เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 1
เพิ่งเปิดพอร์ทได้ไม่นาน หลังจากที่ ศึกษา เรียน อ่าน ดูพอร์ทให้คนอื่นมาตอนทำงาน แต่พอเอาเข้าจริงเงินตัวเอง(เงินไม่ติดภาระ) วิเคราะห์ก็แล้ว อ่าน ประเมิน แต่พอซื้อแล้ว พอราคาลงไป 4-5 % ก็หวิวๆ ดูอยู่ สักพัก 2-3 วัน ก็เลยขาย แต่ตอนขาย อึกๆ อักๆ พอขายเสร็จกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เด้งกลับ ทั้ง 2 ตัว จะแก้ปัญหานี้ยังไงครับ
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 2
ซื้อเพราะอะไร
เหตุนั้นเปลี่ยนหรือยัง
ถ้ายังไม่เปลี่ยน ===> ถือ
ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว ===> ขายลูกเดียว
ราคา - 5% เป็นเรื่องธรรมดาครับ ยิ่งเป็นหุ้นตัวเล็กๆ ด้วยแล้ว นักลงทุนรายกลางๆ ขายคนเดียวก็ลงได้
แนะว่าแทนที่จะสนใจราคา สนใจผลประกอบการดีกว่าครับ หรือ ข่าวที่จะมากระทบ ผลประกอบการ (อันนี้ก็ต้องฝึกกรองข่าวไร้สาระออกจากข่าวที่มีสาระ)
เหตุนั้นเปลี่ยนหรือยัง
ถ้ายังไม่เปลี่ยน ===> ถือ
ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว ===> ขายลูกเดียว
ราคา - 5% เป็นเรื่องธรรมดาครับ ยิ่งเป็นหุ้นตัวเล็กๆ ด้วยแล้ว นักลงทุนรายกลางๆ ขายคนเดียวก็ลงได้
แนะว่าแทนที่จะสนใจราคา สนใจผลประกอบการดีกว่าครับ หรือ ข่าวที่จะมากระทบ ผลประกอบการ (อันนี้ก็ต้องฝึกกรองข่าวไร้สาระออกจากข่าวที่มีสาระ)
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 264
- ผู้ติดตาม: 1
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 3
ถ้าใจไม่นิ่ง แนะนำซื้อกองทุนรวมดีกว่ามั้ยครับ :8)
"If the day were the last day of my life, what i want to do what i am about to do today? and whenever the answer has been "No" for to many day in a row, i know i need to change something" Steve Jobs
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 4
สวัสดีครับพี่ PRO_BABY
ผมเองยังเป็นมือใหม่หัดลงทุน เพิ่งผ่านปัญหานี้มาไม่กี่วันกับหุ้นบางตัว แล้วเกิดความรู้สึกวูบวาบเหมือนพี่ ผมเจออย่างนี้ และคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทันที ไม่ปล่อยข้ามวัน และพบว่า สาเหตุของปัญหานี้เกิดจาก
1. ไม่รู้ว่าธุรกิจของหุ้นที่ลงทุน มันหารายได้เข้าบริษัท ผ่านช่องทางไหน
2. ไม่รู้ว่าแต่ละช่องทาง คิดเป็น % ของรายได้รวมบริษัท
3. ไม่รู้ว่า ปีที่เกิดวิกฤติ ส่วนไหนได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และส่วน
ไหนที่ยังดำเนินไปอย่างปกติ
4. ไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้ควบคุมต้นทุน ได้ดีเพียงใด และต้นทุนนี้อ่อนไหว
ไปตาม demand/supply ตลาดโลกเพียงใด
5. ไม่รู้ว่า กำไรของบริษัทนี้ ผันผวน หรือ เติบโตสม่ำเสมอ หรือ ทรงๆ
6. ไม่ได้ติดตาม ข่าวสาร เป้าหมายทางธุรกิจ ที่ผู้บริหารให้มา
7. ไม่ได้เอาข้อมูลที่หาได้ มาประเมินมูลค่าหุ้น ให้ได้ค่าที่ชัดเจน ทำให้ไม่รู้
ว่า ราคาหุ้นในตลาด มันถูก/แพงเกินไป เมื่อเทียบกับตัวธุรกิจ
ความไม่รู้ ไม่มั่นใจ ทั้งหลายนี้ ทำให้ผมวูบวาบไปกับนายตลาด จนซื้อ/ขาย
หุ้น ผิดวาระ ครับ
รอเพื่อนๆผู้มากประสบการณ์ มาตอบต่อนะครับ ผมเป็นแค่ มือใหม่ ที่อยาก
ทำอะไรได้ตามเป้าหมายเท่านั้นครับ
ผมเองยังเป็นมือใหม่หัดลงทุน เพิ่งผ่านปัญหานี้มาไม่กี่วันกับหุ้นบางตัว แล้วเกิดความรู้สึกวูบวาบเหมือนพี่ ผมเจออย่างนี้ และคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทันที ไม่ปล่อยข้ามวัน และพบว่า สาเหตุของปัญหานี้เกิดจาก
1. ไม่รู้ว่าธุรกิจของหุ้นที่ลงทุน มันหารายได้เข้าบริษัท ผ่านช่องทางไหน
2. ไม่รู้ว่าแต่ละช่องทาง คิดเป็น % ของรายได้รวมบริษัท
3. ไม่รู้ว่า ปีที่เกิดวิกฤติ ส่วนไหนได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และส่วน
ไหนที่ยังดำเนินไปอย่างปกติ
4. ไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้ควบคุมต้นทุน ได้ดีเพียงใด และต้นทุนนี้อ่อนไหว
ไปตาม demand/supply ตลาดโลกเพียงใด
5. ไม่รู้ว่า กำไรของบริษัทนี้ ผันผวน หรือ เติบโตสม่ำเสมอ หรือ ทรงๆ
6. ไม่ได้ติดตาม ข่าวสาร เป้าหมายทางธุรกิจ ที่ผู้บริหารให้มา
7. ไม่ได้เอาข้อมูลที่หาได้ มาประเมินมูลค่าหุ้น ให้ได้ค่าที่ชัดเจน ทำให้ไม่รู้
ว่า ราคาหุ้นในตลาด มันถูก/แพงเกินไป เมื่อเทียบกับตัวธุรกิจ
ความไม่รู้ ไม่มั่นใจ ทั้งหลายนี้ ทำให้ผมวูบวาบไปกับนายตลาด จนซื้อ/ขาย
หุ้น ผิดวาระ ครับ
รอเพื่อนๆผู้มากประสบการณ์ มาตอบต่อนะครับ ผมเป็นแค่ มือใหม่ ที่อยาก
ทำอะไรได้ตามเป้าหมายเท่านั้นครับ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 5
คิดแล้วคิดอีกว่าจะตอบคำถามนี้ดีหรือไม่
ขอตอบสั้น ๆ แบบนี้ครับ
"ใครเป็นอาจารย์ของคุณในเรื่องของการลงทุนครับ" อาจารย์ของคุณ เค้าให้หลักคิดอย่างไรบ้าง และคุณเอาคำสอนนั้นมาใช้ดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างไร
เริ่มแค่นี้ก่อนครับ
ปล. อาจารย์ในที่นี้ อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ หรือ กูรู หลาย ๆ ท่านในนี้ หรือท่านอื่น หรือแม้กระทั่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้หมด
สร้างวิธีการลงทุนของตนเองก่อน แล้วดูว่าวิธีนั้นมัน work หรือไม่ ถ้าไม่ก็ปรับปรุง ถ้าใช่ก็มุ่งมั่น
อย่ามัวแต่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ซื้อแล้วก็ภาวนาว่าจะขึ้น ขายแล้วก็ภาวนาว่าจะลง นั่นไม่ใช่นักลงทุน
ก็ง่าย ๆ แค่นี้
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอตอบสั้น ๆ แบบนี้ครับ
"ใครเป็นอาจารย์ของคุณในเรื่องของการลงทุนครับ" อาจารย์ของคุณ เค้าให้หลักคิดอย่างไรบ้าง และคุณเอาคำสอนนั้นมาใช้ดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างไร
เริ่มแค่นี้ก่อนครับ
ปล. อาจารย์ในที่นี้ อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ หรือ กูรู หลาย ๆ ท่านในนี้ หรือท่านอื่น หรือแม้กระทั่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้หมด
สร้างวิธีการลงทุนของตนเองก่อน แล้วดูว่าวิธีนั้นมัน work หรือไม่ ถ้าไม่ก็ปรับปรุง ถ้าใช่ก็มุ่งมั่น
อย่ามัวแต่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ซื้อแล้วก็ภาวนาว่าจะขึ้น ขายแล้วก็ภาวนาว่าจะลง นั่นไม่ใช่นักลงทุน
ก็ง่าย ๆ แค่นี้
เป็นกำลังใจให้ครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 279
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 6
มีคนเคยบอกไว้ว่า รักจะใหญ่ใจต้องนิ่งครับ
ประสบการณ์+เวลาช่วยได้ครับ
แรกๆๆก็อย่างนี้แหล่ะครับเดี๋ยวก็ชินเองไม่มีใครรู้หรอกครับว่า ราคาดุลยภาพอยู่ที่จุดไหน แต่ระยะยาวแล้ว ราคาจะวิ่งไปหามูลค่าของมันเอง
ประสบการณ์+เวลาช่วยได้ครับ
แรกๆๆก็อย่างนี้แหล่ะครับเดี๋ยวก็ชินเองไม่มีใครรู้หรอกครับว่า ราคาดุลยภาพอยู่ที่จุดไหน แต่ระยะยาวแล้ว ราคาจะวิ่งไปหามูลค่าของมันเอง
ขออภัยมือใหม่พึ่งหัดลงทุนงับ ^_______^
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 7
เป็น 3 ท่านนี้ครับ (อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ )เพราะศึกษาแนวทางแต่ละท่านมาหลายปี แต่พอซื้อหุ้นเป้นพอร์ทตัวเองชักหวิวๆ ส่วนการเลือกหุ้นผมดูที่ ธุรกิจก่อนครับว่าอันไหนน่าสนใจ แล้วดูบริษัทในกลุ่มนั้นๆ แล้วเลือกที่ผลประกอบการทีี่เป็นต้นๆ ในกลุ่ม จากนั้นก็ศึกษาข้อมูล ธุรกิจอย่างละเอียด ประเมินมูลค่า เท่าที่มีความรู้จากการอ่าน เรียนมา แล้วก้ซื้อด้วยความตั้งใจ แต่...ก็หวิวครับเวลาซื้อแล้วNevercry.boy เขียน:คิดแล้วคิดอีกว่าจะตอบคำถามนี้ดีหรือไม่
ขอตอบสั้น ๆ แบบนี้ครับ
"ใครเป็นอาจารย์ของคุณในเรื่องของการลงทุนครับ" อาจารย์ของคุณ เค้าให้หลักคิดอย่างไรบ้าง และคุณเอาคำสอนนั้นมาใช้ดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างไร
เริ่มแค่นี้ก่อนครับ
ปล. อาจารย์ในที่นี้ อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ หรือ กูรู หลาย ๆ ท่านในนี้ หรือท่านอื่น หรือแม้กระทั่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้หมด
สร้างวิธีการลงทุนของตนเองก่อน แล้วดูว่าวิธีนั้นมัน work หรือไม่ ถ้าไม่ก็ปรับปรุง ถ้าใช่ก็มุ่งมั่น
อย่ามัวแต่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ซื้อแล้วก็ภาวนาว่าจะขึ้น ขายแล้วก็ภาวนาว่าจะลง นั่นไม่ใช่นักลงทุน
ก็ง่าย ๆ แค่นี้
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 8
งั้นแถมให้อีกคน
อาจารย์เบน แกรแฮม
เคยสอนบัฟเฟตต์และวอลเตอร์ J สล็อซ
ให้ใช้วิธีเปรียบเทียบ
เช่น หุ้นที่เราชอบ กับหุ้นตัวอื่นแล้วดูว่าราคาที่เราซื้อถูกจริง ๆ หรือไม่
ถ้าใช่ก็ค่อยซื้อ
ก็ง่าย ๆ แค่นี้ครับ
อาจารย์เบน แกรแฮม
เคยสอนบัฟเฟตต์และวอลเตอร์ J สล็อซ
ให้ใช้วิธีเปรียบเทียบ
เช่น หุ้นที่เราชอบ กับหุ้นตัวอื่นแล้วดูว่าราคาที่เราซื้อถูกจริง ๆ หรือไม่
ถ้าใช่ก็ค่อยซื้อ
ก็ง่าย ๆ แค่นี้ครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- satantuey
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 9
ถ้ายังลังเล สับสนระหว่างว่าจะขายดีหรือไม่ขายดี....แนะนำว่าลองขายออกมาซักครึ่งนึงก่อน ถ้ามันลงต่ออย่างน้อยก็ขายไปแล้วครึ่งนึง ถ้าขึ้นไป ก็ยังเหลืออีกครึ่งนึงไว้ลุ้น.........
แต่จุดสำคัญไม่ใช่ตรงขายครึ่งนึงนะครับ........จุดสำคัญเราต้องกลับมาวิเคราะห์เหตุการณ์ วิเคราะห์สิ่งที่ผ่านมาหรือบทเรียน ว่าทำไมเราถึงขาย ตอนที่เราซื้อ ตอนนั้นเราคิดว่ายังไง แล้วเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร เพราะเราวิเคราะห์หรือคาดการพลาด หรือบกพร่องตรงไหน ค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้ครับ ใหม่ๆใจก็เต้น.....เป็นทุกคน เหอๆ :lol: :lol: :lol: :lol:
แต่จุดสำคัญไม่ใช่ตรงขายครึ่งนึงนะครับ........จุดสำคัญเราต้องกลับมาวิเคราะห์เหตุการณ์ วิเคราะห์สิ่งที่ผ่านมาหรือบทเรียน ว่าทำไมเราถึงขาย ตอนที่เราซื้อ ตอนนั้นเราคิดว่ายังไง แล้วเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร เพราะเราวิเคราะห์หรือคาดการพลาด หรือบกพร่องตรงไหน ค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้ครับ ใหม่ๆใจก็เต้น.....เป็นทุกคน เหอๆ :lol: :lol: :lol: :lol:
- manza125
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 10
ธรรมดาครับ
เวลาเราซื้อหุ้นจะลง เวลาขายหุ้นจะขึ้น
โดยเฉพาะหุ้นที่มีคนติดตามเยอะๆ (เก็งกำไร ปั่น)
พอเข้าไปซื้อปุบ เค้าจะรู้เพราะมีพวกมาก พอเราเห็นว่าขาดทุนแล้วต้องตัดใจขายไป ก็ไม่ต่างจากแมงเม่า
ฉะนั้นเมื่อเข้ามาในเว็บแห่ง vi แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องได้อะไรดีๆไปแน่
แรกๆก็เป็นกันแบบนี้หมดแหละ แต่ถ้าเราซื้อหุ้นที่ถูกจริงๆ ยังไงซักวันมันก็ขึ้น อย่ารีบ แต่โปรดติดตามข่าวในหุ้นที่เราซื้อด้วยก็ดี
แรกๆควรซื้อหุ้นตามเค้าไปก่อน แล้วศึกษาดูว่าพี่ๆทำไมถึงเลือกหุ้นตัวนี้ แล้วซักพักก็จะชิน แล้วเลือกหุ้นเองโดยไม่ต้องดูคนอื่น
อย่างที่คุณ misterjai ว่าไว้ เวลา+ประสบการณ์ คือสิ่งสำคัญ :twisted:
เวลาเราซื้อหุ้นจะลง เวลาขายหุ้นจะขึ้น
โดยเฉพาะหุ้นที่มีคนติดตามเยอะๆ (เก็งกำไร ปั่น)
พอเข้าไปซื้อปุบ เค้าจะรู้เพราะมีพวกมาก พอเราเห็นว่าขาดทุนแล้วต้องตัดใจขายไป ก็ไม่ต่างจากแมงเม่า
ฉะนั้นเมื่อเข้ามาในเว็บแห่ง vi แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องได้อะไรดีๆไปแน่
แรกๆก็เป็นกันแบบนี้หมดแหละ แต่ถ้าเราซื้อหุ้นที่ถูกจริงๆ ยังไงซักวันมันก็ขึ้น อย่ารีบ แต่โปรดติดตามข่าวในหุ้นที่เราซื้อด้วยก็ดี
แรกๆควรซื้อหุ้นตามเค้าไปก่อน แล้วศึกษาดูว่าพี่ๆทำไมถึงเลือกหุ้นตัวนี้ แล้วซักพักก็จะชิน แล้วเลือกหุ้นเองโดยไม่ต้องดูคนอื่น
อย่างที่คุณ misterjai ว่าไว้ เวลา+ประสบการณ์ คือสิ่งสำคัญ :twisted:
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 11
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการซื้อหุ้น (ไม่ใช่การขายหุ้น)
และคิดว่า ถ้าหุ้นตัวนั้นลง 15% คุณรู้สึกอย่างไร
ถ้ารู้สึกกลัว หรือเฉยๆ ก็อย่าซื้อ
เราจะซื้อ ก็เฉพาะ หุ้นเมื่อมันลงไป 15% เราอยากซื้อเพิ่ม
(ก่อนจะซื้อเพิ่มก็ต้องดูหุ้นตัวนั้นให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นซึ่งน่าจะดู
ดีๆก่อนซื้อแล้ว)
นี่คือคำแนะนำของปีเตอร์ลิน
หลังจากที่ผมใช้หลักคิดข้อนี้ หุ้นที่ผมอยากได้มีน้อยมาก
ตอนนี้ ทั้งตลาด มีแค่ 2-3 ตัวเอง
และคิดว่า ถ้าหุ้นตัวนั้นลง 15% คุณรู้สึกอย่างไร
ถ้ารู้สึกกลัว หรือเฉยๆ ก็อย่าซื้อ
เราจะซื้อ ก็เฉพาะ หุ้นเมื่อมันลงไป 15% เราอยากซื้อเพิ่ม
(ก่อนจะซื้อเพิ่มก็ต้องดูหุ้นตัวนั้นให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นซึ่งน่าจะดู
ดีๆก่อนซื้อแล้ว)
นี่คือคำแนะนำของปีเตอร์ลิน
หลังจากที่ผมใช้หลักคิดข้อนี้ หุ้นที่ผมอยากได้มีน้อยมาก
ตอนนี้ ทั้งตลาด มีแค่ 2-3 ตัวเอง
Blueplanet
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 12
เป็นปกติของคนที่พึ่งเข้ามากลัวไปหมด
การแก้ปัญหาคือซื้อเฉพาะสิ่งที่อยู่ในขอบข่ายความรู้ของเรา
และเห็นว่าได้กำไรที่ราคาซื้อ(มีmargin of safetyที่เพียงพอ)
และต้องทำใจว่าไม่มีใครในโลกที่จะได้ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำสุด แล้วขายที่ราคาสูงสุดได้เสมอไป
การแก้ปัญหาคือซื้อเฉพาะสิ่งที่อยู่ในขอบข่ายความรู้ของเรา
และเห็นว่าได้กำไรที่ราคาซื้อ(มีmargin of safetyที่เพียงพอ)
และต้องทำใจว่าไม่มีใครในโลกที่จะได้ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำสุด แล้วขายที่ราคาสูงสุดได้เสมอไป
- MYBIZ
- Verified User
- โพสต์: 888
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 13
สู้ต่อไปครับ เรียนรู้จากความผิดพลาด เป็นประสบการณ์เพื่อความสำเร็จในอนาคต
วินัยในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อได้วิเคราะห์มาดีแล้วอย่าหวั่นไหว
ซื้อแล้วนิ่ง นิ่งแล้วลง ขายแล้วขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ผมโดนมาเยอะ ดีว่าพอร์ตยังลูกออ๊อดอยู่ เลยมีเวลาเรียนรู้ อิอิๆๆ
วินัยในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อได้วิเคราะห์มาดีแล้วอย่าหวั่นไหว
ซื้อแล้วนิ่ง นิ่งแล้วลง ขายแล้วขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ผมโดนมาเยอะ ดีว่าพอร์ตยังลูกออ๊อดอยู่ เลยมีเวลาเรียนรู้ อิอิๆๆ
จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 15
เซียนหลายๆคนว่าไว้ว่าการลงทุนเป็น ศาสตร์ครึ่งหนึ่ง ศิลป์อีกครึ่งหนึง
คน2คน ที่เก่งเหมือนกัน รู้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่คนนึงจิตใจเข้มแข็ง อีกคนจิตใจอ่อนแอ แค่นี้ก็ทำให้ผลตอบแทน 2 คนนี้ต่างกันมหาศาลได้แล้วครับ
ผมเองเข้าตลาดมาตอนต้นปี 08 ครับ วันแรกๆที่ซื้อหุ้น พอราคาตกลงมา 1% ผมก็เครียดและกังวลแล้วครับ ขายทิ้งแบบพี่ก็มีครับ จำได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนขาดทุนยาวมาโดยตลอดครับ ช่วง 3-4 เดือนแรกๆก็อยู่ที่ ลบ3-4% ช่วง 2 เดือนแรกๆยอมรับว่ากังวลมากครับ แต่ก็กัดฟันถือมาและก็ศึกษาหุ้นเหล่านั้นให้มากขึ้นและมั่นใจว่าเราเลือกไม่ผิดแน่ๆ หุ้นในปีนั้นที่ผมมีมากสุดก็คือ BGT BOL TNH ซึ่งพอ SET ไหลลงมาที่ 380 ตอนตุลา ผมก็ลงมาด้วยครับ
วันที่ SET ลงมา 380 ตอนนั้น PORT ผมขาดทุนไป 35% ครับ ที่แปลกคือความกังวลและความเครียดของผมในตอนนั้นกลับแทบไม่มีเลยครับ ถ้าเทียบกับวันแรกที่ขาดทุนแค่ 1% (จริงๆคือ ขาดทุนจนด้านชา :lol:)
ที่เล่ามาก็แค่จะบอกว่า มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆครับ ถ้าเราเข้าใจจุดอ่อนของจิตใจเราได้เมื่อไหร่ และเราสามารถหาเหตุผลมาหักล้างความกังวลนั้นๆได้ เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกกลัวแบบนั้นมันจะหายไปเองครับ
แนะนำให้ลองหาหนังสือ "จิตวิทยาการลงทุน มาอ่านครับ แล้วจะรู้เลยว่าจิตใจคนเราทำให้เราทำอะไรที่ไร้เหตุผลเอาได้ง่ายๆ และส่วนมากเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปครับ ที่น่าสนใจคือในหนังสือได้พูดถึง เงินตัวเอง กับ เงินคนอื่น ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจและความกลัวในการลงทุนด้วยครับ ซึ่งมันคือเคสเดียวกับที่พี่เจออยู่เลยครับ
หนังสือเล่มนี้ภาษาไทยไม่มีขายแล้วนะครับ ถ้าจะหาอ่านก็ลองหาที่มารวยดูครับ ไม่งั้นก็ต้องหาซื้อที่เป็นภาษาอังกฤษที่ชื่อ Psychology of Investing ครับ สั่ง Pre order กับทาง Asiabooks น่าจะได้ครับ
คน2คน ที่เก่งเหมือนกัน รู้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่คนนึงจิตใจเข้มแข็ง อีกคนจิตใจอ่อนแอ แค่นี้ก็ทำให้ผลตอบแทน 2 คนนี้ต่างกันมหาศาลได้แล้วครับ
ผมเองเข้าตลาดมาตอนต้นปี 08 ครับ วันแรกๆที่ซื้อหุ้น พอราคาตกลงมา 1% ผมก็เครียดและกังวลแล้วครับ ขายทิ้งแบบพี่ก็มีครับ จำได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนขาดทุนยาวมาโดยตลอดครับ ช่วง 3-4 เดือนแรกๆก็อยู่ที่ ลบ3-4% ช่วง 2 เดือนแรกๆยอมรับว่ากังวลมากครับ แต่ก็กัดฟันถือมาและก็ศึกษาหุ้นเหล่านั้นให้มากขึ้นและมั่นใจว่าเราเลือกไม่ผิดแน่ๆ หุ้นในปีนั้นที่ผมมีมากสุดก็คือ BGT BOL TNH ซึ่งพอ SET ไหลลงมาที่ 380 ตอนตุลา ผมก็ลงมาด้วยครับ
วันที่ SET ลงมา 380 ตอนนั้น PORT ผมขาดทุนไป 35% ครับ ที่แปลกคือความกังวลและความเครียดของผมในตอนนั้นกลับแทบไม่มีเลยครับ ถ้าเทียบกับวันแรกที่ขาดทุนแค่ 1% (จริงๆคือ ขาดทุนจนด้านชา :lol:)
ที่เล่ามาก็แค่จะบอกว่า มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆครับ ถ้าเราเข้าใจจุดอ่อนของจิตใจเราได้เมื่อไหร่ และเราสามารถหาเหตุผลมาหักล้างความกังวลนั้นๆได้ เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกกลัวแบบนั้นมันจะหายไปเองครับ
แนะนำให้ลองหาหนังสือ "จิตวิทยาการลงทุน มาอ่านครับ แล้วจะรู้เลยว่าจิตใจคนเราทำให้เราทำอะไรที่ไร้เหตุผลเอาได้ง่ายๆ และส่วนมากเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปครับ ที่น่าสนใจคือในหนังสือได้พูดถึง เงินตัวเอง กับ เงินคนอื่น ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจและความกลัวในการลงทุนด้วยครับ ซึ่งมันคือเคสเดียวกับที่พี่เจออยู่เลยครับ
หนังสือเล่มนี้ภาษาไทยไม่มีขายแล้วนะครับ ถ้าจะหาอ่านก็ลองหาที่มารวยดูครับ ไม่งั้นก็ต้องหาซื้อที่เป็นภาษาอังกฤษที่ชื่อ Psychology of Investing ครับ สั่ง Pre order กับทาง Asiabooks น่าจะได้ครับ
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 16
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวไหมนะครับ
แต่พี่ PRO_BABY น่าจะมีสติกับการลงทุนให้มากขึ้น
รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ไม่ให้อารมณ์มาชี้นำเหตุผล
แต่พี่ PRO_BABY น่าจะมีสติกับการลงทุนให้มากขึ้น
รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ไม่ให้อารมณ์มาชี้นำเหตุผล
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 17
-5% จิ๊บๆมากครับ ผมถือจนเคย -60% มาแล้ว (เล่าให้ฟังเฉยๆ อย่าเอาอย่างนะครับ :lol: )
แนะนำ คุณโปร หาเล่มนี้มาอ่าน
จะช่วยทำให้ใจนิ่งดั่งหินผาเลยทีเดียว
อีกอย่าง อ่านลืมนะครับ ทุกๆ -1% ที่ขาดทุน
จะทำให้ทุกๆ +1% ทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ จากเงินต้นที่หายไป
แนะนำ คุณโปร หาเล่มนี้มาอ่าน
จะช่วยทำให้ใจนิ่งดั่งหินผาเลยทีเดียว
อีกอย่าง อ่านลืมนะครับ ทุกๆ -1% ที่ขาดทุน
จะทำให้ทุกๆ +1% ทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ จากเงินต้นที่หายไป
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 18
แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1661
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 20
ซื้อแล้วไม่ดูราคาหุ้นอีกเลยซักระยะเวลาหนึ่งครับ
ถ้าหุ้นดีจริงเปิดมาดูอีกทีอาจจะแปลกใจก็ได้ว่าทำไมมันขึ้นมาตั้งขนาดนี้แน่ะ
หุ้นตัวที่ผมถืออยู่บางตัวที่ไม่คิดจะซื้อขายเลยผมก็จะไม่ดูเลย เพราะผมคิดว่าตัวเองคงจะทำใจได้ยากหากราคาลง
หรืออาจจะมือบอนขายไปทั้งๆที่ได้กำไรแค่นิดหน่อย
(แต่ระยะหลังนี่ก็ดูราคาบ่อยเหมือนกันโดยเฉพาะเวลาเราไปอ่านเจอในห้องของหุ้นที่เราถือแล้วเค้าเฮกัน ผมก็จะเปิดดู
แต่ถ้าเขาเหี่ยวกันเรื่องราคาผมก็จะไม่เปิดดูราคาครับยกเว้นว่าเรายังอยากจะเก็บตัวนั้นอยู่)
ผมก็อาจจะตั้งกฎว่าเดือนนึงจะดูราคาหุ้น (ตัวที่ไม่ได้ดูทุกวัน)ซักครั้งนึงครับ
หรือถ้าเดือนนั้นเรารู้ว่าเซ็ตลงกันทั้งตลาด เมื่อถึงกำหนดอนุญาตให้เปิดดูได้ ผมก็จะไม่ดูเลยสำหรับเดือนนั้นครับ
ผมรู้จักตัวเองดีครับว่าเป็นประเภทข่มใจเองไม่ค่อยได้ก็เลยใช้วิธีหลีกเลี่ยงครับ
เหมือนบุหรี่ครับ ผมคิดว่าถ้าลองแล้วผมคงข่มใจตัวเองให้ไม่ติดไม่ได้ ผมก็ไม่ลองเลยครับ
ถ้าหุ้นดีจริงเปิดมาดูอีกทีอาจจะแปลกใจก็ได้ว่าทำไมมันขึ้นมาตั้งขนาดนี้แน่ะ
หุ้นตัวที่ผมถืออยู่บางตัวที่ไม่คิดจะซื้อขายเลยผมก็จะไม่ดูเลย เพราะผมคิดว่าตัวเองคงจะทำใจได้ยากหากราคาลง
หรืออาจจะมือบอนขายไปทั้งๆที่ได้กำไรแค่นิดหน่อย
(แต่ระยะหลังนี่ก็ดูราคาบ่อยเหมือนกันโดยเฉพาะเวลาเราไปอ่านเจอในห้องของหุ้นที่เราถือแล้วเค้าเฮกัน ผมก็จะเปิดดู
แต่ถ้าเขาเหี่ยวกันเรื่องราคาผมก็จะไม่เปิดดูราคาครับยกเว้นว่าเรายังอยากจะเก็บตัวนั้นอยู่)
ผมก็อาจจะตั้งกฎว่าเดือนนึงจะดูราคาหุ้น (ตัวที่ไม่ได้ดูทุกวัน)ซักครั้งนึงครับ
หรือถ้าเดือนนั้นเรารู้ว่าเซ็ตลงกันทั้งตลาด เมื่อถึงกำหนดอนุญาตให้เปิดดูได้ ผมก็จะไม่ดูเลยสำหรับเดือนนั้นครับ
ผมรู้จักตัวเองดีครับว่าเป็นประเภทข่มใจเองไม่ค่อยได้ก็เลยใช้วิธีหลีกเลี่ยงครับ
เหมือนบุหรี่ครับ ผมคิดว่าถ้าลองแล้วผมคงข่มใจตัวเองให้ไม่ติดไม่ได้ ผมก็ไม่ลองเลยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 21
มันเป็นเช่นนั้นเองครับ
อีกหน่อยก็จะชินไปเอง
ลองอ่านกระทู้นี้ดู
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
อีกหน่อยก็จะชินไปเอง
ลองอ่านกระทู้นี้ดู
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 24
ต้องไปหาอ่านบ้างครับ ขอบคุณครับmprandy เขียน:แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
ส่วนทางพี่โปรเบบี้
ล๊อกอินของพี่ ปี 2003 ผมว่าไม่หวิวแล้วล่ะคับ
น่าจะเป็นมือเก๋า เลยแหละครับ สู้ ๆ คับ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 25
ซื้อมาแล้วครับmprandy เขียน:แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
หนังสือของท่านแม่ทัพเห็นแล้วต้องรีบหยิบใส่ตะกร้า
ใครต้องการ หาซื้อได้ที่ร้าน B2S หรือไม่ก็ศูนย์หนังสือจุฬาครับ
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 27
ก่อนจะออกไปซื้อที่ SE-ED ลองโทรเช็คกับทางสาขาดูก่อนได้ครับ ถ้าสาขาที่จะไปไม่มี เค้าก็น่าจะโยกจากทางสาขาใกล้เคียงมาให้ได้ภายในไม่กี่วันครับkurapica เขียน: สองเล่มในรูป มีขายที่ se-ed ป่าวครับ อยู่ต่างจังหวัดหายากเหลือเกิน
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณทุกท่านครับ Login 2003 ก็จริง แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดพอร์ทเป็นของตัวเองครับ ไปลงทุนนอกตลาด(สร้างเครือข่ายใน MLM) พอมีเงิน มีรายได้ ก็ซื้อนู่นซื้อนี่ ตอนนี้ก็เลย ตั้งต้นใหม่ ขายรถ(เกินความจำเป็น ฟุ่มเฟือย เหลือคันเดียว) เอาเงินที่นอนอยู่ มาเปิดพอร์ท
วันนี้เริ่มใหม่ครับ ตั้งสติ เชื่อมั่นในตัวเอง หาข้อมูล เริ่มทยอยลงทุนบ้างแล้วครับ ประมาณ 50% ของเงิน
วันนี้เริ่มใหม่ครับ ตั้งสติ เชื่อมั่นในตัวเอง หาข้อมูล เริ่มทยอยลงทุนบ้างแล้วครับ ประมาณ 50% ของเงิน
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 29
[quote="คลายเครียด"]มันเป็นเช่นนั้นเองครับ
อีกหน่อยก็จะชินไปเอง
ลองอ่านกระทู้นี้ดู
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html
:lol:
อีกหน่อยก็จะชินไปเอง
ลองอ่านกระทู้นี้ดู
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html
:lol:
- tae30866
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)
โพสต์ที่ 30
ผมก็เพิงเปิดพอร์ทเข้าตลาดหลังจากอ่านมานานครับ
ตอนแรกกะๆไว้ว่าจะรอรอบใหญ่(ครั้งแรกพลาดเลยเดี๋ยวใจเสีย)
แต่ก็อดไม่ได้จนต้องเข้าหุ้นไปเหมือนกัน
มองในแง่ดี ผมอาจจะได้มีโอกาสเรียนรู้การเจ็บตัวและรู้จักบริหารพอร์ทตั้งแต่ยังเป็นพอร์ทจิ๋วอยู่ก็ได้
คิดเอาเองปสก.น้อยต้องศึกษามากๆครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนและตัวเองตลอดด้วย
ปล.พยายามจะไม่ดูราคาหุ้นแต่สำหรับมือใหม่มันทำยากจริงๆ (ตอนนี้ต้องใช้หนังสือและCD ธรรมะเข้าช่วยครับ จิตแจ่มใส)
ตอนแรกกะๆไว้ว่าจะรอรอบใหญ่(ครั้งแรกพลาดเลยเดี๋ยวใจเสีย)
แต่ก็อดไม่ได้จนต้องเข้าหุ้นไปเหมือนกัน
มองในแง่ดี ผมอาจจะได้มีโอกาสเรียนรู้การเจ็บตัวและรู้จักบริหารพอร์ทตั้งแต่ยังเป็นพอร์ทจิ๋วอยู่ก็ได้
คิดเอาเองปสก.น้อยต้องศึกษามากๆครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนและตัวเองตลอดด้วย
ปล.พยายามจะไม่ดูราคาหุ้นแต่สำหรับมือใหม่มันทำยากจริงๆ (ตอนนี้ต้องใช้หนังสือและCD ธรรมะเข้าช่วยครับ จิตแจ่มใส)
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร