ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 91
ลืมบอกไปว่า port ของผมไม่ค่อยถือเงินสด
ถ้าถือเงินสดเป็นเรื่องประหลาด
นั้นคือ ผมลงทุนใน หุ้น 100% ตลอดเวลา
เนี่ยคือ หนึ่งปีที่ทนถือหุ้นในบ้างส่วน
และมีธาตุไฟเข้าแทรกบ้างในบ้างครั้ง ถ้ามีเวลาอำนวย
ปีนี้ตัวที่โดดเด่นใน port คือ
synex ,BLA ,SCNYL ,BECL และอื่นๆ
BLA เนี่ยต้องขอบคุณ มาร์ที่เอามาให้ตอน IPO
ส่วน Synex ต้องขอบคุณพี่ sattaya ที่จัด visit company จึงได้รู้ว่ามันคืออะไร และพวกพ้องที่ทำงานในด้าน งานโครงการต่างๆ บอกเล่าสู่กันฟัง
ปีหน้าฟ้าให้คงได้ประมาณนี้ล่ะ
ถ้าถือเงินสดเป็นเรื่องประหลาด
นั้นคือ ผมลงทุนใน หุ้น 100% ตลอดเวลา
เนี่ยคือ หนึ่งปีที่ทนถือหุ้นในบ้างส่วน
และมีธาตุไฟเข้าแทรกบ้างในบ้างครั้ง ถ้ามีเวลาอำนวย
ปีนี้ตัวที่โดดเด่นใน port คือ
synex ,BLA ,SCNYL ,BECL และอื่นๆ
BLA เนี่ยต้องขอบคุณ มาร์ที่เอามาให้ตอน IPO
ส่วน Synex ต้องขอบคุณพี่ sattaya ที่จัด visit company จึงได้รู้ว่ามันคืออะไร และพวกพ้องที่ทำงานในด้าน งานโครงการต่างๆ บอกเล่าสู่กันฟัง
ปีหน้าฟ้าให้คงได้ประมาณนี้ล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 92
เอ พี่มิครับmiracle เขียน:(หมายเหตุ ของผมเอายอด 31/12/2552 เป็นตัวหาร ไม่เฉลี่ยต้นทุน
อันนี้คือผมเล่นโหดในการคิด เพราะไม่ต้องการคิดแบบเฉลี่ย เอาแบบปลายปีเป็นตัวนับผลตอบแทน ซึ่งมันต้องหารเฉลี่ย แต่ในเมื่อต้นทุนขยับอยู่เสมอจึงใช้แบบ สุดกู่ด้านร้ายคิด)
ผมงง นิดหน่อย เรื่องการคิดผลตอบแทน ถ้าเอา ปลาย 2552 มาคิด
สมมุติ
- ต้น 52 มีสินทรัพย์หมุนเวียน (หุ้น+เงินสด) 1 ล้าน
ปลาย 52 มี สินทรัพย์หมุนเวียน 2 ล้าน
ผลตอบแทน คือ 100 %
น่าจะ (2ล้าน-1ล้าน)/ 1 ล้าน แล้วคูณด้วย 100 % นิครับ
คือตัวหารน่าจะเป็นต้น 52 มากกว่าปลาย 52
ในขณะที่ถ้าเอา ปลาย 52 มาหาร ตัวเลขจะต่างกันฟ้ากับเหว อยู่ ที่ 50 % ซึ่งเป็นสมการที่ไม่น่าจะใช่
- ในทางกลับกัน สมมุติ ต้นปี 52 มี 2 ล้าน
ปลาย 52 เหลือ 1 ล้าน
ผลตอบแทน ขาดทุน - 50 %
จาก (1ล้าน - 2 ล้าน)/2 ล้าน แล้วคุณด้วย 100 %
การขาดทุน ปีที่แล้ว 50 % หมายความว่าต้องกำไร 100 % ในปีนี้จึงจะเท่าทุน
สรุปคือ ตัวหารน่าจะเป็นตัวเลข ต้นปี 52 ใช่มั๊ยครับ
- LittleChicky
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 93
มีมากกว่า 300% 6 คน :lol:
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่ควรซื้อหุ้นสามัญเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูก แต่ควรซื้อเฉพาะว่ามันสัญญาว่าจะทำกำไรงดงามให้กับเขา...ฟิลลิป เอ พิชเชอร์
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 95
ถ้า "พอร์ตการลงทุนของผม" เป็นเหมือนหุ้น บริษัทฯจดทะเบียนซักบริษัทหนึ่ง
หุ้นบริษัทของผมนี้คงดูไม่จึดเลยครับ เพราะ...
- เงินสดมีน้อยเหลือเกิน
- มีหนี้ล่วงหน้าจากบัตรเครดิต (ชักหน้าไม่ค่อยถึงหลัง)
- มีหนี้บัตรเครดิตระยะยาว 10 เดือนอยู่ก้อนหนึ่ง ( SCB DJung)
- มีหนี้นอกระบบ (ไปยืมเพื่อนมาอีกก้อนหนึ่ง)
- สินทรัพย์ที่มีก็มีเป็นแต่หุ้นไม่มีสภาพคล่อง ขายก็ไม่ได้
ผมว่า คงเป็นหุ้นที่ไม่น่าสนใจเอาซะเลยนะครับ 555+
แต่ก็ยังโชคดี ฟลุ๊คทำกำไรไปได้ประมาณ 40% อ่ะนะขอรับ
(^_^)
หุ้นบริษัทของผมนี้คงดูไม่จึดเลยครับ เพราะ...
- เงินสดมีน้อยเหลือเกิน
- มีหนี้ล่วงหน้าจากบัตรเครดิต (ชักหน้าไม่ค่อยถึงหลัง)
- มีหนี้บัตรเครดิตระยะยาว 10 เดือนอยู่ก้อนหนึ่ง ( SCB DJung)
- มีหนี้นอกระบบ (ไปยืมเพื่อนมาอีกก้อนหนึ่ง)
- สินทรัพย์ที่มีก็มีเป็นแต่หุ้นไม่มีสภาพคล่อง ขายก็ไม่ได้
ผมว่า คงเป็นหุ้นที่ไม่น่าสนใจเอาซะเลยนะครับ 555+
แต่ก็ยังโชคดี ฟลุ๊คทำกำไรไปได้ประมาณ 40% อ่ะนะขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 96
งงอ่ะครับ...leonleon เขียน:เมื่อวานเพิ่งนั่งเก็บข้อมูลและเตรียมตารางสำหรับบันทึกของปี 53 เสร็จครับ
ของผมปิดบัญชีเมื่อวาน มีกำไรทางบัญชี ( รวมเงินปันผล )
อยู่ที่ 77.94%
ในพอร์ต
หุ้นที่มูลค่าขึ้นมาสูงสุดคือ KK +มา 147%
ต่ำสุดคือ TMT +23%
นอกนั้นก็มี
BEC +30%
SCC +88%
CPALL +98%
AOT +89%
HMPRO +67%
BLA +25%
น้ำหนักของพอร์ตไปอยู่ที่ SCC เสียครึ่งนึงครับ
ปีนี้ยอมรับว่าโชคดีมากๆ
เนื่องจากทยอยซื้อตอนต้นปี
แล้วก็มาได้ BLA ราคา IPO อีกนิดหน่อย จากโควต้าของพนักงาน BBL
โชคดีมีสุขกันทุกคนครับ
K.leonleon คำนวณกำไรทางบัญชีได้แค่ 77.94% เองเหรอขอรับ???
ทำไมผมคำนวณได้ 567% หว่า!!!
เอ้...ผมคำนวณผิดตรงไหนน้า
(147% + 23% + 30% + 88% + 98% +89% + 67% + 25% = 567%)
ว่าไปแล้ว...ท่านเทพนาธานอาจคำนวณผิดเหมือนผมโดยไม่ตั้งใจก็ได้นะขอรับ
แซวเล่นขำๆจ้า (^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 98
คุณ bremner หลักคิดดี
VI ที่ดี อ่าน ฟัง ดู แล้ว ต้องคิด
แม้ ทุกคนในนี้โพสแต่ความจริง แต่ในนี้ มีสมาชิกเป็นหมื่น
ทุกคนที่โพส กำไรทุกคนคนละมากๆ ถ้าคิดค่าเฉลี่ยกำไรของคนที่โพสแล้ว
เราอาจจะท้อใจ จริงๆแล้วคนที่โพสเป็นคนส่วนน้อย
VI ที่ดี อ่าน ฟัง ดู แล้ว ต้องคิด
แม้ ทุกคนในนี้โพสแต่ความจริง แต่ในนี้ มีสมาชิกเป็นหมื่น
ทุกคนที่โพส กำไรทุกคนคนละมากๆ ถ้าคิดค่าเฉลี่ยกำไรของคนที่โพสแล้ว
เราอาจจะท้อใจ จริงๆแล้วคนที่โพสเป็นคนส่วนน้อย
Blueplanet
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 99
วิธีคิดผลตอบแทนง่ายๆ ที่ผมใช้
ผลตอบแทน = (มูลค่าพอร์ทปลายปี-มูลค่าพอร์ทต้นปี-เงินที่เติมลงไป )/ มูลค่าพอร์ทต้นปี
ถ้าเติมเงินเข้าไปตอนต้นปี ก็เอา (เงินที่เติมเข้าไป+มูลค่าพอร์ทต้นปี) มาคิดเป็น มูลค่าพอร์ทต้นปี :cheers:
ผลตอบแทน = (มูลค่าพอร์ทปลายปี-มูลค่าพอร์ทต้นปี-เงินที่เติมลงไป )/ มูลค่าพอร์ทต้นปี
ถ้าเติมเงินเข้าไปตอนต้นปี ก็เอา (เงินที่เติมเข้าไป+มูลค่าพอร์ทต้นปี) มาคิดเป็น มูลค่าพอร์ทต้นปี :cheers:
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 100
เอ พี่มิครับOnokung เขียน:
ผมงง นิดหน่อย เรื่องการคิดผลตอบแทน ถ้าเอา ปลาย 2552 มาคิด
สมมุติ
- ต้น 52 มีสินทรัพย์หมุนเวียน (หุ้น+เงินสด) 1 ล้าน
ปลาย 52 มี สินทรัพย์หมุนเวียน 2 ล้าน
ผลตอบแทน คือ 100 %
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 102
จบแต่ละปีเรานักลงทุนหรืออีกนัยนักลงทุนในธุรกิจ(ทางอ้อมผ่านตลาดหุ้น) ก็ต้องดูผลตอบแทนการลงทุนสักหน่อย คงจะดีหากลงทุนแล้วรู้ว่าตัวเองกำไรหรือขาดทุนเป็นตัวเลขเท่าไหร่ เริ่มต้นปีที่ผ่านมา เริ่มจากความกลัว จบสิ้นปีด้วยความยินดี เพราะตลาดให้ผลตอบแทนถึง 66.95% รวมเงินปันผล นักลงทุนส่วนใหญ่จะกำไรมากน้อยต่างกันไปขึ้นอยู่กับการเลือกหุ้น การจัดพอร์ต พอร์ตผมทำผลตอบแทนได้ 161.82% สูงกว่าตลาด 94.87% ซึ่งผมพอใจมาก เป็นปีที่ลงทุนแบบ VI ครบ 10 ปีพอดี สิบปีที่ผ่านมาทำผลตอบแทนได้ 85 เท่าหรือเฉลี่ยทบต้นต่อปี 55.9% (แต่ตัวเงินจริงๆไม่ได้เพิ่ม 85 เท่านะครับเพราะถอนไปใช้ซะเยอะ) ตลอดปีที่ผ่านมาผมถือสัดส่วนหุ้นประมาณ 85-90% ที่เหลือเป็นเงินสดประมาณ 12-15% เพราะยังเข็ดขยาดกับปีก่อนหน้านั้น และยังมีผลต่อการจัดพอร์ตด้วยด้วย ความกลัวทำให้ผมกระจายการถือหุ้นประมาณ 20-25 ตัว หุ้นส่วนใหญ่จะกำไรตามภาวะตลาด มีขาดทุนบ้างเช่น trc akr ส่วนหุ้นที่ทำกำไรได้มากๆมีหลายตัว มีหุ้นฟื้นตัวเช่น inet bata kye thcom scsmg หุ้นเติบโตเช่น spali htech qlt sgp ssf hmpro ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็กเช่นเดิม เพราะเป็นกลุ่มที่ผมถนัดที่สุด คิดว่าในปีต่อๆไปก็คงจัดพอร์ตเหมือนเดิม หุ้นแบบเดิม แต่อาจจะลดจำนวนหุ้นที่ถือบ้างเพราะถือหลายตัวดูแลไม่ทั่วถึงและกระจายผลตอบแทนด้วย
บทเรียนในปีที่ผ่านไปนะครับ..
1.การคาดเดาตลาดเป็นศัตรูของการลงทุน อ่านหนังสือมาก็เยอะ แต่ผมได้รับบทเรียนจริงๆก็ครั้งนี้ เริ่มต้นปีเค้าว่าเป็นปีเผาจริง นักลงทุนมีความกลัวมากกว่าความกล้า นักวิเคราะห์ก็ทำนายดัชนีจะลงไปเท่าโน้นเท่านี้ จะมีวิกฤตรอบสอง มี double dip เป็น w-shape ว่ากันไป สุดท้ายผมก็ยังเห็นพอร์ตโตได้ทุกเดือน ดีที่ไม่เชื่อมากยังถือหุ้นค่อนข้างเยอะ เงินสดที่ถือก็ถือว่าเป็นต้นทุนความสบายใจหากตลาดแย่อย่างที่คาดก็ยังมีกระสุนไว้ยิงบ้างครับ
2.ความสำคัญของ P/B แต่ก่อนแต่ไรผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญของตัวเลขทางการเงินตัวนี้ครับ แต่พอเจอวิกฤิตเศรษกิจ กิจการเจอกับความผันผวนของกำไร อัตราส่วน P/B กลับมีประโยชน์ต่อเรามากด้วยความไม่ผันผวนของมัน เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีในการหาจังหวะลงทุนได้ครับ
3.เพื่อนนั้นสำคัญต่อการลงทุน เพราะหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว คงไม่มีใครติดตามหุ้นทุกตัวในตลาดได้ แต่เมื่อถึงเวลาตัดสินใจเราก็ต้องมีความคิดของเราเอง เพื่อนแค่เป็นคนชี้ทาง เราจะไปทางนั้นหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับเรา และอย่าลืมเพื่อนจะมีประโยชน์กับเราเมื่อเรามีประโยชน์กับเพื่อนนะครับ
การลงทุนแบบ vi 10 ปีที่ผ่านมาให้อะไรกับผมเยอะมาก ทั้งฐานะการเงิน มุมมองการใช้ชีวิต ได้เพื่อน ได้สังคม มองกลับไป 10 ปีที่แล้วผมเริ่มลงทุนแบบ vi โดยมองไม่เห็นฝั่ง โชคดีที่ได้อาจารย์นิเวศน์เป็นคนชี้แนวทางผ่านงานเขียนหนังสือ ให้สติ ให้ผมอยู่ในกรอบในเส้นทางในยามที่ไขว้เขวครับ ตอบแทนระดับนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะทำได้จริง แม้จะยังไม่รวย แต่ก็พออยู่พอกิน ไม่ต้องดิ้นรน ไม่เครียดกับค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเครียดกับชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้าง และมีเวลาให้ครอบครัวแบบเต็มที่ครับ ไม่รู้ว่าผมโชคดีหรือโชคร้ายที่เป็นนักลงทุนต้นทุนต่ำ มีใบปริญญา 2 ใบ ใบนึงไม่ได้ใช้ประโยชน์ อีกใบจบจากรามคำแหง กับเงินลงทุนอันน้อยนิดหลักแสน แต่มีความตั้งใจเต็มร้อย มีความหวังส่องทาง และแน่นอนมีต้องมีโชคอีกหน่อย ชีวิตลงทุนผมมาอย่างนั้น ถ้าผมทำได้ คิดว่าหลายคนก็น่าจะทำได้เช่นกัน การลงทุนแบบ vi นั้นไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝัน ไม่ใช่เป็นเรื่องวิชาการอยู่ในตำรา ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จก็เห็นกันมากมาย อย่าลังเลครับ เส้นทางนี้ถึงเป้าหมายแน่ๆ แต่ต้องอดทนรอหน่อย ไม่ต้องทำผลตอบแทนสูงๆแบบเซียนๆ ทำได้แค่ครึ่งเซียนเราก็อยู่ได้แล้ว สละเวลาศึกษาการลงทุนวันละนิด แล้วจะเปลี่ยนทั้งชีวิตให้สดใสครับ
ปี 2553 คงต้องเน้น stock selective มากขึ้นเพราะไม่มีตัวช่วยแล้ว และจากประวัติศาสตร์ปี 53 คงเป็นปีที่ท้าทายและไม่ง่ายอย่างแน่นอน ขอให้พอร์ตโตกันทุกคน และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ
ผลตอบแทนการลงทุน 12 ปีที่ผ่านมาและ 10 ปีของการลงทุนแบบ vi เทียบกับผลตอบแทนตลาดและปรมาจารย์ท่านอื่นๆ ดูไว้เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้น วัดอะไรกันไม่ได้เพราะฐานเงินต่างกันมาก
ข้อมูลเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ สมมุติว่าเราเริ่มต้นเงินลงทุนที่ 100 บาท สังเกตนะครับว่าระยะยาวตลาดจะให้ผลตอบแทนใกล้เคียง 10% และในปีหลังๆ มหัศจรรย์ทบต้นจะเริ่มมีผลแล้ว
ดูเป็นกราฟเพื่อให้เห็นชัดเจนของมหัศจรรย์การทบต้น
การคิดผลตอบแทนเผื่อใครยังไม่ทราบวิธี ผมคำนวณอย่างนี้ครับ
สูตรหลักคือ กำไร/เงินลงทุน
แต่หลายคนมีเงินเพิ่มหรือถอนออก
ดังนั้นสูตรจะเปลี่ยนเป็น กำไร/เงินลงทุนเฉลี่ย
เงินลงทุนเฉลี่ยหาได้อย่างนี้กรณีที่เงินเพิ่มหรือการถอนเงินมีความสม่ำเสมอตลอดปี
เงินลงทุนเฉลี่ย=เงินต้นงวด+(เงินเพิ่มสุทธิ/2) หรือถ้าถอนเงินสุทธิจะเป็น เงินต้นงวด-(เงินถอนสุทธิ/2)
กรณีผมมีฐานะเป็นถอนเงินสุทธิทุกปี
สูตรผลตอบแทนจะเป็นอย่างนี้ครับ = [เงินปลายงวด+เงินถอนสุทธิ-เงินต้นงวด]/[เงินต้นงวด-(เงินถอนสุทธิ/2)]
เป็นวิธีที่มีความถูกต้องพอสมควรน่าจะเกิน 99% แต่ถ้าอยากให้ถูกต้องเป๊ะๆต้องใช้วิธี NAV ที่ต้องคำนวณหากมีการถอนหรือเพิ่มเงินทุกครั้ง แต่ผมถอนเงินบ่อยๆด้วยความขี้เกียจเลยใช้วิธีหาค่าเฉลี่ยโดยการหาร 2 สะดวกกว่าครับ หรือถ้าเป็นวิธีที่ดร.นิเวศน์เคยเขียนบทความ จะไม่มีการนำมาหาร 2 ให้ใช้ตัวเลขเงินถอนหรือเพิ่มเงินสุทธิไปเลย วิธีนี้ความคลาดเคลื่อนจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ง่ายในการคำนวณครับ..
บทเรียนในปีที่ผ่านไปนะครับ..
1.การคาดเดาตลาดเป็นศัตรูของการลงทุน อ่านหนังสือมาก็เยอะ แต่ผมได้รับบทเรียนจริงๆก็ครั้งนี้ เริ่มต้นปีเค้าว่าเป็นปีเผาจริง นักลงทุนมีความกลัวมากกว่าความกล้า นักวิเคราะห์ก็ทำนายดัชนีจะลงไปเท่าโน้นเท่านี้ จะมีวิกฤตรอบสอง มี double dip เป็น w-shape ว่ากันไป สุดท้ายผมก็ยังเห็นพอร์ตโตได้ทุกเดือน ดีที่ไม่เชื่อมากยังถือหุ้นค่อนข้างเยอะ เงินสดที่ถือก็ถือว่าเป็นต้นทุนความสบายใจหากตลาดแย่อย่างที่คาดก็ยังมีกระสุนไว้ยิงบ้างครับ
2.ความสำคัญของ P/B แต่ก่อนแต่ไรผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญของตัวเลขทางการเงินตัวนี้ครับ แต่พอเจอวิกฤิตเศรษกิจ กิจการเจอกับความผันผวนของกำไร อัตราส่วน P/B กลับมีประโยชน์ต่อเรามากด้วยความไม่ผันผวนของมัน เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีในการหาจังหวะลงทุนได้ครับ
3.เพื่อนนั้นสำคัญต่อการลงทุน เพราะหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว คงไม่มีใครติดตามหุ้นทุกตัวในตลาดได้ แต่เมื่อถึงเวลาตัดสินใจเราก็ต้องมีความคิดของเราเอง เพื่อนแค่เป็นคนชี้ทาง เราจะไปทางนั้นหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับเรา และอย่าลืมเพื่อนจะมีประโยชน์กับเราเมื่อเรามีประโยชน์กับเพื่อนนะครับ
การลงทุนแบบ vi 10 ปีที่ผ่านมาให้อะไรกับผมเยอะมาก ทั้งฐานะการเงิน มุมมองการใช้ชีวิต ได้เพื่อน ได้สังคม มองกลับไป 10 ปีที่แล้วผมเริ่มลงทุนแบบ vi โดยมองไม่เห็นฝั่ง โชคดีที่ได้อาจารย์นิเวศน์เป็นคนชี้แนวทางผ่านงานเขียนหนังสือ ให้สติ ให้ผมอยู่ในกรอบในเส้นทางในยามที่ไขว้เขวครับ ตอบแทนระดับนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะทำได้จริง แม้จะยังไม่รวย แต่ก็พออยู่พอกิน ไม่ต้องดิ้นรน ไม่เครียดกับค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเครียดกับชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้าง และมีเวลาให้ครอบครัวแบบเต็มที่ครับ ไม่รู้ว่าผมโชคดีหรือโชคร้ายที่เป็นนักลงทุนต้นทุนต่ำ มีใบปริญญา 2 ใบ ใบนึงไม่ได้ใช้ประโยชน์ อีกใบจบจากรามคำแหง กับเงินลงทุนอันน้อยนิดหลักแสน แต่มีความตั้งใจเต็มร้อย มีความหวังส่องทาง และแน่นอนมีต้องมีโชคอีกหน่อย ชีวิตลงทุนผมมาอย่างนั้น ถ้าผมทำได้ คิดว่าหลายคนก็น่าจะทำได้เช่นกัน การลงทุนแบบ vi นั้นไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝัน ไม่ใช่เป็นเรื่องวิชาการอยู่ในตำรา ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จก็เห็นกันมากมาย อย่าลังเลครับ เส้นทางนี้ถึงเป้าหมายแน่ๆ แต่ต้องอดทนรอหน่อย ไม่ต้องทำผลตอบแทนสูงๆแบบเซียนๆ ทำได้แค่ครึ่งเซียนเราก็อยู่ได้แล้ว สละเวลาศึกษาการลงทุนวันละนิด แล้วจะเปลี่ยนทั้งชีวิตให้สดใสครับ
ปี 2553 คงต้องเน้น stock selective มากขึ้นเพราะไม่มีตัวช่วยแล้ว และจากประวัติศาสตร์ปี 53 คงเป็นปีที่ท้าทายและไม่ง่ายอย่างแน่นอน ขอให้พอร์ตโตกันทุกคน และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ
ผลตอบแทนการลงทุน 12 ปีที่ผ่านมาและ 10 ปีของการลงทุนแบบ vi เทียบกับผลตอบแทนตลาดและปรมาจารย์ท่านอื่นๆ ดูไว้เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้น วัดอะไรกันไม่ได้เพราะฐานเงินต่างกันมาก
ข้อมูลเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ สมมุติว่าเราเริ่มต้นเงินลงทุนที่ 100 บาท สังเกตนะครับว่าระยะยาวตลาดจะให้ผลตอบแทนใกล้เคียง 10% และในปีหลังๆ มหัศจรรย์ทบต้นจะเริ่มมีผลแล้ว
ดูเป็นกราฟเพื่อให้เห็นชัดเจนของมหัศจรรย์การทบต้น
การคิดผลตอบแทนเผื่อใครยังไม่ทราบวิธี ผมคำนวณอย่างนี้ครับ
สูตรหลักคือ กำไร/เงินลงทุน
แต่หลายคนมีเงินเพิ่มหรือถอนออก
ดังนั้นสูตรจะเปลี่ยนเป็น กำไร/เงินลงทุนเฉลี่ย
เงินลงทุนเฉลี่ยหาได้อย่างนี้กรณีที่เงินเพิ่มหรือการถอนเงินมีความสม่ำเสมอตลอดปี
เงินลงทุนเฉลี่ย=เงินต้นงวด+(เงินเพิ่มสุทธิ/2) หรือถ้าถอนเงินสุทธิจะเป็น เงินต้นงวด-(เงินถอนสุทธิ/2)
กรณีผมมีฐานะเป็นถอนเงินสุทธิทุกปี
