เห็นด้วยครับ โรงงานเก่าจะปล่อยมลพิษอย่างไรก็ได้ ยังไงก็ไม่ผิด ไม่เห็นมีใครไปฟ้องไปจับMO101 เขียน:สารพิษตอนนี้เกิดจากโรงงานเก่า น่าจะแก้ที่ตรงนี้ ไม่น่าไปห้ามโรงงานใหม่
เหมือนแก้กันไม่ตรงจุด
โรงงานใหม่เทคโนโลยีดีขึ้น มีมลพิษน้อยลงกลับทำไม่ได้
เห็นด้วยครับ โรงงานเก่าจะปล่อยมลพิษอย่างไรก็ได้ ยังไงก็ไม่ผิด ไม่เห็นมีใครไปฟ้องไปจับMO101 เขียน:สารพิษตอนนี้เกิดจากโรงงานเก่า น่าจะแก้ที่ตรงนี้ ไม่น่าไปห้ามโรงงานใหม่
เหมือนแก้กันไม่ตรงจุด
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....ใจเย็นครับพี่ ผมเข้าใจหัวอกนักลงทุนlandrover54 เขียน:ไม่ต้องไปโรงงานหรอกครับ ลองมาสี่แยกลาดพร้าว 5-6 โมงเย็น ยืนสูดอากาศตรงข้างๆ สี่แยก ดูว่ามลพิษทางอากาศ ที่ไหนแรงกว่ากัน รับรองข้างสี่แยกกินขาด มาบตาพุตไม่ได้ครึ่งนึง
ยืนข้างสี่แยก สูดควันพิษจากรถยนต์ ไม่เกิน 30 นาที มึน
แล้วทำงานโรงงาน ถ้าทำกับพวกสารเคมี เดี๋ยวนี้มีหน้ากาก ไม่ใช่ว่าเปิดหน้าเปิดปากทำงาน พนักงานโรงงานไม่ใช่โง่ที
หรือไปตามคลองนี่ ไม่ต้องพูดถึง คลองเน่า ไม่ต้องแถวโรงงานก็ได้ คลองเน่า มีทั่วกรุงเทพฯ เน่าแบบน้ำสีเกือบจะเขียวๆ ดำๆ ฟองขึ้น ส่งกลิ่นเหม็น เศษอาหาร อุจาระ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคในน้ำ ในคลองกรุงเทพฯ มีเยอะแยะไป
ทำตัวสะดีด สะดิ้ง สงสารชาวบ้าน
ไปขุดคลองโน่นไป อย่าเอาแต่ฟ้อง ทำดีเพื่อชาวบ้าน ทำได้หลายวิธี ไม่ใช่นั่งไขว่ห้างในห้องแอร์ หาข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่น คนโรงงาน ก็ชาวบ้าน ไม่เห็นมีปัญหา หลายโรงงานก็ก่อตั้งมาเป็น 10-20 ปี ไม่เห็นมีอะไร
พอรัฐธรรมนูญปี 50 ออกมา พวกหัวหมอเล่นอ้างข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่นไปทั่ว
แล้วเดี๋ยวนี้ ชาวบ้านเค้าเลิกดื่มน้ำคลอง อาบน้ำคลองแล้ว ไม่ต้องทำมาเป็นสงสารชาวบ้าน
น้ำประปาดื่มได้แล้ว ดูโฆษณาทางโทรทัศน์บ้าง หรือถ้าไม่อยากดื่มน้ำประปา ก็ต้มน้ำกินได้ ไม่ต้องกินน้ำคลอง
เรื่องน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรม ถ้าโรงงานไหน ไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ก็ฟ้องร้องกันไป นี่เล่นแง่ อ้างข้อกฏหมาย ฟ้องเหมา คุ้มครองชั่วคราวมันซะเกือบค่อนโครงการ ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ฟ้องกันเป็นบ้าเป็นหลัง บ้ารึเปล่า
แล้วไอ้พวกที่อ้างว่าไปแถวนั้น เจออากาศแย่ๆ น้ำเน่าๆ ไปจริงรึเปล่า
เอ้า เอาไปดูซะ
http://www.taklong.com/east/show-east.php?No=73547
http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=14758
ตั้งแต่อ่านมา เพิ่งจะมีเห็นตรงประเด็น รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย ก็ความเห็นนี้แหละunnop.t เขียน:โดยตัวบทกฎหมายมีเจตนาดีที่ต้องการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแถวพระประแดง แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีผลประโยชน์ของ NGO เข้าเกี่ยวข้องด้วย ทุกกฏหมายมีช่องให้ตีความ มีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากกฏหมาย จนบางครั้งการตีความไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของจุดประสงค์ของตัวกฏหมาย
ส่วนตัวผมเองคลุกคลีอยู่ที่ระยองมานานกว่า 15 ปีและทำงานเกี่ยวข้องกับโรงงานที่มาบตาพุด คิดว่ามาตรฐานเรื่องสิ่งแวดล้อมที่นี้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก
ต่อไปนี้บทบาท NGO จะมีอิทธิพลสูงมากขี้นต่อการลงทุน อาจจะชี้เป็นชี้ตายต่อการลงทุนอุตสาหกรรม
http://www.thairath.co.th/content/eco/51119ผลสำรวจพื้นที่จริงพบป่วย-ตายปกติ
