1 ล้านบาทแรกในชีวิต
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 241
ผมว่าล้านแรก ยากสุดครับ ล้านที่2 ก็ยาก แต่ไม่เท่าล้านแรก
แต่ถ้าเราทํางานเสริม เอาเงินเติมเข้าไปใน Port ก็จะช่วยเร่งได้เยอะครับ
หารายได้พิเศษลงทุนอย่างพอเพียงครับ เดี๋ยว ก็ได้ ครับ แบบ Richdad ว่า
หา cashflow เสริม อย่างน้อยก็อุ่นใจ ถ้าการลงทุนผิดพลาด ยังมีรายได้ทางอื่น นอกจากเงินเดือน
ผมก็เหนื่อยมากสําหรับล้านแรกเพราะหาเองด้วยนํ้าพักนํ้าแรงของตนเองเช่นกัน
แต่ถ้าเราทํางานเสริม เอาเงินเติมเข้าไปใน Port ก็จะช่วยเร่งได้เยอะครับ
หารายได้พิเศษลงทุนอย่างพอเพียงครับ เดี๋ยว ก็ได้ ครับ แบบ Richdad ว่า
หา cashflow เสริม อย่างน้อยก็อุ่นใจ ถ้าการลงทุนผิดพลาด ยังมีรายได้ทางอื่น นอกจากเงินเดือน
ผมก็เหนื่อยมากสําหรับล้านแรกเพราะหาเองด้วยนํ้าพักนํ้าแรงของตนเองเช่นกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 244
เป็นกำลังใจให้ครับ
ประสบการณ์ชีวิตท่านน่าสนใจมาก
เป็นที่น่าศึกษากับอีกหลายคน
ประสบการณ์ชีวิตท่านน่าสนใจมาก
เป็นที่น่าศึกษากับอีกหลายคน
- freedomlife
- Verified User
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 245
น่านับถือ และชื่นชมคร้าบ
- KnightSix
- Verified User
- โพสต์: 703
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 248
สวัสดีครับ พี่ sky ผมเคยลงทุน irp กับพี่จำได้ไหมครับ
ผมก็มาร่วมยินดีกับพี่ครับ สำหรับผม ปีนี้ก็เป็นปี ที่ ล้านแรกในชีวิตผม เช่นกันครับ หลังจากลงทุนมาตั้งแต่ปี 47 เจ๊งเกือบหมดตัวเมื่อประมาณปี 49-50 หลังจากนั้น โชค หรือสวรรค์ บรรดาลไมาทราบทำให้เข้าร้าน se-ed ไปอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เรื่องตีแตก ทำให้การเล่นหุ้นกลายเป็น การลงทุน
ผมกลับมาลง
ทุนใหม่ด้วยเงินลงทุน 3 แสน ในปี 51 และเพิ่มอีก 1.5 แสนในปี 52 (ขอยืมภรรยา สุดเลิฟ) มาลงทุน
และแล้ว target แรกก็ประสบความสำเร็จ
อย่างที่เพื่อนนักลงทุน เตือนครับ ช่วง 2 ปีที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาจาก ภาวะตลาดที่ดีลงทุนถูกจังหวะ ก็ต้องระวังให้มาก
ผมก็จะพยายาม หาล้านที่สองมาให้ได้ครับ
ตอนนี้ผมขอถือพี่ sky เป็นเพื่อนคู่แข่งนะครับ
ขอบคุณครับพี่
ผมก็มาร่วมยินดีกับพี่ครับ สำหรับผม ปีนี้ก็เป็นปี ที่ ล้านแรกในชีวิตผม เช่นกันครับ หลังจากลงทุนมาตั้งแต่ปี 47 เจ๊งเกือบหมดตัวเมื่อประมาณปี 49-50 หลังจากนั้น โชค หรือสวรรค์ บรรดาลไมาทราบทำให้เข้าร้าน se-ed ไปอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เรื่องตีแตก ทำให้การเล่นหุ้นกลายเป็น การลงทุน
ผมกลับมาลง
ทุนใหม่ด้วยเงินลงทุน 3 แสน ในปี 51 และเพิ่มอีก 1.5 แสนในปี 52 (ขอยืมภรรยา สุดเลิฟ) มาลงทุน
และแล้ว target แรกก็ประสบความสำเร็จ
อย่างที่เพื่อนนักลงทุน เตือนครับ ช่วง 2 ปีที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาจาก ภาวะตลาดที่ดีลงทุนถูกจังหวะ ก็ต้องระวังให้มาก
ผมก็จะพยายาม หาล้านที่สองมาให้ได้ครับ
ตอนนี้ผมขอถือพี่ sky เป็นเพื่อนคู่แข่งนะครับ
ขอบคุณครับพี่
Let Profit Run วิเคราะห์ พื้นฐาน ให้ดี ก่อนคิดจะลงทุน
สร้างพอร์ตกระจายการลงทุนให้เหมาะสม
สร้างพอร์ตกระจายการลงทุนให้เหมาะสม
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1644
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 249
สุดยอดครับ :)
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 72
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 251
ช่วงวิกฤติผมขอเงินแม่มา 300,000 ประมาณเดือนตุลา 2008
ไม่ได้ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเลย
ตอนนี้อยู่ประมาณ 9 แสนกว่าๆ (ยังไม่ถึงล้าน post ได้ไม๊เนี๊ยะ)
ผมรู้สึกตัวเองซื้อๆ ขายๆ ไม่ค่อยมั่นคงทางอารมณ์ หรือการวิเคราะห์เท่าไหร่
พอหันไปดู CPF TASCO ที่เคยหมายตาเมื่ออดีต ตอนนี้ขึ้นมาไม่รู้กี่เด้ง ฮือๆ
ล่าสุด JAS ขายไป 0.70 ฮือๆ เศร้า
ไม่ได้ใส่เงินเพิ่มเข้าไปเลย
ตอนนี้อยู่ประมาณ 9 แสนกว่าๆ (ยังไม่ถึงล้าน post ได้ไม๊เนี๊ยะ)
ผมรู้สึกตัวเองซื้อๆ ขายๆ ไม่ค่อยมั่นคงทางอารมณ์ หรือการวิเคราะห์เท่าไหร่
พอหันไปดู CPF TASCO ที่เคยหมายตาเมื่ออดีต ตอนนี้ขึ้นมาไม่รู้กี่เด้ง ฮือๆ
ล่าสุด JAS ขายไป 0.70 ฮือๆ เศร้า
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 252
สวัสดีครับ จำได้ครับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถือหุ้นตัวเดียวกันเลยKnightSix เขียน:สวัสดีครับ พี่ sky ผมเคยลงทุน irp กับพี่จำได้ไหมครับ
ผมก็มาร่วมยินดีกับพี่ครับ สำหรับผม ปีนี้ก็เป็นปี ที่ ล้านแรกในชีวิตผม เช่นกันครับ หลังจากลงทุนมาตั้งแต่ปี 47 เจ๊งเกือบหมดตัวเมื่อประมาณปี 49-50 หลังจากนั้น โชค หรือสวรรค์ บรรดาลไมาทราบทำให้เข้าร้าน se-ed ไปอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เรื่องตีแตก ทำให้การเล่นหุ้นกลายเป็น การลงทุน
ผมกลับมาลง
ทุนใหม่ด้วยเงินลงทุน 3 แสน ในปี 51 และเพิ่มอีก 1.5 แสนในปี 52 (ขอยืมภรรยา สุดเลิฟ) มาลงทุน
และแล้ว target แรกก็ประสบความสำเร็จ
อย่างที่เพื่อนนักลงทุน เตือนครับ ช่วง 2 ปีที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาจาก ภาวะตลาดที่ดีลงทุนถูกจังหวะ ก็ต้องระวังให้มาก
ผมก็จะพยายาม หาล้านที่สองมาให้ได้ครับ
ตอนนี้ผมขอถือพี่ sky เป็นเพื่อนคู่แข่งนะครับ
ขอบคุณครับพี่
มาแข่งกันว่าใครจะถึง 10 ล้านก่อน ของผมคงจะอีกเกือบ 10 ปีทีเดียว
- KnightSix
- Verified User
- โพสต์: 703
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 253
ครับได้คุยกับพี่ sky แล้วทำให้ใจเย็นลงไปมากครับ คำพูดของพี่ จะคอยเน้นเรื่องเวลาเป็นหลัก ซึ่งผมว่า เป็นสิ่งสำคัญมาก ทำให้เรา (ตัวผมเอง) เห็นว่าตัวเองเกือบจะกลับไปเป็นนักเก็งกำไรอีกแล้ว ขอบคุณครับSkyforever เขียน:สวัสดีครับ จำได้ครับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถือหุ้นตัวเดียวกันเลยKnightSix เขียน:สวัสดีครับ พี่ sky ผมเคยลงทุน irp กับพี่จำได้ไหมครับ
ผมก็มาร่วมยินดีกับพี่ครับ สำหรับผม ปีนี้ก็เป็นปี ที่ ล้านแรกในชีวิตผม เช่นกันครับ หลังจากลงทุนมาตั้งแต่ปี 47 เจ๊งเกือบหมดตัวเมื่อประมาณปี 49-50 หลังจากนั้น โชค หรือสวรรค์ บรรดาลไมาทราบทำให้เข้าร้าน se-ed ไปอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เรื่องตีแตก ทำให้การเล่นหุ้นกลายเป็น การลงทุน
ผมกลับมาลง
ทุนใหม่ด้วยเงินลงทุน 3 แสน ในปี 51 และเพิ่มอีก 1.5 แสนในปี 52 (ขอยืมภรรยา สุดเลิฟ) มาลงทุน
และแล้ว target แรกก็ประสบความสำเร็จ
อย่างที่เพื่อนนักลงทุน เตือนครับ ช่วง 2 ปีที่ทำให้ประสบความสำเร็จมาจาก ภาวะตลาดที่ดีลงทุนถูกจังหวะ ก็ต้องระวังให้มาก
ผมก็จะพยายาม หาล้านที่สองมาให้ได้ครับ
ตอนนี้ผมขอถือพี่ sky เป็นเพื่อนคู่แข่งนะครับ
ขอบคุณครับพี่
มาแข่งกันว่าใครจะถึง 10 ล้านก่อน ของผมคงจะอีกเกือบ 10 ปีทีเดียว
Let Profit Run วิเคราะห์ พื้นฐาน ให้ดี ก่อนคิดจะลงทุน
สร้างพอร์ตกระจายการลงทุนให้เหมาะสม
สร้างพอร์ตกระจายการลงทุนให้เหมาะสม
- theerasak24
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 621
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 254
กว่าจะผ่านมาได้ก็เหนื่อยน่าดู แต่ไม่รู้ล้านที่สองจะมาเมื่อไหร่ครับ
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
-
- Verified User
- โพสต์: 151
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 255
เพิ่งจะได้ล้านแรกมา เมื่อเร็ว ๆ นี้ (เริ่มประมาณกลางปี 2008)
พอได้ล้านแรกแล้ว ก็มีกำลังใจที่จะต่อล้านที่สอง แต่ไม่รู้ว่าจะยากหรือง่ายกว่าล้านแรก
เสียเวลาไปกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่นาน
นับถือ คุณ Skyforever คะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านด้วยนะคะ
พอได้ล้านแรกแล้ว ก็มีกำลังใจที่จะต่อล้านที่สอง แต่ไม่รู้ว่าจะยากหรือง่ายกว่าล้านแรก
เสียเวลาไปกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่นาน
นับถือ คุณ Skyforever คะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านด้วยนะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 258
อย่าว่า่อย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคับ
ปีนี้มันมีแต่คนได้ ได้มากได้น้อย
อย่างเพิ่งหลงไปกับวัว ไม่รู้จะตกเมื่อไหร่
อาจจะ new high 2000 จุด
หรืออาจจะตกในปลายปีก็ได้
ความรู้สึกลึกๆ ผมรู้สึก
ราคา ที่ดิน คอนโด มันแพงเกิน
รายได้คนปัจจุบัน
เลยคิดว่าน่าจะมีฟองเล็กๆ ถึงปานกลาง
คนเงินเดือนไม่กี่หมื่น ซื้อคอนโด เป็นล้านๆ
จะเอากำลังไปซื้อที่ไหนเยอะแยะ
สุดท้ายคำถามลึกที่สุดในใจผมก็คือ
สมมติ ว่าทุกคนในบอร์ด ประสพความสำเร็จ
มีสักคนละ 10 -20 ล้าน
ผมอยากรู้ว่า เราได้เงินมาจากใคร
กองทุน ฝรั่ง รายย่อย
หรือทะเล เงินตรามันกว้างใหญ่ จน
คนไม่กี่ร้อยคนในบอร์ดเราเก็บเกี่ยวได้พอเพียง
พี่ที่สำเร็จวิชากันแล้ว ช่วยชี้ทางกระจ่างหน่อยได้ไหมคับ
ทุกวันนี้ถึงผมจะเชื่อใน vi
แต่ก็ยังคงมีคำถามในใจ ทำให้ผมหายไปจากบอร์ด
สามถึงสี่ปี จนลืมลอกอินเดิม
สิ่งที่ไม่คาดฝันคือ
สมาชิกหลายๆท่านที่เริ่มมาพร้อมๆกัน
ก้าวนำผมไปไกล ตลอดจนสมาชิกใหม่ๆที่ผลัดหน้ากันมา
โชว์ความสำเร็จ ผมจึงกลับมาอีกครั้ง
และลองตั้งใจกับมันอีกครั้ง
แต่ก็ยังติดคำถามอย่างว่าอยู่ในใจอยู่
ว่า ในเมือ่มันเป็น near zero sum game
มันเป็นไปได้เหรือที่ทุกคนจะได้หมด
หรือเิงินมันมากเหมือนทะเล เราสูบเข้าบ่อพอใช้ยังไงก็ไม่พร่อง
ปีนี้มันมีแต่คนได้ ได้มากได้น้อย
อย่างเพิ่งหลงไปกับวัว ไม่รู้จะตกเมื่อไหร่
อาจจะ new high 2000 จุด
หรืออาจจะตกในปลายปีก็ได้
ความรู้สึกลึกๆ ผมรู้สึก
ราคา ที่ดิน คอนโด มันแพงเกิน
รายได้คนปัจจุบัน
เลยคิดว่าน่าจะมีฟองเล็กๆ ถึงปานกลาง
คนเงินเดือนไม่กี่หมื่น ซื้อคอนโด เป็นล้านๆ
จะเอากำลังไปซื้อที่ไหนเยอะแยะ
สุดท้ายคำถามลึกที่สุดในใจผมก็คือ
สมมติ ว่าทุกคนในบอร์ด ประสพความสำเร็จ
มีสักคนละ 10 -20 ล้าน
ผมอยากรู้ว่า เราได้เงินมาจากใคร
กองทุน ฝรั่ง รายย่อย
หรือทะเล เงินตรามันกว้างใหญ่ จน
คนไม่กี่ร้อยคนในบอร์ดเราเก็บเกี่ยวได้พอเพียง
พี่ที่สำเร็จวิชากันแล้ว ช่วยชี้ทางกระจ่างหน่อยได้ไหมคับ
ทุกวันนี้ถึงผมจะเชื่อใน vi
แต่ก็ยังคงมีคำถามในใจ ทำให้ผมหายไปจากบอร์ด
สามถึงสี่ปี จนลืมลอกอินเดิม
สิ่งที่ไม่คาดฝันคือ
สมาชิกหลายๆท่านที่เริ่มมาพร้อมๆกัน
ก้าวนำผมไปไกล ตลอดจนสมาชิกใหม่ๆที่ผลัดหน้ากันมา
โชว์ความสำเร็จ ผมจึงกลับมาอีกครั้ง
และลองตั้งใจกับมันอีกครั้ง
แต่ก็ยังติดคำถามอย่างว่าอยู่ในใจอยู่
ว่า ในเมือ่มันเป็น near zero sum game
มันเป็นไปได้เหรือที่ทุกคนจะได้หมด
หรือเิงินมันมากเหมือนทะเล เราสูบเข้าบ่อพอใช้ยังไงก็ไม่พร่อง
show me money.
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 259
[quote="nut776"]อย่าว่า่อย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคับ
ปีนี้มันมีแต่คนได้ ได้มากได้น้อย
อย่างเพิ่งหลงไปกับวัว ไม่รู้จะตกเมื่อไหร่
อาจจะ new high 2000 จุด
หรืออาจจะตกในปลายปีก็ได้
ความรู้สึกลึกๆ ผมรู้สึก
ราคา ที่ดิน คอนโด มันแพงเกิน
รายได้คนปัจจุบัน
เลยคิดว่าน่าจะมีฟองเล็กๆ ถึงปานกลาง
คนเงินเดือนไม่กี่หมื่น ซื้อคอนโด เป็นล้านๆ
จะเอากำลังไปซื้อที่ไหนเยอะแยะ
สุดท้ายคำถามลึกที่สุดในใจผมก็คือ
สมมติ ว่าทุกคนในบอร์ด ประสพความสำเร็จ
มีสักคนละ 10 -20 ล้าน
ผมอยากรู้ว่า เราได้เงินมาจากใคร
กองทุน
ปีนี้มันมีแต่คนได้ ได้มากได้น้อย
อย่างเพิ่งหลงไปกับวัว ไม่รู้จะตกเมื่อไหร่
อาจจะ new high 2000 จุด
หรืออาจจะตกในปลายปีก็ได้
ความรู้สึกลึกๆ ผมรู้สึก
ราคา ที่ดิน คอนโด มันแพงเกิน
รายได้คนปัจจุบัน
เลยคิดว่าน่าจะมีฟองเล็กๆ ถึงปานกลาง
คนเงินเดือนไม่กี่หมื่น ซื้อคอนโด เป็นล้านๆ
จะเอากำลังไปซื้อที่ไหนเยอะแยะ
สุดท้ายคำถามลึกที่สุดในใจผมก็คือ
สมมติ ว่าทุกคนในบอร์ด ประสพความสำเร็จ
มีสักคนละ 10 -20 ล้าน
ผมอยากรู้ว่า เราได้เงินมาจากใคร
กองทุน
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 260
ผมก็ ว่า งั้น ครับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่ 0 เกมส์
เงินที่เข้ามาก็ มาจาก บริษัทที่สร้างกำไรงัยละครับ(มาแบบอ้อม ๆ นะ )
ตลาดหุ้นไม่ใช่ 0 เกมส์
เงินที่เข้ามาก็ มาจาก บริษัทที่สร้างกำไรงัยละครับ(มาแบบอ้อม ๆ นะ )
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
- KentaII
- Verified User
- โพสต์: 383
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 261
เงินที่เราได้มาจากการลงทุนในหุ้น แยกเป็นสองส่วนครับcanuseeme เขียน:ผมก็ ว่า งั้น ครับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่ 0 เกมส์
เงินที่เข้ามาก็ มาจาก บริษัทที่สร้างกำไรงัยละครับ(มาแบบอ้อม ๆ นะ )
1. capital gain => อันนี้มันอาจเป็น Zerosum game เนื่องจากเราได้เงินจากคนที่ซื้อต่อจากเรา
2. Dividend => อันนี้มาจากกำไรของ บ. ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากนอกตลาดหุ้น
แต่อย่างไรก็ตาม capital gain นั้นสาเหตุมันก็มาจาก กำไรของ บ. อยู่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 175
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 262
อืม ถ้าจะเล่นหุ้นต้องเข้าใจพื้นฐานอันนี้ให้ถูกก่อนเลยครับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่ zero sum game ครับ
เพราะไม่ใช่ว่าถ้าคุณได้แล้วคนอื่นจะต้องเสีย
หรือคนอื่นเสียแล้วคุณได้
ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งก้อนเค้กกัน
แม้กระทั่งทำธุรกิจสมัยนี้ คิดแบบนี้ก็อาจจะมีปัญหาได้ครับ ในบางกรณี
ยกตัวอย่างเวลาเศรษฐกิจดี หุ้นส่วนใหญ่ก็ดีขึ้น ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ก็รวย
เวลาแย่ หุ้นก็ตกกันถ้วนหน้า ความร่ำรวยโดยเฉลี่ยก็ลดลงไป
ไม่ใช่ว่าเราคนที่รวยขึ้นเอาเงินจากคนอื่นมาทำให้คนอื่นจนลง
เราถึงแบ่งปันความรู้กันในนี้ได้ไงครับ
เพราะทุกคนสามารถรวยเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปเอาจากคนอื่น
ตลาดหุ้นไม่ใช่ zero sum game ครับ
เพราะไม่ใช่ว่าถ้าคุณได้แล้วคนอื่นจะต้องเสีย
หรือคนอื่นเสียแล้วคุณได้
ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งก้อนเค้กกัน
แม้กระทั่งทำธุรกิจสมัยนี้ คิดแบบนี้ก็อาจจะมีปัญหาได้ครับ ในบางกรณี
ยกตัวอย่างเวลาเศรษฐกิจดี หุ้นส่วนใหญ่ก็ดีขึ้น ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ก็รวย
เวลาแย่ หุ้นก็ตกกันถ้วนหน้า ความร่ำรวยโดยเฉลี่ยก็ลดลงไป
ไม่ใช่ว่าเราคนที่รวยขึ้นเอาเงินจากคนอื่นมาทำให้คนอื่นจนลง
เราถึงแบ่งปันความรู้กันในนี้ได้ไงครับ
เพราะทุกคนสามารถรวยเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปเอาจากคนอื่น
"It's not whether you're right or wrong that's important, but how much money you make when you're right and how much you lose when you're wrong."-George Soros.
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 266
เงินที่เราได้มาจากการลงทุนในหุ้น แยกเป็นสองส่วนครับKentaII เขียน:canuseeme เขียน:ผมก็ ว่า งั้น ครับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่ 0 เกมส์
เงินที่เข้ามาก็ มาจาก บริษัทที่สร้างกำไรงัยละครับ(มาแบบอ้อม ๆ นะ )
1. capital gain => อันนี้มันอาจเป็น Zerosum game เนื่องจากเราได้เงินจากคนที่ซื้อต่อจากเรา
2. Dividend => อันนี้มาจากกำไรของ บ. ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากนอกตลาดหุ้น
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 267