สูตรผลตอบแทนจะเป็นอย่างนี้ครับ = [เงินปลายงวด+เงินถอนสุทธิ-เงินต้นงวด]/[เงินต้นงวด-(เงินถอนสุทธิ/2)]
เป็นวิธีที่มีความถูกต้องพอสมควรน่าจะเกิน 99% แต่ถ้าอยากให้ถูกต้องเป๊ะๆต้องใช้วิธี NAV ที่ต้องคำนวณหากมีการถอนหรือเพิ่มเงินทุกครั้ง แต่ผมถอนเงินบ่อยๆด้วยความขี้เกียจเลยใช้วิธีหาค่าเฉลี่ยโดยการหาร 2 สะดวกกว่าครับ หรือถ้าเป็นวิธีที่ดร.นิเวศน์เคยเขียนบทความ จะไม่มีการนำมาหาร 2 ให้ใช้ตัวเลขเงินถอนหรือเพิ่มเงินสุทธิไปเลย วิธีนี้ความคลาดเคลื่อนจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ง่ายในการคำนวณครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 104
สุดยอดเลยครัับพี่โจ
พี่โจ
พอจะบอกได้ไหมครับว่า
ตัวที่พี่ได้หนักๆ weight อยู่ในตัวไหนเป็นพิเศษไหมครับ
เพราะ กำไรมากๆ หลายๆตัวของพี่
เอาแค่ bata inet scsmg กว่าจะเก็บได้ คงเหนีียงยานก่อนเป็นแน่แล้วอ่่ะครับ
ถ้าใจไม่นิ่งเป็นขุนเขาแบบพี่ คงจะทนตื่นเต้นไม่ไหวแน่ๆครับ
พี่โจ
พอจะบอกได้ไหมครับว่า
ตัวที่พี่ได้หนักๆ weight อยู่ในตัวไหนเป็นพิเศษไหมครับ
ส่วนหุ้นที่ทำกำไรได้มากๆมีหลายตัว มีหุ้นฟื้นตัวเช่น inet bata kye thcom scsmg หุ้นเติบโตเช่น spali htech qlt sgp ssf hmpro
เพราะ กำไรมากๆ หลายๆตัวของพี่
เอาแค่ bata inet scsmg กว่าจะเก็บได้ คงเหนีียงยานก่อนเป็นแน่แล้วอ่่ะครับ
ถ้าใจไม่นิ่งเป็นขุนเขาแบบพี่ คงจะทนตื่นเต้นไม่ไหวแน่ๆครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 106
ขอคาวระ แสดงความยินดีด้วย:cheers: อย่างยิ่งครับกับ 2 เซียน วีไอ Idol ของผมและของหลายคน
สอดยอดแล้วครับ พอร์ตใหญ่ขนาดนี้ ได้ผลตอบแทนขนาดนี้
ต่อจากปีนี้ไป พอร์ตไม่ใช่แค่ติดปีก แต่ติดจรวดครับ
ขอบคุณครับที่เข้ามาเปิดเผยผลตอบแทน
มีอีก 1 ท่านที่ผมเฝ้ารอดู ผลตอบแทน คือ ท่าน อาจารย์ ดร ครับ
สอดยอดแล้วครับ พอร์ตใหญ่ขนาดนี้ ได้ผลตอบแทนขนาดนี้
ต่อจากปีนี้ไป พอร์ตไม่ใช่แค่ติดปีก แต่ติดจรวดครับ
ขอบคุณครับที่เข้ามาเปิดเผยผลตอบแทน
มีอีก 1 ท่านที่ผมเฝ้ารอดู ผลตอบแทน คือ ท่าน อาจารย์ ดร ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 107
ขอบคุณ พี่โจ กับพี่นริศ สำหรับข้อคิดดีๆนะครับผม :cheers:
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 178
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 111
[quote="ลูกอิสาน"]จบแต่ละปีเรานักลงทุนหรืออีกนัยนักลงทุนในธุรกิจ(ทางอ้อมผ่านตลาดหุ้น) ก็ต้องดูผลตอบแทนการลงทุนสักหน่อย คงจะดีหากลงทุนแล้วรู้ว่าตัวเองกำไรหรือขาดทุนเป็นตัวเลขเท่าไหร่
"ราคาคือสิ่งที่คุณจ่ายไป คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับมา"
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 112
พี่โจพี่นริศสรุปได้สุดยอดจริงๆครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 113
พี่โจและพี่นริศ
สรุปได้ยอดเยี่ยมครับ
ท่านสองท่านคือสุดยอดของ TVI
ผมเองต้องเดินตามท่านทั้งสองอีกยาวไกล
ขอบพระคุณพวกพี่ที่เอาข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ตรงของท่านทั้งสอง
มากลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมาแบ่งปันให้แก่พวกน้องๆพี่ๆ เพื่อนของ TVI
สรุปได้ยอดเยี่ยมครับ
ท่านสองท่านคือสุดยอดของ TVI
ผมเองต้องเดินตามท่านทั้งสองอีกยาวไกล
ขอบพระคุณพวกพี่ที่เอาข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ตรงของท่านทั้งสอง
มากลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมาแบ่งปันให้แก่พวกน้องๆพี่ๆ เพื่อนของ TVI
-
- Verified User
- โพสต์: 1643
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 117
โหวตแล้วนะครับ ดีกว่าตลาดนิดหน่อย :oops:
ปี 2009 ได้ PB, PR เป็น Super Hero (+115% และ 94%) ของพอร์ต ถือสัดส่วนมากสุดเป็นอันดับหนึ่งและสอง
ส่วนพระรองยอดเยี่ยมประจำปี ได้แก่ QLT, TF, BLA, CPF, DCC และ PDI
ส่วนที่ขายหมูก็หลายตัว LH, LPN, TR, CPALL, HMPRO ... เยอะเหมือนกัน :lol:
แต่โชคดีที่ขาดทุนเยอะๆ ไม่มี
ปีเสือ ขออย่างต่ำ 15% ครับ
ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุขในการลงทุนปีนี้ครับ :D
ปี 2009 ได้ PB, PR เป็น Super Hero (+115% และ 94%) ของพอร์ต ถือสัดส่วนมากสุดเป็นอันดับหนึ่งและสอง
ส่วนพระรองยอดเยี่ยมประจำปี ได้แก่ QLT, TF, BLA, CPF, DCC และ PDI
ส่วนที่ขายหมูก็หลายตัว LH, LPN, TR, CPALL, HMPRO ... เยอะเหมือนกัน :lol:
แต่โชคดีที่ขาดทุนเยอะๆ ไม่มี
ปีเสือ ขออย่างต่ำ 15% ครับ
ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุขในการลงทุนปีนี้ครับ :D
- ler109
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปี 2552 ได้เท่าไรกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 120
ปีนี้เป็นปีแรกสำหรับชีวิตการลงทุนของผมครับ ส่วนตัวผมทำงานประจำแล้วก็ทยอยซื้อเรื่อย ๆ ครับ ช่วงแรกของการลงทุนนี่ผมว่าหนักหนาสาหัสที่สุดครับ เพราะต้องศึกษาทุกอย่างใหม่หมด ทั้งหุ้นแต่ละตัวและความรู้ด้านการลงทุน
อยากจะขอขอบพระคุณพี่โจ ลูกอีสานมากครับ ผมอ่านกระทู้ของพี่แล้วได้ความรู้เยอะมากครับ พี่โจก็ตอบทุกคำถามแบบลึกซึ้ง และทำให้ประหยัดเวลาศึกษาหุ้นแต่ละตัวลงได้มาก ตอนเริ่มแรกลงทุนแบบสะเปะสะปะ อะไรก็ไม่รู้ สุดท้ายก็พอเริ่มมีแนวทางการลงทุนเป็นของตัวเองครับ และเพราะหุ้นในกระทู้ของพี่ทำให้ผมได้ผลตอบแทน 93% ครับ ขอบคุณมากครับพี่
อยากจะขอขอบพระคุณพี่โจ ลูกอีสานมากครับ ผมอ่านกระทู้ของพี่แล้วได้ความรู้เยอะมากครับ พี่โจก็ตอบทุกคำถามแบบลึกซึ้ง และทำให้ประหยัดเวลาศึกษาหุ้นแต่ละตัวลงได้มาก ตอนเริ่มแรกลงทุนแบบสะเปะสะปะ อะไรก็ไม่รู้ สุดท้ายก็พอเริ่มมีแนวทางการลงทุนเป็นของตัวเองครับ และเพราะหุ้นในกระทู้ของพี่ทำให้ผมได้ผลตอบแทน 93% ครับ ขอบคุณมากครับพี่