TMB วิกฤติคือโอกาส
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 1
ผมเห็นว่า TMB ตอนนี้น่าลงทุน ทั้งที่ข่าวทั้งหลายออกมาไม่ดี เนื่องจาก
1. ตอนนี้แผนการระดมทุนของ TMB ชัดเจนแล้ว กระทรวงการคลังก็จะรับซื้อหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่รับซื้อ ความเสี่ยงเรื่องทุนไม่พอจะจบลง
2. ผมไม่คิดว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะทิ้งสิทธิ์ ถ้าหากดูจาก ANZ bid ที่ 2.50 ผมว่ารัฐบาลชุดนี้ฉลาดมาก ที่ไม่ยอมตามก้นฝรั่งเหมือนเมื่อก่อน เมื่อรู้ว่าฝรั่งชอบกดราคานัก ก็ขายให้คนไทยด้วยกันเองซะเลย ขายแพงกว่าที่ฝรั่งเสนอให้นิดหน่อย แต่ก็ยังเรียกว่าถูกอยู่ดี เป็น win-win situation คือ ผู้ถือหุ้นเดิมก็ได้ประโยชน์ ประเทศก็ได้ประโยชน์ แบงค์ก็ได้ประโยชน์
3. ผู้ถือหุ้นเดิมที่เพิ่มทุนรอบที่แล้วที่ 10 บาท ขาดทุนไปตั้งเยอะแล้ว ถ้าต้องเพิ่มทุนใหม่ ทำยังไงถึงจะคืนทุนได้เร็วๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คือต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ของเก่า 10 บาท ของใหม่ 3.50 บาท อัตราส่วน 5:8 เท่ากับราคาเฉลี่ย 6 บาท ราคานี้มีสิทธิหลุดดอยได้ง่ายกว่าเดิมตั้งเยอะ
4. ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิม ซื้อตอนนี้ 4 บาทกว่า เพิ่มทุนอีก 3.50 ทุนก็อยู่ในราว 3 บาทกว่าๆ (ขี้เกียจกดเครื่องคิดเลข) ราคาพาร์ 10 บาท ราคาบุ๊คแวลู 7 บาท (อ่านจากที่ไหน จำไม่ได้) ต่อให้ต้องตั้งสำรองอีกตั้งเยอะ ราคา 3 บาทกว่านี้ ก็น่าสนใจมากแล้ว
5. เรื่องลดทุนไม่ต้องไปกลัว เพราะเดี๋ยวนี้เขาใช้วิธีลดพาร์กันแล้ว ไม่มีใครใช้วิธีลดจำนวนหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมเจ็บตัวหรอก การเพิ่มทุนที่ราคาต่ำกว่าพาร์นี้ ก็เป็นการใช้พรีเมียมที่มีอยู่ให้หมดไปวิธีหนึ่งด้วย
เมื่อเทียบกับบางจากแล้ว ตัวนี้ยังดีกว่าบางจากอีก เพราะบางจากยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการขายหุ้นกู้และหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อมากน้อยแค่ไหน แต่ตัวนี้เพิ่มทุนรอบนี้แล้วจบเลย
แนวคิดของผมไม่มีการคำนวณประกอบ แถมข้อมูลก็อาจจะมั่วๆอยู่บ้าง เป็นแบบชาวบ้านพูดกัน อาจจะไม่ใช่ VI และไม่เป็นวิชาการ เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานประกอบ
1. ตอนนี้แผนการระดมทุนของ TMB ชัดเจนแล้ว กระทรวงการคลังก็จะรับซื้อหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่รับซื้อ ความเสี่ยงเรื่องทุนไม่พอจะจบลง
2. ผมไม่คิดว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะทิ้งสิทธิ์ ถ้าหากดูจาก ANZ bid ที่ 2.50 ผมว่ารัฐบาลชุดนี้ฉลาดมาก ที่ไม่ยอมตามก้นฝรั่งเหมือนเมื่อก่อน เมื่อรู้ว่าฝรั่งชอบกดราคานัก ก็ขายให้คนไทยด้วยกันเองซะเลย ขายแพงกว่าที่ฝรั่งเสนอให้นิดหน่อย แต่ก็ยังเรียกว่าถูกอยู่ดี เป็น win-win situation คือ ผู้ถือหุ้นเดิมก็ได้ประโยชน์ ประเทศก็ได้ประโยชน์ แบงค์ก็ได้ประโยชน์
3. ผู้ถือหุ้นเดิมที่เพิ่มทุนรอบที่แล้วที่ 10 บาท ขาดทุนไปตั้งเยอะแล้ว ถ้าต้องเพิ่มทุนใหม่ ทำยังไงถึงจะคืนทุนได้เร็วๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คือต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ของเก่า 10 บาท ของใหม่ 3.50 บาท อัตราส่วน 5:8 เท่ากับราคาเฉลี่ย 6 บาท ราคานี้มีสิทธิหลุดดอยได้ง่ายกว่าเดิมตั้งเยอะ
4. ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิม ซื้อตอนนี้ 4 บาทกว่า เพิ่มทุนอีก 3.50 ทุนก็อยู่ในราว 3 บาทกว่าๆ (ขี้เกียจกดเครื่องคิดเลข) ราคาพาร์ 10 บาท ราคาบุ๊คแวลู 7 บาท (อ่านจากที่ไหน จำไม่ได้) ต่อให้ต้องตั้งสำรองอีกตั้งเยอะ ราคา 3 บาทกว่านี้ ก็น่าสนใจมากแล้ว
5. เรื่องลดทุนไม่ต้องไปกลัว เพราะเดี๋ยวนี้เขาใช้วิธีลดพาร์กันแล้ว ไม่มีใครใช้วิธีลดจำนวนหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมเจ็บตัวหรอก การเพิ่มทุนที่ราคาต่ำกว่าพาร์นี้ ก็เป็นการใช้พรีเมียมที่มีอยู่ให้หมดไปวิธีหนึ่งด้วย
เมื่อเทียบกับบางจากแล้ว ตัวนี้ยังดีกว่าบางจากอีก เพราะบางจากยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการขายหุ้นกู้และหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อมากน้อยแค่ไหน แต่ตัวนี้เพิ่มทุนรอบนี้แล้วจบเลย
แนวคิดของผมไม่มีการคำนวณประกอบ แถมข้อมูลก็อาจจะมั่วๆอยู่บ้าง เป็นแบบชาวบ้านพูดกัน อาจจะไม่ใช่ VI และไม่เป็นวิชาการ เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานประกอบ
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 2
เพิ่มทุน 3.50 .. 5 ต่อ 8 ไดลูทมโหฬาร ถ้าติดสูง(มาก)และไม่ได้เก็บของมาเฉลี่ยเลย อาจจะจำใจต้องซื้อ พวกมาใหม่ซื้อเล่นรอบ 4 บาทกว่าๆ เค้าขายทำกำไรไปหมดแล้วครับพี่
ถ้าพี่ติดสูง แนะนำเปลี่ยนตัว เป็น ASL-W3 จะมีลุ้นกว่านะ 5 บาทรำไรๆ
ถ้าพี่ติดสูง แนะนำเปลี่ยนตัว เป็น ASL-W3 จะมีลุ้นกว่านะ 5 บาทรำไรๆ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 4
ลองดูครับพี่ จริงๆผมชอบหุ้นแบงค์อย่าง BAY นะ
ดูราคา/กำไรยังใช้ได้เลย แต่ผมไม่ค่อยชอบหุ้นแบงค์เพิ่มทุนเท่าไหร่ครับ
ดูราคา/กำไรยังใช้ได้เลย แต่ผมไม่ค่อยชอบหุ้นแบงค์เพิ่มทุนเท่าไหร่ครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 5
จริงๆแล้ว หุ้นแบงค์ผมชอบ KBANK เป็นอันดับหนึ่ง เพราะทันสมัยดี พนักงานเก่ง และหัวสมัยใหม่ มีแต่หนุ่มๆสาวๆเป็นผู้บริหารทั้งนั้น ที่สำคัญต้นปีหน้าก็จะรีไฟแนนซ์ slips แล้ว กำไรจะเพิ่มอีกเป็นพันล้าน ตอนนี้กำลังรอเก็บอยู่ แต่ยังไม่ได้จังหวะดีๆสักที
อันดับสองผมชอบ SCB เพราะตั้งแต่ได้อัพเกรดมา ราคายังไม่ค่อยได้ขยับเท่าไร แต่ก็ไม่ได้รีบ เพราะคิดว่าคงมีอ่อนตัวลงมาให้เก็บได้
นอกจากนั้น ผมก็มี DTDB-W1 เพราะปีหน้าก็จะรีไฟแนนซ์ slips เหมือนกัน แต่รู้สึกจะเป็นกลางๆปี ถ้ากำไรเพิ่มขึ้น ราคาวอร์แรนท์คงไปเร็ว และตัวนี้รู้สึกจะหมดอายุปี 2005 ซึ่งน่าจะพอทัน แต่ตัวนี้ผมเองก็ระวังอยู่เหมือนกัน ถ้าใกล้หมดอายุ (คือเหลือสัก 9 เดือน ผมคงต้องปล่อยไป)
อันดับสองผมชอบ SCB เพราะตั้งแต่ได้อัพเกรดมา ราคายังไม่ค่อยได้ขยับเท่าไร แต่ก็ไม่ได้รีบ เพราะคิดว่าคงมีอ่อนตัวลงมาให้เก็บได้
นอกจากนั้น ผมก็มี DTDB-W1 เพราะปีหน้าก็จะรีไฟแนนซ์ slips เหมือนกัน แต่รู้สึกจะเป็นกลางๆปี ถ้ากำไรเพิ่มขึ้น ราคาวอร์แรนท์คงไปเร็ว และตัวนี้รู้สึกจะหมดอายุปี 2005 ซึ่งน่าจะพอทัน แต่ตัวนี้ผมเองก็ระวังอยู่เหมือนกัน ถ้าใกล้หมดอายุ (คือเหลือสัก 9 เดือน ผมคงต้องปล่อยไป)
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 6
ส่วนตัวผมอคติกับ KBANK แล้ว
ไปใช้บริการ 3 สาขา ไม่เคยประทับใจเลย แถมรู้สึกว่าบริการต่ำกว่ามาตรฐาน (ของผม) ด้วยซ้ำ นี่พรุ่งนี้ก็จำเป็นต้องเข้าไปใช้บริการสาขาที่ 4 แล้ว ยังไงจะให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งนึงนะ
ไปใช้บริการ 3 สาขา ไม่เคยประทับใจเลย แถมรู้สึกว่าบริการต่ำกว่ามาตรฐาน (ของผม) ด้วยซ้ำ นี่พรุ่งนี้ก็จำเป็นต้องเข้าไปใช้บริการสาขาที่ 4 แล้ว ยังไงจะให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งนึงนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 7
เรื่องบริการลูกค้ารายย่อยคงไม่ใช่จุดที่แบงค์ทำกำไร เงินฝากเป็นเพียงแหล่งของเงินต้นทุนต่ำๆครับ ...การปล่อยสินเชื่อและการลงทุน น่าจะเป็นวิธีทำกำไรมากกว่าค่าธรรมเนียม
ผมชอบแบงค์กับไฟแนนซ์นะครับ ... ลองคิดดูนะ เจ้าของกิจการใหญ่โตขนาดนี้จะไม่คิดทำกำไรให้สมขนาดเลยหรือ เค้าคิดแน่ครับ แต่ด้วยความใหญ่โต อืดอาด คงหากลยุทธที่เหมาะสมไม่ง่ายนัก แต่นักวิเคราะห์พื้นฐานที่เข้าใจหุ้นพวกนี้จริงๆ ก็คงไม่มากนัก ส่วนมากก็เลยเหมากันด้วยวิธีเทคนิคมากกว่า กลายเป็นการเก็งกำไรไป
คุณ BPT กับคุณ FE คิดเหมือนผมหรือเปล่า เรามาช่วยกันแกะหุ้นพวกนี้ดูดีมั้ยครับ
ผมชอบแบงค์กับไฟแนนซ์นะครับ ... ลองคิดดูนะ เจ้าของกิจการใหญ่โตขนาดนี้จะไม่คิดทำกำไรให้สมขนาดเลยหรือ เค้าคิดแน่ครับ แต่ด้วยความใหญ่โต อืดอาด คงหากลยุทธที่เหมาะสมไม่ง่ายนัก แต่นักวิเคราะห์พื้นฐานที่เข้าใจหุ้นพวกนี้จริงๆ ก็คงไม่มากนัก ส่วนมากก็เลยเหมากันด้วยวิธีเทคนิคมากกว่า กลายเป็นการเก็งกำไรไป
คุณ BPT กับคุณ FE คิดเหมือนผมหรือเปล่า เรามาช่วยกันแกะหุ้นพวกนี้ดูดีมั้ยครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 8
มี TMB เก็บไว้นิดหน่อย ได้มา 4.66 ถ้าเพิ่มทุน ในสัดส่วน 5:8 จริง ณ ราคา 3.5 บาท ราคาหุ้นเฉลี่ย ก็ตก 4 บาทแล้ว Bank ท.ทหารไม่น่าเป็นแบบนี้เลยหนอ
อุตสาห์เก็บของไว้ตั้ง ปีเศษ ไหงเป็นแบบนี้ไปได้...เงินปันผลก็ไม่มีอีกต่างหาก!!!!
