เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
- centrady
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 1
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 124
รอฟังด้วยคนครับพี่
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 125
แวะเข้ามาเรียกครับ :lol:
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 126
ตอนที่ 15 อึดเข้าไว้ อึดเข้าไว้
มาแล้วครับ มาแล้ว หลังจาก ผมเจอโทรศัพท์ จากเพื่อนจนหูร้อน ว่า เมื่อไหร่จะมาเล่าต่อ วันนี้ เลยขออนุญาติคุณเมีย ใช้คอม เล่าเรื่องของ นักลงทุน ท่านนึงซึ่ง ทำผมประหลาดใจชนิดต้องกลอกตา :roll:
ใช่ครับ เขาคือ พี่ชาย ผมเอง พี่ชายผมก็ชอบเรื่องหุ้น แต่หุ้นของพี่แก มักจะไม่ค่อยเหมือนผม เรียกว่าอันไหนผมบอกดี พี่แกบอกไม่ดี อันไหนผมบอกไม่ดี พี่ผมบอก ดี้ดี
พี่ชายผมเริ่มลงทุนหลังผม นิดเดียว อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยรู้ว่า พี่ผมซื้ออะไรมั่งหรอกครับแต่วันนึงเขาถามผมว่า
" suysak รู้จักลูกอมฮัตสันจูจุ้บ ไหม"
" อ่า ผมชอบอม ฮอลล์ มากกว่า ง่ะ "
" ดีนะหุ้นนี้ "
" ดีไงฟระ กำไรจึ๋งนึง พีอี ก็สูง ตามหลักการเขาว่า แพง ถึง แพ้งแพง "
" โธ่ ไอ้น้อง เขาจะขาย ธุรกิจที่ไม่ทำกำไร แล้ว "
" ขายแล้วไงฟระ แหม ขายลูกอม ปาสเตอร์ยา แป้งหอม ฟังแล้ว
น่าเบื่อ สุดๆ "
ผมเถียงพี่ชายผม แล้วก็ยก เหตุผล ร้อยแปดพันเก้า ที่ไม่ควรซื้อ ฮัตสันจูจุ้บ
ขณะนั้น หุ้น ฮัตสัน จูจุ้บ JCT น่าจะอยู่ต่ำสิบ แล้วผมก็ไม่ชอบเลย เพราะคิดว่า แหม ขายลูกอม แป้งหอม พลาสเตอร์ยา มันจะรวยอาไร้ ฟังแล้วน่าเบื่อ สุดๆ
ไปๆมาๆ หลังจากขายธุรกิจที่ขาดทุน บริษัทเริ่มเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ JCT ก็เริ่มพุ่งทะยาน พร้อมกับการจ่ายปันผล สูงๆ มาโดยตลอด
ครับ นับตั้งแต่วันนั้น เวลา เห็นพลาสเตอร์ยา ทีไร พี่ชายผมก็มักจะบอกว่า
" มะเหงก แนะ มรึงงงงง "
ครับยังไม่หมดแค่นั้น พี่ชายผมเป็นนักลงทุนประเภท อึดไว้ก่อน พ่อสอนไว้
พี่แก ซื้อ HTC ที่ราคา สี่บาท พร้อมกับ การที่ต้องไปกางเต้นท์บนภูเขา ผมบอกว่า ทำไมไม่ขายไปซื้อตัวอื่น พี่ผมก็บอกว่า
" กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
และ HTC มันก็ปันผลทุกปีจริงๆ ด้วย ด้วย yield ประมาณ 3 - 4% ผมถามแกล่าสุด พี่ผมยังถืออยู่เลย ครับ ผมว่า ปันผลที่เขาได้ป่านนี้แซงหน้าราคาหุ้นไปแล้วมั้ง ผมถามว่าแล้วจะขายไหมอ่า เชื่อไหมครับ พี่ผมตอบว่า
" มรึงกลับไปอ่านข้างต้น วะ "
ยังครับยังไม่หมดเท่านั้น พี่ผมเป็น นักลงทุนที่ดูวัฏจักร การลงทุนที่ดีมาก
วันนึงแก ก็เดินมาบอกผมว่า เคาะซื้อ ssf หรือ สุรพลฟู้ดไปแล้ววะ
ผมฟังแล้วก็ งง ถึง ง้ง งง เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงตกต่ำของธุรกิจเกษตร ทั้ง กุ้ง ทั้งไก่ ไม่รู้จะขายใคร ราคา หุ้นอยู่แค่ สองบาท ก่าๆ ผมถามว่า ซื้อทำไม เมื่อไหร่มันจะดี ก็ไม่รู้ ขายเหอะ เนี่ยตัวอื่นดีๆ เยอะแยะ พี่ผมก็ตอบว่า
" กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
จนมาปีที่ผ่านมา ดันเป็นปีทองของ การเกษตร ทั้งกุ้ง ทั้งไก่ มาเรียบ ผมชำเลืองมองราคาหุ้นแล้วก็ให้พรั่นพรึง เพราะ
แปด บาทกว่า ครับ แปดบาทกว่า
ผมกับเมีย ก็ตกลงกันว่า เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ เราต้องยกตั้วเฮีย เราเป็น สุดยอด VI แห่งบ้านเสียแล้ว เพราะ สี่เด้ง + กับปันผล อีก ห้า ปี นี่
มันดี จิงๆ " กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
นับถือ :lol:
มาแล้วครับ มาแล้ว หลังจาก ผมเจอโทรศัพท์ จากเพื่อนจนหูร้อน ว่า เมื่อไหร่จะมาเล่าต่อ วันนี้ เลยขออนุญาติคุณเมีย ใช้คอม เล่าเรื่องของ นักลงทุน ท่านนึงซึ่ง ทำผมประหลาดใจชนิดต้องกลอกตา :roll:
ใช่ครับ เขาคือ พี่ชาย ผมเอง พี่ชายผมก็ชอบเรื่องหุ้น แต่หุ้นของพี่แก มักจะไม่ค่อยเหมือนผม เรียกว่าอันไหนผมบอกดี พี่แกบอกไม่ดี อันไหนผมบอกไม่ดี พี่ผมบอก ดี้ดี
พี่ชายผมเริ่มลงทุนหลังผม นิดเดียว อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยรู้ว่า พี่ผมซื้ออะไรมั่งหรอกครับแต่วันนึงเขาถามผมว่า
" suysak รู้จักลูกอมฮัตสันจูจุ้บ ไหม"
" อ่า ผมชอบอม ฮอลล์ มากกว่า ง่ะ "
" ดีนะหุ้นนี้ "
" ดีไงฟระ กำไรจึ๋งนึง พีอี ก็สูง ตามหลักการเขาว่า แพง ถึง แพ้งแพง "
" โธ่ ไอ้น้อง เขาจะขาย ธุรกิจที่ไม่ทำกำไร แล้ว "
" ขายแล้วไงฟระ แหม ขายลูกอม ปาสเตอร์ยา แป้งหอม ฟังแล้ว
น่าเบื่อ สุดๆ "
ผมเถียงพี่ชายผม แล้วก็ยก เหตุผล ร้อยแปดพันเก้า ที่ไม่ควรซื้อ ฮัตสันจูจุ้บ
ขณะนั้น หุ้น ฮัตสัน จูจุ้บ JCT น่าจะอยู่ต่ำสิบ แล้วผมก็ไม่ชอบเลย เพราะคิดว่า แหม ขายลูกอม แป้งหอม พลาสเตอร์ยา มันจะรวยอาไร้ ฟังแล้วน่าเบื่อ สุดๆ
ไปๆมาๆ หลังจากขายธุรกิจที่ขาดทุน บริษัทเริ่มเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ JCT ก็เริ่มพุ่งทะยาน พร้อมกับการจ่ายปันผล สูงๆ มาโดยตลอด
ครับ นับตั้งแต่วันนั้น เวลา เห็นพลาสเตอร์ยา ทีไร พี่ชายผมก็มักจะบอกว่า
" มะเหงก แนะ มรึงงงงง "
ครับยังไม่หมดแค่นั้น พี่ชายผมเป็นนักลงทุนประเภท อึดไว้ก่อน พ่อสอนไว้
พี่แก ซื้อ HTC ที่ราคา สี่บาท พร้อมกับ การที่ต้องไปกางเต้นท์บนภูเขา ผมบอกว่า ทำไมไม่ขายไปซื้อตัวอื่น พี่ผมก็บอกว่า
" กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
และ HTC มันก็ปันผลทุกปีจริงๆ ด้วย ด้วย yield ประมาณ 3 - 4% ผมถามแกล่าสุด พี่ผมยังถืออยู่เลย ครับ ผมว่า ปันผลที่เขาได้ป่านนี้แซงหน้าราคาหุ้นไปแล้วมั้ง ผมถามว่าแล้วจะขายไหมอ่า เชื่อไหมครับ พี่ผมตอบว่า
" มรึงกลับไปอ่านข้างต้น วะ "
ยังครับยังไม่หมดเท่านั้น พี่ผมเป็น นักลงทุนที่ดูวัฏจักร การลงทุนที่ดีมาก
วันนึงแก ก็เดินมาบอกผมว่า เคาะซื้อ ssf หรือ สุรพลฟู้ดไปแล้ววะ
ผมฟังแล้วก็ งง ถึง ง้ง งง เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงตกต่ำของธุรกิจเกษตร ทั้ง กุ้ง ทั้งไก่ ไม่รู้จะขายใคร ราคา หุ้นอยู่แค่ สองบาท ก่าๆ ผมถามว่า ซื้อทำไม เมื่อไหร่มันจะดี ก็ไม่รู้ ขายเหอะ เนี่ยตัวอื่นดีๆ เยอะแยะ พี่ผมก็ตอบว่า
" กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
จนมาปีที่ผ่านมา ดันเป็นปีทองของ การเกษตร ทั้งกุ้ง ทั้งไก่ มาเรียบ ผมชำเลืองมองราคาหุ้นแล้วก็ให้พรั่นพรึง เพราะ
แปด บาทกว่า ครับ แปดบาทกว่า
ผมกับเมีย ก็ตกลงกันว่า เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ เราต้องยกตั้วเฮีย เราเป็น สุดยอด VI แห่งบ้านเสียแล้ว เพราะ สี่เด้ง + กับปันผล อีก ห้า ปี นี่
มันดี จิงๆ " กุเห็นมันปันผลทุกปี มรึงจะขายทำไมให้ชีช้ำ "
นับถือ :lol:
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 130
ขอเถียงครับ ผมเป็นหมอผู้ชาย ก็ดูแลเด็กได้ครับpopjavi เขียน: เอ่อ พยาบาลผู้ชายคงดูแลเด็กไม่ได้หรอกคะ ความอดทนคงไม่พอ
บางทีเด็กๆเฮี้ยวมาก เราต้องเฮี้ยวให้มากกว่าเดี๋ยวไล่เด็กๆไม่ทัน
ผมเอา เด็ก ไปแหย่ ปลั๊กไฟ ครับ เด็กเงียบเลยครับ :mrgreen: (ผมพูดเล่นนะ)
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 133
แวะเข้ามาคารวะพี่สวยศักดิ์อีกคนคร้าบ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 134
ตอนที่ 16 ขายบ้านแทง
กลับมาอีกครั้งนะครับ เรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อไปเป็นเรื่องความผิดพลาดของผมอีกแล้ว เล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ สอนใจแก่นักลงทุนรุ่นหลังๆ ว่าเลียนแบบใครก็ได้ อย่าเลียนแบบ Suysak
ย้อนกลับไปเมื่อสมัย ฟองสบู่ ยุค 2546 - 2547 มั้ง ช่วงนั้นเป็นยุคทองของคนเล่นหุ้น ดัชนีอยู่ราวๆ 800 จุด ได้มั้งครับ ถ้าจำได้เป็นช่วงที่ผมลืมหลักการลงทุนแบบ VI ไปนั่นแหละครับ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเหิมเกริมสุดๆ เพราะเล่นหุ้นได้ตังทุกวัน เคยบอกกับเพื่อนว่า
"แหม กุไม่เห็นต้องทำไร คลิ้กซ้ายทีขวาที ได้ตัง"
ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน เมื่อฝรั่งเริ่มขาย และหุ้นเริ่มทำการเข้าสู่ภาวะของมัน
บอกตรงๆ ช่วงนั้นผมไม่เคยเจอหุ้นปรับฐานใหญ่ ซึ่งเล่นกันเป็นปี ประเภทที่ว่าซึมลงๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบสลับขึ้นบ้างเป็นฟันปลา
ครับ ตามประสาเด็ก ไม่เคยขาดทุน ตอนที่ผม เห็นหุ้นบางตัวร่วงลงมาจากเดิม แต่ขณะนั้นผม ถือหุ้นเต็มมือ ด้วยความ
โลภ โลภ โลภ ๆๆๆๆๆ
ผมเลย นำของวิเศษ คือ บัตรกดเงินสด ไป กด เอาเงิน มาซื้อหุ้นอย่างลั้นลา
ครับ บางท่านอาจถามว่า ทำไมผมไม่เล่นมาร์จิ้นละ พอดีช่วงนั้นผมคิดว่ามานก็กู้เหมือนกัน แถมอยู่ต่างจังหวัด ขี้เกียจส่งเอกสาร เอา บัตรเงินสดนี่แหละง่ายดี
ครับ ผมได้ซื้อหุ้นอย่างลั้นลา แต่ แทนที่มันจะเด้งให้ผมขายได้กำไร มันกลับ
เด้ง ลง เด้ง ลง ลง เด้ง ลง ลง ลง ลง ลง ลง
ครับพอถึงตอนนั้น หน้าชักซีด ครับ ซีดราวกับไก่ต้ม
นอนไม่หลับ แถมด้วยอาการกระสับกระส่าย
พอร์ต มันเริ่ม แดง แดง อีกแล้ว
และแล้ว มันก็ทำให้ผมต้องพบกับคำว่า
CUT LOSS
คำฮิตที่ชาวหุ้นต้องเจอกันสักวัน
เจ็บ แบบ ไม่ต้องทำใจ เพราะ ต้องจ่ายหนี้เขาไง
