การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 1
จริงๆ แล้วผม Post หัวข้อนี้ไว้ใน Alternative Investment แต่เกรงว่าจะไม่ค่อยมีคนเข้ามาอ่านเท่าไหร่นักจึงขอ อนุญาติมา โพสไว้ในห้องนี้ด้วยนะครับ
ตอนนี้ หากผมลงทุนในหุ้นหมดเลย 100% แต่ก็กังวลว่ายุโรปจะเกิดวิกฤติทำให้หุ้นจะร่วง เยอะๆ แบบตอนซับพาร์มอีก ผมเลยทำประกันความเสี่ยงโดยการ Long Set50 Put Option โดยซื้อราคาใช้สิทธิที่มีค่า พรีเมี่ยม ต่ำๆ (2-3 จุด ) อายุ 3 เดือน ( อยากซื้อมีอายุมากกว่านั้น แต่สภาพคล่องไม่ค่อยมี ) คือซื้อไตรมาสละประมาณ 1% ของพอร์ทการลงทุนและซื้อทุกไตรมาส ซึ่ง 1 ปี ก็จะมีต้นทุนการประกันความเสี่ยงอยู่ไม่เกิน 4 %
หากหุ้นเพิ่มขึ้น หรือ ร่วงแต่ไม่เยอะ (ร่วงไม่เกิน 10-15 %) ผมก็จะเสียเงินค่าประกันความเสียง จากพรีเมี่ยมนี้ ไปปีละ 4 % ของพอร์ทการลงทุน ฟรีๆ
แต่หากเกิดวิกฤติอะไรขึ้น หุ้นร่วงขนาด 30 % พอร์ททั้งหมดของผมก็จะ ปลอดภัย มูลค่าไม่ลดลงเพราะได้รับ เงินจาก Option ที่ถืออยู่ หรืออาจจะกำไรด้วยหาก ตลาดร่วงไปมากกว่านั้น
คือผมคิดเหมือนกับว่าเราเอาเงิน ปันผล เราไปประกันความเสี่ยง ว่าหากเกิดอะไรขึ้นมา พอร์ท เราจะร่วง ไม่เยอะและไม่กระทบมาก หน่ะครับ
ผมลองทำการคำนวนใน Excel มาดูว่า ตามสมมติฐานข้างต้น เราสามารถ ลิมิต loss อยู่ที่ประมาณ ติดลบ 15-16% ไม่มีต่ำกว่านั้น แต่หากกำไร เราจะถูก ค่าพรีเมี่ยม นี้ดึงอยู่ 4% จากที่เราทำได้
มีใครทำอยู่หรือไม่ครับไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันจะได้ผลในทางปฎิบัติมากน้อยแค่ไหน และจะคุ้มกันหรือไม่
คือผมเองก็ยังไม่เคยลงทุนใน TFEX มาก่อนและไม่มีความรู้เท่าไหร่ เพิ่งไปอ่านจากในเวปวันนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดและคำนวนจะถูกต้องหรือไม่ แนะนำด้วยครับ
ตอนนี้ หากผมลงทุนในหุ้นหมดเลย 100% แต่ก็กังวลว่ายุโรปจะเกิดวิกฤติทำให้หุ้นจะร่วง เยอะๆ แบบตอนซับพาร์มอีก ผมเลยทำประกันความเสี่ยงโดยการ Long Set50 Put Option โดยซื้อราคาใช้สิทธิที่มีค่า พรีเมี่ยม ต่ำๆ (2-3 จุด ) อายุ 3 เดือน ( อยากซื้อมีอายุมากกว่านั้น แต่สภาพคล่องไม่ค่อยมี ) คือซื้อไตรมาสละประมาณ 1% ของพอร์ทการลงทุนและซื้อทุกไตรมาส ซึ่ง 1 ปี ก็จะมีต้นทุนการประกันความเสี่ยงอยู่ไม่เกิน 4 %
หากหุ้นเพิ่มขึ้น หรือ ร่วงแต่ไม่เยอะ (ร่วงไม่เกิน 10-15 %) ผมก็จะเสียเงินค่าประกันความเสียง จากพรีเมี่ยมนี้ ไปปีละ 4 % ของพอร์ทการลงทุน ฟรีๆ
แต่หากเกิดวิกฤติอะไรขึ้น หุ้นร่วงขนาด 30 % พอร์ททั้งหมดของผมก็จะ ปลอดภัย มูลค่าไม่ลดลงเพราะได้รับ เงินจาก Option ที่ถืออยู่ หรืออาจจะกำไรด้วยหาก ตลาดร่วงไปมากกว่านั้น
คือผมคิดเหมือนกับว่าเราเอาเงิน ปันผล เราไปประกันความเสี่ยง ว่าหากเกิดอะไรขึ้นมา พอร์ท เราจะร่วง ไม่เยอะและไม่กระทบมาก หน่ะครับ
ผมลองทำการคำนวนใน Excel มาดูว่า ตามสมมติฐานข้างต้น เราสามารถ ลิมิต loss อยู่ที่ประมาณ ติดลบ 15-16% ไม่มีต่ำกว่านั้น แต่หากกำไร เราจะถูก ค่าพรีเมี่ยม นี้ดึงอยู่ 4% จากที่เราทำได้
มีใครทำอยู่หรือไม่ครับไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันจะได้ผลในทางปฎิบัติมากน้อยแค่ไหน และจะคุ้มกันหรือไม่
คือผมเองก็ยังไม่เคยลงทุนใน TFEX มาก่อนและไม่มีความรู้เท่าไหร่ เพิ่งไปอ่านจากในเวปวันนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดและคำนวนจะถูกต้องหรือไม่ แนะนำด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 2
ครับ เห็นกระทู้เงียบเหงาเลยเข้ามา
ผมคิดว่าถ้ายังไม่มั่นใจในการใช้ option ป้องกันความเสี่ยงก็อย่าใช้เลยครับ
ผมคิดว่าความเสี่ยงควบคุมได้โดยการซื้อธุรกิจที่ดีในราคาที่เหมาะสม
บางคนใช้ "Cash as a hedge" ถือเงินสดรอไว้ ซื้อในเวลาที่เหมาะสมจริงๆ
ที่พูดมานี้ตัวผมเองก็ยังทำไม่ได้ครับ ตอนนี้พยายามแก้นิสัย Rhinophobia ของตัวเองอยู่
ผมคิดว่าถ้ายังไม่มั่นใจในการใช้ option ป้องกันความเสี่ยงก็อย่าใช้เลยครับ
ผมคิดว่าความเสี่ยงควบคุมได้โดยการซื้อธุรกิจที่ดีในราคาที่เหมาะสม
บางคนใช้ "Cash as a hedge" ถือเงินสดรอไว้ ซื้อในเวลาที่เหมาะสมจริงๆ
ที่พูดมานี้ตัวผมเองก็ยังทำไม่ได้ครับ ตอนนี้พยายามแก้นิสัย Rhinophobia ของตัวเองอยู่
- K o S o L
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 451
- ผู้ติดตาม: 0
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 3
ในความเห็นผม ถ้าคุณ green ลงทุนใน TDEX แล้วซื้อ option กำกับ ก็เหมาะสมดี เพราะ underlining asset เป็นตัวเดียวกัน
แต่ถ้าซื้อหุ้นรายตัว แล้วมาซื้อ option คลุม SET50 นี่ ไม่แน่ใจว่า hedge ได้แค่ไหน เพราะหุ้นแต่ละตัว เคลื่อนที่ไม่เท่ากับตลาดอะครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเสียค่า premium โดยที่ไม่ได้ hedge ตามที่ตั้งใจไว้
แต่ถ้าจะใช้ option เล่นแนว speculative ก็อีกเรื่องนึงครับ
แต่ถ้าซื้อหุ้นรายตัว แล้วมาซื้อ option คลุม SET50 นี่ ไม่แน่ใจว่า hedge ได้แค่ไหน เพราะหุ้นแต่ละตัว เคลื่อนที่ไม่เท่ากับตลาดอะครับ
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเสียค่า premium โดยที่ไม่ได้ hedge ตามที่ตั้งใจไว้
แต่ถ้าจะใช้ option เล่นแนว speculative ก็อีกเรื่องนึงครับ
ผมมือใหม่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 4
.
.
.
....มะกี้ งงเลย นึกว่ากระทู้ หาย กลายเป็นมีฝาแฝดซะงั้น :lol: :lol:
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42650
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 5
พอดีผมโพสเอาไว้สองห้อง อ่ะครับ อิอิ
ผมดูๆ ศึกษา เอาไว้เผื่อมีโอกาสจะได้ใช้บ้าง
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ สามารถเอาไปใช้ได้ดีเลยทีเดียว
ตอนนี้ผมก็พยายามลดความเสี่ยงโดยการปรับพอร์ต
เพราะตอนวิกฤติซับพาร์ม ทำเอาเสีย Self ไปพอตัว
จากถือหลักๆ ตัวเดียวในพอร์ตกว่า 80% ที่เหลือเป็นส่วนประกอบ อีก 2-3 ตัว ก็เปลี่ยนไปถือ ซัก 5-6 ตัวในพอร์ต และมีเงินสดอยู่ติดพอร์ตบ้าง ก็ทำให้สบายใจขึ้นเยอะ เลยครับ
ผมดูๆ ศึกษา เอาไว้เผื่อมีโอกาสจะได้ใช้บ้าง
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ สามารถเอาไปใช้ได้ดีเลยทีเดียว
ตอนนี้ผมก็พยายามลดความเสี่ยงโดยการปรับพอร์ต
เพราะตอนวิกฤติซับพาร์ม ทำเอาเสีย Self ไปพอตัว
จากถือหลักๆ ตัวเดียวในพอร์ตกว่า 80% ที่เหลือเป็นส่วนประกอบ อีก 2-3 ตัว ก็เปลี่ยนไปถือ ซัก 5-6 ตัวในพอร์ต และมีเงินสดอยู่ติดพอร์ตบ้าง ก็ทำให้สบายใจขึ้นเยอะ เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 6
ทำได้ถ้าเรามั่นคงว่ามันคือการป้องกันความเสี่ยง
แต่ส่วนใหญ่พอเริ่มได้กำไรหรือขาดทุน เราก็เริ่มจะเอามาปนกัน
ระหว่างความเสี่ยงกับการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น
เรามี LTF อยู่ 1 ล้านบาท (LTF ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวตาม SET) เรากลัวว่า
หุ้นจะลง เราก็ short TFEX ไว้ 2 สัญญาเพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณี SET ลง
แต่ถ้า SET ขึ้น เราก็จะไม่ได้อะไรจาก NAV ของ LTF ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ปัญหาก็คือ พอ set ขึ้น ตัวแดงของ TFEX มันจะมากขึ้น จนทำให้เราเขวรึปล่ว
แต่ส่วนใหญ่พอเริ่มได้กำไรหรือขาดทุน เราก็เริ่มจะเอามาปนกัน
ระหว่างความเสี่ยงกับการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น
เรามี LTF อยู่ 1 ล้านบาท (LTF ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวตาม SET) เรากลัวว่า
หุ้นจะลง เราก็ short TFEX ไว้ 2 สัญญาเพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณี SET ลง
แต่ถ้า SET ขึ้น เราก็จะไม่ได้อะไรจาก NAV ของ LTF ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ปัญหาก็คือ พอ set ขึ้น ตัวแดงของ TFEX มันจะมากขึ้น จนทำให้เราเขวรึปล่ว
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 7
ถ้าคิดว่าขึ้น แล้วจะประกันความเสี่ยงไปทำไมล่ะครับ
เหมือนขัดๆกันในตัว ไม่มั่นใจก็อย่าเพิ่งซื้อดีกว่ามั้ยครับ
เท่าที่ผมจำได้ บัฟเฟต และ ปีเตอร์ ลินซ์
เคยพูดไว้ว่าการประกันความเสี่ยงแบบนี้นั้นไม่คุ้มค่า
และยังให้ความคิดว่า Future/Option สมควรเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ด้วยซ้ำ
เหมือนขัดๆกันในตัว ไม่มั่นใจก็อย่าเพิ่งซื้อดีกว่ามั้ยครับ
เท่าที่ผมจำได้ บัฟเฟต และ ปีเตอร์ ลินซ์
เคยพูดไว้ว่าการประกันความเสี่ยงแบบนี้นั้นไม่คุ้มค่า
และยังให้ความคิดว่า Future/Option สมควรเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- siebelize
- Verified User
- โพสต์: 451
- ผู้ติดตาม: 1
การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 8
ลองดูครับ
ออพชั่นส ให้อะไรมากกว่าทีคุณคิด :lol: :lol: :lol:
แต่จะบอกว่า การประกันความเสี่ยงด้วยการซื้อออพชั่นส อาจจะแพงกว่าที่คุณคิด
ว่าแต่ว่า กองทุนเบิรกไชร์ มีการใช้ ออพชั่นส์ ในพอร์ตนะครับ
ออพชั่นส ให้อะไรมากกว่าทีคุณคิด :lol: :lol: :lol:
แต่จะบอกว่า การประกันความเสี่ยงด้วยการซื้อออพชั่นส อาจจะแพงกว่าที่คุณคิด
ว่าแต่ว่า กองทุนเบิรกไชร์ มีการใช้ ออพชั่นส์ ในพอร์ตนะครับ