อยากนำวิธีการ VI มาใช้กับการลงทุนในกองทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 32
- ผู้ติดตาม: 0
อยากนำวิธีการ VI มาใช้กับการลงทุนในกองทุน
โพสต์ที่ 1
ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะลงทุนในตลาดฯ เลยลงทุนแต่ในกองทุนรวม ไม่ทราบว่าจะเอานำวิธีการ VI มาใช้กับการลงทุนในกองทุนรวมจะได้หรือเปล่าครับ และมีแนวทางการนำมาปรับใช้อย่างไรครับ ขอเป็นแนวทางในการศึกษาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
อยากนำวิธีการ VI มาใช้กับการลงทุนในกองทุน
โพสต์ที่ 2
1.ดูนโยบายการคัดเลือกหุ้นของผู้จัดการกองทุนนั้นๆว่าเข้ากับหลัก value investing หรือเปล่า
2.เมื่อเรามั่นใจว่ากองทุนที่เราสนใจมีหุ้นทีดี ก็ซื้อในเวลาที่คนอื่นเค้าเทขาย เพื่อให้ได้ margin of safety สูง
3.ลงทุนระยะยาว ไม่ต้องหวั่นไหวกับสภาพตลาดที่ผันผวนครับ แต่ก็ต้องตรวจสอบผลงานของกองทุนเป็นระยะๆ
2.เมื่อเรามั่นใจว่ากองทุนที่เราสนใจมีหุ้นทีดี ก็ซื้อในเวลาที่คนอื่นเค้าเทขาย เพื่อให้ได้ margin of safety สูง
3.ลงทุนระยะยาว ไม่ต้องหวั่นไหวกับสภาพตลาดที่ผันผวนครับ แต่ก็ต้องตรวจสอบผลงานของกองทุนเป็นระยะๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
อยากนำวิธีการ VI มาใช้กับการลงทุนในกองทุน
โพสต์ที่ 3
1.ดูนโยบายการลงทุนว่าเข้ากับตัวเราเองหรือเปล่า ดูหุ้นในport ว่าเป็นหุ้นที่เราคิดว่ามันเต็มมูลค่ารึยัง
2.ต้องดูผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนว่าในช่วงที่ตลาดปกติเป็นอย่างไรดีหรือไม่ดี
3.ซื้อตอนที่ตลาดตกมากๆ แล้วขายเมื่อตลาดมันปกติ หรือว่ามันขึ้น
แต่การลงทุนในกองทุนจะมีข้อเสียคือ
- เมื่อมีคนมาซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น เงินเข้ามาในกองเพิ่มขึ้น ผจก.กองทุนก็จะต้องนำเงินไปซื้อหุ้นเลย ไม่สามารถที่จะเก็บเงินไว้ได้นานๆ เนื่องจากกองทุนต้องรักษาอัตราส่วนการถือหุ้นทั้งหมดให้ได้ตามข้อผูกพันของกองทุนและต้องรักษาอัตราส่วนของหุ้นแต่ละตัวใน port ไม่ให้เกินที่กลต.กำหนด ทำให้หุ้นที่ซื้อมาอาจจะแพงเกินไปแล้วก็ได้ ในทางกลับกันถ้ามีคนมาถอนหน่วยลงทุนมากๆ กองทุนก็จะต้องขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป เหมือนกับโดนบังคับขาย
- อย่าซื้อกองทุนในวันที่ตลาดผันผวนมากๆ เนื่องจากตอนที่เราซื้อหน่วยลงทุนเราจะไม่ทราบว่าเราได้หน่วยลงทุนเท่าไหร่ เราจะทราบก็ต่อเมื่อสิ้นวัน เมื่อตลาดหลักทรัพย์ปิดและกองทุนคำนวณมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นวันไปแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น เราซื้อกองทุนช่วงเช้า(หุ้นยังทรงๆอยู่)แต่พอตลาดปิด หุ้นปิดบวกมากๆ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนสูงขึ้น NAVต่อหน่วยสูงขึ้น ทำให้เราซื้อหน่วยลงทุนที่ต้นทุนสูงๆได้
2.ต้องดูผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนว่าในช่วงที่ตลาดปกติเป็นอย่างไรดีหรือไม่ดี
3.ซื้อตอนที่ตลาดตกมากๆ แล้วขายเมื่อตลาดมันปกติ หรือว่ามันขึ้น
แต่การลงทุนในกองทุนจะมีข้อเสียคือ
- เมื่อมีคนมาซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น เงินเข้ามาในกองเพิ่มขึ้น ผจก.กองทุนก็จะต้องนำเงินไปซื้อหุ้นเลย ไม่สามารถที่จะเก็บเงินไว้ได้นานๆ เนื่องจากกองทุนต้องรักษาอัตราส่วนการถือหุ้นทั้งหมดให้ได้ตามข้อผูกพันของกองทุนและต้องรักษาอัตราส่วนของหุ้นแต่ละตัวใน port ไม่ให้เกินที่กลต.กำหนด ทำให้หุ้นที่ซื้อมาอาจจะแพงเกินไปแล้วก็ได้ ในทางกลับกันถ้ามีคนมาถอนหน่วยลงทุนมากๆ กองทุนก็จะต้องขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป เหมือนกับโดนบังคับขาย
- อย่าซื้อกองทุนในวันที่ตลาดผันผวนมากๆ เนื่องจากตอนที่เราซื้อหน่วยลงทุนเราจะไม่ทราบว่าเราได้หน่วยลงทุนเท่าไหร่ เราจะทราบก็ต่อเมื่อสิ้นวัน เมื่อตลาดหลักทรัพย์ปิดและกองทุนคำนวณมูลค่าทรัพย์สิน ณ สิ้นวันไปแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น เราซื้อกองทุนช่วงเช้า(หุ้นยังทรงๆอยู่)แต่พอตลาดปิด หุ้นปิดบวกมากๆ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนสูงขึ้น NAVต่อหน่วยสูงขึ้น ทำให้เราซื้อหน่วยลงทุนที่ต้นทุนสูงๆได้