เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 2
เฉพาะไตรมาศ ลดลงนิครับ
12/11/2547 17:29
BIGC : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
BIGC สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2547 2546 2547 2546
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 250,380 301,123 1,073,573 909,977
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 0.31 0.38 1.34 1.14
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ............................
(รำภา คำหอมรื่น)
ตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีการเงิน
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
12/11/2547 17:29
BIGC : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
BIGC สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2547 2546 2547 2546
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 250,380 301,123 1,073,573 909,977
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 0.31 0.38 1.34 1.14
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ............................
(รำภา คำหอมรื่น)
ตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีการเงิน
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 3
12/11/2547 17:29
BIGC : ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2547
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2547
เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัท ฯ ประจำไตรมาส 3 ปี 2547
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 3 ปี 2547
ซึ่งได้รับการสอบทานจากผู้ตรวจสอบบัญชีแล้วดังนี้
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 3 ปี 2547 มีกำไรก่อนหักภาษีนิติบุคคลจำนวน 396.4 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในไตรมาสเดียวกันปี 2546 ซึ่งมีกำไรก่อนหักภาษีนิติบุคคลจำนวน 385.3 ล้านบาท
จะเห็นว่าเติบโตขึ้นจำนวน 11 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 2.8 สำหรับกำไรสุทธิประจำไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 250 ล้านบาท
และเมื่อเทียบกับปี 2546 ไตรมาสเดียวกัน มีจำนวนลดลง 51 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 16.9 สาเหตุของการลดลงดังกล่าวมีดังนี้
1. ยอดขายของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 11,721 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 1,219 ล้านบาทหรืออัตราร้อยละ 11.6 ซึ่งการเติบโตของยอดขายเป็นผลเนื่องมาจากการเปิดสาขาใหม่ในปี 2547
คือสาขาฉะเชิงเทราและ สาขาสำโรง ถึงแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ในระหว่างเดือนกันยายน ปี 2547 บริษัทฯและบริษัทย่อย
ต้องสนองตอบต่อนโยบายประหยัดพลังงานของภาครัฐบาลโดยปรับเปลี่ยนเวลาทำการจากเดิม คือ 8.00น.? 24.00น. เป็น 11.00น. ? 21.30น.
เพื่อรักษาการเติบโตของยอดขายไว้ บริษัทฯและบริษัทย่อยได้เน้นความสำคัญไปยังลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้นกว่าเดิม
2. รายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 475.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 65 ล้านบาทหรืออัตราร้อยละ 15.8 เนื่องจากการขยายพื้นที่ให้เช่าจากการเปิดสาขาใหม่ตามคำอธิบายในข้อ 1
3. รายได้อื่น อันได้แก่รายได้จากการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิต ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่าย รวมถึงรายได้อื่นๆ
ในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 782 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 42 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 5.7
4. กำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 1,022 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 12 ล้านบาท
สาเหตุของการลดลงดังกล่าว เป็นผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนเวลาตามคำอธิบายในข้อ 1 ทำให้บริษัทฯและบริษัทย่อยต้องแสวงหาช่องทางขาย
อื่นๆแทน ในขณะเดียวกันบริษัทฯและบริษัทย่อยต้องใช้นโยบายด้านราคาเป็นกลยุทธ์ในการจูงใจกลุ่มลูกค้าให้มาซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลได้มีการยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้สภาพการขายของบริษัทฯและบริษัทย่อยเกือบสู่สภาพปกติ
ดังนั้นบริษัทฯและบริษัทย่อยคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบกับกำไรขั้นต้นดังกล่าวอีกในไตรมาส 4ปี 2547
5. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 1,865.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 120.2 ล้านบาท หรือเพียงอัตราร้อยละ 6.9 ซึ่งสาเหตุของการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น
และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่วงของการปรับเปลี่ยนเวลา
6. ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 18.7 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 36.4 ล้านบาท
หรืออัตราร้อยละ 66.2 เนื่องจากจำนวนเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
7. ภาษีนิติบุคคลในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 142.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2547 จำนวน 61.4 ล้านบาท
หรืออัตราร้อยละ 75.3 % ทั้งนี้เพราะในไตรมาส 3 ปี 2546 บริษัทฯมีการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(น.ส. รำภา คำหอมรื่น)
รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน
BIGC : ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2547
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2547
เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัท ฯ ประจำไตรมาส 3 ปี 2547
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 3 ปี 2547
ซึ่งได้รับการสอบทานจากผู้ตรวจสอบบัญชีแล้วดังนี้
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 3 ปี 2547 มีกำไรก่อนหักภาษีนิติบุคคลจำนวน 396.4 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในไตรมาสเดียวกันปี 2546 ซึ่งมีกำไรก่อนหักภาษีนิติบุคคลจำนวน 385.3 ล้านบาท
จะเห็นว่าเติบโตขึ้นจำนวน 11 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 2.8 สำหรับกำไรสุทธิประจำไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 250 ล้านบาท
และเมื่อเทียบกับปี 2546 ไตรมาสเดียวกัน มีจำนวนลดลง 51 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 16.9 สาเหตุของการลดลงดังกล่าวมีดังนี้
1. ยอดขายของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 11,721 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 1,219 ล้านบาทหรืออัตราร้อยละ 11.6 ซึ่งการเติบโตของยอดขายเป็นผลเนื่องมาจากการเปิดสาขาใหม่ในปี 2547
คือสาขาฉะเชิงเทราและ สาขาสำโรง ถึงแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ในระหว่างเดือนกันยายน ปี 2547 บริษัทฯและบริษัทย่อย
ต้องสนองตอบต่อนโยบายประหยัดพลังงานของภาครัฐบาลโดยปรับเปลี่ยนเวลาทำการจากเดิม คือ 8.00น.? 24.00น. เป็น 11.00น. ? 21.30น.
เพื่อรักษาการเติบโตของยอดขายไว้ บริษัทฯและบริษัทย่อยได้เน้นความสำคัญไปยังลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้นกว่าเดิม
2. รายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 475.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 65 ล้านบาทหรืออัตราร้อยละ 15.8 เนื่องจากการขยายพื้นที่ให้เช่าจากการเปิดสาขาใหม่ตามคำอธิบายในข้อ 1
3. รายได้อื่น อันได้แก่รายได้จากการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิต ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่าย รวมถึงรายได้อื่นๆ
ในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 782 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 42 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 5.7
4. กำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 1,022 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 12 ล้านบาท
สาเหตุของการลดลงดังกล่าว เป็นผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนเวลาตามคำอธิบายในข้อ 1 ทำให้บริษัทฯและบริษัทย่อยต้องแสวงหาช่องทางขาย
อื่นๆแทน ในขณะเดียวกันบริษัทฯและบริษัทย่อยต้องใช้นโยบายด้านราคาเป็นกลยุทธ์ในการจูงใจกลุ่มลูกค้าให้มาซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลได้มีการยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้สภาพการขายของบริษัทฯและบริษัทย่อยเกือบสู่สภาพปกติ
ดังนั้นบริษัทฯและบริษัทย่อยคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบกับกำไรขั้นต้นดังกล่าวอีกในไตรมาส 4ปี 2547
5. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 1,865.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2546
จำนวน 120.2 ล้านบาท หรือเพียงอัตราร้อยละ 6.9 ซึ่งสาเหตุของการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น
และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่วงของการปรับเปลี่ยนเวลา
6. ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 18.7 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปี 2546 จำนวน 36.4 ล้านบาท
หรืออัตราร้อยละ 66.2 เนื่องจากจำนวนเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
7. ภาษีนิติบุคคลในไตรมาส 3 ปี 2547 มีจำนวน 142.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปี 2547 จำนวน 61.4 ล้านบาท
หรืออัตราร้อยละ 75.3 % ทั้งนี้เพราะในไตรมาส 3 ปี 2546 บริษัทฯมีการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(น.ส. รำภา คำหอมรื่น)
รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 4
ท่านพี่ปรัชญา คนที่ถือเยอะ นี่รู้สึกท่านดร.นิเวศน์นะครับ ตัวนี้แหละครับ ที่ผมตั้งใจว่าอ่านตีแตกแล้วจะไม่ยอมซื้อหุ้นตามท่านดร. คือเราไม่เชื่อใจไว้ก่อน และกะว่าถ้าจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ตาม เมื่อผ่านไปซักระยะหนึ่งแล้วท่านดร.มาซื้อในหุ้นตัวเดียวกัน แต่ไม่ได้ซื้อตามผมนะ หมายถึงมาซื้อตัวเดียวกัน ผมก็จะรู้สึกภูมิใจว่าผมก็เดินมาถูกทางเหมือนกัน เหมือนมีผู้หลักผู้ใหญ่เห็นด้วยในการตัดสินใจครับ ท่านพี่ปรัชญา
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 5
พี่เจ๋งครับ
พี่พอจะทราบความเป็นไปได้ของข่าวที่ MAKRO จะขายห้างทิ้งให้ TESCO มั้ยครับ ตกลงว่ามีโอกาสเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน (ผมอ่านเจอใน manager online ครับ แต่จำวันไม่ได้แล้ว)
พี่พอจะทราบความเป็นไปได้ของข่าวที่ MAKRO จะขายห้างทิ้งให้ TESCO มั้ยครับ ตกลงว่ามีโอกาสเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน (ผมอ่านเจอใน manager online ครับ แต่จำวันไม่ได้แล้ว)
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 8
ในงาน set ดร. นิเวศน์เชียรออกนอกหน้าเลยครับ
มีคนถามว่าสำหรับดร. ตอนนี้ตัวไหนเป็น super stock
แกบอกว่าเมืองนอกมี wallmart เป็น super stock
แล้วเมืองไทยจะเป็นอะไรก็ไปคิดดูกันเอง ....
ผมว่าก็ bigc นี่แหละครับ
มีคนถามว่าสำหรับดร. ตอนนี้ตัวไหนเป็น super stock
แกบอกว่าเมืองนอกมี wallmart เป็น super stock
แล้วเมืองไทยจะเป็นอะไรก็ไปคิดดูกันเอง ....
ผมว่าก็ bigc นี่แหละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 9
อ้าว... คุณ yoyo ก็ไปฟัง ดร.เหมือนกันเหรอครับ
ผมว่าท่านดร. มุขเยอะดีนะครับ ฟังง่ายด้วย ไม่ต้องมีศัพท์แสงมากมาย ท่านคงรู้ว่าคนที่มาฟังค่อนข้างหลากหลาย พูดแบบทั่วไปน่าจะเหมาะกว่า
ได้โบนัสเป็นมุมมองเกี่ยวกับ หุ้น อสมท. และกลุ่มแบงค์ด้วยนะครับ
ผมว่าท่านดร. มุขเยอะดีนะครับ ฟังง่ายด้วย ไม่ต้องมีศัพท์แสงมากมาย ท่านคงรู้ว่าคนที่มาฟังค่อนข้างหลากหลาย พูดแบบทั่วไปน่าจะเหมาะกว่า
ได้โบนัสเป็นมุมมองเกี่ยวกับ หุ้น อสมท. และกลุ่มแบงค์ด้วยนะครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 10
แต่ หากผมมอง bigc ในมุมมองส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้รู้สึกบวกกับ bigc เท่าไรในแง่จุดที่ตั้งแถวๆบ้านผมน่ะครับ เพราะผมว่า tesco อยู่ในจุดที่ตั้งที่ดีกว่ามากทีเดียว ซึ่งธุรกิจแบบนี้เรื่องราคาคงไม่ต่องกันมาก แต่ทำเลนี่ซีคงเป็นปัจจัยหลักมากกว่า แต่เรื่อง bigc ในต่างจังหวัดนี่ผมว่าดีมากทีเดียวครับ แต่ผมรู้จักแค่ไม่กี่ที่นะครับ อย่างที่เชียงรายเรียกว่า พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่อต้านกันใหญ่เลย เพราะราคาถูกแล้วทำเลผมว่าก็ดีทีเดียว
แต่ bigc ในกรุงเทพ จะไปได้แค่ไหนผมไม่ค่อยเชื่อมั่นเท่าไร แต่หากท่านใดยินดีแนะนำสาขาของ bigc ที่ดีๆกับผมก็ดีครับ จะได้รู้ไว้เปิดโลกทัศน์
แต่ bigc ในกรุงเทพ จะไปได้แค่ไหนผมไม่ค่อยเชื่อมั่นเท่าไร แต่หากท่านใดยินดีแนะนำสาขาของ bigc ที่ดีๆกับผมก็ดีครับ จะได้รู้ไว้เปิดโลกทัศน์
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 15
แล้วจะรับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มไหมครับ หรือเครื่องดื่มก็ได้ 555
ผมยอมรับครับว่า ตัวนี้ผมชอบในเอกลักษณ์ของเค้า พูดชื่อปุ๊บนึกประโยคนี้ออกปั๊บเลย แต่ราคาไม่สูงไปหน่อยหรือครับ
ผมยอมรับครับว่า ตัวนี้ผมชอบในเอกลักษณ์ของเค้า พูดชื่อปุ๊บนึกประโยคนี้ออกปั๊บเลย แต่ราคาไม่สูงไปหน่อยหรือครับ
- nopchai
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 17
ในมุมมองส่วนตัวนะครับ: การกำหนดทำเลของ BigC ผมรู้สึกว่าข้อจำกัดอยู่หลายส่วน เนื่องจากปัจจุบันหลายแห่งยังมีการผูกติดกับห้างเซ็นทรัลอยู่ ซึ่งผมยังไม่เห็นประโยชน์ตรงนี้เท่าไหร่ ตลอดจนสาขาในหลายแห่งที่ยังมีสัญญาเช่าผูกพันกับกลุ่มเซ็นทรัลอยู่
ผมยอมรับเหมือนกันครับว่าในกรุงเทพ ตำแหน่งของ BigC ค่อนข้างด้อยกว่า Tesco แต่ทำได้ดีในต่างจังหวัด (อย่างสาขาเพชรบุรี นอกจากได้คนในพื้นที่แล้วยังได้เก็บตกบรรดาคนที่เดินทางไปเที่ยวทางใต้ - พวกผมต้องแวะซื้อของทานเล่นแทบทุกครั้งที่มีทริป) อย่างไรก็ตามทาง Tesco ก็ทำได้ดีขึ้น อย่างทำเลที่สระบุรี ซึ่งเขาก็เก็บตกคนเดินทางที่จะไปอีสานเช่นกัน (เสียดายจริงๆ)
ผมยอมรับเหมือนกันครับว่าในกรุงเทพ ตำแหน่งของ BigC ค่อนข้างด้อยกว่า Tesco แต่ทำได้ดีในต่างจังหวัด (อย่างสาขาเพชรบุรี นอกจากได้คนในพื้นที่แล้วยังได้เก็บตกบรรดาคนที่เดินทางไปเที่ยวทางใต้ - พวกผมต้องแวะซื้อของทานเล่นแทบทุกครั้งที่มีทริป) อย่างไรก็ตามทาง Tesco ก็ทำได้ดีขึ้น อย่างทำเลที่สระบุรี ซึ่งเขาก็เก็บตกคนเดินทางที่จะไปอีสานเช่นกัน (เสียดายจริงๆ)
Give him a fish he will live for today, Tech him how to fish he will live forever.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 18
บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไม bigC ต้องดีกว่า lotus หรือ lotus ต้องดีกว่า bigC จะเป็นไปได้หรือไม่ ว่าดีด้วยกันทั้งคู่
ปีนี้ bigC ขายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ต่อให้ lotus ขายได้มากกว่า ผมก็มองไม่เห็นว่า bigC จะขายได้น้อยเลย
5 หมื่นล้านแล้วนะ
เราวิจารณ์กันไปเรื่อยๆ บ้างว่าดี บ้างว่าไม่ดี อีกหน่อย bigC ก็ขายได้ 1 แสนล้านบาท
จุดที่ผมมองคือ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เปิดได้หมดเลย คอนเซ็บแบบนี้คนไทยชอบ เพราะมาทีเดียว ได้ทั้งเดินเที่ยว ได้ซื้อของ ซึ่งจริงๆแล้ว bigC ก็คือตลาด สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ชอบไปเดินตลาดสมัยก่อนซึ่งราคาถูกกว่าก็จริง แต่มันแฉะๆ ไม่มีรถเข็น สินค้าไม่หลากหลาย จอดรถก็ไกล กว่าจะเดินเข้าไปซื้อของได้
กิจการแบบนี้ครับ ที่ วอเรนบอกว่าเป็น semi-monopoly
ขอเปรียบเทียบเล่นๆ ระหว่าง ตลาดคลองเตย กับ ปากคลองตลาด กับตลาดไท อันไหนดีกว่า กัน คำตอบ ทั้งสามตลาด ขายของได้หมด
ปีนี้ bigC ขายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ต่อให้ lotus ขายได้มากกว่า ผมก็มองไม่เห็นว่า bigC จะขายได้น้อยเลย
5 หมื่นล้านแล้วนะ
เราวิจารณ์กันไปเรื่อยๆ บ้างว่าดี บ้างว่าไม่ดี อีกหน่อย bigC ก็ขายได้ 1 แสนล้านบาท
จุดที่ผมมองคือ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เปิดได้หมดเลย คอนเซ็บแบบนี้คนไทยชอบ เพราะมาทีเดียว ได้ทั้งเดินเที่ยว ได้ซื้อของ ซึ่งจริงๆแล้ว bigC ก็คือตลาด สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ชอบไปเดินตลาดสมัยก่อนซึ่งราคาถูกกว่าก็จริง แต่มันแฉะๆ ไม่มีรถเข็น สินค้าไม่หลากหลาย จอดรถก็ไกล กว่าจะเดินเข้าไปซื้อของได้
กิจการแบบนี้ครับ ที่ วอเรนบอกว่าเป็น semi-monopoly
ขอเปรียบเทียบเล่นๆ ระหว่าง ตลาดคลองเตย กับ ปากคลองตลาด กับตลาดไท อันไหนดีกว่า กัน คำตอบ ทั้งสามตลาด ขายของได้หมด
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
เสี่ย เจ๋ง เจ้าของห้าง...
โพสต์ที่ 19
เห็นด้วยกับเฮียเจ๋ง
ผมว่า BIGC กับ LOTUS คงต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างโตได้ครับ
จุดที่น่ากังวลในขณะนี้ คือ มาตรการเปิดปิดของรัฐ ที่ทำให้ gross margin ไตรมาสล่าสุดลดลงพอสมควร แล้วก็ปีหน้าที่จะมีการลอยตัวดีเซลด้วยครับ
BIGC ในกรุงเทพฯ ที่ดีๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นสาขาที่เปิดใหม่น่ะครับ เช่น สะพานควาย , ราชดำริ ...
8)
ผมว่า BIGC กับ LOTUS คงต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างโตได้ครับ
จุดที่น่ากังวลในขณะนี้ คือ มาตรการเปิดปิดของรัฐ ที่ทำให้ gross margin ไตรมาสล่าสุดลดลงพอสมควร แล้วก็ปีหน้าที่จะมีการลอยตัวดีเซลด้วยครับ
BIGC ในกรุงเทพฯ ที่ดีๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นสาขาที่เปิดใหม่น่ะครับ เช่น สะพานควาย , ราชดำริ ...
8)