CEI จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 แล้ว

[พลพล คนกันเอง]

**

[chatchai]

ถึงยังไงก็ไม่ควรที่จะมีผลขาดทุนเกิน 10% ของยอดขายนะครับ เพราะค่าเงินเหรียญก็อ่อนค่าไม่ถึง 10% นะครับ

[din]

ผมยังไม่ค่อย get เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนสักเท่าไหร่ แต่ยังเข้าใจว่า บ.ได้ป้องกันไว้แล้ว เท่านั้น อ่านคุณ CK

ผมสงสัยเรื่องธรรมาภิบาลของผู้บริหารขึ้นมาทันที เพราะ

แล้วก็กังวลอยู่ไม่น้อย แแต่ผมคิดว่ามีหลายวิธีที่จะตกแต่งตัวเลขกำไรขาดทุนได้ เช่นการเลือกบันทึกยอดขาย หรือเลือกบันทึก ค่าใช้จ่าย ให้ไม่ตรงกับเวลาที่เกิดขึ้นจริง การบันทึกผลกระทบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ก็คงคล้ายๆกัน

เรื่องผมกังวลมากกว่า คือเรื่องกำไรขั้นต้นที่ลดลงอย่างมาก และลดลงมาเรื่อยๆ ไตรมาสนี้หากไม่คิดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ก็ยังขาดทุนอยู่ดี(ไม่น้อยด้วย) ผมไม่ได้หวังให้ บ.ทำกำไรขั้นต้นสูง 30% อย่างเมื่อ2-3ปีก่อน ที่ยังถืออยู่นี้เพราะคาดว่าน่าจะได้กำไรขั้นต้น ไม่ต่ำกว่า 10-15% อย่างปี 2004 และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นสัก 10%

ความไม่โปร่งใสของผู้บริหารในอดีตนั้น ที่จริงก็อยากทราบ หากพอจะเปิดเผยได้ ก็จักเป็นพระคุณยิ่งครับ

[Stock Broker]

ส่วนการขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง คงแค่ 31 ล้านนะครับ ไม่ใช้ 86 ล้านที่บางคนเข้าใจ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า Q หน้าจะขาดทุน จากอัตราแลกเปลี่ยนอีก
อาจจะกำไรก็ได้ ใครจะรู้ ว่าดอลจะแข็งหรืออ่อน อีกเท่าไหร่

ในการวิเคราะห์ผลดำเนินงานของกิจการ เราควรดูที่กำไรปกติเป็นหลักมิใช่หรือครับ ถ้าต้องมาเจาะลึกกันว่ากิจการจะกำไรหรือขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหนถึงจะตัดสินใจซื้อขายหุ้นล่ะก็ ผมว่าไปเล่นตลาดเงินเลยง่ายกว่ามั้ง

[Stock Broker]

ความไม่โปร่งใสของผู้บริหารในอดีตนั้น ที่จริงก็อยากทราบ หากพอจะเปิดเผยได้ ก็จักเป็นพระคุณยิ่งครับ

ถ้าเคยติดตามหุ้นตัวนี้มานานเกินหนึ่งปีก็น่าจะทราบมาบ้างนะครับ ว่าผู้บริหารตัวแสบทำเรื่องอะไรไว้บ้าง ราคาหุ้นมันถึงลงมาได้ขนาดนี้

[+++]

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

[ปรัชญา]

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

คนเราต้องรู้จักผิดหวังให้เป็น

และต้องทนกับความไม่พอใจ

ทำใจให้สบายครับ

เขาได้ เราก็คงต้องเสีย
และเมื่อเราได้ ก็ต้องมีผู้อื่นเสีย
สัจจะธรรมครับ

ทน-ทน ฟัง อาจรู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ครับ
ผมทนไ ผมทนได้ ผมทนฟังได้

[วัวแดง]

คนเราต้องรู้จักผิดหวังให้เป็น

และต้องทนกับความไม่พอใจ

ทำใจให้สบายครับ

เขาได้ เราก็คงต้องเสีย
และเมื่อเราได้ ก็ต้องมีผู้อื่นเสีย
สัจจะธรรมครับ

ทน-ทน ฟัง อาจรู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ครับ
ผมทนไ ผมทนได้ ผมทนฟังได้

ผมก็ทนฟังได้ครับ และอยากฟังมากๆๆๆด้วย

ยิ่งในแง่ร้ายยิ่งชอบ เราจะได้รู้ว่า ผิดตรงไหน อย่างไร ได้นำมาใช้เป็นบทเรียน
อนาคตเราจะได้พลาดน้อยลง

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ เป็นประโยชน์สำหรับผมมากทีเดียว

[+++]

ผมก็ทนฟังได้ครับ และอยากฟังมากๆๆๆด้วย

ยิ่งในแง่ร้ายยิ่งชอบ เราจะได้รู้ว่า ผิดตรงไหน อย่างไร ได้นำมาใช้เป็นบทเรียน
อนาคตเราจะได้พลาดน้อยลง

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ เป็นประโยชน์สำหรับผมมากทีเดียว

อิอิ....ล้อเล่นน่ะครับ

ไม่มีหุ้นนี้ซักหุ้นหรอกครับ ขายไปเกลี้ยงแล้วครับ
เคยเข้า 3 ครั้ง ชนะ 2แพ้1 สรุปแล้วยังเจ๊งอยู่

อิอิ ..... ต่อกันตามสบายครับ

[BPT]

ผมขอเดามั่งนะครับ

1. เขาบอกว่าบริษัท "ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 54.9 ล้านบาท เนื่องจากการใช้ตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์และหนี้สินส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศ " ผมจึงเดาว่าเขา hedge เงินลงทุนในเมืองจีน ถึงทำให้ยอดขาดทุนมันสูงขนาดนี้ คงไม่ใช่ hedge รายการซื้อขายทั่วไปมั้ง

2. เขาบอกว่า บริษัท "มียอดคงเหลือของสัญญาขายสิทธิที่จะขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต (Option agreements)" น่าจะแปลว่าบริษัท ขาย put option ไป นั่นคือถ้าคนที่ซื้อ option ต้องการใช้สิทธิ ก็สามารถเอาดอลล่าร์มาขาย และ CEI ต้องรับซื้อในราคาที่กำหนดไว้ อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า นั่นคือถ้าราคาตลาดต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ เช่นตอนนี้ 39 บาท คนที่ซื้อ option ไป ก็สามารถซื้อเงินในตลาดและเอามาขายให้ CEI ในราคาใช้สิทธิที่สูงกว่า ถ้าถึงกำหนดการใช้สิทธิแล้ว

3. เขาบอกว่า "เป็นวงเงินจำนวนโดยประมาณ 51.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่อัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาระหว่าง 39.15-41.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ" หรือประมาณ 2,057.3 ล้านบาท" ค่าเงินวันที่ 31 ตุลาคม น่าจะอยู่ในราวเกือบ ๆ 41 บาท ก็ไม่น่าจะขาดทุนนะ

4. เขาบอกว่า "ซึ่งมีวันครบกำหนดสัญญาระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2548" ดังนั้นวันที่ปิดงบคือ 31 ตุลาคม มันก็ยังไม่ถึงกำหนดใช้สิทธินี่นา มันควรจะเป็นขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด แต่อย่างที่คุณ chatchai บอก ในงบกระแสเงินสด มันบอกว่าขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงมีแค่ 3 ล้านกว่าบาทเอง อันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจ

สรุปแล้ว อ่านไปอ่านมารู้สึกมันขัดแย้งกันในตัว ขอกลับไปคิดเพิ่มก่อน ใครมีความเห็นอะไร ก็เพิ่มเติมได้นะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันขบปัญหา อย่าไปคิดเรื่องหุ้นเลย คิดว่าเป็นการฝึกสมองกันละกัน