ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 121
แทนที่เราใช้ หนี้ระยะยาว เราใช้หนี้เงินกู้ดีกว่าไหมครับ
และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ต้องระวังนะครับ เพราะรายการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียนนั้น บางบริษัทอาจมีความผันผวนมาก ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ต้องระวังด้วยครับ
และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ต้องระวังนะครับ เพราะรายการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียนนั้น บางบริษัทอาจมีความผันผวนมาก ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ต้องระวังด้วยครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 123
[quote="chatchai"]แทนที่เราใช้
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 125
[quote="chatchai"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="chatchai"]แทนที่เราใช้
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 126
การเริ่มศึกษางบ ควรเริ่มต้นอย่างไรไม่ให้เบื่อและท้อครับ
ทัศนติมีผลมากหรือปล่าวครับ ส่วนตัวรู้สึกว่ามีความสำคัญมากแต่ยัรู้แค่งูๆปลาๆ ไม่ได้คึกษาจริงจังครับ ใครมีประสบการช่วยแนะนำหน่อยครับถ้าให้ดีเอาเป็นสแต็ปเลยครับ
ทัศนติมีผลมากหรือปล่าวครับ ส่วนตัวรู้สึกว่ามีความสำคัญมากแต่ยัรู้แค่งูๆปลาๆ ไม่ได้คึกษาจริงจังครับ ใครมีประสบการช่วยแนะนำหน่อยครับถ้าให้ดีเอาเป็นสแต็ปเลยครับ
" เสียงข้างใน" เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เราได้ยินมัน แต่มันไม่มีเสียง ,,,,,นิ้วกลม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 127
การลงทุนที่จะให้ผลประสบความสำเร็จอย่างมากๆในระยะยาวนั้น ผมว่าต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในหลายๆเรื่องมาก เช่น
การวิเคราะห์และเข้าใจงบการเงิน
การวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจของบริษัทต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ผ่านทั้งตลาดกระทิง ตลาดหมี
ความรู้ ความเข้าใจ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทั้งของไทย และโลก
ติดตามข่าวสารที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างมากมายในแต่ละวัน
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหลายคน โดยเฉพาะในเวบของเรานี้ สามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว และมากมายจริงๆครับ ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก
แต่ละคนอาจมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถแตกต่างกัน มากบ้างน้อยบ้างในตอนเริ่มต้น แต่ทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ ความขยันครับ ผู้ที่เป็นเซียนแต่ละคนมีความขยันอย่างมากๆ
ตอนเด็ก เราอาจจะขยันเรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะดีๆ ขยันทำงานเพื่อที่ได้รับตำแหน่งดีๆ
แต่ตอนนี้ เราจะขยันเพื่อความมั่นคงทางการเงินของเราและครอบครัวไปตลอดชีวิต แล้วทำไมเราถึงไม่ขยันมั่นเพียรละครับ
ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ๆสนใจการลงทุนกันเยอะมาก ขยันกันมากๆ ลงทุนเดินทางข้ามจังหวัดมาอบรม มาพบปะ มาสัมมนา
ถ้าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น เราก็ล้าหลังกว่าคนอื่นนะครับ
การวิเคราะห์และเข้าใจงบการเงิน
การวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจของบริษัทต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ผ่านทั้งตลาดกระทิง ตลาดหมี
ความรู้ ความเข้าใจ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทั้งของไทย และโลก
ติดตามข่าวสารที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างมากมายในแต่ละวัน
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหลายคน โดยเฉพาะในเวบของเรานี้ สามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว และมากมายจริงๆครับ ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก
แต่ละคนอาจมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถแตกต่างกัน มากบ้างน้อยบ้างในตอนเริ่มต้น แต่ทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ ความขยันครับ ผู้ที่เป็นเซียนแต่ละคนมีความขยันอย่างมากๆ
ตอนเด็ก เราอาจจะขยันเรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะดีๆ ขยันทำงานเพื่อที่ได้รับตำแหน่งดีๆ
แต่ตอนนี้ เราจะขยันเพื่อความมั่นคงทางการเงินของเราและครอบครัวไปตลอดชีวิต แล้วทำไมเราถึงไม่ขยันมั่นเพียรละครับ
ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ๆสนใจการลงทุนกันเยอะมาก ขยันกันมากๆ ลงทุนเดินทางข้ามจังหวัดมาอบรม มาพบปะ มาสัมมนา
ถ้าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น เราก็ล้าหลังกว่าคนอื่นนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 354
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 128
รบกวนถามพี่ฉัตรอีกครั้งครับ
กรณี PTL บริษัทแจ้งว่าจะเริ่มเสียภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมษายน 2011
เป็นต้นไป ที่นี้ PTL มีบริษัทย่อยที่ตุรกีอยู่ด้วย ผมสงสัยว่าแล้วกำไรจาก
ตุรกีต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ จึงลองเมล์สอบถาม IR ได้ความว่าไม่ต้องเสีย
ดังนี้ครับ
ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ดี แล้วสุดท้ายเราต้องเสียภาษีในส่วนกำไรของตุรกีไหมครับ? หรือว่าการคิดภาษีจะคิดจากงบเดีี่ยวครับ?
ขอบคุณครับพี่ฉัตร
กรณี PTL บริษัทแจ้งว่าจะเริ่มเสียภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมษายน 2011
เป็นต้นไป ที่นี้ PTL มีบริษัทย่อยที่ตุรกีอยู่ด้วย ผมสงสัยว่าแล้วกำไรจาก
ตุรกีต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ จึงลองเมล์สอบถาม IR ได้ความว่าไม่ต้องเสีย
ดังนี้ครับ
ที่ผมสงสัยก็คือว่ากำไรจากตุรกีทั้งหมด สุดท้ายมันก็รับรู้ผ่านทางบริษัทที่ไทยUnder BOI privileges, the company enjoys 100% corporate tax exemption for first 8 years (from dt. of first sale under each certificate) and 50% tax exemption for next 5 years. Our first BOI certificate tax exemption benefit is expiring in April 2011 and the profits from operations of this project will be subject to tax at 50% of normal tax rate of 25%, so the effective tax rate would be 12.5%. This is only for Thailand and not applicable to Turkey unit. They are 100% corporate tax exempt since it is set up in a Free Trade zone.
ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ดี แล้วสุดท้ายเราต้องเสียภาษีในส่วนกำไรของตุรกีไหมครับ? หรือว่าการคิดภาษีจะคิดจากงบเดีี่ยวครับ?
ขอบคุณครับพี่ฉัตร
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 129
[quote="chatchai"]
ตอนเด็ก
ตอนเด็ก
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 130
การลงทุนที่จะให้ผลประสบความสำเร็จอย่างมากๆในระยะยาวนั้น ผมว่าต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในหลายๆเรื่องมาก เช่น
การวิเคราะห์และเข้าใจงบการเงิน
การวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจของบริษัทต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ผ่านทั้งตลาดกระทิง ตลาดหมี
ความรู้ ความเข้าใจ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทั้งของไทย และโลก
ติดตามข่าวสารที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างมากมายในแต่ละวัน
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหลายคน โดยเฉพาะในเวบของเรานี้ สามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว และมากมายจริงๆครับ ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก
แต่ละคนอาจมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถแตกต่างกัน มากบ้างน้อยบ้างในตอนเริ่มต้น แต่ทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ ความขยันครับ ผู้ที่เป็นเซียนแต่ละคนมีความขยันอย่างมากๆ
ตอนเด็ก เราอาจจะขยันเรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะดีๆ ขยันทำงานเพื่อที่ได้รับตำแหน่งดีๆ
แต่ตอนนี้ เราจะขยันเพื่อความมั่นคงทางการเงินของเราและครอบครัวไปตลอดชีวิต แล้วทำไมเราถึงไม่ขยันมั่นเพียรละครับ
ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ๆสนใจการลงทุนกันเยอะมาก ขยันกันมากๆ ลงทุนเดินทางข้ามจังหวัดมาอบรม มาพบปะ มาสัมมนา
ถ้าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น เราก็ล้าหลังกว่าคนอื่นนะครับ
สุดยอดครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 354
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 131
ตอนนี้ได้รับคำตอบแล้วครับ ว่าภาษีจะคิดจากงบเดีียว ไม่ได้คิดจากงบรวมหมีขาว เขียน:รบกวนถามพี่ฉัตรอีกครั้งครับ
กรณี PTL บริษัทแจ้งว่าจะเริ่มเสียภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมษายน 2011
เป็นต้นไป ที่นี้ PTL มีบริษัทย่อยที่ตุรกีอยู่ด้วย ผมสงสัยว่าแล้วกำไรจาก
ตุรกีต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ จึงลองเมล์สอบถาม IR ได้ความว่าไม่ต้องเสีย
ดังนี้ครับ
ที่ผมสงสัยก็คือว่ากำไรจากตุรกีทั้งหมด สุดท้ายมันก็รับรู้ผ่านทางบริษัทที่ไทย
ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ดี แล้วสุดท้ายเราต้องเสียภาษีในส่วนกำไรของตุรกีไหมครับ? หรือว่าการคิดภาษีจะคิดจากงบเดีี่ยวครับ?
ขอบคุณครับพี่ฉัตร
ยังไงถ้าผมโพสต์อะไรไม่เหมาะสมขออภัยด้วยนะครับ ผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่งครับ :D
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 134
สมัยก่อนตอนผมเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ เนื่องจากเรียนมาทางวิศวะ ถึงแม้จะเลือกเรียนสาขาอุตสาหการซึ่งก็เป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกัยทางธุรกิจมากที่สุด และยังเลือกวิชาเลือกที่เกี่ยวกับธุรกิจของคณะบัญชีบริหารอีก แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีความรู้ไม่เพียงพอ
ถึงแม้จะซื้อหนังสือเกี่ยวกับบัญชีหลายๆเล่มมาอ่านเอง ก็ยังไม่มั่นใจ
ทำงานไป เล่นหุ้นไป ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง
ผมก็คิดว่า เวลาในชีวิตของผมก็สูญเสียไปกับการทำงานที่ไม่ได้ชอบมามากพอแล้ว ถ้ายังคงทำงานต่อไปเหมือนเดิม ชีวิตก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากทำงานไปวันๆ
สุดท้ายก็เลยคิดที่จะไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว เรียนปริญญาโท บริหารธุรกิจที่ธรรมศาสตร์
แต่แน่นอนว่า สถาบันแห่งนี้ สอบเข้ายากมากๆ
ผมยอมที่จะขาดรายได้จากการทำงาน และเพิ่มแรงกดดันให้แก่ตัวเองมากขึ้น เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ก็แปลกใจที่เราลาออกจากงาน ซึ่งเราก็บอกว่าเพื่อเตรียมตัวสอบ ถ้าเราสอบไม่ได้ก็คงแย่
ทำให้ผมไม่สามารถเตรียมตัวสอบแบบเล่นๆ สบายๆได้แล้ว
ถึงแม้จะซื้อหนังสือเกี่ยวกับบัญชีหลายๆเล่มมาอ่านเอง ก็ยังไม่มั่นใจ
ทำงานไป เล่นหุ้นไป ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง
ผมก็คิดว่า เวลาในชีวิตของผมก็สูญเสียไปกับการทำงานที่ไม่ได้ชอบมามากพอแล้ว ถ้ายังคงทำงานต่อไปเหมือนเดิม ชีวิตก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากทำงานไปวันๆ
สุดท้ายก็เลยคิดที่จะไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว เรียนปริญญาโท บริหารธุรกิจที่ธรรมศาสตร์
แต่แน่นอนว่า สถาบันแห่งนี้ สอบเข้ายากมากๆ
ผมยอมที่จะขาดรายได้จากการทำงาน และเพิ่มแรงกดดันให้แก่ตัวเองมากขึ้น เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ก็แปลกใจที่เราลาออกจากงาน ซึ่งเราก็บอกว่าเพื่อเตรียมตัวสอบ ถ้าเราสอบไม่ได้ก็คงแย่
ทำให้ผมไม่สามารถเตรียมตัวสอบแบบเล่นๆ สบายๆได้แล้ว
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 136
เรามาคุยกันเรื่องการประเมินราคา SSC ของ CIMB กันดีกว่าครับ
ทาง CIMB ก็ใช้วิธีประเมินราคากันหลายวิธี
ประเด็นที่ผมอยากจะคุยด้วย คือ วิธี Discounted Cash Flow to Firm ครับ
เพื่อนๆลองอ่านดูนะครับ แล้วมาคุยกัน
ทาง CIMB ก็ใช้วิธีประเมินราคากันหลายวิธี
ประเด็นที่ผมอยากจะคุยด้วย คือ วิธี Discounted Cash Flow to Firm ครับ
เพื่อนๆลองอ่านดูนะครับ แล้วมาคุยกัน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 138
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 140
ผมดูคร่าวๆ นะครับรู้สึกว่าตาราง FCFF หน้า 21 มันแปลกๆ ปกติตามตำรา
FCFF = Net Income + Depre + Int*(1-t) - working_cap_inv - Fix_inv
แต่ FCFF จากตารางเนี่ยไม่รู้มาไงเค้าอาจไม่โชว์บางแถว ?
