ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 32
การซื้อแพงกว่าขาย DSM ก็ทำได้ครับ ถ้าเข้าใจแนวคิด
และ DSM เอามาประยุกษ์กับการขายขาขึ้นได้ด้วยครับ เราขายทีละ 10% ของหุ้นที่เหลือเท่านั้นเองครับ เหลือหุ้นอีกตั้งเยอะเอาไว้บุกต่อครับ แต่ถ้าราคามันไหลลงมาก็เสร็จอยู่ดีครับ
และ DSM เอามาประยุกษ์กับการขายขาขึ้นได้ด้วยครับ เราขายทีละ 10% ของหุ้นที่เหลือเท่านั้นเองครับ เหลือหุ้นอีกตั้งเยอะเอาไว้บุกต่อครับ แต่ถ้าราคามันไหลลงมาก็เสร็จอยู่ดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 34
ตั้งแต่ใช้ DSM มา สิ่งที่ผมได้รับไม่ใช่ตัวเงินครับ แต่มันได้กำไรทางด้านความคิด
จริงๆแล้วหัวใจ DSM คือ ซื้อให้ถูกกว่าขายเท่านั้นเองครับ ที่ต่อเติมจากนั้นคือแนวคิดครับ ผมยังแค่หางแถวของ DSM เองครับ ยังมีอะไรต้องคิดอีกเยอะครับ
จริงๆแล้วหัวใจ DSM คือ ซื้อให้ถูกกว่าขายเท่านั้นเองครับ ที่ต่อเติมจากนั้นคือแนวคิดครับ ผมยังแค่หางแถวของ DSM เองครับ ยังมีอะไรต้องคิดอีกเยอะครับ
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 35
good morning
หลังจากไปนอนคิดมาครับ
สรุปว่า port ผมยังไม่เหมาะ กับ เทคนิก นี้ ครับ
แต่มันมีแวบ มาครับว่า งั้นฃื้อหุ้นที่มี swing มากๆ ไม่สนพื้นฐาน
เพื่อใช้ dsm ทำกำไร แล้วค่อยมาฃื้อหุ้นดีๆ ดีเปล่า
แต่คิดไปคิดมา ก็มีคำถามสุดท้ายครับ
Is this a big trap for all investors?
ถ้ารายย่อย port เล็กๆ เริ่มใช้ เทคนิก มากโดย หนีจาก พื้นฐานมากๆ
จะเป็นอย่างไร
อืม... ฤาว่า มันใกล้แล้ว
การใช้ DSM เป็นการทรยศต่อ สำนัก ???
ดาบสองคม เมดตอด หรือเปล่า???
หลังจากไปนอนคิดมาครับ
สรุปว่า port ผมยังไม่เหมาะ กับ เทคนิก นี้ ครับ
แต่มันมีแวบ มาครับว่า งั้นฃื้อหุ้นที่มี swing มากๆ ไม่สนพื้นฐาน
เพื่อใช้ dsm ทำกำไร แล้วค่อยมาฃื้อหุ้นดีๆ ดีเปล่า
แต่คิดไปคิดมา ก็มีคำถามสุดท้ายครับ
Is this a big trap for all investors?
ถ้ารายย่อย port เล็กๆ เริ่มใช้ เทคนิก มากโดย หนีจาก พื้นฐานมากๆ
จะเป็นอย่างไร
อืม... ฤาว่า มันใกล้แล้ว
การใช้ DSM เป็นการทรยศต่อ สำนัก ???
ดาบสองคม เมดตอด หรือเปล่า???
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 36
สวัสดีครับคุณsmokerfield ดีครับมาช่วยอธิบายsmkf เขียน:การซื้อแพงกว่าขาย DSM ก็ทำได้ครับ ถ้าเข้าใจแนวคิด
และ DSM เอามาประยุกษ์กับการขายขาขึ้นได้ด้วยครับ เราขายทีละ 10% ของหุ้นที่เหลือเท่านั้นเองครับ เหลือหุ้นอีกตั้งเยอะเอาไว้บุกต่อครับ แต่ถ้าราคามันไหลลงมาก็เสร็จอยู่ดีครับ
ทำDSM ต้องได้ใจ ทัศนคติเป็นDSM Investor
ทำValue investment ต้องมีทัศนคติValue Investor
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 37
ในโหมโรง ไอ้ทิวพูดว่า
"คนเรามันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร
ทางใครก็ทางมันซิว่ะ"
ไม่รู้นะ
ผมอาจจะเป็นคนรุ่นเก่าที่ไม่ทันโลก
ผมเบื่อคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" มากๆ
ยิ่งไปรู้ว่า นายคนที่เขียน"พ่อรวยสอนลูก"
เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็นพ่อจน
พ่อข้างบ้านเป็นพ่อรวย
ผมยิ่งเกลียดคำนี้ กับไอ้หมอนี่มากขึ้นไปอีก
"คนเรามันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร
ทางใครก็ทางมันซิว่ะ"
ไม่รู้นะ
ผมอาจจะเป็นคนรุ่นเก่าที่ไม่ทันโลก
ผมเบื่อคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" มากๆ
ยิ่งไปรู้ว่า นายคนที่เขียน"พ่อรวยสอนลูก"
เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็นพ่อจน
พ่อข้างบ้านเป็นพ่อรวย
ผมยิ่งเกลียดคำนี้ กับไอ้หมอนี่มากขึ้นไปอีก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 39
เข้าใจครับ เพราะเฮียคลายเครียดไม่ได้มองว่าเงินคือเป้าหมาย แต่เป็นแค่วิธีการผมเบื่อคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" มากๆ
ผมก็ไม่ชอบ Kiyosaki เพราะคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" ของเขา เป็นวิธีการ
หากินวิธีหนึ่ง สร้างกับดักให้ "คนอยากรวย" (เลยไม่เคยซื้อหนังสือสักเล่ม)
ฝรั่งมองผู้ให้กำเนิดเป็น "เพื่อน" มากกว่า "บุพrการี" ครับ การเอาบิดามาเผา
จึงเป็นเรื่องค่อนข้างจะยอมรับได้ในสังคมของเขา
ด้วยเหตุนี้ หนังสือของคุณวิกรม กรมดิษฐ์จึงไม่น่าจะขายดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 41
เคยจนครับ เคยไม่มีข้าวกิน ต้องบากหน้าไปขอก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามจากร้านด้วยลองจนดูครับ แล้วจะเข้าใจหักอกคนจนด้วยกัน
เคยต้องกระโดดขึ้นรถเมล์แล้วรีบโดดลงเวลากระเป๋ามาใกล้จะถึงข้างหลัง
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จน อยู่ที่คุณพอใจหรือไม่พอใจ อยู่ที่คุณ "จะ" ทำอย่างไรถ้า
ไม่พอใจ
ผมไม่ชอบ Kiyosaki แต่ผมเรียนรู้จากเขาเยอะมากครับ
ผมก็ไม่ได้ชื่นชมดร.นิเวศน์ แต่ก็เรียนรู้จากดร.เยอะเหมือนกัน
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 42
DSM ดูแล้วเหมาะกับหุ้นที่แนวโน้มเป็นขาลงนะครับ
ถ้าหากเป็นแนวโน้มขาขึ้น การขายแล้วซื้อกลับคืน ที่ราคาต่ำกว่าเดิม ในจำนวนที่เท่าเดิมหรือมากขึ้นคงทำได้ยากนะครับ
ในช่วงตลาดเป็นขาขึ้น ผมมองว่า Buy and Hold น่าจะทำผลตอบแทนได้อย่างดีวิธีการหนึ่ง โดยการเลือกหุ้นแบบเน้นวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซื้อเมื่อราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และขายเมื่อราคาเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ประเมินเอาไว้ ซึ่งตลอดการลงทุนของผม เน้นการใช้แบบนี้มาตลอด ซึ่งก็จะมีปัญหาบางในช่วงหุ้นเป็นขาลง แต่ผมจะ Discount ราคาเป้าหมายลง ตามภาวะตลาด
อีกอย่าง ส่วนใหญ่เมื่อผมขายแล้ว จะหันไปหาหุ้นตัวอื่นแทน ซึ่งต้องวิเคราะห์แล้วว่าดีกว่า หรือพอๆ กัน และต้องมีราคาถูกกว่า หรือสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า หากหุ้นที่มองมีราคายังไม่ตรงกับความต้องการ หรือยังไม่มีหุ้นที่น่าสนใจ ก็จะถือเป็นเงินสดแทน แล้วรอซักระยะหนึ่ง ส่วนการซื้อหุ้นเดิมกลับ จะมีการกลับมาซื้อบ้างหากว่าราคาหุ้นตัวที่ขายไปแล้วมันลดลงมาก
เหตุที่ต้องขายอีกอย่างคือวิเคราะห์ผิด หรือมีปัจจัยแวดล้อมในขณะนั้นที่มากระทบบริษัทในระยะมากกว่าครึ่งปี ก็จะขาย ถึงแม้ว่าจะขาดทุนส่วนต่างราคาก็ตาม
ซึ่งดูแล้วก็ค่อนข้างจะตรงข้ามกับ DSM พอควร (พอดีผมอ่าน DSM จากที่นี่ ยังไม่มีความรู้ในด้านลึก ไม่รู้ว่าผมเข้าใจ DSM ผิดหรือเปล่า ถ้าผิดไปก็ช่วยบอกกล่าวด้วยครับ)
ผมว่าแต่ล่ะวิธีมันก็มีจุดแข็งจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้การเลือกใช้วิธีการใด ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่ยึดติดกับวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะดีกว่า
ผมอ่านจากกระทู้นี้ ก็ชักจะเริ่มสนใจ DSM สงสัยต้องหาเวลาศึ่กษาเพิ่มเติมครับ
ถ้าหากเป็นแนวโน้มขาขึ้น การขายแล้วซื้อกลับคืน ที่ราคาต่ำกว่าเดิม ในจำนวนที่เท่าเดิมหรือมากขึ้นคงทำได้ยากนะครับ
ในช่วงตลาดเป็นขาขึ้น ผมมองว่า Buy and Hold น่าจะทำผลตอบแทนได้อย่างดีวิธีการหนึ่ง โดยการเลือกหุ้นแบบเน้นวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซื้อเมื่อราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และขายเมื่อราคาเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ประเมินเอาไว้ ซึ่งตลอดการลงทุนของผม เน้นการใช้แบบนี้มาตลอด ซึ่งก็จะมีปัญหาบางในช่วงหุ้นเป็นขาลง แต่ผมจะ Discount ราคาเป้าหมายลง ตามภาวะตลาด
อีกอย่าง ส่วนใหญ่เมื่อผมขายแล้ว จะหันไปหาหุ้นตัวอื่นแทน ซึ่งต้องวิเคราะห์แล้วว่าดีกว่า หรือพอๆ กัน และต้องมีราคาถูกกว่า หรือสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า หากหุ้นที่มองมีราคายังไม่ตรงกับความต้องการ หรือยังไม่มีหุ้นที่น่าสนใจ ก็จะถือเป็นเงินสดแทน แล้วรอซักระยะหนึ่ง ส่วนการซื้อหุ้นเดิมกลับ จะมีการกลับมาซื้อบ้างหากว่าราคาหุ้นตัวที่ขายไปแล้วมันลดลงมาก
เหตุที่ต้องขายอีกอย่างคือวิเคราะห์ผิด หรือมีปัจจัยแวดล้อมในขณะนั้นที่มากระทบบริษัทในระยะมากกว่าครึ่งปี ก็จะขาย ถึงแม้ว่าจะขาดทุนส่วนต่างราคาก็ตาม
ซึ่งดูแล้วก็ค่อนข้างจะตรงข้ามกับ DSM พอควร (พอดีผมอ่าน DSM จากที่นี่ ยังไม่มีความรู้ในด้านลึก ไม่รู้ว่าผมเข้าใจ DSM ผิดหรือเปล่า ถ้าผิดไปก็ช่วยบอกกล่าวด้วยครับ)
ผมว่าแต่ล่ะวิธีมันก็มีจุดแข็งจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้การเลือกใช้วิธีการใด ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่ยึดติดกับวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะดีกว่า
ผมอ่านจากกระทู้นี้ ก็ชักจะเริ่มสนใจ DSM สงสัยต้องหาเวลาศึ่กษาเพิ่มเติมครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Golden Stock เมื่อ พุธ ธ.ค. 29, 2004 2:09 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 44
ผมชอบทั้งคู่ และเรียนรู้จากทั้งคู่เยอะ แต่ก็หวังว่าจะมีอะไรที่ดีๆเหมือนทั้งคู่ผมไม่ชอบ Kiyosaki แต่ผมเรียนรู้จากเขาเยอะมากครับ
ผมก็ไม่ได้ชื่นชมดร.นิเวศน์ แต่ก็เรียนรู้จากดร.เยอะเหมือนกัน
ต่างคน ต่างมุมมอง ผมว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะชอบ ไม่ชอบ แต่การมีเหตุผลที่ดีแบบนี้ คุยกันสบายใจครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 46
DSM จะมีหลายแผน
ขึ้น ลง sideway
ถ้าลงอย่างเดียว ไม่ดีครับ
มักจะต้องเปลี่ยนร่าง
DSM มีแนวคิดลงทุนก็จริง
แต่พร้อมเปลี่ยนร่าง ขายทิ้งเปลี่ยนตัว
ไม่ยึดติดตัวหุ้น แต่ไม่ทิ้งไปเสียทีเดียว
ยังคงลงบัญชี จำนวนและราคาขายสุดท้ายไว้
เมื่อถึงเวลา อาจนานมาก อาจรับกลับหรือไม่ก็ได้
DSMจะยึดระบบบัญชีเป็นหลักในการลงทุน
ผมก็ไม่ชอบคำว่าอิสรภาพทางการเงิน
แต่เมื่อผมอ่านบทสุดท้ายของ โรเบิร์ต ในเกษียนเร็วเกษียนรวย
ผมถึงเข้าใจว่า ไม่แตกต่างในความคิดจากคุณอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
แม้ว่าอาจนับถือต่างศาสนากัน
ขึ้น ลง sideway
ถ้าลงอย่างเดียว ไม่ดีครับ
มักจะต้องเปลี่ยนร่าง
DSM มีแนวคิดลงทุนก็จริง
แต่พร้อมเปลี่ยนร่าง ขายทิ้งเปลี่ยนตัว
ไม่ยึดติดตัวหุ้น แต่ไม่ทิ้งไปเสียทีเดียว
ยังคงลงบัญชี จำนวนและราคาขายสุดท้ายไว้
เมื่อถึงเวลา อาจนานมาก อาจรับกลับหรือไม่ก็ได้
DSMจะยึดระบบบัญชีเป็นหลักในการลงทุน
ผมก็ไม่ชอบคำว่าอิสรภาพทางการเงิน
แต่เมื่อผมอ่านบทสุดท้ายของ โรเบิร์ต ในเกษียนเร็วเกษียนรวย
ผมถึงเข้าใจว่า ไม่แตกต่างในความคิดจากคุณอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
แม้ว่าอาจนับถือต่างศาสนากัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 47
เท่าที่ผมอ่านดูเค้าก็ชื่นชมพ่อแท้ๆของเค้าในแง่อื่นนะครับเพียงแต่เค้าไม่เห็นด้วยกับการบริหารเงินของพ่อจนเท่านั้นเองฝรั่งมองผู้ให้กำเนิดเป็น "เพื่อน" มากกว่า "บุพrการี" ครับ การเอาบิดามาเผา
จึงเป็นเรื่องค่อนข้างจะยอมรับได้ในสังคมของเขา
It's earnings that count
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 48
ขอบคุณครับต.หยวนเปียว เขียน:DSM จะมีหลายแผน
ขึ้น ลง sideway
ถ้าลงอย่างเดียว ไม่ดีครับ
มักจะต้องเปลี่ยนร่าง
DSM มีแนวคิดลงทุนก็จริง
แต่พร้อมเปลี่ยนร่าง ขายทิ้งเปลี่ยนตัว
ไม่ยึดติดตัวหุ้น แต่ไม่ทิ้งไปเสียทีเดียว
ยังคงลงบัญชี จำนวนและราคาขายสุดท้ายไว้
เมื่อถึงเวลา อาจนานมาก อาจรับกลับหรือไม่ก็ได้
DSMจะยึดระบบบัญชีเป็นหลักในการลงทุน
ผมก็ไม่ชอบคำว่าอิสรภาพทางการเงิน
แต่เมื่อผมอ่านบทสุดท้ายของ โรเบิร์ต ในเกษียนเร็วเกษียนรวย
ผมถึงเข้าใจว่า ไม่แตกต่างในความคิดจากคุณอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
แม้ว่าอาจนับถือต่างศาสนากัน
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 49
เท่าที่อ่านดูมาทั้งหมดดูเหมือนว่าวิธี dsm นี่มีดีที่ระเบียบการซื้อขายและการจดบันทึก น่าจะช่วยรายย่อยที่ไม่ชอบรอเพียงอย่างเดียวอย่างผมได้มากครับ แต่ผมดันถือหุ้นสี่สิบกว่าตัวจนทำ dsm ไม่ไหว เอาไงดี
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 51
ทำไมถือกันเยอะจัง อย่างนี้ดูทันเหรอครับ ระวังกับดักของมันด้วยนะเพราะจะว่าวิธีแบบนี้อาจไม่ต่างจากพวก กองทุนต่างชาติก็ได้ แต่จะดีมากหากใช้กับตลาดขาลงเพราะจะไม่เจ็บตัวหนัก ผมเข้าใจว่างั้นนะครับ
DSM คงเน้นวินัยการลงทุนมากๆเลยมั้ง แต่ผมว่าเป็นสายกระบี่คือเน้นที่กระบวนท่านะ แต่เพลงกระบี่ที่ดีโดยปราศจากกำลังภายในอย่างการวิเคราะห์พื้นฐาน ผมว่าจะมัผลต่อจิตใจมากนะยิ่งเล่นตัวที่ไม่ค่อยดีแล้วด้วย
DSM คงเน้นวินัยการลงทุนมากๆเลยมั้ง แต่ผมว่าเป็นสายกระบี่คือเน้นที่กระบวนท่านะ แต่เพลงกระบี่ที่ดีโดยปราศจากกำลังภายในอย่างการวิเคราะห์พื้นฐาน ผมว่าจะมัผลต่อจิตใจมากนะยิ่งเล่นตัวที่ไม่ค่อยดีแล้วด้วย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 52
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ตอนนี้ผมได้บทสรุปดังนี้
1. DSM ไม่จำเป็นสำหรับ VI พันธุ์แท้ เพราะโอกาสที่ราคาในตลาดจะ
ตกลงไปต่ำกว่าราคาฐานที่ VI ตัวจริงคิดว่าน่าจะเข้าซื้อ คงจะไม่มาก
จนสามารถสร้างกระแสเงินสดแฝงได้
2. VI พันธุ์แท้หลายคนเน้นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง ทำให้การใช้ DSM
เป็นไปด้วยความยากลำบาก เทียบกับปริมาณหุ้นที่มี
1. DSM ไม่จำเป็นสำหรับ VI พันธุ์แท้ เพราะโอกาสที่ราคาในตลาดจะ
ตกลงไปต่ำกว่าราคาฐานที่ VI ตัวจริงคิดว่าน่าจะเข้าซื้อ คงจะไม่มาก
จนสามารถสร้างกระแสเงินสดแฝงได้
2. VI พันธุ์แท้หลายคนเน้นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง ทำให้การใช้ DSM
เป็นไปด้วยความยากลำบาก เทียบกับปริมาณหุ้นที่มี
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 53
ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ
ฟังไม่เข้าหู อย่าโกรธ (ถึงโกรธ ผมก็ไม่รับรู้ ฮา)
เป็นการบริหารความเสี่ยง
การใช้DSM แล้วมีหุ้น 50ตัว
DSM ไม่ได้วิเคราะห์ อย่างละเอียด จนรู้จักทุกแง่มุมในตัวหุ้นที่มีอยู่
แต่ท่าจะทำVI จริงๆ
หุ้น1ตัว แบบคุณฉัตรชัย ดีที่สุด (ไม่แน่ใจก็2-3ตัว)
เมื่อมั่นใจ ศึกษาอย่างดีแล้ว
ไม่มีตัวไหนดีกว่าหุ้นที่มีอยู่ ไฉนซื้อเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
ควรซื้อเมื่อเห็นหุ้นที่ดีกว่าที่มีอยู่
แถมหุ้นที่มีอยู่ก็หวง เมื่อพื้นฐานเปลี่ยนก็ยังไม่ขาย
ฟังไม่เข้าหู อย่าโกรธ (ถึงโกรธ ผมก็ไม่รับรู้ ฮา)
เป็นการบริหารความเสี่ยง
การใช้DSM แล้วมีหุ้น 50ตัว
DSM ไม่ได้วิเคราะห์ อย่างละเอียด จนรู้จักทุกแง่มุมในตัวหุ้นที่มีอยู่
แต่ท่าจะทำVI จริงๆ
หุ้น1ตัว แบบคุณฉัตรชัย ดีที่สุด (ไม่แน่ใจก็2-3ตัว)
เมื่อมั่นใจ ศึกษาอย่างดีแล้ว
ไม่มีตัวไหนดีกว่าหุ้นที่มีอยู่ ไฉนซื้อเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
ควรซื้อเมื่อเห็นหุ้นที่ดีกว่าที่มีอยู่
แถมหุ้นที่มีอยู่ก็หวง เมื่อพื้นฐานเปลี่ยนก็ยังไม่ขาย
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 54
จากข้อความที่หลายท่านออกความเห็นมา
ก็คงยืนยันได้แล้วว่า
นายคิโยซากิ
เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็น"พ่อจน"
ส่วนพ่อใกล้บ้านเป็น "พ่อรวย" จริง
ความจริงผมไม่เคยอ่านหนังสือของเขาเลย
เคยได้ยินแต่คำว่า"อิสรภาพทางการเงิน"
กับหนังสือพ่อรวยสอนลูก
ซึ่งคนขายแอมเวย์ชอบมากๆ
ล่าสุดที่มาบรรยายในไทย
แบบต้องการเงินเพื่ออิสรภาพของตัวเอง
คนฟังมากกว่าครึ่ง
ก็คือคนขายแอมเวย์
ลองสังเกตดีๆ แม้แต่คนแปลหนังสือเป็นไทย
ก็ไม่กล้าแปลตามตัว
อาจจะรู้ว่าสังคมคนเอเซียยังรับไม่ได้
ยิ่งไปอ่านจากเวปของคนที่ไม่ชอบคิโยซากิ
http://www.johntreed.com/Kiyosaki.html
ผมยิ่งเชื่อว่า
นายคนนี้รวยจากการเขียนหนังสือขาย
ไม่ได้รวยจากเรื่องราวที่เขาเล่าแบบกึ่งจริงกึ่งนิยาย
ยังคงยืนยันคำเดิมแบบคนหัวเก่า
ผมไม่ชอบนายคนนี้
ที่เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็นพ่อจน
พ่อข้างบ้านเป็นพ่อรวย
สำหรับเรื่อง dsm มีความเห็นส่วนตัวว่า
คนที่จะประสพความสำเร็จได้
ต้องเป็นคนเจ้าระเบียบมากๆทีเดียว
ไม่งั้นอาจจะขาดทุนย่อยยับแบบที่คุณเด่นศรีได้เตือนไว้แต่ต้น
ก็คงยืนยันได้แล้วว่า
นายคิโยซากิ
เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็น"พ่อจน"
ส่วนพ่อใกล้บ้านเป็น "พ่อรวย" จริง
ความจริงผมไม่เคยอ่านหนังสือของเขาเลย
เคยได้ยินแต่คำว่า"อิสรภาพทางการเงิน"
กับหนังสือพ่อรวยสอนลูก
ซึ่งคนขายแอมเวย์ชอบมากๆ
ล่าสุดที่มาบรรยายในไทย
แบบต้องการเงินเพื่ออิสรภาพของตัวเอง
คนฟังมากกว่าครึ่ง
ก็คือคนขายแอมเวย์
ลองสังเกตดีๆ แม้แต่คนแปลหนังสือเป็นไทย
ก็ไม่กล้าแปลตามตัว
อาจจะรู้ว่าสังคมคนเอเซียยังรับไม่ได้
ยิ่งไปอ่านจากเวปของคนที่ไม่ชอบคิโยซากิ
http://www.johntreed.com/Kiyosaki.html
ผมยิ่งเชื่อว่า
นายคนนี้รวยจากการเขียนหนังสือขาย
ไม่ได้รวยจากเรื่องราวที่เขาเล่าแบบกึ่งจริงกึ่งนิยาย
ยังคงยืนยันคำเดิมแบบคนหัวเก่า
ผมไม่ชอบนายคนนี้
ที่เปรียบเทียบให้พ่อตัวเองเป็นพ่อจน
พ่อข้างบ้านเป็นพ่อรวย
สำหรับเรื่อง dsm มีความเห็นส่วนตัวว่า
คนที่จะประสพความสำเร็จได้
ต้องเป็นคนเจ้าระเบียบมากๆทีเดียว
ไม่งั้นอาจจะขาดทุนย่อยยับแบบที่คุณเด่นศรีได้เตือนไว้แต่ต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 56
เห็นด้วยกับเฮียคลายเครียดครับเรื่อง
นายคิโยซากิ รวยจากการเขียนหนังสือขาย ส่วนเรื่องการลงทุนไม่ได้รู้จริงและพยายามเขียนหนังสือยืดเยื้อกระตุ้นให้คนอ่านเล่มต่อๆ มา โดยใช้ชื่อหนังสือเรียกลูกค้าให้น่าสนใจ ผมเคยอ่านสามเล่ม ดีอยู่เล่มแรกเล่มเดียวที่เป็นการจุดประกายความคิดใช้เงินทำงาน
แต่ขอชมว่าเค้าเก่งที่เค้าเขียนหนังสือขายให้รวยได้ครับ ไม่ได้เกลียด
นายคิโยซากิ รวยจากการเขียนหนังสือขาย ส่วนเรื่องการลงทุนไม่ได้รู้จริงและพยายามเขียนหนังสือยืดเยื้อกระตุ้นให้คนอ่านเล่มต่อๆ มา โดยใช้ชื่อหนังสือเรียกลูกค้าให้น่าสนใจ ผมเคยอ่านสามเล่ม ดีอยู่เล่มแรกเล่มเดียวที่เป็นการจุดประกายความคิดใช้เงินทำงาน
แต่ขอชมว่าเค้าเก่งที่เค้าเขียนหนังสือขายให้รวยได้ครับ ไม่ได้เกลียด
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 57
ตามไปอ่านบทความของ John T. Reed มาแล้วครับ โห ยาวเหยียด
ยอมรับตามตรงครับ ว่าก่อนที่จะได้อ่านหนังสือเรื่อง Rich Dad ผมมี
อคติกับหนังสือและคนเขียนพอควร (ตามกิตติศัพท์ร่ำลือ) และปฏิเสธ
ที่จะอ่านจนกระทั่งเมื่อสี่ปีก่อน ผมต้องไปบรรยายเรื่อง "ทัศนคติกับ
ความสำเร็จ" จึงจำเป็นต้องยืมคนอื่นมาอ่าน
สนุกดีครับ แต่สิ่งที่ผมได้จะต่างจากคนอื่นเล็กน้อย เพราะ message
ที่ผมได้คือ
1. คิดจะรวย ต้องกล้าเอาเปรียบคนอื่น (น้องสาว เพื่อน ลูกน้อง ฯลฯ)
2. ยิ่งถ้าเอาเปรียบคนอื่น แล้วเขาคิดว่าเรากำลังทำบุญคุณให้เขาอยู่
ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ (คนซื้อ Rich Dad ส่วนใหญ่คิดว่า Koyosaki กำลัง
ชี้ทางสว่างให้ หารู้ไม่ว่าเขากำลังควักเงินอยู่)
แต่สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ผมชอบและได้ใช้จากหนังสือ คืออย่าใช้เงินเก็บ
มาซื้อความสะดวกให้ตัวเองครับ ถ้าต้องการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ให้ซื้อ
จากรายได้ "พิเศษ" ซึ่งงอกออกมาจากเงินเก็บเท่านั้น
ส่วนอย่างอื่น ถ้าไม่ใช่รู้อยู่แล้วก็คิดว่าไม่น่าจะทำ (เช่นเอาเปรียบคนอื่น)
แต่เห็นคนที่รวยที่สุดในประเทศ (แต่เงินอยู่ในชื่อคนอื่น) กำลังทำอยู่นะ
เป็นเทวดาเอาเงินคนอื่นชาวบ้าน ทั้งๆ ที่มืออีกข้างกำลังโกยเงินชาวบ้าน
เข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นวิน-วิน
:lol: ก็เลยคิดได้ว่า สิ่งที่ Koyasaki เขียนน่าจะจริง
ยอมรับตามตรงครับ ว่าก่อนที่จะได้อ่านหนังสือเรื่อง Rich Dad ผมมี
อคติกับหนังสือและคนเขียนพอควร (ตามกิตติศัพท์ร่ำลือ) และปฏิเสธ
ที่จะอ่านจนกระทั่งเมื่อสี่ปีก่อน ผมต้องไปบรรยายเรื่อง "ทัศนคติกับ
ความสำเร็จ" จึงจำเป็นต้องยืมคนอื่นมาอ่าน
สนุกดีครับ แต่สิ่งที่ผมได้จะต่างจากคนอื่นเล็กน้อย เพราะ message
ที่ผมได้คือ
1. คิดจะรวย ต้องกล้าเอาเปรียบคนอื่น (น้องสาว เพื่อน ลูกน้อง ฯลฯ)
2. ยิ่งถ้าเอาเปรียบคนอื่น แล้วเขาคิดว่าเรากำลังทำบุญคุณให้เขาอยู่
ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ (คนซื้อ Rich Dad ส่วนใหญ่คิดว่า Koyosaki กำลัง
ชี้ทางสว่างให้ หารู้ไม่ว่าเขากำลังควักเงินอยู่)
แต่สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ผมชอบและได้ใช้จากหนังสือ คืออย่าใช้เงินเก็บ
มาซื้อความสะดวกให้ตัวเองครับ ถ้าต้องการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ให้ซื้อ
จากรายได้ "พิเศษ" ซึ่งงอกออกมาจากเงินเก็บเท่านั้น
ส่วนอย่างอื่น ถ้าไม่ใช่รู้อยู่แล้วก็คิดว่าไม่น่าจะทำ (เช่นเอาเปรียบคนอื่น)
แต่เห็นคนที่รวยที่สุดในประเทศ (แต่เงินอยู่ในชื่อคนอื่น) กำลังทำอยู่นะ
เป็นเทวดาเอาเงินคนอื่นชาวบ้าน ทั้งๆ ที่มืออีกข้างกำลังโกยเงินชาวบ้าน
เข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นวิน-วิน
:lol: ก็เลยคิดได้ว่า สิ่งที่ Koyasaki เขียนน่าจะจริง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 59
ใช่ครับ งานประจำคือเลี้ยงและเล่นกับลูกๆ (สุนัข) ครับ เล่นหุ้นเป็นงานอดิเรกโอ้โหคุณเด่นศรีถือ SET50 หรือไงครับ แล้วแกมีงานประจำไหมครับคุณ CK
เท่าที่เคยได้ยินมา ช่วงเทรดดิ้ง แกจะใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นกับลูกๆ แว๊บมาดู
จอและจัดการขายหรือซื้อคืนตามแผนที่วางไว้ในคืนก่อน แล้วแว๊บกลับไปเล่น
ต่อ ประมาณว่าในช่วงเทรดดิ้ง 5 ชม. แกใช้เวลากับสุนัขประมาณ 4 เศษๆ
งานที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนสำหรับวันรุ่งขึ้นเมื่อตลาดปิดแล้วครับ ใช้
เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะกำไรมากกำไรน้อยก็อยู่ตรงนี้ครับ แกจะทำการลง
บัญชีให้เสร็จสรรพ ดูว่าวันพรุ่งนี้ แต่ละตัวต้องทำอะไรบ้างที่ราคาไหน ฯลฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้ DSM กับ VI นับเป็นการทรยศต่อสำนักหรือไม่
โพสต์ที่ 60
ถ้าไม่มีงานประจำก็พอทำได้ครับ แต่ผมยังรักและสนุกกับงานประจำที่ทำอยู่ ต้องให้ว่างจริงๆ ถึงจะมาดูหุ้นครับ เรื่องจดบันทึกก็ไม่ค่อยได้ทำ จำด้วยสมองคร่าวๆ ตอนนี้เริ่มหันมาใช้ quicken ตามที่คุณ CK เคยแนะนำ