หุ้นพลังงานยังมีอนาคตอยู่หรือ ถ้า BYD ทำแบตเตอรี่ได้สำเร็จ

[blueplanet]

อ่านกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42735
ของคุณ GrandSlam
ถ้า BYD ทำแบตเตอรี่ คุณภาพสูงราคาถูก ได้สำเร็จ
เครื่องยนต์สันดาบภายใน คงเจ๊งหมด
ผลกระทบนี้มหาศาล
น้ำมัน น่าจะราคาลดลงมากสุด ตามด้วยถ่านหิน
ก๊าซธรรมชาติ

[firewalker]

http://www.youtube.com/watch?v=lrSp8xbK ... re=related

อันนี้ก็มาแรงนะครับ bloom box

[wj]

แล้วจะเอาอะไรมาชาร์ตแบต?

[wasun]

แล้วจะเอาอะไรมาชาร์ตแบต?

แผ่นโซลาเซลล์ ติดหลังคารถไงครับ
ตอนเช้าขับรถไปทำงาน  แล้วไปจอดตากแดดชารต์แบต
ตอนเย็นขับกลับบ้าน  :D

อีกหน่อย ใครๆ ก็แย่งกันจอดรถกลางแดด :lol:

[ครรชิต ไพศาล]

The Bloom Box
แซลเชื้อเพลิง ดึง O + H + H เป็น H2+O+กระแสไฟ
ดูสารคดี 60 Munutes การทำของ The Bloom Box ที่

http://www.cbsnews.com/video/watch/?id= ... photovideo

[blueplanet]

แล้วจะเอาอะไรมาชาร์ตแบต?
ไฟฟ้างัย ที่ผลิตจาก
1.1.พลังงานนิวเคลีย
1.2.พลังงานน้ำ
1.3.พลังงานคลื่นในทะเล
1.4.พลังงานลม
1.5.พลังงานจากถ่านหิน
1.6.พลังงานจากก๊าซ
1.7.พลังงานแสงอาทิตย์
ซึ่ง 6 ข้อแรก มีต้นทุนถูกกว่น้ำมัน ณ.ราคาขณะนี้
2. มอเตอร์ไฟฟ้า มีประสิทธิภาพดีกว่า เครื่องสันดาปภายใน
3. การผลิตไฟฟ้าจะมีการประหยัดเนื่องจากขนาด
[/list]

[kurapica]

ก็อาจจะเจ๊งบ้าง แต่ไม่หมดหรอกครับ
เพราะผมคิดว่า ในงานที่ต้องใช้เครื่องยนต์กำลังสูง เช่น รถบรรทุก รถขุด ฯลฯ
ยังไงก็ยังต้องใช้เครื่องยนต์อยู่ดี แต่พวกรถโดยสารส่วนบุคคล น่าจะโดนมากที่สุด

[nasesus]

ก่อนแบตจะมา รถแทบทุกคันของพ่วงถังแก๊สไปแล้วครับ  :lol:  :lol:  :lol:

[rerkit]

แล้วพลังงานเซลเชื้อเพลิง(ไฮโดรเจน)นี่ไม่เอามาใช้แล้วหรือว่าจะพัฒนาหลังจากแบตตารี่ไฟฟ้าครับ?

[blueplanet]

ไฮโเจนเป็นธาตุที่โฆตรอันตราย
ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากใช้หรอก
ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเพราะ
แบตเตอรี่ มีความจุไม่มากพอ ที่จะใช้งานจริง
ถ้า BYD ทำได้ จริง วิ่งได้ 300 กม ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง
ทุกอย่างจบ

[h2h]

ผมแนะนำอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมครับ พลังงานพวกนี้ถึงจะมีต้นทุนที่สูงในปัจจุบันแต่ผมมั่นใจครับว่าเราต้องใช้มันแน่ เท่าที่รู้ตอนนี้มีบางจากครับที่ทำ Solar Plant น่าสนใจ ปตท.เองเห็นโฆษณาชะดี แต่ไม่รู้มีการพัฒนาวิจัยในเรื่องนี้ขนาดไหนแล้ว
อันนี้เป็นเว็บที่รวบรวมเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ครับ
[url]http://solarenergy-th.blogspot.com/[/url]

[wj]

ไม่ว่ายังไง คนจะหันมาใช้มันก็ต่อเมื่อมันมีราคาถูก ซึ่งในตอนนี้เป็นไปไม่ได้
และอนาคตอาจเป็นไปได้ ถ้าน้ำมันกำลังจะหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าหุ้นพลังงานไม่น่าสนใจ

ถ้าคุณชาร์ตแบตด้วยไฟฟ้า ต้นทุนนั้นสูงกว่าน้ำมันแน่นอน
ถึงแม้ว่า BYD จะผลิตแบตวิเศษมาจากไหน เริ่มจากนำถ่านหินมา
ผลิตไฟฟ้า ผ่านสายส่ง ทุกขบวนการมีสูญเสียไฟฟ้า ต้นทุนวัตถุดิบ ถ้าคุณไม่ชาร์ตไฟตอนนี้ ก็ใช่ว่าโรงไฟฟ้าจะผลิตไฟน้อยลง

แบตมันไม่ได้มีพลังงานติดตัวตั้งแต่เกิด ดังนั้น
ราคาถ่านหินคงไม่ถูกลง

พลังงานแสงอาทิตย์ ลม คลื่น คงไม่ต้องพูดถึง เรื่องต้นทุน

น้ำมัน กาซธรรมชาติคงต้องหมดไปแน่นอน แต่คงค่อยเป็นค่อยไป
หุ้นพลังงานคงปรับตัว ไปทำมาหากินอย่างอื่นแล้วครับ

[h2h]

สำหรับเรื่องที่ว่ามันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ผมขอตอบแบบนี้ดีกว่าครับ

นึกถึงเรื่องเพชรเดอเบียร์ส ครับ จากเท่าที่ผมทราบ ถ้าเดอเบียร์สไม่ครอบคลุมตลาดเพชรไว้ถึง 95 % ของโลกนี้(ถือเป็นผูกขาดโดยนัยก็ได้) ราคาเพชรก็คงไม่สู่งขนาดนี้ครับ เพราะมันจะเป็นไปตามหลักดีมานกับซัพพลาย

เรื่องนี้เองก็เช่นกันครับ ผมคิดว่าจริงๆแล้วเรามีวิทยาการและเทคโนโลยีที่ทำให้คนไม่อดอยากได้ทั้งโลก แต่ทำไม คนในประเทศโลกที่สาม ถึงยังมีคนที่เสียชีวิตจากการอดอาหารตายก็ยังมีอยู่อีกมาก สรุปคือ ถึงเราจะมีวิวัฒนาการจากสิ่งของมากมาย แต่วิวัฒนาการทางจิตใจเรายังก้าวตามไม่ทัน มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกครับ ถ้าเรื่องราวเป็นไปอย่างที่กระทู้ว่า แต่ก็ยังมีคนที่เสียผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถ้าเขากลัวสิ่งที่จะเกิดกับอนาคตของเขา เขาคงไม่อยู่เฉยๆแน่ครับ เขาคงไปวิ่งเต้นหานักวิชาการนักวิทยาศาสตร์หรือจ้างนักวิจัยมาวิจัยโดยให้ผลการวิจัยออกมาเป็นลักษณะที่บอกว่าไม่คุ้มกับการลงทุนอะไรประมาณนี้... แล้วเราก็ต้องใช้น้ำมันแพงกันต่อไป สรุปอีกทีก็คือถ้าคนยังไม่ลดความเห็นแก่ตัวแล้วหันมามองภาพรวมของสังคม... ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมครับ แต่ก็อย่างที่คุณ wj พูดครับต้องคิดให้ดีเรื่องพลังงาน เกี่ยวกับความคุ้มค่า แต่ยังไงเรื่องพลังงานสะอาดผมก็สนับสนุนเต็มตัวครับ

ลองคิดแบบง่ายๆนะครับ โลกเรารับพลังงานจากดวงอาทิตย์ทุกวัน แล้วโลกมีอายุมาจนถึงปัจจุบัน ก็หลายหมื่นปีแล้ว พลังงานที่มีอยู่ในโลกทั้งหมดมีปัจจัยหลักมาจากแสงอาทิตย์ มีการสะสมพลังงานโดยเปลี่ยนสภาพมาเป็นในรูปของเคมีสะสมอยุ่ในแร่ธาตุในดิน ในพิชที่ดูดแร่ธาตุในดิน จุลชีพมากมาย และสัตว์กินพืชที่รับพลังงานมาต่อ และก็ต่อไปที่สัตว์กินเนื่อ แล้วก็เวียนกลับไปย่อยสลายโดยแบคทีเรีย จนซากพืชซากสัตว์ที่ทับทมกันก็ยังกักเก็บพลังงานที่รับมาในรูปของปิโตรเลี่ยมอีก มาถึงขั้นนี้พอจะมองเห็นใช่ไหมครับว่าทำไมเราไม่ตัดทอนเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ซะเลย เพียงแต่ว่าเราต้องวิจัยและคิดค้นกันอีกเยอะครับกว่าจะให้ได้พลังงานพวกนี้มาใช้เชิงเศรษฐกิจได้มากกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่

[blueplanet]

พลังงานที่ได้จากน้ำมันแพงกว่า
พลังงานที่ได้จากแก๊ซและพลังงานที่ได้จากถ่านหินเป็นเท่าตัว
แม้แต่น้ำมันเตาก็ยังแพงกว่าถ่านหิน
แต่การผลิตไฟฟ้า ยังงมีพลังงานอื่นๆอีกหลายอย่าง
ขณะนี้ ถ้าเราต้องการพลังกล
มอเตอไฟฟ้า จะให้พลังงานที่ถูกกว่าเครื่องยนต์ สันดาปภายในแน่นอน
เครื่องยต์สันดาปภายในจะสูญเสียพลังงานจำนวนมากไปกับความร้อน
มอเตอร์ก็ร้อน แต่เครื่องยนต์มันร้อนระดับหลายพันองศา
เพราะพลังงานมาจากการระเบิดของไอน้ำมัน

[blueplanet]

ตอนนี้ แบตเตอรี่แพงมาก และจุพลังงานได้น้อย
เงินที่ประหยัดได้ จากการใช้ไฟฟ้า (แทนน้ำมัน)
ยังไม่คุ้ม กับราคาแบตเตอรี่ และความสดวกที่เสียไป
ที่ราคาน้ำมันแพง เพราะ ความสะดวกในการเติมรถยนต์
ไม่มีอะไรสดวกเท่ากับน้ำมัน
ราคาพลังงานที่ได้จากน้ำมันจึงแพงกว่าราคาที่ได้พลังงานที่ได้จากอย่างอื่น

[หมีบึงกุ่ม]

เตรียมเงินไว้ให้พร้อมนะ




                 ไฟฟ้าเพียวๆ อีก 2 ปี คงมาเมืองไทย
     ราคา 6 แสน อัพ แต่คุ้ม ช่างไฟฟ้า คอนเฟิร์ม  
           
 
เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สำนักงานให ญ่ Nissan โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่ง Nissan Leaf นั้นเป็นรถ hatchback 5 ประตู มาพร้อมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า
ที่ให้พลัง 107 แรงม้า ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
แถมชาร์จไฟ 1 ครั้งวิ่งได้ประมาณ 160 กิโลเมตร

ตัวถังมีขนาดใหญ่กว่า Tiida เล็กน้อย ไฟหน้าถูกดีไซน์ให้เปลี่ยนทิศทางลม
ไม่ให้กระทบกระจกข้างที่ประตู เพื่อลดเสียงรบกวน

แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน ให้พลังงาน 80 KW ที่มีระบบชาร์จอย่างเร็ว ภายใน 30 นาที
จะได้พลังงานถึง 80 % แต่ว่าชาร์จเต็มต้องใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

ห้องโดยสารล้ำสมัย เพรียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นต่างๆมากมาย
Nissan Leaf มีระบบเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อรับข่าวสาร
รวมถึง สื่อด้านความบันเทิงตลอด 24 ชั่วโมง

Nissan Leaf ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถือว่าเป็นอีกขั้นของการพัฒนา รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่น่าจับตามอง
         
------------------------------------------------------------------------------------

รูปร่างสวยเชียว  ลองไปหาดูกันเองนะครับ มันแปะรูปยาก

[Ii'8N]

ตอนนี้รถไฟฟ้าเพียวๆ มะกันทำออกมาแล้วนี่ครับ

http://www.teslamotors.com/


The 21st Century Electric Car
http://www.teslamotors.com/display_data ... urycar.pdf

Find out how Tesla Motors's cutting edge low-emissions technology stacks up against conventional gas-powered cars and hybrids.


The Tesla Roadster Battery System
http://www.teslamotors.com/display_data ... System.pdf

Read about the design and safety systems for the Tesla Roadster's lithium-ion battery pack.


ออกขายแล้วด้วย แต่จำนวนยังจำกัดอยู่ และยังไม่มาขายให้ทางเอเชีย
คุณภาพเป็นยังไงไม่ทราบได้ แต่คิดว่าออกมาขนาดนี้ ต้องมี efficiency ในการแปลงพลังงานไฟฟ้า่เป็นกลสูงพอควร และมอเตอร์ต้องออกแบบให้เร่งขึ้นได้

ราคาไม่ถูกแน่ วาง position ไว้สูงพอควร คือเป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง
ตีเป็นเงินไทย ราว 3 ล้านกว่า




http://www.manager.co.th/Motoring/ViewN ... 0000069474
Tesla Roadster สปอร์ตพลังไฟฟ้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2551 09:24 น.



      รถสปอร์ตกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะจับคู่ร่วมกันได้ แต่สำหรับปัจจุบัน ในยุคที่น้ำมันมีราคาแพง บวกกับกระแสการอนุรักษ์ธรรมชาติ และการพัฒนาของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่มีความก้าวหน้าและมีราคาถูกลง ทำให้ทั้ง 2 สิ่งสามารถสอดประสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเทสล่า โรดสเตอร์ คือ ตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้



      โปรเจ็กต์การพัฒนารถสปอร์ตที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนของเทสล่า ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เป็นโครงการที่พัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2006 หลังจากที่เทสลานำออกแสดงครั้งแรกในซานตาโมนิกา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับทางเทสล่าประกาศว่าจะผลิตขายตั้งแต่ปลายปี 2007 แต่สุดท้ายก็โดนโรคเลื่อนเล่นงานจนเพิ่งจะมาเริ่มผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงเกือบค่อนมากลางปีนี้ พร้อมการเปิดโชว์รูมแห่งแรกของตัวเองในนครลอสแองเจลีสเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
     
      นอกจากขายในสหรัฐอเมริกาแล้ว ทางเทสล่ายังนำออกเปิดตัวและจัดแสดงในยุโรปอีกด้วย โดยเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Top Marques Monaco ในโมนาโค และดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากบรรดาคนดังในยุโรป โดยเฉพาะโบโน นักร้องนำของวงยูทู



      ตัวรถเป็นแบบสปอร์ตเปิดประทุนที่ได้รับการพัฒนาอยู่ร่วมกันระหว่างวิศวกรของเทสล่ากับโลตัสในการปรับปรุงตัวรถโดยปรับปรุงจากพื้นฐานของรถสปอร์ตรุ่นอีลิสของโลตัส โดยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและชิ้นส่วนตัวถังมาผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อจุดเด่นในเรื่องของการลดน้ำหนัก และทางเทสล่าเองเปิดเผยว่าใช้ชิ้นส่วนร่วมกับอีลิสไม่ถึง 10% แม้ว่าการประกอบตัวรถจะมีขึ้นที่โรงงานที่เมืองฮีเทลของโลตัสในประเทศอังกฤษ ขณะที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถถูกส่งมาจากซัพพลายเออร์หลายแห่งทั่วโลกทั้งในนอรเวย์ ไต้หวัน รวมถึงเมืองไทยซึ่งรับหน้าที่ผลิต Energy Storage System ให้กับตัวรถ



      การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3 Phase รีดกำลังออกมาได้สูงสุด 248 แรงม้า (แต่บางข่าวบอกว่าสเปกที่ขายในนอรเวย์ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกแห่งของโลก เทสล่าสามารปรับสเปกให้มีกำลังสูงสุดแตะ 300 แรงม้าเลยทีเดียว) โดยมีรอบสูงสุดที่ 13,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที
     
      สมรรถนะถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งในรุ่นต้นแบบ เทสล่าเคลมเอาไว้ว่าใช้เวลาเพียง 3.9 วินาทีในการทะยานจาก 0-97 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เมื่อถึงเวลาขายจริงตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มาก ขยับขึ้นมาเป็น 5.7 วินาที และความเร็วปลายทะลุ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยตัวรถใช้เลย์เอาท์การวางขุมพลังแบบกลางลำและขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกับอีลิส



      แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนสามารถแล่นทำระยะทางได้ 356 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งจากการทดสอบภายใต้เงื่อนไขของ EPA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา และใช้เวลาการชาร์จจนเต็มลูกเพียง 3 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ส่วนอายุการใช้งานนานกว่า 160,000 กิโลเมตร
      หลังจากที่โดนเลื่อนมาจากกำหนดการดั้งเดิมซึ่งจะเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2007 มาเป็นเกือบๆ กลางปีนี้ มีข่าวเผยว่าเทสล่าผลิตโรดสเตอร์ออกมาแล้ว 4 คันเพื่อเป็นการทดสอบไลน์ผลิต ก่อนที่จะเริ่มผลิตจริง โดยในปีนี้เทสล่าวางคิวผลิตรวม 650 คัน และในปี 2009 อีก 1,500 คัน



      ส่วนราคาขายในแต่ละปีก็ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรุ่นปี 2008 จะมีราคา 98,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.03 ล้านบาท และจะขยับขึ้นมาเป็น 109,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.38 ล้านบาทในปี 2009 โดยในยุโรปเริ่มขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2008 พร้อมกับจำนวนการผลิตเพียง 250 คันจะมีราคาอยู่ที่ 100,000 ยูโร หรือ 5 ล้านบาท และมีขายเฉพาะรุ่นพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น....ใครที่คิดอยากจะซื้อมาขับต้องทำใจหน่อย

[thebigblue]

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่านะครับว่า กำไรส่วนใหญ่ของบริษัทพลังงาน(ยกเว้นพวกสำรวจอย่าง สผ.)
ไม่ได้มาจากการขายน้ำมัน แต่มาจากการขายถ่านหิน/ก๊าซให้โรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

ฉะนั้นถ้ามีการผลิตรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า จะทำให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น จากเดิมมาก
ทำให้ขายถ่านหิน/ก๊าซ มากขึ้น จนมีรายได้เยอะขึ้นก็เป็นได้นะครับ (ปตท.เก็บค่าผ่านท่อ โดยสนใจวอลุ่มเป็นหลัก)

ส่วนไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ กับพลังลมในเมืองไทยนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่อยากไปคาดหวังมากครับ สัดส่วนการใช้ยังน้อยมากถ้าเทียบกับก๊าซ(70%)
เว้นเสียแต่ว่าจะมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือชนิดอื่นๆที่มีกำลังผลิตสูงมาก (แต่สงสัยจะยาก ขนาดกังหันลม พี่แกยังประท้วงคัดค้านได้เลย  :lol: )

รถยนต์ใช้ไฟฟ้าสำหรับเมืองไทย ณ.ตอนนี้ผมก็ว่ามีดีแค่ลดมลพิษลง แต่ในด้านพลังงานผมว่ายังต้องดูกันอีกยาวๆ

[Sumotin]

ขอบอกว่าต้องแยกกันก่อนนะครับว่าพลังงานมาจากอะไรบ้าง

ถ้าจากไฟฟ้า แทบไม่มีที่ไหนเลยที่ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบในการผลิตนะครับ
ส่วนใหญ่ก็ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำ ฯลฯ ครับ

ฉะนั้นถ้าผลิตสำเร็จได้จริง ก็ต้องแยกเป็น 2 ทางคือการ charge ด้วยตัวของรถเอง น่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ประเด็นที่สำคัญคือราคา และัประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงาน solar เป็นไฟฟ้าครับ

แต่ถ้า charge กับไฟฟ้าที่บ้านก็จะทำให้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อ demand พวก Nat Gas, Coal, Hydro etc.

น้ำมันก็น่าจะกระทบหลักๆแหละครับ แต่ก็ต้องดูในเรื่องของ politic ในระดับโลกด้วยเพราะ คนที่มีอำนาจในการควบคุมน้ำมันอยู่ตอนนี้คือ OPEC น่าจะมีการเคลื่อนไหว เกี่ยวกับ Technology นีเหมือนกัน


สุดท้ายอยากให้ Technology นี้สำเร็จเร็วๆจริงๆ จะได้ทำให้ ลดปริมาณ Carbon ลงได้บ้างถึงแม้จะไปเพิ่มในส่วนของการผลิตไฟฟ้าก็ตามแต่การ diversify ไปใน โรงไฟฟ้าอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ gas ลม และพลังงานทดแทนอื่นๆ น่าจะช่วยโลกได้ครับ  :D

[Ii'8N]

จริงๆ แล้ว ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ นักทดลอง พยายามค้นคว้าหาพลังงานทดแทน Fossil Fuel คือก๊าซ น้ำมันเตา และการเผาถ่านหิน

แต่พลังงานที่ได้ เทียบกับการลงทุน ยังเป็นได้แค่พลังงานเสริม


แม้แต่พลังงานน้ำเอง ตอนเด็กๆ ด้วยความที่เราชินตากับเขื่อนขนาดใหญ่ นึกว่าเขื่อนพลังน้ำ คือพลังงานหลักที่เราใช้อยู่
ตอนนั้นช่วงน้ำมันแพงยุค OPEC เพิ่งรวมหัวกันติด TV ปิดสถานีตอน 6 โมง เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
รัฐบาลรณรงค์ ใช้คำขวัญ เสร็จกิจปิดไฟ ช่วยไทยประหยัดน้ำมัน
ยังแย้งในใจ ว่าเห็นเขื่อนอยู่ ทำไมไปเกี่ยวอะไรกับน้ำมงน้ำมันได้ไง (วะ)




เพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าทุกวันนี้ในไทย เราใช้กันพลังไฟจากเขื่อนแค่ 7% เอง ที่เป็นหลักคือเอาก๊าซจากปตท. และนำเข้ามาเผา และถ่านหินรองลงมา
ข้อมูลจาก EGAT นะครับ พลังแสงอาทิตย์แทบไม่ต้องพูดถึง

ลมก็ยังแค่ในฝัน นอกจากพลังงานที่ได้กระปริกระอยแล้ว บ้านเราลมแรงไม่พอ ด้านทะเลเหนือย่านคนรวยแถว Scandinavia เขาทำฟาร์มกังหันลมยักษ์ในทะเล นั่นเพราะลมบ้านเขาสมำ่เสมอกว่า และเงินเขาเหลือเฟือเอาเงิน subsidy กลางมาลงทุน แต่ ROI ที่ได้ ก็ยังถือว่าต่ำกว่าการลงทุนมาก ไม่ได้หวัง Break Even แต่ก็เป็นพลังงานเสริมทีี่บอก

[thumbman2001]

ถ้ามีการพัฒนาได้จริง บางทีบริษัทน้ำมันอาจจะมาซื้อและดองไว้ก็ได้นะครับ บริษัทเขาเงินหนา หรือบางทีราคาน้ำมันอาจต้องลดลงมาถึงจุดที่ราคาแบตแบบใหม่สูงกว่ากำไรจากการลงทุน

[blueplanet]

เห็นด้วยครับ พลังงานไฟฟ้าเมืองไทย มาจากแก๊ซและถ่านหิน
ถ้าเทียบต่อหน่วยพลังงานแล้วถ่านหินถูกสุด
รองลงมาก็แก๊ซ
ถ้าน้ำมันแพง แก๊ซ กับถ่านหินก็จะแพงตาม เป็นอัตราส่วนกันไป
ถ้าน้ำมันถูก ถ่านหินกับแก๊ซก็จะถูกตาม
สิ่งที่บริโภคน้ำมันมากที่สุดคือรถยนต์
ถ้ามีแบตเตอรี่ที่ดีราคาถูกคุ้มค่า
การบริโภคน้ำมันโดยรถยนต์ก็จะลดลง
อนาคตในอุดมคติ จะไม่มีรถยนต์ใช้น้ำมัน
เพราะมีเรื่องมลพิษด้วย
ราคาน้ำมันก็จะลดลงอย่างมหาศาล
ซึ่งจะดึงให้ราคาแก๊ซ และถ่าหินลดลงด้วย
แม้การบริโภคไฟฟ้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นพลังงานรวมลดลงไม่มาก
ลดลงตามประสิทธภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเทียบกับเครื่องยนต์
ภาพรวมแล้วราคาพลังงานจะลดลง
เพราะการผลิตไฟฟ้า เทียบกับเครื่องยนต์แต่ละเครื่อง
ในรถยนต์(ที่ใช้น้ำมัน) การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากกว่า
มีทางเลือกมากกว่า