UMS
- ม้าเฉียว
- Verified User
- โพสต์: 350
- ผู้ติดตาม: 0
UMS
โพสต์ที่ 1
ตอนนี้ผมสนใจธุรกิจที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนได้
ในด้านพลังงาน ผมคิดว่าธุรกิจของ UMS สามารถช่วยลดต้นทุนของกิจการได้โดย การเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตาซึ่งเป็นที่นิยมกัน มาใช้ถ่านหินคุณภาพสูง ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากทดแทน
หลังจากที่อ่าน 56-1 แล้ว ก็พอจะเห็นทิศทางของบริษัทที่ชัดเจน คือ การมุ่งเจาะลูกค้า SME และการพยายามลดต้นทุนของบริษัท
แต่ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่แน่ใจ คือ
1. คู่แข่งในตลาดที่ทำธุรกิจนำเข้าถ่านหินมาขายในประเทศ นอกจากบ้านปู ซึ่งจับลูกค้ารายใหญ่ๆ แล้วยังมีรายอื่นอีกหรือไม่ ที่อยู่ในตลาดเดียวกัน และในอนาคตเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รายใหญ่ จะเข้ามาแข่งขันในตลาด SME เหมือนกัน
2. มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ Supplier ของเค้าจะยกเลิกสัญญา
3.ผู้บริหารไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคิดว่าคนที่เคยลงทุนในยูนิคแก็ส น่าจะพอรู้
ถ้าเป็นไปได้ อยากจะขอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบริษัท หรือธุรกิจถ่านหิน จากคนที่ศึกษาบริษัท และธุรกิจนี้มานานแล้ว ก็ขอขอบคุณล่วงหน้า
---------------------------------------
ข่าน้อยช่วงอ่อนหัดนัก
ในด้านพลังงาน ผมคิดว่าธุรกิจของ UMS สามารถช่วยลดต้นทุนของกิจการได้โดย การเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตาซึ่งเป็นที่นิยมกัน มาใช้ถ่านหินคุณภาพสูง ซึ่งมีราคาถูกกว่ามากทดแทน
หลังจากที่อ่าน 56-1 แล้ว ก็พอจะเห็นทิศทางของบริษัทที่ชัดเจน คือ การมุ่งเจาะลูกค้า SME และการพยายามลดต้นทุนของบริษัท
แต่ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่แน่ใจ คือ
1. คู่แข่งในตลาดที่ทำธุรกิจนำเข้าถ่านหินมาขายในประเทศ นอกจากบ้านปู ซึ่งจับลูกค้ารายใหญ่ๆ แล้วยังมีรายอื่นอีกหรือไม่ ที่อยู่ในตลาดเดียวกัน และในอนาคตเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รายใหญ่ จะเข้ามาแข่งขันในตลาด SME เหมือนกัน
2. มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ Supplier ของเค้าจะยกเลิกสัญญา
3.ผู้บริหารไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคิดว่าคนที่เคยลงทุนในยูนิคแก็ส น่าจะพอรู้
ถ้าเป็นไปได้ อยากจะขอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบริษัท หรือธุรกิจถ่านหิน จากคนที่ศึกษาบริษัท และธุรกิจนี้มานานแล้ว ก็ขอขอบคุณล่วงหน้า
---------------------------------------
ข่าน้อยช่วงอ่อนหัดนัก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
UMS
โพสต์ที่ 2
T__T
คุณม้าเฉียวไม่น่าทำกันเลย
ผมเก็บตัวนี้มาตั้งนาน ยังไมครบเลย
พยายามทุบให้ลงไปแถว 12.4 ก็ไม่สำเร็จ (อันนี้พูดเล่นนะครับคุณกลต.)
เอาเท่าที่ทราบนะครับ
1. คู่แข่ง
ในตลาดก็มี BANPU กับ LANNA ครับ แต่สองเจ้านี้เล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ ทำ
ข้อได้เปรียบของบ้านปูคือมีเหมืองถ่านหินของตัวเอง มี reserve เยอะมาก
มี economy of scale ส่วน LANNA ก็อยู่ในวงการมานาน ขายรายใหญ่เหมือนกัน
ข้อได้เปรียบของ UMS คือจับลูกค้ารายย่อย ซึ่ง volume ต่ำ BANPU กับ
LANNA ไม่อยากแข่งเพราะ overhead สูง กำไรเยอะก็จริงแต่ไม่คุ้มเพราะ
ต้อง deal กับรายย่อยเยอะ
แต่ถ้าการแข่งขันในตลาดถ่านหินรายใหญ่เข้มข้นมาก ก็อาจจะจำเป็นต้อง
ลงมาแข่ง ถึงตอนนั้น UMS น่าจะลำบากครับ
2. supplier
เท่าที่ทราบ เป็นไปได้ครับ แต่ UMS ทำสัญญาระยะยาว น่าจะปลอดภัยไปได้
สองสามปี ผมคิดว่าข้อ 2 เป็นความเสี่ยงสูงสุดของ UMS
3. ผู้บริหาร
เบื้องต้นผมคิดว่าสอบผ่านครับ แต่แค่ระดับแรก ต้องขอดูใจกันอีก 3-4 ปี
ส่วนเรื่องถ่านหิน ยังไม่ค่อยสันทัดครับ รู้แต่ว่า
1. ถ่านหินเกรดดี และหม้อต้องเป็นระดับ high end จึงจะสามารถเค้นพลังงานออก
มาได้เต็มที่ ต้นทุนถึงจะถูกกว่าน้ำมันเตา -- ซึ่งผู้บริหาร UMS บอกว่าของเขาถูกกว่า
40-60% แสดงว่าหม้อที่เอาเข้ามาคงจะคุณภาพดี
2. ถ่านหินปลอดภัยต่อมลภาวะกว่า
3. ถ่านหินราคาจะ stable กว่าน้ำมัน
โดยรวม ผมคิดว่า UMS มีภูมิคุ้มกันต่อเศรษฐกิจที่ผันผวนดีทีเดียวครับ แต่ถ้าราคาถูก
กว่านี้สัก 20-30% น่าจะดี เพราะบริษัทเล็ก ความเสี่ยงสูง พอพ้นระยะ silent period
ผู้บริหารอาจจะขนหุ้นมาขายก็ได้
คุณม้าเฉียวไม่น่าทำกันเลย
ผมเก็บตัวนี้มาตั้งนาน ยังไมครบเลย
พยายามทุบให้ลงไปแถว 12.4 ก็ไม่สำเร็จ (อันนี้พูดเล่นนะครับคุณกลต.)
เอาเท่าที่ทราบนะครับ
1. คู่แข่ง
ในตลาดก็มี BANPU กับ LANNA ครับ แต่สองเจ้านี้เล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ ทำ
ข้อได้เปรียบของบ้านปูคือมีเหมืองถ่านหินของตัวเอง มี reserve เยอะมาก
มี economy of scale ส่วน LANNA ก็อยู่ในวงการมานาน ขายรายใหญ่เหมือนกัน
ข้อได้เปรียบของ UMS คือจับลูกค้ารายย่อย ซึ่ง volume ต่ำ BANPU กับ
LANNA ไม่อยากแข่งเพราะ overhead สูง กำไรเยอะก็จริงแต่ไม่คุ้มเพราะ
ต้อง deal กับรายย่อยเยอะ
แต่ถ้าการแข่งขันในตลาดถ่านหินรายใหญ่เข้มข้นมาก ก็อาจจะจำเป็นต้อง
ลงมาแข่ง ถึงตอนนั้น UMS น่าจะลำบากครับ
2. supplier
เท่าที่ทราบ เป็นไปได้ครับ แต่ UMS ทำสัญญาระยะยาว น่าจะปลอดภัยไปได้
สองสามปี ผมคิดว่าข้อ 2 เป็นความเสี่ยงสูงสุดของ UMS
3. ผู้บริหาร
เบื้องต้นผมคิดว่าสอบผ่านครับ แต่แค่ระดับแรก ต้องขอดูใจกันอีก 3-4 ปี
ส่วนเรื่องถ่านหิน ยังไม่ค่อยสันทัดครับ รู้แต่ว่า
1. ถ่านหินเกรดดี และหม้อต้องเป็นระดับ high end จึงจะสามารถเค้นพลังงานออก
มาได้เต็มที่ ต้นทุนถึงจะถูกกว่าน้ำมันเตา -- ซึ่งผู้บริหาร UMS บอกว่าของเขาถูกกว่า
40-60% แสดงว่าหม้อที่เอาเข้ามาคงจะคุณภาพดี
2. ถ่านหินปลอดภัยต่อมลภาวะกว่า
3. ถ่านหินราคาจะ stable กว่าน้ำมัน
โดยรวม ผมคิดว่า UMS มีภูมิคุ้มกันต่อเศรษฐกิจที่ผันผวนดีทีเดียวครับ แต่ถ้าราคาถูก
กว่านี้สัก 20-30% น่าจะดี เพราะบริษัทเล็ก ความเสี่ยงสูง พอพ้นระยะ silent period
ผู้บริหารอาจจะขนหุ้นมาขายก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 870
- ผู้ติดตาม: 0
UMS
โพสต์ที่ 3
คุณ ck ซื้อ tmw คืน ยัง อ่าคับ แล้ว พอจะคาดเดา ผลการดำเนิน งาน Q3 ว่ายังไง ความคิดผมคิดว่า ไม่น่าจะต่ำกว่า 35 ล้าน ในกรณี เม็ดพลาสติกสูงขึ้น เล็กน้อย หรือ อาจดีกว่า ก็เดาๆ
พอจะมีข้อมูลอะไรเพิ่ม เติมในเชิงลึก บ้างใหม่ครับ
ผมอยากรู้ เกียวกับ สินค้า ยานยน ที่ผลิตให้ honda isuzu ว่า ที่ทำ กระจกมองข้าง ที่ปัดน้ำฝน หรือ ที่จับประตู นี่ มีทำอย่างอื่น อีกป่าว แล้ว ฮอนด้า อีซูซุ จ้าง tmw บริษัทเดียวรึเปล่า รึจ้าง บริษัทอื่น ด้วย พอจะทราบรึเปล่า
ผมเมลไป ถาม ฝ่ายนักลงทุนสัมพัน เค้าบอกไม่ได้ ต้องเปิดเผย แบบเท่าเทียมกัน หมด หุๆ
พอจะมีข้อมูลอะไรเพิ่ม เติมในเชิงลึก บ้างใหม่ครับ
ผมอยากรู้ เกียวกับ สินค้า ยานยน ที่ผลิตให้ honda isuzu ว่า ที่ทำ กระจกมองข้าง ที่ปัดน้ำฝน หรือ ที่จับประตู นี่ มีทำอย่างอื่น อีกป่าว แล้ว ฮอนด้า อีซูซุ จ้าง tmw บริษัทเดียวรึเปล่า รึจ้าง บริษัทอื่น ด้วย พอจะทราบรึเปล่า
ผมเมลไป ถาม ฝ่ายนักลงทุนสัมพัน เค้าบอกไม่ได้ ต้องเปิดเผย แบบเท่าเทียมกัน หมด หุๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
UMS
โพสต์ที่ 8
ugp ปันผล 60% เริ่มจาก 2535 ครับ
ums นโยบายยังอยู่ที่ 40% ยกเว้นต้องใช้เงิน
ปีนี้เห็นว่าจะซื้อที่ดินทำโกดังประมาณ 80 ล้าน
กำไรทั้งปี 2004 น่าจะได้ 140 ล้าน (นี่ผมเดาเอง)
ถ้าปันผล 40% ก็ 56 ล้าน จะเหลือเงิน 84 ล้าน
สรุปคือ น่าจะได้ปันผล 40% ตามคาดครับ
คือราวๆ 80 สตางค์
ที่ 13.20 บาท ก็ราวๆ 6% ไม่ถึงกับเลิศ
ums นโยบายยังอยู่ที่ 40% ยกเว้นต้องใช้เงิน
ปีนี้เห็นว่าจะซื้อที่ดินทำโกดังประมาณ 80 ล้าน
กำไรทั้งปี 2004 น่าจะได้ 140 ล้าน (นี่ผมเดาเอง)
ถ้าปันผล 40% ก็ 56 ล้าน จะเหลือเงิน 84 ล้าน
สรุปคือ น่าจะได้ปันผล 40% ตามคาดครับ
คือราวๆ 80 สตางค์
ที่ 13.20 บาท ก็ราวๆ 6% ไม่ถึงกับเลิศ