ผมพอจะเข้าใจนะครับ ผมก็เป็นแบบเดียวกันตอนเริ่มต้น ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ผมขอแสดงความเห็นคร่าวๆละกันนะครับgreen1984 เขียน:ผมเพิ่งศึกษาการลงทุนจะเริ่มตรงไหนดีช่วยแนะนำด้วยครับ
ผมคิดว่าไม่มีรูปแบบตายตัวครับ แต่ละคนอาจจะเริ่มต้นต่างกัน แต่สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนๆกัน
ผมแนะนำคร่าวๆเป็นแนวทางนำไปประยุกต์ปฏิบัติต่อไปดังนี้นะครับ
1. หาหนังสือหรือบทความในเวป เกี่ยวการลงทุนแบบพื้นฐาน ที่เน้นการปลูกฝังทัศนคติในการลงทุนที่ดีมาอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่าเสียดายเงินเพราะความรู้ที่ได้มาคุ้มค่ามากๆ
ถ้าเป็นหนังสือ แนะนำหนังสือของ ดร.นิเวศน์ หนังสือแปลเกี่ยวกับ วอร์เรน บัฟเฟตต์, เบนจามิน เกรแฮม, ฟิลิปป์ ฟิชเชอร์, ปีเตอร์ ลินช์ ฯลฯ
ถ้าเป็นบทความใน TVI แนะนำกระทู้คุณค่าของพี่โจ ลูกอิสาน, พี่วิบูลย์ ตะแกรงร่อนหุ้น ฯลฯ
ถ้าเป็นเวป ก็เช่น www.yoyoway.com, www.dekisugi.net, www.thaivi.com
2.หาหนังสือพื้นฐานเกี่ยวกับบัญชี การอ่านงบการเงิน และการประเมินมูลค่าของกิจการ หรือมูลค่าหุ้น มาอ่าน
3.ทดลองลงทุนเริ่มจากจำนวนเงินที่ไม่มากก่อน ที่คิดว่าสามารถที่จะเสียไปได้เป็นค่าประสบการณ์ โดยมีแนวทางหลักๆ ในการเลือกลงทุนโดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน 2 แนวทาง ได้แก่
3.1 Top down คือ สังเกตุสิ่งต่างๆรอบตัว ดูว่าแนวโน้มสินค้า หรือบริการใดที่คิดว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคต หรือ Megatrend แล้วเจาะจงลงไปเฉพาะในธุรกิจประเภทนั้น ว่าในตลาดหุ้นมีบริษัทใดบ้าง แล้วค่อยไปดูรายละเอียดของแต่ละบริษัทอีกทีโดยอาศัยความรู้ที่ได้ศึกษามาในข้อ 1 และ 2
3.2 Bottom up คือ เริ่มจากนำรายชื่อของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมดมา แล้วนั่งจัดเรียง และดูค่าอัตราส่วนต่างๆทางบัญชี เช่น P/BV, P/E, อัตราการจ่ายปันผล, กระแสเงินสด, ROA, ROE, NPM ฯลฯ แล้วค่อยเลือกบริษัทที่มีอัตราส่วนทางการเงินที่ดีในอันดับต้นๆ มาศึกษาดูรายละเอียดของธุรกิจอีกที
รายละเอียดและวิธีการจริงๆนั้นมีมากมายครับ ไปประยุกต์ใช้อีกทีละกันนะครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 268
เอ่อ ผมใช้คำว่า
near zero sum game อะคับ
เพราะคิดว่ามันยังมีปันผลรองรับ
แต่ capital gain นี่ ยังงงๆอยู่นิดๆ
ต้องกลับไปคิดก่อน
เพราะ ถ้าบริษัทกำไรมากขึ้น
แต่มันก็คนละส่วนกับราคา
เพราะราคาคือ อุปสงค์ กับ อุปทาน
ถ้าเราขายที่peak คนซื้อที่ซื้อของเราไป
ก้ต้องเหมือนเป็นจ่ายเงิืนให้เรา
แต่เขาจะถือหรือจะยอมขาดทุน
ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้าย
แต่คิดว่า เงินในตลาดรวมหรือ market cap มันจะโต
ก็ต้องมีคนเอาเงินมาใ่ส่เพิ่ม
เพราะอย่างที่บอกว่า ราคามันคือ อุปสงค์ อุปทาน
ถ้ากำไรบริษัทดี แต่demand supply ไม่ลงตัว
เราก็ไม่ได้ capital gain
ปล. ผมอาจจะคล้อยตามคำพูด ที่อ้า่งอิงจาก
วีระ ธีระภัทร มาด้วย
ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะมาจากฉกฉวยโอกาส
แต่ว่าเงินนั้นเราจะได้มาจากใคร
เช่น ซื้อบริษัทโตเร็ว ก่อนที่จะเข้ากฏกองทุน
เมื่อกองทุนซื้อได้ ราคาเลยวิ่ง
ขายหุ้นตอนที่ แท๊กซี่แนะนำเรื่องหุ้น
แสดงว่ามีคนเล่นหน้าใหม่เอาเงิืนมาในกองเยอะขึ้น
(ได้เงินจากรายย่อย)
ก็ภาวนาให้สิ่งที่ผมคิดมันผิดอะคับ
เพราะ ถ้าผมคิดถูก ต่อให้เป็นแนวvi
มันก็อาจจะแค่การหาุหุ้นปันผล
ลองคิดเล่นๆทุกคนอยากมีอิสระภาพ
อยากมีพอรฺ์ทหลักเกิน 10 ล้าน
ในบอร์ด มีสมาชิก มีคนที่มีความฝันเหมือนกันกี่คน
รวมๆ มันจะเป็นไปได้หรือคับที่ทุกคนจะเ็ป็นอย่างนั้น
ผมก็ไม่อยากตัดกำลังใจตัวเองหรือทุกๆคน
แต่คิดว่า การอ่านงบ วิเคราะห์บริษัท ... อีกมากมาย
มันพอเพียงไหม เพราะส่วนลึกในใจผมคิืดว่า
มันไม่พอ
หรือ ผมยังมีศรัทธา ในวิธีของตัวเองไม่พอหรือเปล่า
ทุกวันนี้ผม ไม่คาดหวัง ไม่วาดฝัน
ทำไปเรื่อยๆไม่กดดัน เรือ่ง รีไทร์ เรื่องจะต้องมีเท่าไหร่
พยายามมีความสุขกับมัน มี ศรัทธากับสิ่งที่ทำให้มากขึ้น
แต่อยากบอกว่า บางครั้งผมไม่คิดเพราะผมท้อครับ
ปล. ครบล้านได้สักพักแล้วคับ ประมาณ 5-6 ปี จากเงินลองลงทุนตั้งต้น สองแสน ถ้านับจริงผมเผื่อไว้ 400000 คือ ซื้อ สองแสน สำรองสองแสน
near zero sum game อะคับ
เพราะคิดว่ามันยังมีปันผลรองรับ
แต่ capital gain นี่ ยังงงๆอยู่นิดๆ
ต้องกลับไปคิดก่อน
เพราะ ถ้าบริษัทกำไรมากขึ้น
แต่มันก็คนละส่วนกับราคา
เพราะราคาคือ อุปสงค์ กับ อุปทาน
ถ้าเราขายที่peak คนซื้อที่ซื้อของเราไป
ก้ต้องเหมือนเป็นจ่ายเงิืนให้เรา
แต่เขาจะถือหรือจะยอมขาดทุน
ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้าย
แต่คิดว่า เงินในตลาดรวมหรือ market cap มันจะโต
ก็ต้องมีคนเอาเงินมาใ่ส่เพิ่ม
เพราะอย่างที่บอกว่า ราคามันคือ อุปสงค์ อุปทาน
ถ้ากำไรบริษัทดี แต่demand supply ไม่ลงตัว
เราก็ไม่ได้ capital gain
ปล. ผมอาจจะคล้อยตามคำพูด ที่อ้า่งอิงจาก
วีระ ธีระภัทร มาด้วย
ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะมาจากฉกฉวยโอกาส
แต่ว่าเงินนั้นเราจะได้มาจากใคร
เช่น ซื้อบริษัทโตเร็ว ก่อนที่จะเข้ากฏกองทุน
เมื่อกองทุนซื้อได้ ราคาเลยวิ่ง
ขายหุ้นตอนที่ แท๊กซี่แนะนำเรื่องหุ้น
แสดงว่ามีคนเล่นหน้าใหม่เอาเงิืนมาในกองเยอะขึ้น
(ได้เงินจากรายย่อย)
ก็ภาวนาให้สิ่งที่ผมคิดมันผิดอะคับ
เพราะ ถ้าผมคิดถูก ต่อให้เป็นแนวvi
มันก็อาจจะแค่การหาุหุ้นปันผล
ลองคิดเล่นๆทุกคนอยากมีอิสระภาพ
อยากมีพอรฺ์ทหลักเกิน 10 ล้าน
ในบอร์ด มีสมาชิก มีคนที่มีความฝันเหมือนกันกี่คน
รวมๆ มันจะเป็นไปได้หรือคับที่ทุกคนจะเ็ป็นอย่างนั้น
ผมก็ไม่อยากตัดกำลังใจตัวเองหรือทุกๆคน
แต่คิดว่า การอ่านงบ วิเคราะห์บริษัท ... อีกมากมาย
มันพอเพียงไหม เพราะส่วนลึกในใจผมคิืดว่า
มันไม่พอ
หรือ ผมยังมีศรัทธา ในวิธีของตัวเองไม่พอหรือเปล่า
ทุกวันนี้ผม ไม่คาดหวัง ไม่วาดฝัน
ทำไปเรื่อยๆไม่กดดัน เรือ่ง รีไทร์ เรื่องจะต้องมีเท่าไหร่
พยายามมีความสุขกับมัน มี ศรัทธากับสิ่งที่ทำให้มากขึ้น
แต่อยากบอกว่า บางครั้งผมไม่คิดเพราะผมท้อครับ
ปล. ครบล้านได้สักพักแล้วคับ ประมาณ 5-6 ปี จากเงินลองลงทุนตั้งต้น สองแสน ถ้านับจริงผมเผื่อไว้ 400000 คือ ซื้อ สองแสน สำรองสองแสน
show me money.
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 269
ความหมายคุณnutคือ หากทุกคนที่เป็นนักลงทุนVI
มีความรู้เท่ากันหมด ก็จะไม่มีส่วนต่างให้ทำกำไร
หรือหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าอีกต่อไป
ใช่หรือเปล่าครับ
แต่ก่อนผมก็คิดเช่นคุณnut
หากทุกคนมีความรู้เท่าบัฟเฟต์ คงไม่มีหุ้นถูกอีกต่อไป
และคงหาส่วนต่างกำไรกันไม่ได้
เพราะมันจะไม่มีช่องว่างของความรู้
ในใจแอบคิดเหมือนกันว่า
ที่เราได้ซื้อหุ้นถูก ก็เพราะมีคนไม่รู้เลยขายออกมา
ที่เราได้ขายหุ้นแพง เพราะมีคนไม่รู้เลยเข้ามาซื้อ
ที่ยังมีหุ้นถูกและต่ำกว่ามูลค่า ก็เพราะมีคนอีกมากยังไม่รู้
อย่างไรก็ดี เมื่อทุกคนความรู้เท่ากัน
ผมเชื่อว่า หลักการแต่ละคน ค่าความเสี่ยงที่รับได้ก็ต่างกัน
กรอบเวลาลงทุน ความโลภ ความจำเป็นใช้เงินก็ต่างกัน
-บางคนเก็งผลประกอบการ
-บางคนถือเอาปันผล
-บางคนรอช่วงวิกฤตอย่างเดียว
หากกอปปี้ไม่100% ยังไงผลที่ได้ก็ย่อมต่างกัน--ได้จากงานอบรมกับพี่มนครับ^^
มีความรู้เท่ากันหมด ก็จะไม่มีส่วนต่างให้ทำกำไร
หรือหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าอีกต่อไป
ใช่หรือเปล่าครับ
แต่ก่อนผมก็คิดเช่นคุณnut
หากทุกคนมีความรู้เท่าบัฟเฟต์ คงไม่มีหุ้นถูกอีกต่อไป
และคงหาส่วนต่างกำไรกันไม่ได้
เพราะมันจะไม่มีช่องว่างของความรู้
ในใจแอบคิดเหมือนกันว่า
ที่เราได้ซื้อหุ้นถูก ก็เพราะมีคนไม่รู้เลยขายออกมา
ที่เราได้ขายหุ้นแพง เพราะมีคนไม่รู้เลยเข้ามาซื้อ
ที่ยังมีหุ้นถูกและต่ำกว่ามูลค่า ก็เพราะมีคนอีกมากยังไม่รู้
อย่างไรก็ดี เมื่อทุกคนความรู้เท่ากัน
ผมเชื่อว่า หลักการแต่ละคน ค่าความเสี่ยงที่รับได้ก็ต่างกัน
กรอบเวลาลงทุน ความโลภ ความจำเป็นใช้เงินก็ต่างกัน
-บางคนเก็งผลประกอบการ
-บางคนถือเอาปันผล
-บางคนรอช่วงวิกฤตอย่างเดียว
หากกอปปี้ไม่100% ยังไงผลที่ได้ก็ย่อมต่างกัน--ได้จากงานอบรมกับพี่มนครับ^^
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 270
[quote="nut776"]เอ่อ ผมใช้คำว่า
near zero sum game อะคับ
เพราะคิดว่ามันยังมีปันผลรองรับ
แต่ capital gain นี่ ยังงงๆอยู่นิดๆ
ต้องกลับไปคิดก่อน
เพราะ ถ้าบริษัทกำไรมากขึ้น
แต่มันก็คนละส่วนกับราคา
เพราะราคาคือ อุปสงค์ กับ อุปทาน
ถ้าเราขายที่peak คนซื้อที่ซื้อของเราไป
ก้ต้องเหมือนเป็นจ่ายเงิืนให้เรา
แต่เขาจะถือหรือจะยอมขาดทุน
ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้าย
แต่คิดว่า เงินในตลาดรวมหรือ market cap มันจะโต
ก็ต้องมีคนเอาเงินมาใ่ส่เพิ่ม
เพราะอย่างที่บอกว่า ราคามันคือ อุปสงค์ อุปทาน
ถ้ากำไรบริษัทดี แต่demand supply ไม่ลงตัว
near zero sum game อะคับ
เพราะคิดว่ามันยังมีปันผลรองรับ
แต่ capital gain นี่ ยังงงๆอยู่นิดๆ
ต้องกลับไปคิดก่อน
เพราะ ถ้าบริษัทกำไรมากขึ้น
แต่มันก็คนละส่วนกับราคา
เพราะราคาคือ อุปสงค์ กับ อุปทาน
ถ้าเราขายที่peak คนซื้อที่ซื้อของเราไป
ก้ต้องเหมือนเป็นจ่ายเงิืนให้เรา
แต่เขาจะถือหรือจะยอมขาดทุน
ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้าย
แต่คิดว่า เงินในตลาดรวมหรือ market cap มันจะโต
ก็ต้องมีคนเอาเงินมาใ่ส่เพิ่ม
เพราะอย่างที่บอกว่า ราคามันคือ อุปสงค์ อุปทาน
ถ้ากำไรบริษัทดี แต่demand supply ไม่ลงตัว
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี