เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
sialic
Verified User
โพสต์: 144
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 151

โพสต์

.. อิอิ  พี่สุย ภาษาเขียนยังขนาดนี้ ภาษาพูด คงฮาสุดยอดไปเลย   :lol:  :lol:
new user
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 152

โพสต์

ตอนที่17 ช๊อบชอบขอบคุณครับ  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 153

โพสต์

เอ่อ ผมแก้คำผิดนิดนึงนะครับ ที่ว่า

สปอต จ่ายปันผล 0.20 - 0.30 เป็น จ่าย 0.10 - 0.15 ครับ ซึ่งราคาช่วงผมซื้อ ผมจะได้ปันผลประมาณ 5% นะครับ ซึ่งผมรับได้ครับ

โทดทีครับ ตาลายไปหน่อย  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 154

โพสต์

Nanotube wrote:
รบกวนถามคุณลูกอีสานเวลาเจอหุ้นที่ใช่ คือราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมาก คุณลูกอีสานมีวิธีเก็บเข้า port ยังไงครับ

1. เก็บทีเดียวให้เต็มพอร์ท (ตามสัดส่วนที่ตั้งใจไว้) ไม่สนว่าราคาจะเป็นยังไง ณ ตอนนั้น คือแบบมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเองสุดๆ

2. ค่อยๆ ทยอยเก็บเข้าพอร์ท ดูแนวโน้มราคาก่อน ถ้าขยับขึ้น ก็ใจชื้นว่าเราวิเคราะห์ถูก ก็ทยอยเก็บเข้าพอร์ทเพิ่มไปเรื่อยๆ จนเต็มพอร์ท

ที่ผ่านมาผมจะเจอปัญหานี้บ่อยมาก เจอตัวที่คิดว่าใช่แล้ว เช่น Global, DRT, UMI,  HEMRAJ, TTCL, MCS ฯลฯ แต่ด้วยความที่ยังใหม่มากๆ ก็กลัววิเคราะห์ผิด ทยอยเก็บทีละนิดๆ ทำให้ต้นทุนสูงกว่าที่ควรจะเป็น หรือพอตลาดตก ราคามันลงมาให้เก็บเพิ่ม ก็ดันกลัวว่าวิเคราะห์ผิดอีก เลยไม่กล้าเก็บเพิ่ม ปล่อยให้ราคามันกลับไปที่เดิมแล้วค่อยเก็บเพิ่ม เลยอยากทราบเทคนิคจากคุณลูกอีสานครับ ถ้าจะให้ดีรบกวนคุณลูกอีสานวิเคราะห์ตัวที่ผมยกตัวอย่างให้ด้วยได้มั้ยครับ ว่าดีจริง หรือดีหลอกครับ ยังมือใหม่มาก ไม่ค่อยมั่นใจการวิเคราะห์ของตัวเองเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ


----------------------------------------------------------------

ผมขอพี่โจแชร์ ประสบการณ์นะครับ

สำหรับคำถามนี้ แสดงว่าซื้อแล้วบางทีเรากลัวขาดทุน ซึ่งผมมองว่าเป็นคุณสมบัติของนักลงทุนที่ดีครับ

สำหรับผมจะทำงี้ครับ
 
    หุ้นที่ผมจะลงทุนยาว ผมจะดูปันผลย้อนหลังครับ ว่าโดยเฉลี่ยหุ้นตัวนั้นจ่ายปันผลกี่บาท

    แล้วผมก็มาดูราคาหุ้นปัจจุบันว่าเมื่อเทียบแล้ว ได้ %ปันผลเท่าไหร่ เช่น

TCCC (ยกตัวอย่างนะครับ ไม่ได้บอกว่าดี) จ่ายที่ 0.40 - 0.70 บาท

   สมมุติราคาหุ้นช่วงนั้น อยู่ที่ 7 บาท ซึ่งแผนการลงทุนผมอยากได้ปันผลอย่างต่ำ 5% ผมก็เริ่มซื้อ ถ้าซื้อ แล้วตก ก็ไม่เปนไร ซื้อเพิ่ม

  ถ้าซื้อแล้วขึ้นไม่เปนไรซื้ออีก แต่พอถึง 8 บาท ผมจะไม่ซื้อแล้ว เนื่องจาก ผมพิจารณาว่า MOS ไม่พอ เพราะ ปันผลน้อยสุดของตัวนี้คือ 0.40 บาท ซึ่งถ้าเราซื้อที่ 8 บาทแสดงว่า เราได้ปันผล 5% ซึ่งเป็นเกณฑ์ต่ำสุดที่เรารับได้แล้ว

 สมมุติว่าราคาหุ้นเราปรับตัวขึ้น 100% ผมจะขายออกครึ่งนึง เท่ากับว่าผมได้หุ้นฟรี และหุ้นนั้นจะผลิตเงินให้เราทุกปีจากปันผล โดยที่เราไม่ขาดทุนเลย

 แต่ก็ไม่ใช่ว่าดูแต่ปันผลนะครับ ต้องดูพื้นฐานบริษัทด้วยว่า แข็งแกร่งไหม


-------------------------------------------------

ข้างบนนี้ผมเคยโพสไว้กระทู้พี่โจครับ คงจะตอบน้องป้อบได้บางส่วน ลองพิดนาดูนะครับ


:wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Botong
Verified User
โพสต์: 85
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 155

โพสต์

ขอบคุฯพี่ Suysak ครับ ได้ความรู้เยอะเลย...เขียนต่อไปนะครับ..
*** better together ***
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 1

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 156

โพสต์

ขอบคุณที่ให้ความรู้และความบันเทิงครับ ตีตั๋วรออ่านต่อครับ
popjavi
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 157

โพสต์

[quote="sialic"].. อิอิ
เมื่อลงทุน จงทำให้เรียบง่าย ชัดเจน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
popjavi
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 158

โพสต์

นินทาเสร็จแล้ววันนี้ขอปรึกษาเรื่อง global กับ hmpro หน่อยคะเพราะเคยเดินแต่ hmpro ไม่เคยเดิน global ซักทีอยากตีให้แตกแต่ไม่เคยยลสินค้าเลยวันนี้แอบหยอด global มาได้นิหน่อยอยากทราบว่าในสายตาพี่สุ่ยโอกาสเติบโตของสองตัวนี้ตัวไหนน่าจะมีจุดแข็งที่มากกว่า
:ep: ปล ตอบเร็วๆหน่อยนะอยู่ในช่วงปรับพอรต์ถ้าตอบโดนใจไว้มาหาดใหญ่จะเลี้ยงหมี่ไก่คิกๆๆๆๆ
เมื่อลงทุน จงทำให้เรียบง่าย ชัดเจน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 159

โพสต์

พี่เคยไปเดินดู Global ที่ อุดร มาแล้ว รวมทั้งเคยไปซื้อด้วย จริงๆ Global มันจะเน้นไปทางการสร้างบ้านมากกว่านะ ตัวห้างเขาก็ไม่ติดแอร์ ใช้พัดลมระบบอีแวปเอา

ด้านหลังจะเป็นที่รับสินค้าพวก เหล็กเส้น อิฐ กระเบื้อง ไรแบบเนี้ย ซึ่ง hmpro ไม่มีขาย ส่วนใหญ่ Hmpro จะออกไปทางต่อเติม ของแต่งบ้าน ลองสังเกตดูสิ พอเดินไปโฮมโปร จะเจอพวก พนง ถามเลย ว่า

    " ดูเครื่องปั้มน้ำไหมครับ "
    " พี่ เครื่องทำน้ำอุ่นเราทำโปรโมชั่นนะครับ "

    " อ่า แหะ ๆ ผม มาดูอย่างอื่นครับ "

เนี่ยออกแนวเนั้ยจริงไหม

ส่วน Global นี่ พนง เขาไม่ถามแบบนี้นะ ส่วนใหญ่มีแต่ของที่มาประกอบกันเป็นบ้าน ขายให้พวกช่างทำบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่โฮมโปร ขายให้เจ้าของบ้านไป DIY เอา

ทั้งสองตัวออกแนวค้าปลีก กำไรเติบโตตามการขยายสาขา ตราบใดที่มีสาขาให้ขยาย กำไรมันก็เพิ่มเรื่อยๆ

อย่าง Global เห็นมีแผนจะขยายสาขา ปีละ ประมาน 3 สาขา ส่วนใหญ่ก็ตามหัวเมืองต่างจังหวัด ที่เมืองยังมีการเติบโตมีการก่อสร้างเรื่อยๆ มันก็คงเริ่มเข้ามาแทนที่ร้านวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมอะนะ

พวกค้าปลีกอย่างนี้เราต้องซื้อไปเรื่อยๆ ซื้อมันทุกเดือน แต่ ในระยะเริ่มต้นอย่าง Global นี่ กิจการกำลังขยายใข่ไหม ก็ต้องเก็บเงินไว้เพิ่มทุนบ้าง เพราะสาขายังไม่เยอะเท่า โอมโปร

คาดว่า Global ก็คงคล้ายๆ โฮมโปรตอนแรกๆ ที่เพิ่มทุนบ้าง ให้วอร์แรนท์บ้าง ราคาหุ้นน่าจะขึ้นๆลงตามภาวะตลาด แต่กำไรจะทยอยเติบโตเรื่อยๆ

ประมาณนี้

เลี้ยงด้วยนะ  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 160

โพสต์

ตอนที่ 18 ไป ประชุม กันดีกว่า

    ไป ประชุมที่ว่า นี่ไม่ใช่ไปม้อบนะครับ ผมหมายถึง การประชุม ผู้ถือหุ้นประจำปีต่างหาก

    ปกติ ในช่วงแรกที่ผมเล่นหุ้น ผมไม่เคยคิดที่จะไปประชุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผมไม่เคยเห็นความสำคัญเลย คิดแต่ว่า แหม เดี๋ยวเขาก็เอามาลงในรายงานประจำปีเองแหละ ไม่เห็นต้องไปเลยเสียเวลา น่าเบื่อด้วยคนเยอะ

    แต่เท่าที่ท่านรู้ ความคิดผมเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อตอนที่ผมถือหุ้นยางมะตอย น่าจะประมาณปี 48 ตอนก่อนโอลิมปิค ที่จนแป้บนึงอ่ะครับ

   เพราะผมสงสัยสงสัย เกี่ยวกับเรื่องโรงงานใหม่ ผมเลยคิดซะว่า เอาฟระ ลองดูอยากรู้ว่าเป็นไง ขนาดภรรยาผมยังถามว่า

    " นี่เธอจะไปจริงเหรอ ลางานไปเลยนี่นะ "

    " แน่น้อน กิจการของเรา เราก็ต้องทำความรู้จัก ผบห ไว้สิ "

จน ศรีภรรยา ผมประชดประชันว่า

    " แหมยังกับถือซักล้านหุ้น "

    " ครับถึงแม้ผมจะถือ ไม่ถึงล้านหุ้น ประมาณว่า ขาดศูนย์ไปหลายๆๆๆๆตัว"

แต่  " แต่เงินใคร ใครก็รัก เช่นเดียว กับเมียใครใครก็รัก "

พ้มก็ต้องไป

แล้วเรื่องราวมันก็เป็นไปตามที่ผมเคยเล่าในตอนเก่าครับ


ดังนั้น ตั้งแต่วันนั้น มีประชุมที่ไหนผมไปหมด ยังไงพ้มก็ไป บางครั้งผมก็ไปสังเกตุสังกา บรรดา โหงวเฮ้ง ของ ผบห แหละครับว่า เป็นไง

บางครั้งผมก็ได้ความรู้ใหม่ๆมา เช่น วันนึง ผมไปประชุม ของ บริษัทที่ทำกระเบื้อง

มี ผถห ท่านนึง ลุกขึ้นถาม เกี่ยวกับนโยบายการรับรู้รายได้ ของบริษัท ซึ่งเขียน ว่า

   บริษัทจะรับรู้รายได้เมื่อ สินค้าพ้นจากการควบคุม ของบริษัทอย่างถาวรแล้ว

ครับ ผม อยากจะขอบคุณพี่ท่านนั้นมากๆ ว่าทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มอีกว่า ไอ้เรื่องนโยบายการรับรู้รายได้นี่มันก็สำคัญ

ในสมัยก่อนนานมาแล้ว ผมก็เคยขาดทุนจากการที่ผมดูแต่ eps ที่ บริษัทประกาศมา คือช่วงนั้นผมลงทุนในหุ้นที่ทำ หนังสือการ์ตูนนะครับ

เด๋วฟังต่อนะครับ  :lol:
sangop403
Verified User
โพสต์: 55
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 161

โพสต์

มาให้กำลังใจ ให้เพื่อนเขียนต่อ... :D
รออ่านตลอด...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 162

โพสต์

ครับ ไอ้คำว่า บริษัทจะรับรู้รายได้เมื่อ สินค้าพ้นจากการควบคุมของบริษัทอย่างเด็ดขาด

มันก็หมายถึง สินค้าที่ลูกค้าซื้อขาดไปแล้วนั้นเอง ไม่ใช่หมายถึง การฝากขาย ฝากวาง

มันทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมลงทุน ในหุ้น การตูน ตอนนั้น หุ้นตัวนี้เพิ่งเข้าตลาดใหม่ๆ pe ก็ต่ำ ปันผลก็เยอะ

ความที่ผมเป็นคนชอบอ่านการ์ตูน ผมก็สนใจ บริษัทยังมีแผนเปิดร้านหนังสือ การ์ตูนเองด้วย

ด้วยสไตล์ของผม ผมก็ต้องไปนั่งเฝ้าหน้าร้านเขา ความรู้สึกผมมันบอกว่า ทำไมบางสาขามันเงียบจัง บางสาขาก็ดูพอไปได้ แต่ทำไมดูเหมือนบริษัทกำไรเยอะจัง

ผมคิด แต่คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า การ์ตูน ผมก็ชอบอ่าน แถมชอบซื้อด้วย มันคงมีแฟนเฉพาะกลุ่ม ก็เห็น eps ก็ดีนี่น่า

แต่ๆ ผมลืมไปครับ ทั้งๆที่ เพื่อนรักผมคนนึงเปิดร้านหนังสือส่งตัวเองเรียนมาตลอด และมันยังเคยเล่าเรื่องการทำร้านหนังสือให้ฟัง

ผมก็ดันลืมไป เพราะเห็นแต่ pe ต่ำ

ช่วงนั้น ผม ดูเป็นแต่ pe กับ %ปันผล อย่างเดียว ไม่เคยสนใจ ลูกหนี้ กับ กระแสเงินสดเลย

ผมซื้อที่ราคาสูงพอประมาณ น่าจะ สองบาทกว่า นี่แหละ

ผมก็เฝ้ารองบออกด้วยใจสบายๆ แต่ ปรากฏว่า พองบออกมา เหลือ

กำไร นิสสสสส เดียว ซึ่งทำให้ ราคาที่ผมซื้อนั้นแพงโคด

ครับ

ผมลืมไปว่า หนังสือ นั้น เขาขายแบบฝากขายกัน ขายไม่หมด เอาไปคืน

แบบที่ขายขาด พวกร้านค้า จะเอาแต่หนังสือที่ขายดีๆ ครับ หนังสือการ์ตูนนะ ขายฝากซะเยอะ

ผม คิดได้ เลย เขก กะโหลก ตัวเองดัง โป้ก เพราะ ผมโดน

pe หลอกเต็มๆๆๆ

เฮ้อ


ครับ การประชุมผู้ถือหุ้น มันทำให้ผมได้ความรุ้ใหม่ๆ เสมอ เพราะจะมีคนเก่งๆ มาถามนู่นถามนี่ ให้เราได้ลอกวิชาตลอด

หลังๆผมเลยไปตลอด

ก็เลย อยาก ชวน นักลงทุน ใหม่ๆ ทุกท่าน ลองไปกันดู และ ให้ความสำคัญกับการประชุม เราจะได้ไปฟัง มือเก่าๆ คนเก่งๆ เขาถามคำถาม บางครั้งบางคำถาม เล่นเอา ผบห อึ้งกันไปก็มี และผมว่าเป็นที่สังเกตุ ธรรมาภิบาลที่ดี ครับว่า ผบห ให้ความสำคัญ กับ ผถห อย่างเราแค่ไหน ตอบหรือพยายามหาข้อมูลให้เราทุกคำถามหรือเปล่า

ไปกันเถอะนะครับ จะได้หนีเมียเที่ยวด้วย อุ้บบบบบ

:lol:
popjavi
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0

เล่นหุ้นสบาย สไตล์ Suysak

โพสต์ที่ 163

โพสต์

เอ ไม่แน่ใจตอนนั้น
พี่ suysuk ได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นของ tgci
เค้าได้พูดถึงเรื่องขาดทุนสะสมมั้ยคะ
ว่า plan จะหมดขาดทุนประมาณกี่ปี
ถึงจะเริ่มมีปันผลได้
:B
เมื่อลงทุน จงทำให้เรียบง่าย ชัดเจน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน