ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 121
โอ้ พระเจ้า
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ :D
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ :D
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้เพิ่มเติมที่มอบให้
และจะเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่ไม่ย้อท้อ
N
และจะเป็นกำลังใจให้สำหรับผู้ที่ไม่ย้อท้อ
N
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 122
แวะเอามาให้อ่านแก้เครียดครับ
ขำๆ อย่าคิดมาก ขนาดปู่แกยังโดนไปด้วย
จริงรึป่าวครับ ที่ วอเรน บัฟเฟต ก็ขายแอมเวย์ด้วย
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/ ... 05567.html
ขำๆ อย่าคิดมาก ขนาดปู่แกยังโดนไปด้วย
จริงรึป่าวครับ ที่ วอเรน บัฟเฟต ก็ขายแอมเวย์ด้วย
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/ ... 05567.html
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 123
[quote="revlis"]โอ้ พระเจ้า
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไรอะนะครับ
แต่พอเหนการเติบโตของกระทู้นี้ก็ตกใจมาก
ไม่นึกว่าจะมีคนโพสเรื่อยๆขนาดนี้
ยังไงผมขอบอกในมุมมองของผมบ้างนะครับ
ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายอาจจะดีสำหรับคน30%
แต่อาจจะไม่ดีกับคนอีก70%เหมือนกับการศึกษาน่ะครับ
คือถ้าคน30%แล้วมาถามผมว่าคนที่เหลือนั้นโง่รึเปล่า?
ผมคงตอบว่าไม่หรอกเค้าไม่โง่เลย แต่สิ่งที่เค้าเรียนนั้น
มันไม่เหมาะกับเค้าเท่านั้นเอง
เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายเช่นกันที่ต้องมีคนที่เหมาะและไม่เหมาะ
เนื่องจากโอกาศของแต่ละคนนั้นมีเท่ากัน
แต่ประสบการณ์และมุมมองของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน
ทำให้คนมีความแตกต่างกัน และมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกัน
ถ้าผมถามทุกคนนะครับว่า ถ้าเราไม่เคยเล่นหุ่น ไม่เคยมองอสังหาริทรัพย์
ไม่รู้ว่าทองซื้อเพื่ออะไร ไม่เคยเจอธุรกิจเครือข่าย
และไม่เคยเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆที่มีอยู๋
วันธรรมดาของคุนก็คงผ่านไปอย่างธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่วันนี้คุณเจอทุกอย่าง รู้จักเกือบทั่งหมด และมีประสบการณ์กับมัน
ทำให้คุณมีความสามารถที่จะเลือกไงครับ
เลือกสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดและมองว่ามันเหมาะกับคุณรึเปล่า
ผมมองว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นโอกาสหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่ามันจะทำได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่มันทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น
(อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้จักธุรกิจหรือสิ่งที่เรียกว่าแผนการตลาดของบริษัทใหญ่ๆละนะ)
และทำให้ผมเข้าใจถึงมุมมองอีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับเพื่อนและเงิน
มันเป็นมุมมองง่ายๆครับคือ ผมมองว่าธุรกิจเครือข่าย
เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นตรงที่ว่ามันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับคน
เกือบจะเรียกได้ว่า100%เลยทีเดียวดังนั้น
มันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะผมมองว่าเรื่องงธุรกิจกับเพื่อน
มันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลย ผมขอยกตัวอย่าง่ายที่สุดเลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ คือผมเชื่อนะครับว่าคนส่วนใหญในที่นี้ต้องเคยให้เพื่อนยืมเงิน
ผมอยากถามว่าขอคืนง่ายไหมครับ? ถ้าคืนง่ายก็ดีแล้วคนที่ทวงยากละ
ก็ตื้อทวงสิใช้ไหมครับแล้วถ้าตื้อทวงมากๆเพื่อนมันมันด่าไหมครับ?
เงินแค่นี้ทวงไรนักหนาว่ะ? ประโยคคุ้นเคยสำหรับหลายคนเลยทีเดียวที่เป็น
ควิกแคชทั้งที่กระเป๋าแบนต้องทวงตังเพื่อนคืน น่าเศร้านะครับ?
แล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับธุรกิจยังไง ขอให้มองนะครับว่าการกูยืมเงินก็เป็นธุรกิจ
ประเภทหนึ่งถ้าคุณยังไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินและทวงเพื่อนคุนได้โดยสวัสดิภาพแล้วละก็
ลองมองดูนะครับว่าคุณจะทำธุรกิจกับเพื่อนคุณยังไงไม่ให้เพื่อนคุณเกลียด
มันอาจจะต้องลองมองอะไรหลายๆอย่างคิดอะไรหลายๆอย่างถ้าจะทำ
ผมมองว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไรจากมันคุณถึงจะทำมัน
เพราะถ้าคุณทำธุรกิจเป็นผมว่านอกจากจะเสียเพื่อนแล้วมันอาจจะได้เพื่อนก็ได้
เพราะว่ามันลำบากมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน(คิดสภาพว่าเปิดร้านอะไรสัก
อย่างกับเพื่อนแล้วพยายามด้วยกันทั้งคู่และก็ไม่โกงกันมีปัญหาก็พูดกัน)
แต่ถ้าคุณทำไม่เป็นล่ะก็คุณคงไม่เสียแค่เพื่อนละผมว่ายิ่งสำหรับธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเสียทุกคนที่คุณรู้จักเลยทีเดียว
เพราะไม่ว่าคุณจะคุยกับใครทำอะไรก็แตกดังโพละ(ดั่งเช่นการทำธุรกิจกับ
เพื่อนแล้วต่างคนต่างอิจฉาต่างคนต่างโกงมานคงไม่เหลืออะไรนอกจาก...
เสียเพื่อน หรือเสียเงินและเสียอะไรอีกหลายอย่าง)
ที่ผมเขียนมาตั้งมากมายเพื่ออะไรครับ ผมอยากจะบอกว่าธุรกิจเครือข่ายก็คือ
ธุรกิจๆหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคนและคนๆนั้นไม่ใช้ใครอื่นคือเพื่อนคุณคนที่คุณ
รู้จักดังนั้นผมขอพูดเลยละกันว่ามันไม่ใช้เรื่องง่ายๆที่แค่เสียเงินแล้วจะทำกันได้
แต่ยังไงเสียผมเชื่อนะครับว่าคนที่จริงจังกับสิ่งที่ชอบต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
ไม่ว่าจะเปนเรื่องหุ่น หรือการลงทุนใดๆก็ตามแต่
ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ
ความเป็นผู้นำ คนที่จะทำมันให้ถึงจุดสูงสุดได้ผมเชื่อว่าคนๆนั้นต้องมีความเป็นผู้นำสูงมาก
กล่าวคือเขาต้องนำพาผู้ที่ทำงานร่วมกับเขาฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
ดังนั้นถ้าผมจะทำธุรกิจชนิดนี้กับใคร
ผมจะเลือกคนที่มีความคิดและความเป็นผู้นำสูงมากพอที่จะทพให้ผมเคารพ
ในความคิดของเขาได้โดยไม่เอนเอียงหรือลังเล
เพราะธุรกิจนี้คือธรกิจของคนกับคนดังนั้นถ้าผมจะติดดตามใครผมขอติดตาม
คนที่ผมเชื่อในความคิดของเค้า
เชื่อในสิ่งที่เขาและมั่นใจในสิ่งที่เขาเป็น
จบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปลอีกนิดนึง.ใครอ่านถึงตรงนี้ผมขอบคุณมากครับที่ฟังผมเพ้อจนจบ
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 124
ผมก็เคยลองทำแอมเวย์ดูครับ
แต่ปัจจุบัน หลับ ไปนานแล้ว
ใช้แต่สินค้าครับ เพราะชอบตัวสินค้า
ที่เลิกทำเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะกับบุคลิกตัวผมสักเท่าไหร่
ผมเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ชอบง้อ ชอบตื้อสักเท่าไหร่
แต่ก็พอที่จะแนะนำคนใกล้ตัวแบบจริงใจๆได้บ้าง ( น้อยครั้ง )
ที่ได้รู้จักกับแอมเวย์ก็เพราะมีเพื่อนสนิทมาแนะนำครับ
และมันก็บอกว่านี่เป็นแนวทางการทำธุรกิจที่อยู่ในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก
ซึ่งผมอ่านพ่อรวยสอนลูกตั้งแต่อายุ 17
ฝันอยากมีอิสระภาพทางการเงินมากๆ
แต่ตอนนั้นมองไปที่ธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่ามากกว่า
พอมันมาแนะนำก็เลยลองศึกษาดูครับ
แต่ก็พบมาไม่ชอบจริงๆนั่นแหละครับ
คือทำแล้วไม่มีความสุข
ก็เลยหยุดไป
มุ่งหน้าเก็บเงิน+ลงทุนในกองทุน
เพื่อให้มันงอกเงยเพื่อจะมาเป็นทุนของธุรกิจในอนาคต
จนกระทั่งวันนึงผมคิดจะซื้อหุ้นกู้
ก็เลยลองคิดๆดูว่า
หุ้นกู้มันออกโดยบริษัท
บริษัทมันก็จะมีหุ้นสามัญนี่หว่า
งี้ถ้าเราซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง
แล้วให้ปันผลมากกว่าดอกเบี้ยหุ้นกู้
ก็น่าจะดีกว่านี่หว่า
จากนั้นก็ต่อโทรศัพท์หาเพื่อนคนนึง
ซึ่งผมรู้ว่ามันเล่นหุ้นอยู่
มันก็แนะนำให้ผมรู้จักการลงทุนแบบ VI
และทำให้ผมรู้จักผลตอบแทนแบบทบต้นของเงินปันผล
แล้วก็ web นี้ครับ
ตอนนี้ผมมีความสุขในชีวิตมาก
แม้ว่าพอร์ตกำลังโตก็เหอะครับ
ความสุขที่ได้ไปถึงเป้าหมายมันก็อย่างนึง
แต่ความสุขในระหว่างทางมันก็เป็นเรื่องสำคัญไม่หยอกนะครับ
เพราะงั้นหาทางเดินที่เราเดินแล้วมีความสุขจะดีที่สุดครับ
ปล. ปัจจุบัน ผมลืมหอพัก / อพาร์ทเม้น ในฝันของผมไปหมดแล้ว
แต่ปัจจุบัน หลับ ไปนานแล้ว
ใช้แต่สินค้าครับ เพราะชอบตัวสินค้า
ที่เลิกทำเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะกับบุคลิกตัวผมสักเท่าไหร่
ผมเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ชอบง้อ ชอบตื้อสักเท่าไหร่
แต่ก็พอที่จะแนะนำคนใกล้ตัวแบบจริงใจๆได้บ้าง ( น้อยครั้ง )
ที่ได้รู้จักกับแอมเวย์ก็เพราะมีเพื่อนสนิทมาแนะนำครับ
และมันก็บอกว่านี่เป็นแนวทางการทำธุรกิจที่อยู่ในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก
ซึ่งผมอ่านพ่อรวยสอนลูกตั้งแต่อายุ 17
ฝันอยากมีอิสระภาพทางการเงินมากๆ
แต่ตอนนั้นมองไปที่ธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่ามากกว่า
พอมันมาแนะนำก็เลยลองศึกษาดูครับ
แต่ก็พบมาไม่ชอบจริงๆนั่นแหละครับ
คือทำแล้วไม่มีความสุข
ก็เลยหยุดไป
มุ่งหน้าเก็บเงิน+ลงทุนในกองทุน
เพื่อให้มันงอกเงยเพื่อจะมาเป็นทุนของธุรกิจในอนาคต
จนกระทั่งวันนึงผมคิดจะซื้อหุ้นกู้
ก็เลยลองคิดๆดูว่า
หุ้นกู้มันออกโดยบริษัท
บริษัทมันก็จะมีหุ้นสามัญนี่หว่า
งี้ถ้าเราซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง
แล้วให้ปันผลมากกว่าดอกเบี้ยหุ้นกู้
ก็น่าจะดีกว่านี่หว่า
จากนั้นก็ต่อโทรศัพท์หาเพื่อนคนนึง
ซึ่งผมรู้ว่ามันเล่นหุ้นอยู่
มันก็แนะนำให้ผมรู้จักการลงทุนแบบ VI
และทำให้ผมรู้จักผลตอบแทนแบบทบต้นของเงินปันผล
แล้วก็ web นี้ครับ
ตอนนี้ผมมีความสุขในชีวิตมาก
แม้ว่าพอร์ตกำลังโตก็เหอะครับ
ความสุขที่ได้ไปถึงเป้าหมายมันก็อย่างนึง
แต่ความสุขในระหว่างทางมันก็เป็นเรื่องสำคัญไม่หยอกนะครับ
เพราะงั้นหาทางเดินที่เราเดินแล้วมีความสุขจะดีที่สุดครับ
ปล. ปัจจุบัน ผมลืมหอพัก / อพาร์ทเม้น ในฝันของผมไปหมดแล้ว
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 125
ขอบคุณ คุณ leonleon ที่เข้ามาแชร์ข้อมูลนะครับ :D
ผมไปแอบอ่านกระทู้คุณมาก่อนแล้ว อิอิ
:lol: :lol:
ผมไปแอบอ่านกระทู้คุณมาก่อนแล้ว อิอิ
:lol: :lol:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 126
เพื่อนเค้าก็พูดถูกนะครับ มัีนเป็น งานที่ต้องสร้างเครือข่าย ที่ถูกต้อง จึงจะได้ รายได้ืี่เกิดจากการสร้างเครือข่ายนั้นleonleon เขียน:
ที่ได้รู้จักกับแอมเวย์ก็เพราะมีเพื่อนสนิทมาแนะนำครับ
และมันก็บอกว่านี่เป็นแนวทางการทำธุรกิจที่อยู่ในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก
เมื่อสร้างองค์กร ได้ถูกต้อง และ จำนวนมากพอ ก็จะ ได้รายได้ ที่เป็น passive income จาก การลงแรงนั้นครับ
เพียงแต่ ก็จะมีบางคน ที่จะชอบงาน ลักษณะ แบบนี้ เพราะเป็น งานที่ต้อง ปะทะ กับ การถูกปฏิเสธ คนจะรับไม่ได้ตรงนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 127
สวัสดีครับ
เพิ่งเข้ามาดู
เพิ่งเข้ามาดู
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 128
มีเรื่องสอบถามพี่ๆทุกท่านเล็กน้อยนะครับ
คือ ย้อนกลับเมื่อสมัยผมได้รับคำชวนให้ทำธุรกิจเครือข่าย
คนที่ชวนผมนั้นได้อธิบายให้ผมฟังว่า
สินค้าของธุรกิจเครือข่ายที่เขาทำอยู่(AMWAY)
จะไม่มีการโฆษณา และจะแบ่งเงินที่ต้องใช้ทำโฆษณา
ให้นักธุรกิจแอมแวร์แทน เพื่อเป็นการแบ่งรายได้อย่างยุติธรรม
ที่ผมสงสัยคือ ในปัจจุบัน ผมเห็นโฆษณาของสินค้า AMWAY เยอะมาก
โดยเฉพาะตามสื่อโทรทัศน์ ผมเลยอยากจะสอบถามว่าสาเหตุใดที่ทางบริษัท
มีการโฆษณาสินค้าในสื่อโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
คือ ย้อนกลับเมื่อสมัยผมได้รับคำชวนให้ทำธุรกิจเครือข่าย
คนที่ชวนผมนั้นได้อธิบายให้ผมฟังว่า
สินค้าของธุรกิจเครือข่ายที่เขาทำอยู่(AMWAY)
จะไม่มีการโฆษณา และจะแบ่งเงินที่ต้องใช้ทำโฆษณา
ให้นักธุรกิจแอมแวร์แทน เพื่อเป็นการแบ่งรายได้อย่างยุติธรรม
ที่ผมสงสัยคือ ในปัจจุบัน ผมเห็นโฆษณาของสินค้า AMWAY เยอะมาก
โดยเฉพาะตามสื่อโทรทัศน์ ผมเลยอยากจะสอบถามว่าสาเหตุใดที่ทางบริษัท
มีการโฆษณาสินค้าในสื่อโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 130
คล้ายกรณีนี้ปะครับมีเรื่องสอบถามพี่ๆทุกท่านเล็กน้อยนะครับ
คือ ย้อนกลับเมื่อสมัยผมได้รับคำชวนให้ทำธุรกิจเครือข่าย
คนที่ชวนผมนั้นได้อธิบายให้ผมฟังว่า
สินค้าของธุรกิจเครือข่ายที่เขาทำอยู่(AMWAY)
จะไม่มีการโฆษณา และจะแบ่งเงินที่ต้องใช้ทำโฆษณา
ให้นักธุรกิจแอมแวร์แทน เพื่อเป็นการแบ่งรายได้อย่างยุติธรรม
ที่ผมสงสัยคือ ในปัจจุบัน ผมเห็นโฆษณาของสินค้า AMWAY เยอะมาก
โดยเฉพาะตามสื่อโทรทัศน์ ผมเลยอยากจะสอบถามว่าสาเหตุใดที่ทางบริษัท
มีการโฆษณาสินค้าในสื่อโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ตลาดปิดลบ น้ำมันปิดลบ การเมืองบวก ต่างชาติซื้อ นักวิเคราะห์พูดว่า
ที่ตลาดปิดลบเพราะไปตามผลจากน้ำมันที่ปิดลบ
ตลาดปิดลบ น้ำมันปิดบวก การเมืองบวก ต่างชาติขาย นักวิเคราะห์พูดว่า
ที่ตลาดปิดเพราะต่างชาติทะยอยขาย
ตลาดปิดลบ น้ำมันปิดบวก การเมืองลบ ต่างชาติซื้อ นักวิเคราะห์พูดว่า
ที่ตลาดปิดเพราะ นลท เริ่มกลัวๆ การเมือง
ตลาดปิดบวก น้ำมันปิดลบ การเมืองบวก ต่างชาติซื้อ นักวิเคราะห์พูดว่า
ที่ตลาดปิดบวกเพราะต่างชาติซื้อ การเมืองแนวโน้มสดใส
ผมว่าที่โฆษณาหรือไม่นั่น มันขึ้นกับนโยบายของบรษัทปะครับ
นักธุรกิจเขาก็พูดไปเพื่อให้เป็นข้อดีอย่างนึกของการทำแอมเวย์เท่านั้นเองครับ
อีกอย่าง พวกน้ำยาล้างจานแบบเข้มข้น ผงซักฟอกแบบเข้มข้น แล้วบอกว่าถ้าคำนวนระยะยาวแล้วจะถูกกว่า + ลดโลกร้อนเพราะใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่า นั่นจริงๆ แล้วมันมาจาก บริษัทเขาต้องการลดต้นทุนเลยผลิตออกมาแบบให้ใช้ได้นานๆ ครับ เขาก็ต้องเอามาพูดให้เป็นข้อดี
แต่ เรื่องลดโลกร้อนนี่ผมก็เห็นด้วยนะครับ โดยปกติผมซื้อของใช้ก็จะซื้อแพ็คใหญ่มาใช้ครับ เพราะประหยัด + ลดโลกร้อน
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 131
ขอบคุณ คุณ luckyman ที่ช่วยอธิบายนะคับ
ผมคิดว่าก็มีส่วนคล้ายประเด็นที่คุณ luckyman ยกมา
ในแง่ที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แต่ผมว่ามันไม่ตรงประเด็นซะทีเดียวนะคับ
มันไม่น่าจะเอามาโยงหรือ เปรียบเทียบกันได้หรือเปล่าคับ ?
ยิ่งต้องมีที่มาที่ไปว่า สาเหตุใดบริษัทถึงได้ตั้งนโยบายแบบนี้
แล้วทำไมถึงคิดเปลี่ยนนโยบายที่ตั้งขึ้น
ประเด็นที่ผมอยากทราบคือเหตุผลเบื้่องหลังมากกว่า
เพราะนโยบาย พอทำไปแล้วผลที่ได้อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้
แต่เหตุผลที่ใช้นโยบายต่างๆกัน ต่างหากจะสามารถบ่งบอกเจตนาที่แท้จริงของบริษัท
เพราะนี่คือที่มาที่ไปว่าทำไมถึงทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ใช้ได้นานๆ
และเป็นแบบเข้มข้น รวมทั้งใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองน้อย
ผมคิดว่าก็มีส่วนคล้ายประเด็นที่คุณ luckyman ยกมา
ในแง่ที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
แต่ผมว่ามันไม่ตรงประเด็นซะทีเดียวนะคับ
มันไม่น่าจะเอามาโยงหรือ เปรียบเทียบกันได้หรือเปล่าคับ ?
ตรงนี้ผมมองว่าสำคัญนะคับ ยิ่งถ้าเป็นนโยบายของบริษัทแล้วผมว่าที่โฆษณาหรือไม่นั่น มันขึ้นกับนโยบายของบรษัทปะครับ
นักธุรกิจเขาก็พูดไปเพื่อให้เป็นข้อดีอย่างนึกของการทำแอมเวย์เท่านั้นเองครับ
ยิ่งต้องมีที่มาที่ไปว่า สาเหตุใดบริษัทถึงได้ตั้งนโยบายแบบนี้
แล้วทำไมถึงคิดเปลี่ยนนโยบายที่ตั้งขึ้น
ประเด็นที่ผมอยากทราบคือเหตุผลเบื้่องหลังมากกว่า
เพราะนโยบาย พอทำไปแล้วผลที่ได้อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้
แต่เหตุผลที่ใช้นโยบายต่างๆกัน ต่างหากจะสามารถบ่งบอกเจตนาที่แท้จริงของบริษัท
ผมอยากได้คำตอบแบบนี้ของคำถามข้อแรกอะครับอีกอย่าง พวกน้ำยาล้างจานแบบเข้มข้น ผงซักฟอกแบบเข้มข้น แล้วบอกว่าถ้าคำนวนระยะยาวแล้วจะถูกกว่า + ลดโลกร้อนเพราะใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่า นั่นจริงๆ แล้วมันมาจาก บริษัทเขาต้องการลดต้นทุนเลยผลิตออกมาแบบให้ใช้ได้นานๆ ครับ เขาก็ต้องเอามาพูดให้เป็นข้อดี
เพราะนี่คือที่มาที่ไปว่าทำไมถึงทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ใช้ได้นานๆ
และเป็นแบบเข้มข้น รวมทั้งใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองน้อย
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 132
เรื่องโฆษณาผมไม่ทราบครับ แต่เรื่องแบบเข้มข้นผมคิดว่าผมอยากได้คำตอบแบบนี้ของคำถามข้อแรกอะครับ
เพราะนี่คือที่มาที่ไปว่าทำไมถึงทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้ใช้ได้นานๆ
และเป็นแบบเข้มข้น รวมทั้งใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองน้อย
เพื่อการลดต้นทุนครับ ถ้าทำแบบทั่วๆ ไป ต้นทุน packaging จะสูงครับ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 133
ขออนุญาติขุดกระทู้ขึ้นมา เผื่อท่านใดมีประเด็นเพิ่มเติม จะได้มาแลกเปลี่ยนกันครับ
ส่วนตัวผมนั้นหมดข้อสงสัย และคำถามไปนานแล้ว เพราะได้รับการชี้แนะ
และคำตอบจากทุกๆท่านที่ช่วยกันตอบกระทู้
ส่วนตัวผมนั้นหมดข้อสงสัย และคำถามไปนานแล้ว เพราะได้รับการชี้แนะ
และคำตอบจากทุกๆท่านที่ช่วยกันตอบกระทู้
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY
โพสต์ที่ 134
เรื่องการโฆษณาผมว่าน่าจะมาจากพวกuplineระดับสูงลิบๆมากกว่านะครับเพราะเท่าที่ได้ยินมา(เมื่อนานมาแล้วสักปีได้) เพราะว่าการโฆษณาะครับแค่คุณเป็นหนึ่งในคนในระบบแล้วแจ้งความจำนงต่อบริษัทว่าจะสร้าโฆษณาให้อะไรแบบนั้นก็น่าจะทำได้นะครับ แบบว่าบริษัทไม่ทำเราทำเองอะไรแบบนั้นนะคับหลักๆก็เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทนะครับ คิดว่านะ