ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 1
ได้คุยกับ อ.มนตรี หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่อง Asset Allocation ผมประหลาดใจทีเดียวที่ท่านเคยลงทุนในหุ้นไทยเต็มร้อย วันนี้เหลือเพียงไม่เท่าไหร่ แถมเทน้ำหนักไปให้การลงทุนบางอย่างมากๆอย่างมีนัยสำคัญ มีข้อมูลที่น่าสนใจ
เอาเป็นว่าไปสอบถามท่านเองก็แล้วกันว่าลงทุนอะไรดีใน พศ.นี้ วันที่ 20 มีนา ท่านจะมาบรรยายให้พวกเราหายคิดถึง 9.00-12.00 น. ในงาน Investor Day ครับ
เอาเป็นว่าไปสอบถามท่านเองก็แล้วกันว่าลงทุนอะไรดีใน พศ.นี้ วันที่ 20 มีนา ท่านจะมาบรรยายให้พวกเราหายคิดถึง 9.00-12.00 น. ในงาน Investor Day ครับ
- konkaikong
- Verified User
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 2
เคยได้ยินว่าคุณ มนตรี ชอบทำสวน ปลูกต้นไม้
ขอเดาว่าตอนนี้แกคงเอาไปลง AFET ครับ
ถ้าผิดก็ขออภัยครับ
ขอเดาว่าตอนนี้แกคงเอาไปลง AFET ครับ
ถ้าผิดก็ขออภัยครับ
วันนี้คุณมีรองเท้าแล้วหรือยัง
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 5
ต้องไปทางคอมโมแน่ๆ เห็นพึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับทองคำ..
- kmphol
- Verified User
- โพสต์: 417
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 7
หัวข้ออะไรครับ มีใครเปนวิทยากรบ้างครับนักดูดาว เขียน:ได้คุยกับ อ.มนตรี หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่อง Asset Allocation ผมประหลาดใจทีเดียวที่ท่านเคยลงทุนในหุ้นไทยเต็มร้อย วันนี้เหลือเพียงไม่เท่าไหร่ แถมเทน้ำหนักไปให้การลงทุนบางอย่างมากๆอย่างมีนัยสำคัญ มีข้อมูลที่น่าสนใจ
เอาเป็นว่าไปสอบถามท่านเองก็แล้วกันว่าลงทุนอะไรดีใน พศ.นี้ วันที่ 20 มีนา ท่านจะมาบรรยายให้พวกเราหายคิดถึง 9.00-12.00 น. ในงาน Investor Day ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 13
นับแต่อาจารย์มนตรี เริ่มรับลูกศิษย์จากกระทู้นี้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 10&start=0
นับจากวันนั้น ก็เป็นเวลาจะสองปีแล้ว อาจารย์สอนมุมมองใหม่เสมอมา
ตั้งแต่การลงทุนในหุ้น หรือจะเป็นกองทุนต่างๆ หรือการลงทุนอื่นๆๆ
อาจารย์จะพูดถึงเรื่องความเสี่ยงหรือการจัดสรรเงินค่อค้างบ่อยมาก
จนมาช่วงช่วงหลังๆนี้อาจารย์พูดเยอะขึ้นและบ่อยขึ้น ให้ลูกศิษย์
ตระหนักถึงความสำคัญ Asset Allocation หรือการกระจายความเสี่ยง
อย่างมาก
อันนี้เป็นมุมมองของอาจารย์ ที่สอนไว้ที่
http://board.viknowhow.com
(ขออนุญาติอาจารย์นำมาเผยแผ่นะครับ )
กฎของการลงทุน
มีหลายคนได้ถามผมหลายต่อหลายครั้งว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะการนำเอาเงินไปลงทุนในหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรง การลงทุนนั้นจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักและเอาจริงเอาจังและมีเวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆเป็นอย่างมาก และสิ่งที่มีความสำคัญอย่างที่สุดคือ วินัยในการลงทุน ปราศจากวินัยในการลงทุนแล้ว แม้จะมีข้อมูลที่แม่นยำ เราก็อาจผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยได้เลย (เรื่องนี้นักลงทุนทั่วๆไปเข้าใจได้ดี)
ผมหวังว่าคุณๆทุกคนจะเริ่มต้นกับการลงทุนในปีนี้และต่อๆไปได้อย่างถูกต้อง และมีวินัย ผมจึงอยากจะขอแบ่งปันกฎเกณฑ์การลงทุนง่ายๆที่ผมใช้มาตลอดหลายปี
1. กระจายความเสี่ยง ผมคิดว่าพวกเราทุกคนมีกฎนี้อยู่ในใจกันทุกคนแต่ไม่ค่อยนำมาใช้กับการลงทุนกันอย่างจริงจัง การกระจายความเสี่ยงนี้คือการวางแผนเพื่อรองรับกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการได้ในอนาคต เช่น การเมืองที่ปั่นป่วน ภัยธรรมชาติ ความตื่นตระหนกของนักลงทุนทั่วไปจนทำให้ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรงและรวดเร็ว และไม่ใช่เพียงแต่ในบางตลาดแต่กลับเกิดขึ้นในทุกๆตลาดทั่วโลก ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ใดจนมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราไม่มีอำนาจในการควบคุมการบริหาร จัดการของบริษัทนั้นๆ แม้ว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายคนของโลกมักกล่าวว่า นำไข่ทุกใบของคุณใส่ไว้ในตระกล้าใบเดียวนั่นแหละ แต่ต้องคอยเฝ้าทนุถนอมมันเป็นอย่างดี แต่ถ้าสังเกตให้ดี นักลงทุนเหล่านี้มักจะมีส่วนในการควบคุมการบริหารงานของบริษัทกันเกือบทั้งนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ สิ่งที่ดีที่สุดของเราคือกระจายการลงทุนออกไปในหลายๆสินทรัพย์ หลายๆประเทศ
2. กล้าที่จะรับความเสี่ยง หากปราศจากความเสี่ยงแล้ว ผมเชื่อว่าเราจะไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายการลงทุน นั่นคือผลตอบแทนที่ดีได้เลย การรับความเสี่ยงนั้นไม่ได้หมายถึงการเสี่ยงแบบสุดขั่วอย่างการเล่นบันจี้จัมป์ การรับความเสี่ยงในที่นี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการค้นคว้าข้อมูลอย่างระมัดระวัง ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจลงทุนในทุกๆครั้งเราต้องตัดสินใจบนข้อมูลที่ไม่เคยเพียงพอ และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเรียนรู้และค้นคว้าข้อมูลในการลงทุนไม่เคยจบสิ้นและเพียงพอโดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทต่างๆที่กลยุทธ์และการแข่งขันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องรับความเสี่ยงเพิ่ม เราจึงต้องค้นคว้าหาข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะเข้ารับความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม และนี่เองคือการเป็นนักลงทุนที่ดี
3. จับความผันผวน(ความเสี่ยง)มาเป็นพวกซะ จริงแท้และแน่นอนว่าทุกตลาดมีความผันผวน มันเหมือนกับท่อนไม้ที่ถูกไฟลน เมื่อถูกไฟลนไปถึงระดับหนึ่งมันก็จะเริ่มติดไฟ และลุกลามรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ต่างจากการร้อนแรงและล่มสลายในตลาดหุ้นซึ่งมักนำมาซึ่งโอกาสที่จะซื้อของได้ถูกและขายออกในราคาแพง ตราบใดที่เราอยู่ในความระมัดระวังและกระจายความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาเราจะสามารถใช้ประเด็นนี้เป็นประโยชน์ได้เสมอ การอ่อนไหวอย่างสุดขั่วของตลาดหุ้นต่อข่าวสารอย่างที่เราพบเห็นอยู่เสมอจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น จำไว้เสมอว่าเวลาที่ควรจะซื้อหุ้นอย่างที่สุดคือตอนที่คนอื่นๆมีมุมมองที่เลวร้ายต่อตลาด และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขายหุ้นคือช่วงที่ทุกคนมองโลกในแง่ดีอย่างที่สุดเช่นกัน ถ้าคุณๆสามารถมองข้ามการขึ้นลงของอารมณ์ที่ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นได้จะสร้างผลดีต่อการลงทุนของตัวคุณเอง
4. ลงทุนด้วยมุมมองระยะยาว แม้ว่าเราอยากจะได้ผลตอบแทนในระยะสั้นๆ แต่หากเรามองแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกและตลาดในระยะยาว จะทำให้เรา
ท ใช้อารมณ์ในการลงทุน และทำเรื่องที่ผิดพลาดราคาแพงน้อยลง
ท มองข้ามความผันผวนในระยะสั้นของตลาด(มองการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในระยะยาวๆเป็นหลัก)
ท มีเวลาหันกลับมาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของตลาด การเมือง และพฤติกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา เพื่อเป็นบทเรียนที่ใช้เตือนใจในการลงทุนต่อไป
ปล... ยังไง วันที่ 20 มีนา ถ้าว่างๆกันลองไปฟังอาจารย์บรรยาย นะครับ
