ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สวัสดีครับเพื่อนๆที่มีมาร์จิ้นทุกท่าน หรือท่านใดที่สนกำลังจะใช้มาร์จิ้นลองอ่านดูนะครับ ไม่ได้เขียนเพื่อให้หยุดใช้ หรือใช้น้อยลง หรือคนที่กำลังจะใช้ไม่ใช้ แต่อยากให้ตระหนักเรื่องนี้ก่อนใช้นะครับให้รู้ว่าทำอะไรอยู่ความเสี่ยงแค่ไหนเรายืนอยู่จุดไหน....หวังว่าข้อความเล็กๆนี้จะมีประโยชน์กับท่านบ้างซักนิดหน่อยก็ยังดีครับ :D

   เมื่อเช้าตอนที่กำลังนั่งรถตู้มาทำงาน ในหัวก็คิดเรื่องการลงทุน วันนี้มาคิดทบทวนเรื่องมาร์จิ้น เพราะมานึกถึงคำพูดที่สาวพูดไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนว่าพอร์ทน้องเสี่ยงมากนะ แต่เจ้จะไม่คอมเม้นอะไรนะเพราะอายุยังน้อย ผิดพลาดอะไรเริ่มใหม่ได้......เมื่อเช้านี้ผมก้เลยเอาคำพูดนี้มานั่งคิดๆๆๆทบทวนเมื่อก่อนผมคิดว่าแม้นอนาคตอาจจะเกิดวิกฤติขึ้นแต่มันก็รอบ5-10ปี กว่าจะถึงตอนนั้นก็กำไรอื้อแล้วนี่นา...แล้วจะกลัวอะไรอะ???

   ผมนั่งนึกถึงเกมส์ปั่นแปะ เอาเหรียญมาปั่นทายหัวก้อยโอกาส50-50 ตอนปวช.ผมมานั่งคิดเรื่องความน่าจะเป็นเกี่ยวกับปั่นแปะและพบว่า เราสามารถทำกำไรจากมันได้ ถ้าเราแทงหัวตลอด...ตาแรก1บาท ถ้าได้ตาต่อไปก็1บาทเรื่อยๆ แต่ถ้าเสียก็แทง2บาท ถ้าได้เท่ากับรอบนี้เราได้กำไร1บาท ก็กลับไปเริ่มรอบใหม่ 1บาท ถ้าเสียก็2บาท เสียอีกก็4บาท  8บาท แทงแบบทวีคุณ คุณ2ไปเรื่อยๆ ยังไงก็แล้วแต่ไม่มีทางออกหัวทุกตาแน่นอน อย่างมากก็10ตา ตาที่11ออกก้อยผมก็กำไรก็กลับมาเล่นตาละบาทอีกครั้ง....บทเรียนแรกที่ผมได้คือผมเอาทฤษฏีไปใช้กับกดเครื่องคิดเลขฟังก์ชั่นRandom แล้วทายสูงต่ำถ้าออกกลางโมฆะ ก็กลายเป็นเกมส์50-50 ซึ่งเกมส์นี้นิยมกันมากในหมู่เด็กช่างเพราะมีเครื่องคิดเลขแบบฟังก์ชั่น และผมก็ได้พอสูจน์ทฤษฏี....ก็ได้กำไรมาเรื่อยๆครับจนเจอออกสูง23ตาซ้อน :shock: หมดกระเป๋าครับเหลือ30บาท(ดีที่ไม่หนี้ :oops: ) กินข้าว20 นั่งรถกลับบ้านปกติ2ต่อ4+10 ก็ต้องนั่งต่อหลัง ต่อแรกเดินเอาT^T แต่แม้นผลออกมาแบบนี้ ก็ไม่ได้แสดงว่าทฤษฏีนี้ผิดนะครับ เพราะตาที่26ก็ออกล่าง อีกแค่3ตา แต่เงินไม่มีตามแล้ววT^T

   ขอโทษครับเล่าเพลิน :oops: กลับมาเรื่องมาร์จิ้นต่อครับ ทีนี้ผมก็ลองคิดเรื่องมาร์จิ้นดีๆ ปรากฏว่ามันคือทฤษฏีเดียวกับที่ผมใช้กับการปั่นแปะแม้นตัวเลยจะไม่เหมือนกันแต่Conceptเดียวกัน....แต่เป็นการใช้แบบอินเวิส หมายถึงใช้แบบตรงกันข้าม......
สมมุติ...... ผมมีผลตอบแทน50%ใช้มาร์จิ้น100% ทำให้มีกำไร100% ด้วยเงินลงทุน 1แสน
ปีที่1 100*2=200k
ปีที่2 200*2=400k
ปีที่3 400*2=800k
ปีที่5 800*2=1.6M
ปีที่10 0.1*2^10=100ล้าน
จะเห็นได้ว่ากำไรมหาศาลมากๆๆๆ 1แสน10ปีเป็น100ล้าน

แต่ปีที่11 เกิดวิกฤติ -50% ซึ่งในกรณีที่มาร์จิ้น100%เท่าเดิมจะเท่ากับว่าเราจะขาดทุน100% :shock:

นั่นหมายถึงว่าเราชนะมา10เกมส์ แพ้เกมส์ที่11เกมส์เดียว เราแพ้ทั้งกระดาน
ทั้งๆที่เราทำดีมาตลอด แต่ใช้หลักการณ์ของความน่าจะเป็นผิดวิธี มันก็จะกลายเป็นศรย้อนปักอกเราได้....

ซึ่งกรณีนี้ผมยกตัวอย่างที่มาร์จิ้น100%ให้ฟังนะครับ ซึ่งมาร์จิ้นในสัดส่วนอื่นๆก็จะมีผลกระทบเช่นเดียวกันแต่ความรุนแรงต่างกัน แต่ก็เป็นการใช้หลักการของควมน่าจะเป็นผิดวิธี

ดังนั้นการใช้มาร์จิ้นมากๆก็เหมือนกับระเบิดเวลา....รอวันหายนะ :twisted:
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4366
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ

เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าใช้การแทงพนันแบบทบต้นกับหวย สุดท้ายหน้าตักหมดก่อนจะถูกทางตาเดียวเองครับ มันเลยเข็ดขยาดไม่กล้าวัดดวงอีกเลย

การใช้มาร์จิ้น ผมว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่การจัดการกับความเสี่ยงครับ ไม่ใช่เน้นผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ต่อนะงับ อิอิ

สมมุติปีที่11หุ่นร่วง คนถือมารืจิ้นเห็นว่าไม่ดีถอยตอน-25%ซึ่งก็คือ-50%ของพอร์ท
ดังนั้นปีที่11จะได้ 100*0.5=50ล้าน ก็สามารถรอดพ้นจากวิกฤติได้ ผลตอบแทนเฉลี่ย=0.1*1.76^11=50ล้าน ซึ่งก็คือ76% ก็สามารถพลิกมาทำกำไรเฉลียๆดีๆได้เช่นกัน แต่จะต้องค่อนข้างตามตลาดติดๆและใช้Funflowช่วยหรือถอดใจหยุดโลภให้ถูกช่วง....

แต่ลองมาดูอีกคนนะครับ....ผมตอบแทนปกติ10% ใช้มาร์จิ้น100% พอร์ท+20%
ดังนั้นปีที่10 = 100*1.2^10=619k
ปีที่11ออกที่-25%เหมือนกันพอร์ทรวมก็-50%
ดังนั้นปีที่11จะได้ 10= 619*0.5=309.5k
แทนเฉลี่ย=100*1.108^11=309k ซึ่งก็คือ10.08%

สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างไหมครับ???
นายAใช้มาร์จิ้นเสี่ยงหมดตัว โดยมีผลให้ผลตอบแทนเพิ่มจาก50%เป็น76%
เสี่ยงเพื่อให้กำไรเพิ่มขึ้น52%
หรือเสี่ยงกับหมดตัวแลกกับพอร์ทโตขึ้น26%ต่อปี

นายBใช้มาร์จิ้นเสี่ยงหมดตัว โดยมีผลให้ผลตอบแทนเพิ่มจาก10%เป็น10.8%เสี่ยงเพื่อให้กำไรเพิ่มขึ้น8%
หรือเสี่ยงกับหมดตัวแลกกับพอร์ทโตขึ้น0.8%ต่อปี

ดังนั้นจะเห็นได้ชัดว่าสองคนนี้เสี่ยงเท่ากัน แต่ผลตอบแทนไม่เท่ากัน!!!!
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 0

naijan

โพสต์ที่ 4

โพสต์

"One of things you will find - which is ineresting and people don't think of it enough - with most businesses and with most individauls, is life tends to snap you at your weakest link. The two biggest weak links in my experience :I've seen more people fail because of liquor and leverage - laverage being borrowed money."
" ความน่าสนใจหนึ่งที่ธุรกิจส่วนใหญ่และคนส่วนใหญ่จะพบและไม่คำนึงถึงคือ ชีวิตมักจะเล่นงานคุณตอนที่กำลังอ่อนแอที่สุด และช่วงที่กำลังอ่อนแอที่สุดสองช่วงจากประสบการณ์ของผมคือ ผมเห็นคนจำนวนมากล้มเหลวเพราะเหล้าและลงทุนด้วยเงินกู้"
-Warren Buffet-
form:Warren Buffet and interpretation of financial statements by Marry Buffet & David Clark.
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ยินดีด้วยครับ จุดที่น่ากลัวที่สุดที่จะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาว น้องพิกไลฟ์คงผ่านมันไปได้แล้วหรือกำลังจะผ่านไปได้ในไม่ช้า :)

ป.ล. เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเองมันพูดยากครับ เมื่อก่อนผมก็มั่นใจสุดๆจนเกินไปเหมือนกัน
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สูตร แทงเสียแล้ว Double
หรือสูตรตรงข้าม แทงได้แล้ว Double
ผมลองมาหมดแล้ว.. เจ๊งทั้งคู่  :lol:  :lol:  :lol:

ใช้ Margin แล้วกำไรเยอะๆ
ใช้ Margin แล้วเสียเยอะๆ
ผมก็ลองมาหมดแล้วเช่นกัน  :lol:  :lol:  :lol:

แต่ยังโชคดีที่ยังไม่เจ๊ง... ไม่ Recommend ให้ใครใช้ Margin ด้วยประการทั้งปวงครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณครับพี่ Blueblood และคุณyoyo :bow:
แต่ผมก็เชื่อนะครับว่า....คงมีหลายคนที่อ่านแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าเล่นดีกว่ามะเล่นอยู่เยอะนะครับ555+แต่มะกล้าโพสเดี๋ยวโดนรุม ประมาณว่าดื้อเงียบ อิอิ คงไม่ต่างอะไรกับการขับรถเร็ว รู้ว่าใครๆก็รู้ว่าขับเร็วไม่ดี แต่ก็จะซิ่งอยู่ดีเพราะมันติดใจอิอิ ของอย่างนี้ต้องลองให้ประสบอุบัติเหตุซักทีแล้วจะขยาด...และจะเติบโตขึ้น....ถ้ารอด

ดังนั้นไหนๆก็บังคับกันไม่ได้ ก็จะอธิบายจุดยืนและคำแนะนำเท่าที่ผมรู้นะครับ

1.การใช้มาร์จิ้นเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ เหมือนกับพอร์ทในอนาคต ดังนั้นถ้าคนปกติความสามารถจะเติบโตตามพอร์ทอยู่แล้ว แต่คนที่ใช้มาร์จิ้นจะต้องมั่นใจจริงๆว่าตัวเองพร้อมแล้วกับพอร์ทระดับนั้น เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นการเอาตัวเราเมื่อ3ปีก่อนมาบริหารพอร์ทในปีนี้ น่าจะมะค่อยโสภาเท่าไหร่นะครับ

2.ถ้าจะใช้มาร์จิ้นให้เข้ากับหลักสถิติ จะต้องใช้เมื่อตัวเองเสียเท่านั้น เช่นหุ้นร่วงมากๆโดยไม่มีสาเหตุก็อาจจะซัดสวนไปได้ แต่หากหุ้นกำลังขึ้นแล้วใช้มาร์จิ้นซื้อตามอันนี้อาจจะเจ็บหนักมากๆตอนลงได้(อันนี้ผมเคยมาละ พอขึ้นแล้วซัดตามเพราะเครดิตเราจะเพิ่ม ผลคือแกว่งลงมาเหมือนเดิม กำไรกลับไม่เท่าเดิมT^T) หรือใช้แบบที่มีคนหนึ่งพูดว่า เอาไว้เป็นท่าไม้ตาย

3.คนที่มีศัยภาพในการทำกำไรต่อปีน้อยๆไม่ควรเล่น สังเกตุได้จากข้างบนที่ผมคำนวณให้ดูว่าโอกาสเสียเท่ากันแต่โอกาสได้ต่างกันมาก เช่นคนที่ทำกำไรปกติ10%ต่อปี กับคนที่ทำกำไรปกติ50%ต่อปี โอกาสเสี่ยงเท่ากันแต่โอกาสได้ต่างกันมากๆๆๆๆ เช่นมาร์จิ้น100% คุณกำไร10ได้อีก10 กำไร50ได้อีก50 ดังนั้นหากกำไรเฉลี่ยคุณไม่มากคุณยิ่งต้องห้ามใช้มากที่สุด

4.การใช้มาร์จิ้นจะดูเฉพาะกิจการนั้นๆไม่ได้แล้ว เพราะจากกรณีวิกฤติที่ผ่านมาหากใครใช้โดนForcesellได้สบายๆ ดังนั้นคุณต้องต้องศึกษาเรื่องอารมณ์ของตลาด และFundflowด้วย ซึ่งส่วนมากจะหาคนทั้งเก่งVIและเก่งTAกับFundFlowในคนเดียวนั้นค่อนข้างจะยาก เพราะบางConceptมันแย้งกันอยู่

5.การเลือกหุ้นที่ซื้อ ก็ต้องเป็นหุ้นที่มีUpsideเยอะๆเช่นกัน เพื่อให้เกิดReturnเยอะๆเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงที่รับมา ถ้าไปมันแต่เก็บหุ้นที่returnน้อยๆแต่ชัวร์เมื่อเกิดหายนะก็จะเจ็บเท่ากัน จึงเป็นการใช้ความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า ซึ่งลองสังเกตุได้จากความสัมพันท์ของ%ผลตอบแทนจากมาร์จิ้นที่ผมเขียนข้างบน ซึ่งพอร์ทรวมก็เสมือนหุ้น1ตัวของพอร์ทเรา Conceptเดียวกัน ดังนั้นด้วยทฤษฎีนี้จึงพบว่าดร.เองก็จะใช้มาร์จิ้นเฉพาะในช่วงวิกฤติเหตุผลเพราะUpsideเยอะมาก
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
maiaowna
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมคนนึงที่ไม่กล้าแตะครับ ค่อยๆไปเรื่อยๆ

:D
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 9

โพสต์

การใช้ มาร์จิ้น เราต้องหากิจการที่กำไรเป็นสองเท่าของกำไรปกติ
เป็นอย่างน้อย  :D
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 10

โพสต์

High return + Small chance of Massive lost

:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อ้อลืม

6.จะต้องเตรียมทางถอยทัพไว้เสมอ....หุ้นลงเท่านั้นMMจะเป็นเท่าไหร่ เราจะทำอะไรบ้าง หุ้นลงอีกเท่าไหนจะโดนCall แล้เราจะทำอะไรหาCallที่ไหนมาเพิ่มได้บ้าง แล้วถ้าเพิ่มแล้วลงมาอีกเรื่อยๆจะรับได้ถึงระดับไหน และมาถึงforcesellจะมีเงินทุนก๊อกสำรองไหม อย่างไร เรื่องพวกนี้ต้องเตรียมแผมไว้ให้พร้อมเสมอก่อนคิดจะเข้า เพราะพอถึงเวลาที่มันลงจริงๆมันใช้เวลาแค่3-4วันซัดไป40%สบายๆ ซึ่งเท่าที่คุยหลายๆคนมันเร็วมากครับ ไม่มีเวลาให้คิดเลย มัวแต่คิดรู้ตัวอีกทีโดนForcesellไปแล้วT^T ดังนั้นแผนต้องพร้อมและชัดเจนจริงๆครับ

7.เรื่องนี้อยู่ในช่วงกำลังศึกษาอยู่ครับ โดยใช้หลักการณ์ของTAที่เมื่อหุ้นลงแล้วมันจะลงเรื่อยๆ เมื่อมันขึ้นมันก็จะขึ้นเรื่อยๆ ผนวกเข้าด้วยกันกับการใช้มาร์จิ้น สมมุติรักษาระดับมาร์จิ้นที่50% ถ้าหุ้นลง5% ก็ขายออกประมาณ5%เพื่อรักษาระดับมาร์จิ้นให้คงอยู่ที่50%เสมอ ซึ่งผมลองสมมุติในกรณีที่หุ้นร่วงหนักๆจะเจ็บตัวน้อยมากครับ แต่!!!มันก็จะขัดกับความรู้สึกของVIที่หุ้นลงควรซื้อ....ซึ่งข้อนี้ก็ขอตั้งเป็นตุ๊กกะตาไว้นะครับ ถ้าใครเอาไปผนวชกับviได้ก็ดีครับ ถ้าไม่ได้ก็อ่านและผ่านเลยไปละกันนะครับ อิอิ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1223
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 12

โพสต์

maiaowna เขียน:ผมคนนึงที่ไม่กล้าแตะครับ ค่อยๆไปเรื่อยๆ

:D
ผมก็เหมือนพี่ครับ
คิดว่าถึงเส้นชัยช้าหน่อย ไม่เป็นไร
เลยขอเลือกวิธีช้าๆสบายๆแบบชื่อหนังสือ รวยหุ้นอย่างพอเพียง ของดร.แล้วกันครับ

แต่ผมว่าต่างคนก็ต่างมุมมองครับ
ใครที่คิดว่าเราเหมาะสมยังไง และมีสติว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็แล้วแต่ถนัดเถอะครับ

(แต่ยังไงมีคนที่มีประสบการณ์อย่างพี่โยและพี่บลูบลัดออกมาแนะนำนี่ผมว่าฟังไว้หน่อยก็ดีครับ
สำหรับบางเรื่องผมว่ามีประสบการณ์จากคนอื่นให้เรียนรู้ดีกว่าต้องเสียค่าวิชาเรียนด้วยตนเองครับ) :D
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ถ้าใช้มาร์จิ้นแล้ว

หนึ่งแสนใน10ปี ได้ร้อยล้าน
ผมว่าก็น่าสนใจอยู่นะ  :lol:
ถ้าคิดแบบเดิมมี100ล้าน
ในสิบปีอาจได้ถึงแสนล้านเชียว 555

แต่2เคสนี้ก็ยังต่างกันพอสมควร
เงินลงทุน100ล้านโอกาสในการซื้อหุ้นหรือโอกาสในการขายหุ้นให้หมดในเวลาที่ต้องการไม่ง่ายนักถ้าไม่ลงในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงๆ
หุ้นสภาพคล่องสูงส่วนมากอัฟไซก็ไม่มากซะด้วย

ผมว่าแม้บางคนจะบอกว่าไม่น่าใช้มาร์จิ้น แต่ก็อาจจะยังใช้อยู่
เพราะคิดว่าควบคุมได้
จริงๆผมก็ว่าน่าจะคุมได้ถ้าใช้ไม่มากเกินไป

ถ้าสมมุติว่าเงินหนึ่งแสนเสียไปแล้ว สามารถหากลับมาได้ใหม่ใน1ปีหรือ2ปี
ก็อาจจะมองว่าใช้มาร์จิ้นไม่เป็นไรก็ได้

แต่เงิน100ล้าน ถ้าให้ทำงานไปอีก20ปี สำหรับผมคงยังไม่ได้เลยมั้ง
ดังนั้นการใช้มาร์จิ้น คงไม่ง่ายนัก

ผมว่าใช้มาร์จิ้นไม่น่าเกี่ยวกับความเก่งเรื่องvi,ta,fundflowเลย
วินัยครับ
ผมว่ามันสำคัญมากว่าเราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์อย่างไร
และควรจะหยุดเมื่อไร

ถ้าผมอายุ25ปี แล้วมีประสบการณ์ณ.เวลานี้
แต่มีเงินแค่แสนเดียว
ผมอาจจะใช้ก็ได้ ลงทุน10ปีได้100ล้าน ผมว่ามันน่าBetมากๆ
พอครบสิบปีแล้วก็หยุดใช้
หลายๆคนก็เคยรวยเพราะใช้มาร์จิ้น

ที่เขียนมาไม่ได้มีความหมายว่าใช้มาร์จิ้นได้หรือไม่ได้ ดีหรือไม่
แต่ถ้าคิดว่ามีประสบการณ์มากพอตัวสำหรับการเล่นหุ้น
โอกาสในการBetตั้งแต่วัยรุ่นๆ มันก็พอมี
การเริ่มต้นทำธุรกิจก็ต้องกู้ทั้งนั้น เสี่ยงกว่าด้วย
แต่พอทำธุรกิจสำเร็จ บริษัทที่อยู่รอดได้ระยะยาวดูๆไปมักไม่ค่อยมีเงินกู้
เพราะมีวินัยในการใช้เงิน

ที่เขียนมานี่ก็ยังไม่รู้นะว่าใช้มาร์จิ้นดีรึเปล่า
กลับมาใหม่ถ้าผมอายุ25แล้วยังโสด คงไม่ใช้ชีวิตเรียบง่ายเกินไป 555

หมายเหตุ: ผมเองไม่ได้ใช้มาร์จิ้นนะครับ
ตอนมีเงินน้อยก็ไม่มั่นใจที่จะใช้ พอมีเงินเยอะขึ้น ก็รู้สึกโอเคแล้ว
ไม่ต้องมานั่งหวั่นวิตกจริตมากเกินไปเวลาหุ้นตก
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอยกบทความพี่สุมาอี้ มาให้อ่านกันนะครับล
-------------------------------------------------------

A Tale of Two Knights

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชาแก่องค์หนึ่งกับลูกสาวที่แสนสวย อาณาจักรของพระราชามีเมืองขึ้นอยู่มากมาย แต่ละเมืองล้วนกระด้างกระเดืองหมายจะตีตัวออกห่างอยู่เป็นนิจ พระราชาแก่แล้วจึงไม่อาจออกรบได้ ได้ประกาศว่า ใครก็ตามที่ช่วยออกศึกจะตบรางวัลให้เป็นทองแท่งเท่ากับจำนวนข้าศึกที่สังหารได้ในแต่ละครั้งที่ออกรบ และเมื่อใดก็ตามที่เจ้าหญิงมีอายุครบ 16 ปี พระราชาจะยกลูกสาวแสนสวยให้กับผู้ที่สังหารข้าศึกรวมกันได้เป็นจำนวนมากที่สุด

ในเมืองแห่งนี้มีอัศวินอยู่สองคนที่ออกรบห้าวหาญมาก ทั้งสองช่วยพระราชาออกรบอยู่เสมอและสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก ในการออกรบแต่ละครั้ง อัศวินคนแรกเลือกถือดาบด้วยมือขวาเพื่อสังหารศัตรูและถือโล่ด้วยมือซ้ายเพื่อป้องกันตัว ส่วนอัศวินคนที่สองเลือกถือดาบทั้งสองมือเพื่อให้สังหารข้าศึกได้จำนวนมากกว่า อัศวินทั้งสองมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมพอๆ กันและเหนือกว่าคนทั่วไปมาก แต่ด้วยการถือดาบไว้ทั้งสองมือ อัศวินคนที่สองจึงมักสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากกว่าเสมอ และได้รับการตบรางวัลเป็นทองแท่งมากกว่าเป็นสองเท่าในแทบทุกสนามรบ  

ในใจของเจ้าหญิงนั้น เจ้าหญิงทรงพอพระทัยอัศวินคนแรกที่ใช้ดาบและโล่เป็นอาวุธมากกว่า เพราะอัศวินผู้นั้นมีอุปนิสัยสุภาพ สุขุม เยือกเย็น ต่างกับอัศวินคนที่สองที่มีนิสัยมุทะลุ ก้าวร้าวและโอ้อวด เจ้าหญิงเคยทรงแอบแนะนำให้อัศวินคนแรกเปลี่ยนมาใช้ดาบทั้งสองมือแทนเพื่อจะได้สังหารศัตรูได้มากกว่า แต่อัศวินคนแรกก็ยืนกรานที่จะใช้ทั้งดาบและโล่เสมอมา หลายปีผ่านไป อัศวินคนที่สองจึงร่ำรวยขึ้นกว่าอัศวินคนแรกเป็นอันมาก คำชื่นชม ลาภยศ สรรเสริญ ก็มากกว่าเป็นทวีคูณด้วย เพราะใครๆ ย่อมให้ความสนใจคนที่ได้ที่หนึ่ง ไม่มีใครสนใจคนที่ได้ที่สอง อัศวินคนที่สองชอบยกตนข่มอัศวินคนที่หนึ่งในฐานะคู่แข่งอยู่เสมอ อัศวินคนที่หนึ่งก็ได้แต่นิ่งเฉยเสีย

อยู่มาปีหนึ่ง เกิดสงครามครั้งใหญ่ ข้าศึกได้เตรียมการสะสมกำลังมานานและบุกมามากเป็นพิเศษหมายจะเผด็จศึกให้ได้ จำนวนข้าศึกที่มากกว่าปกติถึงสิบเท่าทำให้สงครามยืดเยื้อมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เหล่าทหารหาญที่เข้าร่วมรบต่างรู้สึกอ่อนล้ามากแล้ว แต่จำนวนข้าศึกก็ยังไม่ได้น้อยลงกลับถูกเสริมกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความเหนื่อยอ่อนทำให้กำลังของอัศวินทั้งสองถดถอยมาจนใกล้เคียงกับข้าศึก การต่อกรกับข้าศึกจึงไม่ได้ง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากแบบเดิม ทั้งที่ข้าศึกเหล่านั้นก็เป็นเพียงทหารปลายแถวเหมือนทุกครั้ง สงครามดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึงสองวันสองคืนโดยไม่ได้พัก ในที่สุด อัศวินที่สองซึ่งมีแต่ดาบไม่มีโล่ไว้สำหรับป้องกันตัวก็พลาดท่าเสียทีทหารปลายแถวคนหนึ่งที่อาศัยจังหวะที่อัศวินที่สองเหนื่อยอ่อนไม่ทันระวังตัว เอาดาบแทงอัศวินที่สองเสียชีวิตกลางสนามรบ สงครามดำเนินต่อไปจนถึงวันที่สาม แม้ฝ่ายของพระราชาจะเป็นฝ่ายชนะแต่ก็ต้องสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัศวินคนที่สอง

หลังสงคราม อัศวินคนที่หนึ่งรอดชีวิตมาได้เพราะมีโล่ไว้ป้องกันตัวอีกทั้งยังสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย เวลานั้นเจ้าหญิงมีอายุครบ 16 ปีพอดี พระราชาจึงตัดสินยกลูกสาวให้พร้อมทั้งสละราชบัลลังก์ให้อัศวินคนที่สองได้ปกครองแผ่นดินต่อไป เจ้าหญิงก็รู้สึกพอพระทัยเป็นอันมากที่ได้อภิเษกกับชายผู้เป็นที่รัก
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1075
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมอ่านเจอเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ใน หนังสือนิยายของ Michael Crichton - The Lost World

เกี่ยวกับทฤษฏี "ความหายนะของนักพนัน" ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีทฤษฏีนี้จริงๆ ไหม
เนื้อหาประมาณว่า อย่างเกมปั่นแปะ โอกาสหัวก้อย 50-50 ใช่มะ
ทีนี้เราลองสุ่มเล่นเกม 30 เกม โดยใช้นักพนัน 50 คนก็ได้
ผลที่ได้ควรจะเปน นักพนันที่ชนะกับแพ้ควรจะประมาณครึ่งๆ ใช่ไหมครับ

ทีนี้ผลที่ได้จริงๆ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ปรากฏว่า นักพนันที่แพ้ในเกมมีมากกว่านักพนันที่ชนะอย่างมีนัยในทางสถิติ
ไม่อย่างนั้นบ่อนในโลกนี้ต้องมีเจ๊งกะอยู่รอดครึ่งต่อครึ่ง
และก็เป็นจริงที่ว่าบ่อนรวยเอาๆๆๆๆๆๆ คนเล่นหมดตัวเอาๆๆๆๆๆๆ

ในนนังสือให้เหตุผลว่าที่ผลเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อนักพนันดวงซวยขึ้นมา
มันมักจะซวยติดต่อกันไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างที่มีคำพังเพยว่า ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน  
มันไม่ได้ชั่วที ดีที สลับกันไปเรื่อย
อ่านแล้วก็ เอออ แฮะ มันก็ฟังดูเข้าท่าอยู่
ไม่รับรองนะครับว่ามีทฤษฏีนี้จริงหรือปล่าว ฟังเล่นๆ ไว้ล่ะกัน

ประเด็นคือ อย่าคิดและลงทุนหุ้นอย่างนักพนัน จบข่าว
erawan
Verified User
โพสต์: 139
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ลองซื้อหุ้นปันผลดีมีสภาพคล่องช่วงประกาศแล้วขายก่อนขึ้นหมายสัก2-3ตัวจะเข้าใจว่าดีเหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนรักน้ำมัน
Verified User
โพสต์: 266
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เข้าบ่อนไปเลยดิครับ จะมาเล่นหุ้นให้เสียเวลาอยู่ทำไม
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
ภาพประจำตัวสมาชิก
manza125
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ชอบกระทู้นี้จัง ให้ความรู้เยอะดี  :lol:
คนรักน้ำมัน เขียน:เข้าบ่อนไปเลยดิครับ จะมาเล่นหุ้นให้เสียเวลาอยู่ทำไม
สงสัยจะด่าคุณพี่ picklife หรือ ดร. เลยนะเนี้ย ฮ่าๆ

ช่วงนี้มีพนันในเน็ตเยอะ จะเข้าบ่อนทำไมกันเล่า  :cry:

แต่ผมว่าการเล่นพนันกับเล่นหุ้น margin มันต่างกันเยอะนะครับ แค่มีความเสี่ยงที่คล้ายๆ แต่มองดีๆความเสี่ยงต่างกันพอสมควรนะ
หุ้นเรายังรู้บ้างว่ามันทำอะไร กำไรเป็นไง มาจากไหน แค่ใส่ margin ที่คิดว่าความมั่นใจลงไปเพื่อหวังผลตอบแทน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น
แต่อีพนันเนี้ย เช่นไพ่เงี้ย เราไม่รู้แม้แต่มันผลิตที่ไหน ใช้อะไรทำ แต่เรามองแค่ว่า เมื่อไหร่ป๊อกจะออก ขอให้ได้สเตสฟลัด เป็นต้น

แต่ถ้าจะให้ผมเล่น margin ผมขอผ่าน
เป้าหมายคือออมเงิน มิใช่ความโลภ
ดังนั้น รับมิได้กับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเท่าตัว
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนรักน้ำมัน
Verified User
โพสต์: 266
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 19

โพสต์

[quote="manza125"]ชอบกระทู้นี้จัง ให้ความรู้เยอะดี
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนรักน้ำมัน
Verified User
โพสต์: 266
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 20

โพสต์

การใช้มาร์จินมันก็คือการนำหุ้นที่ตัวเองเล่นทำให้เสมือนเป็นวอร์แรนท์ ที่จริงก็หลักการเดียวกับ FUTURE แต่ leverage น้อยกว่าและเล่นได้ทางเดียว มันจึงเหมือนวอร์แรนท์มากกว่า Future สิ่งที่ผมเขียนไปข้างต้นถ้าแรงก็ขออภัย เพียงแต่อยากสะกิดเตือนมือใหม่ที่ไม่เข้าใจมันดีพอ เพราะถ้าคิดฝันเอาตามแบบตัวอย่างที่จขกท.ว่ามา อาจหมดตัวได้โดยเร็ว และหลักการใช้มาร์จินที่จริงเขาไว้เล่นเมื่อเป็นขาขึ้นหรือเมื่อกำลังเป็นขาขึ้นเท่านั้น หากแน่ใจว่าเป็นขาลงต้องหยุดเล่นไม่ใช่ขายออกทีละหน่อยๆแบบที่จขกท.ว่ามาครับ อีกอย่างหากตามตัวอย่างที่จขกท.สร้างโมเดลมาที่จะกำไรปีที่10 ประมาณ 100 ล้านอะไรนั่น ถ้าเก่งถึงขนาดทำกำไรได้ 50 % ทุกปีขนาดนั้น ไมไม่ไปเล่น Future เลยล่ะครับ เพราะเงื่อนไขเดียวกันปีที่ 10 ได้เงินถึง 17,000 ล้านบาท แต่ความเป็นจริงคนหมดตัวก่อนปีที่สุด(แถมเป็นหนี้โบรก) มีมากมาย บางคนถึงกับผูกคอตาย เพราะก่อนเล่นหุ้นมีเงิน ออกจากตลาดกับต้องหลบหนีหนี้เพราะไม่มีเงินจะใช้ ลองคิดให้รอบคอบเถอะครับ ผมหวังดีนะครับที่เตือน
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sorgios
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 21

โพสต์

[quote="yoyo"]สูตร แทงเสียแล้ว Double
หรือสูตรตรงข้าม แทงได้แล้ว Double
ผมลองมาหมดแล้ว.. เจ๊งทั้งคู่
CHIN UP, Do not give up !!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 22

โพสต์

สวัสดีครับ วันนี้เอาสูตรมาฝากครับ รู้สึกจะโดนแซวๆ มาแชร์ความคิดเพื่อให้คนใช้มาร์จิ้นระวังกลับโดนแซวซะงั้น อิอิ  ก็เขียนต่อละกันนะครับ สำหรับแก๊งมาร์จิ้นทั้งหลาย ถ้าห้ามไม่ได้ก็ขอให้มีความรู้เพื่อการป้องกันตัวเองละกันครับ

สูตร
Loss=(Port*(1-MM)-Loan)/(Port*(1-MM))

Loss=%ว่าพอร์ทรวมติดลบเท่าไหร่ถึงมีMMตามที่ใส่ลงไป
Port=Valueทั้งหมดในพอร์ทมาร์จิ้น
MM=ทุนต่อพอร์ท ตัวนี้ถ้าต่ำกว่า0.35จะโดนเรียกเงิน ต่ำกว่า0.25จะโดนบังคับขาย
Loan=หนี้สินที่แสดงในพอร์ท

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตัวอย่าง
มีเงิน100บาท กู้เงิน50บาท จะได้
Port=150
MM=35,25
Loan=50

แทนค่า
Loss=(150*(1-0.35)-50)/(150*(1-0.35))=48.7%
Loss=(150*(1-0.25)-50)/(150*(1-0.25))=55.5%

สรุป
กรณีใช้มาร์จิ้น50% ถ้าพอร์ทรวมติดลบ48.7%เราจะถูกเรียกเงินเพิ่ม
ถ้าติดลบเกิน55.5%เราจะถูกบังคับขาย

ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา ผมสมมุติเกิดวิกฤติขึ้นมา กรณีเดิม พอร์ทลดขนาดลงมา30% Port=150*0.7=105 Loanเท่าเดิม
Loss=(105*(1-0.35)-50)/(105*(1-0.35))=26.7%
Loss=(105*(1-0.25)-50)/(105*(1-0.25))=36.5%
แสดงว่าณ.จุดที่หุ้นเราร่วงมา30% เราสามารถร่วงได้อีก26.7%จะถูกเรียกเงิน และร่วงอีก36.5%จะถูกบังคับขาย

จุดนี้เราสามารถขายบางส่วนเพื่อลดloanได้ ซึ่งมันจะทำให้ช่วงการตกของราคาเพิ่มขึ้น
เช่น ขายออก10 Loan=40 Port=95
Loss=(95*(1-0.35)-40)/(95*(1-0.35))=35.2%
Loss=(95*(1-0.25)-40)/(95*(1-0.25))=43.8%
ก็จะสามารถช่วยยืดเส้นตายออกไปได้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปล.สูตรนี้ผมไม่ได้เขียนเพื่อเชียร์ให้คนเล่นมาร์จิ้นนะครับ แต่อยากให้คนที่เล่นมาร์จิ้นทุกคนรู้ไว้และLinkใส่Excelไว้เสมอพอเปลี่ยนค่าเราจะสามารถรู้สถานะของตัวเราเองได้ตลอด จะได้ไม่เกิดการแตกตื่นหนูติดจั่นขึ้นณ.ช่วงเวลานั้นเราจะมีสตครบถ้วน100%และเราจะรู้เองว่าเราจะทำอะไรต่อไป
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 23

โพสต์

[quote="pongo"]ผมอ่านเจอเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ใน หนังสือนิยายของ Michael Crichton - The Lost World

เกี่ยวกับทฤษฏี "ความหายนะของนักพนัน" ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีทฤษฏีนี้จริงๆ ไหม
เนื้อหาประมาณว่า อย่างเกมปั่นแปะ โอกาสหัวก้อย 50-50 ใช่มะ
ทีนี้เราลองสุ่มเล่นเกม 30 เกม โดยใช้นักพนัน 50 คนก็ได้
ผลที่ได้ควรจะเปน นักพนันที่ชนะกับแพ้ควรจะประมาณครึ่งๆ ใช่ไหมครับ

ทีนี้ผลที่ได้จริงๆ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ปรากฏว่า นักพนันที่แพ้ในเกมมีมากกว่านักพนันที่ชนะอย่างมีนัยในทางสถิติ
ไม่อย่างนั้นบ่อนในโลกนี้ต้องมีเจ๊งกะอยู่รอดครึ่งต่อครึ่ง
และก็เป็นจริงที่ว่าบ่อนรวยเอาๆๆๆๆๆๆ คนเล่นหมดตัวเอาๆๆๆๆๆๆ

ในนนังสือให้เหตุผลว่าที่ผลเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อนักพนันดวงซวยขึ้นมา
มันมักจะซวยติดต่อกันไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างที่มีคำพังเพยว่า ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ผมไป เกนติ้ง มาเลเซีย
แลกชิพ ไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนนะ  
ไม่มีเก็บส่วนต่างแต่อย่างใด
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 1

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 25

โพสต์

จากประสบการณ์คนเคยใช้มาร์จิ้นนะครับ
ข้อดีของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถได้เงินมากกว่าปกติหรือเพิ่มโอกาสเมื่อเห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า
ขอเสียของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถเจ๊งได้ง่ายขึ้น
2.เพิ่มความเครียดให้กับชีวิตเมื่อหุ้นที่ซื้อมันลง
3.เพิ่มความกลัวและความโลภให้กับตัวเราเมื่อเห็นราคาหุ้นมันเหวี่ยงขึ้นลง
4.ลดจำนวนหุ้นที่ต้องเรียนรู้ลงเพราะโบรกไม่ปล่อยมาร์จิ้น
สุดท้ายแลไม่ท้ายสุด.....เมียด่า......
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 26

โพสต์

naris เขียน:จากประสบการณ์คนเคยใช้มาร์จิ้นนะครับ
ข้อดีของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถได้เงินมากกว่าปกติหรือเพิ่มโอกาสเมื่อเห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า
ขอเสียของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถเจ๊งได้ง่ายขึ้น
2.เพิ่มความเครียดให้กับชีวิตเมื่อหุ้นที่ซื้อมันลง
3.เพิ่มความกลัวและความโลภให้กับตัวเราเมื่อเห็นราคาหุ้นมันเหวี่ยงขึ้นลง
4.ลดจำนวนหุ้นที่ต้องเรียนรู้ลงเพราะโบรกไม่ปล่อยมาร์จิ้น
สุดท้ายแลไม่ท้ายสุด.....เมียด่า......
:rofl: ข้อสุดท้ายนี่เล่นเอาแก้วแทบร่วงครับ 555+
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BABY TERMITE
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 27

โพสต์

naris เขียน:จากประสบการณ์คนเคยใช้มาร์จิ้นนะครับ
ข้อดีของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถได้เงินมากกว่าปกติหรือเพิ่มโอกาสเมื่อเห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า
ขอเสียของการใช้มาร์จิ้น
1.เพิ่มอำนาจในการเล่นให้สามารถเจ๊งได้ง่ายขึ้น
2.เพิ่มความเครียดให้กับชีวิตเมื่อหุ้นที่ซื้อมันลง
3.เพิ่มความกลัวและความโลภให้กับตัวเราเมื่อเห็นราคาหุ้นมันเหวี่ยงขึ้นลง
4.ลดจำนวนหุ้นที่ต้องเรียนรู้ลงเพราะโบรกไม่ปล่อยมาร์จิ้น
สุดท้ายแลไม่ท้ายสุด.....เมียด่า......
อ่านเจอประสบการณ์ข้อสุดท้าย เลยตัดสินใจได้ว่าไม่ใช้ดีกว่า  :lol:  :lol:
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
ภาพประจำตัวสมาชิก
peacedev
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 28

โพสต์

[quote="picklife"]
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1223
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 29

โพสต์

BABY TERMITE เขียน:
อ่านเจอประสบการณ์ข้อสุดท้าย เลยตัดสินใจได้ว่าไม่ใช้ดีกว่า
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

ก่อนเล่น Margin!!!! ต้องอ่าน!!!

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ!

บัฟเฟตใช้เงินสด โซรอสใช้มาจิ้นโป๊ะฟิวเจอร์แถมช๊อตด้วย5555


แต่นี่มันไทยวีไอไม่ใช่เรอะ  :lol:
โพสต์โพสต์