คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

[dome@perth]

อย่าเรียกว่าเทพเลยครับ

ผมยังเท้าติดติน
เป็นแค่"นักลงทุนธรรมดา"เท่านั้น..ขอบอก

ได้ครับพี่ ด้วยความเคารพ

พี่โดมแกไม่ได้อยู่เมืองไทยครับ
ที่เ้มืองไทยเขาไม่ใช่คำว่า"เทพ จิงๆ"มานานแล้ว
เขาใช้คำว่า"เมพ ขิงๆ"แทน

อันนี้ ให้ 2 คำนับ ครับพี่  

[VIB007]

พี่โดมแกไม่ได้อยู่เมืองไทยครับ
ที่เ้มืองไทยเขาไม่ใช่คำว่า"เทพ จิงๆ"มานานแล้ว
เขาใช้คำว่า"เมพ ขิงๆ"แทน

คิดได้ไง :lol:  :lol:  :lol:

[noooon010]

เมพขิงๆ
มาจาก เทพจริงๆ แต่เนื่องจาก พิมพ์เร็วไป
keyboard ติดกัน

พิมพ์เร็วๆ จาก เทพจริงๆ จะเป็น เมพขิงๆครับ

[romee]

ถ้าพี่วิบูลจะเขียน เรื่องตลาดขึ้นจริงหรือหลอก...

เห็นด้วยเลยครับ จะรออ่านนะครับ  :D

[VIB007]

[quote="romee"]ถ้าพี่วิบูลจะเขียน เรื่องตลาดขึ้นจริงหรือหลอก...

เห็นด้วยเลยครับ จะรออ่านนะครับ

[porschebee]

เอาละ เรามาคุยกันต่อได้แล้วหรือยัง...ฮง
ว่าแต่ว่ารอบที่ผ่านมารับไปหลายละซิ
ช่วยบอกหน่อยว่าทำอย่างไร ดูอะไร

หวัดดีค่ะพี่วิบูลย์
เป็นเพื่อนฮงค่ะ ช่วงนี้ฮงเขาไปดูงานกับเพื่อนที่ตจว.ไม่แน่ใจว่า จะกลับมาวันไหน
ฮงเขาฝากบอกว่า ถ้ากลับมาเมื่่อไหร่ จะรีบมาคุยกับพี่วิบูลย์ค่ะ

[VIB007]

หวัดดีค่ะพี่วิบูลย์
เป็นเพื่อนฮงค่ะ ช่วงนี้ฮงเขาไปดูงานกับเพื่อนที่ตจว.ไม่แน่ใจว่า จะกลับมาวันไหน
ฮงเขาฝากบอกว่า ถ้ากลับมาเมื่่อไหร่ จะรีบมาคุยกับพี่วิบูลย์ค่ะ

ขอบคุณครับสำหรับข่าวอัพเดท

อิจฉาฮงว่ะมีสาวๆมาคอยส่งข่าวให้ด้วย
สงสัยช่วงนี้หุ้นขึ้นจะรับตังค์เยอะ
เลยมีเวลาพาสาวๆไปเลี้ยง อิ อิ
(ไม่อยู่เลยนินทาซะหน่อย)

[hongvalue]

เอาละ เรามาคุยกันต่อได้แล้วหรือยัง...ฮง
ว่าแต่ว่ารอบที่ผ่านมารับไปหลายละซิ
ช่วยบอกหน่อยว่าทำอย่างไร ดูอะไร

สวัสดีครับพี่

ขอคุยแบบสบายๆ นะครับ เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด


เหตุผลที่รอบนี้ทำไมมี fundflow ไหลเข้ามา

ผมโพสเอาไว้ในกระทู้ fundflow in q2 แล้วครับ



ส่วนที่ถามว่าทำอย่างไร

ตอนนี้ผมลด port ไปเยอะมากแล้วครับ

เนื่องจากมองว่าหุ้นค่อนข้างแพง



จริงๆแล้วการโยง story ทาง fundflow

ถ้าจะทำอย่างเบ็ดเสร็จนั้น

ค่อนข้างยากครับ

คือจะต้องใช้เวลานานกว่าจะหาว่า

ประเด็นไหนที่ตลาดน่าจะ concern ทั้งในทางบวก

ทางลบครับ


ผมเองกำลังหาและทำสรุปข้อมูลสำหรับแนวโน้ม

q3 อยู่ครับ แต่ก็ยังต่อภาพได้ไม่ครบเลยครับ

มันยังขาดๆเกินๆอยู่

ก็คงจะต้องโทรไปสอบถามผู้ที่เชี่ยวชาญเป็นพักๆ

เพื่อเก็บข้อมูลไปก่อนครับ

เกี่ยวกับประเด็นเรื่องค่าเงินและการแก้ปัญหาของ usa





ผม email ไปถามพระอาจารย์ของผมคนนึง

เขาบอกว่า  ออกไปแล้ว สงสัยขายหมู

แต่พระอาจารย์ของผมอีกคนนึงบอกว่า

จะไป 630 อิอิ ไม่รู้จะเชื่อใครดีเก่งมากๆทั้งคุ่เลย

ก็เลยปวดหัวนั่งหาข้อมูลอยู่น่ะครับ



ผมขอพูดตามตรงว่าผมยังมอง trend ต่อไปไม่ออก

เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้ผมงุนงงดังนี้

ข้อดี (ขอคร่าวๆนะครับ)

ดูจาก ค่าเงินและแนวโน้มแล้วฝรั่งน่าจะซื้อหุ้นไทยต่อไป

การอ่อนตัวของค่าเงินจะทำให้ราคาน้ำมันแพงเนื่องจากคนหนีเงินดอลล่า

ตัวเลข spread bond เข้าสู่ระดับ normalize



ข้อเสีย

คือ pe แพงไปหน่อย

มูลค่าหุ้นแต่ละตัวดูๆแล้วตลาดตอบสนองข่าวดีเข้าไปเยอะ



ผมคิดว่าตอนนี้ตลาดแพงแต่ดูแล้ว fundflow จะยังไม่ไหลออกไปครับ

ถ้าการปรับฐานครั้งนี้ไม่ได้มีข่าวร้ายอะไรทางเศรษฐกิจ

และความเชื่อมั่น และ indicator ต่างๆยังดูดี

ผมก็คิดว่าหุ้นน่าจะขึ้นไปทะลุ 600 จุด

ได้ครับ

ถ้าปรับฐานแล้วผมเช็กข่าวไม่มีประเด็นอะไรแย่ๆโผล่ออกมา

ผมก็จะเข้าไปเก็บส่วนที่ขายไปกลับคืนมาครับ

ขายออกไปเยอะด้วย ไม่แน่ใจว่าจะได้เก็บกลับมาไหม

แต่ถ้าไม่ลงผมก็ไม่ worry อะไร

คงจะรอ short หุ้นจากข้างบนมากกว่าครับ




ส่วนเหตุผลอย่าเพิ่งถามนะครับ

เพราะตอนนี้ผมกำลังรวมรวมข้อมูลและแนวโน้มอยู่เลย

คงยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกอะไรออกมา back ครับ



หาข้อมูลตั้งหลายอาทิตย์แล้วก็ยังต่อภาพแนวโน้ม fundflow   q3 ไม่ครบซะทีเฮ้อ  เก๊กซิม


กลัวๆกล้าๆ อยู่เนี้ยแหละ

[por_jai]

กลัวๆกล้าๆ อยู่เนี้ยแหละ

ผมสังเกตุเวลาเป็นอย่างนี้มักไม่ค่อยเป็นไร

ลงท้ายมีกำไรตลอด

กลับต้องคอยระวังตอนมั่นใจมากๆ

[zesar]

นั่นสิครับพี่ เวลามั่นใจมากแล้วเนือย ๆ นี่ โดนทุกที

[noooon010]

วันนี้มานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ดองไว้  :oops:  
เจอ value way ที่พี่เขียนเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ครับ

fooled by randomness

ขออ้างอิงเนื้อหาจาก blog พี่หมอมานพนะครับ  :D

http://mprandy.blogspot.com/2008/10/foo ... -swan.html

....

ไปๆมาๆ ผมลองทบทวนการลงทุนของผมเอง
ผมพบว่า ผมลงทุนได้ดีกว่า หากไม่จ้องอยู่ที่ ราคาหุ้น หน้าจอ
แต่นำเวลาไปศึกษา business model ,โอกาสทำกำไรในอนาคต, งบการเงิน
(พี่มนจัด course ใหม่แล้วนะครับ ผู้สนใจอย่าลืมไปลงทะเบียนกันนะครับ)

พออ่าน fooled by randomness นี่ ...บางทีผมอาจจะโชคดีหรือเปล่านะครับ :lol:

แต่ว่า ช่วงนั้น เวลาที่เกิดวิกฤติ(ผมไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ว่า วิกฤติจบไปหรือยังนะครับ

)ผมก็สนใจที่จะศึกษาการลงทุนที่เน้นไปที่ value ถ้าธุรกิจ ไม่เจ๊งไป อย่างไรก็ต้องกลับมา

ถ้ามี five forces ที่แข็งแกร่ง ก็จะกลับมาเอง

กระทู้นี้น่าสนใจนะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... highlight=

แล้วผมก็ไม่ประมาทที่จะศึกษา เศรษฐศาสตร์และอืนๆไปด้วย
ค่อยๆศึกษา ค่อยๆลงทุน นึกถึงความสุขที่เรามีขณะนั้นสิครับ
พอทำอะไรด้วยความสุขแล้วสมองมันจะแล่นกว่าตอนเครียดๆจริงๆครับ

อยากบอกว่า ความกลัว และความโลภมีผลต่อการลงทุนของเราจริงๆครับ
กลัวมากเกินไป หรือโลภมากเกินไปนี่ก็ไม่ดี

ไปๆมาๆสิ่งที่ยึดเหนี่ยวผมได้ ก็คือ "ทำอย่างอื่นบ้าง ไม่หมกมุ่น"

[พอนึกไปนึกมา...ไม่น่าเชื่อว่า ประโยคนี้ เป็นประโยคที่จำได้เมื่อตอน ม. 2 นะครับ เพื่อนคนหนึ่งเค้าตอบปัญหาอาจารย์เกี่ยวกับปัญหาสังคม และความเครียด]

ไปๆมาๆเลยได้อ่านหนังสือ ธรรมะ และหนังสืออื่นๆเยอะเลย
หนังสือเป็นเพื่อนที่ดีกับเรา
แต่บางทีเราก็ปล่อยเพื่อนของเรา รอคอย อยู่ในชั้นหนังสือนะครับ
(=ซื้อมาแล้ว ดองไว้ครับ  :oops: )

มีหนังสือหลายเล่ม รอผมไปเจอเค้าน่ะครับ

ผมไม่แน่ใจว่า ตะแกรงร่อนหุ้น มีข้อจำกัดของการ post ไหมครับว่า post อะไรได้บ้าง

แต่ก่อนหน้านี้ เกือบครึ่งปีแล้ว ที่ผมอ่านสิ่งที่พี่วิบูลย์เขียน แล้วก็ทำให้ผมได้ข้อคิดหลายอย่าง

แล้วก็เลยได้ philosophy ของตัวเองครับ
อยากขอบคุณพี่วิบูลย์ และทุกๆท่านที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ

ขอบคุณครับผม

มีความสุขกับการลงทุนนะครับ

[VIB007]

สวัสดีครับพี่

ขอคุยแบบสบายๆ นะครับ เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด

สวัสดีฮง
ตอบช้าหน่อยเพราะเพิ่งมีเวลาเข้าเวป

ก็คุยกันหนุกๆ
อย่าไปคิดมาก
ไปตจว.มาเป็นอย่างไรบ้าง

มาเที่ยวนี้
ดูเหมือนจะใจเย็นขึ้นนะ
ดีแล้วหละ

ว่าแต่ว่า
น้องที่เข้ามาโพสแทนนั้น
"ว่าที่"หรือเปล่า อิ อิ

ส่วนเรื่องหุ้น
พี่ก็เลิกเดาตลาดหุ้นไปลายปีแล้ว
มันจะขึ้นมันจะลงก็ช่างมัน
มันก็เป็นอย่างงี้หละนะ
เดี๋ยวก็ลงเดี๋ยวก็ขึ้น
นึกจะขึ้นก็ขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

"นายตลาด"อารมณ์เดี๋ยวดีเดี่ยวร้าย
เหมือนอย่างอาจารย์เกรแฮมว่าไว้จริงๆ

[VIB007]

ผมสังเกตุเวลาเป็นอย่างนี้มักไม่ค่อยเป็นไร

ลงท้ายมีกำไรตลอด

กลับต้องคอยระวังตอนมั่นใจมากๆ

สวัสดีครับพี่ป้อม
นานๆเข้ามาโพสในกระทู้นี้ทีนะครับ
ท่าทางรอบนี้พี่จะรับทรัพย์ไปเยอะ
อย่าลืมเลี้ยงน้องๆบ้างนะครับ
เอาข้าวต้มปลาหลังสามย่านก็พอ
อิ อิ น่าจะรู้นะว่าร้านอะไร ฮา

[VIB007]

ผมไม่แน่ใจว่า ตะแกรงร่อนหุ้น มีข้อจำกัดของการ post ไหมครับว่า post อะไรได้บ้าง

แต่ก่อนหน้านี้ เกือบครึ่งปีแล้ว ที่ผมอ่านสิ่งที่พี่วิบูลย์เขียน แล้วก็ทำให้ผมได้ข้อคิดหลายอย่าง

แล้วก็เลยได้ philosophy ของตัวเองครับ
อยากขอบคุณพี่วิบูลย์ และทุกๆท่านที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมานะครับ

ขอบคุณครับผม

มีความสุขกับการลงทุนนะครับ

สวัสดีครับหมอนุ่น

ข้อจำกัดในกระทู้นี้ไม่มี
แต่ถ้าใครเอาโมษณาขายยามาโพส
ผมคงบอกให้พรรคพวกช่วยลบ
แค่นั้นหละ

มีความสุขกับการลงทุนเช่นเดียวกันครับ

ช่วงนี้น่าจะเรียกว่า
"ช่วงเวลาแห่งความสุข"
เพราะหุ้นขึ้นสะบั้นหั่นแหลก
รออ่านวันจันทร์นี้เช่นเดิม

[hongvalue]

ผมว่าเรามาคุยเรื่องธรรมะกันดีกว่าครับ



ผมอ่านหนังสือ ตัวกูของกู

ของท่านพุทธทาส

ท่านบอกว่าจริงๆแล้วคนเราแค่ไม่เกิดตัวกูของกูขึ้น

เราก็จะไม่ทุกข์ใจ

สมมุติว่า มีคนมาด่าผมว่าว่า

ไอ้ห่าเอ๋ย

ถ้าผมมีการเกิดขึ้นของตัวกูของกู

ผมก็จะเป็นเดือดเป็นแค้น

ว่าทำไมต้องมาด่าผมด้วย

ด่ามันกลับดีกว่า

แต่ถ้าผมไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวกูของกู

ผมก็จะคิดว่ามันเป็นเพียงเสียงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

และผมก็ปล่อยมันผ่านไป

โดยไม่ได้ยึดติดอะไร



มีคนบอกว่าถ้าคุณเลี้ยงหมาแล้วคุณรักหมาของคุณมาก

ถ้าหมาของคุณถูกรถชนตาย

คุณก็จะเสียใจเป็นทุกข์

แต่ถ้ามันเป็นหมาของข้างบ้านคุณ

แล้วมันตายไปคุณก็เฉยๆ



สรุปว่าจริงๆแล้วความทุกข์นั้นเกิดมาจากการยึดถือยึดติด

ว่ามีตัวเราของๆเรา



ผมเห็นเพื่อนรุ่นพี่ของผมคนนึงอายุประมาณ 28 ปี

มีบ้านมีรถอะไรครบทุกอย่าง

มานั่งกินเบียร์แถวบ้านผมที่ร้านครัวแสวง

ตรงชายทะเลบางขุนเทียน

นั่งกินไปก็มีแต่สีหน้าอมทุกข์

แล้วก็บ่นเรื่องธุรกิจ

ผมก็ถามเขาว่า

เฮ้ย "เมิงก็มีตังค์จะเครียดไปทำห่าอะไรว่ะ"

ผมบอกกับเขาว่าอย่าโกรธผมเลยนะ

แต่ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่เป็นทาสของเงิน

ไม่ใช่เงินเป็นทาสเขา

ตอนนี้เขาบอกว่าเขาอายุ 28 มีทรัพย์สิน-หนี้สินประมาณ

8 ล้านบาท

ผมว่าก็ดีแล้วนี้ จะเครียดอะไรหนักหนา

เขาบอกว่าเขาอยากจะขับรถเบนซ์

หรือไม่ก็ แลมโบกีนี้

ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 เขาก็เลยรู้สึกว่า

เงิน 8 ล้านในตอนอายุ 28 ไม่ทำให้เขามีความสุข

ผมก็เลยถามเขาว่าถ้าสมมุติว่าเขาถูกหวยเดือนหน้า

แล้วมีเงิน 30 ล้านเขาจะมีความสุขหรือเปล่า

เขาบอกว่ามีแน่นอน



แต่ผมว่าผมไม่เชื่อหรอก เดี่ยวเขาก็คิดว่าอยากจะมีรถหรูๆหลายๆคัน อยากนุ่นอยากนี้ แล้วก็เป็นทุกข์อีก




ผมเล่าเรื่องนี้เพราะว่า ผมรู้สึกว่าสังคมเราเดี่ยวนี้

เป็นพวกวัตถุนิยมกันเกินไป

แข่งกันรวยแต่ไม่ได้ดูกันที่จิตใจ ไม่ได้ดูกันที่วิธีการ

ผมถามว่าบางคนรวยหุ้น แต่รวยจากการปั่นหุ้น

กับอีกคนรวยแต่ไม่เคยปั่นหุ้น

คุณค่าของสองคนนี้ก็คงไม่เท่ากันหรอก



เหมือนคนรวยบางคนที่ล้มบนฟูก กับคนที่ทำงาน

สุจริต แต่คนส่วนใหญ่ก็สนใจแต่ว่าใครแต่งตัวดีกว่า

ใครขับรถหรูหรากว่า

โดยที่ไม่ได้ดูว่าเขาได้เงินมาอย่างสุจริตหรือไม่




ผมรู้สึกว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในกลียุค

ที่อเมริกาก็มีแต่คนที่โลภมาก อยากปั่นตัวเลขกำไร

แล้วก็รับความเสี่ยงสูงๆ ทำอะไรเกินตัว

ที่เมืองไทยก็มีแต่คนโกงบ้านกินเมือง

อาทิตย์ที่แล้วผมไปสระบุรี

ผมไปกินอาหารตามสั่ง

ผมบอกเขาว่าเอา

ข้าวกระเพราไก่ไข่เจียว กับ ไส้ตันทอด

พอเขามาเสริฟ ผมถามเขาว่าเท่าไหร่

เขาบอกว่า ร้อยนึง

ผมก็คิดในใจว่ามันจะถึงร้อยนึงได้ไงว่ะ

ร้านแบบนี้ปกติขายข้าวกับไข่ก็ไม่เกิน 25 บาท

แล้วไส้ตันทอดมันจะจานละ 75 บาทได้ไง

ผมก็รู้สึกว่าผมโง่เองแหละ เพราะผมไม่ได้ถามเขาก่อนว่า

เท่าไหร่  ดังนั้นถ้าเขาจะโกงราคาผม เขาก็โกงได้

เพราะว่าเขาทำอาหารเสร็จแล้ว ใครจะไปต่อราคาได้



พูดแล้วก็ผมก็เซ้ง ว่าผมก็เป็นเพื่อนร่วมโลกของเขา

เป็นคนไทยเหมือนกัน  จะมาเอาเปรียบลูกค้าทำไม



หลังๆผมอ่านหนังสือธรรมะแล้วก็เริ่มชิน

เพราะว่าโลกเรามันก็เป็นอย่างนี้แหละ

เราอ่านเพื่อให้เราไม่ยึดติดและเข้าใจ

ระบบความทุกข์ของจิตใจเพื่อป้องกันไม่ให้

เราเครียดกับชีวิตเกินไปในยุคที่เต็มไปด้วย

คนไม่มีหิริโอตปะ แบบยุคนี้

[hongvalue]

มาคุยกันเรื่องสัจธรรมชีวิตกันต่อเถอะครับ

ขอเชิญทุกคนมาร่วมคุยกันนะครับ  :lol:

ผมไปฟังเสี่ยยักษ์พูดที่โบรก kimeng

เขาบอกว่า ตอนแรกเขาลงทุนด้วยเงิน

2 ล้าน ลงทุนไปซักพักเหลือ 1.5 ล้าน

เขาก็ท้อ แต่พี่ชายเขาบอกว่าของแบบนี้มันต้องเสียค่าเทอม

ผมมานั่งคิดดูแล้ว

คนเราต้องเรียนมหาลัย 4 ปี

ถ้าเราเรียนเอกชน

เราคงจะต้องเสียค่าเรียนไปหลายแสน

กับเวลาอีก 4 ปี

เราออกมาทำงานได้เงินเดือน 15000

เราไม่บ่น

แต่บางคนศึกษาเรื่องหุ้น 6 เดือนเล่นไม่ได้ตังค์

ก็เลิกเล่น

ผมคิดว่าจริงๆแล้วถ้าเขาศึกษาตลาดหุ้นดีๆแล้วเขามีเวลาเล่นหุ้นอีกนาน

เขาอาจจะได้เงินหลายสิบล้านหรือแม้แต่ร้อยล้านก็ได้



ผมเห็นด้วยกับคำพูดว่า

ไม่มีคนล้มเหลว มีแต่คนล้มเลิก

เซียนหุ้นทุกวันนี้ก็เคยเจ็บมาแล้วทั้งนั้น

เซียนพันล้านในวันนี้ตอนสมัยต้มยำกุ้ง

แทบจะเอาตัวไม่รอด

แต่ว่าเขาไม่ล้มเลิกไง

เขาเลยกลับมาได้



ถ้ามีเพื่อนๆสมาชิกท่านใดที่รู้สึกท้อแท้เรื่องหุ้น

ผมแนะนำว่าให้ท่านอ่านหนังสือธรรมะ ทำจิตใจให้ปรอดโปร่ง แล้วก็อย่าไปใส่ใจกับความผิดพลาดในอดีต

ไอสไตล์พูดว่าอัจฉริยะเกิดจาก พรสวรรค์ 1% แต่เกิดจาก ความขยัน 99%

ผมคิดว่าถ้าท่านขยันมากพอ ท่านก็สามารถประสบความสำเร็จกับการเล่นหุ้นได้



ตอนสมัยผมเล่นหุ้นปีแรกผมก็ขาดทุน

แต่ผมไม่คิดอะไรมาก ผมก็ศึกษาแล้วก็เล่นใหม่



ผมจำไม่ได้ว่าผมอ่านเจอมาจากที่ไหน

แต่ผมชอบคำพูดคำนี้มากๆถึงมากที่สุด



เขาบอกว่า

คนที่ยิ่งใหญ่คือคนที่ไม่เคยหมดความเป็นเด็ก


ผมอ่านแล้วผมก็งงว่า อะไรคือไม่หมดความเป็นเด็ก

เขาก็ขยายความว่าจริงๆแล้ว

เด็กๆนั้นไม่เคยกังวลกับอนาคต เขาไม่มีฟอร์ม

เขากล้าแสดงออก กล้าคิดกล้าทำ กล้าที่จะฝัน

แต่ผู้ใหญ่นั้น

กลัวกับอนาคตว่า จะดีกว่าตอนนี้ไหม จะแย่ลงไหม

กลัวว่าคนรู้ว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้แล้วเสียฟอร์ม

ไม่กล้าที่จะบอกต่อใครต่อใครว่าเขามีความฝันอะไร



ตอนเด็กๆผมเคยซื้อขนมมาซองนึงราคา 5 บาท

ผมกินแล้วมันไม่อร่อย ผมก็เลยไปขอคืนที่ร้านขนม

ป้าคนขายเขาบอกว่า

แกะแล้วคืนไม่ได้ แต่ผมอยากได้เงินคืน

ผมก็เลยเดินไปถามทุกคนที่อยู่แถวนั้นว่า

จะสามารถซื้อขนมไปจากผมได้ไหม

ถามอยู่ซักพักก็มีเด็กคนนึงยอมซื้อต่อจากผม

ในราคา 5 บาท ทั้งๆที่ขนมนั้นผมกินไปแล้ว

นิดหน่อย



ผมมานึกย้อนกลับไปตอนเด็กๆผมไม่เห็น

จะสนใจเลยว่า ใครจะคิดว่าผมเป็นคนขี้งกหรือเปล่า

ผมก็แค่อยากเอาเงินไปซื้อขนมใหม่เท่านั้นเอง

แต่พอคนเราโตขึ้น

เวลาเราจะทำอะไรซักทีเราก็คิดแล้วคิดอีก

ทำดีไหม ทำแล้วคนอื่นจะมองเราดีหรือเปล่า

อะไรต่างๆนาๆ

ผมตั้งใจว่าผมจะกลับไปคิดและฝันเหมือนเด็กๆ

เราต้องมีจินตนการที่สูง และอย่าสร้างข้อจำกัดให้กับ

ชีวิตของเรา



ถ้าเราไปถามเด็กๆว่า

หนูโตขึ้นอยากเป็นอะไรครับ

เด็กก็จะตอบว่า

อยากเป็นนายก  อยากเป็นเจ้าของบ้านจัดสรร

อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์

เด็กไม่เห็นมานั่งคิดแบบผู้ใหญ่เลยว่า

เราทำได้หรือทำไม่ได้อย่างนุ่นอย่างนี้




ผมอยากกลับเป็นเด็กอีกครั้ง

เด็กที่ไม่สร้างข้อจำกัดอะไรให้กับชีวิตตัวเอง

ไม่วิตกกังวลถึงอนาคตในวันข้างหน้าซึ่งก็ไม่มีใครรู้

เด็กที่อยากเพียงแต่ทำอะไรก็ได้ที่ชีวิตรู้สึกว่าสนุก

โดยที่เงินไม่ต้องมาก่อน






ผมขอบคุณคุณหมอรุ่นพี่คนนึงของผม

คุณหมอคนนี้คอยเตือนสติผมตลอดว่า

ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย

และผมควรจะปรับปรุงตัวอย่างไรบ้าง

ผมโชคดีที่มีกัลยณมิตรที่พูดกับผมตรงๆให้ผมได้

มีโอกาศปรับปรุงตัว

[oatty]

ถามหน่อย  ตอนนี้ฮงรวยแล้วหรือยัง  :?:
ดูจากสำนวนระยะหลัง ๆ เปลี่ยนไปเยอะ  :P
ไม่น่าเชื่อว่าเข้าวัด (templeboxing) แล้วเปลี๋ยนไป๋  :P  :P

[RONNAPUM]

ปัจจุบัน คนทุกคน มีแต่หลง มีแต่คิดถึงอนาคต
เริ่มตั้งแต่เด็ก เด็กก็คิดว่าเมื่อฉันเรียนจบ ก็น่าจะมีความสุข
เมื่อเรียนจบ เด็กก็คิดต่อว่า เมื่อได้งานดีๆทำเดี๋ยวฉันก็มีความสุข
เมื่อได้งานดีทำ ก็คิดต่อว่า เดี่ยวได้ตำแน่งดีๆทำฉันก็มีความสุข
เมื่อได้ตำแน่งดีๆทำ ก็คิดต่อว่า ถ้าเลิกทำงานก็น่าจะมีความสุข

คนทุกคน กำลังวิ่งเข้าหาความสุขโดยการมอง หลง ไปในอนาคต
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีทางมีความสุขที่แท้จนิงได้

กลับมามองกาย มองใจ และรู้ลงปัจจุบันดีกว่าและเราจะได้เข้าใจ
ความจริง  ความจริงของชีวิต

ทุกข์อยู่ที่ กาย-ใจ    

ปล.. ถ้าคุยเรื่องอื่นที่ไม่ใช้ หุ้น พอคุยได้นิดหน่อย แต่ถ้าคุยเรื่องหุ้น
ต้องยอมแพ้ เพราะยัง เด็กอ่อนหัด อยู่  

[noooon010]

มีใครเคยฟังรายการของ ดร. บุญชัย โกศลธนากุล ไหมครับ
http://radio.mcot.net/fm965/programView.php?cliptype=48

ผมฟังสลับกับรายการคุยเล่นเป็นข่าวครับ
รายการของ คุณ หนุ่มเมืองจันทร์ และคุณสายสวรรค์ขยันยิ่งครับ
http://radio.mcot.net/fm965/programView ... iptype=228

มีความสุขกับการพักผ่อนนะครับ  :D

[dome@perth]

ถามหน่อย  ตอนนี้ฮงรวยแล้วหรือยัง  :?:
ดูจากสำนวนระยะหลัง ๆ เปลี่ยนไปเยอะ  :P
ไม่น่าเชื่อว่าเข้าวัด (templeboxing) แล้วเปลี๋ยนไป๋  :P  :P

ใช่ครับ ผมว่า ฮงเขานิ่ง และ สุขุมขึ้นนะ  เห็นไหม
คำว่า " ปล่อยวาง"  ของพี่ พอใจ ใช้ได้จริง :lol:

เอ...ว่าแต่ว่า "โรงเรียนวัด นิ่ เขาสอน มวย หรือ ธรรมะ หว๊า"

คำจำกัดความของคำว่า " รวย " อาจต่างกันนะ น้อง โอ๊ต

แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาใช้อะไรวัดกันนะ ปริมาณ หรือ อันดับ
อย่างเช่น

ถ้าใครมีมากกว่า 100 ถือว่ารวย ถ้ามีน้อยกว่า ยังไม่รวย นี่ใช้ปริมาณวัด

ถ้าใช้อันดับวัด  อย่างเช่น ถ้านับ 500 อันดับ คนทมีทรัพย์มากที่สุด ถือว่าี่รวย อันดับต่ำกว่านั้น ยังไม่รวย

พูดง่ายๆว่า อิงกลุ่ม หรือ อิงเกน :lol:

ผมเคยได้ยินมาว่า เขาจะเรียก Millionaire เมื่อมี one million dollars

ไหนๆ คุยกันเรื่องธรรมะ ขอแจมด้วยคนครับ

แต่คำว่า "รวย" ในคำจำกัดความของผม คือ "ความอิ่ม"

ไม่ไหร่ที่ผม "อิ่มกาย อิ่มใจ " ผมก็ถือว่าผมรวยแล้ว

หลังผม "อิ่มกาย" มีพอเหลือ
ก็แบ่งปันผู้หิวโหย กว่า ได้กิน

หลังผม "อิ่มใจ" มีความสุขเหลือพอ
ก็แบ่งปันน้ำใจ ช่วยเหลือให้คำแนะนำให้กับคนอื่น
ที่มีทุกทางใจครับ :lol:

จงมี "ความสูข กับ ความรวย" ของท่านครับ ไม่งั้น ความรวย จะไม่มี ความหมาย หรือ คำจำกัดความ ใดๆ

[noooon010]

 ผมว่า คำตอบของหลายๆสิ่ง น่าจะเป็น "ความพอเพียง" นะครับ

[VIB007]

สรุปว่าจริงๆแล้วความทุกข์นั้นเกิดมาจากการยึดถือยึดติด

ว่ามีตัวเราของๆเรา

สาธุ

ผมเห็นเพื่อนรุ่นพี่ของผมคนนึงอายุประมาณ 28 ปี

มีบ้านมีรถอะไรครบทุกอย่าง

ตอนนี้เขาบอกว่าเขาอายุ 28 มีทรัพย์สิน-หนี้สินประมาณ

8 ล้านบาท

ผมว่าก็ดีแล้วนี้ จะเครียดอะไรหนักหนา

เขาบอกว่าเขาอยากจะขับรถเบนซ์

หรือไม่ก็ แลมโบกีนี้

ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 เขาก็เลยรู้สึกว่า

เงิน 8 ล้านในตอนอายุ 28 ไม่ทำให้เขามีความสุข

ผมก็เลยถามเขาว่าถ้าสมมุติว่าเขาถูกหวยเดือนหน้า

แล้วมีเงิน 30 ล้านเขาจะมีความสุขหรือเปล่า

เขาบอกว่ามีแน่นอน

แต่ผมว่าผมไม่เชื่อหรอก เดี่ยวเขาก็คิดว่าอยากจะมีรถหรูๆหลายๆคัน อยากนุ่นอยากนี้ แล้วก็เป็นทุกข์อีก

เคยเห็นเศรษฐีพันล้านฆ่าตัวตายไหมครับ
ถ้าไม่
ลองไปหาข่าวเมื่อประมาณเดือนที่แล้วหรือไง
เศรษฐีภูเก็ตขับรถเบนซ์ไปผูกคอตายในสวนยาง

ผมไม่เชื่อนะว่า
ถ้าเรา"คิด"ว่า
เรา"มี"นั่นมีนี่แล้วจะมีความสุข
เพราะพอเรา"มี"สิ่งที่ว่าแล้วจริงๆ
เราก็อาจมีความสุขจอมปลอมสักพัก
จากนั้นเราก็"คิด"ใหม่ว่าถ้าเรา"มี"อะไรเพิ่มเติมอีก
เราถึงจะ"มี"ความสุข

พุทธทาสถึงบอกว่ามนุษย์เหมือนกับหมาวิ่งไล่งับหางตัวเอง
มันไม่มีทางพบความสุขที่แท้จริง
ท่านบอกอีกว่า
"ความสุขที่แท้จริงไม่ต้องใช้เงิน
ความสุขที่ต้องใช้เงินมันเป็นแค่ความสุขชั่วคราว"

