อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 1
ในเรื่องการคิดราคาที่แท้จริงของหุ้นที่จะซื้อว่า ท่านทั้งสองคนมีวิธีคิดที่เหมือนกันรึป่าว เพราะตอนนี้ผมอ่านหนังสือของคุณ สุมาอี้ เรื่อง วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง ซึ่งต้องอ่านแบบแกะทุกตัวอักษรเลย (ผมอาจจะคิดเลขไม่เก่งเท่าไร) ใช้วิธีแบบ DCF แต่ของ ดร.นิเวศน์เคยอ่านแบบคร่าวๆยังไม่ละเอียดและเพิ่งเริ่มอ่าน ยังไม่เคยเห็นวิธีคิดราคาหุ้นของท่านเลยครับ เลยสงสัยว่าเซียนทั้งสองเขาคิดราคาที่ควรจะเป็นของหุ้นเหมือนกันรึป่าว
โชคชะตานำพาให้เรามาพบกันแต่มิอาจให้เราคู่กัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 3
ไม่เหมือน อย่าไปยึดติด
ราคาเป้าหมายหาของเราเองดีกว่า
แต่ก็อย่าไปยึดติดกลับราคาเป้าหมายของเราเองอีกนั่นแหละ :lol:
ถ้ามันเหมือนๆกันหมด ก็ไม่สนุกดิครับ และถ้ามันง่ายแบบนั้น ก็รวยกันหมด โดยเฉพาะพวกโบรกฯ อิอิ :lol:
ราคาเป้าหมายหาของเราเองดีกว่า
แต่ก็อย่าไปยึดติดกลับราคาเป้าหมายของเราเองอีกนั่นแหละ :lol:
ถ้ามันเหมือนๆกันหมด ก็ไม่สนุกดิครับ และถ้ามันง่ายแบบนั้น ก็รวยกันหมด โดยเฉพาะพวกโบรกฯ อิอิ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 4
บางคนก็ไม่ใช้วิธีหาราคาเป้าหมายด้วยซ้ำ
แต่ให้มองภาพใหญ่ของธุรกิจในอนาคตอีก 20-30ปี ข้างหน้า
ซื้อแบบ Dollar Cost Average ไปเรื่อยๆ ทีละน้อยแต่ ถี่ๆ ไม่เกี่ยงว่าราคาไหน
ซื้อเรื่อยๆและถือไปเรื่อยๆตราบที่กิจการยังดีอยู่ ถูกก็ซื้อแพงก็ซื้อ แล้วเลือกหุ้นที่ว่าสัก 5-10 บริษัท ที่คิดว่ามันจะเป็น เบอร์หนึ่ง ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ไปอีกนานเท่านาน
วิธีแบบนี้ก็มีเหมือนกันนะครับ
แต่ให้มองภาพใหญ่ของธุรกิจในอนาคตอีก 20-30ปี ข้างหน้า
ซื้อแบบ Dollar Cost Average ไปเรื่อยๆ ทีละน้อยแต่ ถี่ๆ ไม่เกี่ยงว่าราคาไหน
ซื้อเรื่อยๆและถือไปเรื่อยๆตราบที่กิจการยังดีอยู่ ถูกก็ซื้อแพงก็ซื้อ แล้วเลือกหุ้นที่ว่าสัก 5-10 บริษัท ที่คิดว่ามันจะเป็น เบอร์หนึ่ง ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ไปอีกนานเท่านาน
วิธีแบบนี้ก็มีเหมือนกันนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 395
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 5
ดร.ใช้ดูPEเอาเช่นเดียวกับเซียนหลายๆคนในเว็บ แต่ที่สำคัญก็คือดร.นิเวศน์เป็นคนที่อ่านธุรกิจได้ขาดมากและสามารถอดทนรอซื้อหุ้นแบบมีmosสูงๆได้
ส่วนคุนสุมาอี้ก็เป็นอีกคนที่ผมนับถือ เค้าสามารถประมาณการค่าต่างๆได้ใกล้เคียงทำให้การคำนวณdcfของเค้ามีประสิทธิภาพ
ส่วนคุนสุมาอี้ก็เป็นอีกคนที่ผมนับถือ เค้าสามารถประมาณการค่าต่างๆได้ใกล้เคียงทำให้การคำนวณdcfของเค้ามีประสิทธิภาพ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 6
มาช่วยแจมอิอิ
ดรแกไม่เน้นก็จริง แต่ทุกสิ่งที่อยู่ในDCFก็อยู่ในการวิเคราะห์ของดรหมดนะครับ ยกตัวอย่างคุณyoyoเข้าดูที่PEเป็นรูปธรรม แต่ก็ใช้หลักการของDCFช่วยในการิเคราะห์ด้วยเพียงแต่ไม่เขียนออกมาในรูปธรรมเท่านั้นครับเพราะว่าความรูเรื่องDCFของเขามันตกผลึกออกมาแล้วครับ
ดรแกไม่เน้นก็จริง แต่ทุกสิ่งที่อยู่ในDCFก็อยู่ในการวิเคราะห์ของดรหมดนะครับ ยกตัวอย่างคุณyoyoเข้าดูที่PEเป็นรูปธรรม แต่ก็ใช้หลักการของDCFช่วยในการิเคราะห์ด้วยเพียงแต่ไม่เขียนออกมาในรูปธรรมเท่านั้นครับเพราะว่าความรูเรื่องDCFของเขามันตกผลึกออกมาแล้วครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 178
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 7
คมมากครับพี่ปิ๊ก!!! :lol: :lol:picklife เขียน: มาช่วยแจมอิอิ
ดรแกไม่เน้นก็จริง แต่ทุกสิ่งที่อยู่ในDCFก็อยู่ในการวิเคราะห์ของดรหมดนะครับ ยกตัวอย่างคุณyoyoเข้าดูที่PEเป็นรูปธรรม แต่ก็ใช้หลักการของDCFช่วยในการิเคราะห์ด้วยเพียงแต่ไม่เขียนออกมาในรูปธรรมเท่านั้นครับเพราะว่าความรูเรื่องDCFของเขามันตกผลึกออกมาแล้วครับ
"ราคาคือสิ่งที่คุณจ่ายไป คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับมา"
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 8
สมมุติว่าคนสองคน รู้จักวิธีการประเมินราคาหุ้นทุก ๆ แบบ
เวลาเจอหุ้นตัวเดียวกัน อาจจะใช้คนละวิธีในการประเมิน และผลลัพท์ก็อาจจะแตกต่างกันได้ครับ .. Substance Over Form
เวลาเจอหุ้นตัวเดียวกัน อาจจะใช้คนละวิธีในการประเมิน และผลลัพท์ก็อาจจะแตกต่างกันได้ครับ .. Substance Over Form
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 9
ถึงจะใช้วิธีเดียวกัน ราคาก็คงไม่เท่ากันครับLinzhi เขียน:สมมุติว่าคนสองคน รู้จักวิธีการประเมินราคาหุ้นทุก ๆ แบบ
เวลาเจอหุ้นตัวเดียวกัน อาจจะใช้คนละวิธีในการประเมิน และผลลัพท์ก็อาจจะแตกต่างกันได้ครับ .. Substance Over Form
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- [v]
- Verified User
- โพสต์: 1402
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 11
คือข้างบนนี้ลึกๆเชื่อว่า ราคาหุ้นจะต้องตกๆมากๆกว่าความเป็นจริง แล้วช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงที่คนเริ่มลืมประมาณสี่เดือนนับจากต้นปี
หลังจากเจ้าของไปยืนร้องไห้แล้วก็เดินสายขอโทษ จนข่าวเริ่มไม่น่าสนใจ อ่านไปเริ่มเบื่อๆ
ขอโทษครั้งสุดท้ายราคาหุ้นก็เริ่มนิ่งๆ ผมก็ดูกราฟแล้วก็เก็บๆ เพราะเรียกรถคืนไม่ได้โรงงานระเบิด หรือว่ารถวิ่งๆไปแล้วแหกโค้ง แต่เค้าเรียกเก็บไปซ่อมก่อน
หลังจากเจ้าของไปยืนร้องไห้แล้วก็เดินสายขอโทษ จนข่าวเริ่มไม่น่าสนใจ อ่านไปเริ่มเบื่อๆ
ขอโทษครั้งสุดท้ายราคาหุ้นก็เริ่มนิ่งๆ ผมก็ดูกราฟแล้วก็เก็บๆ เพราะเรียกรถคืนไม่ได้โรงงานระเบิด หรือว่ารถวิ่งๆไปแล้วแหกโค้ง แต่เค้าเรียกเก็บไปซ่อมก่อน
- ขงเบ้ง
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 12
ของผมประเมินราคาอีกแบบครับ :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
ไม่มีกลยุทธ์ใดตายตัวขึ้นอยู่กับสภาวะการณ์
เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา
อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้น
ปลายทาง คือ ความหลุดพ้น
ชีวิต คือ ความว่างเปล่า
ไม่มีใครหนีพ้นความตาย
แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1ของโลก
เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา
อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้น
ปลายทาง คือ ความหลุดพ้น
ชีวิต คือ ความว่างเปล่า
ไม่มีใครหนีพ้นความตาย
แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1ของโลก
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 13
[quote="poohbands"]ในเรื่องการคิดราคาที่แท้จริงของหุ้นที่จะซื้อว่า ท่านทั้งสองคนมีวิธีคิดที่เหมือนกันรึป่าว เพราะตอนนี้ผมอ่านหนังสือของคุณ สุมาอี้
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
อยากทราบครับว่าระหว่าง ดร.นิเวศน์ กับคุณ สุมาอี้
โพสต์ที่ 15
อจ.นิเวศน์ซื้อตอนราคาแค่6-7บาท
market capแค่20000+ล้าน(พอๆกับbh)
เพราะปัญหาเรื่องโลตัสที่จีนขาดทุนหนัก
ทำให้กำไรของ7-11ลดลงไปมาก
ซื้อเพราะคิดว่าปัญหาเรื่องนี้แก้ได้
เพราะถ้าหักขาดทุนของโลตัสออกแล้วpeแค่ไม่ถึง10
อจ.ยังสารภาพว่าแก้ได้เร็วเกินไป(ขายให้บริษัทเครือcp)
ยังซื้อไม่จุใจ
ซื้อตอนนั้นmargin of safetyเพียบ
market capแค่20000+ล้าน(พอๆกับbh)
เพราะปัญหาเรื่องโลตัสที่จีนขาดทุนหนัก
ทำให้กำไรของ7-11ลดลงไปมาก
ซื้อเพราะคิดว่าปัญหาเรื่องนี้แก้ได้
เพราะถ้าหักขาดทุนของโลตัสออกแล้วpeแค่ไม่ถึง10
อจ.ยังสารภาพว่าแก้ได้เร็วเกินไป(ขายให้บริษัทเครือcp)
ยังซื้อไม่จุใจ
ซื้อตอนนั้นmargin of safetyเพียบ
หนักแน่นในแนวทางviพันธ์แท้