อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 1
นโยบายการเงินที่อนุรักษ์นิยมสุดยอดของเราอาจจะดูเหมือนว่าเป็นความผิดพลาดแต่ผมคิดว่าไม่ มองย้อนกลับไปถ้าเรากู้เงินมาลงทุนในระดับปกติของธุรกิจ ผลตอบแทนการลงทุนของเราคงจะดีกว่าเฉลี่ยปีละ 23.8% ที่เราได้มา แม้ในปี 2508 บางทีเราสามารถที่จะตัดสินว่ามีโอกาสถึง 99% ที่การกู้เพิ่มจะทำให้ผลกำไรสูงขึ้น ในเวลาเดียวกันเราอาจจะเห็นว่ามีโอกาสเพียง 1% ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่งอาจทำให้เราเสียหายหรือถึงล้มละลาย
เราไม่ชอบโอกาส 99:1 นั้นและจะไม่ชอบตลอดไป โอกาสเล็กน้อยของการเสียหายหรือเสียหายหนัก ในมุมมองของเราจะไม่คุ้มกับโอกาสมากมายที่จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ถ้าการกระทำของคุณมีเหตุผลคุณก็แน่นอนว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว ในกรณีส่วนมากการกู้ก็เพียงแต่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เคลื่อนเร็วขึ้น ผมไม่เคยรีบมาก : เรามีความสุขกับการลงทุนมากกว่าผลตอบแทนที่ได้ แม้ว่าเราจะได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันทั้งคู่
http://www.thaivalueinvestor.com/investorguide21.html
อยากให้พี่ Pee อ่านจัง
เราไม่ชอบโอกาส 99:1 นั้นและจะไม่ชอบตลอดไป โอกาสเล็กน้อยของการเสียหายหรือเสียหายหนัก ในมุมมองของเราจะไม่คุ้มกับโอกาสมากมายที่จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ถ้าการกระทำของคุณมีเหตุผลคุณก็แน่นอนว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว ในกรณีส่วนมากการกู้ก็เพียงแต่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เคลื่อนเร็วขึ้น ผมไม่เคยรีบมาก : เรามีความสุขกับการลงทุนมากกว่าผลตอบแทนที่ได้ แม้ว่าเราจะได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันทั้งคู่
http://www.thaivalueinvestor.com/investorguide21.html
อยากให้พี่ Pee อ่านจัง
-
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 3
ผมอ่านจบแล้วมีข้อสังเกตุอยู่2-3จุดครับ
1.การลงทุนจะประเมินได้ต้องดูกันยาวๆๆๆๆครับ ดูเผินๆwarren ทำได้23+%ซึ่งก็ไม่มากนักครับเมื่อเทียบกับหลายๆท่านที่post ลงในwebนี้ แต่ต้องดูว่าเค้าทำได้แบบนี้เฉลี่ยเกือบ50ปีนะครับทบต้นขึ้นมาเรื่อยๆ ฉะนั้นนักลงทุนแบบviที่ทำได้ดีในระยะนี้คงต้องอย่าเพิ่งระเริงใจครับเพราะตอนนี้เป็นขาขึ้น ต้องดูตอนขาลงด้วยครับ และดูแบบหนังชีวิตคือยาวๆๆๆ
2.นอกจากจะดูผลตอบแทนของการลงทุนจากพอร์ตที่เพิ่มขึ้น ต้องดูด้วยว่ามาตราฐานของหุ้นที่ลงนั้นทำให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นของพอร์ตหรือไม่ แน่นอนครับว่าในช่วงขาขึ้นหุ้นแบ้ง ไฟแนนท์ อสังหา พวกturnaroundอาจจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นแนวvalueมาก แต่ถ้าตลาดกลับทางลง กลุ่มนี้แหละครับจะเจ็บที่สุด แต่หุ้นvalueอาจสวนตลาดได้ แม้แต่warren เองจะลงหุ้นยังต้องต้อง"ชัว"จริงๆถึงจะลง ไม่ตามตลาด
3.ผมว่านักลงทุนแนวvi พันธ์แท้จะไม่เล่นโดยใช้marginโดยเด็ดขาด เพราะทำให้ผลตอบแทนลดลงจากต้องเสียดอกเบี้ย และอย่างที่warren ว่าไว้คือ"เย็นไว้โยม" การลงทุนเป็นความสุขอย่างนึง การเล่นmarginทำแค่ให้"รวยเร็วขึ้น"แต่จะขาดความสุขเพราะต้องให้ผลตอบแทน"ขึ้นเร็ว"คุ้มกับที่ลงทุนกู้เค้ามาเล่น ถ้าพลาดหรือขึ้นช้าก็จะเกิดความเร่าร้อน เป็นทุกข์
ขอให้เพื่อนๆทุกคนประสพความสำเร็จในการลงทุนแบบviครับ
1.การลงทุนจะประเมินได้ต้องดูกันยาวๆๆๆๆครับ ดูเผินๆwarren ทำได้23+%ซึ่งก็ไม่มากนักครับเมื่อเทียบกับหลายๆท่านที่post ลงในwebนี้ แต่ต้องดูว่าเค้าทำได้แบบนี้เฉลี่ยเกือบ50ปีนะครับทบต้นขึ้นมาเรื่อยๆ ฉะนั้นนักลงทุนแบบviที่ทำได้ดีในระยะนี้คงต้องอย่าเพิ่งระเริงใจครับเพราะตอนนี้เป็นขาขึ้น ต้องดูตอนขาลงด้วยครับ และดูแบบหนังชีวิตคือยาวๆๆๆ
2.นอกจากจะดูผลตอบแทนของการลงทุนจากพอร์ตที่เพิ่มขึ้น ต้องดูด้วยว่ามาตราฐานของหุ้นที่ลงนั้นทำให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นของพอร์ตหรือไม่ แน่นอนครับว่าในช่วงขาขึ้นหุ้นแบ้ง ไฟแนนท์ อสังหา พวกturnaroundอาจจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นแนวvalueมาก แต่ถ้าตลาดกลับทางลง กลุ่มนี้แหละครับจะเจ็บที่สุด แต่หุ้นvalueอาจสวนตลาดได้ แม้แต่warren เองจะลงหุ้นยังต้องต้อง"ชัว"จริงๆถึงจะลง ไม่ตามตลาด
3.ผมว่านักลงทุนแนวvi พันธ์แท้จะไม่เล่นโดยใช้marginโดยเด็ดขาด เพราะทำให้ผลตอบแทนลดลงจากต้องเสียดอกเบี้ย และอย่างที่warren ว่าไว้คือ"เย็นไว้โยม" การลงทุนเป็นความสุขอย่างนึง การเล่นmarginทำแค่ให้"รวยเร็วขึ้น"แต่จะขาดความสุขเพราะต้องให้ผลตอบแทน"ขึ้นเร็ว"คุ้มกับที่ลงทุนกู้เค้ามาเล่น ถ้าพลาดหรือขึ้นช้าก็จะเกิดความเร่าร้อน เป็นทุกข์
ขอให้เพื่อนๆทุกคนประสพความสำเร็จในการลงทุนแบบviครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 4
เห็นด้วยกับพี่ประจวบครับโดยเฉพาะเรื่องผลตอบแทนเฉลี่ย
นักลงทุน (ไทย) หลายคนคิดผลตอบแทนเฉลี่ยแบบ mean ครับ
คือเอาผลตอบแทนแต่ละปีบวกกัน และหารจำนวนปี ซึ่งผิดมหันต์ครับ
ผลตอบแทนที่ถูกต้องต้องคิดจาก ROI ครับ หรือแบบดอกเบี้ยทบต้น
ดังบทความของคุณ Thanwa
เป้าหมายผมคือ 26% ต่อปี (หรือ 3 ปีได้เท่าตัว) ขอแค่ 21 ปีพอครับ
จะได้ retire อย่างสบายใจเสียที ตอนนี้ชักรู้สึกว่าหินมากครับ
เพราะขนาดวอเรนยังทำได้ 23% เอง
แต่ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าตลาดหุ้นในเมืองไทยยังมีหุ้น under value
อยู่พอสมควร
นักลงทุน (ไทย) หลายคนคิดผลตอบแทนเฉลี่ยแบบ mean ครับ
คือเอาผลตอบแทนแต่ละปีบวกกัน และหารจำนวนปี ซึ่งผิดมหันต์ครับ
ผลตอบแทนที่ถูกต้องต้องคิดจาก ROI ครับ หรือแบบดอกเบี้ยทบต้น
ดังบทความของคุณ Thanwa
เป้าหมายผมคือ 26% ต่อปี (หรือ 3 ปีได้เท่าตัว) ขอแค่ 21 ปีพอครับ
จะได้ retire อย่างสบายใจเสียที ตอนนี้ชักรู้สึกว่าหินมากครับ
เพราะขนาดวอเรนยังทำได้ 23% เอง
แต่ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าตลาดหุ้นในเมืองไทยยังมีหุ้น under value
อยู่พอสมควร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 6
เห็นด้วยครับ ว่าต้องใช้ดอกเบี้ยทบต้น ผมหวังว่าจะได้เฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปีนี้ก็หรูหราแล้วครับ ถึงแม้ปีนี้( เดือน 10 ปี 45 - เดือน 9 ปี 46 ) เงินต้นผม 100 จะกลายเป็น 180
แต่ 180 ในปีถัดไป ( เดือน 10 ปี 46 - เดือน 9 ปี 47 ) ผมก็ตั้งใจ มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ครับ
เท่ากับเงินต้น 180 กลายเป็น 216 ถ้าทำได้แค่นี้ในปีหน้าถือว่าพอใจ
ซึ่งไม่น่าจะง่ายๆ ตอนนี้ก็เลยใช้วิธี กอดหุ้นไว้เฉยๆ หวังว่า ผลประกอบการณ์ และโมเมนตั้มจากการที่มีคนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
จะทำให้พอร์ทของผมโตขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้าครับ กลยุธคือ กอดห่านทองคำ แล้วหลับฝันดีครับ
ส่วนอีก 2 เรื่องเห็นด้วยกับคุณประจวบครับ
แต่ 180 ในปีถัดไป ( เดือน 10 ปี 46 - เดือน 9 ปี 47 ) ผมก็ตั้งใจ มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ครับ
เท่ากับเงินต้น 180 กลายเป็น 216 ถ้าทำได้แค่นี้ในปีหน้าถือว่าพอใจ
ซึ่งไม่น่าจะง่ายๆ ตอนนี้ก็เลยใช้วิธี กอดหุ้นไว้เฉยๆ หวังว่า ผลประกอบการณ์ และโมเมนตั้มจากการที่มีคนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
จะทำให้พอร์ทของผมโตขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้าครับ กลยุธคือ กอดห่านทองคำ แล้วหลับฝันดีครับ
ส่วนอีก 2 เรื่องเห็นด้วยกับคุณประจวบครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Jeng เมื่อ เสาร์ ส.ค. 09, 2003 10:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 8
เห็นด้วยกับพี่ประจวบครับ แต่อยากจะเพิ่มข้อสังเกตุอีกข้อหนึ่งครับ
ผมเข้าใจว่าในบทความก็บอกเราว่า เราอาจจะต้องให้น้ำหนักในแง่คุณภาพ ศักยภาพของกิจการต่างๆ มากขึ้น ยอมซื้อกิจการในราคาที่สูงขึ้นมากอีกนิด แทนที่จะดู pe pv และ ratio อื่นๆ ที่ต่ำอย่างเดียว แต่ศักยภาพในการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจอย่างจะดีไม่เท่า
คุณ CK ตั้งไว้ 26% แหมผมว่าสูงจังเลยนะครับ ผมได้สัก 15% ต่อปีใน 15 ปีข้างหน้า แต่ละ 5 ปีผมได้เท่าตัว ผมก็คง happy แล้วครับ ยากเกษียนเร็วเหมือนคุณ CK นะครับ
คงต้องศึกษาจากคุณเจ๋งให้มากขึ้น ผลงานจากตุลาปีที่แล้ว นับว่ายอดเยี่ยมมากที่เดียว
ผมเข้าใจว่าในบทความก็บอกเราว่า เราอาจจะต้องให้น้ำหนักในแง่คุณภาพ ศักยภาพของกิจการต่างๆ มากขึ้น ยอมซื้อกิจการในราคาที่สูงขึ้นมากอีกนิด แทนที่จะดู pe pv และ ratio อื่นๆ ที่ต่ำอย่างเดียว แต่ศักยภาพในการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจอย่างจะดีไม่เท่า
คุณ CK ตั้งไว้ 26% แหมผมว่าสูงจังเลยนะครับ ผมได้สัก 15% ต่อปีใน 15 ปีข้างหน้า แต่ละ 5 ปีผมได้เท่าตัว ผมก็คง happy แล้วครับ ยากเกษียนเร็วเหมือนคุณ CK นะครับ
คงต้องศึกษาจากคุณเจ๋งให้มากขึ้น ผลงานจากตุลาปีที่แล้ว นับว่ายอดเยี่ยมมากที่เดียว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 9
อิอิ ขอบคุณคุณธันวา ที่อยากเรียนรู้จากผม แต่ที่แน่ๆ วันที่ 16 ผมไปเรียนรู้จากท่านธันวาก่อน
อืม ผมมาคิดดู จาก 100 เป็น 180 นี่ ถ้าหวังผล 20 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับทำงานล่วงหน้าไป 4 ปีแล้วนะ อิอิ แสดงว่า ในอีก 3 ปี ต่อมา ผมก็เน้นรักษาเงินต้น โดยได้กำไรเล็กน้อย ยังดีกว่าไปเสี่ยง เห็นทีต้องเลือกหุ้นอย่างที่ท่านธันวาแนะนำเสียแล้ว
อืม ผมมาคิดดู จาก 100 เป็น 180 นี่ ถ้าหวังผล 20 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับทำงานล่วงหน้าไป 4 ปีแล้วนะ อิอิ แสดงว่า ในอีก 3 ปี ต่อมา ผมก็เน้นรักษาเงินต้น โดยได้กำไรเล็กน้อย ยังดีกว่าไปเสี่ยง เห็นทีต้องเลือกหุ้นอย่างที่ท่านธันวาแนะนำเสียแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 10
ของผมขอแค่ 15 % compound แต่ได้ทุกปี ผมพอใจแล้วครับ
ขอแค่นี้จริงๆ ไม่เอามาก
ขอแค่นี้จริงๆ ไม่เอามาก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 11
จริงๆแล้วขอ 15 ขอ 20 ไม่เกี่ยว ถ้าเลือกหุ้นแนววอเรน ตามหลักใน The New Buffetology นี่น่าจะได้มากกว่าเอง โดยเราไม่ต้องไปสนใจว่าจะได้เท่าไร
เมื่อเริ่มลงทุนตาม The New Buffetology ผมตั้งใจได้กำไร 0 เปอร์เซ็นต์ เพราะเน้นรักษาเงินต้น ก็เลยไม่เคยแห่ซื้อตามใครเลย
ปรากกฏว่า ได้กำไรกลับมาพลิ๊กล๊อคที่ตั้งใจไว้ ได้ตั้งเยอะ
แต่ก็อย่างว่าละครับ ต้องวัดกันยาวๆ เรื่องนี้ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ
เมื่อเริ่มลงทุนตาม The New Buffetology ผมตั้งใจได้กำไร 0 เปอร์เซ็นต์ เพราะเน้นรักษาเงินต้น ก็เลยไม่เคยแห่ซื้อตามใครเลย
ปรากกฏว่า ได้กำไรกลับมาพลิ๊กล๊อคที่ตั้งใจไว้ ได้ตั้งเยอะ
แต่ก็อย่างว่าละครับ ต้องวัดกันยาวๆ เรื่องนี้ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 12
ถ้าเป็นความเห็นของ ดร.นิเวศน์ ในหนังสือ เซียนหุ้นพันธุ์แท้
บอกไว้ว่า ได้กำไร 12% ต่อปีก็เยี่ยมแล้ว นั้นหมายความว่าลุงทุนแบบ ดร.นิเวศน์ หวังได้กำไร10% ต่อปีก็ถือว่าพอใจ
แต่ถ้าจะต้องการกำไรแบบก้าวกระโดด ทำแบบ ดร.นิเวศน์ คงจะไม่ได้
ต้องแบบนักเก็งกำไรเช่น หมอคนดัง ถึงจะมีโอกาส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีที่สุด เพราะ ได้เยอะก็ต้องเสี่ยงสูงเป็นของคู่กัน
ผมใช้วิธี ช่วงทุนน้อย ขอเสี่ยง ถ้าสำเร็จได้ทุนเยอะขอแบบดร.นิเวศน์
บอกไว้ว่า ได้กำไร 12% ต่อปีก็เยี่ยมแล้ว นั้นหมายความว่าลุงทุนแบบ ดร.นิเวศน์ หวังได้กำไร10% ต่อปีก็ถือว่าพอใจ
แต่ถ้าจะต้องการกำไรแบบก้าวกระโดด ทำแบบ ดร.นิเวศน์ คงจะไม่ได้
ต้องแบบนักเก็งกำไรเช่น หมอคนดัง ถึงจะมีโอกาส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีที่สุด เพราะ ได้เยอะก็ต้องเสี่ยงสูงเป็นของคู่กัน
ผมใช้วิธี ช่วงทุนน้อย ขอเสี่ยง ถ้าสำเร็จได้ทุนเยอะขอแบบดร.นิเวศน์
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 13
ผมขอแก้คุณ ioport นิดหน่อย ผมคิดว่าคุณไม่เสี่ยงหรอก ถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังทำ หมอฟันชอบพูดว่า "ความไม่รู้คือความเสี่ยง" แนวคิดอันนี้ตรงกับบัฟเฟตเลยนะครับ
พี่เจ๋ง สนใจหุ้นกลุ่ม finance มั้ยครับ จำได้ว่าพี่เคยมี aeonts
ผมอ่าน The New Buffetology แล้วสนใจกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากๆๆ
พี่เจ๋ง สนใจหุ้นกลุ่ม finance มั้ยครับ จำได้ว่าพี่เคยมี aeonts
ผมอ่าน The New Buffetology แล้วสนใจกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากๆๆ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 14
คุณนักดูดาวครับ ตอนแรกนึกว่า aeonts ใช่ แต่ตอนหลังกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งครับ อยู่ในกลุ่มที่มีอนาคต และกำลังเติบโต มีคู่แข่งรอบทิศ ดูๆแล้วไม่ตรงกับ The New Buffetology พี่ก็เลยขายไป
ส่วน KTC นี่น่าจะใช่ครับ รู้สึกว่าในกลุ่ม Finance มีตัวเดียวครับ ที่ตรงกับแนว The New Buffetology
ถ้ามีตัวอื่นรบกวนบอกพี่ด้วยนะ คุณนักดูดาว
ส่วน KTC นี่น่าจะใช่ครับ รู้สึกว่าในกลุ่ม Finance มีตัวเดียวครับ ที่ตรงกับแนว The New Buffetology
ถ้ามีตัวอื่นรบกวนบอกพี่ด้วยนะ คุณนักดูดาว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 15
ผมเห็นด้วยครับว่าต้องวัดกันในระยะเวลาที่ยาวนาน ยิ่งมูลค่าเงินลงทุนมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งบริหาร Port ยากขึ้นเท่านั้นครับ อย่างผมเริ่มต้นด้วยเงิน 6 แสนบาทเมื่อ ก.ย. 2541 ช่วงแรกสามารถทำกำไรช่วงแรกได้ดีมาก แต่พอ Port เริ่มโต การบริหารให้ได้ผลตอบแทนที่ดีนั้นยากขึ้นครับ ถึงปัจจุบันผมได้กำไรทั้งหมดประมาณ 19.68 ล้านบาทครับ (แต่มูลค่า Port ปัจจุบันของผมไม่ถึงหรอกครับ เพราะมีการนำเงินไปใช้จ่ายด้วย ) ผมว่าช่วงต่อไปผมหวังที่จะได้กำไรรวมเงินปันผลประมาณ 15%-20% ต่อปีก็ดีแล้วครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 16
คุณ chatchai ครับ ขอถามนิดหนึ่ง พอพอร์ทโต แล้วบริหารพอร์ทยาก เกิดจาก
1. มีการขายหุ้นออกไปทำให้มีเงินกลับมามาก (เพราะได้กำไรจาส่วนต่างราคามาก) แต่หาซื้อหุ้นที่มีส่วนต่างราคา (capital gain) ยากขึ้น
>> ถ้าใช่ทางแก้ใช้หลัก The New Buffetology จะใช้ได้หรือไม่ คือถึงแม้ราคาหุ้นขึ้นก็ไม่ขาย เช่นคุณ XXX มีหุ้น Aprint ต้นทุน 35 บาท ปัจจุบัน 117 ก็ปล่อยให้มันขึ้นไปเรื่อยๆ
1. มีการขายหุ้นออกไปทำให้มีเงินกลับมามาก (เพราะได้กำไรจาส่วนต่างราคามาก) แต่หาซื้อหุ้นที่มีส่วนต่างราคา (capital gain) ยากขึ้น
>> ถ้าใช่ทางแก้ใช้หลัก The New Buffetology จะใช้ได้หรือไม่ คือถึงแม้ราคาหุ้นขึ้นก็ไม่ขาย เช่นคุณ XXX มีหุ้น Aprint ต้นทุน 35 บาท ปัจจุบัน 117 ก็ปล่อยให้มันขึ้นไปเรื่อยๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 17
ลำบากตอนซื้อหุ้นใหม่นะครับ สำหรับผมแล้ว ผมมักจะถือหุ้นครั้งละไม่กี่ตัว เรียกว่าถือแบบเน้นๆครับ ไม่มีการถือตัวละนิดตัวละหน่อยครับ นานๆจะเจอหุ้นที่ดีนะครับ ซึ่งส่วนมากหุ้นที่ผมเลือกก็จะเป็นหุ้นที่ไม่มีใครซื้อขาย มันก็ลำบากละครับ ลองคิดดูว่าถ้าจะซื้อ WG เป็นแสนๆหุ้น จะลำบากไหมครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 18
เพราะผมก็ยังใหม่มาก ลงทุนไม่ถึงปี
แต่มีความมั่นใจว่าการซื้อไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการหาตัวที่ดี ในจังหวะราคาที่น่าซื้อ คือปัญหา ใหญ่
ปัญหารองลงมา คือเมื่อเวลานั้นมาถึง เราต้องมีเงิน และกล้าตัดสินใจ เพราะซื้อได้มาก แต่ราคาลง ทำให้ดูเหมือนพอร์ทติดลบ
แถมอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี สองปี กว่าราคาจะกลับมายืนได้
ขอบคุณคุณ chatchai ที่ให้คำแนะนำไว้
บันทึกไว้ว่าคุณ chatchai พอร์ทโต 100.99 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 5 ปี นับถือนับถือ
คำนวณจาก 600000 เป็น 19.68 ล้านบาท จากกันยา 41 ถึง กันยา 46 ระยะเวลา 5 ปี
แต่มีความมั่นใจว่าการซื้อไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการหาตัวที่ดี ในจังหวะราคาที่น่าซื้อ คือปัญหา ใหญ่
ปัญหารองลงมา คือเมื่อเวลานั้นมาถึง เราต้องมีเงิน และกล้าตัดสินใจ เพราะซื้อได้มาก แต่ราคาลง ทำให้ดูเหมือนพอร์ทติดลบ
แถมอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี สองปี กว่าราคาจะกลับมายืนได้
ขอบคุณคุณ chatchai ที่ให้คำแนะนำไว้
บันทึกไว้ว่าคุณ chatchai พอร์ทโต 100.99 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 5 ปี นับถือนับถือ
คำนวณจาก 600000 เป็น 19.68 ล้านบาท จากกันยา 41 ถึง กันยา 46 ระยะเวลา 5 ปี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 20
ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้หรือไม่ว่า อะไรทำให้ตัดสินใจ ถือยาว จาก .6 ล้านบาท เป็น 3.6 ล้านบาท ผมเห็นคนถือ .6 ล้านบาทพอเป็น .9 ล้านบาท ก็ขายแล้วครับ
พอจะบอกเคล็ดลับวิธีทำใจ ไม่ขายหมู ได้หรือไม่ครับ คุณ chatchai
พอจะบอกเคล็ดลับวิธีทำใจ ไม่ขายหมู ได้หรือไม่ครับ คุณ chatchai
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 21
เราก็คำนวณราคาตามพื้นฐานที่เราคำนวณไว้นะครับ ถ้ายังต่ำกว่าก็ยังไม่ขาย พอดีช่วงนั้นดัชนีอยู่ที่ 204 จุดนะครับ ต่ำที่สุดเลย แถมผมยังซื้อ Warrant ที่มี Gearing สูงพอสมควรครับ มือใหม่บางคนอาจจะอิจฉานะครับที่ได้ซื้อหุ้นตอนดัชนี้ 204 จุด หุ้นอะไรก็ถูกทั้งนั้นแหละครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
อ่านข้อผิดพลาดของวอเรน 25 ปี แล้วชอบมาก
โพสต์ที่ 22
เพิ่งลงทุนครั้งแรกในชีวิต เมื่อวันที่ 1 สิงหานี้เอง ซื้อ tf 250 400 หุ้น tmd 41.75 2000 หุ้น ซื้อเพิ่มอีก 1000 ที่ 47.50 pr ที่98 600 หุ้น mbk ที่ 39.50 1500 หุ้น ได้กำไรมาแล้ว 33000 บาทแล้ว ยังเหลือเงินอีก 4 แสน
ควรจะรอหรือลุยซื้อเพิ่มดีครับ
ควรจะรอหรือลุยซื้อเพิ่มดีครับ