IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 1
เป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET เป็นฟิล์มบรรจุภัณฑ์ ซึ่งนิยมใช้ในการห่ออาหาร เช่น ซองขนมขบเคี้ยว ซองบรรจุช็อกโกแลต กาแฟ หรือครีมเทียม เป็นต้น
ธุรกิจคล้ายๆ TFI กับ AJ แต่เทียบกำลังการผลิตเฉพาะ PET บริษัทนี้จะมีกำลังการผลิต 38000 ตันต่อปีเทียบกับทั้งสองบริษัทในตลาดมีกำลังการผลิตเพียง 3500 และ 8500 ตามลำดับ
จุดเด่นคือมีต้นทุนตําสุดในประเทศและมีการผลิตเม็ดพลาสติคด้วยตัวเอง
กำไรขั้นต้นประมาณ 30% กำไรสุทธิ 20%
เงินที่ได้จาก ipo จะนำไปขยายกำลังการผลิต ซื้อเครื่องจักร และใช้หนี้สถาบันการเงินครับ
โครงการในอนาคตที่สำคัญคือการสร้างโรงงานที่ตุรกีเพื่อขยายตลาดไปทางยุโรป รัสเซีย อัฟริกาและตะวันออกกลาง
งวดบัญชี เม.ย. - มี.ค. ครึ่งปีแรกปีนี้สิ้นสุดเดือนกันยายนทำกำไรได้ 333 ล้านบาท จำนวนหุ้นหลัง ipo เท่ากับ 800 ล้านหุ้น
ราคา 6.9 บาท พาร์ 1 บาท
p/e = 8.31
bv หลัง ipo ประมาณ = 4.28 บาทต่อหุ้น p/bv = 1.61
มีความเห็นบ้างมั๊ยครับ
ธุรกิจคล้ายๆ TFI กับ AJ แต่เทียบกำลังการผลิตเฉพาะ PET บริษัทนี้จะมีกำลังการผลิต 38000 ตันต่อปีเทียบกับทั้งสองบริษัทในตลาดมีกำลังการผลิตเพียง 3500 และ 8500 ตามลำดับ
จุดเด่นคือมีต้นทุนตําสุดในประเทศและมีการผลิตเม็ดพลาสติคด้วยตัวเอง
กำไรขั้นต้นประมาณ 30% กำไรสุทธิ 20%
เงินที่ได้จาก ipo จะนำไปขยายกำลังการผลิต ซื้อเครื่องจักร และใช้หนี้สถาบันการเงินครับ
โครงการในอนาคตที่สำคัญคือการสร้างโรงงานที่ตุรกีเพื่อขยายตลาดไปทางยุโรป รัสเซีย อัฟริกาและตะวันออกกลาง
งวดบัญชี เม.ย. - มี.ค. ครึ่งปีแรกปีนี้สิ้นสุดเดือนกันยายนทำกำไรได้ 333 ล้านบาท จำนวนหุ้นหลัง ipo เท่ากับ 800 ล้านหุ้น
ราคา 6.9 บาท พาร์ 1 บาท
p/e = 8.31
bv หลัง ipo ประมาณ = 4.28 บาทต่อหุ้น p/bv = 1.61
มีความเห็นบ้างมั๊ยครับ
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 4
ผมว่านี่แหล่ะมีศักยภาพที่จะเป็น super growth stock ได้เลย แต่ต้องคอยดูใกล้ชิดนิดนึงครับ บริษัทเพิ่งเริ่มตั้งมาสองปีเองครับ แต่บริษัทแม่ที่ถือหุ้น 70% หลัง ipo ทำธุรกิจนี้มา 16 ปีแล้ว ทำให้การผลิตและหาตลาดทำได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ช่วงนี้ถ้าดูตามธุรกิจคือช่วงขยายตลาดและสอดคล้องกับการเข้าระดมทุนในตลาดครั้งนี้ครับ การเติบโตที่จะเห็นได้ชัดคือจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็นประมาณเท่าตัวภายในสิ้นปีหน้า และการผลิตวัตถุดิบเองจะเริ่มสมบูรณ์ปลายปีนี้ครับ
แต่การที่บริษัทส่งออกเป็นหลักนี่สิครับคือปัญหาที่น่าจับตา เพราะดอลลาร์จะเป็นยังไงต่อไปก็ยังไม่รู้ แต่ยังไงซะถ้ายอดขายโตสักเท่าตัว คงพอจะกลบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนไปได้ไม่มากก็น้อย
แต่การที่บริษัทส่งออกเป็นหลักนี่สิครับคือปัญหาที่น่าจับตา เพราะดอลลาร์จะเป็นยังไงต่อไปก็ยังไม่รู้ แต่ยังไงซะถ้ายอดขายโตสักเท่าตัว คงพอจะกลบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนไปได้ไม่มากก็น้อย
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 5
It's earnings that count
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 6
อยากให้ระวังเรื่องหุ้นบริษัทที่ก่อตั้งมานานและเพิ่งจะเริ่ม IPO นิดนึงครับ
จากประสพการณ์ของผม บริษัทดีๆ ที่เพิ่งจะเริ่ม IPO ใหม่ๆ มักจะ
performance ตกในสองสามปีแรก อาจจะเป็นเพราะความมุ่งมั่น
ในการทำงานของพนักงานโดยรวมลดลง (มัวแต่ดูราคาหุ้นบริษัท
ในปีแรกๆ) ผู้บริหารรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไป
(drive ลดลง) และการขยายองค์กรทำให้พนักงานทุกคนต้องปรับตัว
อย่างมากในการเป็นบริษัทมหาชน
แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ได้ด้วยดีและรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ มักจะโต
แบบก้าวกระโดดครับ
เพราะฉะนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง โปรด "ศึกษา" ความเสี่ยงอย่าง
ละเอียดนะครับ
แต่ตัวนี้เป็นแค่ตัวที่สามในปีนี้ที่ผมสนใจ IPO แต่ไม่ได้ ฮือๆๆ
จากประสพการณ์ของผม บริษัทดีๆ ที่เพิ่งจะเริ่ม IPO ใหม่ๆ มักจะ
performance ตกในสองสามปีแรก อาจจะเป็นเพราะความมุ่งมั่น
ในการทำงานของพนักงานโดยรวมลดลง (มัวแต่ดูราคาหุ้นบริษัท
ในปีแรกๆ) ผู้บริหารรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไป
(drive ลดลง) และการขยายองค์กรทำให้พนักงานทุกคนต้องปรับตัว
อย่างมากในการเป็นบริษัทมหาชน
แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ได้ด้วยดีและรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ มักจะโต
แบบก้าวกระโดดครับ
เพราะฉะนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง โปรด "ศึกษา" ความเสี่ยงอย่าง
ละเอียดนะครับ
แต่ตัวนี้เป็นแค่ตัวที่สามในปีนี้ที่ผมสนใจ IPO แต่ไม่ได้ ฮือๆๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณมากครับCK เขียน:อยากให้ระวังเรื่องหุ้นบริษัทที่ก่อตั้งมานานและเพิ่งจะเริ่ม IPO นิดนึงครับ
จากประสพการณ์ของผม บริษัทดีๆ ที่เพิ่งจะเริ่ม IPO ใหม่ๆ มักจะ
performance ตกในสองสามปีแรก อาจจะเป็นเพราะความมุ่งมั่น
ในการทำงานของพนักงานโดยรวมลดลง (มัวแต่ดูราคาหุ้นบริษัท
ในปีแรกๆ) ผู้บริหารรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไป
(drive ลดลง) และการขยายองค์กรทำให้พนักงานทุกคนต้องปรับตัว
อย่างมากในการเป็นบริษัทมหาชน
แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ได้ด้วยดีและรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้ มักจะโต
แบบก้าวกระโดดครับ
เพราะฉะนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง โปรด "ศึกษา" ความเสี่ยงอย่าง
ละเอียดนะครับ
แต่ตัวนี้เป็นแค่ตัวที่สามในปีนี้ที่ผมสนใจ IPO แต่ไม่ได้ ฮือๆๆ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 9
ผมนั่งอ่านหนังสือชี้ชวน จริง ๆแล้วยังอ่านไม่จบดี
แต่อ่านแล้วมันคันจริง ๆ เลยต้องเขียน ข้อสังเกตซักหน่อย
ผิดพลาดตรงไหน ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
1. บรษัทแม่กำลังการผลิตเล็กกว่าในไทย (อยู่ในธุรกิจมา 16ปี)
2. เริ่มลงทุนปี 45 ลงเงิน 1088 ล้านบาท (หุ้นสามัญ+หุ้นบุริมสิทธิ)
3. ปี46 เริ่มเดินเครื่อง เดิน 1 ปี กำไร 367 ล้าน แล้วเดินอีก 6 เดือน ปี47
กำไรอีก 333 ล้าน
4. เลยถอดทุนคืนไป 528 ล้าน(ลดหุ้นบุริมสิทธิ) เหลือทุน 560 ล้าน
560 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละบาท
5. ลงทุน 3 ปี กำไรดีมาก ได้ทุนคืนไปแล้วครึ่งนีง แล้วให้โอกาสเราเป็น
เจ้าของบริษัท ที่หุ้นละ 6.9 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุน อีก 240 ล้านหุ้น
6. คิดคร่าว ๆ ลงทุนแค่ 3 ปี ทุน 1 บาท ขายได้ที่ 6.9 บาท
เป็นธุรกิจที่กำไรดีมาก ๆ ๆ ๆ (ใครกำไร)
หมายเหตุ ส่วนตัวผมเชียร์ตัวอื่นที่คล้ายกันอยู่ เลยอาจจะอ่านแบบไม่ยุติธรรม ก็เป็นได้
ทราบว่า BOPET กำไรดี มาร์จิ้นสูงจริง ๆ ครับ
ขออนุญาตอ่านต่อ ถ้าผิดตรงไหนจะรีบมาแก้ครับ
แต่ถ้าเจอที่น่าสงสัย รบกวนผู้มีความรู้ช่วยตอบด้วยครับ
แต่อ่านแล้วมันคันจริง ๆ เลยต้องเขียน ข้อสังเกตซักหน่อย
ผิดพลาดตรงไหน ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
1. บรษัทแม่กำลังการผลิตเล็กกว่าในไทย (อยู่ในธุรกิจมา 16ปี)
2. เริ่มลงทุนปี 45 ลงเงิน 1088 ล้านบาท (หุ้นสามัญ+หุ้นบุริมสิทธิ)
3. ปี46 เริ่มเดินเครื่อง เดิน 1 ปี กำไร 367 ล้าน แล้วเดินอีก 6 เดือน ปี47
กำไรอีก 333 ล้าน
4. เลยถอดทุนคืนไป 528 ล้าน(ลดหุ้นบุริมสิทธิ) เหลือทุน 560 ล้าน
560 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละบาท
5. ลงทุน 3 ปี กำไรดีมาก ได้ทุนคืนไปแล้วครึ่งนีง แล้วให้โอกาสเราเป็น
เจ้าของบริษัท ที่หุ้นละ 6.9 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุน อีก 240 ล้านหุ้น
6. คิดคร่าว ๆ ลงทุนแค่ 3 ปี ทุน 1 บาท ขายได้ที่ 6.9 บาท
เป็นธุรกิจที่กำไรดีมาก ๆ ๆ ๆ (ใครกำไร)
หมายเหตุ ส่วนตัวผมเชียร์ตัวอื่นที่คล้ายกันอยู่ เลยอาจจะอ่านแบบไม่ยุติธรรม ก็เป็นได้
ทราบว่า BOPET กำไรดี มาร์จิ้นสูงจริง ๆ ครับ
ขออนุญาตอ่านต่อ ถ้าผิดตรงไหนจะรีบมาแก้ครับ
แต่ถ้าเจอที่น่าสงสัย รบกวนผู้มีความรู้ช่วยตอบด้วยครับ
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren
-
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 10
อ่านจบแล้ว โดยรวมเป็นธุรกิจที่น่าสนใจดีครับ
vision ดี ข้อมูลเพียบ
ชื่อประธานหรู มนู เลี่ยวไพโรจน์
ไม่ชอบตรง cash flow เท่าไร เพราะอ่านแล้วพูดไม่ถูก ว่าดีหรือไม่
ลักษณะการค้า อาจตรวจสอบยาก เรื่องเงินจริง ค่าใช้จ่ายจริง +กำไรจริง
ถ้ากำไรดีขนาดนี้ ipo ไปทำไม
1600 ล้านที่ได้จาก ipo ก็เอาไปขยายงานแค่ 225 ล้าน
ที่เหลือหมุนเวียนกับใช้หนี้
ถ้าเป็นผมลงทุน 1000 3ปีผ่านไป ได้เงินคืนแล้วครึ่งนีง เหลือทุนอยู่ 500
แล้วมีคนมาร่วมเป็นเจ้าของที่ 30% เอาเงินมาใส่บริษัทอีก 1600
อยากเป็นเจ้าของก่อน ipo จัง
อีก 1600
vision ดี ข้อมูลเพียบ
ชื่อประธานหรู มนู เลี่ยวไพโรจน์
ไม่ชอบตรง cash flow เท่าไร เพราะอ่านแล้วพูดไม่ถูก ว่าดีหรือไม่
ลักษณะการค้า อาจตรวจสอบยาก เรื่องเงินจริง ค่าใช้จ่ายจริง +กำไรจริง
ถ้ากำไรดีขนาดนี้ ipo ไปทำไม
1600 ล้านที่ได้จาก ipo ก็เอาไปขยายงานแค่ 225 ล้าน
ที่เหลือหมุนเวียนกับใช้หนี้
ถ้าเป็นผมลงทุน 1000 3ปีผ่านไป ได้เงินคืนแล้วครึ่งนีง เหลือทุนอยู่ 500
แล้วมีคนมาร่วมเป็นเจ้าของที่ 30% เอาเงินมาใส่บริษัทอีก 1600
อยากเป็นเจ้าของก่อน ipo จัง
อีก 1600
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 11
ผมมองว่าเงินที่เค้าบอกว่าเอาไปใช้หนี้ จริงๆก็คือเอาไปสร้างโรงงานที่ตุรกีครับ เพราะโครงการนี้มีการลงทุนไปบ้างแล้ว เหมือนกับขยายไปก่อนกู้ไปก่อนแล้วค่อยออก ipo เอาเงินไป finance น่ะครับ
ธุรกิจนี้เตะตาผมตรงที่ gross marginและ net profit margin สูงอีกทั้งมี growth มหาศาลถ้าทำสำเร็จครับ ตอนแรกก็กลัวเรื่องราคาขายกับต้นทุนเหมือนกัน แต่อ่านๆไปพบว่าเค้าสามารถผลิตเม็ดพลาสติคเองได้ ก็คิดว่าน่าจะช่วยลดภาระความผันผวนของต้นทุนไปได้บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าคู่แข่งหลายๆบริษัทล่ะครับ ส่วนราคาขายนั้นโยนภาระไปให้ลูกค้าได้ถึงจะไม่ทั้งหมดแต่ก็ถือว่ายังปรับขึ้นได้ก็โอเคครับ
ป.ล. หลังจากดูหยาบๆ ก็ซื้อ ipo เค้าไปซะหน่อยแล้วครับพอเป็นเชื้อ ถ้าต่อไปมั่นใจขึ้นคงเพิ่มการลงทุนเข้าไปอีก แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็คงเผ่นเหมือนกันครับ
คุณ tiger หรือท่านอื่นๆ มีข้อมูลที่นอกเหนือจากในหนังสือชี้ชวนบ้างมั๊ยครับ ผมอยากทราบข้อมูลที่ไม่ได้ผ่านการกรองบ้างน่ะครับ
ธุรกิจนี้เตะตาผมตรงที่ gross marginและ net profit margin สูงอีกทั้งมี growth มหาศาลถ้าทำสำเร็จครับ ตอนแรกก็กลัวเรื่องราคาขายกับต้นทุนเหมือนกัน แต่อ่านๆไปพบว่าเค้าสามารถผลิตเม็ดพลาสติคเองได้ ก็คิดว่าน่าจะช่วยลดภาระความผันผวนของต้นทุนไปได้บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าคู่แข่งหลายๆบริษัทล่ะครับ ส่วนราคาขายนั้นโยนภาระไปให้ลูกค้าได้ถึงจะไม่ทั้งหมดแต่ก็ถือว่ายังปรับขึ้นได้ก็โอเคครับ
ป.ล. หลังจากดูหยาบๆ ก็ซื้อ ipo เค้าไปซะหน่อยแล้วครับพอเป็นเชื้อ ถ้าต่อไปมั่นใจขึ้นคงเพิ่มการลงทุนเข้าไปอีก แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็คงเผ่นเหมือนกันครับ
คุณ tiger หรือท่านอื่นๆ มีข้อมูลที่นอกเหนือจากในหนังสือชี้ชวนบ้างมั๊ยครับ ผมอยากทราบข้อมูลที่ไม่ได้ผ่านการกรองบ้างน่ะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Blueblood เมื่อ เสาร์ ธ.ค. 04, 2004 1:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
It's earnings that count
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 12
ใช่ๆครับ วันก่อนดูทีวีก็บอกว่าจะไปทำโรงงานที่ตุรกีแล้วมันเกียวอะไรกับที่ไทยหว่าแล้วจริงๆแล้วเป็นบริษัทลูกของบริษัทต่างชาติหรือป่าวครับ
ก็ยังงงๆ
ก็ยังงงๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 13
เป็นของบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไทยนี่แหล่ะครับch_army เขียน:ใช่ๆครับ วันก่อนดูทีวีก็บอกว่าจะไปทำโรงงานที่ตุรกีแล้วมันเกียวอะไรกับที่ไทยหว่าแล้วจริงๆแล้วเป็นบริษัทลูกของบริษัทต่างชาติหรือป่าวครับ
ก็ยังงงๆ
It's earnings that count
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 14
อืม แสดงว่าพี่ไทยเราก็มีดีแฮะ ขอบคุณครับคุณ Blueblood
อย่างนี้ก็มีสิทธิ์ไปได้ดีนะครับ แต่สินค้าพวกนี้มันมียี่ห้ออ่ะป่าว
ไม่มียี่ห้อก็คงเป็น super stock ลำบากนา ผมกลัวว่าจะเป็น comodity อีกตัวอะดิ ช่วงนี้ยิ่งกำลังใกล้ๆ peak อยู่ด้วย
อย่างนี้ก็มีสิทธิ์ไปได้ดีนะครับ แต่สินค้าพวกนี้มันมียี่ห้ออ่ะป่าว
ไม่มียี่ห้อก็คงเป็น super stock ลำบากนา ผมกลัวว่าจะเป็น comodity อีกตัวอะดิ ช่วงนี้ยิ่งกำลังใกล้ๆ peak อยู่ด้วย
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 16
อะฮ่า มีคนสนใจศึกษาตัวนี้ด้วย มาแล้วหรือครับ ดีครับๆ เรื่องค่าเงินโดยปกติเค้าจะซื้อขายเงินล่วงหน้ากันเพื่อประกันค่าเงินไม่ให้ผันผวน เค้าคงไม่กลัวเรื่องยอมจ่ายแพงมากเท่ากลัวความผันผวนของค่าเงินเพราะเค้าคงซื้อเงินในราคาที่เค้ายอมรับได้ แต่ตอนนี้คงต้องใช้บริการผู้เชี่ยวชาญในการจัดการพอสมควรเพราะ พวกกองทุนเข้ามาเก็งด้วยแหง่ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 17
การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า มักจะเรียกว่า "การจอง Forward"
ซึ่งการจอง Forward นั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไป รวมถึง ผจก.ฝ่ายการเงิน/บัญชี ของลูกค้า
เข้าใจผิดมากที่สุดเลย เพราะว่ามัน "ฟรี" ครับ แบงค์ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในการจอง Forward
ซึ่งการจอง Forward นั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไป รวมถึง ผจก.ฝ่ายการเงิน/บัญชี ของลูกค้า
เข้าใจผิดมากที่สุดเลย เพราะว่ามัน "ฟรี" ครับ แบงค์ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในการจอง Forward
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 18
ได้ IPO Polyplex มาเยอะเหมือนกันครับ
ก็คิดว่าเป็นบริษัทที่ดีนะ แต่ว่า Valuation อาจจะไม่ถูกซะแล้ว
ไปดู Polyplex ที่ India เค้าเทรดกันอยู่ที่ 240-250 Rs ซึ่งกำไรต่อปีของบริษัแห่งนี้ สำรวจงวดปี 2004-2005(ที่อินเดียงวดบัญชีไม่เหมือนไทย) อยู่ที่ 32.75 Rs ถ้าติต่างแบบง่ายๆว่า กำไรทั้งปีได้ 60 ก็ถือว่า Trade กันที่ PE ถูกมากๆเลยทีเดียว แต่ว่ากำไรของ Polyplex India ก็คง Dilute ลงไปเพราะขายหุ้น IPO ของบริษัทลูกทำให้สัดส่วนถือเหลือ 70%
แล้วอีกอย่างนะครับ กำไรของ Poplyplex อินเดียของตัวเองเลย ครึ่งปี ได้ประมาณ 7.42 Rs เอง มองในแง่ดีก็คือ บริษัทลูกๆของเค้านี่แหละ อย่างที่เมืองไทยเนี่ยที่เป็นกำลังหลักของกลุ่ม
มีใครทราบบ้างว่า Q3ปีนี้ Polyplex Thailand ได้กำไรเท่าไหร่กันครับ? บทวิเคราะห์พูดถึงแค่ครึ่งปีเอง
ก็คิดว่าเป็นบริษัทที่ดีนะ แต่ว่า Valuation อาจจะไม่ถูกซะแล้ว
ไปดู Polyplex ที่ India เค้าเทรดกันอยู่ที่ 240-250 Rs ซึ่งกำไรต่อปีของบริษัแห่งนี้ สำรวจงวดปี 2004-2005(ที่อินเดียงวดบัญชีไม่เหมือนไทย) อยู่ที่ 32.75 Rs ถ้าติต่างแบบง่ายๆว่า กำไรทั้งปีได้ 60 ก็ถือว่า Trade กันที่ PE ถูกมากๆเลยทีเดียว แต่ว่ากำไรของ Polyplex India ก็คง Dilute ลงไปเพราะขายหุ้น IPO ของบริษัทลูกทำให้สัดส่วนถือเหลือ 70%
แล้วอีกอย่างนะครับ กำไรของ Poplyplex อินเดียของตัวเองเลย ครึ่งปี ได้ประมาณ 7.42 Rs เอง มองในแง่ดีก็คือ บริษัทลูกๆของเค้านี่แหละ อย่างที่เมืองไทยเนี่ยที่เป็นกำลังหลักของกลุ่ม
มีใครทราบบ้างว่า Q3ปีนี้ Polyplex Thailand ได้กำไรเท่าไหร่กันครับ? บทวิเคราะห์พูดถึงแค่ครึ่งปีเอง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 19
งวดบัญชีของ polyplex (thailand) เป็น เม.ย. - มี.ค. นะครับ เหมือนกันกับบริษัทแม่ที่อินเดีย ดังนั้นงบที่ให้มาถึง 30 กันยายน คืองวดครึ่งปีแล้วครับEnt' เขียน:ได้ IPO Polyplex มาเยอะเหมือนกันครับ
ก็คิดว่าเป็นบริษัทที่ดีนะ แต่ว่า Valuation อาจจะไม่ถูกซะแล้ว
ไปดู Polyplex ที่ India เค้าเทรดกันอยู่ที่ 240-250 Rs ซึ่งกำไรต่อปีของบริษัแห่งนี้ สำรวจงวดปี 2004-2005(ที่อินเดียงวดบัญชีไม่เหมือนไทย) อยู่ที่ 32.75 Rs ถ้าติต่างแบบง่ายๆว่า กำไรทั้งปีได้ 60 ก็ถือว่า Trade กันที่ PE ถูกมากๆเลยทีเดียว แต่ว่ากำไรของ Polyplex India ก็คง Dilute ลงไปเพราะขายหุ้น IPO ของบริษัทลูกทำให้สัดส่วนถือเหลือ 70%
แล้วอีกอย่างนะครับ กำไรของ Poplyplex อินเดียของตัวเองเลย ครึ่งปี ได้ประมาณ 7.42 Rs เอง มองในแง่ดีก็คือ บริษัทลูกๆของเค้านี่แหละ อย่างที่เมืองไทยเนี่ยที่เป็นกำลังหลักของกลุ่ม
มีใครทราบบ้างว่า Q3ปีนี้ Polyplex Thailand ได้กำไรเท่าไหร่กันครับ? บทวิเคราะห์พูดถึงแค่ครึ่งปีเอง
แก้ไขล่าสุดโดย Blueblood เมื่อ อาทิตย์ ธ.ค. 05, 2004 12:50 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 20
อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงต้องลองตามดูไปเรื่อยๆ .. ตอนนี้ข้อมูลยังน้อยอยู่ครับmey เขียน:แล้วที่ว่าตลาดต่างประเทศ 90% นี้ มีความเสี่ยงต่ออัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินมากไหม? เค้าบริหารความเสี่ยงนี้ยังไง?
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 21
อืมนั่นสิครับ ผมดูแล้วก็ยังงงๆ หรือว่าเราจะไปซื้อหุ้นที่อินเดียเลยดีมั๊ยครับEnt' เขียน:ไปดู Polyplex ที่ India เค้าเทรดกันอยู่ที่ 240-250 Rs ซึ่งกำไรต่อปีของบริษัแห่งนี้ สำรวจงวดปี 2004-2005(ที่อินเดียงวดบัญชีไม่เหมือนไทย) อยู่ที่ 32.75 Rs ถ้าติต่างแบบง่ายๆว่า กำไรทั้งปีได้ 60 ก็ถือว่า Trade กันที่ PE ถูกมากๆเลยทีเดียว
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 22
สนใจอยู่เหมือนกัน
ผมได้นัดกรรมการชาวอินเดีย Mr. Manish Gupta ในวันศุกร์ที่ 10 ธค นี้เพื่อขอข้อมูลบริษัทเพิ่มเติม ใครมีคำถามฝากมาได้เลยครับ ขอให้ส่งมาภายในวันพฤหัสเย็นนะครับ จะถามให้เท่าที่ทำได้นะครับ เพราะผมมีความรู้จำกัดโดยเฉพาะเรื่องบัญชี
นับถือคุณฉัตรชัยมากเรื่องความรู้งบการเงินและการลงทุน เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ไปไกลกว่าผมหลายลี้แล้ว
ผมได้นัดกรรมการชาวอินเดีย Mr. Manish Gupta ในวันศุกร์ที่ 10 ธค นี้เพื่อขอข้อมูลบริษัทเพิ่มเติม ใครมีคำถามฝากมาได้เลยครับ ขอให้ส่งมาภายในวันพฤหัสเย็นนะครับ จะถามให้เท่าที่ทำได้นะครับ เพราะผมมีความรู้จำกัดโดยเฉพาะเรื่องบัญชี
นับถือคุณฉัตรชัยมากเรื่องความรู้งบการเงินและการลงทุน เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ไปไกลกว่าผมหลายลี้แล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 23
1. กำลังการผลิตของทั้งโลกในปัจจุบันและอนาคตสักปีสองปีข้างหน้าJoey เขียน:สนใจอยู่เหมือนกัน
ผมได้นัดกรรมการชาวอินเดีย Mr. Manish Gupta ในวันศุกร์ที่ 10 ธค นี้เพื่อขอข้อมูลบริษัทเพิ่มเติม ใครมีคำถามฝากมาได้เลยครับ ขอให้ส่งมาภายในวันพฤหัสเย็นนะครับ จะถามให้เท่าที่ทำได้นะครับ เพราะผมมีความรู้จำกัดโดยเฉพาะเรื่องบัญชี
นับถือคุณฉัตรชัยมากเรื่องความรู้งบการเงินและการลงทุน เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ไปไกลกว่าผมหลายลี้แล้ว
2. demand ในธุรกิจนี้เป็นยังไงบ้างและแนวโน้ม
3. จีนมีผลขนาดไหนกับสินค้าประเภทนี้
4. มีรายรับ รายจ่าย ที่เป็นดอลลาร์คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ รวมทั้งเงินสกุลอื่นๆด้วย
5. ราคาผลิตภัณฑ์ย้อนหลังไปมีความผันผวนมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง
6 การป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ราคาวัตถุดิบ และราคาขายอย่างไร
7. ไม่ทราบว่าบริษัทมีแผนก IR หรือไม่ อยากให้มีครับ จะได้ติดตามได้สะดวก
8.จะมีการเพิ่มทุนอีกหรือไม่ในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากเห็นทุนจดทะเบียนยังชำระไม่ครบครับ ถ้ามีจะเป็นรูปแบบใด(pp,po,warrant,...)
9. ทำไมหุ้นบริษัทแม่เทรดกันที่ p/e ตําจัง (อันนี้แค่แซวเล่นๆครับ แต่ถ้าถามทีเล่นทีจริงไปก็ดีครับ เผื่อได้ความเห็นเค้ามาบ้าง )
ขอบคุณมากครับ ไม่รู้ถามมากไปป่าว
ป.ล. คุณ Joey ทำงานเป็นนักวิเคราะห์เหรอครับ ...
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 24
To Khun Blueblood and Khun Ent,
Sorry to type in English. My typing in Thai is too slow.
No problem. i will post all your questions, some of which has been in my list too. I think some detail in SEC's filing may answer your questions too, pls check it.
I'm not an analyst. My company is having some business with PTL. I could have contacted PTL earlier before IPO, but I was too busy.
Mr. M. Gupta is so nice to meet up with me though it is a holiday.
More questions are welcome krub.
Sorry to type in English. My typing in Thai is too slow.
No problem. i will post all your questions, some of which has been in my list too. I think some detail in SEC's filing may answer your questions too, pls check it.
I'm not an analyst. My company is having some business with PTL. I could have contacted PTL earlier before IPO, but I was too busy.
Mr. M. Gupta is so nice to meet up with me though it is a holiday.
More questions are welcome krub.
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 25
พบผู้บริหารมาแล้วครับ สรุปได้ดังนี้ อาจจะไม่สมบูรณ์ หากผิดพลาดบ้างขออภัยด้วยครับ ขอรายงานเป็นภาษาอังกฤษดีกว่านะครับ ไม่งั้นทั้งคืน เขียนไม่เสร็จแน่ เผื่อทาง Polyplex เข้ามาตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วย
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ได้รับฟังมา ไม่รับรองความถูกต้องนะครับ (โปรดใช้วิจารณญาณของท่านด้วย)
Product
The company basically produces PET Film (BOPET) which is derived from PET chips, which is a kind of polyester. Polyester can be used to produce many products ie. yarn, pet bottles, film, etc. The film products takes aยprox 5-7% of total polyester production.
Film can be made from many types of raw material. See below
PVC --> PE --> PP --> PET --> Nylon
(low end --------------------> high end)
PET film in general cannot be substitued by other film due to its property except for BOPP may have 5% overlapping with BOPET in the film market. BOPP is mainly for lower market. Market size of BOPP is 3-4 times larger than BOPET. Thai domestic market for BOPET is very small thus the company is mainly selling to export market.
BOPET is a not absolutely commodity but semi-commodity due to following reason;
1. It is made to order due to different requirement from customers in sizes and surface treatment. The film roll width and lengthl is determined by the customer. So there is no producer that can make standard size and keep in stock.
2. The customer cannot change to new supplier overnight due to above reason.
3. There are only few big producers in the market on the supply side but a lot of small of users on the demand side. So the producers have little control on the selling price and can pass on some cost to the customer when raw mat price increases. There was also merging between producers in the past which results in even less producers now. This is differrent in case of BOPP as there are a lot of small producers. The 3 biggest Japanese producers have combined market share over 50%.
- Biggest market for BOPET is packaging indutry.
(หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวน)
Demand /supply/competition
- BOPET demand and supply has continuous growth every year. The industry is well balanced between demand and supply. Both product and raw mat. price has increased significantly due to oil prices (alike other petroleum products). However some cost can be passed on to the customer as expalined before.
- There was hugh increase of production in China recently (200,000 ton/year) but it should be just enough to cover Chinese domestic demand. There might be a little bit amount for export but it will not affect to the company.
- Increase of BOPET film price will not have much effect to the company revenue because packaging price is only 5% of the total product price.
- The price trend of film and raw mat (PTA, MEG) cannot be predicted as they are commodity. However the company has been able to maintain satisfactory margin since 1995.
- In the past BOPET film has life cycle around 7 years but it has been more stable after 1995. At that time many producers did not make profit in this business.
- The company is the lowest cost producer in the world and can still make profit even at the very tough period. The comnany can save investment cost by putting up the factory by themselves. They do not need to pay extra money to engineering company/contractor. Some machines are asian made which is low price and same quallity.
- It is not easy for new comer to build up a factory with low cost and produce with good efficiency. It needs experience in the business too. Polyplex has also well established distribution network.
- One local competitor has completed new capacity of 20,000 t/y but it is expected for domestic market and will not affect the company.
(มีส่วนเพิ่มเติม)
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ได้รับฟังมา ไม่รับรองความถูกต้องนะครับ (โปรดใช้วิจารณญาณของท่านด้วย)
Product
The company basically produces PET Film (BOPET) which is derived from PET chips, which is a kind of polyester. Polyester can be used to produce many products ie. yarn, pet bottles, film, etc. The film products takes aยprox 5-7% of total polyester production.
Film can be made from many types of raw material. See below
PVC --> PE --> PP --> PET --> Nylon
(low end --------------------> high end)
PET film in general cannot be substitued by other film due to its property except for BOPP may have 5% overlapping with BOPET in the film market. BOPP is mainly for lower market. Market size of BOPP is 3-4 times larger than BOPET. Thai domestic market for BOPET is very small thus the company is mainly selling to export market.
BOPET is a not absolutely commodity but semi-commodity due to following reason;
1. It is made to order due to different requirement from customers in sizes and surface treatment. The film roll width and lengthl is determined by the customer. So there is no producer that can make standard size and keep in stock.
2. The customer cannot change to new supplier overnight due to above reason.
3. There are only few big producers in the market on the supply side but a lot of small of users on the demand side. So the producers have little control on the selling price and can pass on some cost to the customer when raw mat price increases. There was also merging between producers in the past which results in even less producers now. This is differrent in case of BOPP as there are a lot of small producers. The 3 biggest Japanese producers have combined market share over 50%.
- Biggest market for BOPET is packaging indutry.
(หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวน)
Demand /supply/competition
- BOPET demand and supply has continuous growth every year. The industry is well balanced between demand and supply. Both product and raw mat. price has increased significantly due to oil prices (alike other petroleum products). However some cost can be passed on to the customer as expalined before.
- There was hugh increase of production in China recently (200,000 ton/year) but it should be just enough to cover Chinese domestic demand. There might be a little bit amount for export but it will not affect to the company.
- Increase of BOPET film price will not have much effect to the company revenue because packaging price is only 5% of the total product price.
- The price trend of film and raw mat (PTA, MEG) cannot be predicted as they are commodity. However the company has been able to maintain satisfactory margin since 1995.
- In the past BOPET film has life cycle around 7 years but it has been more stable after 1995. At that time many producers did not make profit in this business.
- The company is the lowest cost producer in the world and can still make profit even at the very tough period. The comnany can save investment cost by putting up the factory by themselves. They do not need to pay extra money to engineering company/contractor. Some machines are asian made which is low price and same quallity.
- It is not easy for new comer to build up a factory with low cost and produce with good efficiency. It needs experience in the business too. Polyplex has also well established distribution network.
- One local competitor has completed new capacity of 20,000 t/y but it is expected for domestic market and will not affect the company.
(มีส่วนเพิ่มเติม)
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 26
Projects
Film plant line #1 and #2
Completed and now running at over 100% capacity. The company is applying BOI previledge to increase more capacity.
PET chips plant
This is raw material of BOPET film which has been ordered from Indorama.
The first portion has been started and the complete production will be end of this year. This will reduce risk of raw mat supply and lower cost. It is expected to increase gross margin by 3%. The extra capacity for this plant will be exported to Turkey plant.
Both plants are BOI promoted
- 8 years free corporate tax
- 5 years for 50% corporate tax
- exemption of import duty.
- etc.
Turkey film plant
Benefit from this plant
- Closer to the european customers. this will enable the company to serve the area customers better (such as faster delievry)
- Reduce the logistics cost see below cost structure
50% for raw mat
15-20 % for logistics
10-20 % for others (admin, etc)
- The plant is located at free trade zone in Turkey
- Importing of film from Thailand to Europe is subjevt to 6.5 % tax but it 0% from Turkey.
Currency and payment term
The company has most revenue and expenses (around 90%) in USD so it is a kind of natural hedge. Depreciation of USD in general will have bad effect to the company. The company is trying to sell more in Euro now (to European custoemers).
Payment term for customers
- New customers, advanced payment or L/C
- Old customers, credit term 30-120 days
So far the company and its mother company have never had over due from customers.
(ที่เหลือจะเขียนให้วันหลังนะ)
Film plant line #1 and #2
Completed and now running at over 100% capacity. The company is applying BOI previledge to increase more capacity.
PET chips plant
This is raw material of BOPET film which has been ordered from Indorama.
The first portion has been started and the complete production will be end of this year. This will reduce risk of raw mat supply and lower cost. It is expected to increase gross margin by 3%. The extra capacity for this plant will be exported to Turkey plant.
Both plants are BOI promoted
- 8 years free corporate tax
- 5 years for 50% corporate tax
- exemption of import duty.
- etc.
Turkey film plant
Benefit from this plant
- Closer to the european customers. this will enable the company to serve the area customers better (such as faster delievry)
- Reduce the logistics cost see below cost structure
50% for raw mat
15-20 % for logistics
10-20 % for others (admin, etc)
- The plant is located at free trade zone in Turkey
- Importing of film from Thailand to Europe is subjevt to 6.5 % tax but it 0% from Turkey.
Currency and payment term
The company has most revenue and expenses (around 90%) in USD so it is a kind of natural hedge. Depreciation of USD in general will have bad effect to the company. The company is trying to sell more in Euro now (to European custoemers).
Payment term for customers
- New customers, advanced payment or L/C
- Old customers, credit term 30-120 days
So far the company and its mother company have never had over due from customers.
(ที่เหลือจะเขียนให้วันหลังนะ)
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
IPO โพลีเพล็กซ์(ประเทศไทย)
โพสต์ที่ 30
QUOTE
Capital increase and IPO
- The company initially had the paid-up cap. of 660MB (528MB prefered shares + 132 common shares). Then the prefered shares was reduced to zero, some of which (428MB) was however invested back to common shares. The common shares therefore = 132+428 =560 MB prior to IPO. Then it went public with additional 240MB to make up 800 MB paid-up capital.
- The registered capital is 960MB so there is a balance of 160MB unpaid cap. The company does not foresee paying up this balance at least for the next 6-12 months. The management cannot tell if they need to do it after 12 months.
- If the company need to pay up or raise up new cap, it will not be a warrant issue. So far Polyplex has never issued any warrants.
- There is no IPO share allocated to any employee or management.
- The company has no plan to issue ESOP.
- IPO shares were double over subscribed from institution part.
Polyplex India (PCL)
- PCL has set the clear strategy to separate all subsidiaries' operation independent.
- They expanded their production base outside India for many reasons (such as lower cost, closer to product destination). Thailand , eventhough not the lowest cost country, wasc chosen because of lower cost of production, political stability, good infrastructure, and similarculture.
- PTL does not pay any consultant fee, loyalty or any other fees to PCL. PTL is 70% owned by PCL (some via PAPL) and PE are fully owned by PTL vis PSPL. PCL alerady has full interest at PTL.
- Dividend from oversea subsidiries will be taxed 35% in India, so the company is likely to retain benefit from PTL in PSPL for future foreign business expansion. (Money can be freely tranfered in and out in Singapore)
- The PCL shares is trading at very low valuation (approx. PER = 4 at this moment) in India, calculation from consolidated half year earning). The reason could be that the local investors are always looking at unconsolidated report instead of consolidated report. So the PER is more than 15 with uncosolidated earning. The managemant believe this is undervalued.
Others
- The comany does not assign any person for IR at this moment. The company is considering this. Any investor is welcome to post questions (can be in Thai or English) to the management.
UNQUOTE
จบแล้ว ไม่รู้ลืมอะไรหรือเปล่า
Capital increase and IPO
- The company initially had the paid-up cap. of 660MB (528MB prefered shares + 132 common shares). Then the prefered shares was reduced to zero, some of which (428MB) was however invested back to common shares. The common shares therefore = 132+428 =560 MB prior to IPO. Then it went public with additional 240MB to make up 800 MB paid-up capital.
- The registered capital is 960MB so there is a balance of 160MB unpaid cap. The company does not foresee paying up this balance at least for the next 6-12 months. The management cannot tell if they need to do it after 12 months.
- If the company need to pay up or raise up new cap, it will not be a warrant issue. So far Polyplex has never issued any warrants.
- There is no IPO share allocated to any employee or management.
- The company has no plan to issue ESOP.
- IPO shares were double over subscribed from institution part.
Polyplex India (PCL)
- PCL has set the clear strategy to separate all subsidiaries' operation independent.
- They expanded their production base outside India for many reasons (such as lower cost, closer to product destination). Thailand , eventhough not the lowest cost country, wasc chosen because of lower cost of production, political stability, good infrastructure, and similarculture.
- PTL does not pay any consultant fee, loyalty or any other fees to PCL. PTL is 70% owned by PCL (some via PAPL) and PE are fully owned by PTL vis PSPL. PCL alerady has full interest at PTL.
- Dividend from oversea subsidiries will be taxed 35% in India, so the company is likely to retain benefit from PTL in PSPL for future foreign business expansion. (Money can be freely tranfered in and out in Singapore)
- The PCL shares is trading at very low valuation (approx. PER = 4 at this moment) in India, calculation from consolidated half year earning). The reason could be that the local investors are always looking at unconsolidated report instead of consolidated report. So the PER is more than 15 with uncosolidated earning. The managemant believe this is undervalued.
Others
- The comany does not assign any person for IR at this moment. The company is considering this. Any investor is welcome to post questions (can be in Thai or English) to the management.
UNQUOTE
จบแล้ว ไม่รู้ลืมอะไรหรือเปล่า