ระหว่าง ILINK กับ CPALL
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 1
ผมเริ่มลงทุนมาได้ประมาณครึ่งปี ก็มี 2ตัวนี้แหละครับที่ผมสนใจมากๆ
อยากทราบความเห็นของเพื่อนๆว่า 2 ตัวนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
อีกอย่างหนึ่งผมอยากถามเกี่ยวกับ CPALL รู้สึกว่าตอนปีก่อนๆราคาไม่ขยับไปไหน เข้าใจว่าเนื่องจากขาดทุนใน lotus แต่ผมเคยดูสัดส่วนการถือหุ้น พบว่าCPALLถือหุ้นlotusเป็นสัดส่วนน้อยมากไม่เกิน10% ไม่น่าจะกระทบต่อผลประกอบการมากมาย แต่มันกลับทำให้นักลงทุนมองข้ามจนกลายเป็นหุ้นที่ราคาถูกมากๆเลยงั้นหรือ(ตอนมัน5บาทอะนะ)
หรือว่าเมื่อก่อนมันถือหุ้นlotusมากกว่านี้รึป่าว??
ขอผู้รู้ชี้แจงด้วยครับ
อยากทราบความเห็นของเพื่อนๆว่า 2 ตัวนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
อีกอย่างหนึ่งผมอยากถามเกี่ยวกับ CPALL รู้สึกว่าตอนปีก่อนๆราคาไม่ขยับไปไหน เข้าใจว่าเนื่องจากขาดทุนใน lotus แต่ผมเคยดูสัดส่วนการถือหุ้น พบว่าCPALLถือหุ้นlotusเป็นสัดส่วนน้อยมากไม่เกิน10% ไม่น่าจะกระทบต่อผลประกอบการมากมาย แต่มันกลับทำให้นักลงทุนมองข้ามจนกลายเป็นหุ้นที่ราคาถูกมากๆเลยงั้นหรือ(ตอนมัน5บาทอะนะ)
หรือว่าเมื่อก่อนมันถือหุ้นlotusมากกว่านี้รึป่าว??
ขอผู้รู้ชี้แจงด้วยครับ
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1661
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 2
ผมจำไม่ได้ว่าถือสัดส่วนเท่าไหร่แต่ที่แน่ๆ คือผลกระทบจากการถือlotusเนี่ย
ฉุดกำไรcpall ให้ลดลงประมาณ 50%เลยทีเดียว
พอมีข่าวว่าจะขายโลตัส ราคามันก็เลยขยับขึ้นมาเป็น 2เท่า (ในช่วงเวลานั้น)
ลองหาอ่านดูในห้องcpallสิครับ
ฉุดกำไรcpall ให้ลดลงประมาณ 50%เลยทีเดียว
พอมีข่าวว่าจะขายโลตัส ราคามันก็เลยขยับขึ้นมาเป็น 2เท่า (ในช่วงเวลานั้น)
ลองหาอ่านดูในห้องcpallสิครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 3
เป็นการเปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวที่เหมาะสมมาก
EPS ของ CPALL ปีนี้จะอยู่ที่ 1.06 ปีหน้าคาดว่าจะโต 20% ไป 1.25 บาท
EPS ของ ILINK ปีนี้จะอยู่ราว 1.1 ปีหน้าโต 100% ไป 2.2 บาท
คาดการณ์ปั 2011 CPALL โตอีก 20% EPS ไป 1.5 บาท
ILINK โตอีก 50% EPS สูงถึง 3.3 บาท
P/E ต่ำกว่า กำไรต่อหุ้นสูงกว่า เติบโตแรงกว่า ....
เป็นไปได้ไหม ในที่สุดแล้วราคาหุ้นของ ILINK จะสูงกว่า CPALL ??
EPS ของ CPALL ปีนี้จะอยู่ที่ 1.06 ปีหน้าคาดว่าจะโต 20% ไป 1.25 บาท
EPS ของ ILINK ปีนี้จะอยู่ราว 1.1 ปีหน้าโต 100% ไป 2.2 บาท
คาดการณ์ปั 2011 CPALL โตอีก 20% EPS ไป 1.5 บาท
ILINK โตอีก 50% EPS สูงถึง 3.3 บาท
P/E ต่ำกว่า กำไรต่อหุ้นสูงกว่า เติบโตแรงกว่า ....
เป็นไปได้ไหม ในที่สุดแล้วราคาหุ้นของ ILINK จะสูงกว่า CPALL ??
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 4
ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะพื้นฐานของกิจการแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับเป็นการเปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวที่เหมาะสมมาก
EPS ของ CPALL ปีนี้จะอยู่ที่ 1.06 ปีหน้าคาดว่าจะโต 20% ไป 1.25 บาท
EPS ของ ILINK ปีนี้จะอยู่ราว 1.1 ปีหน้าโต 100% ไป 2.2 บาท
คาดการณ์ปั 2011 CPALL โตอีก 20% EPS ไป 1.5 บาท
ILINK โตอีก 50% EPS สูงถึง 3.3 บาท
P/E ต่ำกว่า กำไรต่อหุ้นสูงกว่า เติบโตแรงกว่า ....
เป็นไปได้ไหม ในที่สุดแล้วราคาหุ้นของ ILINK จะสูงกว่า CPALL ??
[/url]
CPALL เป็นหุ้นที่กำลัง Growth ซึ่งน่านะมีระยะเวลา Growth มากกว่า
Ilink และ Ilink เป็นบริษัทที่รับประมูลงานครับ ความมั่นคงของรายได้ต่ำกว่า Cpall มากครับ
สุดท้ายตลาด และนักลงทุน ก็คงไม่ยอมจ่ายแพง เพื่อซื้อ หุ้นแฟชั่น ครับ
เพราะการที่จะลงทุนในหุ้นที่ P/E สูงๆ คุณภาพของกิจการก็ควรจะสูงตามด้วยจริงไหมครับ
แต่อาจจะมีบ้างที่คนเริ่มเก็งกำไร ซึ่งอาจจะทำให้ราคา Ilink สูงกว่า CPALL ได้ แต่คงจะเป็นแค่บางช่วงเวลานะครับ ระยะยาว 5-10 ปี ผมคิดว่ายังไง CPALL ก็คงจะมี P/E ที่สูงกว่า ILINK และ ราคาหุ้นก็น่าจะมากกว่าครับ
ขอบคุณครับ อันนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่างซีเรียส์
อนาคตเป็นสิ่งที่เรากำหนดได้ในวันนี้
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 8
[quote="newbie_12"][quote="อะไรดีละ"]เป็นการเปรียบเทียบหุ้น 2 ตัวที่เหมาะสมมาก
EPS ของ CPALL ปีนี้จะอยู่ที่ 1.06
EPS ของ CPALL ปีนี้จะอยู่ที่ 1.06
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 9
2ตัวนี้อาจจะมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แตกต่างกัน
แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากนำมาเทียบกันดูเพราะทั้งคู่เป็นตัวที่กำลังเติบโต
และผมคิดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยกันทั้งคู่
และอยากจะถามความเห็นเพื่อนๆด้วยครับว่า คิดว่าตัวไหนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากนำมาเทียบกันดูเพราะทั้งคู่เป็นตัวที่กำลังเติบโต
และผมคิดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยกันทั้งคู่
และอยากจะถามความเห็นเพื่อนๆด้วยครับว่า คิดว่าตัวไหนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 11
ให้เวลา 1 ปี ภายในปีหน้าคิดว่าราคาหุ้น ILINK จะแซง CPALL ครับ...sakkaphan เขียน:2ตัวนี้อาจจะมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แตกต่างกัน
แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากนำมาเทียบกันดูเพราะทั้งคู่เป็นตัวที่กำลังเติบโต
และผมคิดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยกันทั้งคู่
และอยากจะถามความเห็นเพื่อนๆด้วยครับว่า คิดว่าตัวไหนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพราะ เหตุผล กำไรต่อหุ้นมากกว่า และ เติบโตสูงกว่า
ดังนั้น เมื่อดูจากราคาหุ้นปัจจุบันแล้ว ฟันธงได้เลยมั้งครับ ว่าตัวไหนจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากัน
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 13
เรื่องโลตัสที่จีน แต่ก่อนที่ยังไม่ตัดออกไป เป็นตัวกดดันกำไรของ CP7-11 มาก ชื่อเก่าในตอนนั้น ปีนึงรับรู้ขาดทุนหลายพันล้าน พอตัดออกไปกำไรก็กระโดดเลย วงในรู้กันทำให้ราคาวิ่งขึ้นก่อนเกือบเท่าตัว แต่สุดท้ายแล้วถึงคนที่ซื้อหลังประกาศข่าวนี้ก็ยังได้อีกหลายเท่าตัว ผมได้แต่ติดตามแต่ไม่ได้ซื้ออะ ตอนนั้นยังลงทุนได้ไม่นาน ไปเน้นแต่ของถูกไม่ค่อยได้ให้ราคามันของดีมากๆ คิดแต่ว่ามันยังแพงเลยไม่ได้ซื้อซะที จริงๆ ปีที่แล้วก็มีให้เห็นราคาต่ำกว่าสิบบาท แต่ก็ของถูกเกลื่อนตลาด เลือกได้เต็มที่
- tn143
- Verified User
- โพสต์: 229
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 15
Ilink ระยะสั้น
cpall ระยะยาว
ผมไม่ได้ศึกษา ILINK เท่าไหร่ เขาได้งานกำไรดีขนาดนี้เลยหรือนี่
แล้วจะได้งานอย่างนี้อีกนานไหม คิดว่า ถ้ามีข่าวว่าได้งานใหญ่
กำไรดี ก็น่าซื้อเกาะกระแส แล้วขายออก
ดูเป็นรอบๆมากกว่าครับ
ชอบ cpall มากกว่า อนาคตดี อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดี
รายได้มั่นคง สาขาเยอะ เป็นเจ้าตลาด มีแบรนด์
โอ้ย ดีทุกอย่าง
เสียอย่างเดียวคือ ราคาหุ้น
ก่อนนี้ว่าแพงแล้ว ตอนนี้แพงกว่า
cpall ระยะยาว
ผมไม่ได้ศึกษา ILINK เท่าไหร่ เขาได้งานกำไรดีขนาดนี้เลยหรือนี่
แล้วจะได้งานอย่างนี้อีกนานไหม คิดว่า ถ้ามีข่าวว่าได้งานใหญ่
กำไรดี ก็น่าซื้อเกาะกระแส แล้วขายออก
ดูเป็นรอบๆมากกว่าครับ
ชอบ cpall มากกว่า อนาคตดี อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดี
รายได้มั่นคง สาขาเยอะ เป็นเจ้าตลาด มีแบรนด์
โอ้ย ดีทุกอย่าง
เสียอย่างเดียวคือ ราคาหุ้น
ก่อนนี้ว่าแพงแล้ว ตอนนี้แพงกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 16
ผมมองว่า CPALL ไม่เคยถูก แต่ Ilink เคยถูกและเคยแพง ซึ่งเหตุผลน่าจะมาจากรายได้ของ CPALL ที่มั่นคงสม่ำเสมอกว่า แต่ Ilink แนวโน้มการใช้สายสัญญาณ อาจมีการแกว่งตัวได้บางช่วง และ สำหรับงานรับเหมาเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ดังนี้ราคาก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 60
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 17
อืม เห็นด้วยครับ
cpall ที่มั่นคงสม่ำเสมอ
แต่ดู PE ณ ตอนนี้ คิดว่าแพงไปยังอ่ะครับ สูงมาก เมื่อเทียบกับ ILINK แต่มันก็คนละ business ไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้ตัวไหนน่าจะถูก ตัวไหนน่าจะแพงดีครับ
cpall ที่มั่นคงสม่ำเสมอ
แต่ดู PE ณ ตอนนี้ คิดว่าแพงไปยังอ่ะครับ สูงมาก เมื่อเทียบกับ ILINK แต่มันก็คนละ business ไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้ตัวไหนน่าจะถูก ตัวไหนน่าจะแพงดีครับ
Live to learn to live.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 18
ผมคิดว่า cpall ตอนนี้ถึงจะดูแพง แต่หวังผลในระยะยาวได้แน่นอนครับ
แต่ส่วนตัวตอนนี้ยังลงทุนใน ILINK อยู่ คิดว่าในระยะสั้นน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ถ้าเริ่มชะลอการเติบโตเมื่อไร ก็คงหันมาลงทุนใน cpall ครับ เพราะถ้าพูดถึงด้านคุณภาพนี่ cpall หายห่วง ผมเด็กหออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเซเว่น -_-'
ขออย่างเดียวครับ คุณธนิน อย่าเอาเงินไปลงทุนแล้วเจ๊งแบบตอนlotus อีกละกัน :lol:
แต่ส่วนตัวตอนนี้ยังลงทุนใน ILINK อยู่ คิดว่าในระยะสั้นน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ถ้าเริ่มชะลอการเติบโตเมื่อไร ก็คงหันมาลงทุนใน cpall ครับ เพราะถ้าพูดถึงด้านคุณภาพนี่ cpall หายห่วง ผมเด็กหออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเซเว่น -_-'
ขออย่างเดียวครับ คุณธนิน อย่าเอาเงินไปลงทุนแล้วเจ๊งแบบตอนlotus อีกละกัน :lol:
- baby-investor
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 19
อยากให้น้อง sakkaphan ลองย้อนกลับไปอ่านข้อมูลเก่าๆในห้องร้อยคนร้อยหุ้นในช่วงระหว่างปี 2006-2007 ดูครับ เหตุการณ์ต่างๆของทั้ง 2 บริษัทจะอยู่ในช่วงนั้น ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์พอสมควรทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 21
เรื่อง PE ผมเห็นแสดงความเห็นหลายท่าน แต่ในมุมมองของผมก็คือว่า PE คือ ราคาที่ตลาดให้ เมื่อเทียบกับกำไร เพราะฉะนั้นในอนาคตไม่สามารถมีใครบอกได้ว่า ต่อไป PE จะสูงหรือต่ำ แต่ผมว่าเราควรมองแบบนี้ดีไหมครับ ว่าในอีก 10 - 20 ปี Model ของธุรกิจจะเปลี่ยนไหม เหมือนกับ ผงซักฟอก ที่คนจะเรียก แฟ๊บ จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เรียก มาม่า เนื่องจากเพราะ Brade Royalty ที่มีต่อตราสินค้านั่นเอง ผมกลับมาเรื่องของ CPALL กับ Ilink ผมถามว่าถ้าจะไปซื้อสายสัญญาณจะซื้อ Ilink หรือ สาย Lan หรือ ซื้อสาย Lan ยี่ห้อ AMC แต่ถ้าไป 7-11 จะบอกว่าไปมินิมาร์ทไหมครับ ผมว่าถ้าต่อไปเด็กตัวเล็ก ๆ ไป มินิมาร์ทต่อไปจะเรียกว่าไป 7 และต่อมาเด็กทีว่าเมื่อโตขึ้นก็จะไป 7 แน่นอน อาจบอกว่า " แม่เดี่ยวไป 7 ก่อนนะ" อะไรประมาณนี้ ผมว่าการดูธุรกิจบางครั้งถ้าในระยะยาว ๆ คงต้องคิดด้วยความรู้สึกนะครับ แต่ในส่วนของผลประกอบการก็อีกเรื่อง เพราะฉะนั้นผมมองว่า CPALL นั้นเป็นหุ้นที่ไม่สามารถมอง PE ได้เพราะถ้ามองเรากำลังเล่นกับนายตลาด ซึ่งเมื่อไรก็ไม่รู้ที่นายตลาดจะคิดว่าหุ้นตัวนี้ถูก เพราะ Brand Royalty แต่กับ Ilink นายตลาดอาจรับรู้ว่าความเสี่ยงของตัวธุรกิจ มีมากกว่าราคาเลยขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างที่คิด เพราะฉะนั้น PE อาจนำมาคิดได้ครับ ....
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 23
[quote="unnop.t"]VI ชอบ ....... CPALL
VS ชอบ ...... Ilink
I C ALL Link
VS ชอบ ...... Ilink
I C ALL Link
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 24
[quote="o-bo-ja-ma"][quote="unnop.t"]VI ชอบ ....... CPALL
VS ชอบ ...... Ilink
I C ALL Link
VS ชอบ ...... Ilink
I C ALL Link
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 25
ผมมองว่าคู่แข่งของ 7-11 ก็จะมี
1. โชว์ห่วยแบบเดิม ที่พัฒนาตัวเองขึ้นมา แบบไม่ยอมเสียค่า แฟรนไชน์
2. 108 shop
3. Lotus express
4. Jiffy
5. mini BigC
6. ตลาด Lotus
เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้ แต่ที่คิดว่ามี Model ธุรกิจ และตาม 7-11 แบบ Follow too ก็มี Lotus Express ที่คิดว่าอย่างนี้ก็เพราะเดี๋ยวนี้ทำเลที่ดี Lotus Express จะมีคู่ไปกับ 7-11 คล้าย ๆ กับเป็นตัวขัดลาภ อะไรประมาณนี้ แต่ผมก็ยังสงสัยกับกลยุทธของ Lotus ที่แบ่ง Target segment เป็น convenience store แบบ 7-11 และก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเหมือนกับจะมาแทนตลาดสด คือ ตลาด Lotus และขนาดใหญ่ที่กิน share มาก ก็คือ Lotus แต่ผมก็ยังมาคิดอีกว่าทำไม Lotus ถึงเปิดการแข่งขันหลายหน้า เพราะว่าทำไมไม่กินส่วนแบ่งของตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็คงต้องลองดูระยะยาวนะครับว่า 7-11 จะมีการแก้เกมส์อย่างไร
ส่วน Mini BigC ก็อีกนานกว่าจะตามทัน
สำหรับ Jiffy ผมว่าจริง ๆ แล้ว ปตท.ไม่น่าคิดสั้นเพราะว่าคนติด Brand และก็ไม่ควรต้องมาเสี่ยงทำธุรกิจที่ตัวเองไม่ถนัด ผมจึงคิดว่าไม่ใช่คู่แข่ง ผมคิดว่าปตท.ควรใช้ 7-11 แบบ Partnership จะดีกว่า ค่อย ๆ ต่อค่า แฟรนไชน์เอา ผมว่า 7-11 คงไม่ใจดำหรอกครับ
ส่วน 108 Shop ผมมองว่าคงใช้กลยุทธแบบกองโจร ซึ่งไม่มีการโจมตีแบบซึ่งหน้า แต่คงเจาะตลาดที่ 7-11 ไม่ไปตั้งแน่นอนเช่นที่ ๆ ประชากรน้อย ๆ แบบที่ 7-11 ตั้งแล้วไม่คุ้มทุน แต่พอนาน ๆ ไปผู้ใช้ก็อาจติด Brand ได้แล้วเพราะมีสินค้าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
สุดท้ายค้าปลีกที่ปรับตัวก็จะปรับไม่ทันและเข้าข่ายเมื่อสู้ไม่ได้ ก็เป็นพวกดีกว่า
ก็น่าจะประมาณนี้ครับ เท่าที่ผมคิดได้
1. โชว์ห่วยแบบเดิม ที่พัฒนาตัวเองขึ้นมา แบบไม่ยอมเสียค่า แฟรนไชน์
2. 108 shop
3. Lotus express
4. Jiffy
5. mini BigC
6. ตลาด Lotus
เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้ แต่ที่คิดว่ามี Model ธุรกิจ และตาม 7-11 แบบ Follow too ก็มี Lotus Express ที่คิดว่าอย่างนี้ก็เพราะเดี๋ยวนี้ทำเลที่ดี Lotus Express จะมีคู่ไปกับ 7-11 คล้าย ๆ กับเป็นตัวขัดลาภ อะไรประมาณนี้ แต่ผมก็ยังสงสัยกับกลยุทธของ Lotus ที่แบ่ง Target segment เป็น convenience store แบบ 7-11 และก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเหมือนกับจะมาแทนตลาดสด คือ ตลาด Lotus และขนาดใหญ่ที่กิน share มาก ก็คือ Lotus แต่ผมก็ยังมาคิดอีกว่าทำไม Lotus ถึงเปิดการแข่งขันหลายหน้า เพราะว่าทำไมไม่กินส่วนแบ่งของตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็คงต้องลองดูระยะยาวนะครับว่า 7-11 จะมีการแก้เกมส์อย่างไร
ส่วน Mini BigC ก็อีกนานกว่าจะตามทัน
สำหรับ Jiffy ผมว่าจริง ๆ แล้ว ปตท.ไม่น่าคิดสั้นเพราะว่าคนติด Brand และก็ไม่ควรต้องมาเสี่ยงทำธุรกิจที่ตัวเองไม่ถนัด ผมจึงคิดว่าไม่ใช่คู่แข่ง ผมคิดว่าปตท.ควรใช้ 7-11 แบบ Partnership จะดีกว่า ค่อย ๆ ต่อค่า แฟรนไชน์เอา ผมว่า 7-11 คงไม่ใจดำหรอกครับ
ส่วน 108 Shop ผมมองว่าคงใช้กลยุทธแบบกองโจร ซึ่งไม่มีการโจมตีแบบซึ่งหน้า แต่คงเจาะตลาดที่ 7-11 ไม่ไปตั้งแน่นอนเช่นที่ ๆ ประชากรน้อย ๆ แบบที่ 7-11 ตั้งแล้วไม่คุ้มทุน แต่พอนาน ๆ ไปผู้ใช้ก็อาจติด Brand ได้แล้วเพราะมีสินค้าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
สุดท้ายค้าปลีกที่ปรับตัวก็จะปรับไม่ทันและเข้าข่ายเมื่อสู้ไม่ได้ ก็เป็นพวกดีกว่า
ก็น่าจะประมาณนี้ครับ เท่าที่ผมคิดได้
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 26
ปัจจุบัน 108 ช็อปมี 700 สาขา เป็นร้านที่บริษัทลงทุนเองเกือบ 500 สาขา ปีหน้าตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 400 สาขา เป็นลงทุนเอง 200 สาขา และแฟรนไชส์อีก 200 สาขา ปีหน้าจะมีสาขาทะลุ 1,000 สาขาแน่นอน เป้าหมายดังกล่าวยังไม่รวมกรณีการเข้าไปเปิดให้บริการแทนร้านสะดวกซื้อ "สตาร์มาร์ท" ในปั๊มคาลเท็กซ์ ซึ่งบริษัทแม่เชฟรอนที่จะเลิกธุรกิจดังกล่าว
++ 108 shop จะเพิ่มสาขาเกือบเท่าตัว...ปีหน้า
เป็นข่าวไม่ดีนักกับ CPALL นะครับ
Family Mart และ Lotus express ก็มาแรง ประมาทไม่ได้ครับ
++ 108 shop จะเพิ่มสาขาเกือบเท่าตัว...ปีหน้า
เป็นข่าวไม่ดีนักกับ CPALL นะครับ
Family Mart และ Lotus express ก็มาแรง ประมาทไม่ได้ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 27
นี่คือ ข่าวของ Family Mart
บริษัท แฟมิลี่มาร์ท จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดนโยบายในการขยายสาขาที่มีอยู่ทั่วโลก จาก 15,493 สาขา ณ ปัจจุบัน เพิ่มเป็น 20,000 สาขา ,ณ สิ้นเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เรามีจำนวนสาขาอยู่ทั้งสิ้น 558 สาขา ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ดังกล่าว ทางบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด จึงมีแผนที่จะเสริมสร้างความหนักแน่นของฐานการบริหารเครือข่าย แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา รวมทั้งมีการตอกย้ำในด้านภาพลักษณ์ของแฟมิลี่มาร์ท เพื่อให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น
มีเป้าหมายการเพิ่มสาขาถึง 30% .... สำหรับไทยจาก 558 สาขา ก็อาจเพิ่มเป็น 1 พันสาขาได้ง่ายๆ ครับ
บริษัท แฟมิลี่มาร์ท จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดนโยบายในการขยายสาขาที่มีอยู่ทั่วโลก จาก 15,493 สาขา ณ ปัจจุบัน เพิ่มเป็น 20,000 สาขา ,ณ สิ้นเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เรามีจำนวนสาขาอยู่ทั้งสิ้น 558 สาขา ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ดังกล่าว ทางบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด จึงมีแผนที่จะเสริมสร้างความหนักแน่นของฐานการบริหารเครือข่าย แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา รวมทั้งมีการตอกย้ำในด้านภาพลักษณ์ของแฟมิลี่มาร์ท เพื่อให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น
มีเป้าหมายการเพิ่มสาขาถึง 30% .... สำหรับไทยจาก 558 สาขา ก็อาจเพิ่มเป็น 1 พันสาขาได้ง่ายๆ ครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 28
แต่ถ้าเป็นผม มี minimart 3 ร้าน เปิดเรียงติดกัน นั่นคือ
7 eleven , lotus express , 108 shop
ผมในฐานะผู้บริโภค ก็ขอเลือกไปซื้อของที่ 7 eleven นะครับ และก็คิดว่าคนรอบข้างที่ผมรู้จักก็คงไม่ต่างจากผมมากสักเท่าไหร่
ปล.ผมไม่มีหุ้นนะครับ มองในฐานะคนเดินถนนธรรมดาคนหนึ่ง :8)
7 eleven , lotus express , 108 shop
ผมในฐานะผู้บริโภค ก็ขอเลือกไปซื้อของที่ 7 eleven นะครับ และก็คิดว่าคนรอบข้างที่ผมรู้จักก็คงไม่ต่างจากผมมากสักเท่าไหร่
ปล.ผมไม่มีหุ้นนะครับ มองในฐานะคนเดินถนนธรรมดาคนหนึ่ง :8)
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 29
[quote="o-bo-ja-ma"]ผมมองว่าคู่แข่งของ 7-11 ก็จะมี
1. โชว์ห่วยแบบเดิม ที่พัฒนาตัวเองขึ้นมา แบบไม่ยอมเสียค่า แฟรนไชน์
2. 108 shop
3. Lotus express
4. Jiffy
5. mini BigC
6. ตลาด Lotus
ผมว่าตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นคู่แข่งของ 7-11 หรอกครับ
แต่ถ้า Family Mart, Lotus Express. 108Shop แม้กระทั่งโชว์ห่วย หันมาแจกแสตมป์ ถึงจะน่ากลัวครับ :lol: :lol:
ตอนนี้มีมินิมาร์ทบางแห่งแจกเป็นคูปอง เพื่อสะสม แล้วสามารถนำมาแลกของ แต่ของที่นำมาเป็นรางวัล ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร
1. โชว์ห่วยแบบเดิม ที่พัฒนาตัวเองขึ้นมา แบบไม่ยอมเสียค่า แฟรนไชน์
2. 108 shop
3. Lotus express
4. Jiffy
5. mini BigC
6. ตลาด Lotus
ผมว่าตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นคู่แข่งของ 7-11 หรอกครับ
แต่ถ้า Family Mart, Lotus Express. 108Shop แม้กระทั่งโชว์ห่วย หันมาแจกแสตมป์ ถึงจะน่ากลัวครับ :lol: :lol:
ตอนนี้มีมินิมาร์ทบางแห่งแจกเป็นคูปอง เพื่อสะสม แล้วสามารถนำมาแลกของ แต่ของที่นำมาเป็นรางวัล ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร
- pongo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
ระหว่าง ILINK กับ CPALL
โพสต์ที่ 30
แสตมป์ 7-11 มีต้นทุนสูงนะครับ
เจ้าของสินค้าและ 7-11 จะแบ่งกัน rebate โดยสัดส่วนจะไม่เท่ากัน ขึ้นกับการเจรจาต่อรอง
เท่าที่จำได้ เคยมี ทวิสตี้แบบเปนซองมั้ง ซองละ 5 บาท 2 ซอง ได้แสตมป์ทอง 1 ดวง มูลค่า 3 บาท
สมมุติ rebate 50 : 50 กำไรของเจ้าของสินค้าหายไปเท่าไรแล้วครับ
1.5 บาท / 10 บาท = 15%
ตอนนี้มี lay stack (เขียนถูกไหมหว่า) 2 กระป๋อง กระป๋องละ 55 บาท
ได้แสตมป์ทอง 10 ดวง (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
คิดว่านอกจาก 7-11 แล้ว มีเจ้าไหนมีอำนาจต่อรองสูงขนาดนี้มั่งครับ
เจ้าของสินค้าและ 7-11 จะแบ่งกัน rebate โดยสัดส่วนจะไม่เท่ากัน ขึ้นกับการเจรจาต่อรอง
เท่าที่จำได้ เคยมี ทวิสตี้แบบเปนซองมั้ง ซองละ 5 บาท 2 ซอง ได้แสตมป์ทอง 1 ดวง มูลค่า 3 บาท
สมมุติ rebate 50 : 50 กำไรของเจ้าของสินค้าหายไปเท่าไรแล้วครับ
1.5 บาท / 10 บาท = 15%
ตอนนี้มี lay stack (เขียนถูกไหมหว่า) 2 กระป๋อง กระป๋องละ 55 บาท
ได้แสตมป์ทอง 10 ดวง (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
คิดว่านอกจาก 7-11 แล้ว มีเจ้าไหนมีอำนาจต่อรองสูงขนาดนี้มั่งครับ