น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 1
วันนี้ดูรายการโมเดิอร์นบิส ช่องเก้า
มีรายการสัมภาษณ์พระสงฆ์องค์นึง (พระพรพรม วัดที่ชื่อลงท้ายด้วยภิเษก)
ท่านบอกว่า การลงทุนที่เกิดจากความโลภ หมายถึงการเก็งกำไรแบบทั่วๆไป มักขาดทุน ทำให้เกิดทุกข์
ส่วนการลงทุนแบบพุทธศาสนา เป็นการใช้หลักเหตุและผล คือศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอย่างดี หรือที่เรียกว่า Value Investor...
ท่านพูดทำนองนี้ครับ แต่เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่ท่านพูดอย่างรู้จริงทีเดียว
ที่จริงท่านพูดอีกมาก และมีประโยชน์มากครับ
น่าดีใจครับที่แนวทางการลงทุนอย่างนี้ เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศนี้ครับ..
มีรายการสัมภาษณ์พระสงฆ์องค์นึง (พระพรพรม วัดที่ชื่อลงท้ายด้วยภิเษก)
ท่านบอกว่า การลงทุนที่เกิดจากความโลภ หมายถึงการเก็งกำไรแบบทั่วๆไป มักขาดทุน ทำให้เกิดทุกข์
ส่วนการลงทุนแบบพุทธศาสนา เป็นการใช้หลักเหตุและผล คือศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอย่างดี หรือที่เรียกว่า Value Investor...
ท่านพูดทำนองนี้ครับ แต่เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่ท่านพูดอย่างรู้จริงทีเดียว
ที่จริงท่านพูดอีกมาก และมีประโยชน์มากครับ
น่าดีใจครับที่แนวทางการลงทุนอย่างนี้ เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศนี้ครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 3
การลงทุนแนวนี้ ดีแน่ ปีที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าเลือกลงทุนแนวนี้
โอกาสขาดทุนเยอะๆ มีน้อย
และผมกลับคิดว่าจะเป็นเรื่องดีมากๆครับ ถ้าเป็นคนอื่นๆพูดที่ไม่ใช่พระสงฆ์
เมื่อคิดบวชเป็นพระสงฆ์ควร สละทางโลก สืบทอดพระพุทธศาสนา
ใช้หลักและผลที่บอกไว้ ศึกษาพระธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า
เพื่อตนเองจะได้หลุดพ้น และมีใจเมตตา กรุณา
ได้นำความรู้นั้น อธิบายให้ประชาชน ผู้ยังหลงอยู่ในโลกา
ให้พอเข้าใจได้ และปฏิบัติตามได้บ้าง
ต้องโทษคนไปสัมภาษณ์ด้วย คนอื่นๆไม่มีแล้วหรือไง สัมภาษณ์พระสงฆ์เล่นหุ้น
หรือผมคิดมากไป เนื่องจากผมคิดเองเออเอง
ท่านอาจเพียงเทศน์สอน โดยประยุกต์คำสั่งสอน
ให้สอดคล้องกับการลงทุนในตลาดหุ้น
ถ้าอย่างนั้นก็สาธุครับ
โอกาสขาดทุนเยอะๆ มีน้อย
และผมกลับคิดว่าจะเป็นเรื่องดีมากๆครับ ถ้าเป็นคนอื่นๆพูดที่ไม่ใช่พระสงฆ์
เมื่อคิดบวชเป็นพระสงฆ์ควร สละทางโลก สืบทอดพระพุทธศาสนา
ใช้หลักและผลที่บอกไว้ ศึกษาพระธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า
เพื่อตนเองจะได้หลุดพ้น และมีใจเมตตา กรุณา
ได้นำความรู้นั้น อธิบายให้ประชาชน ผู้ยังหลงอยู่ในโลกา
ให้พอเข้าใจได้ และปฏิบัติตามได้บ้าง
ต้องโทษคนไปสัมภาษณ์ด้วย คนอื่นๆไม่มีแล้วหรือไง สัมภาษณ์พระสงฆ์เล่นหุ้น
หรือผมคิดมากไป เนื่องจากผมคิดเองเออเอง
ท่านอาจเพียงเทศน์สอน โดยประยุกต์คำสั่งสอน
ให้สอดคล้องกับการลงทุนในตลาดหุ้น
ถ้าอย่างนั้นก็สาธุครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 5
พุทธศาสนามีหลายเหลี่ยมหลายมุม ในกรณีนี้ ผมว่าพระท่านปรับหลักการพุทธศาสนามาเทศนาเรื่องการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ถ้าท่านใดนำเทปมาเผยแพร่นักลงทุนได้ผมขออนุโมทนาสาธุ
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 7
ความจริงการลงทุนแนวvi
มีลักษณะหลายๆอย่างที่เข้าได้กับพุทธศาสนา
หรือพุทธศาสนาช่วยการลงทุนแนวviให้ดีขึ้น
คือ
1.หลักอิทัปปัจจยตา
ทุกสิ่งมีเหตุในการเกิด ซึ่งต่อเนื่องกันไป
ถ้าสามารถยึดกุมเหตุ ทำไปตามเหตุก็จะได้ผลตามนั้น
ถ้าเราวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆเวลาลงทุนอย่างครบถ้วนแล้ว
ก็น่าจะได้ผลตามนั้น
2.อยู่กับปัจจุบันหรือทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
วิเคราะห์ผลงานของเค้าในอดีตถึงปัจจุบัน
ไม่พยายามคาดเดาอนาคตให้มาก ไม่คาดหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
3.หลักอุเบกขา
ถ้าเราวิเคราะห์ทุกอย่างๆดีแล้วด้วยใจเป็น
กลางๆ รอบด้าน ไม่โลภมากแล้วก็คอยตามดูผล
ไป ไม่รุ่มร้อน ยอมรับผลการดำเนินงานที่ออกมา
ปรับแต่งแก้ไขไปเรื่อยๆ
4.หลักอิทธิบาท4
คอยดูแล หาความรู้ ทบทวน เกาะติด
กับการลงทุน
มีลักษณะหลายๆอย่างที่เข้าได้กับพุทธศาสนา
หรือพุทธศาสนาช่วยการลงทุนแนวviให้ดีขึ้น
คือ
1.หลักอิทัปปัจจยตา
ทุกสิ่งมีเหตุในการเกิด ซึ่งต่อเนื่องกันไป
ถ้าสามารถยึดกุมเหตุ ทำไปตามเหตุก็จะได้ผลตามนั้น
ถ้าเราวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆเวลาลงทุนอย่างครบถ้วนแล้ว
ก็น่าจะได้ผลตามนั้น
2.อยู่กับปัจจุบันหรือทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
วิเคราะห์ผลงานของเค้าในอดีตถึงปัจจุบัน
ไม่พยายามคาดเดาอนาคตให้มาก ไม่คาดหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
3.หลักอุเบกขา
ถ้าเราวิเคราะห์ทุกอย่างๆดีแล้วด้วยใจเป็น
กลางๆ รอบด้าน ไม่โลภมากแล้วก็คอยตามดูผล
ไป ไม่รุ่มร้อน ยอมรับผลการดำเนินงานที่ออกมา
ปรับแต่งแก้ไขไปเรื่อยๆ
4.หลักอิทธิบาท4
คอยดูแล หาความรู้ ทบทวน เกาะติด
กับการลงทุน
หนักแน่นในแนวทางviพันธ์แท้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 8
ให้มาสัมภาษณ์ฆราวาส ที่รู้ซึ้งในพระธรรม และรู้จักประยุกต์ ดังพี่ประจวบ มาอธิบาย
ก็กระจ่างได้ โดยอาจไม่ต้องไปสัมภาษณ์พระสงฆ์ที่ไหน ดูดีกว่าอีกครับ
ก็กระจ่างได้ โดยอาจไม่ต้องไปสัมภาษณ์พระสงฆ์ที่ไหน ดูดีกว่าอีกครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 9
เมื่อก่อนผมเคยคิดคล้ายๆ คุณ CopyWriter แหละครับ
แต่พอเห็นพระเดินตามพันธุ์ทิพย์บ่อยๆ ก็ปลงครับ เอาเป็นว่า เห็นพระท่านทำประโยชน์ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลกก็ตาม ผมก็อนุโมทนาด้วยครับ
(ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจอท่านทั้งหลาย แต่ที่พันธุ์ทิพย์นี่แหละ ห้างอื่นๆ ไม่ยักกะเจอ)
แต่พอเห็นพระเดินตามพันธุ์ทิพย์บ่อยๆ ก็ปลงครับ เอาเป็นว่า เห็นพระท่านทำประโยชน์ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลกก็ตาม ผมก็อนุโมทนาด้วยครับ
(ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจอท่านทั้งหลาย แต่ที่พันธุ์ทิพย์นี่แหละ ห้างอื่นๆ ไม่ยักกะเจอ)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 10
โค้ด: เลือกทั้งหมด
แต่พอเห็นพระเดินตามพันธุ์ทิพย์บ่อยๆ ก็ปลงครับ เอาเป็นว่า เห็นพระท่านทำประโยชน์ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลกก็ตาม ผมก็อนุโมทนาด้วยครับ
อืม พระจริงๆ 100 สงสัยมี 1 หรือไม่ก็ 1000 มี 1
ก็คงเหมือนคนดีละครับ 100 มี 1 หรือไม่ก็ 1000 มี 1
กฏของพระต้องรักษาศิล 227 ข้อ ผมว่า 1000 ก็มีแค่ 1 นะ ที่รู้หมดทุกข้อ และทำได้หมดทุกข้อ
ไม่ได้เจตนานินทานะครับ แค่วิเคราะห์ความน่าจะเป็นเล่นๆ
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 11
1. ทุกบุคคล ควรรู้ทุกเรื่องครับหากมีวุฒิภาวะพอ ไม่จำกัดแต่เป็นใคร พระก็เช่นกัน
รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ความรู้ในสารพันสาขานั้น ไม่เคยทำร้ายใครหรอกครับ
เพียงแต่ปรับใช้ให้ถูกเท่านั้นเอง ความรู้ในสิ่งเลว ก็ทำดีได้ (ตำรวจจับโจร ต้องรู้ว่า
โจรคิดอย่างไร ก็ต้องมีความรู้แบบโจร) ความรู้ในสิ่งดี ก็ทำเลวได้ (ความรู้ทาง
กฏหมายธุรกิจ - ล้มบนฟูก) ขึ้นกับคน
2. ในทุกหมู่ชน ย่อมมีทั้งคนส่วนที่ดีและไม่ดี เราก็เลือกพิจารณาทั้งที่ดีนั้นคืออะไร
ที่ไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร และเลือกที่จะคิดหาเอาแต่ส่วนที่ดีของเขา มาปรับปรุงตัวเรา
3. พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งความจริง ไม่จำต้องพิสูจน์ เป็นศาสนาแห่งความ
สุข ไม่มีวันล้าสมัย สามารถปรับใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องจิตใจ, ธุรกิจ, การลง
ทุน, สัมมาอาชีพ เป็นต้น
มองให้กว้าง ให้ถึงแก่นของของแต่ละสิ่งอย่าง
เลือกเฉพาะสิ่งที่ดีๆ แล้วชีวิตจะเป็นสุขครับ
รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ความรู้ในสารพันสาขานั้น ไม่เคยทำร้ายใครหรอกครับ
เพียงแต่ปรับใช้ให้ถูกเท่านั้นเอง ความรู้ในสิ่งเลว ก็ทำดีได้ (ตำรวจจับโจร ต้องรู้ว่า
โจรคิดอย่างไร ก็ต้องมีความรู้แบบโจร) ความรู้ในสิ่งดี ก็ทำเลวได้ (ความรู้ทาง
กฏหมายธุรกิจ - ล้มบนฟูก) ขึ้นกับคน
2. ในทุกหมู่ชน ย่อมมีทั้งคนส่วนที่ดีและไม่ดี เราก็เลือกพิจารณาทั้งที่ดีนั้นคืออะไร
ที่ไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร และเลือกที่จะคิดหาเอาแต่ส่วนที่ดีของเขา มาปรับปรุงตัวเรา
3. พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งความจริง ไม่จำต้องพิสูจน์ เป็นศาสนาแห่งความ
สุข ไม่มีวันล้าสมัย สามารถปรับใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องจิตใจ, ธุรกิจ, การลง
ทุน, สัมมาอาชีพ เป็นต้น
มองให้กว้าง ให้ถึงแก่นของของแต่ละสิ่งอย่าง
เลือกเฉพาะสิ่งที่ดีๆ แล้วชีวิตจะเป็นสุขครับ
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 13
ผมว่าพระพูดเรื่องลงทุนก็ไม่น่าจะใช่เรื่องเสียหายเท่าไหร่ครับ
รู้แล้วเอาไว้สนคน ไม่ใช่ลงมาเล่นเองด้วย
ท่านคงเห็นว่าคนเล่นหุ้นเยอะ แต่คนเป็นทุกจากหุ้นก็เยอะ
เลยอยากลดความทุกให้คนเล่นหุ้นด้วยการสอนในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าช่วยได้
นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีครับ
รู้แล้วเอาไว้สนคน ไม่ใช่ลงมาเล่นเองด้วย
ท่านคงเห็นว่าคนเล่นหุ้นเยอะ แต่คนเป็นทุกจากหุ้นก็เยอะ
เลยอยากลดความทุกให้คนเล่นหุ้นด้วยการสอนในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าช่วยได้
นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 14
คงเป็นอย่างนี้มากกว่าครับ อย่าไปคิดในแง่ร้ายเลยครับหรือผมคิดมากไป เนื่องจากผมคิดเองเออเอง
ท่านอาจเพียงเทศน์สอน โดยประยุกต์คำสั่งสอน
ให้สอดคล้องกับการลงทุนในตลาดหุ้น
ถ้าอย่างนั้นก็สาธุครับ
ที่จริงท่านพูดอีกหลายประเด็น ไม่ใช่การลงทุนในหุ้นอย่างเดียวครับ
เสริมอีกนิดนะครับ ท่านเป็นพระอายุยังไม่มากครับ แต่ดูน่าน่าเลื่อมใสครับ ท่านใดได้ติดตามรายการนี้ทั้งหมด ก็เล่ากันฟังบ้างนะครับ
ผมก็เห็นด้วยกับเพื่อนๆ และจากประสบการณ์ครับ ว่าการลงทุนแนวนี้กับหลัก
ธรรมของศาสดา คล้ายคลึงกัน และสามารถนำมาประยุกต์ได้เกือบทั้งหมดครับ นับว่าเป็นความโชคดีครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 15
เปลื่ยนไปตามสถานะการณ์บ้านเมืองครับ
ไม่งั้นเชยตาย ใครจะมาฟัง
ไม่งั้นเชยตาย ใครจะมาฟัง
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 16
ขอเสริม คุณประจวบอีกหลักนะครับ
หลัก ปฏิจสมุปบาท ครับ
สังขาร ทำให้เกิด วิญญาณ
วิญญาณ ทำให้เกิด นามรูป
นามรูป ทำให้เกิด อายตยะ
อายตยะ ทำให้เกิด ผัสสะ
ผัสสะ ทำให้เกิด เวทนา
เวทนา ทำให้เกิด ตัณหา
ตัณหา ทำให้เกิด อุปาทาน
อุปาทาน ทำให้เกิด ภพ
ภพ ทำให้เกิด ชาติ
ชาติ ทำให้เกิด มรณะ
ถ้าเกิด ปฏิจสมุปปบาท เต็มรอบเมี่อไหร่ หรือ สั้นๆ คือ มีอุปาทานยึดมั่น โดยมี อวิชชา เป็นตัวเรือน ก็ สุกร้อน ( ทุกข์ ) ล่ะครับ
เสริมคุณ มีอใหม่หัดขับ ครับ
ว่า พุทธศาสนา คือ ศาสนา แห่ง การตื่น ครับ ศาสนาใดก็ได้ ถ้าเป็น ศาสนาแห่งการตื่น ดีแน่นอน ครับ ( คำของ ท่าน ศ. สิวลักษณ์ )
สุดท้าย ความเห็นส่วนตัว นะครับ ที่เขียน ถือว่า แลกเปลี่ยน มุมมอง นะครับ เพราะผมก็เคยถามตัวเอง ว่า พระ คือ อะไร ( เวลา เห็น พระ เดิน พันทิพย์ )
คำว่า พระ ก็ เป็น สมมติ ครับ
ถ้า คำว่า พระ หมายความถึง ผู้ที่นุ่งเหลืองห่มเหลีอง พักอาศัยในวัด ผม คงไม่ใช่
แต่ ถ้าคำว่า พระ หมายความถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หรือ ผู้ที่มองหาความสุขที่แท้
ผม อาจจะพอมีแวว
หลัก ปฏิจสมุปบาท ครับ
อวิชชา ทำให้เกิด สังขารท่านบอกว่า การลงทุนที่เกิดจากความโลภ หมายถึงการเก็งกำไรแบบทั่วๆไป มักขาดทุน ทำให้เกิดทุกข์
สังขาร ทำให้เกิด วิญญาณ
วิญญาณ ทำให้เกิด นามรูป
นามรูป ทำให้เกิด อายตยะ
อายตยะ ทำให้เกิด ผัสสะ
ผัสสะ ทำให้เกิด เวทนา
เวทนา ทำให้เกิด ตัณหา
ตัณหา ทำให้เกิด อุปาทาน
อุปาทาน ทำให้เกิด ภพ
ภพ ทำให้เกิด ชาติ
ชาติ ทำให้เกิด มรณะ
ถ้าเกิด ปฏิจสมุปปบาท เต็มรอบเมี่อไหร่ หรือ สั้นๆ คือ มีอุปาทานยึดมั่น โดยมี อวิชชา เป็นตัวเรือน ก็ สุกร้อน ( ทุกข์ ) ล่ะครับ
เสริมคุณ มีอใหม่หัดขับ ครับ
ว่า พุทธศาสนา คือ ศาสนา แห่ง การตื่น ครับ ศาสนาใดก็ได้ ถ้าเป็น ศาสนาแห่งการตื่น ดีแน่นอน ครับ ( คำของ ท่าน ศ. สิวลักษณ์ )
สุดท้าย ความเห็นส่วนตัว นะครับ ที่เขียน ถือว่า แลกเปลี่ยน มุมมอง นะครับ เพราะผมก็เคยถามตัวเอง ว่า พระ คือ อะไร ( เวลา เห็น พระ เดิน พันทิพย์ )
คำว่า พระ ก็ เป็น สมมติ ครับ
ถ้า คำว่า พระ หมายความถึง ผู้ที่นุ่งเหลืองห่มเหลีอง พักอาศัยในวัด ผม คงไม่ใช่
แต่ ถ้าคำว่า พระ หมายความถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หรือ ผู้ที่มองหาความสุขที่แท้
ผม อาจจะพอมีแวว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 17
ดูเหมือนท่าน Tongue ก็มีความรู้ในธรรมอยู่ไม่ใช่น้อยนะครับ ไม่ธรรมดา
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 18
สำหรับผม
"พระ" คือผู้สืบทอดศาสนา
ถ้าดียิ่งขึ้น
"พระ" คือผู้ปฏิบัติตนเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้นับถือศาสนา
และผมก็อยากให้มีผู้สืบทอดศาสนาที่ดี ดังนั้น ในหลายๆ วาระ ผมกับครอบครัว ก็จะทำบุญด้วยการสนับสนุนเงินทุนแก่โรงเรียนพุทธศาสนา เพื่อให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้ต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
พระ จะเดินพันธ์ทิพย์, บ้านหม้อ, สำเพ็ง หรือที่อื่นๆใด ผมไม่มีความเห็นเพราะไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกเท่าไรนัก (และก็ไม่ผิดศีลด้วยกระมัง เพราะพระพุทธเจ้าท่านไม่เคยปิดห้ามการเรียนรู้และศึกษา) อย่างที่บอกข้างต้นล่ะครับ บุคคลฉลาดย่อมใฝ่รู้ในทุกๆ สิ่ง เพียงแต่เมื่อรู้แล้วก็ต้องนำมาปฏิบัติให้ถูกต้อง ความรู้เป็นวิชชา เมื่ออยู่กับผู้ทรงวุฒิ ย่อมเกิดคุณเสมอครับ
อย่างไรก็ตาม
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า
ครับ
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 19
:lol: :lol: :lol: :lol:
ในความคิดผม
แต่ละอาชีพแต่ละสถานะจะมีบทบาทไม่เหมือนกัน
ในสถานะเป็นพระสงฆ์ผมคิดว่าบทบาทหลัก ( พันธกิจหลัก หน้าที่หลัก ) ที่สังคมรับรู้น่าจะได้แก่
1.ศึกษาพระธรรมแล้วนำมาปฎิบัติ
2.สั่งสอนผู้อื่น
3.ดำรงตนให้เป็นสุปฎิปันโน และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
ส่วนหน้าที่รอง หรือส่วนเบ็ดเตล็ดอื่นๆก็สามารถทำได้ถ้าไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย
ดังนั้น ถ้าหน้าที่หลักยังทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดี แล้วมาศึกษาแต่เรื่องหุ้นก็น่าเสียดายที่อุตส่าห์ได้บวช
แต่ถ้าทำหน้าที่หลักได้ดีแล้วมาศึกษาเรื่องอื่นเป็นงานอดิเรกก็คงไม่น่าจะเสียหายมากนะครับ ( แต่อย่างน้อยก็เสียเวลาแหละ ) แต่ก็อาจจะมีประโยชน์ในยามที่สึกออกมาเป็นฆารวาส
:lol: :lol: :lol: :lol:
ในความคิดผม
แต่ละอาชีพแต่ละสถานะจะมีบทบาทไม่เหมือนกัน
ในสถานะเป็นพระสงฆ์ผมคิดว่าบทบาทหลัก ( พันธกิจหลัก หน้าที่หลัก ) ที่สังคมรับรู้น่าจะได้แก่
1.ศึกษาพระธรรมแล้วนำมาปฎิบัติ
2.สั่งสอนผู้อื่น
3.ดำรงตนให้เป็นสุปฎิปันโน และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
ส่วนหน้าที่รอง หรือส่วนเบ็ดเตล็ดอื่นๆก็สามารถทำได้ถ้าไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย
ดังนั้น ถ้าหน้าที่หลักยังทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดี แล้วมาศึกษาแต่เรื่องหุ้นก็น่าเสียดายที่อุตส่าห์ได้บวช
แต่ถ้าทำหน้าที่หลักได้ดีแล้วมาศึกษาเรื่องอื่นเป็นงานอดิเรกก็คงไม่น่าจะเสียหายมากนะครับ ( แต่อย่างน้อยก็เสียเวลาแหละ ) แต่ก็อาจจะมีประโยชน์ในยามที่สึกออกมาเป็นฆารวาส
:lol: :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 20
อย่าลืม กามาลสูตร สิบข้อครับพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งความจริง ไม่จำต้องพิสูจน์
จากตอนรักษาใจของหนังสือ ช้อบปิ้งบุญ ...ขวัญ เพียงหทัย (แจก ไม่มีวางขาย)แต่พอเห็นพระเดินตามพันธุ์ทิพย์บ่อยๆ ก็ปลงครับ
"พระพุทธเจ้าสอนว่า ช่างดอกไม้ที่ฉลาดเขาเลือกเฉพาะดอกสวยมาจัด
ส่วนดอกไม้ไม่สวยทิ้งลงถังขยะไป เราควรเลือกเก็บแต่บุญไว้ในใจเหมือนกัน
เรื่องเศร้าหมองให้ทิ้งไป รักษาใจเราให้ดีอยู่เสมอ"
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 21
ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลยครับ
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 22
พระแบบออกเป็น2วิถีทาง
เป็นธรรมยุติ
และมหานิกาย
มีวินัยมุข
เป็นกฏบัญญัติ ลักษณะคล้ายกฏหมาย
เรื่องพระไปเดินพันธ์ทิพ มองในแง่ดี
ก็เป็นการไปหาข้อมูลและโปรแกรมมาเรียนรู้และสอนพระรุ่นหลัง
แต่ถ้าไปซื้อMP3มาฟัง ซื้อหนังไม่เสียภาษีมาดูก็ผิดครับ
ในกฏบัญยัติแห่งสงฆ์
การโกง หรือการหยิบเอาหรือนำเอาของผู้อื่นได้มา เกิน5มาสก
ก็ขาดจากการเป็นสงฆ์ อาบัติขาดจากความเป็นพระ
เป็นเพียงลูกชาวบ้านห่อหุ้มด้วยผ้าเหลือง
แต่ก็หลีกเลี่ยง วินัยมุขได้เช่นกัน
คือนำเงินปัจจัยให้ผู้อื่นซื้อหุ้นให้ (สละทรัพย์ให้แก่ชน บริจาคทาน)
และนำปัจจัยมาถวายเหมือนการทำบุญ (รับประเคนไว้ตามสมควร)
แต่ในวินัยมุข พระห้ามกักตุนสิ่งของอาหารการกินตลอดจนทรัพย์สิน
เกินขอบเขต
มัน50/50 ตีความยาก
แต่ไม่ควรมาแตะต้องกับความโลภความอยากได้เป็นดีครับ
ถ้าจะเปรียบแค่กินเจคงพอกล้อมแกล้มกันไปได้โดยไม่ผิดเพราะมี การอนุโลม
เป็นธรรมยุติ
และมหานิกาย
มีวินัยมุข
เป็นกฏบัญญัติ ลักษณะคล้ายกฏหมาย
เรื่องพระไปเดินพันธ์ทิพ มองในแง่ดี
ก็เป็นการไปหาข้อมูลและโปรแกรมมาเรียนรู้และสอนพระรุ่นหลัง
แต่ถ้าไปซื้อMP3มาฟัง ซื้อหนังไม่เสียภาษีมาดูก็ผิดครับ
ในกฏบัญยัติแห่งสงฆ์
การโกง หรือการหยิบเอาหรือนำเอาของผู้อื่นได้มา เกิน5มาสก
ก็ขาดจากการเป็นสงฆ์ อาบัติขาดจากความเป็นพระ
เป็นเพียงลูกชาวบ้านห่อหุ้มด้วยผ้าเหลือง
แต่ก็หลีกเลี่ยง วินัยมุขได้เช่นกัน
คือนำเงินปัจจัยให้ผู้อื่นซื้อหุ้นให้ (สละทรัพย์ให้แก่ชน บริจาคทาน)
และนำปัจจัยมาถวายเหมือนการทำบุญ (รับประเคนไว้ตามสมควร)
แต่ในวินัยมุข พระห้ามกักตุนสิ่งของอาหารการกินตลอดจนทรัพย์สิน
เกินขอบเขต
มัน50/50 ตีความยาก
แต่ไม่ควรมาแตะต้องกับความโลภความอยากได้เป็นดีครับ
ถ้าจะเปรียบแค่กินเจคงพอกล้อมแกล้มกันไปได้โดยไม่ผิดเพราะมี การอนุโลม
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 23
ได้อ่านกระทู้นี้ตั้งแต่วันวาน แต่ไม่มีเวลาตอบ เนื่องจากใช้เนตขณะรอจะกลับเมืองไทย
**** เห็นกระทู้หลายท่าน อ่านแล้วสมกับเป็น VI คือมีเหตุผลดีนะครับ ****
ผมแนะนำตัวก่อนว่า เคยบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อเรียนหนังสือ เด็กที่เขาเรียกว่ายากจนอีสาณ และบวชพระอยู่สี่พรรษา แต่ที่สึกมาเพราะเหตุผลบางประการ
**ผมเคยเดินพันธ์ทิพย์เพื่อซื้ออุปกร์คอมฯ และเอ็มพี3 รวมทั้งหลาย ๆ อย่าง (ไม่เคยซื้อหนังโป๊ครับ ด้วยความสัตย์จริง) ในชีวิตนี้เคยเรียนโปรแกรมคอมแค่ word pro,lotus, สมัยที่ยังเป็นดอสอยู่และเริ่มปรับเข้าวินโดว์ 3.1 นอกนั้นก็อาศัยอ่านหนังสือและอ่าน ๆ จนทุกวันนี้ในที่ทำงาน ท่าน ๆ ที่มาจากตระกูลสูง ๆ หรือจบดอกเตอร์มาก็ยังมาถามความรู้ และผมก็ยินดีช่วยเหลือ
**พระ/สามเณร เริ่มต้นจากศูนย์นะครับ มีกิเลส ตัณหา โลภ เหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เป็นพระจริง สามเณรจริง แต่การจะเดินไปสู่การสิ้นกิเลสมันแล้วแต่วิถีของแต่ละท่าน ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน (เหมือนหุ้นที่ต่างบริษัท ต่างอุตสาหกรรม แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ มูลค่า/กิจการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และสะท้อนกลับมาเป็นผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น)
**พระดี/ไม่ดี ไม่นานก็สะท้อนความจริงออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นเองครับ อย่างหลวงพ่อคูณ ท่านก็ดีของท่านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเป็นสามสิบปี หรือสี่สิบปี แต่เพิ่งจะโด่งดังทั่วประเทศเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง แต่คนใกล้ชิดหรือชาวบ้านแถวนั้นเขานับถือท่านมานานครับ (หุ้นดี/ไม่ดี ไม่นานก็สะท้อนคุณค่าออกมาให้เห็น)
**ธรรมยุต/มหานิกาย ผมว่าไม่แตกต่างนะครับ อยู่ที่องค์ไหนท่านเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแค่นั้นเอง
**การกินเจหรือมังสวิรัติ ดีครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ส่งเสริม แต่สอนให้อยู่อย่างง่าย
**Dr.T บอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ถูกเผงเลยครับ กิจของสงฆ์มี 10 ข้อ ตามคำสอนของพระศาสดา แต่การดำรงอยู่ของสงฆ์มันเกี่ยวข้องกับชาวบ้าน สมัยก่อนไม่ต้องใช้เงินทอง เพราะชาวบ้านในอินเดียสมัยก่อนใจบุญกว่านี้ครับ
- ถามว่าถ้าพระเดินทางไปต่างประเทศ เขาให้เดินทางฟรีหรือเปล่า เข้าร้านค้าเขาให้ของฟรีหรือไม่
- การศึกษาของพระทุกวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐน้อยมากครับ หัวละไม่กี่ร้อยบาท เบี้ยประชุมก็ไม่มี ต้องออกปากขอครับ
- เนื่องจากการเรียนการสอนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่พระเดินพันธ์ทิพย์ คงมีไม่กี่คนที่ศรัทธาไปสอบถามพระท่านว่าต้องการอุปกรณ์คอมฯ อะไร แล้วเดินทางไปซื้อให้โดยไม่คิดเงิน
**พุทธศาสนาจะเจริญหรือเสื่อมก็เพราะ พุทธบริษัทสี่ ครับ แต่ทุกวันนี้เราพัฒนาด้านวัตถุมาก มองว่าการเข้าวัด เชย ไม่เท่ และต้องการเห็นแต่พระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นี่คือการมองอย่างเอาแต่ได้
**พระพุทธเจ้าสอนให้ศาสนิกที่ยอมรับว่าตนคือพุทธมามกะ เริ่มพัฒนาที่ตนเอง ฝึกตนเอง ต่อเมื่อได้รู้แจ้งเห็นจริงตามคำสอนจึงน้อมให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม ไม่ใช่เพ่งโทษคนอื่น
**ผมเองยังเลื่อมใสอิสลามิกชนนะครับ เขาสวดมนต์และละหมาด (เป็นส่วนมาก) คริสตังค์เอง วันคริสมาสต์ก็เข้าโบสถ์สวดมนต์ ขอพรพระเจ้า หันมามองพุทธศาสนิกชนมั่ง ส่วนมาก วันหยุดทางพุทธศาสนาหลายวัน ลาพักร้อน พาลูกเมียไปเที่ยวหรือตั้งวงดื่มกัน
**การลงทุนมีพื้นฐานเดียวกันและสอดคล้องกันกับพุทธศาสนาครับ ในความเห็นส่วนตัว
**พระบางท่านเก่งครับ เรียนรู้ทุกเรื่อง แต่การนำไปใช้แตกต่างกัน พระพุทธเจ้าสอนว่า
-คำพูดดี ไม่มีประโยชน์ ไม่ควรพูด
-คำพูดดี มีประโยชน์ แต่ผิดที่ ก็ไม่ควรพูด (จำไม่ได้แล้วครับ)
สรุปว่า ความรู้แต่ละอย่าง อยู่ที่การใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา มีประโยชน์ถูกต้องตามธรรม
**ร่ายมานาน หมดกระบวนท่าแล้วครับ เชิญท่านต่อไปวิจารณ์
**** เห็นกระทู้หลายท่าน อ่านแล้วสมกับเป็น VI คือมีเหตุผลดีนะครับ ****
ผมแนะนำตัวก่อนว่า เคยบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อเรียนหนังสือ เด็กที่เขาเรียกว่ายากจนอีสาณ และบวชพระอยู่สี่พรรษา แต่ที่สึกมาเพราะเหตุผลบางประการ
**ผมเคยเดินพันธ์ทิพย์เพื่อซื้ออุปกร์คอมฯ และเอ็มพี3 รวมทั้งหลาย ๆ อย่าง (ไม่เคยซื้อหนังโป๊ครับ ด้วยความสัตย์จริง) ในชีวิตนี้เคยเรียนโปรแกรมคอมแค่ word pro,lotus, สมัยที่ยังเป็นดอสอยู่และเริ่มปรับเข้าวินโดว์ 3.1 นอกนั้นก็อาศัยอ่านหนังสือและอ่าน ๆ จนทุกวันนี้ในที่ทำงาน ท่าน ๆ ที่มาจากตระกูลสูง ๆ หรือจบดอกเตอร์มาก็ยังมาถามความรู้ และผมก็ยินดีช่วยเหลือ
**พระ/สามเณร เริ่มต้นจากศูนย์นะครับ มีกิเลส ตัณหา โลภ เหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เป็นพระจริง สามเณรจริง แต่การจะเดินไปสู่การสิ้นกิเลสมันแล้วแต่วิถีของแต่ละท่าน ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน (เหมือนหุ้นที่ต่างบริษัท ต่างอุตสาหกรรม แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ มูลค่า/กิจการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และสะท้อนกลับมาเป็นผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น)
**พระดี/ไม่ดี ไม่นานก็สะท้อนความจริงออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นเองครับ อย่างหลวงพ่อคูณ ท่านก็ดีของท่านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเป็นสามสิบปี หรือสี่สิบปี แต่เพิ่งจะโด่งดังทั่วประเทศเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง แต่คนใกล้ชิดหรือชาวบ้านแถวนั้นเขานับถือท่านมานานครับ (หุ้นดี/ไม่ดี ไม่นานก็สะท้อนคุณค่าออกมาให้เห็น)
**ธรรมยุต/มหานิกาย ผมว่าไม่แตกต่างนะครับ อยู่ที่องค์ไหนท่านเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแค่นั้นเอง
**การกินเจหรือมังสวิรัติ ดีครับ แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ส่งเสริม แต่สอนให้อยู่อย่างง่าย
**Dr.T บอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ถูกเผงเลยครับ กิจของสงฆ์มี 10 ข้อ ตามคำสอนของพระศาสดา แต่การดำรงอยู่ของสงฆ์มันเกี่ยวข้องกับชาวบ้าน สมัยก่อนไม่ต้องใช้เงินทอง เพราะชาวบ้านในอินเดียสมัยก่อนใจบุญกว่านี้ครับ
- ถามว่าถ้าพระเดินทางไปต่างประเทศ เขาให้เดินทางฟรีหรือเปล่า เข้าร้านค้าเขาให้ของฟรีหรือไม่
- การศึกษาของพระทุกวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐน้อยมากครับ หัวละไม่กี่ร้อยบาท เบี้ยประชุมก็ไม่มี ต้องออกปากขอครับ
- เนื่องจากการเรียนการสอนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่พระเดินพันธ์ทิพย์ คงมีไม่กี่คนที่ศรัทธาไปสอบถามพระท่านว่าต้องการอุปกรณ์คอมฯ อะไร แล้วเดินทางไปซื้อให้โดยไม่คิดเงิน
**พุทธศาสนาจะเจริญหรือเสื่อมก็เพราะ พุทธบริษัทสี่ ครับ แต่ทุกวันนี้เราพัฒนาด้านวัตถุมาก มองว่าการเข้าวัด เชย ไม่เท่ และต้องการเห็นแต่พระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นี่คือการมองอย่างเอาแต่ได้
**พระพุทธเจ้าสอนให้ศาสนิกที่ยอมรับว่าตนคือพุทธมามกะ เริ่มพัฒนาที่ตนเอง ฝึกตนเอง ต่อเมื่อได้รู้แจ้งเห็นจริงตามคำสอนจึงน้อมให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม ไม่ใช่เพ่งโทษคนอื่น
**ผมเองยังเลื่อมใสอิสลามิกชนนะครับ เขาสวดมนต์และละหมาด (เป็นส่วนมาก) คริสตังค์เอง วันคริสมาสต์ก็เข้าโบสถ์สวดมนต์ ขอพรพระเจ้า หันมามองพุทธศาสนิกชนมั่ง ส่วนมาก วันหยุดทางพุทธศาสนาหลายวัน ลาพักร้อน พาลูกเมียไปเที่ยวหรือตั้งวงดื่มกัน
**การลงทุนมีพื้นฐานเดียวกันและสอดคล้องกันกับพุทธศาสนาครับ ในความเห็นส่วนตัว
**พระบางท่านเก่งครับ เรียนรู้ทุกเรื่อง แต่การนำไปใช้แตกต่างกัน พระพุทธเจ้าสอนว่า
-คำพูดดี ไม่มีประโยชน์ ไม่ควรพูด
-คำพูดดี มีประโยชน์ แต่ผิดที่ ก็ไม่ควรพูด (จำไม่ได้แล้วครับ)
สรุปว่า ความรู้แต่ละอย่าง อยู่ที่การใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา มีประโยชน์ถูกต้องตามธรรม
**ร่ายมานาน หมดกระบวนท่าแล้วครับ เชิญท่านต่อไปวิจารณ์
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 25
ตอนผมบวชเมื่อเดือนสิงหา ผมไม่รู้เรื่องโลกภายนอกเลยสองอาทิตย์
หุ้นจะขึ้นจะตก ไทยได้กี่เหรียญทอง ผมไม่รู้จนวันสึกครับ
ถ้าพระจะใช้อุปกรณ์คอมพ์ ผมว่าใช้ลูกศิษย์วัดไปซื้อหาเอาจะดีกว่าน่ะครับ
หุ้นจะขึ้นจะตก ไทยได้กี่เหรียญทอง ผมไม่รู้จนวันสึกครับ
ถ้าพระจะใช้อุปกรณ์คอมพ์ ผมว่าใช้ลูกศิษย์วัดไปซื้อหาเอาจะดีกว่าน่ะครับ
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
น่าดีใจ... ยุคนี้พระสงฆ์ก็มีความรู้การลงทุนแบบวีไอ
โพสต์ที่ 26
พี่ JENG แทนที่จะให้ตอบว่าทำไมพระต้องยุ่งกับคอมฯ ว่าง ๆ ลอง Temple Visit แล้วคุยกับพระท่านดูนะครับ จะได้คำตอบที่ดีกว่า เอาวัดใกล้ ๆ บ้าน หรือหลวงพ่อที่พี่รู้จัก และนับถือก็ได้ครับ (พอดีชื่อล็อกอินผมไม่รู้เป็นอะไร เข้าไม่ได้ ส่งข่าวให้เวบมาสเตอร์แล้ว ไม่รู้จะแก้ได้หรือป่าว)
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี