สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 1
เหมือนเดิมมาแล้วครับ
วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
โดย อ.อัจฉรา อ.สมจินต์ คุณจุมพล
ถาม เวลาสอนนักศึกษามีพูเรื่องวางแผนการเงินไหม
อ.อัจฉรา ; มีการสอนเรื่องดังกล่าวโดยจะเน้นว่าปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก บรรพบุรุษของไทยไม่ค่อยมีการวางแผนเพราะเมือ่ก่อนในน้ำมีปลาในนามีข้าว แค่เดินออกไปก้หาของกินได้ในนาและตามแม่น้ำ ชีวิตก็สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งนิดนัยดังกลาวก็ติดมาจนถึงปัจจุบันคือขาดการวางแผน แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการแพทย์ต่างๆเจริญขึ้นคนอายุยาวขึ้น และทุกช่วงวัยก็จำเป้นต้องใช้เงินในการดำเนินชีวิต จะมาคอยหลังรัฐสวัสดิการก็คงไมได้เพราะยังคงเป้นความฝันอีกยาวนาน ผลิตภัณทางการเงินต่างๆก็มีหลายหลายให้คนทั่วไปได้ใช้วางแผน ซึ่งหากเราไม่วางแผนมันก็จะเกิดปัญหาได้ในอนาคต เพราะเกิดความไม่มีประสิทธิภาพ การจัดการทางการเงินก็คือการจัดการชีวิต เพราะเงินเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทุกอย่างของชีวิต
โดยทั้งนี้ทุกคนต้องวางแผนทางการเงินไม่ว่าจะคนจน หรือคนรวย สำหรับคนจนการวางแผนการเงินจะช่วยให้เลิกจนเพราะการวางแผนการเงินจะทำให้รู้ว่าที่เราจนเพราเรามีไม่พอหรือจนเพราะไม่มี เมือ่เรารู้ก็จะนำไปสู่การแก้ไข พระพุทธเจ้าบอกว่า รู้อพไรไม่สู้รู้จักตัวเอง ดูว่าในกระเป๋ามีเงินเท่าไหร ต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ควรกันเงินไว้ในในอนาคตเท่าไหรและปัจจุบันเท่าไหร เพ่อความมั่นคงในชีวิต การวางแผนการเงินจึงไม่ใช่เรื่องลำบากในวันนี้แต่สบายในวันข้างหน้า แต่เป็นเรื่องของสบายใจวันนี้และสุขสบายในวันหน้า
ส่วนในเรื่ององอายุก็ไม่เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการอะไรในชีวิต เช่นเด้กๆอยาอยากได้ บีบี ก็ดูว่ารุ่นไหนราคาเท่าไหร จะเก็บเงินเท่าไหรก็ว่ากันไป พอโตเป้าหมายก็เปลี่ยนไปตามวัย
อ.สมจินต์ : ผมเห้นด้วยว่าคนจนต้องวางแผนทางการเงิน รวยก็ต้องวางแผนการการเงินเช่นกัน สำหรับคนจนหรือคนที่ไม่ค่อยมี กลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีความหวัง หรือความหวังก็จะเป็นแนว หวังจะมีเงินซักก้อนไปดาวมอไซด์ ทีวี และก็หาเงินมาผ่อนๆ แต่ถ้าคนกลุ่มนี้เข้าใจเรื่องแผนการเงิน คือรู้จักการออมเงินเป็นผู้รับดอกเบี้ยก่อน แล้ววันหนึ่งก็เอาเงินออกที่ได้ที่ได้ไปใช้ซื้อ เราจะพบว่าเราได้อะไรที่มันดีขึ้นกว่าที่เราคาดหวัง อีกตัวอย่างคือ คอนโดรถไฟฟ้าเราก็ผ่านไปก้เห็นว่า 3 ล้าน แล้วก้คิดว่าอย่างเราคงไม่มีปัญญา แต่ถ้าเรามองอีกด้าน เรามีการวางแผน 3 ปี 7 ปี ค่อยๆก็บเงิน ไปดาว วางแผนการผ่อน มันจะทำให้เรามีหวังมากขึ้นว่ามันก็สามารถเป้นจริงขึ้นมาได้ เพราะมันทำให้เราใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบความสำเร็จร่ำรวยมักเริ่มต้นด้วยการออมเสมอเพราเมือ่เรามีเงินออม มันจะทำให้เรามีโอกาสพัฒนาไปสุ่การลงทุนได้ และทำให้แผนการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้นช่วงปั้นปลายชีวิตก็ต้องวางแผนการแบ่งทรัพย์สินต่างๆให้ลุกหลาน เก้บเงินไว้ทำการกุศล
คุณจุมพล : การวางแผนการเงินปัจจุบันเป้นที่นิยมมาก ตกอย่างของธนาคาร TMB เองช่วงเดือน มค ที่ผ่านมามีการให้บริการลงทุนแบบอัตตโนมัติหักเงินจากบัญชีทุกเดือนเพื่อมาลงทุนในกองทุนต่างๆที่ธนาคารมีพบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป้นจะนวนมาก คือ 20 วันแรกมีผู้สนใจถึง 20000 คน เห้นว่าคนไทยเริ่มตื่นตัวในการวางแผนทางการเงินมากขึ้น
วางแผนการเงินเพื่อชีวิต
โดย อ.อัจฉรา อ.สมจินต์ คุณจุมพล
ถาม เวลาสอนนักศึกษามีพูเรื่องวางแผนการเงินไหม
อ.อัจฉรา ; มีการสอนเรื่องดังกล่าวโดยจะเน้นว่าปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก บรรพบุรุษของไทยไม่ค่อยมีการวางแผนเพราะเมือ่ก่อนในน้ำมีปลาในนามีข้าว แค่เดินออกไปก้หาของกินได้ในนาและตามแม่น้ำ ชีวิตก็สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งนิดนัยดังกลาวก็ติดมาจนถึงปัจจุบันคือขาดการวางแผน แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีการแพทย์ต่างๆเจริญขึ้นคนอายุยาวขึ้น และทุกช่วงวัยก็จำเป้นต้องใช้เงินในการดำเนินชีวิต จะมาคอยหลังรัฐสวัสดิการก็คงไมได้เพราะยังคงเป้นความฝันอีกยาวนาน ผลิตภัณทางการเงินต่างๆก็มีหลายหลายให้คนทั่วไปได้ใช้วางแผน ซึ่งหากเราไม่วางแผนมันก็จะเกิดปัญหาได้ในอนาคต เพราะเกิดความไม่มีประสิทธิภาพ การจัดการทางการเงินก็คือการจัดการชีวิต เพราะเงินเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทุกอย่างของชีวิต
โดยทั้งนี้ทุกคนต้องวางแผนทางการเงินไม่ว่าจะคนจน หรือคนรวย สำหรับคนจนการวางแผนการเงินจะช่วยให้เลิกจนเพราะการวางแผนการเงินจะทำให้รู้ว่าที่เราจนเพราเรามีไม่พอหรือจนเพราะไม่มี เมือ่เรารู้ก็จะนำไปสู่การแก้ไข พระพุทธเจ้าบอกว่า รู้อพไรไม่สู้รู้จักตัวเอง ดูว่าในกระเป๋ามีเงินเท่าไหร ต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ควรกันเงินไว้ในในอนาคตเท่าไหรและปัจจุบันเท่าไหร เพ่อความมั่นคงในชีวิต การวางแผนการเงินจึงไม่ใช่เรื่องลำบากในวันนี้แต่สบายในวันข้างหน้า แต่เป็นเรื่องของสบายใจวันนี้และสุขสบายในวันหน้า
ส่วนในเรื่ององอายุก็ไม่เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการอะไรในชีวิต เช่นเด้กๆอยาอยากได้ บีบี ก็ดูว่ารุ่นไหนราคาเท่าไหร จะเก็บเงินเท่าไหรก็ว่ากันไป พอโตเป้าหมายก็เปลี่ยนไปตามวัย
อ.สมจินต์ : ผมเห้นด้วยว่าคนจนต้องวางแผนทางการเงิน รวยก็ต้องวางแผนการการเงินเช่นกัน สำหรับคนจนหรือคนที่ไม่ค่อยมี กลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีความหวัง หรือความหวังก็จะเป็นแนว หวังจะมีเงินซักก้อนไปดาวมอไซด์ ทีวี และก็หาเงินมาผ่อนๆ แต่ถ้าคนกลุ่มนี้เข้าใจเรื่องแผนการเงิน คือรู้จักการออมเงินเป็นผู้รับดอกเบี้ยก่อน แล้ววันหนึ่งก็เอาเงินออกที่ได้ที่ได้ไปใช้ซื้อ เราจะพบว่าเราได้อะไรที่มันดีขึ้นกว่าที่เราคาดหวัง อีกตัวอย่างคือ คอนโดรถไฟฟ้าเราก็ผ่านไปก้เห็นว่า 3 ล้าน แล้วก้คิดว่าอย่างเราคงไม่มีปัญญา แต่ถ้าเรามองอีกด้าน เรามีการวางแผน 3 ปี 7 ปี ค่อยๆก็บเงิน ไปดาว วางแผนการผ่อน มันจะทำให้เรามีหวังมากขึ้นว่ามันก็สามารถเป้นจริงขึ้นมาได้ เพราะมันทำให้เราใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบความสำเร็จร่ำรวยมักเริ่มต้นด้วยการออมเสมอเพราเมือ่เรามีเงินออม มันจะทำให้เรามีโอกาสพัฒนาไปสุ่การลงทุนได้ และทำให้แผนการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้นช่วงปั้นปลายชีวิตก็ต้องวางแผนการแบ่งทรัพย์สินต่างๆให้ลุกหลาน เก้บเงินไว้ทำการกุศล
คุณจุมพล : การวางแผนการเงินปัจจุบันเป้นที่นิยมมาก ตกอย่างของธนาคาร TMB เองช่วงเดือน มค ที่ผ่านมามีการให้บริการลงทุนแบบอัตตโนมัติหักเงินจากบัญชีทุกเดือนเพื่อมาลงทุนในกองทุนต่างๆที่ธนาคารมีพบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป้นจะนวนมาก คือ 20 วันแรกมีผู้สนใจถึง 20000 คน เห้นว่าคนไทยเริ่มตื่นตัวในการวางแผนทางการเงินมากขึ้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 2
ถาม ถ้าคิดจะวางแผนการเงินควรเริ่มต้นอย่างไร
อ.อัจฉรา : ไม่ยาก ให้เริ่มต้นที่ตัวเรา โดนที่สำคัญคือการเก็บข้อมูลตัวเลขต่างๆที่เรามีแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มคือ
1 รายได้ 2 รายจ่าย 3สินทรัพย์ 4 หนี้สิ้น แล้วเอามาแยกแยะก็จะได้ข้อมูลดังนี้
สิ่งที่วัดว่ารวยหรือไม่รวยคือ เอารายได้ลบรายจ่าย ถ้าเหลือแสดงว่ารวย ถ้าเปเลบแสดงว่ายังจนอยู่ แล้วก็มาวิเคราะห์ว่าทีลบนี่ลบเพราอะไร ถ้าเกิดจาก รายได้ลบรายจ่ายจำเป้นแล้วเป้นลบจริงๆ แสดงว่าเราจนเพราะมีไม่พอ อันนี้ก็อาจต้องไปแก้ที่ที่มาของรายได้ การเปลี่ยนงานหรือ อาชีพเสริมก็ว่าไป แต่ถ้ารายได้ลบรายจ่าย แล้วที่เกิดคือรายจ่ายไม่จำเป็น แสดงว่าเราฟุ่มเฟือย ก็ต้องตัดทิ้งไปบ้างเพื่อให้เรามีเงินออม
กลุ่มที่ว่าเรามั่งคั่งหรือไม่ก็เอา สินทรัพย์ลบหนี้สิน เป้นงบดุลชีวิตว่าเรามีความมั่นคงในชีวิตหรือไม่ ก็จะรู้ว่าอนาคตเรายังสุขสบายดีไหม
ตัวเลขต่างๆที่กลายไปจะเป้นตัวบอกว่าเราเปฯอย่างไร จากนั้น การวางแผนการเงินก็อาจต้องมีเรือ่งของกาตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจนขึ้นมาอีกขั้น เพื่อที่จะเป้น มหาเศรษฐีด้วยคนเอง ซึ่งจำเป้นต้องมีเปาหมายที่จัดเจน เราต้องถามตัวเองว่าตอนน้อายุเท่าไหรแล้ว จะเกษียณเมือ่ไหร อีกที่ปี แล้วเราจะมีชีวิตอย่างไร อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เราต้งมองไปไกลๆ คนสมัยนี้มักมองใกล้ๆทำงานให้เสร็จไปวันๆ เผลอแป๊บเดียวก็แก่แล้วมันก็ไม่มีเวลาวางแผน ฉนั้นการวางแผนทางการเงินเราจำเป้นที่ต้องรีบทำตั้งแต่วันนี้
ในการณีของเด้กๆก็เหมือกัน แยกออกได้เปเน 2 กลุ่มคือ ป 1-3 ยังเป็นเด็กเล้กเราต้องปลุกฝังความมีวินัยให้เขา เช่นเมือ่ให้ค่าขนมก็ให้หยอดกระปุกก่อนไปโรงเรียน สอนให้เขามีวินัยแบบนี้ไปก่อนเพราะเข้ายังไม่ทราบเรื่องเงิน พอโตขึ้นมาหน่อยช่วงวัยรุ่น ก็ต้องปลุกฝังความรับผิดชอบ ให้ลุกเข้าใจสถานการณืทางการเงินของครอบครัวว่าเป้ฯอย่างไร ให้รุ้ว่า บีบี ซื้อไม่ได้นะลุก ไอโฟนก็ซือ้ไมได้เพราะครอบครัวเรามีเงินไม่มาก เป้นต้น ที่สำคัยพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างให้กับลุกด้วย
อ.สมจินต์ : ในเรื่องของการวางแผนการเงินของลุกก็ยกตัวอย่างผมที่เวลามีสัมมนาก็จะให้ลุกมาฟัง มาให้กำลังใจพ่อ มาอัดวีดีโอให้ เผื่อปลุกฝังให้เขารู้จักเรื่องเงินๆทองๆ อีกอย่างคือ เวลาจะวื้อะไรก็ให้แชรืกับพ่อ 50:50 คือให้ลุกเก็บเงินแล้วพ่อช่วยออกเป้นการมีส่วนร่วม การหารายได้ก็น่าคิด ตอนเด็กๆ ผมก็มีทำอาชีพเสริมหารายได้เล้กๆน้อยๆ ทำให้เห็นคุณค่าของเงิน อย่างลุกก้ให้อ่านหนังสือแล้วมาสรุปให้พ่อฟัง พ่อก็ให้ค่าขนมเล็กๆน้อยๆให้เค้าภูมิใจ แนะนำให้ผู้ปกครองที่มีลุกหลายลองให้เด็กอ่านหนังสือพวก นิทานร่ำรวย ธรรมะพารวย ไดรีเศรษฐีน้อย ก็น่าจะปลูกฝังค่านิยมการออมได้ดีทีเดียว
ในเรื่องของการวางแผนการเงินที่สำคัญคือเราต้องมีเป้าหมาย หรือความหวังว่าอยากมีอะไรในอี 5 ปี 10 ปีข้างหน้า มันจะทำให้เกิดแรงบัลดาลใจในการวางแผนมีเรื่องเราอยู่ว่า จิม และซู สามีภริยาคู่หนึ่งที่เป้นช่างเชื่อมกับช่างเสริมสวย ไปพบเดวิด นักวางแผนการเงินแล้วบสกว่า เดือนหน้าเข้าจะเกษียณอายุ หลังจากตรวจสอบ เดวิดต้องแปลกใจที่ทั้งคู่มีทรัพย์สินมากถึง 1 ล้านยูเอส ซึ่งทั้งคู่บอกว่า เมือ่ 30 ปีที่แล้วเข้าได้ตัดสินใจ 1 เรือ่งที่สำคัยคือ บอกเจ้านายให้หักเงินเดือนเข้าทุกเดือนจำนวน 10% แล้วเป้นธุระให้ช่วยนำไปลงทุนให้ ให้จ่ยเงินเดือนที่เหลือคนละ 90% 360 เดือนที่เข้าออมเงินทำให้ทั้งคู่มีความมั่งังใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่หาเงินไมได้ แต่เกิดจากการขาดการออมเงิน และขาดวินัยทางการเงินที่ต่อเนื่อง สมการทางการออมที่ถูกต้องคือ รายได้ ลบเงินออม ที่เหลือเปนเงินจ่าย จะทำให้ทุกท่านประสบความสำเร็จได้เพียงแต่ให้ความสำคัยกับการออมก่อนการใช้จ่าย การออมเงินนำไปสุ่ความสบายในระยะยาว การใช้จ่ายเปนความสบายระยะสั้นต้องจัดสรรให้ดี ออมเงินเดือนละหมื่น ผลตอบแทน 10% ในเวลา 20 ปี ก้มีเงิน 20 ล้านถ้าเราเอาจริงกับมันก็สามารถทำได้ ใน tmb เองก็มีดปรแกรมที่เรียกว่า AIP คือการตัดเงินไปลงทุนจากบัญชีทุกเดือนทำให้เรามีความสะดวกสะบายในการออมและการมีวินัยลงทุนมากขึ้นเพราะเป้นการเฉลี่ยต้นทุนไปด้วยในตัว จุดอ่อนที่สำคัญ คือ คนเรามักจะซื้อตอนแพงและตกใจขายหุ้นเมื่อตอนมันตก ซึ่งไม่ถูกต้อง ตัวอย่าง เมือ่คุณไปร้านเบอร์เกอแล้วพบว่ามันขึ้นราคาคุณควรจะเสียใจและซื้อน้อยลงหรือไม่ซื้อ แต่ถ้าไปแล้วพบว่ามันซือ้ 1 แถม 1 คุณควรซื้อตอนนั้น การที่เราเห้นหุ้นขึ้นแล้วดีใจแสดงว่าเราเปนผู้จะขายหุ้นมากกว่าซื้อ
อ.อัจฉรา : ไม่ยาก ให้เริ่มต้นที่ตัวเรา โดนที่สำคัญคือการเก็บข้อมูลตัวเลขต่างๆที่เรามีแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มคือ
1 รายได้ 2 รายจ่าย 3สินทรัพย์ 4 หนี้สิ้น แล้วเอามาแยกแยะก็จะได้ข้อมูลดังนี้
สิ่งที่วัดว่ารวยหรือไม่รวยคือ เอารายได้ลบรายจ่าย ถ้าเหลือแสดงว่ารวย ถ้าเปเลบแสดงว่ายังจนอยู่ แล้วก็มาวิเคราะห์ว่าทีลบนี่ลบเพราอะไร ถ้าเกิดจาก รายได้ลบรายจ่ายจำเป้นแล้วเป้นลบจริงๆ แสดงว่าเราจนเพราะมีไม่พอ อันนี้ก็อาจต้องไปแก้ที่ที่มาของรายได้ การเปลี่ยนงานหรือ อาชีพเสริมก็ว่าไป แต่ถ้ารายได้ลบรายจ่าย แล้วที่เกิดคือรายจ่ายไม่จำเป็น แสดงว่าเราฟุ่มเฟือย ก็ต้องตัดทิ้งไปบ้างเพื่อให้เรามีเงินออม
กลุ่มที่ว่าเรามั่งคั่งหรือไม่ก็เอา สินทรัพย์ลบหนี้สิน เป้นงบดุลชีวิตว่าเรามีความมั่นคงในชีวิตหรือไม่ ก็จะรู้ว่าอนาคตเรายังสุขสบายดีไหม
ตัวเลขต่างๆที่กลายไปจะเป้นตัวบอกว่าเราเปฯอย่างไร จากนั้น การวางแผนการเงินก็อาจต้องมีเรือ่งของกาตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจนขึ้นมาอีกขั้น เพื่อที่จะเป้น มหาเศรษฐีด้วยคนเอง ซึ่งจำเป้นต้องมีเปาหมายที่จัดเจน เราต้องถามตัวเองว่าตอนน้อายุเท่าไหรแล้ว จะเกษียณเมือ่ไหร อีกที่ปี แล้วเราจะมีชีวิตอย่างไร อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เราต้งมองไปไกลๆ คนสมัยนี้มักมองใกล้ๆทำงานให้เสร็จไปวันๆ เผลอแป๊บเดียวก็แก่แล้วมันก็ไม่มีเวลาวางแผน ฉนั้นการวางแผนทางการเงินเราจำเป้นที่ต้องรีบทำตั้งแต่วันนี้
ในการณีของเด้กๆก็เหมือกัน แยกออกได้เปเน 2 กลุ่มคือ ป 1-3 ยังเป็นเด็กเล้กเราต้องปลุกฝังความมีวินัยให้เขา เช่นเมือ่ให้ค่าขนมก็ให้หยอดกระปุกก่อนไปโรงเรียน สอนให้เขามีวินัยแบบนี้ไปก่อนเพราะเข้ายังไม่ทราบเรื่องเงิน พอโตขึ้นมาหน่อยช่วงวัยรุ่น ก็ต้องปลุกฝังความรับผิดชอบ ให้ลุกเข้าใจสถานการณืทางการเงินของครอบครัวว่าเป้ฯอย่างไร ให้รุ้ว่า บีบี ซื้อไม่ได้นะลุก ไอโฟนก็ซือ้ไมได้เพราะครอบครัวเรามีเงินไม่มาก เป้นต้น ที่สำคัยพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างให้กับลุกด้วย
อ.สมจินต์ : ในเรื่องของการวางแผนการเงินของลุกก็ยกตัวอย่างผมที่เวลามีสัมมนาก็จะให้ลุกมาฟัง มาให้กำลังใจพ่อ มาอัดวีดีโอให้ เผื่อปลุกฝังให้เขารู้จักเรื่องเงินๆทองๆ อีกอย่างคือ เวลาจะวื้อะไรก็ให้แชรืกับพ่อ 50:50 คือให้ลุกเก็บเงินแล้วพ่อช่วยออกเป้นการมีส่วนร่วม การหารายได้ก็น่าคิด ตอนเด็กๆ ผมก็มีทำอาชีพเสริมหารายได้เล้กๆน้อยๆ ทำให้เห็นคุณค่าของเงิน อย่างลุกก้ให้อ่านหนังสือแล้วมาสรุปให้พ่อฟัง พ่อก็ให้ค่าขนมเล็กๆน้อยๆให้เค้าภูมิใจ แนะนำให้ผู้ปกครองที่มีลุกหลายลองให้เด็กอ่านหนังสือพวก นิทานร่ำรวย ธรรมะพารวย ไดรีเศรษฐีน้อย ก็น่าจะปลูกฝังค่านิยมการออมได้ดีทีเดียว
ในเรื่องของการวางแผนการเงินที่สำคัญคือเราต้องมีเป้าหมาย หรือความหวังว่าอยากมีอะไรในอี 5 ปี 10 ปีข้างหน้า มันจะทำให้เกิดแรงบัลดาลใจในการวางแผนมีเรื่องเราอยู่ว่า จิม และซู สามีภริยาคู่หนึ่งที่เป้นช่างเชื่อมกับช่างเสริมสวย ไปพบเดวิด นักวางแผนการเงินแล้วบสกว่า เดือนหน้าเข้าจะเกษียณอายุ หลังจากตรวจสอบ เดวิดต้องแปลกใจที่ทั้งคู่มีทรัพย์สินมากถึง 1 ล้านยูเอส ซึ่งทั้งคู่บอกว่า เมือ่ 30 ปีที่แล้วเข้าได้ตัดสินใจ 1 เรือ่งที่สำคัยคือ บอกเจ้านายให้หักเงินเดือนเข้าทุกเดือนจำนวน 10% แล้วเป้นธุระให้ช่วยนำไปลงทุนให้ ให้จ่ยเงินเดือนที่เหลือคนละ 90% 360 เดือนที่เข้าออมเงินทำให้ทั้งคู่มีความมั่งังใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่หาเงินไมได้ แต่เกิดจากการขาดการออมเงิน และขาดวินัยทางการเงินที่ต่อเนื่อง สมการทางการออมที่ถูกต้องคือ รายได้ ลบเงินออม ที่เหลือเปนเงินจ่าย จะทำให้ทุกท่านประสบความสำเร็จได้เพียงแต่ให้ความสำคัยกับการออมก่อนการใช้จ่าย การออมเงินนำไปสุ่ความสบายในระยะยาว การใช้จ่ายเปนความสบายระยะสั้นต้องจัดสรรให้ดี ออมเงินเดือนละหมื่น ผลตอบแทน 10% ในเวลา 20 ปี ก้มีเงิน 20 ล้านถ้าเราเอาจริงกับมันก็สามารถทำได้ ใน tmb เองก็มีดปรแกรมที่เรียกว่า AIP คือการตัดเงินไปลงทุนจากบัญชีทุกเดือนทำให้เรามีความสะดวกสะบายในการออมและการมีวินัยลงทุนมากขึ้นเพราะเป้นการเฉลี่ยต้นทุนไปด้วยในตัว จุดอ่อนที่สำคัญ คือ คนเรามักจะซื้อตอนแพงและตกใจขายหุ้นเมื่อตอนมันตก ซึ่งไม่ถูกต้อง ตัวอย่าง เมือ่คุณไปร้านเบอร์เกอแล้วพบว่ามันขึ้นราคาคุณควรจะเสียใจและซื้อน้อยลงหรือไม่ซื้อ แต่ถ้าไปแล้วพบว่ามันซือ้ 1 แถม 1 คุณควรซื้อตอนนั้น การที่เราเห้นหุ้นขึ้นแล้วดีใจแสดงว่าเราเปนผู้จะขายหุ้นมากกว่าซื้อ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 3
คุณจุมพล : การใช้บริการ AIP ก้สามารถทำได้ที่ทหารไทยทุกสาขา เพี่ยงแต่กรอกแบบฟอร์ม โดยในส่วนของการวางแผนการเงินมี 3 กลุ่มได้ก่ เงินฝากที่ทุกคนรู้จักกันดี กองทุน ซึ่งก็ต้องไปศึกษาเรื่องความเสี่ยงต่างๆในการลงทุนตามที่กองทุนต่างๆกำหนดไว้ และกลุ่มประกันชีวิตที่เน้นการออมระยะยาวและเผื่อไปถึงคนข้างหลัง โดยธนาคารทหารไทยเน้นให้บริการทุกวัย และเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำเพียง 2000 บาทก็สามารถซื้อกองทุนได้แล้ว เหมาะแก่การเริ่มลงทุน เงินฝากพิเศษก้มีความประเภทให้เลือก
อ.สมจินต์ อย่างในหนังสือพ่อรวยสอนลุก จะสอนให้ลุกมีกระปุก 3 ใบ คือ 1 ใบออม 2 ใบลงทุน 3 ใบสำหรับทำบุญ และบอกว่ารายได้ไม่ใช่เรือ่งสำคัยแต่เราต้องรู้จักออมและฉลาดในหารลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจจึงจะสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ และที่สำคัยก็คือต้องรู้จักแบ่งปันให้กับผู้อื่น แล้วสิ่งดีดีก็จะย้อนกลับมาเข้าตัวเรา แบบที่คริสเตียนตอนไว้ว่า เมือ่เราบ่งปันกับหญงม่ายและเด้กๆเท่ากับเราแบ่งปันให้พระเจ้า
ถาม การวางแผนการเงินยากตอนไหน
อ.อัจฉรา : ตอนเริ่ต้น เหมือนเรารู้ว่าควรตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน ตรวจฟันทุก 6 เดือนแต่ถามว่าใครที่ทำได้ตามนั้นบ้าง เรามักชอบผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเริ่มต้นได้ทำได้ก็จบ ระยะทางสำคัญความความเร็ว เราต้องมีเป้าหมายแล้วก็เริ่มทำไปเลยมีแผนการแล้วทำในก็จะออกมาดี เหมือน เรามีเป้าหมายไปเชียงใหม่ ก็มากำหนดว่าเราจะไปอย่างไร รถ เรือ รถไฟ เดินไปเครื่องบินมีหลายทาง กำหนดกรอบว่าไปไหนบ้าง พอเรารุ้ทำตามแผนเราจะเที่ยวได้อย่างมีความสุขไม่ติดขัด สำคัญคือมีเป้าหมายกำหนดวิธีการแล้วก็ทำซะ 100รุ้ไม่สู้ 1 ปฏิบัติ
อ.สมจินต์ : บางครั้งไม่รุ้จะเริ่มยังไง เช่นบางคนรู้ว่าออมมันดี แต่ไม่มีเงินออม ก็ต้องสืบหาว่าเงินมันหายไปไหน มาดูว่ามีรายการฟุ่มเฟือยหรือไม่ อย่างเช้า เดือนออกไปทำงาน กินกาปฟแล้วละ 100 บาท 7 วัน ถ้ากินไป 10 ปี รวมผลตอบแทนที่เราเสียไปอี 6% ก็ป็นเงิน 490000 บาท ตรงน้ก็ต้องดูวาสามารถลดได้ไหมหรือถ้ามีเงินกินก้ต้องเอาเงินเท่าๆกันไปหยอดกระปุกด้วย หรือลอกเงินก่อนเอาไปใช้ได้ยิ่งดี การเริ่มต้นและทำความต่อเนื่องคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร้จ บางคนเริ่มทำแต่ไม่ตอเนื่อง ก็ไม่ได้ผล ส่วนที่สองคือ คบกัลยานมิตรมีเพื่อนที่ดี เช่นช่วงบอลโลก ปลาหมึกพอล T_T เป้นเพื่อนที่ดี ก็อาจทำให้เราสนุกกับการอม
อีกส่วนที่ผลแนะนำคือกก 48 hr คอถ้าเราพหรือเจอความคิดอะไรดีดีให้เราทำใน 48 hr
อ.อัจฉา เห็นด้วยเรื่องกินกาแฟ เราต้องถาว่าสาระของการกินกาแฟของเราคืออะไร ถ้ากินแก้ง่วงแค่กาแฟหนึ่งช้อนน้ำร้อนครึ่งแก้ว ก็พอแล้ว ส่วนวิปครีม น้ำตาล อื่นๆมันเป้นส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นสิ้นเปลืองและเป้นโทษตอร่างกาย
คุณจุมพล : สิ่งสำคัญคือแผนที่วางต้องทำได้จริง คือ เราต้องรู้ว่าเราลงทุนเราออมได้แค่ไหน เป้าหมายต้องสอดคล้องกับชีวิตด้วยไม่ควรเป้นการกดดันตัวเองมากไป และวัดผลได้ไม่งั้นเราจะไม่สามารถทำได้ในระยะยาว เช่น เรามือเสื้อ เวลาเปลี่ยนเราอาจอ้วนขึ้นใส่ไม่ได้ก็ต้องมีการแก้ไขรบปรุงเหมือนแผนการเงินที่วางไว้ ถ้ามีปัจจัยอะไรมากกระทบก็อาจต้องมีการปรับเป้าหมาย การที่แผนการเงินวัดได้ชัดเจนจะช่วยบอกว่าเราควรปรับตรงไหนอย่างไร พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทางสายกลาง เมือ่เดินแล้วก็จะไม่ทุกข์ ก็เอามาปรับใช้ มีเงินได้ 10000 บาท จะตั้งเป้าจะออม 8000 บาท บางทีกเวอรืเกินไป ทำให้เปเนทุกเปล่าๆ คนมีเงิน 1 ล้านกับ 100 ล้านอยากมีบ้านใหม่อีกซักหลัง คนเงินล้านก็อาจได้บ้านหลังเล้กหน่อย คน 100 ล้านอาจได้หลังใหญ่หน่อย ก็ขึ้นอยู่กับคนคนนั้น แผนการเงินไม่ได้ทำให้คนมีเงิน 1 ล้านสร้างปฏิหารรวยแบบก้าวกระโดดมากๆได้ แต่ทำให้ชีวิตมั่นคงได้
อ.สมจินต์ อย่างในหนังสือพ่อรวยสอนลุก จะสอนให้ลุกมีกระปุก 3 ใบ คือ 1 ใบออม 2 ใบลงทุน 3 ใบสำหรับทำบุญ และบอกว่ารายได้ไม่ใช่เรือ่งสำคัยแต่เราต้องรู้จักออมและฉลาดในหารลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจจึงจะสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ และที่สำคัยก็คือต้องรู้จักแบ่งปันให้กับผู้อื่น แล้วสิ่งดีดีก็จะย้อนกลับมาเข้าตัวเรา แบบที่คริสเตียนตอนไว้ว่า เมือ่เราบ่งปันกับหญงม่ายและเด้กๆเท่ากับเราแบ่งปันให้พระเจ้า
ถาม การวางแผนการเงินยากตอนไหน
อ.อัจฉรา : ตอนเริ่ต้น เหมือนเรารู้ว่าควรตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน ตรวจฟันทุก 6 เดือนแต่ถามว่าใครที่ทำได้ตามนั้นบ้าง เรามักชอบผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเริ่มต้นได้ทำได้ก็จบ ระยะทางสำคัญความความเร็ว เราต้องมีเป้าหมายแล้วก็เริ่มทำไปเลยมีแผนการแล้วทำในก็จะออกมาดี เหมือน เรามีเป้าหมายไปเชียงใหม่ ก็มากำหนดว่าเราจะไปอย่างไร รถ เรือ รถไฟ เดินไปเครื่องบินมีหลายทาง กำหนดกรอบว่าไปไหนบ้าง พอเรารุ้ทำตามแผนเราจะเที่ยวได้อย่างมีความสุขไม่ติดขัด สำคัญคือมีเป้าหมายกำหนดวิธีการแล้วก็ทำซะ 100รุ้ไม่สู้ 1 ปฏิบัติ
อ.สมจินต์ : บางครั้งไม่รุ้จะเริ่มยังไง เช่นบางคนรู้ว่าออมมันดี แต่ไม่มีเงินออม ก็ต้องสืบหาว่าเงินมันหายไปไหน มาดูว่ามีรายการฟุ่มเฟือยหรือไม่ อย่างเช้า เดือนออกไปทำงาน กินกาปฟแล้วละ 100 บาท 7 วัน ถ้ากินไป 10 ปี รวมผลตอบแทนที่เราเสียไปอี 6% ก็ป็นเงิน 490000 บาท ตรงน้ก็ต้องดูวาสามารถลดได้ไหมหรือถ้ามีเงินกินก้ต้องเอาเงินเท่าๆกันไปหยอดกระปุกด้วย หรือลอกเงินก่อนเอาไปใช้ได้ยิ่งดี การเริ่มต้นและทำความต่อเนื่องคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร้จ บางคนเริ่มทำแต่ไม่ตอเนื่อง ก็ไม่ได้ผล ส่วนที่สองคือ คบกัลยานมิตรมีเพื่อนที่ดี เช่นช่วงบอลโลก ปลาหมึกพอล T_T เป้นเพื่อนที่ดี ก็อาจทำให้เราสนุกกับการอม
อีกส่วนที่ผลแนะนำคือกก 48 hr คอถ้าเราพหรือเจอความคิดอะไรดีดีให้เราทำใน 48 hr
อ.อัจฉา เห็นด้วยเรื่องกินกาแฟ เราต้องถาว่าสาระของการกินกาแฟของเราคืออะไร ถ้ากินแก้ง่วงแค่กาแฟหนึ่งช้อนน้ำร้อนครึ่งแก้ว ก็พอแล้ว ส่วนวิปครีม น้ำตาล อื่นๆมันเป้นส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นสิ้นเปลืองและเป้นโทษตอร่างกาย
คุณจุมพล : สิ่งสำคัญคือแผนที่วางต้องทำได้จริง คือ เราต้องรู้ว่าเราลงทุนเราออมได้แค่ไหน เป้าหมายต้องสอดคล้องกับชีวิตด้วยไม่ควรเป้นการกดดันตัวเองมากไป และวัดผลได้ไม่งั้นเราจะไม่สามารถทำได้ในระยะยาว เช่น เรามือเสื้อ เวลาเปลี่ยนเราอาจอ้วนขึ้นใส่ไม่ได้ก็ต้องมีการแก้ไขรบปรุงเหมือนแผนการเงินที่วางไว้ ถ้ามีปัจจัยอะไรมากกระทบก็อาจต้องมีการปรับเป้าหมาย การที่แผนการเงินวัดได้ชัดเจนจะช่วยบอกว่าเราควรปรับตรงไหนอย่างไร พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทางสายกลาง เมือ่เดินแล้วก็จะไม่ทุกข์ ก็เอามาปรับใช้ มีเงินได้ 10000 บาท จะตั้งเป้าจะออม 8000 บาท บางทีกเวอรืเกินไป ทำให้เปเนทุกเปล่าๆ คนมีเงิน 1 ล้านกับ 100 ล้านอยากมีบ้านใหม่อีกซักหลัง คนเงินล้านก็อาจได้บ้านหลังเล้กหน่อย คน 100 ล้านอาจได้หลังใหญ่หน่อย ก็ขึ้นอยู่กับคนคนนั้น แผนการเงินไม่ได้ทำให้คนมีเงิน 1 ล้านสร้างปฏิหารรวยแบบก้าวกระโดดมากๆได้ แต่ทำให้ชีวิตมั่นคงได้
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 4
อ.อัจรา : ถ้ามีการวางแผนการเงินแล้ว มีกรอบเวลา มีความเป้นไปได้ แผนการเงินที่วางต้องทำให้เราสนุก ไม่เครียด มีการติดตามผลสม่ำเสมอ ตามภาวะ ศก รายได้ ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป มีการกันเงินไว้ในส่วนฉุกเฉิน ซึ่งเงินฉุกเฉินก็เป้นตัวช่วยให้เราไม่ต้องเกิดปัญหาไม่คาดฝันในอนาคตหรือผ่อนหนักเป้นเบาได้ก็เป้นเรื่องจำเป็นเพือ่จะไม่ต้องมายกเลิกแผนการเงินที่วางไว้แล้วไปหาแผน 2 แผน 3 มีพระท่านเคยถามไว้ว่า พรุ่งนี้กับชาติหน้าอะไรจะมาก่อน ซึ่งมันทำให้เราคิดว่าเราต้องดำเนินชีวิตด้วความไม่ประมาท
ถาม โชคสำคัญไหม
อ.สมจินต์ : มีความแตกต่างระหว่างโชค กับโชคดี ซึ่งเราต้องสร้างโชคดีให้กับตัวเอง มีนิทานเรื่องหนึ่งบอกว่า มีอัสวิน 2 คน แข่งขันกันหาต้นโกรเวอร์วิเศษที่มี 4 ใบ ปกติต้นนี้จะมี 3 ใบ คนแรกก็พยายามสอบถามชาวบ้านผู้คนต่างๆว่าจะหาต้นชนิดนี้ได้จากที่ไหน ก็พบว่าคนไม่พบเห็นมันเป้นเวลานานแล้ว อัสวินคนที่สองกลับคิดว่า ไอ้ต้นนี้มันจะขึ้นในที่ยังไงก็สอบถามชาวบ้านหรือคนทั่วไปเกี่ยวกับลักษระดิน อากาศ สิ่งแวดล้อมที่ต้นนี้จะขึ้นได้ เพื่อทำการปลุกต้นไม้นี้ วันหนึ่งมีพายุพัดเมล้ดพันต้นโกรเวอรืวิเศษตกทั่วแผนดิน เม็ดที่ตกในที่ของอัศวิญคนที่สองก็เจริญงอกงาม ทำให้ชนะการแข่งขัน นี่เป้นตัวอย่างว่าเราต้องหัดสร้างโชคดีให้กับตัวเอง คอการเตรียมทุกอย่างในชีวิตให้พร้อม เพื่อวันหนึ่งโอกาศดีดีมาถึวจะได้ไม่พลาด
อ.อัจฉรา ปัญหาสำคัญคือวินัย นินัยคือการบังคับตนเองให้ทำให้สิ่งที่ควรทำในเวลาที่ต้องทำทั้งๆที่เราไม่อยากทำ ถ้าเราทำได้ เราจะประสบความสำเร็จใครเริ่มก่อนก็สำเร็จก่อน
ถาม โชคสำคัญไหม
อ.สมจินต์ : มีความแตกต่างระหว่างโชค กับโชคดี ซึ่งเราต้องสร้างโชคดีให้กับตัวเอง มีนิทานเรื่องหนึ่งบอกว่า มีอัสวิน 2 คน แข่งขันกันหาต้นโกรเวอร์วิเศษที่มี 4 ใบ ปกติต้นนี้จะมี 3 ใบ คนแรกก็พยายามสอบถามชาวบ้านผู้คนต่างๆว่าจะหาต้นชนิดนี้ได้จากที่ไหน ก็พบว่าคนไม่พบเห็นมันเป้นเวลานานแล้ว อัสวินคนที่สองกลับคิดว่า ไอ้ต้นนี้มันจะขึ้นในที่ยังไงก็สอบถามชาวบ้านหรือคนทั่วไปเกี่ยวกับลักษระดิน อากาศ สิ่งแวดล้อมที่ต้นนี้จะขึ้นได้ เพื่อทำการปลุกต้นไม้นี้ วันหนึ่งมีพายุพัดเมล้ดพันต้นโกรเวอรืวิเศษตกทั่วแผนดิน เม็ดที่ตกในที่ของอัศวิญคนที่สองก็เจริญงอกงาม ทำให้ชนะการแข่งขัน นี่เป้นตัวอย่างว่าเราต้องหัดสร้างโชคดีให้กับตัวเอง คอการเตรียมทุกอย่างในชีวิตให้พร้อม เพื่อวันหนึ่งโอกาศดีดีมาถึวจะได้ไม่พลาด
อ.อัจฉรา ปัญหาสำคัญคือวินัย นินัยคือการบังคับตนเองให้ทำให้สิ่งที่ควรทำในเวลาที่ต้องทำทั้งๆที่เราไม่อยากทำ ถ้าเราทำได้ เราจะประสบความสำเร็จใครเริ่มก่อนก็สำเร็จก่อน
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 5
เส้นทางรวย
ดร นิเวศ คุณวสันต์ คุณปรารถนา
ถามเราจะรวยได้อย่างไร
คุณวสันต์ : ก่อนอื่นผมมอบ ของที่จะทำให้รวย 1 หลวงพ่อเงิน กับ 2 หลวงพ่อสด ให้อาจารยืไพบูลย์ รับรองแค่มี เงินสด ก็รวย T_T มุขงะ เข้าเรื่อง ผมว่าความรวยมันเป้นความไม่เที่ยงและไอ้ความไม่เที่ยงทำให้รวย แต่เดิมก็เปนเด้กบ้านนอก กินข้าวก้นบาตร มีกางเกงตัวเดียว แต่เพราะความไม่เที่ยงชีวิตผลิกผันเลยรวยได้อย่างทุกวันนี้ เพราะคนเราพอมันไม่มีมากๆเข้ามันก้รู้จักดิ้นรน มห้พ้นจากสภาพนั้น เริ่มต้นก็เรียนหนังสือที่วัดท่าเรือ เมืองกาญจน์ แล้วก็เข้ามาเรียนกทม สมัยนั้นต้องเดินจากยมราช ไปเรียนทีพยาไท เพราะมีมีเงินขึ้นรถเมล์ จนจบอำนวยศิลป์ ก็เรียนต่อหอการค้า ทำงานที่ไหนก็อยุ่ได้ไม่นาน เพราะนายมันโง่กว่าเรา เลยไม่เห้นความก้าวหน้า ก็ไปเรียนต่อเมกา กลับมาก็เรี่ยมมาขายโตโยต้า ช่วงนั้นไม่มีตังก็เริ่มจากขายจากแคตตาลอก ด้วยความที่มีเพื่อเยอะมาก มันก็ช่วยๆกันไปขายดี เพื่อนก็มีทั้งทำการเงิน ทำประกัน เวลาขายผมก็เลยได้ราคาถูกกว่าชาวบ้านมันก็ขายดีไปกันใหญ่ จนซักพักก้ไปเช่าตึกแถว เปิดโชรูมที่ ทองหล่อตอนนั้นยังไม่เจริญเป้นทุ่งนา จำได้ว่าตำลงซื้อราคา 7 พัน วันโอนคนขายสงสารลดให้เหลอื 4 พันเพราะสงสาร จนตอนนี้ที่ดินตรงนั้นทำให้รวย 555 ตอนนี้ก็ตารางวาละ 1 ล้าน ที่ขายได้ผมไม่ได้ขายหน้าโชว์รูม แต่มันเกิดจากโทรมาสั่งแล้วปากต่อปากกันไป ไอ้โชว์รูมอะมีแต่ควาย ควายจิงๆมาดูทุกวันเพราะเป้นทุ่งนา T_t ช่วงวิกฤติ จริงๆก็ไม่เหนือ่ยเพราะมีสตอกรถ ลุกหนี้ไม่เหนือ่ยหรอกแต่ไอ้พวกเจ้าหนี้ซิเหนื่อยต้องคอยตามทวงหนี้ ตอนนั้นก็สำรวจทรัพย์สินตัวเองเหมือนกัน จากมีเงิน 3 พันล้าน กลายเป้นหนี้ 2 พันล้าน ธนาคารก็ตามมาทวงหนี้เลย ดอกจาก 12% ก็มาเรียก 31 % โชคดีที่ตุนเงินไว้นิดหน่อย แล้วก็ตัดใจขายที่ให้คุณตันไป คุณตันดีใจได้ตึก ผมดีใจได้ขาย แต่ผู้หยิงสองคนร้องไห้คนนึงก็ว่ามีหนี้อีกแล้ว อีกคนก็ขายไปแล้วคนงานจะเป้นยังไง 555 ที่สำคัญตอนวิกฤติก็เน้นทำสมาธิ ทำอะไรช้าๆ กำหนดจิต นุ่มขาวห่มขาว เจ้าหนี้ จะกลัวมากกลัวว่าจะไมทำงานคืนหนี้ แต่ก็สัจจะธรรม อะไรที่อยู่สูงสุดมันก็ลงต่ำ อะไรที่ต่ำสุดแล้ว เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมได้ ทุกอย่างไม่ยังยืน แต่ที่สำคัญคืออย่างไปทำเลว ทำชั่ว ไม่คบคนชั่ว คบแต่คนดีดี แล้วชีวิตจะดี
ดร นิเวศ คุณวสันต์ คุณปรารถนา
ถามเราจะรวยได้อย่างไร
คุณวสันต์ : ก่อนอื่นผมมอบ ของที่จะทำให้รวย 1 หลวงพ่อเงิน กับ 2 หลวงพ่อสด ให้อาจารยืไพบูลย์ รับรองแค่มี เงินสด ก็รวย T_T มุขงะ เข้าเรื่อง ผมว่าความรวยมันเป้นความไม่เที่ยงและไอ้ความไม่เที่ยงทำให้รวย แต่เดิมก็เปนเด้กบ้านนอก กินข้าวก้นบาตร มีกางเกงตัวเดียว แต่เพราะความไม่เที่ยงชีวิตผลิกผันเลยรวยได้อย่างทุกวันนี้ เพราะคนเราพอมันไม่มีมากๆเข้ามันก้รู้จักดิ้นรน มห้พ้นจากสภาพนั้น เริ่มต้นก็เรียนหนังสือที่วัดท่าเรือ เมืองกาญจน์ แล้วก็เข้ามาเรียนกทม สมัยนั้นต้องเดินจากยมราช ไปเรียนทีพยาไท เพราะมีมีเงินขึ้นรถเมล์ จนจบอำนวยศิลป์ ก็เรียนต่อหอการค้า ทำงานที่ไหนก็อยุ่ได้ไม่นาน เพราะนายมันโง่กว่าเรา เลยไม่เห้นความก้าวหน้า ก็ไปเรียนต่อเมกา กลับมาก็เรี่ยมมาขายโตโยต้า ช่วงนั้นไม่มีตังก็เริ่มจากขายจากแคตตาลอก ด้วยความที่มีเพื่อเยอะมาก มันก็ช่วยๆกันไปขายดี เพื่อนก็มีทั้งทำการเงิน ทำประกัน เวลาขายผมก็เลยได้ราคาถูกกว่าชาวบ้านมันก็ขายดีไปกันใหญ่ จนซักพักก้ไปเช่าตึกแถว เปิดโชรูมที่ ทองหล่อตอนนั้นยังไม่เจริญเป้นทุ่งนา จำได้ว่าตำลงซื้อราคา 7 พัน วันโอนคนขายสงสารลดให้เหลอื 4 พันเพราะสงสาร จนตอนนี้ที่ดินตรงนั้นทำให้รวย 555 ตอนนี้ก็ตารางวาละ 1 ล้าน ที่ขายได้ผมไม่ได้ขายหน้าโชว์รูม แต่มันเกิดจากโทรมาสั่งแล้วปากต่อปากกันไป ไอ้โชว์รูมอะมีแต่ควาย ควายจิงๆมาดูทุกวันเพราะเป้นทุ่งนา T_t ช่วงวิกฤติ จริงๆก็ไม่เหนือ่ยเพราะมีสตอกรถ ลุกหนี้ไม่เหนือ่ยหรอกแต่ไอ้พวกเจ้าหนี้ซิเหนื่อยต้องคอยตามทวงหนี้ ตอนนั้นก็สำรวจทรัพย์สินตัวเองเหมือนกัน จากมีเงิน 3 พันล้าน กลายเป้นหนี้ 2 พันล้าน ธนาคารก็ตามมาทวงหนี้เลย ดอกจาก 12% ก็มาเรียก 31 % โชคดีที่ตุนเงินไว้นิดหน่อย แล้วก็ตัดใจขายที่ให้คุณตันไป คุณตันดีใจได้ตึก ผมดีใจได้ขาย แต่ผู้หยิงสองคนร้องไห้คนนึงก็ว่ามีหนี้อีกแล้ว อีกคนก็ขายไปแล้วคนงานจะเป้นยังไง 555 ที่สำคัญตอนวิกฤติก็เน้นทำสมาธิ ทำอะไรช้าๆ กำหนดจิต นุ่มขาวห่มขาว เจ้าหนี้ จะกลัวมากกลัวว่าจะไมทำงานคืนหนี้ แต่ก็สัจจะธรรม อะไรที่อยู่สูงสุดมันก็ลงต่ำ อะไรที่ต่ำสุดแล้ว เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมได้ ทุกอย่างไม่ยังยืน แต่ที่สำคัญคืออย่างไปทำเลว ทำชั่ว ไม่คบคนชั่ว คบแต่คนดีดี แล้วชีวิตจะดี
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 6
คุณปรารถนา : เป้นตัวแทนอาชีพกินเงินเดือน สัจธรรมที่ได้คือ ยังไงก็จนกว่าเจ้าของ แต่ก็มองว่าไมได้เดือนร้อนอะไรเพราะขึ้นอยู่กับความพอพียง เปเนคน กทม พ่อเป้นข้าราชการ แม่เป้นพนักงานบริษัท เรียกว่ามีฐานะระดับกลางค่อนไปทางล่างๆหน่อย สิ่งทีได้ในวัยเด้กคือความสามารถในการอดทันคือนั่งรอคุณพ่อเฉยๆได้ 3 ชั่วโมงโดยไม่ทำอะไร และคุณพ่อพอลิกงานก็จะเอาเรื่องที่ รร มาเล่าให้พักคุณพ่อเป้นคุณครู แล้วก็ถามว่าถ้าเป้นเราจะแก้ปัญหาอย่างนี้ยังไง ทำแบบนี้ทุกวันทำให้ทุกวันนี้เป็นผู้บริหารได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้มากคือ การปกครองคน ตัดสินคน อีกส่วนที่ได้มาคือ เป้นคนที่ไมได้จบเมืองนอกแต่สามารถพุดภาษาอังกฤษได้ดีเพราะ ฝึกอ่านข่าวอ่านกาตูนให้คุรพ่อฟังตั้งแต่ ป 3 ทำให้ได้ตรงจุดนี้มา
สิ่งที่ได้มาจนทุกวันนี้สำหรับคนทำงานคือเราต้อง ทำงานหนัก คือ เวิคฮาท มาก่อนเวิคสมาท แรกๆเราต้องทำงานให้หนัก แต่เราก็เข้าใจว่า ถงเราจะว่าเราทำงานหนักขนาดไหน ก็หนักน้อยกว่าคนที่เป็นเจ้าของที่เข้าต้องทำงาน 24 hr 7 วัน เราว่าหนัก พนักงานอาชีพ ก็คือทำงานถึง 4 ทุ่ม แล้วว่ากันใหม่ตอน 6 โมงเช้า ช่วง 4 ทุมถึง 6 โมงเช้ามันเป้นเวลาของเราจริงๆ ซึ่งคนเป็นเจ้าของกิจการไม่มีเลย
สมัยเรียนมหาลัยก็มีสิ่งหนึ่งที่คิดว่าติดมาจนประสบความสำเร้จคือ ถ้าจะทำอะไรแล้วต้องทำจริง ตอนเรียน ก็ทำบริษัทจำลอง ขายเครือ่งครัว จนได้โล่ติด top sale เพราะ เรามองว่าขายหม้อราต้องขายในที่ที่มีดีมานก็คือ ตลาดอโศกเพราะคนมีเงินสุดขายได้จนเต็มแล้วก็เปิดแชร์ กู้เงินแม่มากขายแบบผ่อนก็ประสบความสำเร็จอย่างดี และรางวัลนี้ ก็ช่วยให้ได้งาน เอาโล่ไปสมัครงานเป้นบัญชเขาไม่รับ แต่ไมนานก็โทรมาติดต่อให้ไปเป้นตำแหน่งขาย
ประสบการคือเป้น CFO CPN มา 7 ปี และปัจจุบันทำอยู่ MINT มา 13 ปี ระบบของ CPN จะเป้นแบบครอบครัว MINT นี่จะเป้นแบบมืออาชีพจริงๆ ช่วงนี่เปลี่ยนจาก cpn ที่มีทรัพย์สิน 1 หมื่นล้านมาทำ mint ที่ตอนนั้นมีแต่ 2 พันล้านหลายๆคนก็มองว่าแยลงแต่ได้ฟังคำสัมพาดแล้วรู้สึกประทับในคือถามไปว่า ไม่ทราบว่า cpn crazy หรือ mint crazy กันแน่ ว่า cpn จ้างคนเงินเดือนน้อยไปหรือมิ้นจะจ้างเงินเดือนสูงไป (มุมมองว่า cpn ดู ทรัพยสิน 1 หมื่นล้าน เทียบกับมิ้น 2 พันล้าน) ทางเจ้าของมินตอบว่า ไม่รุ้ว่าใคร crazy แต่ 2 พันล้านนี่คือทั้งชีวิตของผม ผมจึงต้องการคนที่ดีที่สุด มืออาชีพที่สุดมาช่วยดูแล
สิ่งที่ได้มาจนทุกวันนี้สำหรับคนทำงานคือเราต้อง ทำงานหนัก คือ เวิคฮาท มาก่อนเวิคสมาท แรกๆเราต้องทำงานให้หนัก แต่เราก็เข้าใจว่า ถงเราจะว่าเราทำงานหนักขนาดไหน ก็หนักน้อยกว่าคนที่เป็นเจ้าของที่เข้าต้องทำงาน 24 hr 7 วัน เราว่าหนัก พนักงานอาชีพ ก็คือทำงานถึง 4 ทุ่ม แล้วว่ากันใหม่ตอน 6 โมงเช้า ช่วง 4 ทุมถึง 6 โมงเช้ามันเป้นเวลาของเราจริงๆ ซึ่งคนเป็นเจ้าของกิจการไม่มีเลย
สมัยเรียนมหาลัยก็มีสิ่งหนึ่งที่คิดว่าติดมาจนประสบความสำเร้จคือ ถ้าจะทำอะไรแล้วต้องทำจริง ตอนเรียน ก็ทำบริษัทจำลอง ขายเครือ่งครัว จนได้โล่ติด top sale เพราะ เรามองว่าขายหม้อราต้องขายในที่ที่มีดีมานก็คือ ตลาดอโศกเพราะคนมีเงินสุดขายได้จนเต็มแล้วก็เปิดแชร์ กู้เงินแม่มากขายแบบผ่อนก็ประสบความสำเร็จอย่างดี และรางวัลนี้ ก็ช่วยให้ได้งาน เอาโล่ไปสมัครงานเป้นบัญชเขาไม่รับ แต่ไมนานก็โทรมาติดต่อให้ไปเป้นตำแหน่งขาย
ประสบการคือเป้น CFO CPN มา 7 ปี และปัจจุบันทำอยู่ MINT มา 13 ปี ระบบของ CPN จะเป้นแบบครอบครัว MINT นี่จะเป้นแบบมืออาชีพจริงๆ ช่วงนี่เปลี่ยนจาก cpn ที่มีทรัพย์สิน 1 หมื่นล้านมาทำ mint ที่ตอนนั้นมีแต่ 2 พันล้านหลายๆคนก็มองว่าแยลงแต่ได้ฟังคำสัมพาดแล้วรู้สึกประทับในคือถามไปว่า ไม่ทราบว่า cpn crazy หรือ mint crazy กันแน่ ว่า cpn จ้างคนเงินเดือนน้อยไปหรือมิ้นจะจ้างเงินเดือนสูงไป (มุมมองว่า cpn ดู ทรัพยสิน 1 หมื่นล้าน เทียบกับมิ้น 2 พันล้าน) ทางเจ้าของมินตอบว่า ไม่รุ้ว่าใคร crazy แต่ 2 พันล้านนี่คือทั้งชีวิตของผม ผมจึงต้องการคนที่ดีที่สุด มืออาชีพที่สุดมาช่วยดูแล
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 8
ดร.นิเวศน์ : มองย้อนไปชีวิตของผมนี่มันก้ดีมาตลอด เริ่มตั้งแต่สมัยแรกพ่อแม่เสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน เกิดมาก้อยู่หลังจามุมจาก ไม่มีน้ำ ไฟ พื้นดิน แต่มาโตขึ้นหมาหน่อยหลังคาบ้านก็เปเนสังกะสี เริ่มมีไฟฟ้าใช้ ต่อมาก็มีน้ำปะปาใช้ แล้วก็ดดนไล่ที่ มาอย้านตึกแทน พ่อเริ่มจากลุกจ้างรายวัน ก้เริ่มเป้นรายอาทิต และมีเงินเดือน บ้านก็มีน้ำไฟใช้ การเรียน เด็กๆก็ไม่มีตังเรียนวัดดอนผีดุ ก็เจอคนจนจนเราก็รู้สึกว่ามันก็มีคนจนกว่าเรา จากวัดดอนก็ไปวัดสุธิอับเกรดขึ้นมา แล้วก็สอบเข้าเตรียม เข้าวิดวะจุฬาจบ 2 กว่าๆ ก็เห็นว่าชีวติมันดีขึ้นตลอด จบแล้วทำงาน ตจว เริ่มรู้สึกว่าอยุ่กับที่ ก็เรียนต่อโท ต่อ ดร. ที่เมกาอีก มองว่าตัวเองเป้นคนที่ทำงานหนัก และมีความรับผดชอบดีมาก ตั้งใจทำงาน ชีวิตไม่เคยรู้สึกว่าตกต่ำ (สะท้อนว่าอาจารย์เป็นคนคิดบวกเสมอ) จนทำงานถึงอายุ 40 ซึ่งรู้สึกว่าทำงานมากจริงๆเครียดจริงแต่ไม่รวย ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้มีรายได้มากจนร่ำรวยได้แค่พอกินมีเหลือนิดหน่อย เพราะกำลังหาเงินในที่ที่ไม่มีเงิน ก็เปลี่ยนเส้นทาง วาง โพซิชั่นให้ชีวิตใหม่ แล้วก็ดำเนินชีวิตไปตามทางใหม่ คนเราถ้ามี straegy ที่ถูกต้อง ตัดสินใจไม่กี่ครั้งก็รวยแล้ว ถ้าเรายังต้องตัดสนใจอะไรหลายๆทีเปลี่ยนหลายๆทีแสดงว่าไอ้ที่วางไว้ไม่ถุกต้องต้องปรับ straegy ใหม่ หลักการตัดสินใจในชีวิตก็มีไม่กี่ครั้งคือ 1 เลือกเรียนอะไร 2 เลือกทำงานอะไร 3 เลือกคู่ครอง สำหรับผมตอนนี้ก็แค่ยืดอายุออกไป ไม่ตายก็ได้ผลตอบแทนปีละ 10% จากการลงทุนก็คุ้มแล้วไม่ต้องไปดิ้นรนมากไม่ต้องขยันไปเยี่ยมโรงงานตามข่าวมาก รักษาสุขภาพดีกว่า แต่ถ้าพวกหนุ่มๆวัยรุ่นเริ่มต้นใหม่ๆ มันก็คนละแบบกันพวกนั้นก็ยังต้องขยันติดตามข่าวการเอาใจใส่เรื่องลงทุนอีกเยอะ แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จบใหม่ทำงานก็เอาเงินมาเติมพอตลงทุนก็จะช่วยได้มาก
แล้วพบก็คิดว่าหุ้นก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะโอกาสเริ่มต้นมันทำได้ง่ายมีเงินน้อยๆก็เริ่มได้ ต่างจากธุรกิจที่ต้องมีเงินมากในระดับหนึ่ง เส้นทางรวยของผมจึงเน้นไปที่ ใช้ความคิดวาง position ให้ถุกต้องซึ่งก้คือการลงทุนแล้วก็ดำเนินไปตามที่วางไว้ปล่อยให้เติบโตไปรื่อยๆ
แล้วพบก็คิดว่าหุ้นก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะโอกาสเริ่มต้นมันทำได้ง่ายมีเงินน้อยๆก็เริ่มได้ ต่างจากธุรกิจที่ต้องมีเงินมากในระดับหนึ่ง เส้นทางรวยของผมจึงเน้นไปที่ ใช้ความคิดวาง position ให้ถุกต้องซึ่งก้คือการลงทุนแล้วก็ดำเนินไปตามที่วางไว้ปล่อยให้เติบโตไปรื่อยๆ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 9
ถาม รายได้เท่าไหรถึงคิดว่ารวย
คุณวสันต์ : เราเองไม่รู้สึกหรอก แต่คนอื่นจะมาบอกว่าเรารวย ถ้าเราบอกว่าเราไม่รวยคนเข้าก็ไม่เชื่อ ก็คงรวย แต่ผมมองว่า รวยคือการไม่ต้องพึ่งพาใคร นึกอยากใช้ทำอะไรก็ทำได้ไม่จำกัด ถ้าคิดว่าให้เพื่อนยืมเงินแล้วมันไม่คืนเราสบายใจไม่เดือดร้อนเราก็คงเป้นคนรวย
คุณปารถนา : เหมือนเวลาอยากชอปปิ้งเยอะๆก็ก็กลัวว่าจะไม่พอใช้ก็คงยังไม่รวย แต่ส่วนตัวเชือว่า การที่เรามีเงินพอสมควรไม่เป็นภาระใคร มีคนมาพึ่งพาเราเราช่วยเหลือเข้าได้โดยเราไม่เดือดร้อนก็คงเรียกว่ารวยได้
ดร นิเวศ : มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมือ่ก่อนมี 50 ล้านก็คิดว่ารวยไปบอกแฟน แฟนก็ไม่รุ้สึกเพราะมันเป้นหุ้นมีวันนี้พรุ่งนี้อาจหมดไป แต่ถ้าเอาเงินมากอง 50 ล้านนี่ก็คงคิดว่ารวย พอมี 50 ล้านนานๆมันก็รู้สึกชินไม่คิดว่ารวยอะไร เพราะยังรู้สึกฟุ่มเฟื่อยไมได้ อยากบินบิสเนสคลาสไปเที่ยวไม่กล้า เพราะมองว่าคนจะทำได้ต้องมีเงินเหลือจริง รวยหรือไม่รวยมันขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละคน
ถาม ถ้าย้อนเวลาไปได้ยากแก้อะไรมากที่สุด
คุณวสันต์ : มันย้อนไมได้อยู่แล้ว ผมว่ามันเปนจังหวะของชีวิต จากเด้กบ้านนอกมาเปเนเจ้าของโชว์รุมยอดขาย 4-5 พันล้าน ที่สำคัญที่สุด คือมันต้องกล้าตัดสินใจ อย่างช่วงวิกฤต ผม็คิดว่าไอ้ธุรกิจนี้มันแข่งกันเยอะเกินไปตัดราคา ถ้าเราคุมได้ทั้งหมดมันจะทำให้อยู่รอด ก็เลยจัดการเหมารถเบซ 200 คัน มาไว้เปเนผู้จัดจำหน่ายรายเดียว ซึ่งทำได้สำเร้จทำให้อยุ่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เปเนเรือ่งของธุรกิจที่ต้องตัดสินใจให้เฉียบขาดเพื่อความอยู่รอด
คุณปรารถนา : ถ้าแก้ไขได้ ก็อยากขายมิ้นก่อนวิกฤติที่ 18 บาท เพราะตอนนั้นความจริงอายุถึงคราวที่ต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง เหลือ 50 :50 แต่ ด้วยความโลภเพราเป้นมิ้นขึ้นมาตลอด ถ้าขายกลัวราคาจะขึ้นเลยตัดสินใจทิ้งวินัยทางการเงินไม่ขายตามที่วางแผนไว้แล้วมิ้นก็ลงมาเหลือ 5 บาท มันก็บีบหัวใจที่เราผิดวินัยไป
ดร.นิเวศ : มีอย่างหนึ่งที่ขาดหายไปคือ ศิลปะพวกดนตรี เพราะตอนเด้กๆจนไม่มีตังมาก ปัจจุบัน ภริยาลุก เล่นตนตรีได้ แต่เราไม่สามารถเล่นได้เลย มันเลยรู้สึกถ้าเราเล่นได้นิดๆหน่อยๆ ซีซอได้ชีวิตคนรื่นรมขึ้น
คุณวสันต์ : เราเองไม่รู้สึกหรอก แต่คนอื่นจะมาบอกว่าเรารวย ถ้าเราบอกว่าเราไม่รวยคนเข้าก็ไม่เชื่อ ก็คงรวย แต่ผมมองว่า รวยคือการไม่ต้องพึ่งพาใคร นึกอยากใช้ทำอะไรก็ทำได้ไม่จำกัด ถ้าคิดว่าให้เพื่อนยืมเงินแล้วมันไม่คืนเราสบายใจไม่เดือดร้อนเราก็คงเป้นคนรวย
คุณปารถนา : เหมือนเวลาอยากชอปปิ้งเยอะๆก็ก็กลัวว่าจะไม่พอใช้ก็คงยังไม่รวย แต่ส่วนตัวเชือว่า การที่เรามีเงินพอสมควรไม่เป็นภาระใคร มีคนมาพึ่งพาเราเราช่วยเหลือเข้าได้โดยเราไม่เดือดร้อนก็คงเรียกว่ารวยได้
ดร นิเวศ : มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมือ่ก่อนมี 50 ล้านก็คิดว่ารวยไปบอกแฟน แฟนก็ไม่รุ้สึกเพราะมันเป้นหุ้นมีวันนี้พรุ่งนี้อาจหมดไป แต่ถ้าเอาเงินมากอง 50 ล้านนี่ก็คงคิดว่ารวย พอมี 50 ล้านนานๆมันก็รู้สึกชินไม่คิดว่ารวยอะไร เพราะยังรู้สึกฟุ่มเฟื่อยไมได้ อยากบินบิสเนสคลาสไปเที่ยวไม่กล้า เพราะมองว่าคนจะทำได้ต้องมีเงินเหลือจริง รวยหรือไม่รวยมันขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละคน
ถาม ถ้าย้อนเวลาไปได้ยากแก้อะไรมากที่สุด
คุณวสันต์ : มันย้อนไมได้อยู่แล้ว ผมว่ามันเปนจังหวะของชีวิต จากเด้กบ้านนอกมาเปเนเจ้าของโชว์รุมยอดขาย 4-5 พันล้าน ที่สำคัญที่สุด คือมันต้องกล้าตัดสินใจ อย่างช่วงวิกฤต ผม็คิดว่าไอ้ธุรกิจนี้มันแข่งกันเยอะเกินไปตัดราคา ถ้าเราคุมได้ทั้งหมดมันจะทำให้อยู่รอด ก็เลยจัดการเหมารถเบซ 200 คัน มาไว้เปเนผู้จัดจำหน่ายรายเดียว ซึ่งทำได้สำเร้จทำให้อยุ่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เปเนเรือ่งของธุรกิจที่ต้องตัดสินใจให้เฉียบขาดเพื่อความอยู่รอด
คุณปรารถนา : ถ้าแก้ไขได้ ก็อยากขายมิ้นก่อนวิกฤติที่ 18 บาท เพราะตอนนั้นความจริงอายุถึงคราวที่ต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง เหลือ 50 :50 แต่ ด้วยความโลภเพราเป้นมิ้นขึ้นมาตลอด ถ้าขายกลัวราคาจะขึ้นเลยตัดสินใจทิ้งวินัยทางการเงินไม่ขายตามที่วางแผนไว้แล้วมิ้นก็ลงมาเหลือ 5 บาท มันก็บีบหัวใจที่เราผิดวินัยไป
ดร.นิเวศ : มีอย่างหนึ่งที่ขาดหายไปคือ ศิลปะพวกดนตรี เพราะตอนเด้กๆจนไม่มีตังมาก ปัจจุบัน ภริยาลุก เล่นตนตรีได้ แต่เราไม่สามารถเล่นได้เลย มันเลยรู้สึกถ้าเราเล่นได้นิดๆหน่อยๆ ซีซอได้ชีวิตคนรื่นรมขึ้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 10
ถาม สอนคนรุ่นหลังยังไงดีให้รวย
คุณวสันต์ : เกมสืการค้าทำให้เร้าองตัดสินใจเรื่องต่างๆอย่างดีเพื่อให้เรารอด และเราต้องมีความรับผิดชอบสูง อย่าทำตัวเป้นเป็ดท่ร้องแต่ครับ ครับ ครับ แต่ให้ทำตัวเป้นท่านที่มันด่าเป้น ห่า ห่า ห่า คือทำอะไรต้องมีอิสระทางความคิด
คุณปรารถนา : คุณวิโรจน์ นายเก่าที่เสียไปแล้วเคยพูให้ฟังว่า ชีวิตคนเรามี 4 ช่วง
เกิด-20 ปี เป้นช่วงเรียนรู้เพื่อให้มีชีวิตอยุ่รอดได้ในสังคม ฝึก กิน พุด อ่าน เขียน เข้าสังคม
20-30 ปี ศึกษาเราเรียนทั้งตรี โท ให้สำเร้จ
30-40 เอาความรู้มาใช้ทำงานไต่เต้าให้ได้ตำแหน่งดีดีในสังคม
40 ปี คุณต้องคว้าดางดวงที่สูงที่สุดที่จะมีปัญญาคว้าได้มาให้ได้ เพราะหนังจากนั้น 45-50 คุณจะไม่มีวันไปได้สูงกว่านั้นอีกเลย
ฉะนั้นช่วงวัยรุ่นคุณต้องลองผิดลองถุกอะไรไปให้หมด เพราะ 40 มันจะแก้ยากแล้ว คนรุ่นใหม่เดี่ยวนี้มีคามอดทนน้อยลงมาก ขนาดญี่ปุ่น ก็น่าห่วงเรื่อง freeter ที่ไม่อยากทำงานประจำยาวนานพวกนี้จะทำงานเก้บเงิน พอได้แล้วก็ไปเที่ยวรอบโลก เงินหมดก็กลับมาทำงานใหม่ หาเงินไปเที่ยวอีก เลยน่าเป้นหว่งอนาคของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ต้องทำเพื่อสังคมบ้าง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกรรมการท่านหนึ่งของบริษัทที่บริจารเงินให้มูลนิธิของในหลวง เพราะเขาบอกว่าเขามีเยอะแล้วเลยแบ่งให้คนอื่นบ้าง ทำให้เรารุ้สึกว่าต้องตอบแทนสังคม แบ่งเงินทีได้ไปทำบุญ
ดร.นิเวศน์ : สอนแนวความคิด หาเส้นทางชีวิตของตัวเองหาให้ได้ยิ่งเร็วยิ่งดี เป้าหมายนี้มันต้อง ง่าย ชัดเจน แล้วก็เดินทางไปตามแผนนั้นอย่างตั้งใจ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงเองที่สำคัญแผนที่วางต้องถูกต้อง ถ้าแผนไม่ถูก หรือไม่เหมาะกับตัวเองก็จะล้มเหลวได้ แต่ถ้าเราพยายามมันก็ต้องเจอเข้าซักวัน อย่างในตลาดหุ้น คนไม่จำเป้ฯต้องเก่งมาก แต่ขอให้มั่นใจว่าเราเลือกหุ้นถุกตัว เป็นทางลงทุนที่ถูกต้อง มีหลักการแน่นอนยอมรับ แล้วก็วื้อมันไป รอเก็บดอกผล เดินถูกทางเดียวมันก็มาเอง
ผิดพลาดอย่างใดขออภัยไว้ด้วยนะคัรบ
คุณวสันต์ : เกมสืการค้าทำให้เร้าองตัดสินใจเรื่องต่างๆอย่างดีเพื่อให้เรารอด และเราต้องมีความรับผิดชอบสูง อย่าทำตัวเป้นเป็ดท่ร้องแต่ครับ ครับ ครับ แต่ให้ทำตัวเป้นท่านที่มันด่าเป้น ห่า ห่า ห่า คือทำอะไรต้องมีอิสระทางความคิด
คุณปรารถนา : คุณวิโรจน์ นายเก่าที่เสียไปแล้วเคยพูให้ฟังว่า ชีวิตคนเรามี 4 ช่วง
เกิด-20 ปี เป้นช่วงเรียนรู้เพื่อให้มีชีวิตอยุ่รอดได้ในสังคม ฝึก กิน พุด อ่าน เขียน เข้าสังคม
20-30 ปี ศึกษาเราเรียนทั้งตรี โท ให้สำเร้จ
30-40 เอาความรู้มาใช้ทำงานไต่เต้าให้ได้ตำแหน่งดีดีในสังคม
40 ปี คุณต้องคว้าดางดวงที่สูงที่สุดที่จะมีปัญญาคว้าได้มาให้ได้ เพราะหนังจากนั้น 45-50 คุณจะไม่มีวันไปได้สูงกว่านั้นอีกเลย
ฉะนั้นช่วงวัยรุ่นคุณต้องลองผิดลองถุกอะไรไปให้หมด เพราะ 40 มันจะแก้ยากแล้ว คนรุ่นใหม่เดี่ยวนี้มีคามอดทนน้อยลงมาก ขนาดญี่ปุ่น ก็น่าห่วงเรื่อง freeter ที่ไม่อยากทำงานประจำยาวนานพวกนี้จะทำงานเก้บเงิน พอได้แล้วก็ไปเที่ยวรอบโลก เงินหมดก็กลับมาทำงานใหม่ หาเงินไปเที่ยวอีก เลยน่าเป้นหว่งอนาคของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ต้องทำเพื่อสังคมบ้าง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกรรมการท่านหนึ่งของบริษัทที่บริจารเงินให้มูลนิธิของในหลวง เพราะเขาบอกว่าเขามีเยอะแล้วเลยแบ่งให้คนอื่นบ้าง ทำให้เรารุ้สึกว่าต้องตอบแทนสังคม แบ่งเงินทีได้ไปทำบุญ
ดร.นิเวศน์ : สอนแนวความคิด หาเส้นทางชีวิตของตัวเองหาให้ได้ยิ่งเร็วยิ่งดี เป้าหมายนี้มันต้อง ง่าย ชัดเจน แล้วก็เดินทางไปตามแผนนั้นอย่างตั้งใจ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงเองที่สำคัญแผนที่วางต้องถูกต้อง ถ้าแผนไม่ถูก หรือไม่เหมาะกับตัวเองก็จะล้มเหลวได้ แต่ถ้าเราพยายามมันก็ต้องเจอเข้าซักวัน อย่างในตลาดหุ้น คนไม่จำเป้ฯต้องเก่งมาก แต่ขอให้มั่นใจว่าเราเลือกหุ้นถุกตัว เป็นทางลงทุนที่ถูกต้อง มีหลักการแน่นอนยอมรับ แล้วก็วื้อมันไป รอเก็บดอกผล เดินถูกทางเดียวมันก็มาเอง
ผิดพลาดอย่างใดขออภัยไว้ด้วยนะคัรบ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณมากครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- Chicken and Egg
- Verified User
- โพสต์: 230
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 17
น้องแชมป์ ขอบใจมาก อ่านจบแล้วได้ความรู้มากมาย
(ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะพิมพ์คล่องกว่านี้ใช่ไม้)
Many many thanks krub
(ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะพิมพ์คล่องกว่านี้ใช่ไม้)
Many many thanks krub
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 18
ไม่ต้องพิมกันเลยทีเดียว 555Chicken and Egg เขียน:น้องแชมป์ ขอบใจมาก อ่านจบแล้วได้ความรู้มากมาย
(ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะพิมพ์คล่องกว่านี้ใช่ไม้)
Many many thanks krub
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- Packky
- Verified User
- โพสต์: 856
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 19
ขอบคุณครับ
:8) :8)
:8) :8)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 676
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 22
great !!
ขอบคุณมากๆ ครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
โพสต์ที่ 30
ขอบคุณแชมป์มากครับ เป็นเนื้อหาที่ดีมากครับ