:lol: :lol:
กลับมาอีกครั้งนะครับ เรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อไปเป็นเรื่องความผิดพลาดของผมอีกแล้ว เล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ สอนใจแก่นักลงทุนรุ่นหลังๆ ว่าเลียนแบบใครก็ได้ อย่าเลียนแบบ Suysak
ย้อนกลับไปเมื่อสมัย ฟองสบู่ ยุค 2546 - 2547 มั้ง ช่วงนั้นเป็นยุคทองของคนเล่นหุ้น ดัชนีอยู่ราวๆ 800 จุด ได้มั้งครับ ถ้าจำได้เป็นช่วงที่ผมลืมหลักการลงทุนแบบ VI ไปนั่นแหละครับ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเหิมเกริมสุดๆ เพราะเล่นหุ้นได้ตังทุกวัน เคยบอกกับเพื่อนว่า
"แหม กุไม่เห็นต้องทำไร คลิ้กซ้ายทีขวาที ได้ตัง"
ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็เป็นอยู่ไม่นาน เมื่อฝรั่งเริ่มขาย และหุ้นเริ่มทำการเข้าสู่ภาวะของมัน
บอกตรงๆ ช่วงนั้นผมไม่เคยเจอหุ้นปรับฐานใหญ่ ซึ่งเล่นกันเป็นปี ประเภทที่ว่าซึมลงๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบสลับขึ้นบ้างเป็นฟันปลา
ครับ ตามประสาเด็ก ไม่เคยขาดทุน ตอนที่ผม เห็นหุ้นบางตัวร่วงลงมาจากเดิม แต่ขณะนั้นผม ถือหุ้นเต็มมือ ด้วยความ
โลภ โลภ โลภ ๆๆๆๆๆ
ผมเลย นำของวิเศษ คือ บัตรกดเงินสด ไป กด เอาเงิน มาซื้อหุ้นอย่างลั้นลา
ครับ บางท่านอาจถามว่า ทำไมผมไม่เล่นมาร์จิ้นละ พอดีช่วงนั้นผมคิดว่ามานก็กู้เหมือนกัน แถมอยู่ต่างจังหวัด ขี้เกียจส่งเอกสาร เอา บัตรเงินสดนี่แหละง่ายดี
ครับ ผมได้ซื้อหุ้นอย่างลั้นลา แต่ แทนที่มันจะเด้งให้ผมขายได้กำไร มันกลับ
เด้ง ลง เด้ง ลง ลง เด้ง ลง ลง ลง ลง ลง ลง
ครับพอถึงตอนนั้น หน้าชักซีด ครับ ซีดราวกับไก่ต้ม
นอนไม่หลับ แถมด้วยอาการกระสับกระส่าย
พอร์ต มันเริ่ม แดง แดง อีกแล้ว
และแล้ว มันก็ทำให้ผมต้องพบกับคำว่า
CUT LOSS
คำฮิตที่ชาวหุ้นต้องเจอกันสักวัน
เจ็บ แบบ ไม่ต้องทำใจ เพราะ ต้องจ่ายหนี้เขาไง
:lol: :lol:
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 139
เอ่อ ผมขอออกตัวนิดนึงนะครับว่า ทุกตอนที่ผมกล่าวถึงชื่อหุ้นเป็นตัวที่ผมซื้อไปแล้ว ขายไปแล้วในอดีตนะครับ ไม่ได้หมายความว่ามันดีหรือยังดีอยู่นะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ :lol:
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ :lol:
- jung_oh
- Verified User
- โพสต์: 734
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 140
[quote="Suysak"]เอ่อ ผมขอออกตัวนิดนึงนะครับว่า ทุกตอนที่ผมกล่าวถึงชื่อหุ้นเป็นตัวที่ผมซื้อไปแล้ว ขายไปแล้วในอดีตนะครับ ไม่ได้หมายความว่ามันดีหรือยังดีอยู่นะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 141
[quote="jung_oh"][quote="Suysak"]เอ่อ ผมขอออกตัวนิดนึงนะครับว่า ทุกตอนที่ผมกล่าวถึงชื่อหุ้นเป็นตัวที่ผมซื้อไปแล้ว ขายไปแล้วในอดีตนะครับ ไม่ได้หมายความว่ามันดีหรือยังดีอยู่นะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
เมื่อลงทุน จงทำให้เรียบง่าย ชัดเจน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 142
Siri ตอนนั้นที่ผมเริ่มซื้อ ราคาน่าจะอยู่ราวๆ 3 บาท ครับ น่าจะเป็นช่วงกลางปี 51 จะว่าไปเหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ครับ ผมเห็น ผบห ซื้อ ต่อเนื่อง และซื้อเยอะมาก ผมก็เข้าไป กดในเวป กลต ดูว่าเขาซื้อเท่าไหร่ต้นทุนที่เขาซื้อ น่าจะ ประมาณ 2 บาทต้นๆ แต่เขาก็ยังซื้อเรื่อยๆ
นั่นเป็นเหตุผลแรก เหตุผลต่อไปก็คือ ยอดขายของเขาที่มาก เป็นระดับหมื่นล้าน ครับ แต่ mkt. cap อยู่เพียง 4000 - 6000 ล้าน ซึ่งผมว่าต่ำมากเมื่อ เทียบกับตัวใหญ่ตัวอื่น เช่น spali, lpn ,lh, ap
ถ้ามองในแง่นี้ ผมว่ามันต้องคุ้มมากที่จะซื้อกิจการ ช่วงนั้นผมยังสงสัยเลยว่า น่าจะเกิดการทำ เทนเดอร์ เพื่อ รวบรวมหุ้นที่ตอนนั้นกระจัดกระจายกัน เพื่อให้มีเจ้าภาพใหญ่เพียงเจ้าเดียว
อีกทั้งจากการสอบถามเพื่อนๆ ที่ชอบซื้อคอนโด เจ้านายฝรั่งที่เช่าอยู่ เวป prakard ก็สังเกตุว่ามีเสียงติน้อยมาก ทุกคนต่างชื่นชมในการบริหารจัดการคอนโด
อีกทั้งยังมีแผนที่จะ ขายหุ้นเพิ่มทุน pp ซึ่งตามกฏราคาหุ้นในขณะนั้นต้องไม่ต่ำพาร์ ซึ่งช่วงหลังผมสังเกตุเห็นว่า ผบห จะซื้อตลอดเมื่อราคาต่ำพาร์ ผมจึงคิดว่า ผมจะได้เปรียบมาก หากผมซื้อ ต่ำกว่าพาร์เหมือน ผบห ซื้อ
อีกทั้งจากการไปประชุมเพื่ออนุมัติการออก siri-w1 นั้น ผมสังเกตุได้ว่า ผบห เชื่อมั่นมากว่า การออกวอแรนท์ จะทำให้ ผู้ถือหุ้นทุกคนพอใจ
หลักก็อย่างนี้แหละครับ ผมจึงซื้อและถือมาจนออก วอแรนท์
:lol:
นั่นเป็นเหตุผลแรก เหตุผลต่อไปก็คือ ยอดขายของเขาที่มาก เป็นระดับหมื่นล้าน ครับ แต่ mkt. cap อยู่เพียง 4000 - 6000 ล้าน ซึ่งผมว่าต่ำมากเมื่อ เทียบกับตัวใหญ่ตัวอื่น เช่น spali, lpn ,lh, ap
ถ้ามองในแง่นี้ ผมว่ามันต้องคุ้มมากที่จะซื้อกิจการ ช่วงนั้นผมยังสงสัยเลยว่า น่าจะเกิดการทำ เทนเดอร์ เพื่อ รวบรวมหุ้นที่ตอนนั้นกระจัดกระจายกัน เพื่อให้มีเจ้าภาพใหญ่เพียงเจ้าเดียว
อีกทั้งจากการสอบถามเพื่อนๆ ที่ชอบซื้อคอนโด เจ้านายฝรั่งที่เช่าอยู่ เวป prakard ก็สังเกตุว่ามีเสียงติน้อยมาก ทุกคนต่างชื่นชมในการบริหารจัดการคอนโด
อีกทั้งยังมีแผนที่จะ ขายหุ้นเพิ่มทุน pp ซึ่งตามกฏราคาหุ้นในขณะนั้นต้องไม่ต่ำพาร์ ซึ่งช่วงหลังผมสังเกตุเห็นว่า ผบห จะซื้อตลอดเมื่อราคาต่ำพาร์ ผมจึงคิดว่า ผมจะได้เปรียบมาก หากผมซื้อ ต่ำกว่าพาร์เหมือน ผบห ซื้อ
อีกทั้งจากการไปประชุมเพื่ออนุมัติการออก siri-w1 นั้น ผมสังเกตุได้ว่า ผบห เชื่อมั่นมากว่า การออกวอแรนท์ จะทำให้ ผู้ถือหุ้นทุกคนพอใจ
หลักก็อย่างนี้แหละครับ ผมจึงซื้อและถือมาจนออก วอแรนท์
:lol:
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 143
[quote="popjavi"][quote="jung_oh"][quote="Suysak"]เอ่อ ผมขอออกตัวนิดนึงนะครับว่า ทุกตอนที่ผมกล่าวถึงชื่อหุ้นเป็นตัวที่ผมซื้อไปแล้ว ขายไปแล้วในอดีตนะครับ ไม่ได้หมายความว่ามันดีหรือยังดีอยู่นะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดและเล่าต่อไป เป็นประสบการณ์ของผมที่เคยผ่านมา ข้อมูลอาจไม่เป้ะๆ เพราะบางทีมันนานมากแล้ว นะครับ หวังว่าคงช่วยนักลงทุนทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 144
เพิ่มเติม siri นิดนึงนะครับ คือ ช่วงนั้นผมจะเลือกหุ้นที่ ยังไงก็ได้ให้โอกาศขาดทุนน้อยที่สุดครับ ช่วงนั้น ผมถือ cpall siri sport tgci ครับ ส่วนใหญ่จะเปนหุ้นที่ ผบห ซื้อ ต่อเนื่อง นะครับ ยกเว้น cpall กับ tgci :lol:
- jung_oh
- Verified User
- โพสต์: 734
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 145
[quote="Suysak"]Siri ตอนนั้นที่ผมเริ่มซื้อ ราคาน่าจะอยู่ราวๆ 3 บาท ครับ น่าจะเป็นช่วงกลางปี 51 จะว่าไปเหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ครับ ผมเห็น ผบห ซื้อ ต่อเนื่อง และซื้อเยอะมาก ผมก็เข้าไป กดในเวป กลต ดูว่าเขาซื้อเท่าไหร่ต้นทุนที่เขาซื้อ น่าจะ ประมาณ 2 บาทต้นๆ แต่เขาก็ยังซื้อเรื่อยๆ
- jung_oh
- Verified User
- โพสต์: 734
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 146
ขอถามต่อนะคับ
จากการอ่านความเห็นของพี่ พี่ซื้อเพราะ ผู้บริหารซื้อซะส่วนใหญ่
พี่มองยังไงกับ Case SIRI ที่ว่า ผู้บริหารเหมือนจะขายลูกมาซื้อแม่ เยอะมากๆ
ส่วนตัวผมสนใจตัวลูก เพราะมีการแปลงถึง 4 ปี ถ้าดู upside อนาคต ตัวลูกย่อมมีมากกว่าพอสมควร
จะมีเรื่องเกี่ยวกับการปันผลหรือป่าวครับ แบบว่า ขายลูกแม่ซื้อแม่ เพราะ เตรียมจะปันผล ถ้ามีลูก ก็จะไม่ได้ปัน
อันนี้ ขอถามมุมมองพี่ Suy หน่อยน่ะครับ
จากการอ่านความเห็นของพี่ พี่ซื้อเพราะ ผู้บริหารซื้อซะส่วนใหญ่
พี่มองยังไงกับ Case SIRI ที่ว่า ผู้บริหารเหมือนจะขายลูกมาซื้อแม่ เยอะมากๆ
ส่วนตัวผมสนใจตัวลูก เพราะมีการแปลงถึง 4 ปี ถ้าดู upside อนาคต ตัวลูกย่อมมีมากกว่าพอสมควร
จะมีเรื่องเกี่ยวกับการปันผลหรือป่าวครับ แบบว่า ขายลูกแม่ซื้อแม่ เพราะ เตรียมจะปันผล ถ้ามีลูก ก็จะไม่ได้ปัน
อันนี้ ขอถามมุมมองพี่ Suy หน่อยน่ะครับ
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 147
ผมว่าในกรณีที่ ผบห siri ขายลูกมาซื้อแม่นี่ คงไม่มีอะไรมากกว่าการทำกำไรบ้างนะครับ เพราะ เขาคงได้ วอร์ ไปเยอะทีเดียว อีกอย่าง ปีนี้ก็คงปันผลได้เยอะอีก ดังนั้น การถือแม่ก็คงได้ประโบชน์ในรูปของปันผลด้วยครับ เผื่อเอาปันผลไปแปลงวอร์เป็นหุ้นในอีก 4 ปี ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 148
คุณพี่Suysak จะมีเขียนตอนตีแตกบอลโลกด้วยrsโอ้ม่ายช่ายๆsportบ้างไหมครับจะขอความรู้หรือแนวตวามคิดหน่อยอ่ะครับ ถ้าช่วงนี้หุ้นsportมีคนดูแลอยู่ก็โหดมากๆเหมือนrsเลยน่าจะวิ่งกลับถอยหลังซะงั้น
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak
โพสต์ที่ 150
ตอนที่ 17 เจ้าจ๋าป๋มกลัวแล้ว
หุ้นในเมืองไทย มันก็มีหลายแบบ ตั้งแต่ หุ้นพื้นฐาน หุ้นปันผล แต่หุ้นที่คนเล่นหุ้นอย่างเราช้อบชอบ ก็คือ
หุ้นปั่น
ครับ ถึงผมจะปาวารณาตัวเป็น VI แต่บางครั้งผมก็ชอบที่จะเล่นหุ้นปั่น และหุ้นปั่นที่สร้างความประทับใจให้ผมตัวนึง คือ
Sport
โอ้แม่เจ้า มันคือ หนังสือพิมพ์กีฬาที่ เราๆท่านๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อก่อน ตอนผมเป็นนักศึกษา ผมจะชอบซื้อเป็นพิเศษ
อันที่จริง sport ก็ไม่เชิงเป็นหุ้นปั่นซะทีเดียว แต่มักจะมีบางช่วง ที่ตลาดให้ pe สูงเป็นพิเศษ อย่างน้อยหุ้นตัวนี้ก็คือเจ้าตลาดกีฬาที่ ใครรักในการดูกีฬาต้องรู้จักมัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว มันนานจนผมเกือบลืมไปแล้วว่าทำไมผมจึงซื้อมัน เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ซื้อหุ้นแม่ แต่ผมซื้อ w2
ผมซื้อ เพราะมีข่าวเกี่ยวกับบอลโลกทุกวัน อีกทั้งมีโบรคออกบทวิแคะมาเชียร์ด้วย บอกตรงๆตอนนั้นผมซื้อตามข่าวเลย ไม่ได้ดูอะไรทั้งนั้น
เชื่อไหมครับ หุ้นมันก็กระดึ้บๆๆๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามแรงเชียร์ของ นสพ หุ้น ทั้งหลาย
จนก่อนบอลโลกประมาณสัก สองสามอาทิตย์ หุ้นก็ขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งๆที่ตลาดช่วงก็ไม่ได้ว่าดีนัก
บางที sport ก็ชิลลิ่งตอนเช้า ชนิดที่เปิดมาก็ชิลลิ่งเลย แต่เชื่อไหมครับ พอตกเย็น
Floor เฉย
เป็นหุ้นที่ถือแล้วหัวใจจะวาย แต่ผมก็กำไรมาได้อย่างหวุดหวิด
รอดตาย :lol:
คราวนี้ ก็มาถึงปี 51 หุ้นแต่ละตัวลงไปกองกับพื้น
อย่างที่ผมเคยเล่า ผมก็มองหา หุ้นที่จะเพลย์เซพ ได้ หากเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้น
ผมนึกได้ว่า นี่มันใกล้บอลโลกสุดๆ นี่หว่า ผมเลยไปดู sport อันดับแรกผมเปิด การซื้อขาย ผบห ก่อนเพื่อน เพราะผมถือว่า
เจ้าของรู้ดีที่สุด
เปิดแล้วก็เห็นซื้อกันใหญ่ ถึงสามบาทกว่าก็ยังซื้อ คราวนี้ผมมาดูปันผล พบว่า จ่ายราวๆ 0.20 - 0.30 ครับ ราคาหุ้นช่วงนั้นอยู่ประมาณ 2.50 แสดงว่า
โดยพื้นฐานแล้ว sport กินรวบในธุรกิจ นสพ กีฬา บุคลากรต่างๆ ช่างหาได้ยากยิ่งเช่น พี่ แจ้กกี้ พี่ บอ บู๋ เจ้าของสำนวน แหกทวารมาดอมดม
ถึงเสดกิจ เมกาไม่ดี ก็ไม่สามารถหยุดวัยรุ่นไทยไม่ให้ดูบอลได้ และ sport ยังมีหนังสืออีกหลายหัว เช่น FHM, ZOO ซึ่งเป็น ประเภท ปลุกใจ ผช ให้สู้ ทั้งน้าน
แน่นอนครับ หากบอล และ ความหื่น ยังอยู่คู่ ผช ฉันใด
Sport คงยังไม่เจ้ง ฉันนั้น ดังนั้นต้นทุนที่ผมซื้อ safe สุดๆ ผมเพียงแต่รอวันเวลา ที่ มหกรรมบอลโลกมาถึง และหากมาแล้ว มันยังขึ้นไม่มาก
อีกสี่ปีมันก็มา อีก ผมแค่รอต่อไปเท่านั้น อีกทั้ง sport ยังจ่ายปันผลต่อเนื่อง ท่านลองย้อนไปอ่าน ตอนที่ 15 แล้วจะพูดว่า
กุเห็นมันปันผลทุกปีจะขายทำไมให้ชีช้ำ
แต่ก็นั่นแหละครับ หากท่านทุนสูงๆ หน่อย ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ครับ
อีกอย่าง ผบห ซื้อหุ้นไปเยอะ ดังนั้น มันก็อาจเป็นได้ว่า พอ วอ2 หมดอายุ เขาน่าจะแจก วอ4 ซึ่งผมเห็น sport ชอบออกลูกหลานมาให้ น้าๆอาๆ ทั้งหลายเล่นอยู่เรื่อย มันก็อาจออกแบบนี้ได้ครับ
จบจ้ะ :lol:
หุ้นในเมืองไทย มันก็มีหลายแบบ ตั้งแต่ หุ้นพื้นฐาน หุ้นปันผล แต่หุ้นที่คนเล่นหุ้นอย่างเราช้อบชอบ ก็คือ
หุ้นปั่น
ครับ ถึงผมจะปาวารณาตัวเป็น VI แต่บางครั้งผมก็ชอบที่จะเล่นหุ้นปั่น และหุ้นปั่นที่สร้างความประทับใจให้ผมตัวนึง คือ
Sport
โอ้แม่เจ้า มันคือ หนังสือพิมพ์กีฬาที่ เราๆท่านๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อก่อน ตอนผมเป็นนักศึกษา ผมจะชอบซื้อเป็นพิเศษ
อันที่จริง sport ก็ไม่เชิงเป็นหุ้นปั่นซะทีเดียว แต่มักจะมีบางช่วง ที่ตลาดให้ pe สูงเป็นพิเศษ อย่างน้อยหุ้นตัวนี้ก็คือเจ้าตลาดกีฬาที่ ใครรักในการดูกีฬาต้องรู้จักมัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปี ที่แล้ว มันนานจนผมเกือบลืมไปแล้วว่าทำไมผมจึงซื้อมัน เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ซื้อหุ้นแม่ แต่ผมซื้อ w2
ผมซื้อ เพราะมีข่าวเกี่ยวกับบอลโลกทุกวัน อีกทั้งมีโบรคออกบทวิแคะมาเชียร์ด้วย บอกตรงๆตอนนั้นผมซื้อตามข่าวเลย ไม่ได้ดูอะไรทั้งนั้น
เชื่อไหมครับ หุ้นมันก็กระดึ้บๆๆๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามแรงเชียร์ของ นสพ หุ้น ทั้งหลาย
จนก่อนบอลโลกประมาณสัก สองสามอาทิตย์ หุ้นก็ขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งๆที่ตลาดช่วงก็ไม่ได้ว่าดีนัก
บางที sport ก็ชิลลิ่งตอนเช้า ชนิดที่เปิดมาก็ชิลลิ่งเลย แต่เชื่อไหมครับ พอตกเย็น
Floor เฉย
เป็นหุ้นที่ถือแล้วหัวใจจะวาย แต่ผมก็กำไรมาได้อย่างหวุดหวิด
รอดตาย :lol:
คราวนี้ ก็มาถึงปี 51 หุ้นแต่ละตัวลงไปกองกับพื้น
อย่างที่ผมเคยเล่า ผมก็มองหา หุ้นที่จะเพลย์เซพ ได้ หากเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้น
ผมนึกได้ว่า นี่มันใกล้บอลโลกสุดๆ นี่หว่า ผมเลยไปดู sport อันดับแรกผมเปิด การซื้อขาย ผบห ก่อนเพื่อน เพราะผมถือว่า
เจ้าของรู้ดีที่สุด
เปิดแล้วก็เห็นซื้อกันใหญ่ ถึงสามบาทกว่าก็ยังซื้อ คราวนี้ผมมาดูปันผล พบว่า จ่ายราวๆ 0.20 - 0.30 ครับ ราคาหุ้นช่วงนั้นอยู่ประมาณ 2.50 แสดงว่า
โดยพื้นฐานแล้ว sport กินรวบในธุรกิจ นสพ กีฬา บุคลากรต่างๆ ช่างหาได้ยากยิ่งเช่น พี่ แจ้กกี้ พี่ บอ บู๋ เจ้าของสำนวน แหกทวารมาดอมดม
ถึงเสดกิจ เมกาไม่ดี ก็ไม่สามารถหยุดวัยรุ่นไทยไม่ให้ดูบอลได้ และ sport ยังมีหนังสืออีกหลายหัว เช่น FHM, ZOO ซึ่งเป็น ประเภท ปลุกใจ ผช ให้สู้ ทั้งน้าน
แน่นอนครับ หากบอล และ ความหื่น ยังอยู่คู่ ผช ฉันใด
Sport คงยังไม่เจ้ง ฉันนั้น ดังนั้นต้นทุนที่ผมซื้อ safe สุดๆ ผมเพียงแต่รอวันเวลา ที่ มหกรรมบอลโลกมาถึง และหากมาแล้ว มันยังขึ้นไม่มาก
อีกสี่ปีมันก็มา อีก ผมแค่รอต่อไปเท่านั้น อีกทั้ง sport ยังจ่ายปันผลต่อเนื่อง ท่านลองย้อนไปอ่าน ตอนที่ 15 แล้วจะพูดว่า
กุเห็นมันปันผลทุกปีจะขายทำไมให้ชีช้ำ
แต่ก็นั่นแหละครับ หากท่านทุนสูงๆ หน่อย ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ครับ
อีกอย่าง ผบห ซื้อหุ้นไปเยอะ ดังนั้น มันก็อาจเป็นได้ว่า พอ วอ2 หมดอายุ เขาน่าจะแจก วอ4 ซึ่งผมเห็น sport ชอบออกลูกหลานมาให้ น้าๆอาๆ ทั้งหลายเล่นอยู่เรื่อย มันก็อาจออกแบบนี้ได้ครับ
จบจ้ะ :lol: