สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 1
วันนี้ผมไปฟังสัมนามาครับ
มีกำหนดการดังด้านล่างครับ
กำหนดการ จัดรายการ มันนี่ทอล์ค
ณ ห้องประชุม ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2553
1300-1500 น. วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย
อ.อัจฉรา โยมสินธ์ ภาควิชาการเงิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
จุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารทหารไทย
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก ของว่าง สนับสนุนโดย บลจ.ทหารไทย
1515-1715 น. เส้นทางรวย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานกลุ่มทองหล่อ
ปรารถนา มงคลกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน
บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
เรามาเริ่มจาก section แรกก่อนนะครับผม
- วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
ทำไมต้องวางแผนการเงิน
>> อ. อัจฉรา : เดิมประเทศของเราอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
แค่ออกจากบ้าน เราก็สามารถหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้แล้ว
แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนั้นทำให้บางพื้นที่ เราไม่ได้อุดมสมบูนณ์เหมือนแต่ก่อนครับ
แถมยังมีวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
ปัญหาเงินเฟ้อ(เงินจำนวนเท่าเดิม ซื้อของได้น้อยลง)
สวัสดิการต่างๆน่าจะลดลง เพราะค่าใช้จ่ายของรัฐมากขึ้น รัฐคงไม่สามารถดูแลประชากรได้ทุกคน
(ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง: สังเกตจากเริ่มมีแนวคิดการสนับสนุนการออมต่างๆที่คาดว่าจะออกมา )
มีกำหนดการดังด้านล่างครับ
กำหนดการ จัดรายการ มันนี่ทอล์ค
ณ ห้องประชุม ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร
ในวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2553
1300-1500 น. วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย
อ.อัจฉรา โยมสินธ์ ภาควิชาการเงิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
จุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารทหารไทย
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1500-1515 น. พัก ของว่าง สนับสนุนโดย บลจ.ทหารไทย
1515-1715 น. เส้นทางรวย
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานกลุ่มทองหล่อ
ปรารถนา มงคลกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน
บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
เรามาเริ่มจาก section แรกก่อนนะครับผม
- วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
ทำไมต้องวางแผนการเงิน
>> อ. อัจฉรา : เดิมประเทศของเราอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
แค่ออกจากบ้าน เราก็สามารถหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้แล้ว
แต่ปัจจุบันไม่ใช่ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนั้นทำให้บางพื้นที่ เราไม่ได้อุดมสมบูนณ์เหมือนแต่ก่อนครับ
แถมยังมีวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
ปัญหาเงินเฟ้อ(เงินจำนวนเท่าเดิม ซื้อของได้น้อยลง)
สวัสดิการต่างๆน่าจะลดลง เพราะค่าใช้จ่ายของรัฐมากขึ้น รัฐคงไม่สามารถดูแลประชากรได้ทุกคน
(ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง: สังเกตจากเริ่มมีแนวคิดการสนับสนุนการออมต่างๆที่คาดว่าจะออกมา )
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 2
- วิชาเศรษฐศาสตร์ สอนให้เรารู้จักจัดสรรค์ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ปัจจุบันเราพบว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมมีมากขึ้น จนเกิดปัญหาอย่างที่เห็น แล้วทำไมถึงมีคนจนล่ะ
..... เพราะคนเรามีไม่พอ (ใช้มากกว่า รายได้ที่ได้มา) , ไม่ทราบว่ารายจ่ายเรามากแค่ไหน(ผมเคยเจอคนที่เป็นแบบนั้นนะครับ:ผู้เขียน)
จริงๆหลักง่ายๆที่เรามักได้ยินกันก็คือ ให้เริ่มมีการทำบัญชี รายรับ รายจ่าย
เราจะทราบว่า เรามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หลายครั้งที่เรามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ไปๆมาๆ ค่าใช้จ่ายนั้นอาจเยอะกว่าที่เราคาดคิดครับ
ดังนั้นถ้าเรามีการจัดสรรค์เงิน แบ่งใช้จ่าย และลงทุนอย่างมีเหตุผล เราจะเริ่มเห็นอนาคตที่มั่นคงครับ
- ปัจจุบันเราพบว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมมีมากขึ้น จนเกิดปัญหาอย่างที่เห็น แล้วทำไมถึงมีคนจนล่ะ
..... เพราะคนเรามีไม่พอ (ใช้มากกว่า รายได้ที่ได้มา) , ไม่ทราบว่ารายจ่ายเรามากแค่ไหน(ผมเคยเจอคนที่เป็นแบบนั้นนะครับ:ผู้เขียน)
จริงๆหลักง่ายๆที่เรามักได้ยินกันก็คือ ให้เริ่มมีการทำบัญชี รายรับ รายจ่าย
เราจะทราบว่า เรามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หลายครั้งที่เรามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ไปๆมาๆ ค่าใช้จ่ายนั้นอาจเยอะกว่าที่เราคาดคิดครับ
ดังนั้นถ้าเรามีการจัดสรรค์เงิน แบ่งใช้จ่าย และลงทุนอย่างมีเหตุผล เราจะเริ่มเห็นอนาคตที่มั่นคงครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 3
อ.สมจินต์
คนทั่วๆไป บางครั้งอาจรู้สึกหมดหวังกับการสร้างความมั่นคั่งในชีวิต บางครั้งมองดูคนรวยๆแล้วก็รู้สึกว่า เราไม่มีเงินอย่างเขาหรอก
บางครั้งหาเงินมาได้ ก็เพื่อนำมาเป็นเงินดาวน์รถ แล้วเราก็ก่อหนี้ให้กับเราฯลฯ
(ในหนังสือ Richdad เรียกว่า หนี้ที่ไม่ดี)
ถ้าเราเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เป็นเราเริ่มออม แล้วนำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน
พอเราเริ่มมีทรัพย์สินมากขึ้น เราถึงเริ่มใช้จ่ายอย่างมีเหตุ มีผล น่าจะดีกว่า เพราะเราก็ไม่ต้องเป็นหนี้
- บางคนเห็นราคาบ้าน & Condo 3-5 ล้าน เราก็เริ่มคิดว่า แล้วเราจะซื้อไหวหรือ เราเริ่มท้อแล้ว
แต่จริงๆ ถ้าเราวางแผนการเงิน เราเริ่มคิดว่า เราจะเก็บเงิน ภายใน 7 - 10ปี
เราต้องออมเท่าไหร่ ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนแค่ไหน
เราจะเริ่มรู้จักวางแผนการเงินให้ตัวเราครับ
- คนที่มีเงินมากอยู่แล้ว หากศึกษาการลงทุน เราก็จะทราบวิธีที่ทำให้เรา
"ใช้เงินทำงาน"
จนในวาระสุดท้ายของชีวิต การที่เราจะแบ่งสินทรัพย์/ทำพินัยกรรม ก็จะง่ายขึ้น ถ้าเรารู้จักวางแผนอนาคต
เช่นเราจะให้ลูกหลานอย่างไร ให้ในรูปแบบใด เราจะนำเงินส่วนใดไว้ทำประโยชน์ตอบแทนสังคม
(ยกตัวอย่างเช่น Warren E. Buffett แบ่งเงินส่วนใหญ่เข้ามูลนิธิ Btll Gate ครับ;ผู้เขียน)
คนทั่วๆไป บางครั้งอาจรู้สึกหมดหวังกับการสร้างความมั่นคั่งในชีวิต บางครั้งมองดูคนรวยๆแล้วก็รู้สึกว่า เราไม่มีเงินอย่างเขาหรอก
บางครั้งหาเงินมาได้ ก็เพื่อนำมาเป็นเงินดาวน์รถ แล้วเราก็ก่อหนี้ให้กับเราฯลฯ
(ในหนังสือ Richdad เรียกว่า หนี้ที่ไม่ดี)
ถ้าเราเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เป็นเราเริ่มออม แล้วนำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน
พอเราเริ่มมีทรัพย์สินมากขึ้น เราถึงเริ่มใช้จ่ายอย่างมีเหตุ มีผล น่าจะดีกว่า เพราะเราก็ไม่ต้องเป็นหนี้
- บางคนเห็นราคาบ้าน & Condo 3-5 ล้าน เราก็เริ่มคิดว่า แล้วเราจะซื้อไหวหรือ เราเริ่มท้อแล้ว
แต่จริงๆ ถ้าเราวางแผนการเงิน เราเริ่มคิดว่า เราจะเก็บเงิน ภายใน 7 - 10ปี
เราต้องออมเท่าไหร่ ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนแค่ไหน
เราจะเริ่มรู้จักวางแผนการเงินให้ตัวเราครับ
- คนที่มีเงินมากอยู่แล้ว หากศึกษาการลงทุน เราก็จะทราบวิธีที่ทำให้เรา
"ใช้เงินทำงาน"
จนในวาระสุดท้ายของชีวิต การที่เราจะแบ่งสินทรัพย์/ทำพินัยกรรม ก็จะง่ายขึ้น ถ้าเรารู้จักวางแผนอนาคต
เช่นเราจะให้ลูกหลานอย่างไร ให้ในรูปแบบใด เราจะนำเงินส่วนใดไว้ทำประโยชน์ตอบแทนสังคม
(ยกตัวอย่างเช่น Warren E. Buffett แบ่งเงินส่วนใหญ่เข้ามูลนิธิ Btll Gate ครับ;ผู้เขียน)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 4
คุณจุมพล : จริงๆการสร้า้งวินัยการลงทุนง่ายๆ สำหรับคนทั่วๆไป คือแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนทุกๆเดือน
ธนาคารหลายแห่งก็มีการให้คำปรึกษาด้านการเงินเหล่านี้
(ทาง TMB เรียกว่า AIP = Autonomic Investment Plan)
ธนาคารหลายแห่งก็มีการให้คำปรึกษาด้านการเงินเหล่านี้
(ทาง TMB เรียกว่า AIP = Autonomic Investment Plan)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 5
อ.อัจฉรา :หลายครั้งที่เรามักจะดูแลคนในครอบครัว บางครั้งเราเป็นห่วงเรื่องของลูก ของสามี
ทำไมเราไม่ลองคิดเรื่อง การวางแผนการเงินของเราบ้าง จริงไหม
วิธีง่ายๆ คือเรา manage 4 ตัวหลักเหล่านี้
1. รายได้
2. รายจ่าย
3. สินทรัพย์
4. หนี้สิน
ถ้ารายได้ น้อยกว่ารายจ่าย
เราต้องมาดูว่า จริงๆแล้ว เราต้องมาพิจารณาว่า รายจ่าย เหล่านั้นเป็นรายจ่ายที่จำเป็น หรือรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย
หลายครั้งที่เราใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป
เช่น กาแฟแก้วละเป็นร้อย
แต่เราสามารถทำเองได้ "กาแฟครึ่งช้อน น้ำครึ่งแก้ว"
>> สินทรพัย์ - หนี้สิน คืออะไร
ใครสังเกตไหม มันคือ งบดุลชีวิต
...บางคนไม่เคยทำ งบดุลชีวิตให้ตนเองเลย
จริงๆเราน่าจะทำความรู้จักตนเอง และวางเป้าหมายในชีวิต
ลองวางแผนว่า ตัวเราตอนนี้อายุเท่าไหร่ เราจะทำงานอย่างไร
จะเกษียณอายุตนเองเมื่อไหร่
ปกติคนทั่วๆไปที่อ.สังเกต จะวางแผนแค่ พรุ่งนี้ทำอะไร แล้วเราก็หมดไปวันๆ
แป๊บเดียวก็สิ้นเดือน แป๊บเดียวก็สิ้นปี
(เห็นได้จากการที่เรามักตั้ง project ให้ตนเองว่าปีใหม่เราจะทำ แล้วมันก็เป็น project ใหม่ของปีหน้า;ผู้เขียน)
ทำไมเราไม่ลองคิดเรื่อง การวางแผนการเงินของเราบ้าง จริงไหม
วิธีง่ายๆ คือเรา manage 4 ตัวหลักเหล่านี้
1. รายได้
2. รายจ่าย
3. สินทรัพย์
4. หนี้สิน
ถ้ารายได้ น้อยกว่ารายจ่าย
เราต้องมาดูว่า จริงๆแล้ว เราต้องมาพิจารณาว่า รายจ่าย เหล่านั้นเป็นรายจ่ายที่จำเป็น หรือรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย
หลายครั้งที่เราใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป
เช่น กาแฟแก้วละเป็นร้อย
แต่เราสามารถทำเองได้ "กาแฟครึ่งช้อน น้ำครึ่งแก้ว"
>> สินทรพัย์ - หนี้สิน คืออะไร
ใครสังเกตไหม มันคือ งบดุลชีวิต
...บางคนไม่เคยทำ งบดุลชีวิตให้ตนเองเลย
จริงๆเราน่าจะทำความรู้จักตนเอง และวางเป้าหมายในชีวิต
ลองวางแผนว่า ตัวเราตอนนี้อายุเท่าไหร่ เราจะทำงานอย่างไร
จะเกษียณอายุตนเองเมื่อไหร่
ปกติคนทั่วๆไปที่อ.สังเกต จะวางแผนแค่ พรุ่งนี้ทำอะไร แล้วเราก็หมดไปวันๆ
แป๊บเดียวก็สิ้นเดือน แป๊บเดียวก็สิ้นปี
(เห็นได้จากการที่เรามักตั้ง project ให้ตนเองว่าปีใหม่เราจะทำ แล้วมันก็เป็น project ใหม่ของปีหน้า;ผู้เขียน)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 6
- ดังนั้นการฝึกวินัย จำเป็นต้องส่งเริ่มตั้งแต่เด็กๆครับ
เด็ก ป.1 - ป.3 เราให้หยอดเงินลงกระปุกออมสิน
เราเล่าเรื่องงานให้ลูกฟัง ลูกจะทราบว่า เราหาเงินได้อย่างไร
(เด็กบางคนรู้แค่เงินมาจาก ATM ไม่ทราบว่ามาจากความลำบากของพ่อแม่)
** ใน Made in America ของ Sam Walton เจ้าของ Wal - mart ก็สอนเรื่องค่าของเงินเป็นบทแรกครับ
เด็ก ป.1 - ป.3 เราให้หยอดเงินลงกระปุกออมสิน
เราเล่าเรื่องงานให้ลูกฟัง ลูกจะทราบว่า เราหาเงินได้อย่างไร
(เด็กบางคนรู้แค่เงินมาจาก ATM ไม่ทราบว่ามาจากความลำบากของพ่อแม่)
** ใน Made in America ของ Sam Walton เจ้าของ Wal - mart ก็สอนเรื่องค่าของเงินเป็นบทแรกครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 8
อ.สมจินต์ : หลายครั้งที่อ.สอน Lecture / ไปบรรยาย
ท่านให้ลูกถ่าย VDO ให้ ลูกก็ได้แง่คิด และต้องตั้งใจฟัง (เป็นการสอนทางอ้อม)
เวลาลูกอยากได้อะไร ถ้าให้ลูก share ครึ่งหนึ่งของ ของนั้นๆ ลูกจะเริ่มต้องคิดแบ่งเงินที่ได้ค่าขนม ต้องเก็บออมเพื่อซื้อของนั้นๆ
หรือให้ลูกทำงานเล็กๆน้อยๆ เช่นทำงานบ้าน /อ่านหนังสือ(ที่น่าอ่าน) แล้วมาพูดให้ผู้ปกครองฟัง เด็กๆก็จะเริ่มรู้จักค่าของเงิน
(และสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวด้วยครับ;ผู้เขียน )
ท่านให้ลูกถ่าย VDO ให้ ลูกก็ได้แง่คิด และต้องตั้งใจฟัง (เป็นการสอนทางอ้อม)
เวลาลูกอยากได้อะไร ถ้าให้ลูก share ครึ่งหนึ่งของ ของนั้นๆ ลูกจะเริ่มต้องคิดแบ่งเงินที่ได้ค่าขนม ต้องเก็บออมเพื่อซื้อของนั้นๆ
หรือให้ลูกทำงานเล็กๆน้อยๆ เช่นทำงานบ้าน /อ่านหนังสือ(ที่น่าอ่าน) แล้วมาพูดให้ผู้ปกครองฟัง เด็กๆก็จะเริ่มรู้จักค่าของเงิน
(และสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวด้วยครับ;ผู้เขียน )
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 9
- ถ้าเรามองเป้าหมาย 5 - 10 ปี เรามองตัวเราอย่างไรครับ
อ.ยกตัวอย่าง คุณ จิน กับคุณ ซู ครับ
ทั้ง 2 ท่านไปพบ เดวิด บาคซ์ (นักวางแผนการเงิน)
ทั้ง 2 ท่านเป็นคนธรรมดา คุณจิน เป็นช่างซ่อม ตอนหลังได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้จัดการ
ส่วนคุณซู เป็นช่างทำผม
ทั้ง 2 ท่านมาบอกว่า เค้าจะเกษียณตนเองเมื่ออายุ50กว่าๆ (อายุขณะที่มาปรึกษา)เพราะทั้ง 2 ท่านเคยตัดสินใจวางแผนชีวิต โดยการให้เจ้านายหักเงินเดือนไว้ 10% แล้วฝาก เจ้านายลงทุน ซึ่งตอนนั้น ตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนดี
ซึ่งการทำแบบทั้ง 2 คนนั้น ทำให้เกิดวินัยการออม และการลงทุนโดยอัตโนมัติครับ
หลายครั้งที่เราคิดว่า เอาไว้ก่อน เอาไว้ก่อน เราก็จะไม่ได้เริ่มสักที
เรามักคิดว่า เราออมไม่ได้หรอก
เราลงทุนไม่ได้หรอก มันยากไป
จริงๆการทำแบบคุณทั้ง 2 เป็นการ "จ่ายให้ตนเองก่อน(ใน พ่อรวยสอนลูกก็บอกอย่างนั้น)" เพียงแต่เป็นการจ่าย เพื่อ อนาคตของตนเอง
ตอนนั้น เค้าออม~ 20,000 บาท / เดือน เค้าลงทุนได้ 10% / ปี
ครบ 20 ปี เค้ามีเงิน 40 ล้านบาท >> เป็น Miilionaire ได้แล้ว
อ.ยกตัวอย่าง คุณ จิน กับคุณ ซู ครับ
ทั้ง 2 ท่านไปพบ เดวิด บาคซ์ (นักวางแผนการเงิน)
ทั้ง 2 ท่านเป็นคนธรรมดา คุณจิน เป็นช่างซ่อม ตอนหลังได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้จัดการ
ส่วนคุณซู เป็นช่างทำผม
ทั้ง 2 ท่านมาบอกว่า เค้าจะเกษียณตนเองเมื่ออายุ50กว่าๆ (อายุขณะที่มาปรึกษา)เพราะทั้ง 2 ท่านเคยตัดสินใจวางแผนชีวิต โดยการให้เจ้านายหักเงินเดือนไว้ 10% แล้วฝาก เจ้านายลงทุน ซึ่งตอนนั้น ตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนดี
ซึ่งการทำแบบทั้ง 2 คนนั้น ทำให้เกิดวินัยการออม และการลงทุนโดยอัตโนมัติครับ
หลายครั้งที่เราคิดว่า เอาไว้ก่อน เอาไว้ก่อน เราก็จะไม่ได้เริ่มสักที
เรามักคิดว่า เราออมไม่ได้หรอก
เราลงทุนไม่ได้หรอก มันยากไป
จริงๆการทำแบบคุณทั้ง 2 เป็นการ "จ่ายให้ตนเองก่อน(ใน พ่อรวยสอนลูกก็บอกอย่างนั้น)" เพียงแต่เป็นการจ่าย เพื่อ อนาคตของตนเอง
ตอนนั้น เค้าออม~ 20,000 บาท / เดือน เค้าลงทุนได้ 10% / ปี
ครบ 20 ปี เค้ามีเงิน 40 ล้านบาท >> เป็น Miilionaire ได้แล้ว
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 10
โดยส่วนใหญ่การลงทุนเป็นระยะเวลายาวๆ จะให้ผลตอบแทนที่ดี (ตลาดหุ้น 10% / ปี โดยเฉลี่ย)
งิธีข้างต้น เราเรียกว่า "Dollar Cost Average"
(ซึ่งจะทำให้สัญชาตญานสัตว์(animal spirit) ที่คนเราชอบซื้อหุ้นตอนแพง แล้วขายช่วง panic sale หมดไป) และเป็นวิธีง่ายๆ แต่ต้องอาศัย วินัย
การดีใจตอนหุ้นขึ้น และเสียใจตอนหุ้นลง >> เราจะคิดแบบนี้เมื่อเราจะเป็นผู้ขายหุ้น เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้จ่าย
ถ้าเป็นนักลงทุน เราจะคิดว่า เราดีใจเมื่อเราเห็นของ"ที่ดี" มีราคาถูก
งิธีข้างต้น เราเรียกว่า "Dollar Cost Average"
(ซึ่งจะทำให้สัญชาตญานสัตว์(animal spirit) ที่คนเราชอบซื้อหุ้นตอนแพง แล้วขายช่วง panic sale หมดไป) และเป็นวิธีง่ายๆ แต่ต้องอาศัย วินัย
การดีใจตอนหุ้นขึ้น และเสียใจตอนหุ้นลง >> เราจะคิดแบบนี้เมื่อเราจะเป็นผู้ขายหุ้น เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้จ่าย
ถ้าเป็นนักลงทุน เราจะคิดว่า เราดีใจเมื่อเราเห็นของ"ที่ดี" มีราคาถูก
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 11
คุณจุมพล : จริงๆเราออมเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเิงินแบบง่ายๆ 3 วิธี
1. เงินฝาก
2. กองทุนต่างๆ
3. ประกันชีวิต
หลายคนคิดว่า เราไม่ชอบเสี่ยง แต่เรามักเห็นคนซื้อหวย / ลอตเตอรรี่
ทั้งๆที่โอกาสถูกรางวัลเป็นไปได้น้อยมากๆ
นั่นเพราะว่า เงินที่เราซื้อหวย มันน้อย
ถ้าเรานำเงินที่ได้มา ลงทุน ในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า(และเราเข้าใจดี;ผู้เขียน) น่าจะดีกว่า
(ตอนเด็กๆ อ.ไพบูลย์ ออมเงิน 1 บาท ทุกวันเสาร์ที่ธนาคารออมสิน)
1. เงินฝาก
2. กองทุนต่างๆ
3. ประกันชีวิต
หลายคนคิดว่า เราไม่ชอบเสี่ยง แต่เรามักเห็นคนซื้อหวย / ลอตเตอรรี่
ทั้งๆที่โอกาสถูกรางวัลเป็นไปได้น้อยมากๆ
นั่นเพราะว่า เงินที่เราซื้อหวย มันน้อย
ถ้าเรานำเงินที่ได้มา ลงทุน ในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า(และเราเข้าใจดี;ผู้เขียน) น่าจะดีกว่า
(ตอนเด็กๆ อ.ไพบูลย์ ออมเงิน 1 บาท ทุกวันเสาร์ที่ธนาคารออมสิน)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 12
Robert Kiyosaki (Richdad) ให้ลูกๆของเราออมเงินไว้ในกระปุก 3 ใบ
1. กระปุกสำหรับเก็บออก
2. กระปุกสำหรับลงทุน
3. กระปุกสำหรับช่วยสังคม / ทำบุญ
อ.อัจฉรา : คนเรามักขาดวินัย
เช่นเราทราบว่า เราต้องไปตรวจสุขภาพ / ตรวจฟันทุก 6 เดือน แต่เราก็ไม่ไป
จริงๆเราแค่ Just Do It!
"Direction สำคัญกว่า Speed"
ถ้าเราวางแผนให้ชัดเจน เริ่มเก็บออม และ ลงทุน ให้ถูกทิศทางเราจะทำสำเร็จ
เราควรลงมือ ณ บัด NOW
1. กระปุกสำหรับเก็บออก
2. กระปุกสำหรับลงทุน
3. กระปุกสำหรับช่วยสังคม / ทำบุญ
อ.อัจฉรา : คนเรามักขาดวินัย
เช่นเราทราบว่า เราต้องไปตรวจสุขภาพ / ตรวจฟันทุก 6 เดือน แต่เราก็ไม่ไป
จริงๆเราแค่ Just Do It!
"Direction สำคัญกว่า Speed"
ถ้าเราวางแผนให้ชัดเจน เริ่มเก็บออม และ ลงทุน ให้ถูกทิศทางเราจะทำสำเร็จ
เราควรลงมือ ณ บัด NOW
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 14
อ.สมจินต์ : ที่เราออมเงินไม่ได้ เพราะหลายครั้งเราไม่ทราบว่า เราหมดไปกับค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
เราออมวันละ 100 บาท ถ้าเรานำเงินนั้นไปทำผลตอบแทนได้ 6 % / ปี
ผ่านไป 10 ปี เราจะมีเงิน 490,000 บาท
ผ่านไป 30 ปี เราจะมีเงิน 3,000,000 บาท
ถ้าเราใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย เราจะเริ่มจนลง
การเริ่มต้นนั้นสำคัญ
และการทำให้มันต่อเนื่องก็สำคัญเช่นกัน
การหา กัลยาณมิตร ที่จะนำทางเราไปในทางถูกต้องสำคัญมากๆ
กฏ 48 ชั่วโมง
>> ถ้าเราเกิดความคิดดีๆ ให้ลงมือทำภายใน 48 ชั่วโมง
เพราะหลังจากนั้น เรามักจะลืม หรือถูกดึงให้ไปทำสิ่งอื่นๆ
ดังนั้น เริ่มตั้งแต่บัดนี้ครับ
คุณ จุมพล : ถ้าเรา วัดผล(evaluate) ตัวเรา เราจะทราบว่า แผนที่เราคิดนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าเราไม่ทำการวัดผลเลย เราก็จะไม่ทราบ
แผนนั้นต้องเป็น plan ที่ทำได้จริง(simple) ไม่ฝืนตนเองจนเกินไป หรือเข้ากับตัวเราไม่ได้
จนเมื่อเราไม่ได้ทำ ก็จะกลายเป็น plan นิ่ง (plan แล้วนิ่งไป)
อ.อัจฉรา : แผนที่เราวางต้องชัดเจน และ"สนุก และมีความสุข"
แผนที่ดีควรยืดหยุ่นได้
และอย่าลืมสำรองไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย
(บางครั้งอุบัติเหตุมาโดยไม่คาดคิด;ผู้เขียน)
หลายครั้งที่เราเกิดความประมาท
ใช้ชีวิตอย่างประมาท กลับมาคิดอีกที เราก็ไม่ได้เริ่มสักที แล้วก็เสียดายเวลา
อ.สมจินต์ : คำว่า โชค(Luck) กับ โชคดี(Good luck) นั้นต่างกัน
หลายครั้งที่เราสร้างความโชคดีได้
เคยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอัศวิน 2 คน ให้ไปหาใบ clover สีขาว ที่มีใบ 4 ใบ
(ปกติใบๆหนึ่งจะมี 3 ใบ)
อัศวินคนหนึ่งพยายามไปหา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอใบ clover ดังกล่าว
แต่อีกคนหนึ่ง ไปนั่งคิดว่า ใบ clover 4 ใบเกิดขึ้นได้อย่างไร
แล้วไปเตรียมพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมไว้
ไปๆมาๆ มีพายุพัดเมล็ด clover มา อัศวินคนที่เตรียมพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมไว้ ก็เลยสามารพบใบ clover ที่มีใบ 4 ใบได้
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "โชคมีทุกแห่ง แต่ขึ้นกับว่า ใครจะเตรียมตัวเพื่อให้พบกับโชคเหล่านั้น"
อ.บอกว่า สิ่งเหล่านั้นเราเรียกว่า การวางแผนทางการเงิน
- รายได้ >> เราต้อง พากเพียร ในการทำงานเพื่อเก็บออม
- รายจ่าย >> เราต้อง พอเพียง ในการใช้จ่าย
- ลงทุน >> เราต้อง เพลิดเพลินไปกับการลงทุนที่เรารัก
เราออมวันละ 100 บาท ถ้าเรานำเงินนั้นไปทำผลตอบแทนได้ 6 % / ปี
ผ่านไป 10 ปี เราจะมีเงิน 490,000 บาท
ผ่านไป 30 ปี เราจะมีเงิน 3,000,000 บาท
ถ้าเราใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย เราจะเริ่มจนลง
การเริ่มต้นนั้นสำคัญ
และการทำให้มันต่อเนื่องก็สำคัญเช่นกัน
การหา กัลยาณมิตร ที่จะนำทางเราไปในทางถูกต้องสำคัญมากๆ
กฏ 48 ชั่วโมง
>> ถ้าเราเกิดความคิดดีๆ ให้ลงมือทำภายใน 48 ชั่วโมง
เพราะหลังจากนั้น เรามักจะลืม หรือถูกดึงให้ไปทำสิ่งอื่นๆ
ดังนั้น เริ่มตั้งแต่บัดนี้ครับ
คุณ จุมพล : ถ้าเรา วัดผล(evaluate) ตัวเรา เราจะทราบว่า แผนที่เราคิดนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าเราไม่ทำการวัดผลเลย เราก็จะไม่ทราบ
แผนนั้นต้องเป็น plan ที่ทำได้จริง(simple) ไม่ฝืนตนเองจนเกินไป หรือเข้ากับตัวเราไม่ได้
จนเมื่อเราไม่ได้ทำ ก็จะกลายเป็น plan นิ่ง (plan แล้วนิ่งไป)
อ.อัจฉรา : แผนที่เราวางต้องชัดเจน และ"สนุก และมีความสุข"
แผนที่ดีควรยืดหยุ่นได้
และอย่าลืมสำรองไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย
(บางครั้งอุบัติเหตุมาโดยไม่คาดคิด;ผู้เขียน)
หลายครั้งที่เราเกิดความประมาท
ใช้ชีวิตอย่างประมาท กลับมาคิดอีกที เราก็ไม่ได้เริ่มสักที แล้วก็เสียดายเวลา
อ.สมจินต์ : คำว่า โชค(Luck) กับ โชคดี(Good luck) นั้นต่างกัน
หลายครั้งที่เราสร้างความโชคดีได้
เคยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอัศวิน 2 คน ให้ไปหาใบ clover สีขาว ที่มีใบ 4 ใบ
(ปกติใบๆหนึ่งจะมี 3 ใบ)
อัศวินคนหนึ่งพยายามไปหา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอใบ clover ดังกล่าว
แต่อีกคนหนึ่ง ไปนั่งคิดว่า ใบ clover 4 ใบเกิดขึ้นได้อย่างไร
แล้วไปเตรียมพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมไว้
ไปๆมาๆ มีพายุพัดเมล็ด clover มา อัศวินคนที่เตรียมพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมไว้ ก็เลยสามารพบใบ clover ที่มีใบ 4 ใบได้
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "โชคมีทุกแห่ง แต่ขึ้นกับว่า ใครจะเตรียมตัวเพื่อให้พบกับโชคเหล่านั้น"
อ.บอกว่า สิ่งเหล่านั้นเราเรียกว่า การวางแผนทางการเงิน
- รายได้ >> เราต้อง พากเพียร ในการทำงานเพื่อเก็บออม
- รายจ่าย >> เราต้อง พอเพียง ในการใช้จ่าย
- ลงทุน >> เราต้อง เพลิดเพลินไปกับการลงทุนที่เรารัก
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 15
อ.อัจฉรา : คำว่า วินัย คือการที่เราบังคับให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ ทั้งๆที่เราไม่อยากทำ ในเวลาที่เราควรทำ
- นักลงทุน : มักมองผลตอบแทน
- นักการเงิน : มักคิดถึง ความเสี่ยงของสิ่งต่างๆร่วมไปด้วย
You can if you think "you can"
อ. สมจินต์ บอกว่า Starting Time สำคัญมากๆ
John C. Maxwell (อายุ 50 นักพูดชื่อดัง)บอกว่า ถ้าให้เค้าแข่งกับนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก เค้าสามารถวิ่งได้ถึงเส้นชัยก่อน
....ถ้าเค้าให้ John วิ่งไปก่อนหน้านั้น 5 นาที :lol:
เราเห็นได้จากตัวอย่างขำๆด้านบนว่า
ถ้าเราเริ่มก่อน เราก็มีสิทธิที่จะถึงที่หมายก่อน
"เราเริ่มต่างกัน ผลตอบแทนต่อดอกเบี้ยทบต้นก็ต่างกันครับ;ผู้เขียนขยายความ"
คนเริ่มทำงาน(มนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป) ออมเดือนละ 5,000 บาท แล้วลงเพิ่มปีละ 5% เมื่อได้เงินเดือนมากขึ้น
ผ่านไป 25 ปี เค้าจะมีเงิน 30 ล้านบาทได้ครับ
จบครึ่งเช้าครับ
- นักลงทุน : มักมองผลตอบแทน
- นักการเงิน : มักคิดถึง ความเสี่ยงของสิ่งต่างๆร่วมไปด้วย
You can if you think "you can"
อ. สมจินต์ บอกว่า Starting Time สำคัญมากๆ
John C. Maxwell (อายุ 50 นักพูดชื่อดัง)บอกว่า ถ้าให้เค้าแข่งกับนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก เค้าสามารถวิ่งได้ถึงเส้นชัยก่อน
....ถ้าเค้าให้ John วิ่งไปก่อนหน้านั้น 5 นาที :lol:
เราเห็นได้จากตัวอย่างขำๆด้านบนว่า
ถ้าเราเริ่มก่อน เราก็มีสิทธิที่จะถึงที่หมายก่อน
"เราเริ่มต่างกัน ผลตอบแทนต่อดอกเบี้ยทบต้นก็ต่างกันครับ;ผู้เขียนขยายความ"
คนเริ่มทำงาน(มนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป) ออมเดือนละ 5,000 บาท แล้วลงเพิ่มปีละ 5% เมื่อได้เงินเดือนมากขึ้น
ผ่านไป 25 ปี เค้าจะมีเงิน 30 ล้านบาทได้ครับ
จบครึ่งเช้าครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 17
เริ่มครึ่งบ่าย "เส้นทางรวย" ครับ
คุณวสันต์ เจ้าของ Benz ทองหล่อ ตอนเด็กเค้ามีกางเกงตัวเดียว
ถ้าฝนตก กางเกงไม่แห้ง เค้าแย่เลยครับ ต้องใส่กางเกงตัวนั้นไปเรียน
(เค้าเป็นคนเมืองกาญจนบุรีครับ)
ตั้งแต่ ป.1 - ม.4 จน ถึงตอนคุณวสันต์เรียนที่อำนวยศิลป์ เค้าต้องเดินไปเรียนครับ ตอนนั้นค่ารถเมล์ก็ไม่มี
ไปเข้าหอการค้า แล้วก็ไปทำงาน ทำไปทำมาก็ออกจากงานเพราะเจอเจ้านายที่ไม่ฉลาด
เค้าเดินทางไป Texas, USA ไปเรียน ป.โท จบมาก็มาขาย toyota + benz
ตอนแรกไม่มีที่หรอกครับ
เค้าอาศัยไปขอโบร์ชัว แล้วนำมาคุยกับลูกค้า ทำไปทไมา พอมีเงินก็ไปซื้อที่ดินที่สถานที่หนึ่งซึ่งแต่ก่อน มีแต่โค และกระบือ
ตอนนั้น ตร.วา ละ 7,000 บาท
คุณ วสันต์ไปขอซื้อ เจ้าของที่เห็นหน้า และเห็นใจ ขายให้ในราคา ตร.วาละ 4,000 บาท(ลดให้)
ตอนนี้ สถาณที่นั้น คือทองหล่อ คุณวสันต์บอกว่า ราคาที่ตอนนี้ เหยียบ ตร.วาละ 1 +ล้าน
เค้าได้เงินจากตรงนี้ครับ
คุณวสันต์ เจ้าของ Benz ทองหล่อ ตอนเด็กเค้ามีกางเกงตัวเดียว
ถ้าฝนตก กางเกงไม่แห้ง เค้าแย่เลยครับ ต้องใส่กางเกงตัวนั้นไปเรียน
(เค้าเป็นคนเมืองกาญจนบุรีครับ)
ตั้งแต่ ป.1 - ม.4 จน ถึงตอนคุณวสันต์เรียนที่อำนวยศิลป์ เค้าต้องเดินไปเรียนครับ ตอนนั้นค่ารถเมล์ก็ไม่มี
ไปเข้าหอการค้า แล้วก็ไปทำงาน ทำไปทำมาก็ออกจากงานเพราะเจอเจ้านายที่ไม่ฉลาด
เค้าเดินทางไป Texas, USA ไปเรียน ป.โท จบมาก็มาขาย toyota + benz
ตอนแรกไม่มีที่หรอกครับ
เค้าอาศัยไปขอโบร์ชัว แล้วนำมาคุยกับลูกค้า ทำไปทไมา พอมีเงินก็ไปซื้อที่ดินที่สถานที่หนึ่งซึ่งแต่ก่อน มีแต่โค และกระบือ
ตอนนั้น ตร.วา ละ 7,000 บาท
คุณ วสันต์ไปขอซื้อ เจ้าของที่เห็นหน้า และเห็นใจ ขายให้ในราคา ตร.วาละ 4,000 บาท(ลดให้)
ตอนนี้ สถาณที่นั้น คือทองหล่อ คุณวสันต์บอกว่า ราคาที่ตอนนี้ เหยียบ ตร.วาละ 1 +ล้าน
เค้าได้เงินจากตรงนี้ครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 18
- ตอนปี 40 คุณตัน oishi มาขอซื้อที่ คุณตันมองว่า ต่อไป ความเจริญน่าจะมาถึงทองหล่อ แล้วก็เป็นความจริงอย่างที่เราเห็นครับ
- คุณวสันต์ให้เราคบคนดี ทำแต่สิ่งดีๆ ตอบแทนสังคม แล้วเราก็จะพบแต่สิ่งดีๆครับ
คุณปรารถนา : คุณพ่อทำงานราชการ คุณแม่เป็นพนักงานบริษัท
ตอนเด็กๆคุณพ่อให้อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษให้ฟัง
คุณปรารถนา อ่านตั้งแต่ ป.1 - มศ.5 ครับ ดังนั้นการฝึกภาษาอังกฤษจนเป็นชีวิตประจำวัน ทำให้เธอพัฒนาภาษาอังกฤษไปได้มากจริงๆครับ
ปัจจุบัน คุณปรารถนา ทำงานตั้งแต่ 6.00 - 22.00 น. ครับ
แต่เธอบอกว่า ยังได้พัก ไม่เหมือนกับเจ้าของกิจการที่ต้องดูแลกิจการตลอด 24 ชั่วโมง
ตอนที่เธอเรียนปี 3 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ เธอทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยครับ
ตอนนั้นเป็น sale ขายหม้อตราม้าลาย และขายไม้แขวนเสื้อ
ถ้าคนทั่วๆไป เดินขายทั่วๆไป วิธีแบบนั้นก็จะไม่ค่อยสร้า้งยอดขาย
เธอเลยคิดใหม่ โดยตั้งปัญหาว่า
"ที่ไหน จะมีคนซื้อมากที่สุด(หา demand)"
ไปๆมาๆเธอพบว่า แม่ค้าที่ตลาดอโศก มี demand เยอะสุด
ภายหลังเธอสร้างยอดขายได้มาก จนเป็น Top sale ครับ
- คุณวสันต์ให้เราคบคนดี ทำแต่สิ่งดีๆ ตอบแทนสังคม แล้วเราก็จะพบแต่สิ่งดีๆครับ
คุณปรารถนา : คุณพ่อทำงานราชการ คุณแม่เป็นพนักงานบริษัท
ตอนเด็กๆคุณพ่อให้อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษให้ฟัง
คุณปรารถนา อ่านตั้งแต่ ป.1 - มศ.5 ครับ ดังนั้นการฝึกภาษาอังกฤษจนเป็นชีวิตประจำวัน ทำให้เธอพัฒนาภาษาอังกฤษไปได้มากจริงๆครับ
ปัจจุบัน คุณปรารถนา ทำงานตั้งแต่ 6.00 - 22.00 น. ครับ
แต่เธอบอกว่า ยังได้พัก ไม่เหมือนกับเจ้าของกิจการที่ต้องดูแลกิจการตลอด 24 ชั่วโมง
ตอนที่เธอเรียนปี 3 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ เธอทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยครับ
ตอนนั้นเป็น sale ขายหม้อตราม้าลาย และขายไม้แขวนเสื้อ
ถ้าคนทั่วๆไป เดินขายทั่วๆไป วิธีแบบนั้นก็จะไม่ค่อยสร้า้งยอดขาย
เธอเลยคิดใหม่ โดยตั้งปัญหาว่า
"ที่ไหน จะมีคนซื้อมากที่สุด(หา demand)"
ไปๆมาๆเธอพบว่า แม่ค้าที่ตลาดอโศก มี demand เยอะสุด
ภายหลังเธอสร้างยอดขายได้มาก จนเป็น Top sale ครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 19
เธอเคยทำงานที่ CPN ในตำแหน่ง CFO (Chief Financial Officer)
ภายหลังเธอย้ายมาทำงานที่ MINT(เครือไมเนอร์ international)
เธอประทับใจคำพูดของเจ้าของกิจการที่พูดว่า
เงินทั้งหมดนี้(ตอนนั้น mint มี market cap. = 2,000 ล้านบาท)
คือเงินของเค้า เค้ามั่นใจว่าคุณปรารถนา จะบริหารเงินทั้งหมดของเค้าให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้ เพราะคุณปรารถนาเคยบริหารเงินเป็นหมื่นล้าน(ตอนอยู่ CPN)
ดร.นิเวศน์ : แต่ก่อนครอบครัวท่านยากจนมาก ท่านมาจากครอบครัวคนจีน มีเสื่อผืนหมอนใบ ที่บ้านต้องทำงานรับจ้างเพื่อแลกเงินมาใช้จ่าย
ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีเงินมาใช้จ่าย
ท่านพบว่า ท่านโชคดี แต่ก่อนท่านอยู่บ้านหลังคามุงจาก แล้วก็ไปอยู่ หลังคาสังกะสี
ท่านเรียน รร.วัดดอนที่เค้าว่าผีดุ
ท่านพยายามเล่าเรียน จนสอบเข้าวัดสุทธิได้
หลังจากนั้นท่านสอบเข้า รร.เตรียมอุดมศึกษา สอบเข้าวิศวะจุฬา
พอออกไปทำงานต่างจังหวัดสักพักท่านเริ่มเห็นทางตัน
ท่านมาศึกษา ป.โทต่อที่ NIDA
แล้วท่านไปเรียนต่อ ป.เอก ที่ USA
กลับมาจาก USA ท่านทำงานหนัก
แต่่ ดร.มา evaluate ตัวท่านเอง แล้วรู้สึกว่า รายได้จากการทำงานไม่คุ้มกับความเหนื่อย
ท่านจึงมาศึกษาและลงทุนแบบ value investor ครับ
(ท่านบอกว่า แต่ละคนมีแนวทางชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่า ทำงานแล้วไม่ดีนะครับ)
ภายหลังเธอย้ายมาทำงานที่ MINT(เครือไมเนอร์ international)
เธอประทับใจคำพูดของเจ้าของกิจการที่พูดว่า
เงินทั้งหมดนี้(ตอนนั้น mint มี market cap. = 2,000 ล้านบาท)
คือเงินของเค้า เค้ามั่นใจว่าคุณปรารถนา จะบริหารเงินทั้งหมดของเค้าให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้ เพราะคุณปรารถนาเคยบริหารเงินเป็นหมื่นล้าน(ตอนอยู่ CPN)
ดร.นิเวศน์ : แต่ก่อนครอบครัวท่านยากจนมาก ท่านมาจากครอบครัวคนจีน มีเสื่อผืนหมอนใบ ที่บ้านต้องทำงานรับจ้างเพื่อแลกเงินมาใช้จ่าย
ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีเงินมาใช้จ่าย
ท่านพบว่า ท่านโชคดี แต่ก่อนท่านอยู่บ้านหลังคามุงจาก แล้วก็ไปอยู่ หลังคาสังกะสี
ท่านเรียน รร.วัดดอนที่เค้าว่าผีดุ
ท่านพยายามเล่าเรียน จนสอบเข้าวัดสุทธิได้
หลังจากนั้นท่านสอบเข้า รร.เตรียมอุดมศึกษา สอบเข้าวิศวะจุฬา
พอออกไปทำงานต่างจังหวัดสักพักท่านเริ่มเห็นทางตัน
ท่านมาศึกษา ป.โทต่อที่ NIDA
แล้วท่านไปเรียนต่อ ป.เอก ที่ USA
กลับมาจาก USA ท่านทำงานหนัก
แต่่ ดร.มา evaluate ตัวท่านเอง แล้วรู้สึกว่า รายได้จากการทำงานไม่คุ้มกับความเหนื่อย
ท่านจึงมาศึกษาและลงทุนแบบ value investor ครับ
(ท่านบอกว่า แต่ละคนมีแนวทางชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่า ทำงานแล้วไม่ดีนะครับ)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 20
หมอนุ่นจดได้ครบถ้วนมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 21
ท่านบอกว่า เรามักจะรวยจาก การที่เราเริ่มคิดได้ เริ่มวาง straegy ที่ถูกต้อง มุ่งมั่น แล้วปฏิบัตครับ
ถ้าทำอะไรแล้วไม่เห็นอนาคตใน 5 - 10 ปีว่าจะเป็นอย่างไร ท่านให้คำแนะนำแล้วว่า เราต้องพิจารณาสิ่งที่เราทำอยู่แล้วครับ
- บางครั้ง การที่เราต้องทำงานหนักมากๆ เราจะเป็นคน conservative ไปโดยปริยายครับ
บางครั้งเราจึงมองข้าม โอกาส บางอย่างไป
(ท่านสอนให้หา oppotunity ในการลงทุนที่เหมาะสม ไม่ได้สอนให้โลภโดยที่ไม่ได้ศึกษานะครับ)
ตลาดหุ้นเป็นสถาณที่หนึ่งที่คนที่มีเงินน้อยๆ สามารถลงทุนได้
หลายครั้งที่เราเลือกหุ้นดี ซื้อแล้วมองอยู่ห่างๆ
ถอยห่างจา่ก Mr.market จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่น่าเชื่อ
(รักษาระยะห่างจากตลาดหุ้นให้เหมาะสมครับ)
ถ้าทำอะไรแล้วไม่เห็นอนาคตใน 5 - 10 ปีว่าจะเป็นอย่างไร ท่านให้คำแนะนำแล้วว่า เราต้องพิจารณาสิ่งที่เราทำอยู่แล้วครับ
- บางครั้ง การที่เราต้องทำงานหนักมากๆ เราจะเป็นคน conservative ไปโดยปริยายครับ
บางครั้งเราจึงมองข้าม โอกาส บางอย่างไป
(ท่านสอนให้หา oppotunity ในการลงทุนที่เหมาะสม ไม่ได้สอนให้โลภโดยที่ไม่ได้ศึกษานะครับ)
ตลาดหุ้นเป็นสถาณที่หนึ่งที่คนที่มีเงินน้อยๆ สามารถลงทุนได้
หลายครั้งที่เราเลือกหุ้นดี ซื้อแล้วมองอยู่ห่างๆ
ถอยห่างจา่ก Mr.market จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่น่าเชื่อ
(รักษาระยะห่างจากตลาดหุ้นให้เหมาะสมครับ)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 22
การใช้จ่ายและลงทุนอย่างพอเพียงทำให้เรามี financial freedom ได้ครับ
และเราอย่าลืมดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรง เราจะได้รับผลตอบแทนจากมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยมบต้อนได้มากขึ้นครับ
- หลายครั้งที่เราต้องมองหาโอกาสครับ ตอนปี 2528 ตอนนั้น เศรษฐกิจตกต่ำ คุณ วสันต์ไปซื้อรถ benz มารวมไว้หมด คุณวสันต์เชื่อว่า อย่างไรซะก็ต้องมีคนซื้อรถ benz ไปๆมาๆพอ supply น้อยลง แต่ demand เท่าเดิม
คนก็มาซื้อ รถ benz ที่คุณ วสันต์ ครับ
อ.ไพบูลย์ ถามว่า ถ้ากลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้ อยากทำอะไร
ดร.นิเวศน์บอกว่า อยากกลับไปฝึกดนตรี (ภรรยาท่านเล่นเปียโนหรือไม่ครับ ผมไม่แน่ใจ)
ท่านอยกากลับไปฝึกวาดภาพ เช่นสีน้ำ เพราะตอนนี้ฝึกไม่ได้แล้วครับ
และเราอย่าลืมดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรง เราจะได้รับผลตอบแทนจากมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยมบต้อนได้มากขึ้นครับ
- หลายครั้งที่เราต้องมองหาโอกาสครับ ตอนปี 2528 ตอนนั้น เศรษฐกิจตกต่ำ คุณ วสันต์ไปซื้อรถ benz มารวมไว้หมด คุณวสันต์เชื่อว่า อย่างไรซะก็ต้องมีคนซื้อรถ benz ไปๆมาๆพอ supply น้อยลง แต่ demand เท่าเดิม
คนก็มาซื้อ รถ benz ที่คุณ วสันต์ ครับ
อ.ไพบูลย์ ถามว่า ถ้ากลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้ อยากทำอะไร
ดร.นิเวศน์บอกว่า อยากกลับไปฝึกดนตรี (ภรรยาท่านเล่นเปียโนหรือไม่ครับ ผมไม่แน่ใจ)
ท่านอยกากลับไปฝึกวาดภาพ เช่นสีน้ำ เพราะตอนนี้ฝึกไม่ได้แล้วครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 23
"จะฝากอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังบ้างครับ"
- คุณ วสันต์ : ถ้าเราฝึก ตามรู้ ดูใจ ตนเอง เราจะเกิดสติ
เมื่อเราเกิดสติ เราก็จะมีสตางค์ได้ครับ
- คุณ ปรารภนา : มีคนสอนว่า
อายุ 1 - 20 ปี : ให้เราศึกษาเรื่องต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิต
อายุ 20 - 30 ปี : ให้เราไปศึกษาเล่าเรียนสิ่งที่จะต้องใช้ประกอบอาชีพ
(ตอนนั้นเราเิริ่มเข้ามหาวิทยาลัย , เรียนต่อ ป.โท ป.เอก กัน)
อายุ 30 - 40 ปี ให้ไข่วคว้าสู่จุดสูงสุด เพราะหลายครั้งเมื่อเราอายุมากขึ้น เช่นอายุ 50 ปี เราก็จะไม่ก้าวหน้าไปสูงกว่านี้อีกเลย
(บอกให้เรามองอนาคต และพยายามครับ ไม่ได้ให้ท้อครับ; ผู้เขียน)
และสุดท้าย อย่าลืมตอบแทนสังคม ครับ
แค่เราคิดที่จะทำอะไรดีๆ ชีวิตเราก็จะเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆครับ :D
- คุณ วสันต์ : ถ้าเราฝึก ตามรู้ ดูใจ ตนเอง เราจะเกิดสติ
เมื่อเราเกิดสติ เราก็จะมีสตางค์ได้ครับ
- คุณ ปรารภนา : มีคนสอนว่า
อายุ 1 - 20 ปี : ให้เราศึกษาเรื่องต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิต
อายุ 20 - 30 ปี : ให้เราไปศึกษาเล่าเรียนสิ่งที่จะต้องใช้ประกอบอาชีพ
(ตอนนั้นเราเิริ่มเข้ามหาวิทยาลัย , เรียนต่อ ป.โท ป.เอก กัน)
อายุ 30 - 40 ปี ให้ไข่วคว้าสู่จุดสูงสุด เพราะหลายครั้งเมื่อเราอายุมากขึ้น เช่นอายุ 50 ปี เราก็จะไม่ก้าวหน้าไปสูงกว่านี้อีกเลย
(บอกให้เรามองอนาคต และพยายามครับ ไม่ได้ให้ท้อครับ; ผู้เขียน)
และสุดท้าย อย่าลืมตอบแทนสังคม ครับ
แค่เราคิดที่จะทำอะไรดีๆ ชีวิตเราก็จะเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆครับ :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความ งานสัมนา มันนี่ทอล์ค 17 กค.53 ครับ
โพสต์ที่ 24
สุดท้ายนี้ ดร.นิเวศน์บอกว่า ให้เราหา Life Plan ของตนเอง
ต้องคิดให้ดีๆ ต้องเป็น life plan ที่ simple เข้าใจง่าย
เมื่อเราวางแผนได้ถูกต้อง
และเหมาะสมกับตัวของเรา
เราก็จะทราบด้วยตนเอง
-- จบการบรรยายครับ ---
มีสติและมีความสุขกับการลงทุนนะครับ
ต้องคิดให้ดีๆ ต้องเป็น life plan ที่ simple เข้าใจง่าย
เมื่อเราวางแผนได้ถูกต้อง
และเหมาะสมกับตัวของเรา
เราก็จะทราบด้วยตนเอง
-- จบการบรรยายครับ ---
มีสติและมีความสุขกับการลงทุนนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