ผลประกอบการ psl ออกแล้วครับ :)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ผลประกอบการ psl ออกแล้วครับ :)
โพสต์ที่ 1
PSL สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2547 2546 2547 2546
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 1,216,534 556,400 2,730,862 1,023,145
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 2.39 1.07 5.31 1.97
Symbol: PSL
Headline: ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2547
Time: 04 พ.ย. 2004 14:16:16
ที่ 2547-051
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2547
เรียน ท่านกรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง นำส่งงบการเงินที่สอบทานแล้ว
สำหรับงวดสามเดือน และเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 และ 2546
บริษัทขอรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับงวดสามเดือน
และเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 และ 2546 และรายงานสรุปผลการดำเนินงาน (F45-3)
และคำชี้แจงถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของผลการดำเนินงานมีดังนี้
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทและบริษัทย่อย ("บริษัท") มีกำไรสุทธิรวม 1,216.53 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 556.40 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2546 เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงมีดังต่อไปนี้
1. รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (สุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ของไตรมาสสาม ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสามของปี 2546
ประมาณร้อยละ 199 แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐต่อเงินบาทเฉลี่ยของไตรมาสสามของปี 2547
จะต่ำว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 2546 อย่างไรก็ดี รายได้จากการเดินเรือในไตรมาสสามของปี2547 มาจากกองเรือเฉลี่ยจำนวน 51 ลำ
ในขณะที่ในไตรมาสสามของปี 2546 มีกองเรือเฉลี่ยจำนวน 28 ลำ รายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อ
วันต่อลำเรือในไตรมาสสามของปี 2547 เป็น 13,199ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสามของปี 2546 จำนวน 7,840 ดอลล่าร์สหรัฐ
ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 รายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากบริษัทได้รับอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากผลของการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าระวาง
ในตลาดสากลของการส่งสินค้าแห้งเทกองในไตรมาสสามของปี 2547 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546
2. สำหรับไตรมาสสามของปี 2547 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 108 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546
โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนวันเดินเรือที่สูงขึ้นเนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส
เดียวกันของปี 2546 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเป็น 2,774 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสามของปี2547 เมื่อเปรียบเทียบกับ
จำนวน 2,680 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสามของปี2546 (รวมค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือของทั้งสองปี)
ซึ่งเท่ากับลดลงร้อยละ 4
3. ค่าเสื่อมราคาสำหรับไตรมาสสามของปี 2547 เพิ่มขึ้น 279.08 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น
4. บริษัทได้บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 116.79 ล้านบาท ในไตรมาสสามของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
จำนวน 129.69 ล้านบาท ในไตรมาสที่สามของปี 2546 ทั้งนี้เนื่องจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดีการขาดทุนดังกล่าวทั้งหมดยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะเป็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการแปลงค่าหนี้สิน
ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินบาทเพื่อแสดงในงบดุลเท่านั้น
5. บริษัทไม่มีกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 136.59 ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2546
สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทและบริษัทย่อย ("บริษัท") มีกำไรสุทธิรวม 2,730.86 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร
สุทธิรวม 1,023.15 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2546 เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงมีดังต่อไปนี้
1. รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (สุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ของงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้นจากงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
ประมาณร้อยละ 151 แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐต่อเงินบาทเฉลี่ย ของงวดเก้าเดือนของปี 2547จะต่ำว่าเมื่อเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี
2546 อย่างไรก็ดี รายได้จากการเดินเรือในงวดเก้าเดือนของปี 2547 มาจากกองเรือเฉลี่ยจำนวน 42 ลำ ในขณะที่งวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 มีกองเรือเฉลี่ยจำ
นวน 28 ลำ รายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือสำหรับงวดเก้าเดอนของปี 2547 เป็น 12,813 ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
จำนวน 7,319 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 รายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจาบริษัทได้รับอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากผลของการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าระวาง
ในตลาดสากลของการส่งสินค้าแห้งเทกองในช่วงเก้าเดือนของปี 2547 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
2. บริษัทได้บันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 33.53 ล้านบาทในไตรมาสสองของปี 2547 ซึ่งเกิดจากบริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมด
ในหุ้นสามัญของการร่วมทุนในท่าเรือโดยบริษัทย่อย
3. บริษัทได้บันทึกหนี้สูญรับคืนจำนวน 55.96 ล้านบาทในไตรมาสสองของปี 2547 ซึ่งมาจากการรับชำระคืนของลูกหนี้ที่เกิดจากการขายเงินลงทุน
ในบริษัทร่วมที่ต่างประเทศแห่งหนึ่งซึ่งบริษัทได้ตัดเป็นหนี้สูญไปแล้วในปี 2545
4. สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 58 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
โดยมีสาเหตุหลักมาจากจำนวนวันเดินเรือที่สูงขึ้นจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงเก้าเดือนของปี 2547
เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเป็น 2,769 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547
เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวน 2,653ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 (รวมค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือ)
ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4
5. ค่าใช้จ่ายในการบริหารสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 54.89 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
สาเหตุหลักเนื่องจากมีการจ่ายค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาสำหรับการซื้อกองเรือ จำนวน 15 ลำ จาก MISC เมื่อเร็วๆนี้
6. ค่าเสื่อมราคาสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 501.09 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น
7. บริษัทได้บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 จำนวน 391.59 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร
จากอัตราแลกเปลี่ยนของงวดระเวลาเดียวกันของปี 2546 จำนวน 164.04 ล้านบาท เนื่องจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนของ
เงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไรก็ดีการขาดทุนดังกล่าวทั้งหมดยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงเพราะเป็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่
เกิดจากการแปลงค่าหนี้สินในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินบาทเพื่อแสดงในงบดุล เท่านั้น
8. ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 127.28 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะ
เวลาเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากมีจำนวนเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นและมีค่าที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายต่างๆครั้งเดียวที่เกี่ยวกับการรับสินเชื่อทางการเงินเพิ่มเติมจากธนาคาร กรุงไทย
9. บริษัทไม่มีกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 147.61 ล้านบาท สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2546
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดรับเอกสารดังกล่าวไว้ จักขอบพระคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
เพื่อ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)
นายมูนีร มอยนูดดิน ฮาชิม นายคูชรู คาลี วาเดีย
กรรมการ กรรมการ
ตามคาด
บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2547 2546 2547 2546
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 1,216,534 556,400 2,730,862 1,023,145
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 2.39 1.07 5.31 1.97
Symbol: PSL
Headline: ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2547
Time: 04 พ.ย. 2004 14:16:16
ที่ 2547-051
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2547
เรียน ท่านกรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง นำส่งงบการเงินที่สอบทานแล้ว
สำหรับงวดสามเดือน และเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 และ 2546
บริษัทขอรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับงวดสามเดือน
และเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 และ 2546 และรายงานสรุปผลการดำเนินงาน (F45-3)
และคำชี้แจงถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของผลการดำเนินงานมีดังนี้
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทและบริษัทย่อย ("บริษัท") มีกำไรสุทธิรวม 1,216.53 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 556.40 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2546 เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงมีดังต่อไปนี้
1. รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (สุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ของไตรมาสสาม ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสามของปี 2546
ประมาณร้อยละ 199 แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐต่อเงินบาทเฉลี่ยของไตรมาสสามของปี 2547
จะต่ำว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 2546 อย่างไรก็ดี รายได้จากการเดินเรือในไตรมาสสามของปี2547 มาจากกองเรือเฉลี่ยจำนวน 51 ลำ
ในขณะที่ในไตรมาสสามของปี 2546 มีกองเรือเฉลี่ยจำนวน 28 ลำ รายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อ
วันต่อลำเรือในไตรมาสสามของปี 2547 เป็น 13,199ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสามของปี 2546 จำนวน 7,840 ดอลล่าร์สหรัฐ
ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 รายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากบริษัทได้รับอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากผลของการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าระวาง
ในตลาดสากลของการส่งสินค้าแห้งเทกองในไตรมาสสามของปี 2547 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546
2. สำหรับไตรมาสสามของปี 2547 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 108 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546
โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนวันเดินเรือที่สูงขึ้นเนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส
เดียวกันของปี 2546 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเป็น 2,774 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสามของปี2547 เมื่อเปรียบเทียบกับ
จำนวน 2,680 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสามของปี2546 (รวมค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือของทั้งสองปี)
ซึ่งเท่ากับลดลงร้อยละ 4
3. ค่าเสื่อมราคาสำหรับไตรมาสสามของปี 2547 เพิ่มขึ้น 279.08 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น
4. บริษัทได้บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 116.79 ล้านบาท ในไตรมาสสามของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
จำนวน 129.69 ล้านบาท ในไตรมาสที่สามของปี 2546 ทั้งนี้เนื่องจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดีการขาดทุนดังกล่าวทั้งหมดยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะเป็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการแปลงค่าหนี้สิน
ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินบาทเพื่อแสดงในงบดุลเท่านั้น
5. บริษัทไม่มีกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 136.59 ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2546
สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทและบริษัทย่อย ("บริษัท") มีกำไรสุทธิรวม 2,730.86 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร
สุทธิรวม 1,023.15 ล้านบาท สำหรับงวดเดียวกันของปี 2546 เหตุผลหลักของการเปลี่ยนแปลงมีดังต่อไปนี้
1. รายได้จากการเดินเรือสุทธิ (สุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ของงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้นจากงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
ประมาณร้อยละ 151 แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐต่อเงินบาทเฉลี่ย ของงวดเก้าเดือนของปี 2547จะต่ำว่าเมื่อเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี
2546 อย่างไรก็ดี รายได้จากการเดินเรือในงวดเก้าเดือนของปี 2547 มาจากกองเรือเฉลี่ยจำนวน 42 ลำ ในขณะที่งวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 มีกองเรือเฉลี่ยจำ
นวน 28 ลำ รายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือสำหรับงวดเก้าเดอนของปี 2547 เป็น 12,813 ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
จำนวน 7,319 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 รายได้ที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจาบริษัทได้รับอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากผลของการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าระวาง
ในตลาดสากลของการส่งสินค้าแห้งเทกองในช่วงเก้าเดือนของปี 2547 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
2. บริษัทได้บันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 33.53 ล้านบาทในไตรมาสสองของปี 2547 ซึ่งเกิดจากบริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมด
ในหุ้นสามัญของการร่วมทุนในท่าเรือโดยบริษัทย่อย
3. บริษัทได้บันทึกหนี้สูญรับคืนจำนวน 55.96 ล้านบาทในไตรมาสสองของปี 2547 ซึ่งมาจากการรับชำระคืนของลูกหนี้ที่เกิดจากการขายเงินลงทุน
ในบริษัทร่วมที่ต่างประเทศแห่งหนึ่งซึ่งบริษัทได้ตัดเป็นหนี้สูญไปแล้วในปี 2545
4. สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 58 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
โดยมีสาเหตุหลักมาจากจำนวนวันเดินเรือที่สูงขึ้นจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงเก้าเดือนของปี 2547
เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเป็น 2,769 ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547
เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวน 2,653ดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 (รวมค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือ)
ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4
5. ค่าใช้จ่ายในการบริหารสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 54.89 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546
สาเหตุหลักเนื่องจากมีการจ่ายค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาสำหรับการซื้อกองเรือ จำนวน 15 ลำ จาก MISC เมื่อเร็วๆนี้
6. ค่าเสื่อมราคาสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 501.09 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะเวลาเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น
7. บริษัทได้บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 จำนวน 391.59 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร
จากอัตราแลกเปลี่ยนของงวดระเวลาเดียวกันของปี 2546 จำนวน 164.04 ล้านบาท เนื่องจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนของ
เงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไรก็ดีการขาดทุนดังกล่าวทั้งหมดยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงเพราะเป็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่
เกิดจากการแปลงค่าหนี้สินในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินบาทเพื่อแสดงในงบดุล เท่านั้น
8. ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เพิ่มขึ้น 127.28 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดระยะ
เวลาเดียวกันของปี 2546 เนื่องจากมีจำนวนเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นและมีค่าที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายต่างๆครั้งเดียวที่เกี่ยวกับการรับสินเชื่อทางการเงินเพิ่มเติมจากธนาคาร กรุงไทย
9. บริษัทไม่มีกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2547 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ จำนวน 147.61 ล้านบาท สำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2546
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดรับเอกสารดังกล่าวไว้ จักขอบพระคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
เพื่อ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน)
นายมูนีร มอยนูดดิน ฮาชิม นายคูชรู คาลี วาเดีย
กรรมการ กรรมการ
ตามคาด
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
ผลประกอบการ psl ออกแล้วครับ :)
โพสต์ที่ 3
ผลประกอบการ โตดีเหลือเกิน
3 ไตรมาส EPS 5.31
คิดเฉลี่ย 4 ไตรมาส 5.31*4/3 = 7.08
ถ้าคิดที่ PE 10 ราคาจะเป็น 70.80
ตอนนี้ราคา 39.50
3 ไตรมาส EPS 5.31
คิดเฉลี่ย 4 ไตรมาส 5.31*4/3 = 7.08
ถ้าคิดที่ PE 10 ราคาจะเป็น 70.80
ตอนนี้ราคา 39.50
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ผลประกอบการ psl ออกแล้วครับ :)
โพสต์ที่ 4
CK เขียน:ต่ำกว่าที่คาดไป 6 สตางค์ครับ ผมนึกว่าจะได้สัก 2.45
ไม่รู้ไปหลงคารมคุณ blueblood ตั้งกะเมื่อไหร่ แบกเรือหลังแอ่นเลย
ป.ล. อย่าลืมว่ามีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริงด้วยนะครับ