ในส่วนของผู้ถือหุ้นมันมี
กำไรสะสมที่จัดสรรแล้ว
สำรองตามกฎหมาย
สำรองทั่วไป
ยังไม่ได้จัดสรร
ผมสงสัยว่า กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ที่แสดงในงบดุล จำเป็นไหมว่าต้องเป็นเงินสด หรือสิ่งเทียบเท่าเงินสด
ถ้าบริษัทนำมันไปลงทุนในระยะยาว หุ้นกู้ หุ้นสามัญ พันธบัตร (มันคือกำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรรึเปล่าครับ แบบว่า บันทึกไว้ในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน แล้วก็ต้องบันทึกใน กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ด้วย)
ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ
อ่านแล้วงง ๆ
แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริง แสดงว่ากำไรที่ยังไม่ได้จัดสรร มีโอกาสเปลี่ยนแปลงมูลค่าได้เรื่อย ๆ ตามหลักทรัพย์ที่ไปลงทุนรึเปล่าครับ
ขอบคุณมากครับ
ว่าด้วยเรื่องกำไรสะสม รบกวนช่วยตอบหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 115
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยเรื่องกำไรสะสม รบกวนช่วยตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 115
- ผู้ติดตาม: 0
ว่าด้วยเรื่องกำไรสะสม รบกวนช่วยตอบหน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
เอิ๊ก ขอบคุณมากครับพี่
ยกมาจากปี 2008
Posted: Sat Jul 26, 2008 10:19 pm Post subject:
มาอ่านแล้วมีความคิดว่าต้องไล่กันตั้งแต่พื้นฐานกันนิดหน่อย
งบดุลคือ งบที่บอกว่า บริษัท ณ วันที่ในงบ มีสถานะสินทรัพย์ หนี้สิน และ ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไง มีความแข็งแกร่งอย่างไง
สมการที่เกี่ยวข้องคือ
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน
ในที่นี้กล่าวถึง กำไรสะสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทุน
กำไรสะสม ประกอบด้วย กำไรสะสม สำรองตามกฏหมายและ กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร
กำไรสะสมตามกฏหมาย อันนี้ชื่อก็บอกแล้วว่า กฏหมายบังคับให้มี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ เจ้าหนี้ในการทวงหนี้
กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร อันนี้ คือ กำไรที่ยังไม่ได้ทำอะไร กำไรนี้มาจากตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาจนถึง วันที่ในงบดุล ยังไม่ได้พิจารณาว่าเอาไปทำอะไรดี
กำไรสะสะมยังไม่ได้จัดสรร สามารถพิจารณาเป็น จ่ายคืนให้ผู้ถือหุ้นในรูปปันผล เอาไปซื้อสินทรัพย์ หรือเอาไปช่วยตัดขาดทุนในกรณีที่บริษัทดำเนินผิดพลาด
ถึงบรรทัดนี้คงงงต่อว่า ตัดขาดทุนได้ไง
ก็ งบกำไรขาดทุน บรรทัดสุดท้าย เขียนว่า กำไรสุทธิ (ขาดทุนสุทธิ) ใช่ไหม
ก็บรรทัดนี้ ไปรวมกับกำไรสะสมของวดก่อนหน้า มันได้กำไรสะสมของงวดนี้
ย้ำว่า ไม่มีการจัดสรรกำไร ไปทำอย่างอื่นน่าครับ
คงเข้าใจกันมากขึ้นน่าครับ
หากไม่เข้าใจหาหนังสือเกี่ยวก้บ การอ่านงบมาเปิดกางได้น่าครั้บ
อีกอย่างที่บอกไว้ก่อนว่า
การประเมินว่าราคาหลักทรัพย์ปั้จจุบัน ตำกว่ามูลค่าของบริษัทนั้น
มันแล้วแต่หล้กการที่หยิบยกขึ้นมาน่าครับ
เรื่องนี้ถามคนสิบคนตอบไปหลายทางมาก
แต่ของผมใช้หลักคือ แล้วแต่ความพอใจของคุณว่า ให้ราคาหุ้นตัวนี้เท่าไร
ถ้าถูกใจก็ซื้อเลย ถ้าไม่ถูกใจก็รอ แค่นี้ก็จบ
ตามหลักของผมที่ว่า เกิดที่ใจ จบที่ใจ
:lol: :lol: :lol:
by พี่ miracle คนเดิม
ขอบคุณมากคร้าบบบบบบ
ยกมาจากปี 2008
Posted: Sat Jul 26, 2008 10:19 pm Post subject:
มาอ่านแล้วมีความคิดว่าต้องไล่กันตั้งแต่พื้นฐานกันนิดหน่อย
งบดุลคือ งบที่บอกว่า บริษัท ณ วันที่ในงบ มีสถานะสินทรัพย์ หนี้สิน และ ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไง มีความแข็งแกร่งอย่างไง
สมการที่เกี่ยวข้องคือ
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน
ในที่นี้กล่าวถึง กำไรสะสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทุน
กำไรสะสม ประกอบด้วย กำไรสะสม สำรองตามกฏหมายและ กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร
กำไรสะสมตามกฏหมาย อันนี้ชื่อก็บอกแล้วว่า กฏหมายบังคับให้มี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ เจ้าหนี้ในการทวงหนี้
กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร อันนี้ คือ กำไรที่ยังไม่ได้ทำอะไร กำไรนี้มาจากตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาจนถึง วันที่ในงบดุล ยังไม่ได้พิจารณาว่าเอาไปทำอะไรดี
กำไรสะสะมยังไม่ได้จัดสรร สามารถพิจารณาเป็น จ่ายคืนให้ผู้ถือหุ้นในรูปปันผล เอาไปซื้อสินทรัพย์ หรือเอาไปช่วยตัดขาดทุนในกรณีที่บริษัทดำเนินผิดพลาด
ถึงบรรทัดนี้คงงงต่อว่า ตัดขาดทุนได้ไง
ก็ งบกำไรขาดทุน บรรทัดสุดท้าย เขียนว่า กำไรสุทธิ (ขาดทุนสุทธิ) ใช่ไหม
ก็บรรทัดนี้ ไปรวมกับกำไรสะสมของวดก่อนหน้า มันได้กำไรสะสมของงวดนี้
ย้ำว่า ไม่มีการจัดสรรกำไร ไปทำอย่างอื่นน่าครับ
คงเข้าใจกันมากขึ้นน่าครับ
หากไม่เข้าใจหาหนังสือเกี่ยวก้บ การอ่านงบมาเปิดกางได้น่าครั้บ
อีกอย่างที่บอกไว้ก่อนว่า
การประเมินว่าราคาหลักทรัพย์ปั้จจุบัน ตำกว่ามูลค่าของบริษัทนั้น
มันแล้วแต่หล้กการที่หยิบยกขึ้นมาน่าครับ
เรื่องนี้ถามคนสิบคนตอบไปหลายทางมาก
แต่ของผมใช้หลักคือ แล้วแต่ความพอใจของคุณว่า ให้ราคาหุ้นตัวนี้เท่าไร
ถ้าถูกใจก็ซื้อเลย ถ้าไม่ถูกใจก็รอ แค่นี้ก็จบ
ตามหลักของผมที่ว่า เกิดที่ใจ จบที่ใจ
:lol: :lol: :lol:
by พี่ miracle คนเดิม
ขอบคุณมากคร้าบบบบบบ