หรือถ้าใครยังสงสัยไปสอบถามอาจารย์ดูครับ ว่าทำไม ถึงกระจายความเสี่ยง
ไปที่กองทุนมากจัง ทั้งๆอาจารย์เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้านการลงทุน
ในหุ้นมาก
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 10&start=0
นับจากวันนั้น ก็เป็นเวลาจะสองปีแล้ว อาจารย์สอนมุมมองใหม่เสมอมา
ตั้งแต่การลงทุนในหุ้น หรือจะเป็นกองทุนต่างๆ หรือการลงทุนอื่นๆๆ
อาจารย์จะพูดถึงเรื่องความเสี่ยงหรือการจัดสรรเงินค่อค้างบ่อยมาก
จนมาช่วงช่วงหลังๆนี้อาจารย์พูดเยอะขึ้นและบ่อยขึ้น ให้ลูกศิษย์
ตระหนักถึงความสำคัญ Asset Allocation หรือการกระจายความเสี่ยง
อย่างมาก
อันนี้เป็นมุมมองของอาจารย์ ที่สอนไว้ที่
http://board.viknowhow.com
(ขออนุญาติอาจารย์นำมาเผยแผ่นะครับ )
กฎของการลงทุน
มีหลายคนได้ถามผมหลายต่อหลายครั้งว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะการนำเอาเงินไปลงทุนในหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรง การลงทุนนั้นจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักและเอาจริงเอาจังและมีเวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆเป็นอย่างมาก และสิ่งที่มีความสำคัญอย่างที่สุดคือ วินัยในการลงทุน ปราศจากวินัยในการลงทุนแล้ว แม้จะมีข้อมูลที่แม่นยำ เราก็อาจผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยได้เลย (เรื่องนี้นักลงทุนทั่วๆไปเข้าใจได้ดี)
ผมหวังว่าคุณๆทุกคนจะเริ่มต้นกับการลงทุนในปีนี้และต่อๆไปได้อย่างถูกต้อง และมีวินัย ผมจึงอยากจะขอแบ่งปันกฎเกณฑ์การลงทุนง่ายๆที่ผมใช้มาตลอดหลายปี
1. กระจายความเสี่ยง ผมคิดว่าพวกเราทุกคนมีกฎนี้อยู่ในใจกันทุกคนแต่ไม่ค่อยนำมาใช้กับการลงทุนกันอย่างจริงจัง การกระจายความเสี่ยงนี้คือการวางแผนเพื่อรองรับกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการได้ในอนาคต เช่น การเมืองที่ปั่นป่วน ภัยธรรมชาติ ความตื่นตระหนกของนักลงทุนทั่วไปจนทำให้ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรงและรวดเร็ว และไม่ใช่เพียงแต่ในบางตลาดแต่กลับเกิดขึ้นในทุกๆตลาดทั่วโลก ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ใดจนมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราไม่มีอำนาจในการควบคุมการบริหาร จัดการของบริษัทนั้นๆ แม้ว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายคนของโลกมักกล่าวว่า นำไข่ทุกใบของคุณใส่ไว้ในตระกล้าใบเดียวนั่นแหละ แต่ต้องคอยเฝ้าทนุถนอมมันเป็นอย่างดี แต่ถ้าสังเกตให้ดี นักลงทุนเหล่านี้มักจะมีส่วนในการควบคุมการบริหารงานของบริษัทกันเกือบทั้งนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ สิ่งที่ดีที่สุดของเราคือกระจายการลงทุนออกไปในหลายๆสินทรัพย์ หลายๆประเทศ
2. กล้าที่จะรับความเสี่ยง หากปราศจากความเสี่ยงแล้ว ผมเชื่อว่าเราจะไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายการลงทุน นั่นคือผลตอบแทนที่ดีได้เลย การรับความเสี่ยงนั้นไม่ได้หมายถึงการเสี่ยงแบบสุดขั่วอย่างการเล่นบันจี้จัมป์ การรับความเสี่ยงในที่นี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการค้นคว้าข้อมูลอย่างระมัดระวัง ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจลงทุนในทุกๆครั้งเราต้องตัดสินใจบนข้อมูลที่ไม่เคยเพียงพอ และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเรียนรู้และค้นคว้าข้อมูลในการลงทุนไม่เคยจบสิ้นและเพียงพอโดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทต่างๆที่กลยุทธ์และการแข่งขันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องรับความเสี่ยงเพิ่ม เราจึงต้องค้นคว้าหาข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะเข้ารับความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม และนี่เองคือการเป็นนักลงทุนที่ดี
3. จับความผันผวน(ความเสี่ยง)มาเป็นพวกซะ จริงแท้และแน่นอนว่าทุกตลาดมีความผันผวน มันเหมือนกับท่อนไม้ที่ถูกไฟลน เมื่อถูกไฟลนไปถึงระดับหนึ่งมันก็จะเริ่มติดไฟ และลุกลามรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ต่างจากการร้อนแรงและล่มสลายในตลาดหุ้นซึ่งมักนำมาซึ่งโอกาสที่จะซื้อของได้ถูกและขายออกในราคาแพง ตราบใดที่เราอยู่ในความระมัดระวังและกระจายความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาเราจะสามารถใช้ประเด็นนี้เป็นประโยชน์ได้เสมอ การอ่อนไหวอย่างสุดขั่วของตลาดหุ้นต่อข่าวสารอย่างที่เราพบเห็นอยู่เสมอจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น จำไว้เสมอว่าเวลาที่ควรจะซื้อหุ้นอย่างที่สุดคือตอนที่คนอื่นๆมีมุมมองที่เลวร้ายต่อตลาด และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขายหุ้นคือช่วงที่ทุกคนมองโลกในแง่ดีอย่างที่สุดเช่นกัน ถ้าคุณๆสามารถมองข้ามการขึ้นลงของอารมณ์ที่ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นได้จะสร้างผลดีต่อการลงทุนของตัวคุณเอง
4. ลงทุนด้วยมุมมองระยะยาว แม้ว่าเราอยากจะได้ผลตอบแทนในระยะสั้นๆ แต่หากเรามองแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกและตลาดในระยะยาว จะทำให้เรา
ท ใช้อารมณ์ในการลงทุน และทำเรื่องที่ผิดพลาดราคาแพงน้อยลง
ท มองข้ามความผันผวนในระยะสั้นของตลาด(มองการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในระยะยาวๆเป็นหลัก)
ท มีเวลาหันกลับมาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของตลาด การเมือง และพฤติกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา เพื่อเป็นบทเรียนที่ใช้เตือนใจในการลงทุนต่อไป
ปล... ยังไง วันที่ 20 มีนา ถ้าว่างๆกันลองไปฟังอาจารย์บรรยาย นะครับ
หรือถ้าใครยังสงสัยไปสอบถามอาจารย์ดูครับ ว่าทำไม ถึงกระจายความเสี่ยง
ไปที่กองทุนมากจัง ทั้งๆอาจารย์เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้านการลงทุน
ในหุ้นมาก
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 15
เป็นการลงทุนที่ลงในกองทุนต่างประเทศ โดยมีการกระจายความเสี่ยง
แต่ละกอง เป็นกองที่สุดยอดจริงๆ
ที่สำคัญ ท่านให้ความรู้กับทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่มีปิดบัง มีข้อมูลอะไรก็ให้หมด
น่านับถือมากจริงๆ
ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดงานนี้
แต่ละกอง เป็นกองที่สุดยอดจริงๆ
ที่สำคัญ ท่านให้ความรู้กับทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่มีปิดบัง มีข้อมูลอะไรก็ให้หมด
น่านับถือมากจริงๆ
ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดงานนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 16
วันเสาร์ที่ 20 มี.ค. 53 งาน investor day ( ตอนเช้า ) ] ลงทะเบียน 8.30
เจอกับ อ.มนตรี กันได้นะครับ อาจารย์จะมา
คุยเรื่องการลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุน FIF :D
เจอกับ อ.มนตรี กันได้นะครับ อาจารย์จะมา
คุยเรื่องการลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุน FIF :D
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 18
พบกับ คุณมนตรี นิพิฐวิทยา คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ คุณประภาส ตันพิบูลย์ ศักดิ์
งานวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย - Thai Investors' Day
วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3
เวลา 09.00 - 12.00 น. (ลงทะเบียนเวลา 08.30 น.)
สัมมนาหัวข้อ "กระจาย ความเสี่ยง เพิ่มโอกาส ผ่านกองทุนรวม FIF"
โดย คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บลจ.อเบอร์ ดีน (ประเทศไทย) จำกัด
คุณประภาส ตันพิบูลย์ ศักดิ์ ประธานเจ้า หน้าที่สายการลงทุน บลจ.อยุธยา จำกัด
ดำเนินรายการโดย คุณมนตรี นิพิฐวิทยา
เวลา 13.00 - 17.00 น. (ลงทะเบียน เวลา 12.30 น.)
สัมมนาหัว ข้อ "เส้นทางมืออาชีพการเงิน..CFA CFP FRM"
โดย คุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย
คุณเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒ น์ เลขาธิการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
คุณมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัทหลัก ทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ ผู้อำนวยการ โครงการ FIRM NIDA BUSINESS SCHOOL
ดำเนินรายการโดย ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
งานวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย - Thai Investors' Day
วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3
เวลา 09.00 - 12.00 น. (ลงทะเบียนเวลา 08.30 น.)
สัมมนาหัวข้อ "กระจาย ความเสี่ยง เพิ่มโอกาส ผ่านกองทุนรวม FIF"
โดย คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน บลจ.อเบอร์ ดีน (ประเทศไทย) จำกัด
คุณประภาส ตันพิบูลย์ ศักดิ์ ประธานเจ้า หน้าที่สายการลงทุน บลจ.อยุธยา จำกัด
ดำเนินรายการโดย คุณมนตรี นิพิฐวิทยา
เวลา 13.00 - 17.00 น. (ลงทะเบียน เวลา 12.30 น.)
สัมมนาหัว ข้อ "เส้นทางมืออาชีพการเงิน..CFA CFP FRM"
โดย คุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย
คุณเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒ น์ เลขาธิการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
คุณมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัทหลัก ทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ ผู้อำนวยการ โครงการ FIRM NIDA BUSINESS SCHOOL
ดำเนินรายการโดย ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 19
พลาดไม่ได้ครับ^^
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 20
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 21
อย่างข่าวอันนี้ เราควรไปลงตลาดหุ้นกลุ่ม อินเดีย จีน รัสเซีย บราซิล
เรารู้ได้อย่างไร ว่าจะไปลงทุนต่างประเทศ อันไหนดี มุมมองตลาดเกิดใหม่ ควรลงทุนในกลุ่มไหน ปีนี้กลุ่มไหนกำลังจะมา
ลองทุนในทองคำดีไหม จะมี new high หรือไม่ อะไรเป็นปัจจัยเสียง
ต้องไปฟังกันเอง
http://www.stockwave.in.th/top-headline ... 20310.html
'มาร์ค โมเบียส' ยาหอมตลาดหุ้นอินเดียปีนี้เจ๋งสุด
Tuesday, 02 March 2010 14:41
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า 'มาร์ค โมเบียส' คาดตลาดหุ้นอินเดียอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดเกิดใหม่แห่งอื่นในปีนี้ หลังเศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัวได้สูงในปีนี้
'ปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจของอินเดียดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลมีผลงานที่น่าพอใจการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตการเงินที่ผ่านมา ขณะเดียวกันภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของอินเดียมีฐานะการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งไม่เหมือนอย่างในสหรัฐฯและยุโรป' นายโมเบียสระบุ
ขณะเดียวกันนายโมเบียสระบุว่า ตลาดหุ้นกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนยังคงมีความน่าลงทุนและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง ทั้งนี้ ในปีนี้ดัชนีเซ็นเซคส์ตลาดหุ้นอินเดียลดลงมาแล้ว 4.7% หลังเพิ่มขึ้น 81% ในปีที่ผ่านมา
เรารู้ได้อย่างไร ว่าจะไปลงทุนต่างประเทศ อันไหนดี มุมมองตลาดเกิดใหม่ ควรลงทุนในกลุ่มไหน ปีนี้กลุ่มไหนกำลังจะมา
ลองทุนในทองคำดีไหม จะมี new high หรือไม่ อะไรเป็นปัจจัยเสียง
ต้องไปฟังกันเอง
http://www.stockwave.in.th/top-headline ... 20310.html
'มาร์ค โมเบียส' ยาหอมตลาดหุ้นอินเดียปีนี้เจ๋งสุด
Tuesday, 02 March 2010 14:41
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า 'มาร์ค โมเบียส' คาดตลาดหุ้นอินเดียอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดเกิดใหม่แห่งอื่นในปีนี้ หลังเศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัวได้สูงในปีนี้
'ปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจของอินเดียดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลมีผลงานที่น่าพอใจการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตการเงินที่ผ่านมา ขณะเดียวกันภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของอินเดียมีฐานะการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งไม่เหมือนอย่างในสหรัฐฯและยุโรป' นายโมเบียสระบุ
ขณะเดียวกันนายโมเบียสระบุว่า ตลาดหุ้นกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนยังคงมีความน่าลงทุนและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง ทั้งนี้ ในปีนี้ดัชนีเซ็นเซคส์ตลาดหุ้นอินเดียลดลงมาแล้ว 4.7% หลังเพิ่มขึ้น 81% ในปีที่ผ่านมา
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 22
ในตลาดที่พัฒนาแล้ว นักลงทุนที่มีชื่อเสียงจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพ(ผู้จัดการกองทุนหรือเจ้าของบริษัทลงทุน)ที่บริหารเงินให้คนอื่นนะครับ เพราะมีผลงานที่สาธารณะชนตรวจสอบได้อย่างเปิดเผย ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถร่วมลงทุนได้ผลตอบแทนตามผู้บริหารกองทุนจริงๆ ไม่ใช่เพียงซื้อหุ้นตาม...
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 23
นอกจาก สูตรมหัศจรรย์ของหุ้น VI ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงการจัดพอร์ตการลงทุน ว่าควรจัดพอร์ตการลงทุนเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
หรือการทำ Asset Allocation
เช่น การลงทุนในหุ้น VI XX %
การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ XX %
การลงทุนในทองคำ XX %
อยากรู้ต้องติดตามทั้งในช่วงเช้า และบ่าย ของ Investor day
หรือการทำ Asset Allocation
เช่น การลงทุนในหุ้น VI XX %
การลงทุนในตลาดเกิดใหม่ XX %
การลงทุนในทองคำ XX %
อยากรู้ต้องติดตามทั้งในช่วงเช้า และบ่าย ของ Investor day
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 26
พี่ปรัชญา คิดถึงจริงหรือเปล่า?
วันเสาร์นี้ผมไปเป็นผู้ดำเนินรายการให้ ธ.เกียรตินาคินครับ
บังเอิญใช้ลูกเล่นนิดหน่อยเลยได้ตัว CIO ของสอง บลจ.ที่ผมชื่นชอบและไว้ใจมาสองบริษัท คือ ABERDEEN และ AYF
และผมก็ลงทุนในกองทุนต่างประเทศของทั้งสองบริษัท
ของAberdeen จะมีให้เลือกหลายกอง ส่วน AYFมีไม่มากแต่พอมีก็น่าสนใจมากๆ
ปกติผมก็ซื้อหุ้นไม่บ่อยอยู่แล้วครับ พอให้ความสนใจหุ้นต่างประเทศเลยไม่ค่อยได้สนใจหุ้นไทยรายตัว ตอนนี้หุ้นไทยมีแค่ 30%เองครับ หุ้นต่างประเทศเป็นตัวๆก็ไม่ซื้อเพราะดูไม่ไหวแน่ๆ
แน่นอนว่าลงทุนเองก็ใช้หลักการเน้นมูลค่า หาของถูก ลงทุนผ่านกองทุนก็เช่นกัน บลจ.หรือกองทุนทั่วๆไปก็ไม่ได้กินผมแน่ๆ
ใครสนใจไปฟัง ไปคุยกันก็เสาร์นี้ครับ 9.00น. เจอผมแน่ ใครจะตามไปเหยียบ ไปยิงก็ไม่ต้องไปนะ ยังไม่ได้ใช้เงินเลย
วันเสาร์นี้ผมไปเป็นผู้ดำเนินรายการให้ ธ.เกียรตินาคินครับ
บังเอิญใช้ลูกเล่นนิดหน่อยเลยได้ตัว CIO ของสอง บลจ.ที่ผมชื่นชอบและไว้ใจมาสองบริษัท คือ ABERDEEN และ AYF
และผมก็ลงทุนในกองทุนต่างประเทศของทั้งสองบริษัท
ของAberdeen จะมีให้เลือกหลายกอง ส่วน AYFมีไม่มากแต่พอมีก็น่าสนใจมากๆ
ปกติผมก็ซื้อหุ้นไม่บ่อยอยู่แล้วครับ พอให้ความสนใจหุ้นต่างประเทศเลยไม่ค่อยได้สนใจหุ้นไทยรายตัว ตอนนี้หุ้นไทยมีแค่ 30%เองครับ หุ้นต่างประเทศเป็นตัวๆก็ไม่ซื้อเพราะดูไม่ไหวแน่ๆ
แน่นอนว่าลงทุนเองก็ใช้หลักการเน้นมูลค่า หาของถูก ลงทุนผ่านกองทุนก็เช่นกัน บลจ.หรือกองทุนทั่วๆไปก็ไม่ได้กินผมแน่ๆ
ใครสนใจไปฟัง ไปคุยกันก็เสาร์นี้ครับ 9.00น. เจอผมแน่ ใครจะตามไปเหยียบ ไปยิงก็ไม่ต้องไปนะ ยังไม่ได้ใช้เงินเลย
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 28
พี่มนใช้หลักการอะไรในการดูว่ากองทุนนี้ถูกครับ แล้วหาข้อมูลจากไหนครับMon money เขียน:
ปกติผมก็ซื้อหุ้นไม่บ่อยอยู่แล้วครับ พอให้ความสนใจหุ้นต่างประเทศเลยไม่ค่อยได้สนใจหุ้นไทยรายตัว ตอนนี้หุ้นไทยมีแค่ 30%เองครับ หุ้นต่างประเทศเป็นตัวๆก็ไม่ซื้อเพราะดูไม่ไหวแน่ๆ
แน่นอนว่าลงทุนเองก็ใช้หลักการเน้นมูลค่า หาของถูก ลงทุนผ่านกองทุนก็เช่นกัน บลจ.หรือกองทุนทั่วๆไปก็ไม่ได้กินผมแน่ๆ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
ใครคิดถึง อ.มนตรี Mon Money บ้าง!!
โพสต์ที่ 30
ผมก็ลงทุนใน China Gateway Fund ของ Aberdene ครับMon money เขียน:บังเอิญใช้ลูกเล่นนิดหน่อยเลยได้ตัว CIO ของสอง บลจ.ที่ผมชื่นชอบและไว้ใจมาสองบริษัท คือ ABERDEEN และ AYF
และผมก็ลงทุนในกองทุนต่างประเทศของทั้งสองบริษัทแน่ๆ
ไม่รู้มองเหมือนกันหรือเปล่าครับ ว่า China มี Great Potential และจะมาแทน USA ??