ผมเล่าเรื่องนี้เพราะว่า ผมรู้สึกว่าสังคมเราเดี่ยวนี้

เป็นพวกวัตถุนิยมกันเกินไป

แข่งกันรวยแต่ไม่ได้ดูกันที่จิตใจ ไม่ได้ดูกันที่วิธีการ

คนไทยชอบบอกว่าฝรั่งวัตถุนิยม
นั่นเป็นความคิดความเข้าใจของคนๆนั้นเอง

ถ้าเข้าใจจะพบว่า
คนไทย"วัตถุนิยม"ยิ่งกว่าฝรั่งซะอีก

อาทิตย์ที่แล้วผมไปสระบุรี

ผมไปกินอาหารตามสั่ง

ผมบอกเขาว่าเอา

ข้าวกระเพราไก่ไข่เจียว กับ ไส้ตันทอด

พอเขามาเสริฟ ผมถามเขาว่าเท่าไหร่

เขาบอกว่า ร้อยนึง

ผมก็คิดในใจว่ามันจะถึงร้อยนึงได้ไงว่ะ

ร้านแบบนี้ปกติขายข้าวกับไข่ก็ไม่เกิน 25 บาท

แล้วไส้ตันทอดมันจะจานละ 75 บาทได้ไง

ผมก็รู้สึกว่าผมโง่เองแหละ เพราะผมไม่ได้ถามเขาก่อนว่า

เท่าไหร่

[i_sarut]

สิ่งนึงที่ผมชอบในเวบนี้ก็ตรงที่มี ประโยคเด็ดๆ คำคม จากพี่ๆ ที่ใช้ได้ทั้งการลงทุนและชีวิตประจำวันนี่ละ  

ต้องมานั่ง copy ประโยคเด็ดๆเก็บไว้เป็นประจำ  

[LittleChicky]

เห็นคุณฮง พูดถึงเรื่อง "ตัวกูของกู" ผมจึงเอามาฝากครับ เพื่อท่านใดสนใจ http://www.buddhadasa.com/index.html

ดูตรงท้่ายของ Page มีให้อ่านฟรีครับ

[ศิษย์เซียน007]

เวลาแห่งความสุขของผมอย่างหนึ่ง ก็คือการได้อ่านคำตอบทั้งทางโลก(การลงทุน)และทางธรรมของกูรูวิบูลย์ครับ  :)  

ผมสนใจธรรมมะก็เพราะมีโอกาสได้อ่านหนังสือของท่านพุทธทาส ดีใจที่คุณหมอเงินนำสิ่งที่ท่านสอนมาตอบคำถามครับ สาธุๆ

[VIB007]

[quote="ศิษย์เซียน007"]เวลาแห่งความสุขของผมอย่างหนึ่ง ก็คือการได้อ่านคำตอบทั้งทางโลก(การลงทุน)และทางธรรมของกูรูวิบูลย์ครับ

[hongvalue]

[quote="oatty"]ถามหน่อย

[hongvalue]

[quote="ศิษย์เซียน007"]เวลาแห่งความสุขของผมอย่างหนึ่ง ก็คือการได้อ่านคำตอบทั้งทางโลก(การลงทุน)และทางธรรมของกูรูวิบูลย์ครับ

[ศิษย์เซียน007]

เห็นด้วยกับกูรูวิบูลย์เป็นอย่างยิ่งครับ ธรรมมะช่วยให้ผมควบคุมความโลภได้เป็นอย่างดีเลยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่หมีวิ่งได้ใจนักลงทุนอย่างกับโดนวิญญาณกระทิงเข้าสิงเลยครับ :lol: (ขึ้นมาประมาณ50%ถ้าได้ลงทุนไว้แถว400ต้นๆ  ) และที่สำคัญที่สุดที่ก็คือให้ผมกล้าอย่างมีเหตุผลในตอนที่นักลงทุนส่วนใหญ่กลัวครับ

หวัดดีครับคุณฮงเซียนฟันด์โฟว์ นับถือๆeiei   เมื่อผู้ใดเก่งในด้านใดมากๆเมื่อก่อนจะเรียกกันว่าหมอนำหน้าครับเช่น หมอดู หมอนวดแผนโบราณ(สุดยอดรักษาหรือบรรเทาได้หลายโรค) ผมก็เลยขอเรียกกูรูวิบูลย์ว่าหมอเงินเพราะฝีมือระดับพระกาฬเลยครับ นับถือๆ  

[hongvalue]

[quote="ศิษย์เซียน007"]เห็นด้วยกับกูรูวิบูลย์เป็นอย่างยิ่งครับ ธรรมมะช่วยให้ผมควบคุมความโลภได้เป็นอย่างดีเลยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่หมีวิ่งได้ใจนักลงทุนอย่างกับโดนวิญญาณกระทิงเข้าสิงเลยครับ :lol: (ขึ้นมาประมาณ50%ถ้าได้ลงทุนไว้แถว400ต้นๆ