Value Way ฉบับวันที่ 26 กันยายน 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
ราคาทองจะไปถึงไหน
ตอนนี้ทองคำกลายเป็นทรัพย์สินที่ทุกคนต่างให้ความสนใจกันมาก สมัยก่อนการซื้อทองมักซื้อเป็นทองรูปพรรณซึ่งสามารถเก็บเป็นการลงทุนหรือนำมาใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับได้ เรียกว่ามีประโยชน์ทั้งสองด้าน ปัจจุบันผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อทองมาเป็นสะสมทองคำแท่งแทน เพราะไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จ การซื้อขายทำได้ง่ายมีราคามาตรฐานเป็นเกณฑ์เหมือนกันทุกร้าน นอกเหนือจากนั้นยังมีโกลด์ฟิวเจอร์มาให้เทรดกันอีก ถ้าสังเกตการสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในวงการการเงินมักบอกว่าตอนนี้กำลังลงทุนในทองคำกันอยู่แทบทั้งสิ้น ใครไม่ลงทุนในทองคำตอนนี้ถือว่าแทบจะตกเทรนด์เลยทีเดียว
ราคาทองคำในตลาดโลกผ่านแนวต้าน 1,000 เหรียญต่อออนซ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2008 ก่อนหน้าที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แบร์สเติร์น (Bear Stern) จะล้มละลายจากนั้นเมื่อเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ขึ้น ราคาทองคำลดลงเหลือ 700 เหรียญในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ล่าสุดราคาทองคำได้ทะลุผ่าน 1,000 เหรียญอีกครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงต่ำกว่าระดับนี้
หลายสำนักมองว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นไปอีก จิม โรเจอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณท์คาดว่าราคาทองคำจะสูงกว่าระดับสูงสุดในปี 1980 หลังจากปรับค่าอัตราเงินเฟ้อแล้วที่ 2,312 เหรียญต่อออนซ์ เขากล่าวว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาขึ้นและจะเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นเวลาหลายปี เมื่อไหร่ที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดผ่อนคลายทางการเงินเมื่อไหร่ อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น เมื่อนั้นทองคำจะเป็นการลงทุนที่ดี ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ แต่โรเจอร์คิดว่าสินค้าโภคภัณท์อื่นๆจะทำผลตอบแทนได้ดีกว่าทองคำ เช่น ฝ้ายหรือตะกั่วที่ราคายังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนักในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนจอห์น แฮตตาเวย์ (John Hathaway) ผู้จัดการกองทุนทองคำของ Tocqueville Gold Fund มีความเห็นเช่นเดียวกับโรเจอร์ที่มองว่าราคาทองคำจะสูงขึ้นไปได้อีกมาก เขาบอกว่าราคาทองคำอาจไปถึง 5,000 เหรียญต่อออนซ์เลยทีเดียว สาเหตุนอกเหนือจากอัตราเงินเฝ้อที่จะเพิ่มขึ้นแล้ว ราคาทองคำยังมีความสัมพันธ์กับดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นนิวยอร์คอีกด้วย
แต่การทำนายราคาทองคำดังกล่าวอาจดูเหมือนจะสูงเกินไป ถ้าดูจากดีมานด์ซัพพลายของทองคำในตลาดโลก บริษัทเหมืองทองคำทั่วโลกลงทุนเพิ่มเติมในการขยายกำลังการผลิตของเหมืองไปกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญ (กว่า 1 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นของภาวะกระทิงของราคาทองคำ ผลผลิตของเหมืองทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 7% ในช่วงหกเดือนนับตั้งแต่ต้นปีนี้หลังจากการผลิตลดลงมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหมืองทองคำในประเทศจีน รัสเซียและอินโดนีเซียเพิ่มกำลังการผลิตเป็นจำนวนมาก คาดการณ์ว่าเหมืองใหม่ๆสามารถผลิตทองคำได้ถึงปีละ 450 ตันคิดเป็น 5% ของการผลิตทั้งหมดซึ่งมากเพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นราคาทองคำที่สูงทำให้มีผู้เล่นเข้ามาในธุรกิจรับหลอมทองคำมากขึ้น ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ทองคำที่ได้จากการหลอมทองคำเก่าจากเหรียญทองคำหรือเศษทองเพิ่มขึ้นถึง 900 ตัน ถ้าดูดีมานด์จากการใช้ทองคำในอุตสาหกรรมและทองรูปพรรณจะพบว่ามีความต้องการลดลงไปถึง 20% ในปี 2008
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำในช่วงนี้สวนทางกับปัจจัยพื้นฐานหรือดีมานด์ซัพพลายของตลาดเป็นอย่างมาก การเพิ่มขึ้นของทองคำในช่วงนี้น่าจะมาจากการเข้าเก็งกำไรของเฮดฟันด์และกองทุนรายใหญ่ที่อาศัยการเล่นข่าวของปัญหาของสถาบันการเงินและอัตราเงินเฝ้อในอนาคตคล้ายๆกับฟองสบู่ในราคาน้ำมันเมื่อปีที่ผ่านมา