อุตสาห์เก็บของไว้ตั้ง ปีเศษ ไหงเป็นแบบนี้ไปได้...เงินปันผลก็ไม่มีอีกต่างหาก!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 9
ก็เพราะอยากจะเข้าใจกลุ่ม BANK นี่แหละครับ เลยไปตั้งตัวเป็นเจ้าบ้าน KTB ในโครงการร้อยคนร้อยหุ้นไว้ ยังไงแวะไปเยี่ยมเยียน วิพากษ์วิจารณ์กันได้ครับ จะเตรียมน้ำชาไว้ต้อนรับ คารวะล่วงหน้าหนึ่งจอก เอื๊อกกก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
TMB วิกฤติคือโอกาส
โพสต์ที่ 10
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมคิดว่าหุ้นแบงค์ไม่น่าเล่นเลยทั้งกลุ่มเลย
เหตุผลคือ
1. หนี้เน่าเยอะ
2. กำไรน้อย
3. อนาคตคนพึ่งพาแบงค์น้อยลง เอาบริษัทเข้าตลาด ระดมทุนง่ายกว่า
4. ไม่มีความเป็น durable competitive advantage ฝากแบงค์ไหน ก็เหมือนกัน กู้แบงค์ไหนก็เหมือนกัน เช่นตอนกู้ กู้ไว้เลย 3 แบงค์ แบงค์ไหนให้เงื่อนไขดีกว่า เราก็เอาแบงค์นั้น แข่งขันเสรี
5. ความเสี่ยงสูง เพราะแบงค์ปล่อยกู้หลายกิจการ ทำให้ตัวแบงค์เองเป็น บริษัทรวมความเสี่ยงของหลายกิจการ เวลาโต จะโตแบบก้าวกระโดดยาก
6. การทำการค้าในปัจจุบัน พึ่งพาเงินทุนน้อยลง แต่พึ่งพาความรู้มากขึ้น ทำให้เงินทุนไม่ได้เป็นพระเอกเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป
7. ถูกกำหนดโดยแบงค์ชาติ
8. อีกหน่อยไม่มีการค้ำประกันโดยรัฐบาลอีก
ผมก็ลองวิเคราะห์เล่นๆนะครับ โอกาสผิดมีมากเลย รบกวนผู้ที่รู้จริงแย้งด้วยครับ ผมจะได้ฉลาดขึ้น
ผมคิดว่าหุ้นแบงค์ไม่น่าเล่นเลยทั้งกลุ่มเลย
เหตุผลคือ
1. หนี้เน่าเยอะ
2. กำไรน้อย
3. อนาคตคนพึ่งพาแบงค์น้อยลง เอาบริษัทเข้าตลาด ระดมทุนง่ายกว่า
4. ไม่มีความเป็น durable competitive advantage ฝากแบงค์ไหน ก็เหมือนกัน กู้แบงค์ไหนก็เหมือนกัน เช่นตอนกู้ กู้ไว้เลย 3 แบงค์ แบงค์ไหนให้เงื่อนไขดีกว่า เราก็เอาแบงค์นั้น แข่งขันเสรี
5. ความเสี่ยงสูง เพราะแบงค์ปล่อยกู้หลายกิจการ ทำให้ตัวแบงค์เองเป็น บริษัทรวมความเสี่ยงของหลายกิจการ เวลาโต จะโตแบบก้าวกระโดดยาก
6. การทำการค้าในปัจจุบัน พึ่งพาเงินทุนน้อยลง แต่พึ่งพาความรู้มากขึ้น ทำให้เงินทุนไม่ได้เป็นพระเอกเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป
7. ถูกกำหนดโดยแบงค์ชาติ
8. อีกหน่อยไม่มีการค้ำประกันโดยรัฐบาลอีก
ผมก็ลองวิเคราะห์เล่นๆนะครับ โอกาสผิดมีมากเลย รบกวนผู้ที่รู้จริงแย้งด้วยครับ ผมจะได้ฉลาดขึ้น