของพี่วิบูลย์มาตอบนะครับ
พี่วิบูลย์ตอบไว้ว่า
สวัสดีครับ
ผมแนะนำว่าอย่าไปคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นเลย
เขาไม่มีทางเข้าใจด้วยคำอธิบายหรอกครับ
เมื่อไหร่ที่เราประสบความสำเร็จ คนอื่นจะเข้าใจเอง
ผมเลิกคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นมาหลายปีแล้ว
คนส่วนใหญ่มาถามแค่
-ซื้อตัวไหนดี
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ถามกันอยู่แค่นี้
คำตอบผมส่วนใหญ่คนถามจะไม่กลับมาถามอีก
-ซื้อตัวไหนดี
ตอบ ซื้อหุ้นที่เข้าใจธุรกิจที่ราคาไม่แพง
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
ตอบ พอใจก็ขายได้
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ตอบ ไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่ได้ดูตลาดมานานแล้ว
คุยกับคนที่เข้าใจเรื่องเดียวกันก็พอแล้วครับ
ส่วนคนอื่น ช่างมันเถอะ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
พี่วิบูลย์ตอบไว้ว่า
สวัสดีครับ
ผมแนะนำว่าอย่าไปคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นเลย
เขาไม่มีทางเข้าใจด้วยคำอธิบายหรอกครับ
เมื่อไหร่ที่เราประสบความสำเร็จ คนอื่นจะเข้าใจเอง
ผมเลิกคุยกับคนอื่นเรื่องหุ้นมาหลายปีแล้ว
คนส่วนใหญ่มาถามแค่
-ซื้อตัวไหนดี
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ถามกันอยู่แค่นี้
คำตอบผมส่วนใหญ่คนถามจะไม่กลับมาถามอีก
-ซื้อตัวไหนดี
ตอบ ซื้อหุ้นที่เข้าใจธุรกิจที่ราคาไม่แพง
-ราคานี้ขายได้หรือยัง
ตอบ พอใจก็ขายได้
-ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร
ตอบ ไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่ได้ดูตลาดมานานแล้ว
คุยกับคนที่เข้าใจเรื่องเดียวกันก็พอแล้วครับ
ส่วนคนอื่น ช่างมันเถอะ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 7
ตอบแบบ คนตอนนี้ลงทุนอย่างเดียว
ที่บ้านก็ยอมแล้ว :lol:
แบไต๋ให้เค้าดูว่า พอร์ตเราเป็นอย่างไร ตอนเริ่มแล้วปลายปีเป็นไง
ผมใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกว่าทีบ้านจะยอมรับแบบไม่บ่นแล้ว
พวกนี้ต้องใช้เวลาครับ กว่าจะปรับความเข้าใจกับที่บ้านได้
กว่าจะผ่านมาได้ก็หนักครับ
ถ้าพอร์ตเราเติบโต ไม่ว่าจะกำไรจากหุ้น หรือปันผล หรือ ทำงานแล้วเอาเงินเก็บมาเพิ่ม
bottom line คือ เรามีเงินเก็บ
แต่การที่จะออกมาลงทุนอย่างเดียวได้ ผมว่าต้องมีอย่างน้อยปันผล พอค่าใช้จ่ายนะ
ที่สำคัญ เราต้องทำได้จริงๆ ลงทุนเป็นจริงๆ ในระยะยาว
เพื่อนผมเก็งกำไร กำไรประมาณ 3 เดือนผลตอบแทนเกือบๆ 50 %
ผมก็บอกดีแล้วเก่ง แต่ในใจก็คิดเพียงอวยชัยให้เค้ารอดในระยะยาว
ตอนนี้ไม่เหลือแล้วครับ เพราะคิดว่าตัวเองเก่งจริง ใช้มาร์จิ้นเพิ่ม
สุดท้ายหมด
ผมว่าถ้า เราผลตอบแทนมากว่า SET index ทุกปี 3 ปีติด เชื่อว่าน่าจะพอไหวครับ
ที่บ้านก็ยอมแล้ว :lol:
แบไต๋ให้เค้าดูว่า พอร์ตเราเป็นอย่างไร ตอนเริ่มแล้วปลายปีเป็นไง
ผมใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกว่าทีบ้านจะยอมรับแบบไม่บ่นแล้ว
พวกนี้ต้องใช้เวลาครับ กว่าจะปรับความเข้าใจกับที่บ้านได้
กว่าจะผ่านมาได้ก็หนักครับ
ถ้าพอร์ตเราเติบโต ไม่ว่าจะกำไรจากหุ้น หรือปันผล หรือ ทำงานแล้วเอาเงินเก็บมาเพิ่ม
bottom line คือ เรามีเงินเก็บ
แต่การที่จะออกมาลงทุนอย่างเดียวได้ ผมว่าต้องมีอย่างน้อยปันผล พอค่าใช้จ่ายนะ
ที่สำคัญ เราต้องทำได้จริงๆ ลงทุนเป็นจริงๆ ในระยะยาว
เพื่อนผมเก็งกำไร กำไรประมาณ 3 เดือนผลตอบแทนเกือบๆ 50 %
ผมก็บอกดีแล้วเก่ง แต่ในใจก็คิดเพียงอวยชัยให้เค้ารอดในระยะยาว
ตอนนี้ไม่เหลือแล้วครับ เพราะคิดว่าตัวเองเก่งจริง ใช้มาร์จิ้นเพิ่ม
สุดท้ายหมด
ผมว่าถ้า เราผลตอบแทนมากว่า SET index ทุกปี 3 ปีติด เชื่อว่าน่าจะพอไหวครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 8
อยากลงทุนอย่างเดียวเหมือนกันแต่อย่างผมคงทำไม่ได้ครับ เพราะ
1. เงินต้นยังน้อยไม่พอกินอยู่
2. ฝีมือยังอ่อน... กำไรได้แต่ผลตอบแทนไม่สม่ำเสมอยังไม่รู้จริง ต้องสะสมวิชาและประสบการณ์มากกว่านี้
เคยลองทำ projection ดูรู้สึกว่าพอเงินเยอะถึงระดับหนึ่่งเงินเดือนที่อัดเข้าไปจะเริ่มไม่มีผลมากกับ Portfolio แล้ว จะช่วยให้พอร์ทโตเร็วมากก็เฉพาะช่วงแรกๆ
ตอนนี้ผมว่าจะพยายามเพิ่ม Cashflow เข้ามาช่วยให้พอร์ทโตเร็วขึ้น
จะย้ายออกจากคอนโดไปอยู่บ้านน้าแทนแล้วปล่อยคอนโดเช่าเพราะเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวนี่เงินมันเพิ่มไม่ทันใจเลย
เดี๋ยวเร็วๆนี้อีกซัก 2-3 เดือนร้านอาหารที่ผมไปเข้าหุ้นด้วยจะเปิด
ไว้เปิดแล้วจะขอบัตรลดมาแจกเพื่อนๆให้ไปลองทานกันแล้วกันครับ หึๆ ถ้าขายดีคงจะช่วยได้มาก
1. เงินต้นยังน้อยไม่พอกินอยู่
2. ฝีมือยังอ่อน... กำไรได้แต่ผลตอบแทนไม่สม่ำเสมอยังไม่รู้จริง ต้องสะสมวิชาและประสบการณ์มากกว่านี้
เคยลองทำ projection ดูรู้สึกว่าพอเงินเยอะถึงระดับหนึ่่งเงินเดือนที่อัดเข้าไปจะเริ่มไม่มีผลมากกับ Portfolio แล้ว จะช่วยให้พอร์ทโตเร็วมากก็เฉพาะช่วงแรกๆ
ตอนนี้ผมว่าจะพยายามเพิ่ม Cashflow เข้ามาช่วยให้พอร์ทโตเร็วขึ้น
จะย้ายออกจากคอนโดไปอยู่บ้านน้าแทนแล้วปล่อยคอนโดเช่าเพราะเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวนี่เงินมันเพิ่มไม่ทันใจเลย
เดี๋ยวเร็วๆนี้อีกซัก 2-3 เดือนร้านอาหารที่ผมไปเข้าหุ้นด้วยจะเปิด
ไว้เปิดแล้วจะขอบัตรลดมาแจกเพื่อนๆให้ไปลองทานกันแล้วกันครับ หึๆ ถ้าขายดีคงจะช่วยได้มาก
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 9
ผมเล่นระยะกลางครับ ไม่ได้เล่นระยะสั้น เน้นที่การเติบโตของบริษัท สัก 5-10 ปี
*จำเป็นต้องขายเพิ่ม เงินต้นครับเงินต้่นยังน้อย หลังจากนั้นถ้าเงินต้นผมมีมากพอที่จะจ่ายปันผลให้ผมพอ ใช้จ่าย จะเปลี่ยนไปเล่นระยะยาวครับ [ตลอดชีพ]
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากนะครับ ตอนนี้ผมเลือกที่จะยังไม่พูดดีกว่าครับรออีกสักพักดีกว่า
หรือท่านไหนมีประสพการณ์ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ผมจะได้เอาไปพูดกับทางบ้านมั้ง :oops:
*จำเป็นต้องขายเพิ่ม เงินต้นครับเงินต้่นยังน้อย หลังจากนั้นถ้าเงินต้นผมมีมากพอที่จะจ่ายปันผลให้ผมพอ ใช้จ่าย จะเปลี่ยนไปเล่นระยะยาวครับ [ตลอดชีพ]
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากนะครับ ตอนนี้ผมเลือกที่จะยังไม่พูดดีกว่าครับรออีกสักพักดีกว่า
หรือท่านไหนมีประสพการณ์ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ผมจะได้เอาไปพูดกับทางบ้านมั้ง :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 10
เป็นกำลังใจให้นะครับผม :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- konkaikong
- Verified User
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือนครอบครัวจะไม่เข้าใจครับ
โพสต์ที่ 12
คุณ net17 สิ่งที่ผมจะโพสท์นี้อาจไม่ตรงคำถามของคุณซะทีเดียว
ยังไงก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็แล้วกันนะครับ
ผมเองลงทุนในตลาดมาหลายปีตั้งแต่ผมอายุยังน้อย เริ่มซื้อขายครั้งแรกประมาณอายุสิบหก สิบเจ็ด
มีหลายครั้งที่ผมเองก็อยากมาเป็นนักลงทุนแบบ FULL TIME ตอนนี้ก็ล่วงมายี่สิบปีแล้ว
เป็นธรรมดาครับที่คุณพ่อ คุณแม่คงต้องเป็นห่วงเรา เพราะท่านเห็นว่าตลาดหุ้นเอาแน่เอานอนไม่ได้
คนที่เรียนด้านการเงินมา ผู้จัดการกองทุนเอย นายแบงค์เอย ก็เคยขาดทุนจากตลาดกันถ้วนหน้า
ผมไม่แน่ใจว่าคุณ net17 แต่งงานหรือยัง ถ้ายัง ผมว่าคุณยังมีอีกหลายคนที่คุณต้องอธิบายให้เขาฟัง
ลองนึกดูซิครับ ถ้าคุณไปขอลูกสาวเขา แล้วบอกว่า ผมลงเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ว่าที่พ่อตาแม่ยายคุณคงมีคำถามตามมายาวแน่
ผมขอแนะนำด้วยใจจริงครับว่าถ้าเรายังมีประสพการณ์ในวงการธุรกิจไม่มาก ขอให้ลองทำงานดู
การเป็นพนักงานบริษัทก็สามารถช่วยเสริม การลงทุนของเราได้ เพราะคุณจะได้มีโอกาสเป็นคนของวงการ นั้นๆ ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกที่นักวิเคราะห์เข้าไม่ถึง
ทั้งยังได้เรียนรู้การบริหารงานทางธุรกิจ ได้เห็นของจริง ทำให้การลงทุนเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น
การลงทุนจริงๆ หากชำนาญแล้ว เจนสนามดีแล้ว ไม่ต้องใช้เวลามากหรอกครับ แต่อาจต้องอ่านมาก
ส่วนตัวแล้ว ผมอาศัยช่วงเลิกงาน และ วันหยุดในการหาข้อมูล
การเป็นพนักงาน ยังทำให้เราได้สังคม เจอคนหลากหลาย และด้วย Connection เหล่านั้นอีกแหละครับ
ที่ทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากที่เราทำอยู่ ได้ขยายCircle of Competence เหมือนที่ Warren Buffett ว่าไว้
ก็ขอฝากไว้เป็นแง่คิดหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
ขออวยพรให้คุณ NET17 ประสพโชคดีในการลงทุน
ยังไงก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็แล้วกันนะครับ
ผมเองลงทุนในตลาดมาหลายปีตั้งแต่ผมอายุยังน้อย เริ่มซื้อขายครั้งแรกประมาณอายุสิบหก สิบเจ็ด
มีหลายครั้งที่ผมเองก็อยากมาเป็นนักลงทุนแบบ FULL TIME ตอนนี้ก็ล่วงมายี่สิบปีแล้ว
เป็นธรรมดาครับที่คุณพ่อ คุณแม่คงต้องเป็นห่วงเรา เพราะท่านเห็นว่าตลาดหุ้นเอาแน่เอานอนไม่ได้
คนที่เรียนด้านการเงินมา ผู้จัดการกองทุนเอย นายแบงค์เอย ก็เคยขาดทุนจากตลาดกันถ้วนหน้า
ผมไม่แน่ใจว่าคุณ net17 แต่งงานหรือยัง ถ้ายัง ผมว่าคุณยังมีอีกหลายคนที่คุณต้องอธิบายให้เขาฟัง
ลองนึกดูซิครับ ถ้าคุณไปขอลูกสาวเขา แล้วบอกว่า ผมลงเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ว่าที่พ่อตาแม่ยายคุณคงมีคำถามตามมายาวแน่
ผมขอแนะนำด้วยใจจริงครับว่าถ้าเรายังมีประสพการณ์ในวงการธุรกิจไม่มาก ขอให้ลองทำงานดู
การเป็นพนักงานบริษัทก็สามารถช่วยเสริม การลงทุนของเราได้ เพราะคุณจะได้มีโอกาสเป็นคนของวงการ นั้นๆ ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกที่นักวิเคราะห์เข้าไม่ถึง
ทั้งยังได้เรียนรู้การบริหารงานทางธุรกิจ ได้เห็นของจริง ทำให้การลงทุนเกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น
การลงทุนจริงๆ หากชำนาญแล้ว เจนสนามดีแล้ว ไม่ต้องใช้เวลามากหรอกครับ แต่อาจต้องอ่านมาก
ส่วนตัวแล้ว ผมอาศัยช่วงเลิกงาน และ วันหยุดในการหาข้อมูล
การเป็นพนักงาน ยังทำให้เราได้สังคม เจอคนหลากหลาย และด้วย Connection เหล่านั้นอีกแหละครับ
ที่ทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากที่เราทำอยู่ ได้ขยายCircle of Competence เหมือนที่ Warren Buffett ว่าไว้
ก็ขอฝากไว้เป็นแง่คิดหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
ขออวยพรให้คุณ NET17 ประสพโชคดีในการลงทุน
วันนี้คุณมีรองเท้าแล้วหรือยัง