มาบตะพุด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 31

โพสต์

MO101 เขียน:สารพิษตอนนี้เกิดจากโรงงานเก่า น่าจะแก้ที่ตรงนี้ ไม่น่าไปห้ามโรงงานใหม่
เหมือนแก้กันไม่ตรงจุด
เห็นด้วยครับ โรงงานเก่าจะปล่อยมลพิษอย่างไรก็ได้ ยังไงก็ไม่ผิด ไม่เห็นมีใครไปฟ้องไปจับ

โรงงานใหม่เทคโนโลยีดีขึ้น มีมลพิษน้อยลงกลับทำไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
aodetmat
Verified User
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 32

โพสต์

เรื่องนี้จะโทษNGOก็ไม่ถูก เพราะพวกเขาได้แต่ส่งเรื่องเข้าไป ซี่งจะต้องตีความตามรัฐธรรมนูญ

NGOไม่ได้มีแรงอะไรเลย ผมว่าบริษัทเหล่านั้นควรมองว่าตนเองมีอะไรผิดพลาดไปหรือป่าว

ถ้ามันไม่มีอะไรจริงก็คงไม่เกิดเรื่องหรอกครับ

ชีวิตคนสำคัญกว่าเงินตรา ส่วนเรื่องเกษตรก็มีการเรียกร้องมากมายไม่ว่าจะเป็น พืชที่ตกแต่งยีน มะละกอที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

เรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไปตามข้อกฏหมาย มันไม่ได้ทำให้ชาติล่มจมกระมัง
ช้าๆ แต่ ชัวร์ 不要担心
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2912
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 33

โพสต์

มาบตาพุด ..ฝันสยอง 3.5 แสนล้านจอดสนิท จากนี้อีก 2 ปี ไม่มีการลงทุนใหม่

พลัน ที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งคดีมาบตาพุด จบลง เสียงไชโย โห่ร้อง ของผู้ฟ้องคดี ตะโกนลั่นว่า เราชนะแล้ว !!! ท่ามกลางความยินดี ปรีดา ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 43 คน มาจากคำสั่งศาลที่ระงับ 65 โครงการ มูลค่า 3.5 แสนล้าน ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น อีกด้านหนึ่ง นักลงทุนกำลังสะอื้นไห้

   คำสั่งศาล ปกครองสูงสุด  ปล่อย  11 โครงการ สั่งระงับ 65 โครงการ
   นาทีแห่งชัยชนะ  แต่อีกมุมหนึ่ง ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการที่ถูกระงับ ถึงกับช็อคกับคำสั่งศาลปกครองสูงสุด  เพราะไม่คาดคิดว่า ศาลสูงจะยืนตามศาลชั้นต้น
   " 11 โครงการเป็นแค่น้ำจิ้ม ไม่มีความหมาย หาก 65 โครงการ ถูกระงับก็พังทั้งหมด  "


  บริษัทยักษ์เจ้าของโครงการ แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่า คำสั่งศาลสูง จะออกมาแบบเหมาทั้งเข่ง  ส่วนใหญ่มองโลกแง่ดีว่า ศาลสูงจะปลดล็อค ยกเลิกคำสั่งชั่วคราวให้ระงับโครงการแล้ว ให้โครงการปฎิบัติตามเงื่อนไข เพื่อให้โครงการดำเนินการต่อไปได้  เพื่อให้รับกับมาตการของภาครัฐ และการทำงานของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน นั่งเป็นประธาน


    ประเด็นที่สำคัญกว่านั้น  เอกชนงง เป็นไก่ตาแตกว่า เหตุใด ศาลสูง ต้องเร่งอ่านคำสั่ง ในบ่ายวันที่ 2 ธันวาคม ในเมื่อคณะทำงานของนายอานันท์ กำลังเร่งแก้วิกฤต


    นาทีที่ ศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับ 65 โครงการ เจ้าของโครงการเรียกประชุมด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์
     โครงการของ ปตท. 15 โครงการ  มูลค่ากว่า 2 แสนล้าน จอดสิ้น
     ปูนซิเมนต์ไทย หรือ  SCG  โดนไป 18 โครงการ มูลค่ากว่า 5.7  หมื่นล้าน ทั้ง ๆที่ โครงการก่อสร้าง เกือบแล้วเสร็จ และกำลังเปิดเดินเครื่องต้นปีหน้า


     ประเมินกันเบื้องต้น ปูนใหญ่  จะเสียหาย เดือนละ 300 ล้าน หากเปิดโรงงานไม่ได้ตามกำหนด

     เช่นเดียวกับ  โรงงานเหล็ก  สยามยามาโตะ ที่ผ่าน EIA ตั้งแต่ กันยายน 2550 ก็โดนหางเลขเข้าไปด้วยแบบเต็มๆ
     แต่ความเสียหายที่ใหญ่หลวงไปกว่านั้นคือ  ความเชื่อมั่นที่มีต่อการลงทุนย่อมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง  นักลงทุนต่างชาติ อาจย้ายฐานการลงทุนออกจากประเทศไทย จากความไม่แน่นอน   ประเทศไทยจะเข้าสู่ความเสี่ยง
    " ถ้ายังไม่มีความแน่นอน นับจากนี้ไปอีก 2 ปี จะไม่มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในประเทศไทย  นักลงทุนต่างประเทศ ไม่กลัวกฎหมายที่เข้มงวด แต่สิ่งที่นักลงทุนกลัวมากที่สุดคือ ความไม่แน่นอน ความไม่ชัดเจน "   นักลงทุน ผู้หนึ่ง กล่าว


   ผลพวงของ การระงับ 65 โครงการ ที่คาดไม่ถึง อาจเป็นชนวนนำไปสู่ อวสานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   เนื่องมาจาก โดมิโน มาบตาพุด ที่จะลามไปสู่การล้มละลายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่  ความหวังว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นเป็นบวกในไตรมาสที่สี่ อาจเป็นแค่ความฝัน


  เมื่อโครงการ 3.5 แสนล้าน ชะงักยาว จะลามไปสู่แบงก์เจ้าหนี้ ที่เป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้แก่ 65 โครงการ
  เงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ เกือบทุกสัญญา ระบุว่า หากไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ ถือว่า เกิดการผิดนัดแล้ว
  จากนั้น เจ้าหนี้จะเรียกเงินคืนทั้งหมดทันที   เมื่อเวลานั้นมาถึง โดมิโน จะโค่นทั้งกระดาน
   นี่คือ เดิมพันที่สูงมาก หากรัฐบาล ไม่เร่งแก้วิกฤต อย่างทันท่วงที  จะพังทั้งกระดาน
   ถามว่า ถ้า อภิสิทธิ์ เร่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่จะต้องใช้เวลา เท่าไร


    คำตอบที่มาจากการมองโลกเชิงบวก แบบสุด ๆ คือ 6-7 เดือน ในการออกกฎหมายประกอบมาตรา 67 วรรค 2 รวมถึงกระบวนการ HIA และการทำประชาพิจารณ์ และการรับฟังองค์กรอิสระ


    แต่ถ้ารัฐบาล พังไปเสียก่อน  ออกกฎหมาย   การลงทุนในมาบตาพุด 3.5 แสนล้านก็ย่อมพังพาบไปด้วย เพราะกว่าจะเลือกตั้งทั่วไป จนจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เรียบร้อย   โรงงานก็เหลือแต่ซากไปแล้ว
    ใครหลายคน พูดตรงกันว่า   ไม่น่าเชื่อว่า ประเทศไทย จะมาได้ไกลขนาดนี้
     ไกลขนาดที่ ชัยชนะของฝ่ายหนึ่ง ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
     แต่ท่ามกลาง ฝุ่นตลบ    ใครบางคน เห็น  รอยยิ้มที่มุมปากของ เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์  เจ้าพ่อทีพีไอ.
     ชั่วโมงนี้  เหลือง หรือ แดง หรือ เขียว   ชนะ  อาจไม่มีความหมาย
     เพราะนักลงทุนต่างชาติ เก็บกระเป๋า โบกมือลา ไทยแลนด์  ไปแล้ว เมื่อวาน


http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 2&catid=no
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 34

โพสต์

[quote="newbie_12"]มาบตาพุด ..ฝันสยอง 3.5 แสนล้านจอดสนิท จากนี้อีก 2 ปี ไม่มีการลงทุนใหม่
.
.
.
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
anakinnet
Verified User
โพสต์: 520
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เศร้าครับ งานนี้

นึกถึง Intel ที่จะมาสร้างโรงงานในไทยแล้วเจอปฎิวัติเข้าไป เค้าเปลี่ยนใจไปเวียดนามเรียบร้อย โครงการนี้ 1พันล้านเหรียญ ตอนนี้โรงสร้างเสร็จแล้ว ประกาศรับคนตรึมเลย
http://www.intel.com/jobs/Vietnam/

เสียดายแทนน้องๆ วิศวคอมพิวเตอร์ จบมาแทนที่จะมีแหล่งเทคโนโลยีชั้นสูงให้เรียนรู้กันต่อ

เฮ้อ.. เศร้า  :(  :(  :(
In the long run, We are all dead.
wj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1399
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 36

โพสต์

เป็นการติดสินบนพื้นฐานที่สมเหตุผล
ถ้าทำให้ถูกใครจะไปทำอะไรได้ครับ

ผมเห็นว่าธุรกิจพวกนี้มีเสี่ยงต่อความยั่งยืนของประเทศในระยะยาว
ใครที่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุนก็ลองไปอยู่แถวๆนั้นดู แล้วจะรู้สึกว่า
มันไม่ปลอดภัย
ผมไม่เคยพักอาศัยอยู่หรอกครับ แต่เคยไปสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมประมูลงานก่อสร้างให้กับบริษัท
เห็นน้ำคลองในนิคม มันชั่งน่าด่าพวกที่ดูแลเรื่องของเสียจริงๆ
อากาศการก็ไม่ดี

ไม่จำเป็นต้องให้สร้างเสร็จก็หรอกครับถึงจะรู้ว่ามีมลพิษ
มันเห็นชัดๆว่ายังไงก็ต้องมี

ใครที่อยากให้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ลองออกไปประท้วง "ต้องการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ข้างบ้านผม" ดูครับ บางทีอาจศาลอาจจะเห็นใจก็ได้

ผมเห็นใจชาวบ้านครับ
landrover54
Verified User
โพสต์: 97
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ไม่ต้องไปโรงงานหรอกครับ ลองมาสี่แยกลาดพร้าว 5-6 โมงเย็น ยืนสูดอากาศตรงข้างๆ สี่แยก ดูว่ามลพิษทางอากาศ ที่ไหนแรงกว่ากัน รับรองข้างสี่แยกกินขาด มาบตาพุตไม่ได้ครึ่งนึง

ยืนข้างสี่แยก สูดควันพิษจากรถยนต์ ไม่เกิน 30 นาที มึน

แล้วทำงานโรงงาน ถ้าทำกับพวกสารเคมี เดี๋ยวนี้มีหน้ากาก ไม่ใช่ว่าเปิดหน้าเปิดปากทำงาน พนักงานโรงงานไม่ใช่โง่ที

หรือไปตามคลองนี่ ไม่ต้องพูดถึง คลองเน่า ไม่ต้องแถวโรงงานก็ได้ คลองเน่า มีทั่วกรุงเทพฯ เน่าแบบน้ำสีเกือบจะเขียวๆ ดำๆ ฟองขึ้น ส่งกลิ่นเหม็น เศษอาหาร อุจาระ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคในน้ำ ในคลองกรุงเทพฯ มีเยอะแยะไป

ทำตัวสะดีด สะดิ้ง สงสารชาวบ้าน

ไปขุดคลองโน่นไป อย่าเอาแต่ฟ้อง ทำดีเพื่อชาวบ้าน ทำได้หลายวิธี ไม่ใช่นั่งไขว่ห้างในห้องแอร์ หาข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่น คนโรงงาน ก็ชาวบ้าน ไม่เห็นมีปัญหา หลายโรงงานก็ก่อตั้งมาเป็น 10-20 ปี ไม่เห็นมีอะไร

พอรัฐธรรมนูญปี 50 ออกมา พวกหัวหมอเล่นอ้างข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่นไปทั่ว

แล้วเดี๋ยวนี้ ชาวบ้านเค้าเลิกดื่มน้ำคลอง อาบน้ำคลองแล้ว ไม่ต้องทำมาเป็นสงสารชาวบ้าน

น้ำประปาดื่มได้แล้ว ดูโฆษณาทางโทรทัศน์บ้าง หรือถ้าไม่อยากดื่มน้ำประปา ก็ต้มน้ำกินได้ ไม่ต้องกินน้ำคลอง

เรื่องน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรม ถ้าโรงงานไหน ไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ก็ฟ้องร้องกันไป นี่เล่นแง่ อ้างข้อกฏหมาย ฟ้องเหมา คุ้มครองชั่วคราวมันซะเกือบค่อนโครงการ ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ฟ้องกันเป็นบ้าเป็นหลัง บ้ารึเปล่า

แล้วไอ้พวกที่อ้างว่าไปแถวนั้น เจออากาศแย่ๆ น้ำเน่าๆ ไปจริงรึเปล่า

เอ้า เอาไปดูซะ
http://www.taklong.com/east/show-east.php?No=73547

http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=14758
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 38

โพสต์

landrover54 เขียน:ไม่ต้องไปโรงงานหรอกครับ ลองมาสี่แยกลาดพร้าว 5-6 โมงเย็น ยืนสูดอากาศตรงข้างๆ สี่แยก ดูว่ามลพิษทางอากาศ ที่ไหนแรงกว่ากัน รับรองข้างสี่แยกกินขาด มาบตาพุตไม่ได้ครึ่งนึง

ยืนข้างสี่แยก สูดควันพิษจากรถยนต์ ไม่เกิน 30 นาที มึน

แล้วทำงานโรงงาน ถ้าทำกับพวกสารเคมี เดี๋ยวนี้มีหน้ากาก ไม่ใช่ว่าเปิดหน้าเปิดปากทำงาน พนักงานโรงงานไม่ใช่โง่ที

หรือไปตามคลองนี่ ไม่ต้องพูดถึง คลองเน่า ไม่ต้องแถวโรงงานก็ได้ คลองเน่า มีทั่วกรุงเทพฯ เน่าแบบน้ำสีเกือบจะเขียวๆ ดำๆ ฟองขึ้น ส่งกลิ่นเหม็น เศษอาหาร อุจาระ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคในน้ำ ในคลองกรุงเทพฯ มีเยอะแยะไป

ทำตัวสะดีด สะดิ้ง สงสารชาวบ้าน

ไปขุดคลองโน่นไป อย่าเอาแต่ฟ้อง ทำดีเพื่อชาวบ้าน ทำได้หลายวิธี ไม่ใช่นั่งไขว่ห้างในห้องแอร์ หาข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่น คนโรงงาน ก็ชาวบ้าน ไม่เห็นมีปัญหา หลายโรงงานก็ก่อตั้งมาเป็น 10-20 ปี ไม่เห็นมีอะไร

พอรัฐธรรมนูญปี 50 ออกมา พวกหัวหมอเล่นอ้างข้อกฏหมาย เล่นงานคนอื่นไปทั่ว

แล้วเดี๋ยวนี้ ชาวบ้านเค้าเลิกดื่มน้ำคลอง อาบน้ำคลองแล้ว ไม่ต้องทำมาเป็นสงสารชาวบ้าน

น้ำประปาดื่มได้แล้ว ดูโฆษณาทางโทรทัศน์บ้าง หรือถ้าไม่อยากดื่มน้ำประปา ก็ต้มน้ำกินได้ ไม่ต้องกินน้ำคลอง

เรื่องน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรม ถ้าโรงงานไหน ไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ก็ฟ้องร้องกันไป นี่เล่นแง่ อ้างข้อกฏหมาย ฟ้องเหมา คุ้มครองชั่วคราวมันซะเกือบค่อนโครงการ ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ฟ้องกันเป็นบ้าเป็นหลัง บ้ารึเปล่า

แล้วไอ้พวกที่อ้างว่าไปแถวนั้น เจออากาศแย่ๆ น้ำเน่าๆ ไปจริงรึเปล่า

เอ้า เอาไปดูซะ
http://www.taklong.com/east/show-east.php?No=73547

http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=14758
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....ใจเย็นครับพี่  ผมเข้าใจหัวอกนักลงทุน

เราว่ากันด้วยเหตุผลครับ อย่าแรงมากกว่านี้เลยครับ

จะสร้าง กรุงโรมใหม่ ไม่ได้สร้างกันวันเดียวปีเดียว

สร้างตึกใหม่แทนตึกเ่ก่าต้องลื้อโครงสร้างที่เสียๆเก่าๆออกก่อน

ต้องใช้เวลา ใช้สถาปนิก วิศวกร และ คนรับก่อสร้างที่มีคุณภาพ

ทำงานด้วยใจ

สำหรับปประเทศไทย เป็นตึกเก่า ที่แก้ยาก ต้องมี นักกฏหมาย ผู้บริหาร และ ข้าราชการผู้ปฏิบัติการ คุณภาพ ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 39

โพสต์

บางครั้งพวกเราอาศัยโลกทุนนิยมในการสร้างตัวนานๆเข้า เราก็คิดแบบทุนนิยม จนลืมเรื่องอื่นๆที่สำคัญกว่าไปครับ

เหมือนเรื่องภาวะโลกร้อน ดึงกันไปมาเหมือนห่วงเงินมากกว่าห่วงชีวิต ตลกดีครับ
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 40

โพสต์

โดยตัวบทกฎหมายมีเจตนาดีที่ต้องการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแถวพระประแดง แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีผลประโยชน์ของ NGO เข้าเกี่ยวข้องด้วย ทุกกฏหมายมีช่องให้ตีความ มีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากกฏหมาย จนบางครั้งการตีความไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของจุดประสงค์ของตัวกฏหมาย

ส่วนตัวผมเองคลุกคลีอยู่ที่ระยองมานานกว่า 15 ปีและทำงานเกี่ยวข้องกับโรงงานที่มาบตาพุด คิดว่ามาตรฐานเรื่องสิ่งแวดล้อมที่นี้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก

ต่อไปนี้บทบาท NGO จะมีอิทธิพลสูงมากขี้นต่อการลงทุน อาจจะชี้เป็นชี้ตายต่อการลงทุนอุตสาหกรรม
landrover54
Verified User
โพสต์: 97
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 41

โพสต์

unnop.t เขียน:โดยตัวบทกฎหมายมีเจตนาดีที่ต้องการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแถวพระประแดง แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีผลประโยชน์ของ NGO เข้าเกี่ยวข้องด้วย ทุกกฏหมายมีช่องให้ตีความ มีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากกฏหมาย จนบางครั้งการตีความไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของจุดประสงค์ของตัวกฏหมาย

ส่วนตัวผมเองคลุกคลีอยู่ที่ระยองมานานกว่า 15 ปีและทำงานเกี่ยวข้องกับโรงงานที่มาบตาพุด คิดว่ามาตรฐานเรื่องสิ่งแวดล้อมที่นี้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก

ต่อไปนี้บทบาท NGO จะมีอิทธิพลสูงมากขี้นต่อการลงทุน อาจจะชี้เป็นชี้ตายต่อการลงทุนอุตสาหกรรม
ตั้งแต่อ่านมา เพิ่งจะมีเห็นตรงประเด็น รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย ก็ความเห็นนี้แหละ

ส่วนพวกที่อ้างเรื่องโลกร้อน อ้างมลภาวะ แล้วมากล่าวโทษระบบทุนนิยม ระบบสังคมนิยม ระบบโ่น่นนี่ ช่วยกลับไปบ้าน แล้วดูตัวเองในกระจกหน่อย ที่บ้านมีแอร์กี่เครื่อง มีรถยนต์กี่คัน หรือว่าปั่นจักรยาน เวลาเดินทาง

แล้วคนในบ้าน ในครอบครัว สูบบุหรี่กี่คน มีญาติหรือมีคนรู้จัก ถือหุ้นในบริษัทผลิตแอร์ ผลิตรถยนต์ กี่หุ้น เปลี่ยนมือถือกันมากี่ครั้งแล้ว แล้วแบตมือถือ ทิ้งที่ศูนย์ Recycle กันรึเปล่า ขวดพลาสติก ใช้กันรึเปล่า หรือว่าใช้แต่กระติกไม้

เรื่องมลภาวะ เรื่องภาวะโลกร้อน ไม่ต้องโทษระบบทุนนิยม ระบบสังคมนิยม ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น

ไม่มีใครห่วงเงินมากกว่าห่วงชีวิตหรอก เงินไม่ใช่จะทำอะไรได้มาก กระดาษทั้งเพ

แต่ช่วยมองโลกแห่งความเป็นจริงกันหน่อย ทุกวันนี้เราทำอะไรเพื่อลดโลกร้อนกันบ้าง แล้วการไปหยุดโครงการพวกนี้ เพราะมันช่วยลดโลกร้อนรึเปล่า หรือเล่นแง่ กม. ตามรัฐธรรมนูญใหม่

อย่ากระแดะ ตามกระแสกันให้มากนัก

รู้รึเปล่าว่ามี 2 โครงการ มูลค่า 4 หมื่นล้าน ยกเลิกโครงการไปแล้ว เพราะปัญหาการฟ้องร้อง ของคน 43 คน และยังมีอีกหลายโครงการ ที่กำลังพิจารณาย้ายฐานผลิตจากไทย ไปประเทศเพื่อนบ้าน

ยังไม่นับรวมโรงงานอีกหลายร้อยโรงงาน ที่กำลังจะโดนฟ้อง และมีสิทธิ์โดนหยุดโรงงาน คุ้มครองชั่วคราวแบบไม่ทันตั้งตัว

ตอนนี้ถ้าใครไม่อยากโดนฟ้อง ต้องพินอบพิเทากลุ่ม NGO กลุ่มนี้ ใครไม่ตอบรับ จม. จากคนกลุ่มนี้เป็นโดนขู่ฟ้องร้อง

ช่วยมองกันให้ลึกหน่อย ใจกว้างกันหน่อย อย่ามองแต่ว่า คนเห็นค้าน คือพวกรักเงิน มากกว่ารักชีวิตเพื่อนมนุษย์ มันไม่ใช่ และไม่จริง
ผลสำรวจพื้นที่จริงพบป่วย-ตายปกติ

นาย โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการศูนย์ ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเพื่อสะท้อนภาพปัญหาจากประชาชนเจ้าของพื้นที่ จริงในพื้นที่มาบตาพุด ในวันที่ 14, 15 และ 22 พ.ย. โดยสัมภาษณ์ 1,107 ครัวเรือน ครอบคลุมประชากร 3,918 คน หรือ 11.70% ของประชากรทั้งหมด 33,492 คน พบว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตตามผลกระทบจากมลพิษในเขตมาบตาพุดมี 504 ราย ประมาณ 12.86% แยกเป็นสาเหตุจากการทำงานในสถานประกอบการ 92 ราย หรือ 2.35% ที่เหลืออีก 412 ราย หรือ 10.52% ป่วยหรือเสียชีวิตจากการอยู่อาศัยในพื้นที่

ดังนั้น การพิจารณาถึงมลพิษในมาบตาพุด จึงควรเน้นเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ อย่างไร ก็ตาม การเจ็บป่วยส่วนมาก 11.82% เป็นการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด ภูมิแพ้ ที่เชื่อว่าป่วยหนัก หรือเสียชีวิตเพราะมลพิษมีเพียง 0.69% แตกต่างจากความเชื่อทั่วไปที่ว่ามลพิษได้ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในบริเวณมาบ ตาพุด และมีประชากร 48.5% ที่คิดจะย้ายออกจากมาบตาพุดหากในอนาคตมีมลพิษมากกว่านี้หรือมากเกินไป ส่วนกลุ่มที่ไม่คิดจะย้ายออกเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาน้อย และกลุ่มที่รายได้ต่อครอบครัวไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน ขณะที่กลุ่มผู้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวมีแนวโน้มจะย้ายน้อยกว่ากลุ่มอื่น ทั้งนี้ ประชากรถึงครึ่งหนึ่ง 51.1% เห็นว่า อุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดควรจะขยายตัวต่อไป และที่เห็นว่าควรหยุดขยายตัวมีอยู่ 26.6% ที่เหลืออีก 22.2% ยังไม่แน่ใจ.
http://www.thairath.co.th/content/eco/51119
ภาพประจำตัวสมาชิก
BABY TERMITE
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ก่อนอื่นผมยังไม่แน่ใจเลยว่ากลุ่มคนที่ประท้วงมาฟ้องเป็นคนที่เดือดร้อนจริงหรือเปล่า.... หรือเค้าทำเพื่อประโยชน์แอบแฝงอย่างอื่น เราเสพข่าวเพียงด้านเดียวเรารู้ในสิ่งที่ข่าวนำเสนอ ข่าวก็มีหน้าที่ขายข่าวก็ต้องตามกระแสก็ต้องไปขุดหาคนป่วยมาโชว์ให้ดูจนได้ ความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าผู้ป่วยเหล่านั้นเป็นเพราะอะไร มีเปอร์เซนต์การเป็นสูงมากกว่าคนนอกพื้นที่มากเลยหรือเปล่าหรือเป็นน้อยกว่าคนในกทม.
   แต่จากสามัญสำนึกแบบเด็กน้อยของผม ผมมีความเชื่อมั่นว่าถ้าบริษัทที่มีธรรมมาภิบาลมีมาตรฐานการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ผมเชื่อว่าสูงได้มาตรฐานระดับโลก อย่างปูนซีเมนต์ไทย อย่างปตท. ยังดำเนินโครงการไม่ได้ก็คงไม่มีบริษัทไหนในโลกอีกแล้วที่จะมาลงทุนเพราะเค้าก็คงไม่ได้ทำได้ดีไปกว่านี้
   ผมยกตัวอย่างเรื่องบางเรื่องที่เกียวกับการประท้วง อย่างเรื่องยิงโจรก่อการร้ายภาคใต้แล้วมีนักวิชาการชื่อดังประท้วงอยู่ที่กรุงเทพว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนว่าทำเกินกว่าเหตุ ผมอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ผมดูข่าวแล้วสังเวชนักวิชาการคนนั้นมาก รู้สึกอยากให้นักวิชาการคนนั้นกล้าๆพาครอบครัวลงมาประท้่วงในพื้นที่บ้าง มาใช้ชีวิตเดินตลาดในพื้นที่อันตรายบ้าง ไม่ใช่คอยประท้วงจัดรายการโทรทัศน์หาเงินอยู่ที่กรุงเทพอย่างเดียว แล้วผมจะได้รอดูว่าถ้าครอบครัวของท่านถูกระเบิดตัวขาดสองท่อนในขณะกำลังนั่งกินกาแฟตอนเช้าตรู่ที่ร้านกาแฟอย่างที่เพื่อนผมโดน ท่านจะรู้สึกอย่างไรท่านยังจะประท้วงเรื่องสิทธิมนุษยชนอีกมั้ย
   หรืออย่างพืช GMO ก็ประท้วงเข้าไป แล้วคนที่ประท้วงมีแผนรองรับมั้ยว่าจะเพิ่มปริมาณอาหารให้ประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกวันได้ยังไงเพราะถ้าอาหารไม่พอราคาก็ต้องสูงก็ต้องมีคนอดตายเพิ่มขึ้น หรือท่านไม่ห่วงเพราะท่านไม่มีทางอดตายเพราะท่านได้ตังค์จากการประท้วงมาซื้ออาหารแพงๆ อยู่แล้ว ทางออกควรแยกให้ชัดเจนมั้ยว่าตัวไหน GMO ตัวไหนธรรมชาติแล้วให้คนเลือกกินกันเอง
   บางทีคนที่ประท้วงที่ได้ประโยชน์แฝงจากการประท้วงก็ไม่ได้คิดถึงภาพรวมหรอกว่าเป็นยังไง เค้าห่วงชาวบ้านจริงหรือเปล่า หรือเค้ามองแค่ผลประโยชน์ที่เค้าจะได้รับเมื่อประท้วงชนะ ...... ผมคิดว่าอำนาจการต่อรองของเค้าคงเพิ่มขึ้นมหาศาล น่ากลัวนะครับ
   ผมเชื่อว่าโครงการที่ไม่ดีที่กำลังเดินเครื่องปล่อยสารพิษก็มี และโครงการที่ดีที่รับผิดชอบมีมาตรฐานที่ดีที่โดนสั่งห้ามก็มี ไม่ควรเหมาเข่งแล้วคลุมหมดอย่างนี้หรอกครับ
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
KriangL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1487
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 43

โพสต์

สงสัยว่าพวก NGO นี้ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือเปล่า เพราะขนาดรถไฟฟ้าที่ช่วยให้ใช้พลังงานคุ้มค่าก็ยังจะประท้วงเลย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx
happy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ก๊าซรั่วนิคมมาบตาพุด  

ระทึก!ก๊าซรั่วนิคมมาบตาพุด หาม 20 คนงานส่งรพ.สาหัส5

เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ได้รับตัวคนงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ได้รับบาดเจ็บจากสารเคมีบิลเทนวันรั่ว ขณะขนส่งจากโรงงานไปยังท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บชุดที่สองแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุก๊าซรั่วเช่นกัน คนงานจำนวน 18 คน ถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยองและสาหัสถึง 5 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบ

http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=79458
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 45

โพสต์

CRM ล้มเหลว สำหรับบริษัทที่โดนเรื่องนี้
เพราะอะไรว่า CRM ล้มเหลว เพราะ
บริษัทมองว่า CRM เป็นสิ่งที่เป็นค่าใช้จ่าย ไม่ใช่เป็นการสร้างสิ่งดีๆคืนในสังคม
ลดแรงต่อต้านของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทำแต่งานที่ไกลตัว
เช่น ส่งเสริมเรื่องการศึกษาของสถานการศึกษาที่ไม่ได้อยู่ในบริเวณโรงงาน (มองภาพใหญ่เกินไป)
หรือปลูกป่าชายเลน อันนี้ก็เป็นของทะเล

ควรเอา CRM นี้มาปรับปรุงว่า ทำอย่างไง โรงงานถึงปล่อยมลภาวะลดลง ใช้พลังงานน้อยลง เป็นหัวแถวในการรักษาสิ่งแวดล้อม

ถามต่อว่า อ้าวสิ่งที่ทำตอนนี้มัน CRM หรือเปล่า
ตอบว่าใช่ แต่ไม่ตอบโจทย์ที่ตรงจุด เท่านั้นเอง

แล้วไม่ใช่แต่เรื่อง CRM รวมไปถึงเรื่องธรรมภิบาล ที่เขียนไว้ในกระดาษแต่ไม่ได้ทำกันเท่าไร ในส่วนของภาคประชาชน หรือชุมชนที่อยู่บริเวณนั้น

:)
:)
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 46

โพสต์

miracle เขียน:CRM ล้มเหลว สำหรับบริษัทที่โดนเรื่องนี้
เพราะอะไรว่า CRM ล้มเหลว เพราะ
บริษัทมองว่า CRM เป็นสิ่งที่เป็นค่าใช้จ่าย ไม่ใช่เป็นการสร้างสิ่งดีๆคืนในสังคม
ลดแรงต่อต้านของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทำแต่งานที่ไกลตัว
เช่น ส่งเสริมเรื่องการศึกษาของสถานการศึกษาที่ไม่ได้อยู่ในบริเวณโรงงาน (มองภาพใหญ่เกินไป)
หรือปลูกป่าชายเลน อันนี้ก็เป็นของทะเล

ควรเอา CRM นี้มาปรับปรุงว่า ทำอย่างไง โรงงานถึงปล่อยมลภาวะลดลง ใช้พลังงานน้อยลง เป็นหัวแถวในการรักษาสิ่งแวดล้อม

ถามต่อว่า อ้าวสิ่งที่ทำตอนนี้มัน CRM หรือเปล่า
ตอบว่าใช่ แต่ไม่ตอบโจทย์ที่ตรงจุด เท่านั้นเอง

แล้วไม่ใช่แต่เรื่อง CRM รวมไปถึงเรื่องธรรมภิบาล ที่เขียนไว้ในกระดาษแต่ไม่ได้ทำกันเท่าไร ในส่วนของภาคประชาชน หรือชุมชนที่อยู่บริเวณนั้น

:)
CRM หรือ CSR ครับ?
Impossible is Nothing
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 47

โพสต์

woody เขียน: CRM หรือ CSR ครับ?
CSR ครับ
ขอบคุณที่แก้ไขให้
สองคำนี้เป็นคำที่ผมใช้ผิดประจำเลย
:)
:)
SoLid_frOg
Verified User
โพสต์: 355
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 48

โพสต์

อ่านแล้วมันส์จริง ๆ ครับกระทู้นี้
NTL
Verified User
โพสต์: 175
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 49

โพสต์

อานันท์ : ผมได้ยินเรื่องไม่ดีของการนิคม

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นายอานันท์ ปันยารชุน

ผมได้ยินเรื่องไม่ดีในเรื่องของกระทรวงทรัพยากรฯด้วยที่บอกว่ามีอิทธิพลการเมืองแทรกแซง

นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะได้เดินทางมารับฟังปัญหาการจัดการมลพิษที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยนายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ตัวแทนจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ผาแดง และผู้ประกอบการ 5 บริษัทเข้าร่วมรับฟังและตอบข้อซักถาม
ทั้งนี้ นายวีระพงศ์ได้บรรยายสรุปการจัดการปัญหาของ กนอ.ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและแผนดำเนินงาน จากนั้นได้มีการซักถามจากผู้เข้าร่วมในหลายประเด็น ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งไปที่ประเด็นศักยภาพของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดในการรองรับมลพิษ รวมถึงมาตรการการควบคุมมลพิษ นอกจากนี้ยังมีการถามประเด็นก๊าซรั่วเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นี้ด้วย

นายอานันท์ ได้ถามว่านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นส่วนหนึ่งของการนิคมแห่งประเทศไทย และพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีนิคมฯอีก 4-5 แห่ง นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและ นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความสัมพันธ์กับนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างไร รวมถึงที่มีการฟ้องร้องในศาลปกครองออกคำสั่งรวมเหมราชด้วย

นายวีระพงศ์ กล่าวว่าการนิคมมีสองรูปแบบ รูปแบบแรก เอกชนเขาพัฒนาและดำเนินการเอง รูปแบบที่สอง นิคมฯ ร่วมดำเนินงานกับภาคเอกชน เอกชนเป็นผู้พัฒนาภายใต้มาตรฐานที่การนิคมฯ เป็นผู้กำหนด นิคมฯ เป็นผู้ควบคุมผู้ประกอบ คำถามที่สองว่าทำไมเหมราชจึงถูกฟ้องด้วย เนื่องจากคำฟ้องเอารายชื่อโครงการ 76 โครงการ ที่ได้รับอนุมัติหลังวันที่ 24 ส.ค. 2550 ซึ่งนิคมฯ หากมีการขยายพื้นที่โครงการต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม เหมราชเป็นการขยายพื้นที่โครงการ

จากนั้น นายอานันท์ กล่าวว่าได้รับข้อมูล การติดต่อจากนักธุรกิจไม่น้อย กับคนที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรม เท่าที่ฟังดูจากการนำเสนอ กิจกรรมของการนิคมฯ หากมองเป็นเอกสารก็น่ารับฟัง สวยดี แต่ในภาคปฏิบัตินี่จะทำอย่างไรต่อ มีการกล่าวหาค่อนข้างจะมากว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่ซื่อตรง การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

"ผมไม่ทราบข้อกล่าวหรือข้อร้องเรียนเหล่านี้ที่ตรงมาที่ผมมีข้อมูลหรือ ข้อเท็จจริงแค่ไหน แต่ผมบอกได้อยู่อย่างหนึ่ง ว่าภาพลักษณ์การบริหารงานของการนิคมฯไม่ดีเลย ที่หยิบยกมาเป็นพิเศษจากการคุยเป็นการส่วนตัว จากการคุยภายใน และมีการเอาไปพูดว่าถ้าเผื่อมีการนำไปร้องเรียนการนิคมฯ แล้วเนี่ย ดีไม่ดีอาจจะถูกการกลั่นแกล้งทางอ้อมด้วย แต่ผมยืนยันว่านี่เป็นเรื่องของการกล่าวหานะ ผมไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง"

นายอานันท์ กล่าวอีกว่าในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ในฐานะที่อยู่ระบบราชการมา ก็อยากจะนำมาเป็นข้อสังเกตว่าลองดูซิว่าเอกสารที่สวยงาม ฟังดูแล้วไพเราะ ตอนนำไปปฏิบัติทำตามนี้หรือเปล่า เพราะประชาชนมีความรู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน การเข้าหาประชาชน การพูดคุยกับประชาชน มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจ

"ผมเคยพูดอยู่เสมอว่าซีเอสอาร์ แตกมาจากประชาสัมพันธ์นะ งบเขาก็คนละงบนะ ประชาสัมพันธ์คือขายของ ขายภาพลักษณ์ ขายสินค้า มันมีสามอย่างในการโฆษณาขายสินค้า ประชาสัมพันธ์คือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แต่ซีเอสอาร์ไม่ใช่การสร้างภาพลักษณ์ คือการมีสำนึกที่จะทำอะไรคืนกับสังคม คืนให้กับชาวบ้าน เพื่อความดีงามของสังคม ผมเป็นห่วงมากทีเดียว นอกจากผมได้ยินเรื่องไม่ดีของการนิคมฯ ผมยังได้ยินเรื่องไม่ดีของตัวโครงการ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมด้วย ผมได้ยินเรื่องไม่ดีในเรื่องของกระทรวงทรัพยากรฯด้วย ที่บอกว่ามีอิทธิพลการเมืองมาแทรกแซง ผมไม่รู้สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่เมื่อผมได้ยินมา ผมถือว่าเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องแจ้งให้หน่วยงานทราบ "

นายอานันท์ยังเตือนอีกว่าข้อมูล หากมีการปกปิด ราษฎรเขารู้สึกมีการอำพรางหรือปกปิด ก็จะเกิดการคาดเดา ซึ่งไม่เป็นผลดี

หลังจากนั้น มีตัวแทนจากคณะกรรมการฯได้ถามประเด็นก๊าซรั่วเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายวีระพงศ์ ได้กล่าวว่าจะพยายามแก้ปัญหา โดยจะเข้าประสานกับทางกรมศุลกากร

ด้าน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นนี้ว่าไม่ได้เป็นห่วงเรื่องกรมศุลกากร แต่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของคน อย่างที่พูดว่าส่งคนไปยังไม่รู้รักษาเรื่องอะไร ซึ่งไม่เป็นห่วงเรื่องศุลกากรเลย

จากนั้น นายวีระพงศ์ กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นตอน 5 โมงเย็น เราก็เข้าไปดูแลพื้นที่ตลอดเวลา ผมได้รับรายงานตอน 5 โมงครึ่งและได้รับรายงานผู้ว่าฯตอน 6 โมงเศษ

ด้าน นายอานันท์ กล่าวว่าฟังแล้วน่าเป็นห่วง นี้เป็นเรื่องฉุกเฉิน หากปฏิบัติงานเช้าชามเย็นชาม มีขั้นตอน ตนเห็นว่าไม่ทันกิน จะไม่ก่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกับราษฎรเลย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการเสริมภาพลักษณ์ในทางที่ไม่ดียิ่งขึ้น สำหรับการนิคมฯ

"น่าเป็นห่วงนะครับ น่าเป็นห่วงมากๆ"

จากนั้น มีประเด็นคำถามเรื่องความสามารถในการรองรับมลพิษบริเวณนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งเรื่องปัญหาแหล่งน้ำด้วย โดยนายวีระพงศ์ ชี้แจงว่าการนิคมฯดำเนินการตามแผนสิ่งแวดล้อมทุกขั้นตอน แต่อย่างไรก็ตามกำลังเตรียมเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาแผน การแก้ไข

นายอานันท์ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "อันนี้น่าเป็นห่วง ตอกเข็มสร้างบ้านแล้ว ยังไม่รู้เลยว่ารับน้ำหนักได้หรือเปล่า อันนี้ผมตกใจนะ เรื่องศักยภาพรองรับได้แค่ไหน อย่างรองรับทางด้านน้ำกระทรวงทรัพยากรฯเตรียมทำอยู่ โอ้โฮ บ้านสร้างไปตั้งนานแล้ว กระทรวงทรัพยากรฯ ยังไม่รู้เลยว่าศักยภาพด้านน้ำพอเพียงหรือไม่ ผมยิ่งฟังก็ยิ่งเหนื่อยนะว่าระบบราชการเป็นยังไง"

อย่างไรก็ตาม การเดินทางมารับฟังปัญหาของคณะกรรมการฯ เป็นการศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมเสนอรายงานให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งก็เชื่อว่าผลสรุปน่าจะเป็นทางออกกับทุกฝ่ายให้อยู่ร่วมกันได้

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%A1.html

ที่สำคัญ คือผมอยู่ที่ระยอง ก๊าซรั่ว วันที่ 5 ธ.ค. ผมรู้ข่าววันที่ 6 ธันวาคม
หรือว่าผมรู้ช้าไปเองครับนี่  :evil:
เงินต้นอยู่ครบ ผลตอบแทนทบต้น
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 0

news

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ปัจจัยในประเทศ & อุตสาหกรรมและหุ้นเด่น
         แบงค์ปล่อยกู้ 65 โครงการที่ถูกระงับ 7.8 หมื่นล้านบาท ธปท.เปิดเผยตัวเลขสินเชื่อที่ธ.พ.ปล่อยให้กับ 65 โครงการที่ถูกระงับในพื้นที่มาบตาพุดว่าอยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1.15% ของสินเชื่อรวม แต่คาดว่าการระงับโครงการจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะของธ.พ.มากนัก เนื่องจากสินเชื่อส่วนใหญ่มีการกันสำรองไว้แล้ว และหากเกิดความเสียหายเงินกองทุนของกลุ่มก็ลดลงเพียง 0.1% (จาก 15.9% เป็น 15.8%) สำหรับผลกระทบต่อ GDP Growth ในปี 53 เมื่อต.ค.52 ทางธปท.เคยประเมินผลกระทบไว้ว่าการระงับโครงการ 76 แห่งชั่วคราวจะทำให้ GDP Growth ปี 52 ลดลง 0.2% การลงทุนภาคเอกชนโตน้อยลง 1% และหากปัญหายืดเยื้อ การลงทุนต้องเลื่อนออกไป 1 ปีและมีผลกระทบต่อการจ้างงาน การบริโภคและการลงทุนใหม่ จะทำให้ GDP Growth ในปี 53 ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับไม่มีปัญหามาบตาพุด ทั้งนี้ธปท.คาดการณ์ว่า GDP Growth ในปี 53 จะขยายตัว 3.3-5.3% โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดีขึ้น และการใช้จ่ายภาครัฐ
          KTB ปล่อยสินเชื่อให้โครงการที่ถูกระงับในมาบตาพุด 2.8% ของสินเชื่อรวม KTB แจ้งว่าธนาคารได้ปล่อยกู้ให้กับกลุ่ม PTT และ SCC ซึ่งอยู่ในโครงการที่ศาลฯสั่งระงับโครงการในพื้นที่มาบตาพุดไปแล้วเกือบ 3 หมื่นล้านบาท โดยที่ผ่านมาทั้งสองกลุ่มมีการชำระดอกเบี้ยตามปกติ จากนี้ก็ต้องจับตาใกล้ชิด
         ความเห็น DBSV : สินเชื่อที่เบิกจ่ายไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาทดังกล่าวข้างต้นคิดเป็น 2.8% ของสินเชื่อรวมของ KTB ที่ 1.05 ล้านล้านบาท นับว่าไม่มาก และคาดว่าธนาคารจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เป็น NPL เช่น การยืดอายุหนี้ & ระยะเวลาปลอดหนี้ออกไป
         KBANK ปล่อยสินเชื่อให้โครงการที่ถูกระงับในมาบตาพุดน้อยกว่า 0.5% ของสินเชื่อรวม KBANK แจ้งว่าธนาคารปล่อยสินเชื่อให้โครงการที่ถูกระงับในมาบตาพุดน้อยกว่า 4.4 พันล้านบาท หรือน้อยกว่า 0.5% ของสินเชื่อรวม (รายใหญ่สุด 1 รายได้เบิกจ่ายไปแล้ว 1 พันล้านบาท)

        โดย  บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประจำวันที่ 8 ธันวาคม  2552
ace
Verified User
โพสต์: 207
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 51

โพสต์

'เอ็นจีโอ'เตรียมเดินหน้าฟ้อง 181 โครงการต่อหลังรับชัยชนะศาล
ระงับ 65 โครงการต่อ ขณะที่มี 9 บจ.ROJNA-AMATA-NNCL-SCG-TFD-
SCC-SCCC-TOP-ESSO รอคิวโดนเชือดเข้าข่ายผิดมาตรา 67 วรรค
2 'วิบูลย์'บิ๊กอมตะฯวอนอย่าฟ้องแบบเหวี่ยงแห หวั่นนักลงทุนหนีลงทุน
ประเทศอื่น ส่วน TFD เชื่อกระทบภาพรวมการลงทุน
มาอีกระลอกแล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ace เขียน: มาอีกระลอกแล้วครับ
เอาใหญ่เลยน๊าตัวเอง... อนาคตจะเป็นไงนะเนี่ย อาการน่าเป็นห่วง  :x
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ปีที่แล้วเสื้อเหลืองใหญ่สุด ปีนี้ปีหน้าเป็นเทรนองค์กรอิสระหละ
องค์กรอิสระใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วตอนนี้
ทำHIAเสร็จก็ต้องไปยื่นขอองค์กรนี้ แล้วองค์กรนี้มีความโปร่งใสแค่ไหน
สงสัยอาจต้องมีการตั้งองค์การอิสระแล้วสระอีกมาตรวจสอบอีกที
ว่าทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงรึเปล่า  :!:
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 0

bank

โพสต์ที่ 54

โพสต์

กลุ่มธนาคารพาณิชย์
- บล.เคที ซีมิโก้
ผลกระทบกรณีระงับการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดไม่รุนแรง

คาดธนาคารขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบไม่รุนแรง
         หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเห็นควรให้บรรเทาทุกข์ชั่วคราวการฟ้องร้องคดีในพื้นที่มาบตาพุด โดยให้ยกเว้น 11 โครงการ ที่คาดว่าไม่ก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงชัดเจน ที่เหลือ 65 โครงการ ให้ระงับการลงทุนไว้ก่อน เราสอบถามไปยังธนาคารขนาดใหญ่เพื่อประเมินผลกระทบ คาดว่าน่าจะเป็นระดับที่ไม่เป็นนัยสำคัญ

คาดโครงการอาจล่าช้าออกไปไม่เกิน 12 เดือน
         ประมาณ 80% ของโครงการที่ถูกสั่งระงับการลงทุน เป็นโรงงานปิโตรเคมี ซึ่ง 80-90% เป็นบริษัทในกลุ่มของ PTT และ SCC ซึ่งงบการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการที่โครงการต้องดำเนินการล่าช้าออกไปได้ ธนาคารเปิดเผยว่าหลังการพูดคุยกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ลูกค้าอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง และต่างล้วนเชื่อว่าโครงการจะไม่ล่าช้านานเกินกว่า 12 เดือน โดยบริษัทเหล่านี้ยังยืนยันว่า จะชำระหนี้ตามกำหนด

ธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อเพียงเล็กน้อยให้กับโครงการที่ถูกระงับ
         ธนาคารส่วนใหญ่มีการปล่อยสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง และสินเชื่อแบบมีระยะเวลา ให้กับบริษัทแม่ (PTT และ SCC) มากกว่าที่จะเป็นเงินกู้โดยตรงให้กับโครงการ ทั้งนี้ KBANK เปิดเผยว่า มีการปล่อยสินเชื่อโดยตรงให้กับโครงการที่ถูกระงับการลงทุนไปประมาณ 1.2 พันล้านบาท (หรือ 0.14%ของสินเชื่อทั้งหมด) และอีก 3 พันล้านบาทปล่อยกู้ตรงให้กับ PTT และ SCC เมื่อรวมทั้งสองก้อน จะมีสัดส่วนราว 0.5% ของสินเชื่อทั้งหมด ขณะที่ BBL และ SCB ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด เพียงแต่ระบุว่า การปล่อยกู้ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยกู้ให้กับบริษัทแม่ทั้งสองแห่งเช่นกัน

การผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลเสียต่อทั้งกลุ่ม
         หาก PTT หรือ SCC ยอมให้บางโครงการผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลให้ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มเพิ่ม และอาจเป็นความยากลำบากที่จะระดมทุนในระยะยาว ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้คงพยายามรักษาความสามารถในการชำระคืนหนี้ แม้โครงการลงทุนต้องล่าช้าออกไปก็ตาม

คำแนะนำการลงทุนยังไม่เปลี่ยนแปลง
         แม้เงินกู้ตรงให้กับโครงการเหล่านี้ของ KBANK รวม 1.2 พันล้านบาท จะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็ไม่คาดว่าจะกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร เนื่องจากกระแสการไหลออกของ NPL ยังคงมากกว่าเราจึงยังเลือกให้ KBANK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

  โดย บริษัท หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ประจำวันที่  9 ธ.ค. 2552
www.thunhoon.com
KriangL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1487
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 55

โพสต์

[quote="nanchan"]ปีที่แล้วเสื้อเหลืองใหญ่สุด ปีนี้ปีหน้าเป็นเทรนองค์กรอิสระหละ
องค์กรอิสระใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วตอนนี้
ทำHIAเสร็จก็ต้องไปยื่นขอองค์กรนี้ แล้วองค์กรนี้มีความโปร่งใสแค่ไหน
สงสัยอาจต้องมีการตั้งองค์การอิสระแล้วสระอีกมาตรวจสอบอีกที
ว่าทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงรึเปล่า
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 56

โพสต์

พี่ ngo เอาให้แหลกกันไปเลยครับ

พี่ngo นี้ยอดเยี่ยมจริงๆๆๆๆ  :drink:  ยาฆ่าแมลงดีกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 57

โพสต์

อมตะเซ็งธุรกิจเบรกลงทุนแสนล้าน  
วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โพสต์ทูเดย์ อตมะ กุมขมับ นักลงทุน 10 ราย ชะลอลงทุน 1 แสนล้านบาท หลังเจอปัญหา มาบตาพุด


นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติประมาณ 10 ราย วงเงินลงทุนรวม 1 แสนล้านบาท ยังไม่ยอมสรุปการซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ
ทั้งนี้ นักลงทุนยังกังวลกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้านของไทย โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองของไทยและความไม่ชัดเจนของการแก้ไขปัญหามาบตาพุดกรณีที่ถูกศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับโครงการ 65 โครงการชั่วคราว

ลูกค้ากว่า 10 ราย เป็นรายใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือทางการเกษตร อาหาร ได้เจรจากับทางอมตะตั้งแต่ต้นปี 2552 แต่ก็ยังไม่หาข้อยุติได้ว่าจะเข้ามาลงทุนในไทยหรือไม่ ซึ่งหวังว่าถ้าปัญหาต่างๆ ทุเลาในปี 2553 จะขายที่ดินเพิ่มได้เกือบ 1,000 ไร่ นายวิบูลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในนิคมมาบตาพุดส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเดิมที่อยู่ในนิคมอมตะด้วย ไม่ใช่เฉพาะการลงทุนรายใหม่ๆ เท่านั้น เพราะโรงงานส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น ยานยนต์พลาสติกฯ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าจากอุตสาหกรรมต้นน้ำประเภทปิโตรเคมีในนิคมมาบตาพุดจำนวนมาก

ทั้งนี้ กรณีหากผู้ประกอบการขาดวัตถุดิบในการผลิตคงต้องใช้ วิธีสั่งนำเข้าจากต่างประเทศแทน และอาจกระทบกับต้นทุนการผลิตในภาพรวมด้วย

นายวิบูลย์กล่าวถึงโครงการผลิตไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรมของบริษัท อมตะ สตรีม ซัพพลาย ซึ่งถูกศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับโครงการนั้น คงไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายกับภาครัฐหรือยื่นเรื่องขอผ่อนผันใดๆ เนื่องจากมีโอกาสค่อนข้างยาก เพราะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นก่อนรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการสร้างโรงไฟฟ้าก็ดำเนินการถูกต้องทุกอย่าง โดยได้รับความเห็นชอบรายงานการศึกษาผลกระทบทาง สิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว

นอกจากนี้ ยังได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและในระหว่างเตรียมการลงทุนได้มีการรับฟังความเห็นของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้าง โดยมีมูลค่าการลงทุนของโครงการประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า170 เมกะวัตต์

สำหรับโรงไฟฟ้าของอมตะมีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2555 ยังมีเวลาพอในการดำเนินการ เรื่องสิ่งแวดล้อม และไม่รีบร้อนใน การเดินหน้าโครงการดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหาในการดำเนินการฟ้องร้องในภายหลัง
Small Details Make a Big Difference
ภาพประจำตัวสมาชิก
thumbman2001
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 8116
ผู้ติดตาม: 1

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 58

โพสต์

ถ้าอยู่มาวันนึง มีกลุ่มใหม่สมมติว่าชื่อ OGN ละกันรวมกลุ่มเรียกร้องให้คุ้มครองหยุดทำการเกษตรชั่วคราว เพราะการเกษตรมีการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมีปราบศัตรูพืชต่างๆมากมาย และมีการไหลปนเปื้อนสะสมลงแหล่งน้ำต่างๆมากมายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากมาย เราจะทำยังไงกันดีล่ะนี่
 :lovl: :lovl:  :lovl:
NTL
Verified User
โพสต์: 175
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 59

โพสต์

สำหรับเรื่องมาบตาพุดกับการลงทุนนั้น ผมคิดว่าต้องคิดแยกเรื่องนะครับ
ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะพัวพันกันอยู่ก็ตาม

เรื่องของมาบตาพุดที่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หากท่านไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้ัรับผลกระทบ ก็ไม่อาจเข้าใจได้ครับว่าเป็นอย่างไร
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางผมได้รับแจ้งข่าวว่า มีก๊าซรั่วออกมาอีกแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าบริเวณไหน อย่างนี้จะให้ชาวบ้านที่เค้าอยู่ใกล้ ๆกังวลได้อย่างไร

 ส่วนตัวผมเองได้รับผลกระทบทั้งคู่ครับ กล่าวคือ
1 ผมเป็นคนที่นี่ อยู่ที่นี่ ทำงานทีี่นี่ ดังนั้นเรื่องกระทบสิ่งแวดล้อม ผมโดนด้วย
2 ในฐานะนักลงทุนผมก็ไม่ได้ต่างกับท่านทั้งหลายหรอกครับ

ผมว่าปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีกว่าครับ
ส่วนเรื่องการลงทุนก็อาจจะกระทบบ้างนะครับ อันนี้ต้องทำใจ
เงินต้นอยู่ครบ ผลตอบแทนทบต้น
anakinnet
Verified User
โพสต์: 520
ผู้ติดตาม: 0

มาบตะพุด

โพสต์ที่ 60

โพสต์

KriangL เขียน:สงสัยว่าพวก NGO นี้ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือเปล่า เพราะขนาดรถไฟฟ้าที่ช่วยให้ใช้พลังงานคุ้มค่าก็ยังจะประท้วงเลย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx
ตามไปอ่าน link นี้แล้วตกใจ

โครงการลงทุนขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม ของบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ ประเทศไทย จำกัด 11 โครงการ

นอกชายฝั่งมีชุมชนได้รับผลกระทบด้วยแฮะ สุดยอด
In the long run, We are all dead.