ไม่ว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปกว่านี้ นักลงทุนที่สนใจในการลงทุนทองคำควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมของปัจจัยที่มีผลกระทบกับราคาทองคำในตลาดโลกและราคาในประเทศให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นแมงเม่าในตลาดทองคำเหมือนเช่นในตลาดหุ้น
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์
9 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
-
PERFECT LUCKY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
-
Palm
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 2
แถมให้ครับ อันนี้เป็นมุมมองของ hedge fund อีกคน ชื่อjohn paulson ทำกำไรมหาศาลจาก วิกฤตเมื่อปีที่แล้ว
http://online.wsj.com/article/SB1000142 ... opCarousel
ส่วนหนึ่งของบทความที่เกียวกับทองครับ
As Mr. Paulson and others at his office discussed how much was being spent by the United States and other nations to rescue areas of the economy crippled by the financial collapse, he discovered his next targets, certain they were as doomed to collapse as subprime mortgages once had been: the U.S. dollar and other major currencies.
Mr. Paulson made a calculation: The supply of dollars had expanded by 120% over several months. That surely would lead to a drop in its value, and an eventual surge in inflation. "What's the only asset that will hold value? It's got to be gold," Mr. Paulson argued.
Paulson & Co. had never dabbled in gold, and had no currency experts. He was also one of many warming to gold investments, worrying some investors. Some investors withdrew money from the fund, pushing his assets down to $28 billion or so.
Mr. Paulson acknowledged that his was a straightforward argument, but he paid the critics little heed.
"Three or four years from now, people will ask why they didn't buy gold earlier," Mr. Paulson said.
He purchased billions of dollars of gold investments. Betting against the dollar would be his new trade.
http://online.wsj.com/article/SB1000142 ... opCarousel
ส่วนหนึ่งของบทความที่เกียวกับทองครับ
As Mr. Paulson and others at his office discussed how much was being spent by the United States and other nations to rescue areas of the economy crippled by the financial collapse, he discovered his next targets, certain they were as doomed to collapse as subprime mortgages once had been: the U.S. dollar and other major currencies.
Mr. Paulson made a calculation: The supply of dollars had expanded by 120% over several months. That surely would lead to a drop in its value, and an eventual surge in inflation. "What's the only asset that will hold value? It's got to be gold," Mr. Paulson argued.
Paulson & Co. had never dabbled in gold, and had no currency experts. He was also one of many warming to gold investments, worrying some investors. Some investors withdrew money from the fund, pushing his assets down to $28 billion or so.
Mr. Paulson acknowledged that his was a straightforward argument, but he paid the critics little heed.
"Three or four years from now, people will ask why they didn't buy gold earlier," Mr. Paulson said.
He purchased billions of dollars of gold investments. Betting against the dollar would be his new trade.
-
por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 3
หลายสำนักมองว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นไปอีก จิม โรเจอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณท์คาดว่าราคาทองคำจะสูงกว่าระดับสูงสุด ในปี 1980 หลังจากปรับค่าอัตราเงินเฟ้อแล้วที่ 2,312 เหรียญต่อออนซ์
เคยอ่านเจอว่าแค่เกือบๆ1800
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Update ข่าวราคาทองคำ
โพสต์ที่ 4
สรุปราคาเมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ย.52
Open 1059.31
High 1087.84
Low 1055.20
Close 1084.15
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ :
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานพุ่งขึ้น0.9 % ในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 0.8 % ในเดือนส.ค. ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานอาจเพิ่มขึ้น 0.8 % ในเดือนก.ย.
ราคาทองทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือ 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร ถึงแม้ดอลลาร์อยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขายทอง 200 ตันให้ธนาคารกลางอินเดีย ราคาทองขึ้นไปแตะ 1,080.60 ดอลลาร์ในระหว่างวัน IMF แถลงในวันจันทร์ว่า IMF ขายทองให้อินเดียเป็นมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ โดย IMF เคยส่งสัญญาณมานานแล้วว่าจะขายทองออกมาราว 400 ตัน ดังนั้นการที่ IMF ประกาศข่าวเรื่องการขายทอง 200 ตันให้อินเดียในครั้งนี้จึงช่วยลดความไม่แน่นอน ในตลาด และแสดงให้เห็นว่าอุปทานทองที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคตลดลง นายโรบิน บาร์ นักวิเคราะห์โลหะของบริษัทแคลยอนกล่าวว่า นักลงทุน คาดหวังว่า IMF จะขายทองที่เหลือให้แก่ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆได้เช่นกัน
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม :
แม้ว่าการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ที่ได้มีการคาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.1% จาก -0.8% ในเดือนส.ค. จะเพิ่มขึ้นไม่เท่าที่คาดการณ์แต่มียอดการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนสูงถึง 0.9 % นั่นช่วยบ่งชี้ทิศทางให้นักลงทุนหันกลับมาให้ความสำคัญในสินค้าโภคภัณฑ์และแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ในขณะที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวได้นั่นเอง แต่ข้อมูลนี้กลับไม่ได้ช่วยหนุนให้ดอลลาร์เป็นที่ต้องการให้กับนักลงทุนที่มองหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้เมื่อเช้าวานนี้เอง ออสเตรเลียได้มีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิม 3.25 % เป็น 3.5 % และเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดนั้นช่วยหนุนให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐและหันมาให้ความสนใจในสกุลเงินหลักอื่นๆแทน พร้อมกันนี้ ราคาทองคำยังพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้งที่ระดับ 1081 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเปิดตลาดเพียง 2 ชั่วโมง ( 22.00น. เวลาไทย ) และพุ่งขึ้นไปทำ New Hight ที่ระดับ 1086 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา ตี 1 ตามเวลาประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังมีแรงหนุนจากความเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ จาก ปธน.โอบามากล่าวในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำเนียบขาวว่า"เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว แต่อัตราการปลดพนักงานออกในปัจจุบัน "น่าวิตก " และตลาดแรงงานจะไม่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราคาดว่าเราจะยังคงเห็นการปลดพนักงานในสัปดาห์และเดือนต่อๆไป "
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้Date 4/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1112.70
Resistant 2 1092.92
Resistant 1 1087.84
Support 1 1078.12
Support 2 1070.16
Support 3 1066.33
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
Open 1059.31
High 1087.84
Low 1055.20
Close 1084.15
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ :
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานพุ่งขึ้น0.9 % ในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 0.8 % ในเดือนส.ค. ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานอาจเพิ่มขึ้น 0.8 % ในเดือนก.ย.
ราคาทองทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือ 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร ถึงแม้ดอลลาร์อยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขายทอง 200 ตันให้ธนาคารกลางอินเดีย ราคาทองขึ้นไปแตะ 1,080.60 ดอลลาร์ในระหว่างวัน IMF แถลงในวันจันทร์ว่า IMF ขายทองให้อินเดียเป็นมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ โดย IMF เคยส่งสัญญาณมานานแล้วว่าจะขายทองออกมาราว 400 ตัน ดังนั้นการที่ IMF ประกาศข่าวเรื่องการขายทอง 200 ตันให้อินเดียในครั้งนี้จึงช่วยลดความไม่แน่นอน ในตลาด และแสดงให้เห็นว่าอุปทานทองที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคตลดลง นายโรบิน บาร์ นักวิเคราะห์โลหะของบริษัทแคลยอนกล่าวว่า นักลงทุน คาดหวังว่า IMF จะขายทองที่เหลือให้แก่ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆได้เช่นกัน
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม :
แม้ว่าการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ที่ได้มีการคาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.1% จาก -0.8% ในเดือนส.ค. จะเพิ่มขึ้นไม่เท่าที่คาดการณ์แต่มียอดการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนสูงถึง 0.9 % นั่นช่วยบ่งชี้ทิศทางให้นักลงทุนหันกลับมาให้ความสำคัญในสินค้าโภคภัณฑ์และแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ในขณะที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวได้นั่นเอง แต่ข้อมูลนี้กลับไม่ได้ช่วยหนุนให้ดอลลาร์เป็นที่ต้องการให้กับนักลงทุนที่มองหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้เมื่อเช้าวานนี้เอง ออสเตรเลียได้มีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิม 3.25 % เป็น 3.5 % และเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดนั้นช่วยหนุนให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐและหันมาให้ความสนใจในสกุลเงินหลักอื่นๆแทน พร้อมกันนี้ ราคาทองคำยังพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้งที่ระดับ 1081 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเปิดตลาดเพียง 2 ชั่วโมง ( 22.00น. เวลาไทย ) และพุ่งขึ้นไปทำ New Hight ที่ระดับ 1086 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา ตี 1 ตามเวลาประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังมีแรงหนุนจากความเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ จาก ปธน.โอบามากล่าวในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำเนียบขาวว่า"เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว แต่อัตราการปลดพนักงานออกในปัจจุบัน "น่าวิตก " และตลาดแรงงานจะไม่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราคาดว่าเราจะยังคงเห็นการปลดพนักงานในสัปดาห์และเดือนต่อๆไป "
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้Date 4/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1112.70
Resistant 2 1092.92
Resistant 1 1087.84
Support 1 1078.12
Support 2 1070.16
Support 3 1066.33
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 5
สรุปราคาเมื่อวันพุธที่ 4 พ.ย.52
Open 1084.15
High 1097.50
Low 1079.85
Close 1091.90
สำหรับทิศทางราคาทองคำวันนี้ ยังคงอยู่ในฐานราคาระดับสูงต่อไป
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้Date 5/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1110
Resistant 2 1100
Resistant 1 1094.40
Support 1 1085.43
Support 2 1080.21-1079.69
Support 3 1067.42
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
Open 1084.15
High 1097.50
Low 1079.85
Close 1091.90
สำหรับทิศทางราคาทองคำวันนี้ ยังคงอยู่ในฐานราคาระดับสูงต่อไป
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้Date 5/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1110
Resistant 2 1100
Resistant 1 1094.40
Support 1 1085.43
Support 2 1080.21-1079.69
Support 3 1067.42
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 6
สรุปราคาทองคำที่ 5 พฤศจิกายน 2552
Open 1091.70
High 1094.40
Low 1084.02
Close 1090.00
ส่วนทิศทางของราคาทองคำ เมื่อคืนนี้ราคาทองคำในตลาดโลกทรงตัวอยู่ในกรอบแคบ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ตามคาด สำหรับแนวโน้มทางเทคนิคระยะสั้น ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ Sideway และค่อยๆ แคบลง ซึ่งในทางเทคนิคเชื่อว่าหลังจากจบปลายสามเหลี่ยมแล้ว ราคามักจะมีการแกว่งตัวออกไปทางด้านใดด้านหนึ่งอย่างรุนแรง ซึ่งหากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานประกอบ พบว่าตลาดได้รับรู้ข่าวที่สนับสนุนให้ราคาปรับขึ้นมาไปหมดแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงเลือกอยู่ข้างขายเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อดักทางการขายทำกำไร
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
Open 1091.70
High 1094.40
Low 1084.02
Close 1090.00
ส่วนทิศทางของราคาทองคำ เมื่อคืนนี้ราคาทองคำในตลาดโลกทรงตัวอยู่ในกรอบแคบ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ตามคาด สำหรับแนวโน้มทางเทคนิคระยะสั้น ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ Sideway และค่อยๆ แคบลง ซึ่งในทางเทคนิคเชื่อว่าหลังจากจบปลายสามเหลี่ยมแล้ว ราคามักจะมีการแกว่งตัวออกไปทางด้านใดด้านหนึ่งอย่างรุนแรง ซึ่งหากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานประกอบ พบว่าตลาดได้รับรู้ข่าวที่สนับสนุนให้ราคาปรับขึ้นมาไปหมดแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงเลือกอยู่ข้างขายเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อดักทางการขายทำกำไร
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปราคาทองคำ
โพสต์ที่ 7
สรุปราคาทองคำวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2552
Open 1090.15
High 1101.05
Low 1086.52
Close 1094.60
สำหรับทิศทางราคาทองคำวันนี้ เนื่องจาก ทิศทางของดอลลาร์ที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายและหันไปให้ความสำคัญในสกุลเงินอื่นและทองคำ ที่ให้ผลตอบแทนสูงและปลอดภัยกับการลงทุนมากกว่า และจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น เมื่อจะทำการซื้อทองคำจึงจำเป็นต้องใช้ดอลลาร์จำนวนมากขึ้นในการซื้อทองคำเข้ามาครอบครอง มูลค่าของทองคำจึงสูงขึ้น ตามไปด้วย แม้ว่าช่วงปิดตลาดทองคำถูกเทขายลงมาบ้างแล้วจากระดับสูงสุดครั้งใหม่ แต่ก็ไม่ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าราคาทองคำจะปรับฐานลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1080 ได้ในเร็ววัน จึงมีแรงบวกกลับขึ้นไปยืนเหนือราคา 1100 ได้อีกครั้งในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งหากยังคงมีกระแสความกังวลบวกกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะเติบโตเช่นนี้แล้ว ราคาทองคำอาจยังคงอยู่ในระดับสูงสุดนี้ต่อไป และอาจทำสถิติใหม่อีกครั้งได้ในเร็วๆนี้
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้
Date 9/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1119.90
Resistant 2 1112.10
Resistant 1 1104.35
Support 1 1092.35
Support 2 1088.24
Support 3 1085.03
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
Open 1090.15
High 1101.05
Low 1086.52
Close 1094.60
สำหรับทิศทางราคาทองคำวันนี้ เนื่องจาก ทิศทางของดอลลาร์ที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายและหันไปให้ความสำคัญในสกุลเงินอื่นและทองคำ ที่ให้ผลตอบแทนสูงและปลอดภัยกับการลงทุนมากกว่า และจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น เมื่อจะทำการซื้อทองคำจึงจำเป็นต้องใช้ดอลลาร์จำนวนมากขึ้นในการซื้อทองคำเข้ามาครอบครอง มูลค่าของทองคำจึงสูงขึ้น ตามไปด้วย แม้ว่าช่วงปิดตลาดทองคำถูกเทขายลงมาบ้างแล้วจากระดับสูงสุดครั้งใหม่ แต่ก็ไม่ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าราคาทองคำจะปรับฐานลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1080 ได้ในเร็ววัน จึงมีแรงบวกกลับขึ้นไปยืนเหนือราคา 1100 ได้อีกครั้งในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งหากยังคงมีกระแสความกังวลบวกกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะเติบโตเช่นนี้แล้ว ราคาทองคำอาจยังคงอยู่ในระดับสูงสุดนี้ต่อไป และอาจทำสถิติใหม่อีกครั้งได้ในเร็วๆนี้
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ วันนี้
Date 9/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1119.90
Resistant 2 1112.10
Resistant 1 1104.35
Support 1 1092.35
Support 2 1088.24
Support 3 1085.03
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองคำ
โพสต์ที่ 8
วันนี่ราคาทองคำ ขึ้นไป แตะที่ 1132 USD แล้วครับ
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
-
kolla9
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาทองจะไปถึงไหน:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 9
แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญ
Date 23/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1172.50
Resistant 2 1169.20
Resistant 1 1166.67
Support 1 1151.60
Support 2 1146.05
Support 3 1143.09
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,150.10 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ซึ่งใกล้ระดับสูงสุด เนื่องจากภาวะความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าราคามีการปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,135 ดอลลาร์ แล้วก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นต่อทิศทางของดอลลาร์ที่จะมีแรงบวกนั้นมีน้อยเกินกว่าที่นักลงทุนจะรับได้ จึงพยายามป้องกันความเสี่ยงโดยการถือครอง ทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย นั่นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทองคำยังคงรักษาแรบวกได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าวันนี้การคาดการณ์ด้านข้อมูลยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐจะมีมุมมองในเชิงบวก แต่นั่นอาจไม่สามารถกระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่ว่าดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าและดึงดูดนักลงทุนให้สนใจในผลตอบแทนของดอลลาร์ได้อีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่มีความกังวลกันมากยิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอาจพุ่งขึ้นมากเกินไป มีผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล การขายดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกลายเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ระดับต่ำและสภาพคล่องที่ระดับสูงดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูง และดอลลาร์ยังคงมีโอกาสร่วงลงได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาดอลลาร์ไต่ขึ้นมาแล้ว 7.5 % จากสถิติต่ำสุดที่ 1.6040 ดอลลาร์/ยูโรที่ทำไว้ในเดือนก.ค.ปี 2008 นอกจากนี้ ปริมาณการถือครองสถานะขายในดอลลาร์ก็ไมได้อยู่ที่ระดับสูงเกินไปในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าหากมีข่าวเศรษฐกิจในทางบวกออกมาอีก นักเก็งกำไรก็อาจรีบขายดอลลาร์ออก ในระยะอันใกล้นี้ ตลาดสกุลเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น โดยค่าสัมประสิทธิ์ความสอดคล้อง (correlation coefficient)ระยะ 25 วันระหว่างดัชนี S&P 500 กับยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 0.77 ในปัจจุบัน ถึงแม้ค่าความสัมพันธ์นี้อ่อนลงมาบ้างเล็กน้อยนับตั้งแต่เดือนต.ค. ความอ่อนแอของดอลลาร์กลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมา แต่การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ไม่ยั่งยืน เพราะข่าวเศรษฐกิจอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง และราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในระยะนี้ วันจันทร์ที่ 23 พ.ย.ก็ถือเป็นวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น ตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และนักลงทุนหลายคนจะถือโอกาสลางานในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.ด้วย
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
Date 23/11/2009
Gold Spot
Resistant 3 1172.50
Resistant 2 1169.20
Resistant 1 1166.67
Support 1 1151.60
Support 2 1146.05
Support 3 1143.09
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,150.10 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ซึ่งใกล้ระดับสูงสุด เนื่องจากภาวะความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าราคามีการปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,135 ดอลลาร์ แล้วก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นต่อทิศทางของดอลลาร์ที่จะมีแรงบวกนั้นมีน้อยเกินกว่าที่นักลงทุนจะรับได้ จึงพยายามป้องกันความเสี่ยงโดยการถือครอง ทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย นั่นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทองคำยังคงรักษาแรบวกได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าวันนี้การคาดการณ์ด้านข้อมูลยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐจะมีมุมมองในเชิงบวก แต่นั่นอาจไม่สามารถกระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่ว่าดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าและดึงดูดนักลงทุนให้สนใจในผลตอบแทนของดอลลาร์ได้อีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่มีความกังวลกันมากยิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอาจพุ่งขึ้นมากเกินไป มีผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล การขายดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกลายเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ระดับต่ำและสภาพคล่องที่ระดับสูงดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูง และดอลลาร์ยังคงมีโอกาสร่วงลงได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาดอลลาร์ไต่ขึ้นมาแล้ว 7.5 % จากสถิติต่ำสุดที่ 1.6040 ดอลลาร์/ยูโรที่ทำไว้ในเดือนก.ค.ปี 2008 นอกจากนี้ ปริมาณการถือครองสถานะขายในดอลลาร์ก็ไมได้อยู่ที่ระดับสูงเกินไปในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าหากมีข่าวเศรษฐกิจในทางบวกออกมาอีก นักเก็งกำไรก็อาจรีบขายดอลลาร์ออก ในระยะอันใกล้นี้ ตลาดสกุลเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น โดยค่าสัมประสิทธิ์ความสอดคล้อง (correlation coefficient)ระยะ 25 วันระหว่างดัชนี S&P 500 กับยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 0.77 ในปัจจุบัน ถึงแม้ค่าความสัมพันธ์นี้อ่อนลงมาบ้างเล็กน้อยนับตั้งแต่เดือนต.ค. ความอ่อนแอของดอลลาร์กลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมา แต่การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ไม่ยั่งยืน เพราะข่าวเศรษฐกิจอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง และราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในระยะนี้ วันจันทร์ที่ 23 พ.ย.ก็ถือเป็นวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น ตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และนักลงทุนหลายคนจะถือโอกาสลางานในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.ด้วย
สามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
โพสต์
9 โพสต์
• หน้า 1 จากทั้งหมด 1
บันทึกไม่สำเร็จ