ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
showkun
Verified User
โพสต์: 12
ผู้ติดตาม: 0

ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ระบบกงสีในความคิดผม คือ การที่ครอบครัวคนจีนมีการบริหารงานกันเอง

โดยที่อำนาจเด็ดขาด หรือการตัดสินใจอยู่ที่การเป็นพ่อ

โดยการทำงานของลูกนั้นมีช่วงเวลารับผิดชอบงานที่สูงกว่าพนักงานทั่วไป

บางครั้งอิสรภาพบางอย่างถูกจำกัดอยู่บ้าง

มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวมันเอง
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คิดถึงเครือสหพัฒน์
ประธานใหญ่คนนึง
ลูกๆก็ไปบริหารงานในเครือ
ปะมานนั้น
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1

ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ระบบกงสี

คือเงินจากการได้มาจากค้าขาย  จะมาอยู่เป็นส่วนกลาง
ใครจะนำออกไปใช้อะไรต้องบอกผู้บริหารก่อน
เมื่อพิจารณาอาจได้และไม่ได้
ลูกๆทุกคนไม่สามารถครอบครองเป็นส่วนตัวได้  
เป็นส่วนกลางของตระกูล

บริหารแบบกงสี  กับบริหารจากมืออาชีพจึงต่างกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 1

ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ส่วนใหญ่เท่าที่เจอ พอประมุขใหญ่สิ้น ลูกหลานทะเลาะกัน กงสีแตก แยกกันไปใหญ่ เพราะคำว่าผลประโยชน์  :(
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
X-man
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

ระบบกงสีของคนจีนเป็นอย่างไรคับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมขอแชร์ความคิดด้วยนะครับ ในส่วนที่ผมทำธุรกิจกับที่บ้าน(พ่อผมเป็นจีน มาจากเมืองจีนตอนอายุประมาณ 23)แต่ไม่ชอบกับระบบกงสี

   เอาเริ่มจากความหมายก่อน คำว่า กง แปลว่าส่วนกลาง(จีนแต้จิ๋ว กง จีนกลาง จง) ส่วนคำว่า สี เนีี่ย ผมไม่แน่ใจ น่าจะแปลว่าทำ  พบประสมเป็นคำก็จะแปลว่า ทำให้กับส่วนกลาง (แปลฉบับผมเองนะครับ)

  ส่วนที่มาของคำคำนี้ ก็น่าจากวัฒนธรรมของชาวจีนนั่นเองหนะครับ คือ วัฒนธรรมของคนจีนเนี่ย เขาจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก่อน ถ้าดูในหนังจีนสมัยเก่า จะพูดถึงการล้างแค้นให้กับพี่น้อง และการดูแลครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากญี่ปุ่น ที่เน้นความสำคัญของชาติมาก่อนครอบครัว หากมองขยายภาพกว้างออกไปอีก คือ ทางตะวันตก เรา(เอเชีย) จะให้ความสำคัญของกลุ่มมาก่อน (ในเมืองไทยเราก็เช่นเดียวกัน จะพบว่า "เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด" หรือ อย่าเถียงผู้ใหญ่) ส่วนทางตะวันตก จะให้ความสำคัญของ individual (ซึ่งจากจุดนี้เองเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ผมเชื่อว่า ทางตะวันตก จึงเกิดนักคิด และนวัตกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้น เนื่องจาก ไม่โดนความคิดดั้งเดิมมาครอบงำ)

  เข้ามาในส่วนหัวเรื่องของเราบ้าง คือ การทำงานกงสี ซึ่งจากเหตุผลทางวัฒนธรรมดังกล่าว การทำงานกงสี ก็คือ ทำงานให้กับส่วนกลาง ซึ่งก็คือ ครอบครัวเองแหละครับ และด้วยวัฒนธรรมที่นับถือ ผู้ใหญ่ ทำให้การตัดสินใจสำคัญ ๆ ผู้เป็นพ่อ หรือ ผู้ที่อาวุโสสุด (อาจเป็นปู่) เป็นผู้ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ และเนื่องด้วยที่เป็นครอบครัวเองแหละครับ (โดยส่วนใหญ่ที่ผมพบในสเกลธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านค้าตามต่างจังหวัด พอทำงานได้เงินมา ก็จะเก็บรวมเงินไว้กับส่วนกลาง ใครได้มาก ได้น้อย ก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เพราะว่าช่วยกันขายของเหมือนกัน)  จึงทำให้ไม่มีระบบการประเมินผลที่ชัดเจน ซึ่งการที่ไม่มีการประเมินผลที่ชัดเจนนี่เองครับ ปัญหาจากระบบกงสีจึงตามมาเป็นจำนวนมากครับ อย่างที่เราพบเห็นตามข่าวต่าง ๆ ครับ ข่าวเกี่ยวกับซีอิ๊วขาวเด็กสมบูรณ์เมื่อหลายปีก่อนหนะครับ ที่อาม่ามาฟ้องหลานตัวเอง หรือปัญหาเรื่องการแบ่งสมบัติในกรณีที่ผู้ที่เสียชีวิตไปไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ เลยไม่รู้ว่าใครสมควรได้อะไรบ้าง หรือเรื่องการใช้งานคนไม่ถูกหน้าที่ เนื่องจากพ่ออาจให้ตำแหน่งที่ดีกว่ากับลูกคนโต ทั้ง ๆ ที่มีความสามารถต่ำกว่า เพื่อน ๆ ลองคิดดูสิครับ ถ้าการทำงาน หากไม่มีการประเมินผลที่ดี อาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

    ส่วนข้อดีก็มีนะครับ ก็เพราะว่าความเป็นครอบครัวที่มากกว่าระบบทั่วไป ความเครียดในการทำงานจึงน้อยกว่า การแข่งขันไม่สูงมาก ทำงานอย่างสบายใจ

  ส่วนเพื่อน ๆ หละ คิดว่า กงสี ดีหรือป่าว
โพสต์โพสต์