FCFF = Net Income + Depre + Int*(1-t) - working_cap_inv - Fix_inv
แต่ FCFF จากตารางเนี่ยไม่รู้มาไงเค้าอาจไม่โชว์บางแถว ?
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 604
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 142
ร่วมลงชื่อศึกษาด้วยคนค่ะ
จองที่เข้ามานั่งเรียนอีก 1 ตำแหน่งค่ะ ^^
จองที่เข้ามานั่งเรียนอีก 1 ตำแหน่งค่ะ ^^
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
-
- Verified User
- โพสต์: 258
- ผู้ติดตาม: 0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 143
ผมไม่จบบัญชี การเงินอะไรนะครับ อาจจะไม่เข้าใจอะไรลึกซึ้ง
อย่างแรกที่สงสัย คือ ตัวเลขประมาณการกำไรสุทธิ มาจากไหน (ที่อ่านมาจะบอกว่าทางที่ปรึกษาได้จากฝ่ายบริหาร)
ก็อยู่ในช่วงประมาณ 500-600 ลบ. ถ้าทำได้ใน 5 ปี คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 15% เลยนะครับ
ถ้าถามว่าทำไมประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 จึงสำคัญ เพราะตัวเลขนี้จะนำไปเป็นส่วนนึงของการหาค่า terminal value
ถ้าดูจากตัวเลข NPV ที่ทางที่ปรึกษาเสนอมาอยู่ที่ 9,383 ลบ. เป็นค่าของ NPV ส่วน terminal value 8,144 ลบ คิดเป็น 86% ของมูลค่าทั้งหมด
ผมคิดว่า ทางที่ปรึกษา ควรจะทำตัวเลขเป็นช่วงมากกว่านะครับ เช่น 700-800-900-1000 อะไรทำนองนี้นะครับ
แทนที่จะใช้ 1,012 ตัวเดียวเลยหรือเค้าอาจจะทำแล้วแต่ไม่นำเสนอก็ไม่ทราบนะครับ
อย่างแรกที่สงสัย คือ ตัวเลขประมาณการกำไรสุทธิ มาจากไหน (ที่อ่านมาจะบอกว่าทางที่ปรึกษาได้จากฝ่ายบริหาร)
โดยเฉพาะปี 2557 ประมาณการกำไร 1,012.2 ลบ. จะทำได้เหรอครับ ดูจากตัวเลขกำไรสุทธิย้อนหลัง 4-5 ปี2553F 367.7
2554F 450.7
2555F 612.7
2556F 805.0
2557F 1,012.2
ก็อยู่ในช่วงประมาณ 500-600 ลบ. ถ้าทำได้ใน 5 ปี คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 15% เลยนะครับ
ถ้าถามว่าทำไมประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 จึงสำคัญ เพราะตัวเลขนี้จะนำไปเป็นส่วนนึงของการหาค่า terminal value
ถ้าดูจากตัวเลข NPV ที่ทางที่ปรึกษาเสนอมาอยู่ที่ 9,383 ลบ. เป็นค่าของ NPV ส่วน terminal value 8,144 ลบ คิดเป็น 86% ของมูลค่าทั้งหมด
ผมคิดว่า ทางที่ปรึกษา ควรจะทำตัวเลขเป็นช่วงมากกว่านะครับ เช่น 700-800-900-1000 อะไรทำนองนี้นะครับ
แทนที่จะใช้ 1,012 ตัวเดียวเลยหรือเค้าอาจจะทำแล้วแต่ไม่นำเสนอก็ไม่ทราบนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 145
Rm =16.8 ของ SSC
คำถามของผมคือ มันรวมความเสี่ยงด้านการเมืองเข้าไปด้วยหรือเปล่า
ถ้ารวมแล้ว ผมก็ถือว่า OK แล้ว
เพราะว่า มันคือผลตอบแทนของตลาดทุน
ส่วนเรื่องของตารางหน้า 16
คนทำนั้นทำอย่างย่อมากๆๆ ไม่ยึดตามตำราอย่างเหนี่ยวแน่น ที่ต้องแสดง
ทุกอย่าง เพราะ มันอาจเอาแค่ ขั้นตอนการคำนวณสุดท้ายมาแสดงก็ได้ครับ
ส่งท้ายคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง
เพื่อนบอกว่า คนที่ทำถือว่าทำมาหลาย deal แล้วน่ะครับ
คนนี้เป็นมืออาชีพในการทำ deal ล่ะครับ
คำถามของผมคือ มันรวมความเสี่ยงด้านการเมืองเข้าไปด้วยหรือเปล่า
ถ้ารวมแล้ว ผมก็ถือว่า OK แล้ว
เพราะว่า มันคือผลตอบแทนของตลาดทุน
ส่วนเรื่องของตารางหน้า 16
คนทำนั้นทำอย่างย่อมากๆๆ ไม่ยึดตามตำราอย่างเหนี่ยวแน่น ที่ต้องแสดง
ทุกอย่าง เพราะ มันอาจเอาแค่ ขั้นตอนการคำนวณสุดท้ายมาแสดงก็ได้ครับ
ส่งท้ายคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง
เพื่อนบอกว่า คนที่ทำถือว่าทำมาหลาย deal แล้วน่ะครับ
คนนี้เป็นมืออาชีพในการทำ deal ล่ะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 146
จากการทำประมาณการงบการเงิน
เราจะได้ตัวเลข ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่าย กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ และกำไรสุทธิ
แต่ไม่แสดงตัวเลขของรายได้จากการขายให้เราเห็นเลยแฮะ ทำไมไม่แสดงละครับ
มีใครรู้บ้างว่า ตามสมมุติฐานที่ทำมา รายได้ของบริษัทเติบโตมากน้อยแค่ไหน
เราจะได้ตัวเลข ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่าย กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ และกำไรสุทธิ
แต่ไม่แสดงตัวเลขของรายได้จากการขายให้เราเห็นเลยแฮะ ทำไมไม่แสดงละครับ
มีใครรู้บ้างว่า ตามสมมุติฐานที่ทำมา รายได้ของบริษัทเติบโตมากน้อยแค่ไหน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 148
ตอบพี่ฉัตรชัยครับ
ของพี่เริ่มหน้า 14 เป็นต้นไปถึงหน้า 22 ครับ
หน้าแรกของช่วงที่บอก IFA บอกถึงข้อสมมุติฐานที่เขาตั้งไว้ครับ
ว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากงบของบริษัทอื่นย้อนหลัง และบริษัทของเราเองด้วย
ถึงได้ค่าเหล่านั้นมาครับ
ของพี่เริ่มหน้า 14 เป็นต้นไปถึงหน้า 22 ครับ
หน้าแรกของช่วงที่บอก IFA บอกถึงข้อสมมุติฐานที่เขาตั้งไว้ครับ
ว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากงบของบริษัทอื่นย้อนหลัง และบริษัทของเราเองด้วย
ถึงได้ค่าเหล่านั้นมาครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 149
ประเด็น คือ ผมอยากจะรู้ว่า รายได้ที่เป็นจำนวนเงินในแต่ละปีเท่าไร เติบโตมากน้อยแค่ไหนmiracle เขียน:ตอบพี่ฉัตรชัยครับ
ของพี่เริ่มหน้า 14 เป็นต้นไปถึงหน้า 22 ครับ
หน้าแรกของช่วงที่บอก IFA บอกถึงข้อสมมุติฐานที่เขาตั้งไว้ครับ
ว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากงบของบริษัทอื่นย้อนหลัง และบริษัทของเราเองด้วย
ถึงได้ค่าเหล่านั้นมาครับ
อีกประเด็นหนึ่ง ปริมาณการขายของเครื่องดื่มน้ำอัดลมโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ทำไมในการประมาณการถึงได้โตประมาณ 3.6% ถึง 4% ทุกปีจนถึงปี 2557
ผมว่าไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับนะครับ ทำไมเราไม่ประมาณการเติบโตเท่าเฉลี่ยละครับ มูลค่าคงลดลงอย่างมากเลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
โพสต์ที่ 150
ตอบพี่ฉัตรชัย
----------------------------------------------------------
จากสมมติฐานข้างต้น ปริมาณการขายเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายตัวได้อย่าง
ต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในปี 2552 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและ
ส่งผลให้มีปริมาณการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศมากขึ้น โดยเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมมีอัตราการเติบโตของ
ปริมาณการขายที่ร้อยละ 7.1 ในช่วงไตรมาสแรกปี 2553 และมีปริมาณการขายที่เติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 ในช่วง 5 ปีที่
ผ่านมา (ปี 2548 ถึงปี 2552) ในขณะที่เครื่องดื่มประเภทอื่นซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภท
น้ำอัดลม จะสามารถรักษาระดับการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสมมติฐานดังกล่าวมีความ
สอดคล้องต่ออัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2551 จนถึงปี 2552 คือที่ร้อยละ 16.8 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหารที่
จะเน้นเครื่องดื่มประเภทอื่นมากขึ้น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม
-----------------------------------------------------
มาจากหน้า 16 ครับ
การทำ Pro formula statement คนทำสามารถตั้งสมมุติฐานอย่างไงก็ได้
อันนี้คือข้อดีและข้อเสียเลยว่าเป็นเช่นไร
ดังนั้นคนทำจึงเขียนสมมุติฐานเอาไว้ว่า ตั้งอยู่บนอะไร และ make sense หรือไม่
ข้อมูลในอดีตก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่มันตรงกับความเป็นจริงหรือเปล่า เป็นประเด็นที่น่าคิดว่า ที่ต่ำนั้นเป็นการต่ำเพราะสินค้าเดิมถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ถ้าหากมีสินค้าใหม่เข้ามาตอนนี้ตลาดอาจจะกลับสู่ช่วง S ตัวใหม่ก็ได้
ถ้าให้ดีข้อมูลมาจากผู้บริหารครับ อันนี้ถ้าหากเป็นไปตามผู้บริหารบอกก็ได้ แล้วเอาตัวเลขที่สัมภาษณ์มาทำครับ
----------------------------------------------------------
จากสมมติฐานข้างต้น ปริมาณการขายเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายตัวได้อย่าง
ต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในปี 2552 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและ
ส่งผลให้มีปริมาณการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศมากขึ้น โดยเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมมีอัตราการเติบโตของ
ปริมาณการขายที่ร้อยละ 7.1 ในช่วงไตรมาสแรกปี 2553 และมีปริมาณการขายที่เติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 ในช่วง 5 ปีที่
ผ่านมา (ปี 2548 ถึงปี 2552) ในขณะที่เครื่องดื่มประเภทอื่นซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภท
น้ำอัดลม จะสามารถรักษาระดับการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสมมติฐานดังกล่าวมีความ
สอดคล้องต่ออัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2551 จนถึงปี 2552 คือที่ร้อยละ 16.8 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหารที่
จะเน้นเครื่องดื่มประเภทอื่นมากขึ้น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม
-----------------------------------------------------
มาจากหน้า 16 ครับ
การทำ Pro formula statement คนทำสามารถตั้งสมมุติฐานอย่างไงก็ได้
อันนี้คือข้อดีและข้อเสียเลยว่าเป็นเช่นไร
ดังนั้นคนทำจึงเขียนสมมุติฐานเอาไว้ว่า ตั้งอยู่บนอะไร และ make sense หรือไม่
ข้อมูลในอดีตก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่มันตรงกับความเป็นจริงหรือเปล่า เป็นประเด็นที่น่าคิดว่า ที่ต่ำนั้นเป็นการต่ำเพราะสินค้าเดิมถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ถ้าหากมีสินค้าใหม่เข้ามาตอนนี้ตลาดอาจจะกลับสู่ช่วง S ตัวใหม่ก็ได้
ถ้าให้ดีข้อมูลมาจากผู้บริหารครับ อันนี้ถ้าหากเป็นไปตามผู้บริหารบอกก็ได้ แล้วเอาตัวเลขที่สัมภาษณ์มาทำครับ