รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 181

โพสต์

neo_potato_Th เขียน:รบกวนถามพี่ โย ครับ
-พอร์ด ต่างประเทศ นี่ได้ที่โบรกไหนได้บ้างครับและพี่โย แนะนำที่ไหน
-มือใหม่ควรฝึกทั้งในและต่างประเทศไปพร้อมๆกันหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ
- ต่างประเทศนี่เท่าที่รู้ตอนนี้ก็ไม่ phiiip aira zmico และ tns ผมใช้ phillip อยู่ครับ aira นี่ไม่เคย check แต่ของ zmico กับ tns นี่ไม่เหมาะกับ Trade อเมริกาครับ เพราะไม่สามารถ Trade ผ่าน net ได้ มีเฉพาะผ่านมาร์ แล้วเราจะ Trade อเมกามันก็เริ่มตอน 3 ทุ่มครึ่ง แล้วจะหามาร์ที่ไหนมาเทรดได้ เข้าใจว่าเน้น Trade ฮ่องกงเป็นหลัก

- มือใหม่อย่าไปเลยครับต่างประเทศ ผันผวนมากๆ ข้อมูลก็เข้าถึงยากกว่า จะอ่านบทวิเคราะห์ก็ยังต้องเสียตังค์ เล่นเมืองไทยนี่แหละดีแล้วครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
neo_potato_Th
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1588
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 182

โพสต์

yoyo เขียน: - ต่างประเทศนี่เท่าที่รู้ตอนนี้ก็ไม่ phiiip aira zmico และ tns ผมใช้ phillip อยู่ครับ aira นี่ไม่เคย check แต่ของ zmico กับ tns นี่ไม่เหมาะกับ Trade อเมริกาครับ เพราะไม่สามารถ Trade ผ่าน net ได้ มีเฉพาะผ่านมาร์ แล้วเราจะ Trade อเมกามันก็เริ่มตอน 3 ทุ่มครึ่ง แล้วจะหามาร์ที่ไหนมาเทรดได้ เข้าใจว่าเน้น Trade ฮ่องกงเป็นหลัก

- มือใหม่อย่าไปเลยครับต่างประเทศ ผันผวนมากๆ ข้อมูลก็เข้าถึงยากกว่า จะอ่านบทวิเคราะห์ก็ยังต้องเสียตังค์ เล่นเมืองไทยนี่แหละดีแล้วครับ
ขอบคุณครับ :D
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 183

โพสต์

ถามคุณyoyoครับ....
ว่าปี2010นี้นอกจากหุ้นในกลุ่มอสังหาแล้วหุ้นกลุ่มไหนดูน่าสนใจหรือน่าเข้าไปศึกษาบ้างครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
TonshevA
Verified User
โพสต์: 40
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 184

โพสต์

สวัสดีครับ เด็กใหม่ขอรบกวนถามพี่ yoyo เกี่ยวกับราคา ยางพาราที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ มีผลดีและผลเสียต่อหุ้นตัวไหน และกลุ่มไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ  ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
จากบทวิเคราะห์ที่ว่า


[b]วิเคราะห์ราคายาง[/b]

วันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ 2553

[b]สรุปราคายาง[/b]
ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ส่งมอบเดือนเมษายน 2553 สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ ราคา FOB กรุงเทพฯ/ ตลาดสิงคโปร์/ ตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 101.13, 100.08 และ 98.34 บาท ตามลำดับ ตลอด สัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.45, +4.57 และ +2.39 บาท/กก.ตามลำดับ โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 103.40, 102.26 และ 101.86 บาท/กก.ตามลำดับ เมื่อวันศุกร์ที่ 12

ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย  ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ส่งมอบเดือนเมษายน 2553 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.46 บาท ตลอดสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.80 บาท/กก. โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 103.80 บาท/กก. เมื่อวันศุกร์ที่ 12

ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดประมูลยางหาดใหญ่/ สุราษฎร์ธานี/ นครศรีธรรมราช มีการประมูลซื้อขาย เฉลี่ยกิโลกรัมละ 93.13, 92.79 และ 93.03 บาท ตามลำดับ ตลอดสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.96, +5.30 และ +4.67 บาท/กก.ตามลำดับ โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 96.06, 96.09 และ 96.03 บาท/กก.ตามลำดับ เมื่อวันศุกร์ที่ 12

ตลาดประมูลยางหาดใหญ่ ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 มีการประมูลซื้อขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 96.34 บาท ตลอดสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.02 บาท/กก. โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 99.43 บาท/กก. เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส่วนราคาน้ำยางสด มีการประมูลซื้อขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 92.70 บาท ตลอดสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.50 บาท/กก. โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 96.00 บาท/กก. เมื่อวันศุกร์ที่ 12

[b]สถานการณ์[/b]
- ราคายางสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ราคายางทั้งในและต่างประเทศ ราคาโดยรวมปรับตัว เพิ่มขึ้น +2.45-5.80 บาท/กก. เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น อุปทานยางมีจำกัด ผนวกกับจีนสต๊อกยางก่อนหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนสัปดาห์นี้ ขณะที่เงินเยนและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ลงเล็กน้อย
- เริ่มเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบ ปิดกรีด
- ตลาดเซี่ยงไฮ ้(Shanghai Futures Exchange) หยุดทำการ 15-19 กุมภาพันธ์
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อย 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกได้เฉลี่ย 32.9309 บาท (ลดลงจาก สัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ย -0.0143 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)
- ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อย 100 เยน แลกได้เฉลี่ย 36.5554 บาท (ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ย -0.0750 บาท/100 เยน)
- ราคาน้ำมันกลับมาดิ่งลงแรงอีกครั้งในวันศุกร์(12) ตามหลังสต๊อกน้ำมันดิบมะกันที่เพิ่มขึ้นเกินคาดหมาย บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก ขณะที่วอลล์สตรีทปิดผสมผสานจากความ กังวลต่อความเคลื่อนไหวจำกัดการเติบโตของจีนและวิกฤตหนี้กรีซ
- สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันศุกร์ที่ 12

[b]แนวโน้ม[/b]
ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 และยางแผ่นรมควันชั้น 3 แกว่งตัวในช่วงแคบๆ โดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น เล็กน้อย เนื่องจากอุปทานยางที่ลดลง และจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ายางรายใหญ่ของโลก หยุดยาว ช่วงเทศกาลตรุษจีน

ที่มา:  วิเคราะห์ราคายาง (สัปดาห์) สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง http://www.rubber.co.th/menu5.php/
นกน้อย...ฝึกบินตาม...แม่นก
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 185

โพสต์

picklife เขียน:ถามคุณyoyoครับ....
ว่าปี2010นี้นอกจากหุ้นในกลุ่มอสังหาแล้วหุ้นกลุ่มไหนดูน่าสนใจหรือน่าเข้าไปศึกษาบ้างครับ?
ปีนี้ผมไม่เห็นกลุ่มไหนโดดเด่นออกมาเลยนะครับ แม้แต่อสังหาเองก็ไม่ได้เด่น อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็ยังคงสามารถโตไปได้จากปีที่แล้วซะส่วนใหญ่แต่คงไม่ได้โตกันดุเดือด เพราะฉะนั้นคงต้องเจาะหุ้นเป็นรายตัวซะมากกว่าถึงจะสามารถทำกำไรได้เกินตลาด
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 186

โพสต์

[quote="TonshevA"]สวัสดีครับ เด็กใหม่ขอรบกวนถามพี่ yoyo เกี่ยวกับราคา ยางพาราที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ มีผลดีและผลเสียต่อหุ้นตัวไหน และกลุ่มไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 187

โพสต์

สวัสดีครับคุณyoyo

Conceptการลงทุนของคุณyoyo คือ
1.การหาPEที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้น
2.ประเมินEในอนาคต
3.นำPEในอนาคต เทียบกับPEที่เหมาะสม
ก็จะได้เป็นupsideมาใช่ไหมครับ

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจConceptภาพรวมถูกไหมครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 188

โพสต์

picklife เขียน:สวัสดีครับคุณyoyo

Conceptการลงทุนของคุณyoyo คือ
1.การหาPEที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้น
2.ประเมินEในอนาคต
3.นำPEในอนาคต เทียบกับPEที่เหมาะสม
ก็จะได้เป็นupsideมาใช่ไหมครับ

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจConceptภาพรวมถูกไหมครับ?
ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ  :lol:
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 189

โพสต์

yoyo เขียน:
ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
Tlk
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 405
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 190

โพสต์

ไม่รู้รบกวนมากไปหรือเปล่าครับ ถ้า
อยากให้ คุณโยโย่ บอกจุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ ประสบการณ์ในการลงทุนช่วงเริ่มแรก และในระยะ ต่อๆมาครับ อยากทราบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางอย่างไรครับ

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 191

โพสต์

yoyo เขียน:
ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
Small Details Make a Big Difference
สถาปนิกต่างดาว
Verified User
โพสต์: 463
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 192

โพสต์

sai เขียน:
งั้นถามต่อ
ความเด็ดขาด และความแน่วแน่ นี่เฮียโยได้แต่ใดมา
เป็นตั้งแต่กำเนิด หรือว่า ฝึกฝน
ถ้าฝึกฝน ช่วยบอกเคล็ดลับ ได้ไหมครับ

ถ้าเป็นแต่กำเนิด
วานถามพ่อกับแม่ละกันว่า...ทำยังไง
 :8)
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
investment biker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1284
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 193

โพสต์

[quote="สถาปนิกต่างดาว"][quote="sai"][quote="yoyo"][
[quote]ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
In search of super stocks
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 194

โพสต์

[quote="investment biker"][quote="สถาปนิกต่างดาว"][quote="sai"][quote="yoyo"][
[quote]ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
สถาปนิกต่างดาว
Verified User
โพสต์: 463
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 195

โพสต์

[quote="investment biker
ที่ผม highlight สีน้ำเงิน ผมว่าเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นะ
[/quote]

ขอโทษจริงๆครับ
เพียงแต่อยากรู้เรื่อง ความเด็ดขาดและความมุ่งมั่น ซึ่งมีความสำคัญมาก
ในการลงทุนแบบ vi
ก็อยากฝึกฝนและทำให้ได้แบบพี่โยโย่
ส่วนที่เหลือนั้น มือมันซน

(เลยไม่ได้คำตอบเลย) :cry:
ขอโทษอีกครั้งครับ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
vi_tal signs
Verified User
โพสต์: 631
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 196

โพสต์

sai เขียน:
ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 197

โพสต์

sai เขียน:
ถูกครับ เครื่องมือหากินผมมีแค่นี้แหละครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 198

โพสต์

งั้นขอเริ่มถามเจาะนะครับ...
1.การหาPEที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้นหาได้อย่างไรครับ?
  1.1 กรณีพื้นฐานกิจการนั้นๆไม่เปลี่ยนแปลงมากการใช้PEเก่า3ปี5ปีหรือ10ปีมาเฉลี่ยกันสามารถทำได้ไหมครับ? เพื่อที่จะได้PEคร่าวๆในใจ แล้วเพิ่มลดตามเชิงคุณภาพของหุ้นตัวนั้นๆ วิธีนี้คุณyoyoใช้หรือปล่าวครับ? หรือยังไงครับ? และวิธีนี้คุณyoyoให้ความสำคัญกับค่านี้กี่%ครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 199

โพสต์

1.2 ปัยจัยอะไรบ้างครับ?ที่มีผลให้ค่าPEเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้....มันเป็นปัจจัยเชิงคุณภาพใช่ไหมครับ? แล้วมีสูตรไหนที่สามารถประเมินเชิงคุณภาพเหล่านี้มาเป็นเชิงปริมาณได้บ้างครับ????
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 200

โพสต์

สถาปนิกต่างดาว เขียน:[quote="investment biker
ขอโทษจริงๆครับ
เพียงแต่อยากรู้เรื่อง ความเด็ดขาดและความมุ่งมั่น ซึ่งมีความสำคัญมาก
ในการลงทุนแบบ vi
ก็อยากฝึกฝนและทำให้ได้แบบพี่โยโย่
ส่วนที่เหลือนั้น มือมันซน

(เลยไม่ได้คำตอบเลย) :cry:
ขอโทษอีกครั้งครับ[/quote]

ความเด็ดขาดและความมุ่งมั่น.. อืม.. ไม่รู้เหมือนกันนะครับทำไง
อาจจะเพราะว่าผมได้มีโอกาสเห็นนักลงทุนที่เป็น VI ประสบความสำเร็จกันเต็มไปหมดก็ได้ครับ ทั้งคนที่มีฐานะอยู่แล้ว เงินลงทุนเยอะ ผลตอบแทนก็ดีต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้แต่ที่คนเริ่มต้นด้วยตัวเอง เก็บเงินเอา ออมเพื่อเอามาลงทุนและสุดท้ายก็สามารถมีอิสระทางการเงินได้
- ทั้งระดับโลก เช่น warren buffett, Peter Lynch
- ระดับประเทศ เช่น ดร. นิเวศน์
- ระดับคนรู้จัก เช่น เพื่อนๆพี่ๆน้องมากมายในเวป thaivi รวมถึงคนนอก thaivi ด้วย
รวมๆ จำนวนที่ได้ดีจากการลงทุนแนวนี้ที่ผมรู้จักนั้นเยอะมากจริงๆ ทำให้ผมเชื่อในแนวทางการลงทุน VI แบบไม่มีไม่มีการวอกแวกเท่าไหร่ มุ่งเน้นศึกษาให้ได้ดีในทางนี้ทางเดียว

ตัวอย่างทั้งหมดนี้มั๊งครับ ที่ทำให้ผมเชื่อมั่นมากๆ ความเด็ดขาดและความมุ่งมั่นในมูลค่านั้นมันถึงก่อร่างสร้างตัวขึ้นเป็นแบบทุกวันนี้
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 201

โพสต์

[quote="picklife"]งั้นขอเริ่มถามเจาะนะครับ...
1.การหาPEที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้นหาได้อย่างไรครับ?
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 202

โพสต์

picklife เขียน:1.2 ปัยจัยอะไรบ้างครับ?ที่มีผลให้ค่าPEเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้....มันเป็นปัจจัยเชิงคุณภาพใช่ไหมครับ? แล้วมีสูตรไหนที่สามารถประเมินเชิงคุณภาพเหล่านี้มาเป็นเชิงปริมาณได้บ้างครับ????
ปัจจัยที่ผมใช้ในการประเมิน p/e นั้นเป็นปัจจัยเชิงคุณภาพและปริมาณหลายๆตัวรวมๆกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ใครอยากเข้าใจก็ไม่ได้หายากเกินไปครับ จริงๆแล้วมันประยุกต์มาจาก หลักการประเมินมูลค่าโดยวิธี DCF ล้วนๆเลย ซึ่งไอเดียนี้ผมมาเข้ามันโดยลึกจริงๆก็เกิดจากการได้อ่านบทความของพี่ IH ที่เคยเขียนเอาไว้ให้อ่านในเอกสารการสัมมนาประจำปีของ thaivi เมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งสรุปได้คร่าวประมาณนี้

มูลค่าหุ้นตามแบบ DCF จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย ถ้าดอกต่ำ dcf จะสูงขึ้น
- ความเสียงของธุรกิจ ถ้าเสี่ยงสูง dcf ก็จะต่ำ
- การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ dcf จะต่ำ
- ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว dcf จะสูง
- ขายสินค้าได้เร็ว มีการเก็บ inventory ต่ำ dcf จะสูง
- ต้องใช้เงินลงทุนมากๆในการขยายกิจการ หรือ รักษาผลกำดำเนินงาน เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในแต่ละปี dcf จะต่ำ
- มีการเติบโตสูง dcf จะสูง
- มีหนี้มากๆ dcf จะต่ำ

ซึ่งเราสามารถเอามาประยุกต์เป็น p/e ได้ง่ายๆ โดยเปลี่ยนคำว่า dcf เป็น p/e ตรงๆเลยได้ตามนี้

มูลค่าหุ้นตามแบบ p/e จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย ถ้าดอกต่ำ p/e จะสูงขึ้น
- ความเสียงของธุรกิจ ถ้าเสี่ยงสูง p/e ก็จะต่ำ
- การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ p/e จะต่ำ
- ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว p/e จะสูง
- ขายสินค้าได้เร็ว มีการเก็บ inventory ต่ำ p/e จะสูง
- ต้องใช้เงินลงทุนมากๆในการขยายกิจการ หรือ รักษาผลกำดำเนินงาน เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในแต่ละปี p/e จะต่ำ
- มีการเติบโตสูง p/e จะสูง
- มีหนี้มากๆ p/e จะต่ำ

DCF นั้นมันมีสูตรคำนวณตายตัวของมันอยู่ แต่ตัวเลขที่ใช้แทนในสูตรนั้นมันขึ้นอยู่กับวิจารณาณของผู้คำนวณทั้งนั้น และสูตรคำนวณมันก็ยุ่งยากเหลือเกินที่จะคำนวณออกมาให้เป๊ะๆได้ .... ผมก็เลยทำความเข้าใจกับ DCF ให้ท่องแท้ว่าสูตรของมันเป็นยังไง ปัจจัยไหนบ้างที่จะทำให้ DCF เพิ่มหรือลด แล้วสุดท้ายก็เอามาประยุกต์ใช้กับ p/e โดยต้องอาศัยประสบการณ์ของเราในการพิจารณาหุ้นหลายๆตัวมาเทียบเคียงกันไปเรื่อยๆว่า หุ้นควรมี p/e มากน้อยแค่ไหน เมื่อเราเห็นบ่อยๆจนชินไป Sense ในการประเมินมูลค่า p/e ที่เหมาะสมก็จะเกิดขึ้นเอง ...

เหมือนกับการก่อสร้างโครงสร้างของวิศวโยธาแหละครับ มันมีสูตรตายตัวในการคำนวณอยู่ว่าจะต้องใช้คอนกรีตขนาดไหน เล็กขนาดไหนกี่เส้น แต่ถ้าคุณ picklife มีโอกาสได้ออกแบบสร้างบ้านขนาดใกล้เคียงเดิมซ้ำๆจนชิน หลังๆนี่เอาแบบบ้านมาไม่ต้องใส่สูตรคำนวณเลยด้วยซ้ำ ก็บอกได้ว่าจะใช้เสา คานขนานดเท่าไหร่ เหล็กกี่เส้นดี มันอาจจะไม่ถูกต้องตรงเป๊ะ แต่ก็ถือว่าถูกต้องเพียงพอในการสร้างให้มี Margin of Safety ... การเล่นหุ้นมันก็แบบนี้เลยแหละครับ เราไม่ต้องใส่สูตร dcf ออกมาเป๊ะ เราแค่กะๆ เอาได้ว่า p/e มันควรจะเป็นเท่าไหร่ และซื้อให้มี Margin of Safety แค่นี้ก็เพียงพอแล้วในการลงทุน เพียงว่ามันต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ไม่สามารถทำปุ๊บปั๊บแล้วเป็นได้เลย

ทุกวันนี้ผมไปลงทุนต่างประเทศ ก็ต้องไปเริ่มต้นฝึกการประเมิน p/e ของหุ้นต่างประเทศใหม่หมด เพราะตัวเลือกที่เยอะขึ้น ตัวเปรียบเทียบที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้หลักการประเมิน p/e นั้นเปลี่ยนไปเช่นกัน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 203

โพสต์

[quote="yoyo"][quote="picklife"]งั้นขอเริ่มถามเจาะนะครับ...
1.การหาPEที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้นหาได้อย่างไรครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 204

โพสต์

yoyo เขียน: ปัจจัยที่ผมใช้ในการประเมิน p/e นั้นเป็นปัจจัยเชิงคุณภาพและปริมาณหลายๆตัวรวมๆกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ใครอยากเข้าใจก็ไม่ได้หายากเกินไปครับ จริงๆแล้วมันประยุกต์มาจาก หลักการประเมินมูลค่าโดยวิธี DCF ล้วนๆเลย ซึ่งไอเดียนี้ผมมาเข้ามันโดยลึกจริงๆก็เกิดจากการได้อ่านบทความของพี่ IH ที่เคยเขียนเอาไว้ให้อ่านในเอกสารการสัมมนาประจำปีของ thaivi เมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งสรุปได้คร่าวประมาณนี้

มูลค่าหุ้นตามแบบ DCF จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย ถ้าดอกต่ำ dcf จะสูงขึ้น
- ความเสียงของธุรกิจ ถ้าเสี่ยงสูง dcf ก็จะต่ำ
- การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ dcf จะต่ำ
- ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว dcf จะสูง
- ขายสินค้าได้เร็ว มีการเก็บ inventory ต่ำ dcf จะสูง
- ต้องใช้เงินลงทุนมากๆในการขยายกิจการ หรือ รักษาผลกำดำเนินงาน เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในแต่ละปี dcf จะต่ำ
- มีการเติบโตสูง dcf จะสูง
- มีหนี้มากๆ dcf จะต่ำ

ซึ่งเราสามารถเอามาประยุกต์เป็น p/e ได้ง่ายๆ โดยเปลี่ยนคำว่า dcf เป็น p/e ตรงๆเลยได้ตามนี้

มูลค่าหุ้นตามแบบ p/e จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย ถ้าดอกต่ำ p/e จะสูงขึ้น
- ความเสียงของธุรกิจ ถ้าเสี่ยงสูง p/e ก็จะต่ำ
- การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ p/e จะต่ำ
- ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว p/e จะสูง
- ขายสินค้าได้เร็ว มีการเก็บ inventory ต่ำ p/e จะสูง
- ต้องใช้เงินลงทุนมากๆในการขยายกิจการ หรือ รักษาผลกำดำเนินงาน เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในแต่ละปี p/e จะต่ำ
- มีการเติบโตสูง p/e จะสูง
- มีหนี้มากๆ p/e จะต่ำ

DCF นั้นมันมีสูตรคำนวณตายตัวของมันอยู่ แต่ตัวเลขที่ใช้แทนในสูตรนั้นมันขึ้นอยู่กับวิจารณาณของผู้คำนวณทั้งนั้น และสูตรคำนวณมันก็ยุ่งยากเหลือเกินที่จะคำนวณออกมาให้เป๊ะๆได้ .... ผมก็เลยทำความเข้าใจกับ DCF ให้ท่องแท้ว่าสูตรของมันเป็นยังไง ปัจจัยไหนบ้างที่จะทำให้ DCF เพิ่มหรือลด แล้วสุดท้ายก็เอามาประยุกต์ใช้กับ p/e โดยต้องอาศัยประสบการณ์ของเราในการพิจารณาหุ้นหลายๆตัวมาเทียบเคียงกันไปเรื่อยๆว่า หุ้นควรมี p/e มากน้อยแค่ไหน เมื่อเราเห็นบ่อยๆจนชินไป Sense ในการประเมินมูลค่า p/e ที่เหมาะสมก็จะเกิดขึ้นเอง ...

เหมือนกับการก่อสร้างโครงสร้างของวิศวโยธาแหละครับ มันมีสูตรตายตัวในการคำนวณอยู่ว่าจะต้องใช้คอนกรีตขนาดไหน เล็กขนาดไหนกี่เส้น แต่ถ้าคุณ picklife มีโอกาสได้ออกแบบสร้างบ้านขนาดใกล้เคียงเดิมซ้ำๆจนชิน หลังๆนี่เอาแบบบ้านมาไม่ต้องใส่สูตรคำนวณเลยด้วยซ้ำ ก็บอกได้ว่าจะใช้เสา คานขนานดเท่าไหร่ เหล็กกี่เส้นดี มันอาจจะไม่ถูกต้องตรงเป๊ะ แต่ก็ถือว่าถูกต้องเพียงพอในการสร้างให้มี Margin of Safety ... การเล่นหุ้นมันก็แบบนี้เลยแหละครับ เราไม่ต้องใส่สูตร dcf ออกมาเป๊ะ เราแค่กะๆ เอาได้ว่า p/e มันควรจะเป็นเท่าไหร่ และซื้อให้มี Margin of Safety แค่นี้ก็เพียงพอแล้วในการลงทุน เพียงว่ามันต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ไม่สามารถทำปุ๊บปั๊บแล้วเป็นได้เลย

ทุกวันนี้ผมไปลงทุนต่างประเทศ ก็ต้องไปเริ่มต้นฝึกการประเมิน p/e ของหุ้นต่างประเทศใหม่หมด เพราะตัวเลือกที่เยอะขึ้น ตัวเปรียบเทียบที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้หลักการประเมิน p/e นั้นเปลี่ยนไปเช่นกัน
:shock: สุดยอดครับ ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบชัดเจนมากๆครับ....ทำเรื่องยากมาเป็นเรื่องง่าย....นักแก้ปัญหาจริงๆครับ

ขอถามคุณyoyoต่อเลยนะครับ...... :P
สรุปPEจะแปรผันไปตามค่าต่างดังนี้
1.อัตราดอกเบี้ย
2.ความเสียงของธุรกิจ
3.การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ
4.ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว
5.ขายสินค้าได้เร็ว มีการเก็บ inventory
6.การใช้เงินลงทุนในการขยายกิจการ/รักษาผลกำดำเนินงาน เทียบกับกระแสเงินสด
7.มีการเติบโตสูง
8.มีหนี้มากๆ

ตอนนี้ผมเข้าใจเนื่อหาที่คุณyoyoใช้ในการประเมินแล้วครับ...แต่อยากที่จะรู้ต่อไปคือเรื่องนั้นหนักในแต่ละตัวครับ.....ซึ่งผมว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก ซึ่งในแต่ละนักลงทุนแตกต่างกัน เหมือนนิ้ว5นิ้วทุกนิ้วสำคัญหมดแต่!!!สำคัญไม่เท่ากัน....
ผมขอลองให้ความสำคัญ คร่าวๆดังนี้ครับ.....

7.มีการเติบโตสูง....................50%
2.ความเสียงของธุรกิจ............20%
8.มีหนี้มากๆ............................5%
6.การใช้เงินลงทุน...................5%
5.ขายสินค้าได้เร็ว...................5%
1.อัตราดอกเบี้ย.......................5%
3.การให้เครดิตลูกค้ายาวๆ........5%
4.ได้รับเครดิตจากเจ้าหนี้ยาว....5%

รอคุณyoyoมาเฉลย น้ำหนักการให้ความสำคัญในแต่ละอันของคุณyoyoนะครับ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 205

โพสต์

picklife เขียน: ดังนั้นคุณyoyoจึงบอกว่าสิ่งนั้นไม่ใช้วิถี แต่การมองหากิจการที่เปลี่ยนพื้นฐาน หรือกำลังจะเปลี่ยน น่าสนใจกว่า เพราะแม้นPEปัจจุบันเทียบกับอดีตจะดูสุงแต่ก็ดูน้อยมากๆกับPEที่มันควรจะเป็นเนื่องจากพื้นฐานธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไป....ดังนั้นแทนที่จะมาเสียเวลากับการหาหงที่ป่วย ซื้อแล้วรอมันหาย สุ้เราไปหาเป็ดที่กำลังจะเป้นหงดีกว่า แม้นว่าเป้นตัวนั้นอาจจะเป็นเป็ดที่แข็งแรง(ราคาอาจจะแพงจากเป็นทั่วไป) แต่เมื่เทียบกับมูลค่าที่มันจะเป็นหง ยังไงก็คุ้ม ใช่ไหมครับ.....

สรุปหัวใจหลักของวิถีการลงทุนของคุณyoyoคือ หาหุ้นที่กำลังจะเปลี่ยนพื้นฐาน...ใช่ไหมครับ?
ผมไม่ได้มองแต่หุ้นที่เปลี่ยนฟื้นฐานอย่างเดียวครับ
อย่างที่บอกว่าจุดอ่อนของ Mr.Market นั้นมี 2 ด้าน คือจุดอ่อนในระยะสั้น และระยะยาว.. เพราะฉะนั้นโอกาสของผมก็มี 2 ด้านด้วยเช่นกัน คือ
1. โอกาสในระยะสั้น - หุ้นดีๆที่ถูกขายจนราคาต่ำที่ควรจะเป็น
2. โอกาสในระยะยาว - หุ้นที่กำลังดีขึ้นๆ แต่คนอื่นไม่เห็น ทั้งการเปลี่ยนแปลง Business Model และการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปหลายๆจุด
ปล. บางครั้ง Mr.Market อาจจะไม่มีเหตุผลได้เป็นเวลานานก็ได้ เพราะฉะนั้นโอกาสของที่จะได้ซื้อหุ้นดีราคาต่ำนั้นก็มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องรอนานมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในการที่จะรอให้หุ้นไปถึงสู่มูลค่าที่แท้จริง เพราะฉะนั้นการกระจาย Port ไปในหุ้นหลายๆตัวนั้นจึงมีความสำคัญ เพราะถ้าเราไปมุ่ง Focus อยู่ในหุ้นแค่ตัวเดียว บางครั้งมันอาจจะมีราคาถูกอย่างนั้นอยู่เป็นระยะเวลานาน ทำให้ผลตอบแทนบางปีอาจจะแย่ การถือหุ้นหลายๆตัวช่วยเพิ่มโอกาสในการที่ Mr.Market จะมีเหตุผลให้บ่อยครั้งมากขึ้น ช่วยให้ผลตอบแทนรายปีของเรานั้น Smooth ขึ้นด้วยเช่นกัน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 206

โพสต์

ปัจจัยที่มีผลต่อ p/e นั้นมีเยอะกว่านี้ครับ ที่เขียนไปนั้นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น

และผมก็ไม่ได้มี Weight นั้นหนักออกมาเป็นสัดส่วนอะไรขนาดนั้นหรอกครับ อย่างที่บอกครับว่ามันใช้ Sense จากประสบการณ์มากกว่า อย่ายึดติดอะไรกับตัวเลขมากเกินไปครับ หุ้นมันเป็นศิลปะครับ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวขนาดนั้นหรอกครับ บางธุรกิจปัจจัยบางอย่างมันก็อาจจะมีความสำคัญมากกว่าปัจจัยบางอย่างได้เหมือนกัน นิ้ว 5 นิ้วนั้นมีความสำคัญไม่เท่ากัน แต่ถ้าจะให้แบ่งว่านิ้วไหนสำคัญกี่ % .... มันคงจะยากดีพิลึกนะครับ มันอยู่ที่จุดประสงค์ที่ต่างกัน นิ้วชี้กับนิ้วโป้งอาจจะดูว่าได้ใช้งานบ่อยหน่อยเพราะต้องหยิบจับของ แต่ถ้าจะให้มาแคะขี้มูก ผมคงต้องยกตำแหน่งชนะเลิศให้กับนิ้วก้อยเป็นแน่

ลองไปศึกษา DCF โดยละเอียดนะครับ แล้วฝึกทำโจทย์หลายๆตัวอย่าง จะเห็นเองแหละครับว่า ตัวแปรใดที่ส่วนผลต่อ DCF มากน้อยกว่าตัวแปรไหน ก่อนหน้าที่ผมจะมาใช้ p/e เป็นหลักในการประเมินมูลค่าหุ้น ผมก็เคยลองใช้ DCF อยู่เกือบปีอยู่เหมือนกันครับ ... ก็พอจะสร้างผลตอบแทนได้ดีไม่แพ้กัน แต่ระยะเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์นั้นต่างกันเยอะ แต่ผมว่ามันช่วยเป็นรากฐานให้ผมใช้ p/e ได้ถนัดและคล่องขึ้นเยอะเลยครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 207

โพสต์

yoyo เขียน:นิ้วชี้กับนิ้วโป้งอาจจะดูว่าได้ใช้งานบ่อยหน่อยเพราะต้องหยิบจับของ แต่ถ้าจะให้มาแคะขี้มูก ผมคงต้องยกตำแหน่งชนะเลิศให้กับนิ้วก้อยเป็นแน่
:shock: สุดยอดด
:bow: ขอคาราวะเลยครับ :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 208

โพสต์

:D ขอบคุณสำหรับคำตอบคุณyoyo

1.ช่วยแนะนำหนังสือซักเล่มที่พูดถึงDCFหน่อยได้ไหมครับ...

2.ในสายตาคุณyoyo GrowthStockกับValueStockต่างกันอย่างไร?และคุณyoyoสนใจแบบไหนมากกว่ากัน/เพราะอะไรครับ...
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 209

โพสต์

yoyo เขียน:และผมก็ไม่ได้มี Weight นั้นหนักออกมาเป็นสัดส่วนอะไรขนาดนั้นหรอกครับ อย่างที่บอกครับว่ามันใช้ Sense จากประสบการณ์มากกว่า อย่ายึดติดอะไรกับตัวเลขมากเกินไปครับ หุ้นมันเป็นศิลปะครับ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวขนาดนั้นหรอกครับ
ยินดีด้วยครับ

คนไหนยังพยายามหาสูตรสำเร็จอยู่ก็เลิกๆซะนะ ทั้งสายสามัญ ทั้งสายเทคนิค นั่นแหละ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์ที่ 210

โพสต์

picklife เขียน::D ขอบคุณสำหรับคำตอบคุณyoyo

1.ช่วยแนะนำหนังสือซักเล่มที่พูดถึงDCFหน่อยได้ไหมครับ...

2.ในสายตาคุณyoyo GrowthStockกับValueStockต่างกันอย่างไร?และคุณyoyoสนใจแบบไหนมากกว่ากัน/เพราะอะไรครับ...
1. วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง .. ของพี่สุมาอี้ครับ หาซื้อได้จาก B2S ครับ

2. Growth กับ Value ไม่ได้แยกกันครับ มันอยู่ด้วยกัน... เห็นหลายกระทู้พยายามจะแบ่งอยู่ ผมว่าเสียเวลาเปล่าครับ เพราะ Growth มันคือส่วนหนึ่งของ Value อยู่แล้ว ... มันจะแบ่งแยกได้ก็เฉพาะหุ้น Value ที่มี Growth หรือ หุ้น Value ที่ไม่มี Growth
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com