นาย โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการศูนย์ ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเพื่อสะท้อนภาพปัญหาจากประชาชนเจ้าของพื้นที่ จริงในพื้นที่มาบตาพุด ในวันที่ 14, 15 และ 22 พ.ย. โดยสัมภาษณ์ 1,107 ครัวเรือน ครอบคลุมประชากร 3,918 คน หรือ 11.70% ของประชากรทั้งหมด 33,492 คน พบว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตตามผลกระทบจากมลพิษในเขตมาบตาพุดมี 504 ราย ประมาณ 12.86% แยกเป็นสาเหตุจากการทำงานในสถานประกอบการ 92 ราย หรือ 2.35% ที่เหลืออีก 412 ราย หรือ 10.52% ป่วยหรือเสียชีวิตจากการอยู่อาศัยในพื้นที่
ดังนั้น การพิจารณาถึงมลพิษในมาบตาพุด จึงควรเน้นเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ อย่างไร ก็ตาม การเจ็บป่วยส่วนมาก 11.82% เป็นการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด ภูมิแพ้ ที่เชื่อว่าป่วยหนัก หรือเสียชีวิตเพราะมลพิษมีเพียง 0.69% แตกต่างจากความเชื่อทั่วไปที่ว่ามลพิษได้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในบริเวณมาบ ตาพุด และมีประชากร 48.5% ที่คิดจะย้ายออกจากมาบตาพุดหากในอนาคตมีมลพิษมากกว่านี้หรือมากเกินไป ส่วนกลุ่มที่ไม่คิดจะย้ายออกเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาน้อย และกลุ่มที่รายได้ต่อครอบครัวไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน ขณะที่กลุ่มผู้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวมีแนวโน้มจะย้ายน้อยกว่ากลุ่มอื่น ทั้งนี้ ประชากรถึงครึ่งหนึ่ง 51.1% เห็นว่า อุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดควรจะขยายตัวต่อไป และที่เห็นว่าควรหยุดขยายตัวมีอยู่ 26.6% ที่เหลืออีก 22.2% ยังไม่แน่ใจ.
CRM หรือ CSR ครับ?miracle เขียน:CRM ล้มเหลว สำหรับบริษัทที่โดนเรื่องนี้
เพราะอะไรว่า CRM ล้มเหลว เพราะ
บริษัทมองว่า CRM เป็นสิ่งที่เป็นค่าใช้จ่าย ไม่ใช่เป็นการสร้างสิ่งดีๆคืนในสังคม
ลดแรงต่อต้านของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทำแต่งานที่ไกลตัว
เช่น ส่งเสริมเรื่องการศึกษาของสถานการศึกษาที่ไม่ได้อยู่ในบริเวณโรงงาน (มองภาพใหญ่เกินไป)
หรือปลูกป่าชายเลน อันนี้ก็เป็นของทะเล
ควรเอา CRM นี้มาปรับปรุงว่า ทำอย่างไง โรงงานถึงปล่อยมลภาวะลดลง ใช้พลังงานน้อยลง เป็นหัวแถวในการรักษาสิ่งแวดล้อม
ถามต่อว่า อ้าวสิ่งที่ทำตอนนี้มัน CRM หรือเปล่า
ตอบว่าใช่ แต่ไม่ตอบโจทย์ที่ตรงจุด เท่านั้นเอง
แล้วไม่ใช่แต่เรื่อง CRM รวมไปถึงเรื่องธรรมภิบาล ที่เขียนไว้ในกระดาษแต่ไม่ได้ทำกันเท่าไร ในส่วนของภาคประชาชน หรือชุมชนที่อยู่บริเวณนั้น
มาอีกระลอกแล้วครับ'เอ็นจีโอ'เตรียมเดินหน้าฟ้อง 181 โครงการต่อหลังรับชัยชนะศาล
ระงับ 65 โครงการต่อ ขณะที่มี 9 บจ.ROJNA-AMATA-NNCL-SCG-TFD-
SCC-SCCC-TOP-ESSO รอคิวโดนเชือดเข้าข่ายผิดมาตรา 67 วรรค
2 'วิบูลย์'บิ๊กอมตะฯวอนอย่าฟ้องแบบเหวี่ยงแห หวั่นนักลงทุนหนีลงทุน
ประเทศอื่น ส่วน TFD เชื่อกระทบภาพรวมการลงทุน
เอาใหญ่เลยน๊าตัวเอง... อนาคตจะเป็นไงนะเนี่ย อาการน่าเป็นห่วง :xace เขียน: มาอีกระลอกแล้วครับ
:lovl: :lovl: :lovl:ถ้าอยู่มาวันนึง มีกลุ่มใหม่สมมติว่าชื่อ OGN ละกันรวมกลุ่มเรียกร้องให้คุ้มครองหยุดทำการเกษตรชั่วคราว เพราะการเกษตรมีการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมีปราบศัตรูพืชต่างๆมากมาย และมีการไหลปนเปื้อนสะสมลงแหล่งน้ำต่างๆมากมายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากมาย เราจะทำยังไงกันดีล่ะนี่
ตามไปอ่าน link นี้แล้วตกใจKriangL เขียน:สงสัยว่าพวก NGO นี้ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือเปล่า เพราะขนาดรถไฟฟ้าที่ช่วยให้ใช้พลังงานคุ้มค่าก็ยังจะประท้วงเลย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx