my port for comment
-
- Verified User
- โพสต์: 194
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 1
ไหนๆก็สมัครสมาชิกแล้วก็เอา port VI มาให้ ดูกันหน่อยแล้ว comment ด้วยนาครับ ผมเริ่มเข้าตลาดหุ้นปี 1998 เพิ่งมาจับ VI ปี 2000 นี่เอง
SAFE 15.1 x 13,000
SMK 32 x 4,800
RCL 52 x 8,400
TTL 30 x 3,000
TTTM 54 x 400
EGCOMP 42 x 120,000
BGH 24 x 80,000
SUC 14 x 800,000
SAFE 15.1 x 13,000
SMK 32 x 4,800
RCL 52 x 8,400
TTL 30 x 3,000
TTTM 54 x 400
EGCOMP 42 x 120,000
BGH 24 x 80,000
SUC 14 x 800,000
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 2
อิจฉาง่ะ SUC 800,000 หุ้น!!!
เท่าที่ดูก็ดีทีเดียวครับ ค่อนข้างกระจุกตัวในกลุ่ม textile ซึ่งดีมากครับ ตอนนี้เป็น sunset industry กำลังอยู่ในช่วงขึ้นอย่างแรง (โค้งสุดท้าย)
มี EGCOMP ตัวเดียวครับที่ผมคิดว่าน่าจะจับตาดู เพราะราคาค่อนข้างสูง (ทุน) เทียบกับ potential เพราะ EGCOMP จะไม่โตแบบก้าวกระโดด และที่ขึ้นมามากเพราะความคาดหวังที่จะมีการผนวกกับ RATCH เข้าเป็น EGAT ตัวเดียวครับ ถ้ารวมก็จะกระโดด ถ้าไม่รวมคงจะตกตอน EGAT เข้าตลาดปีหน้า...คนจะสลับไปถือ EGAT ซะเยอะ
เท่าที่ดูก็ดีทีเดียวครับ ค่อนข้างกระจุกตัวในกลุ่ม textile ซึ่งดีมากครับ ตอนนี้เป็น sunset industry กำลังอยู่ในช่วงขึ้นอย่างแรง (โค้งสุดท้าย)
มี EGCOMP ตัวเดียวครับที่ผมคิดว่าน่าจะจับตาดู เพราะราคาค่อนข้างสูง (ทุน) เทียบกับ potential เพราะ EGCOMP จะไม่โตแบบก้าวกระโดด และที่ขึ้นมามากเพราะความคาดหวังที่จะมีการผนวกกับ RATCH เข้าเป็น EGAT ตัวเดียวครับ ถ้ารวมก็จะกระโดด ถ้าไม่รวมคงจะตกตอน EGAT เข้าตลาดปีหน้า...คนจะสลับไปถือ EGAT ซะเยอะ
-
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 6
ผมรุ่นน้อง ๆ ฝากพี่ ๆ comment บ้างครับ พอร์ตเริ่มต้นเมื่อ มีนาคม 2002
AYUD 5000 @ 12.2
BAT-3K 2000 @ 38.5
BKI 500 @ 190.3
GRAMMY 2800 @ 21.2
MBK 500 @ 38.25
RCL 500 @ 0
SMG 1000 @ 26.75
SPSU 2500 @ 0
TRU 7000 @ 6.95
WACOAL 5000 @ 18.2
ที่ 0 บาท คือผมซื้อมากเยอะแล้วขายไปให้ได้จำนวนเงินเท่ากับเงินต้นที่ซื้อมาหักค่าคอมและ vat แล้วน่ะครับ
รบกวนพี่ ๆ comment ด้วยครับ
AYUD 5000 @ 12.2
BAT-3K 2000 @ 38.5
BKI 500 @ 190.3
GRAMMY 2800 @ 21.2
MBK 500 @ 38.25
RCL 500 @ 0
SMG 1000 @ 26.75
SPSU 2500 @ 0
TRU 7000 @ 6.95
WACOAL 5000 @ 18.2
ที่ 0 บาท คือผมซื้อมากเยอะแล้วขายไปให้ได้จำนวนเงินเท่ากับเงินต้นที่ซื้อมาหักค่าคอมและ vat แล้วน่ะครับ
รบกวนพี่ ๆ comment ด้วยครับ
- Guang Ming
- Verified User
- โพสต์: 58
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 8
ตะกี๊ลืมล็อกอินครับ พอร์ตที่ฝากพี่คอมเมนต์ ของผมเองครับ
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 9
ยินดีกับคุณ Guang Ming ด้วยครับ
พอร์ตแบบนี้ น่าจะทำให้อารมณ์ไม่ต้องรุ่มร้อน
สามารถปลีกเวลา โดยไม่ต้องตามหุ้นตลอด
คือ รอวันเก็บเกี่ยวดอกผลอย่างเดียวเลย
หรือจะหันไปเอาดีทางทำกำไรช่วงสั้นซัก 50-70%
ก็น่าจะมีโอกาสทำได้สบาย
พอร์ตแบบนี้ น่าจะทำให้อารมณ์ไม่ต้องรุ่มร้อน
สามารถปลีกเวลา โดยไม่ต้องตามหุ้นตลอด
คือ รอวันเก็บเกี่ยวดอกผลอย่างเดียวเลย
หรือจะหันไปเอาดีทางทำกำไรช่วงสั้นซัก 50-70%
ก็น่าจะมีโอกาสทำได้สบาย
What do you mean.?
-
- Verified User
- โพสต์: 194
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 10
เวลาหุ้นขึ้นแล้วขายทิ้งเพื่อลดต้นทุนให้เท่ากับ 0 อาจไม่ใช่วิธี่ที่ถูกต้องเสมอไปนะครับถ้าตราบใดหุ้นที่เราถือยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
ผมเคยปล่อย SUC ที่ผมถือต้นทุนต่ำออกไปบางส่วนช่วงที่หุ้นขึ้นมาแรกๆเพื่อลดต้นทุนแล้ว ต้องกลับมาซื้อใหม่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยใช่เหตุครับ
ยังไงก็ยังดีกว่า ไม่งั้นตอนนี้ผมคงถือ SUC แค่ 400,000 ที่ต้นทุน 12 ครับ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรหรอกครับแต่เมื่อผิดแล้วต้องรีบยอมรับผิดและต้องแก้ไขโดยไว ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงของผมคือขาย EGCOMP ทิ้งไป 160,000 หุ้นที่ราคา 38 บาทเมื่อตอนต้นปีนี้
ส่วนตีแตกของปี 2002-2003 นี้คือ MFG ที่ 32-35 ประมาณ 20000 หุ้นมาขายหมูไปหน่อยที่ 75 ตอนนี้ที่ยังเรียกได้ว่าดีมากคือ BGH ที่ซื้อตั้งกะปีที่แล้วตอนเพิ่มทุนจากเพื่อนที่ไม่เอาหุ้นเพิ่มทุนที่ 24 บาท
ปีนี้ ธุรกิจประกันน่าจะมาได้เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลผมเลยว่าอนาคตกลุ่มประกันน่าจะกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นได้นะครับหลังจากที่ไม่มี volume อยู่นาน
ผมเคยปล่อย SUC ที่ผมถือต้นทุนต่ำออกไปบางส่วนช่วงที่หุ้นขึ้นมาแรกๆเพื่อลดต้นทุนแล้ว ต้องกลับมาซื้อใหม่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยใช่เหตุครับ
ยังไงก็ยังดีกว่า ไม่งั้นตอนนี้ผมคงถือ SUC แค่ 400,000 ที่ต้นทุน 12 ครับ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรหรอกครับแต่เมื่อผิดแล้วต้องรีบยอมรับผิดและต้องแก้ไขโดยไว ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงของผมคือขาย EGCOMP ทิ้งไป 160,000 หุ้นที่ราคา 38 บาทเมื่อตอนต้นปีนี้
ส่วนตีแตกของปี 2002-2003 นี้คือ MFG ที่ 32-35 ประมาณ 20000 หุ้นมาขายหมูไปหน่อยที่ 75 ตอนนี้ที่ยังเรียกได้ว่าดีมากคือ BGH ที่ซื้อตั้งกะปีที่แล้วตอนเพิ่มทุนจากเพื่อนที่ไม่เอาหุ้นเพิ่มทุนที่ 24 บาท
ปีนี้ ธุรกิจประกันน่าจะมาได้เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลผมเลยว่าอนาคตกลุ่มประกันน่าจะกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นได้นะครับหลังจากที่ไม่มี volume อยู่นาน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 11
คุณก่วงหมิง
อย่างคุณ FITCH ว่าครับ การขายหุ้นออกไปเพื่อให้เหลือทุน 0 นั้นเป็นวิธี
การของคนที่เล่นรอบครับ แต่ไม่ค่อยมีใครใช้หลักการลงบัญชีแบบนี้สัก
เท่าไหร่นัก (เท่าที่เห็นก็มีแต่นักเก็งกำไรบ้านเรา ใช้กับหุ้นที่ค่อนข้างหวือ
หวาและมีเป้าหมายที่จะขายทำกำไรแน่ๆ) วิธีนี้จะมีปัญหามากเมื่อคุณคิด
จะซื้อเพิ่ม หรือคิดจะถือยาวเพื่อปันผล ทุนเฉลี่ยจะคิดยากมากครับ อาจ
จะกลายเป็นหลอกตัวเองได้ง่ายๆเลย
วิธีปฏิบัติที่นิยม (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) คือการลงบัญชีแบบ
Average Cost ซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ในเมืองไทยส่วนใหญ่จะใช้
วิธี FIFO (ตัดขายล็อตแรกที่ซื้อมาออกไปก่อน) ซึ่งผมเองก็ใช้ FIFO ลง
บัญชีเหมือนกันครับ (เพราะโบร๊คเกอร์ในไทยใช้วิธีนี้ด้วย) แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า average cost จะดีที่สุดครับ
ผมจะใช้ ทุน 0 กับพวก warrant หรือหุ้นเก็งกำไรเท่านั้นครับ แต่เท่าที่ดู port คุณ GM ก็เป็นหุ้นหวังปันผลทั้งนั้น
อย่างคุณ FITCH ว่าครับ การขายหุ้นออกไปเพื่อให้เหลือทุน 0 นั้นเป็นวิธี
การของคนที่เล่นรอบครับ แต่ไม่ค่อยมีใครใช้หลักการลงบัญชีแบบนี้สัก
เท่าไหร่นัก (เท่าที่เห็นก็มีแต่นักเก็งกำไรบ้านเรา ใช้กับหุ้นที่ค่อนข้างหวือ
หวาและมีเป้าหมายที่จะขายทำกำไรแน่ๆ) วิธีนี้จะมีปัญหามากเมื่อคุณคิด
จะซื้อเพิ่ม หรือคิดจะถือยาวเพื่อปันผล ทุนเฉลี่ยจะคิดยากมากครับ อาจ
จะกลายเป็นหลอกตัวเองได้ง่ายๆเลย
วิธีปฏิบัติที่นิยม (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) คือการลงบัญชีแบบ
Average Cost ซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ในเมืองไทยส่วนใหญ่จะใช้
วิธี FIFO (ตัดขายล็อตแรกที่ซื้อมาออกไปก่อน) ซึ่งผมเองก็ใช้ FIFO ลง
บัญชีเหมือนกันครับ (เพราะโบร๊คเกอร์ในไทยใช้วิธีนี้ด้วย) แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า average cost จะดีที่สุดครับ
ผมจะใช้ ทุน 0 กับพวก warrant หรือหุ้นเก็งกำไรเท่านั้นครับ แต่เท่าที่ดู port คุณ GM ก็เป็นหุ้นหวังปันผลทั้งนั้น
- Guang Ming
- Verified User
- โพสต์: 58
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณครับคุณ sirivajj,คุณ FITCH และคุณ CK ครับ
ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าการขายตัดต้นทุนไม่ค่อยถูกเท่าไหร่
แต่เนื่องจากผมเองก็ไม่ได้ศึกษาในทางลึกมากนักเกี่ยวกับ
รายละเอียดของธุรกิจพวกนั้น (ที่ตัดต้นทุน)
คือพวกหุ้นประกันทั้งหลายนั่นผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เสียหายแน่
และเป็นช่วงต้น ๆ ที่เข้าตลาด ยังไม่ค่อยคิดมาก ใช้อัตราส่วนง่าย ๆ
(จากหนังสือของท่านดร.นิเวศน์นั่นหละครับ) คัดเลือกออกมา
ชุดต่อมาคือ BAT-3K, RCL, SPSU ผมได้คำแนะนำมาจากการสัมมนา
หุ้นเงาของคุณเฟยหง ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรบวกกับ
ได้มาอ่านพบวิธีการขายตัดต้นทุนให้เป็น 0 จากในเวบ pantip
บวกกับจำนวนเงินสดในพอร์ตน้อยลงและผมต้องการเก็บ TRU ก็เลย
ลองใช้วิธีนี้ดู ก็รู้สึกไม่เสี่ยงดี สบายใจแต่เสียดายกำไรเหมือนกัน
ดีใจครับที่เรามีเวบนี้ ทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย แต่บางอย่างก็
ยังเข้าใจยากอยู่ เพราะผมไม่มีพื้นฐานด้านการเงินครับ เรียนมาทาง
คอมพ์ อย่างกระทู้เรื่อง PEG เนี่ย งง ๆ และยังไม่ได้ลองทำเลยครับ
ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าการขายตัดต้นทุนไม่ค่อยถูกเท่าไหร่
แต่เนื่องจากผมเองก็ไม่ได้ศึกษาในทางลึกมากนักเกี่ยวกับ
รายละเอียดของธุรกิจพวกนั้น (ที่ตัดต้นทุน)
คือพวกหุ้นประกันทั้งหลายนั่นผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เสียหายแน่
และเป็นช่วงต้น ๆ ที่เข้าตลาด ยังไม่ค่อยคิดมาก ใช้อัตราส่วนง่าย ๆ
(จากหนังสือของท่านดร.นิเวศน์นั่นหละครับ) คัดเลือกออกมา
ชุดต่อมาคือ BAT-3K, RCL, SPSU ผมได้คำแนะนำมาจากการสัมมนา
หุ้นเงาของคุณเฟยหง ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรบวกกับ
ได้มาอ่านพบวิธีการขายตัดต้นทุนให้เป็น 0 จากในเวบ pantip
บวกกับจำนวนเงินสดในพอร์ตน้อยลงและผมต้องการเก็บ TRU ก็เลย
ลองใช้วิธีนี้ดู ก็รู้สึกไม่เสี่ยงดี สบายใจแต่เสียดายกำไรเหมือนกัน
ดีใจครับที่เรามีเวบนี้ ทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย แต่บางอย่างก็
ยังเข้าใจยากอยู่ เพราะผมไม่มีพื้นฐานด้านการเงินครับ เรียนมาทาง
คอมพ์ อย่างกระทู้เรื่อง PEG เนี่ย งง ๆ และยังไม่ได้ลองทำเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 17
ไม่comment
มาชื่นชม :D
มาชื่นชม :D
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณทุกท่านครับ
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
my port for comment
โพสต์ที่ 20
ไม่มีcomment
เพราะว่า คุณได้เลือกซื้อหุ้นแต่ละตัว ในตอนที่ราคาต่ำทั้งสิ้น
แล้วถือยาวมาตลอด ไม่ต้องทำให้จิตใจเป็นกังวลกับมัน
ถามเจ้าของกระทู้กลับ ว่าแต่ละตัวนั้นถือเกิน 3 ปีทั้งหมดหรือเปล่า และมีซื้อตัวไหนเพิ่มหรือเปล่า
เพราะว่า คุณได้เลือกซื้อหุ้นแต่ละตัว ในตอนที่ราคาต่ำทั้งสิ้น
แล้วถือยาวมาตลอด ไม่ต้องทำให้จิตใจเป็นกังวลกับมัน
ถามเจ้าของกระทู้กลับ ว่าแต่ละตัวนั้นถือเกิน 3 ปีทั้งหมดหรือเปล่า และมีซื้อตัวไหนเพิ่มหรือเปล่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 21
ขนาด RCL ถ้ายังถือก็ก็กำไรเกือบ 4 เด้งmiracle เขียน:ไม่มีcomment
เพราะว่า คุณได้เลือกซื้อหุ้นแต่ละตัว ในตอนที่ราคาต่ำทั้งสิ้น
แล้วถือยาวมาตลอด ไม่ต้องทำให้จิตใจเป็นกังวลกับมัน
ถามเจ้าของกระทู้กลับ ว่าแต่ละตัวนั้นถือเกิน 3 ปีทั้งหมดหรือเปล่า และมีซื้อตัวไหนเพิ่มหรือเปล่า
คุณ fitch นี่ระดับอาจารย์ผมเลยนะครับ น้องมิราเคิ่ล
คำถามนี้ก็ถามมานานแล้ว มีคนขุดขึ้นมา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 102
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 24
มารอฟังด้วยคนค่ะ :D
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
my port for comment
โพสต์ที่ 25
SAFE 15.1 x 13,000
SMK 32 x 4,800
RCL 52 x 8,400
TTL 30 x 3,000
TTTM 54 x 400
EGCOMP 42 x 120,000
BGH 24 x 80,000
SUC 14 x 800,000
เมื่อ10 ปีก่อน รวมลงทุน 19058300 ล้าน
ตอนนี้ราคา safe 90x13000 (safe เสนอซื้อและออกตลาดไปแล้ว)
smk 98x4800
rcl 14x84000 (ของเก่า par 10บาท)
ttl 38x3000
tttm 77x400
egcomp 83x120000
bgh 30x800000 (ของเก่า par 10บาท)
suc 31.75x800000
รวมปัจจุบันถ้าถือไว้ 10 ปี มูลค่าจะเป็น 62321200 กำไรถึง43262900 หรือเฉลี่ย 4326290 บาทต่อปี หรือ 22.7% ต่อปี คิดง่าย ๆ ไม่ต้องเอา ค่าเวลาที่เสียไปมาคำนวณ ไม่ได้คิดดอกเบี้ยทบต้น ไม่ได้รวมปันผล ที่ให้ เอาแบบง่าย ๆ ดูแล้วเป็นการลงทุนที่ดีนะแบบนี้ ตัวเลขข้างบนของผมผิดไปหรือเปล่า ต้องถาม คุณ fitch ดู ไม่รู้ยังอยู่กับ thaivi หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ และมั่นใจนักลงทุนทุกรายไม่ถือยาว ๆ ขนาด 10 ปีเป็นแน่......แต่ผมมีบางตัวถือยาว ถือจนขาดทุน และก็กลับมาเท่าทุน ผมไม่ได้คิดมาก เพราะถือว่าเขาให้ปันผลสม่ำเสมอทุกปี ตัวนั้นคือ LTX ทุน 36 บาท ปันผลปีละ 2.50 บาท (6.9%) ราคาขึ้นไป 40 กว่าบาทก็ไม่ขาย ลงมา 26 บาทก็ไม่ได้ทำอะไร จนตอนนี้อยู่แถว ราคาทุน 36 บาท ผมไม่ได้ชนะ แต่มั่นใจว่า มอบให้ลูกเป็นสมบัติที่สุด ค่าที่แท้จริงของมันคงทำให้เขาชนะอย่างแน่นอน มีใครจะอดทนเหมือนกับผมบ้างหนอ ที่สำคัญต้องเป็นเงินเย็นจริง ๆ และไม่จำเป็นต้องใช้อะไร การลงทุนต้องทำใจเพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มั่นใจในสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน และหาข้อมูลให้ดีที่สุด วันหนึ่งจะเป็นของเราเอง :)
SMK 32 x 4,800
RCL 52 x 8,400
TTL 30 x 3,000
TTTM 54 x 400
EGCOMP 42 x 120,000
BGH 24 x 80,000
SUC 14 x 800,000
เมื่อ10 ปีก่อน รวมลงทุน 19058300 ล้าน
ตอนนี้ราคา safe 90x13000 (safe เสนอซื้อและออกตลาดไปแล้ว)
smk 98x4800
rcl 14x84000 (ของเก่า par 10บาท)
ttl 38x3000
tttm 77x400
egcomp 83x120000
bgh 30x800000 (ของเก่า par 10บาท)
suc 31.75x800000
รวมปัจจุบันถ้าถือไว้ 10 ปี มูลค่าจะเป็น 62321200 กำไรถึง43262900 หรือเฉลี่ย 4326290 บาทต่อปี หรือ 22.7% ต่อปี คิดง่าย ๆ ไม่ต้องเอา ค่าเวลาที่เสียไปมาคำนวณ ไม่ได้คิดดอกเบี้ยทบต้น ไม่ได้รวมปันผล ที่ให้ เอาแบบง่าย ๆ ดูแล้วเป็นการลงทุนที่ดีนะแบบนี้ ตัวเลขข้างบนของผมผิดไปหรือเปล่า ต้องถาม คุณ fitch ดู ไม่รู้ยังอยู่กับ thaivi หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ และมั่นใจนักลงทุนทุกรายไม่ถือยาว ๆ ขนาด 10 ปีเป็นแน่......แต่ผมมีบางตัวถือยาว ถือจนขาดทุน และก็กลับมาเท่าทุน ผมไม่ได้คิดมาก เพราะถือว่าเขาให้ปันผลสม่ำเสมอทุกปี ตัวนั้นคือ LTX ทุน 36 บาท ปันผลปีละ 2.50 บาท (6.9%) ราคาขึ้นไป 40 กว่าบาทก็ไม่ขาย ลงมา 26 บาทก็ไม่ได้ทำอะไร จนตอนนี้อยู่แถว ราคาทุน 36 บาท ผมไม่ได้ชนะ แต่มั่นใจว่า มอบให้ลูกเป็นสมบัติที่สุด ค่าที่แท้จริงของมันคงทำให้เขาชนะอย่างแน่นอน มีใครจะอดทนเหมือนกับผมบ้างหนอ ที่สำคัญต้องเป็นเงินเย็นจริง ๆ และไม่จำเป็นต้องใช้อะไร การลงทุนต้องทำใจเพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มั่นใจในสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน และหาข้อมูลให้ดีที่สุด วันหนึ่งจะเป็นของเราเอง :)
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 194
- ผู้ติดตาม: 0
Re: my port for comment
โพสต์ที่ 26
ท่านลุงขวดช่างคำนวณมากๆครับ
ปัจจุบัน port ผมจำนวนหุ้นมากขึ้นกว่าเดิมมาก
ตัวหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักและมีความสุขดีกับ port ที่มี
ส่วนมูลค่า port สูงกว่าที่ลุงขวดคำนวณไปอีก 2.3 เท่าครับ
หวังว่าเพื่อนๆนักลงทุนคงหาทางเดินของตัวเองให้เจอ
และยึดมั่นในแนวทางที่ตัวเองต้องการนะครับ
เอาไว้เจอกันใหม่อีกที 3 ปีข้างหน้าครับ
ปัจจุบัน port ผมจำนวนหุ้นมากขึ้นกว่าเดิมมาก
ตัวหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักและมีความสุขดีกับ port ที่มี
ส่วนมูลค่า port สูงกว่าที่ลุงขวดคำนวณไปอีก 2.3 เท่าครับ
หวังว่าเพื่อนๆนักลงทุนคงหาทางเดินของตัวเองให้เจอ
และยึดมั่นในแนวทางที่ตัวเองต้องการนะครับ
เอาไว้เจอกันใหม่อีกที 3 ปีข้างหน้าครับ
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: my port for comment
โพสต์ที่ 27
เป็นกระทู้ทีี่มีประโยชน์มากครับ พี่ FITCH
ช่างน่านับถือในความอดทน ว่าแต่สงสัยว่า บางครั้งไม่รู้สึกหวั่นไหวกับอนาคตของธุรกิจที่เราถือบ้างหรือครับ เช่น หุ้นบางตัวที่อยู่ในธุรกิจ sun set ถึงจะเข้าใจธุรกิจอย่างดี ก็อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของมันบ้าง อยากทราบวิธีคิดครับ ว่าคิดอย่างไร ถึงเอาชนะความกังวลในอนาคตของธุรกิจที่เราถืออยู่ครับ (นอกจากพยายามเข้าใจมันให้มากที่สุดครับ) ทำให้ถือได้นาน ขนาดนั้น
ช่างน่านับถือในความอดทน ว่าแต่สงสัยว่า บางครั้งไม่รู้สึกหวั่นไหวกับอนาคตของธุรกิจที่เราถือบ้างหรือครับ เช่น หุ้นบางตัวที่อยู่ในธุรกิจ sun set ถึงจะเข้าใจธุรกิจอย่างดี ก็อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของมันบ้าง อยากทราบวิธีคิดครับ ว่าคิดอย่างไร ถึงเอาชนะความกังวลในอนาคตของธุรกิจที่เราถืออยู่ครับ (นอกจากพยายามเข้าใจมันให้มากที่สุดครับ) ทำให้ถือได้นาน ขนาดนั้น
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- koh
- Verified User
- โพสต์: 273
- ผู้ติดตาม: 0
Re: my port for comment
โพสต์ที่ 28
เป็นกระทู้ที่สร้างกำลังใจกับแนวทางVIที่ดีมากครับ
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
Re: my port for comment
โพสต์ที่ 29
สุดยอดครับ ผมนับถือท่านทั้งสองด้วยใจจริงครับ ทั้งลุงขวดและคุณ FITCH เป็นแนวทางให้นักลงทุนรุ่นหลังที่ดีมากครับ
พิสูจน์แล้วว่าในระยะยาวหุ้นนั้นดีกว่าจริงๆ
พิสูจน์แล้วว่าในระยะยาวหุ้นนั้นดีกว่าจริงๆ
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย