คุณรู้สึกอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 61
รู้สึกเสียใจครับ
ตั้งเป้าหมายมาอย่างดีว่าจะเป็นวีไอให้ได้
แต่มาเจอตลาดตอนนี้ ที่วิ่งเอาๆ แถมหุ้นเรายังวิ่งลงสวนตลาด เลยขายทิ้ง ทั้งๆที่รู้ว่า มูลค่าพื้นฐานไม่เปลียน กะขายทิ้ง แล้วไปรอซื้อ
ตอนนี้กลายเป็นขายหมูซะละ
ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ!!
ตั้งเป้าหมายมาอย่างดีว่าจะเป็นวีไอให้ได้
แต่มาเจอตลาดตอนนี้ ที่วิ่งเอาๆ แถมหุ้นเรายังวิ่งลงสวนตลาด เลยขายทิ้ง ทั้งๆที่รู้ว่า มูลค่าพื้นฐานไม่เปลียน กะขายทิ้ง แล้วไปรอซื้อ
ตอนนี้กลายเป็นขายหมูซะละ
ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ!!
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 63
จากประสบการณ์ติดมาหลายดอย บางตัวตกกว่า 50%สุมาอี้ เขียน:นักลงทุนแนวอื่นเขาชอบแซวว่า มีเส้นบางๆ ระหว่างการมุ่งมั้นที่จะการลงทุนระยะยาวกับการติดหุ้น เขาบอกว่า VI ติดดอยแล้วไม่ขายเพราะบอกว่ามูลค่าหุ้นยังเท่าเดิมเป็นการหลอกตัวเองชนิดหนึ่ง
พวกท่านว่าไง
บวกกับ ผ่านมาหลายอย่าง
ตลาดขึ้นๆลงๆแบบสุดมาหลายครั้ง
ผมได้ข้อสรุปทีัชัดเจนว่า
ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว คือดีพอ ถึงซื้อแล้วจะติดหุ้น
ถ้าใจถึงพอที่จะถือไม่ขาย หรือซื้อเพิ่ม
ผ่านไป 1 2 3 4 5 6 มันจะกลับมาจุดเดิมหรือได้กำไร
เป็นเด้งเสมอ
มีหุ้น อุบาทว์ ตัวเดียวที่กลับไม่ถึงจุดที่ผมเคยซื้อ
จะบอกว่า เพราะดูแนวโน้มธุรกิจผิด ก็น่าจะใช่
จะบอกว่า โดนหมกเม็ดงบ ก็ไม่เชิง
คือ grammy
นอกนั้นผมเฝ้ามาหลายดอยแล้วคับไม่เคยมีตัวไหน
ไม่กลับมาจุดคุ้มทุน หรือได้กำไรเลย
แถมได้ปันผลระหว่างทางด้วย มากหรือน้อยก็ว่าไป
แต่ถ้าผมกลั้นใจถือนานกว่านั้น
(เพราะเวลาเราติดดอยเราอยากลง เราจะรีบ
ถ้าเราใจเย็นค่อยๆลง จะได้กำไรเยอะกว่า
แต่ผมใจเย็นไม่พอ คือเย็นแค่ครึ่งเดียว)
สรุป ที่เค้าว่าก็ถูกครึ่งเดียวแต่จาก ประสพกามผมเชื่อว่า
ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว ติดหุ้นไม่น่ากลัว เพียงแต่เราอยากโลภ
รวยเร็วไหม ถ้าเงินเย็น สุดท้ายไม่ขาดทุนแน่นอน
ปล นับถือหลายท่านครับ
กลับมาที่บอร์ดอีกทีหลังจากไม่ได้เข้ามาหลายปี
เห็นหลายท่านรวยเอาๆ ก็รู้ละว่า เราอาจจะต้อง
ทำการบ้านหนักกว่านี้ ใจแข็งกว่านี้
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 64
ส่วน ตอบคำถาม ของกระทู้
ตอนนี้ผม ทดลอง ความคิดตัวเองนิดหน่อย
คือทยอยซื้อ tdex ทีละนิดทุกครั้งที่มีการเทรด
ผมมองว่า ตลาดขึ้นจริง ยังไงเราก็ได้กำไรแม้ไม่มากก็ตาม
ส่วนถ้าขาดทุน คงขายทัน เพราะทะยอยซื้อราคา
ที่ได้มันเป็นขั้นบันได ไม่น่าจะถึงหนีไม่ทัน
แต่ก็ลองด้วยจำนวนเงินน้อยๆ
ทดสอบ ทฤษฏีส่วนตัว อยากรู้ผลเรือ่ง dollar cos averaging
แบบเชิงปฏิบัติจริงๆซะทีด้วย
หรือไม่ผมอาจจะไม่ขาย tdex เลย ยิ่งถ้าลง เกิน 10-20 % ยิ่งซื้อเพิ่ม
แล้วซัก 10 ปี ผมจะลองดูว่ามันเป็นยังไง
ตอนนั้นคงแก่หงักแล้ว
ตอนนี้ผม ทดลอง ความคิดตัวเองนิดหน่อย
คือทยอยซื้อ tdex ทีละนิดทุกครั้งที่มีการเทรด
ผมมองว่า ตลาดขึ้นจริง ยังไงเราก็ได้กำไรแม้ไม่มากก็ตาม
ส่วนถ้าขาดทุน คงขายทัน เพราะทะยอยซื้อราคา
ที่ได้มันเป็นขั้นบันได ไม่น่าจะถึงหนีไม่ทัน
แต่ก็ลองด้วยจำนวนเงินน้อยๆ
ทดสอบ ทฤษฏีส่วนตัว อยากรู้ผลเรือ่ง dollar cos averaging
แบบเชิงปฏิบัติจริงๆซะทีด้วย
หรือไม่ผมอาจจะไม่ขาย tdex เลย ยิ่งถ้าลง เกิน 10-20 % ยิ่งซื้อเพิ่ม
แล้วซัก 10 ปี ผมจะลองดูว่ามันเป็นยังไง
ตอนนั้นคงแก่หงักแล้ว
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 65
จากประสบการณ์ติดมาหลายดอย บางตัวตกกว่า 50%nut776 เขียน:สุมาอี้ เขียน:นักลงทุนแนวอื่นเขาชอบแซวว่า มีเส้นบางๆ ระหว่างการมุ่งมั้นที่จะการลงทุนระยะยาวกับการติดหุ้น เขาบอกว่า VI ติดดอยแล้วไม่ขายเพราะบอกว่ามูลค่าหุ้นยังเท่าเดิมเป็นการหลอกตัวเองชนิดหนึ่ง
พวกท่านว่าไง
บวกกับ ผ่านมาหลายอย่าง
ตลาดขึ้นๆลงๆแบบสุดมาหลายครั้ง
ผมได้ข้อสรุปทีัชัดเจนว่า
ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว คือดีพอ ถึงซื้อแล้วจะติดหุ้น
ถ้าใจถึงพอที่จะถือไม่ขาย หรือซื้อเพิ่ม
ผ่านไป 1 2 3 4 5 6 ปีมันจะกลับมาจุดเดิมหรือได้กำไร
เป็นเด้งเสมอ
มีหุ้น อุบาทว์ ตัวเดียวที่กลับไม่ถึงจุดที่ผมเคยซื้อ
จะบอกว่า เพราะดูแนวโน้มธุรกิจผิด ก็น่าจะใช่
จะบอกว่า โดนหมกเม็ดงบ ก็ไม่เชิง
คือ grammy
นอกนั้นผมเฝ้ามาหลายดอยแล้วคับไม่เคยมีตัวไหน
ไม่กลับมาจุดคุ้มทุน หรือได้กำไรเลย
แถมได้ปันผลระหว่างทางด้วย มากหรือน้อยก็ว่าไป
แต่ถ้าผมกลั้นใจถือนานกว่านั้น
(เพราะเวลาเราติดดอยเราอยากลง เราจะรีบ
ถ้าเราใจเย็นค่อยๆลง จะได้กำไรเยอะกว่า
แต่ผมใจเย็นไม่พอ คือเย็นแค่ครึ่งเดียว)
สรุป ที่เค้าว่าก็ถูกครึ่งเดียวแต่จาก ประสพกามผมเชื่อว่า
ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว ติดหุ้นไม่น่ากลัว เพียงแต่เราอยากโลภ
รวยเร็วไหม ถ้าเงินเย็น สุดท้ายไม่ขาดทุนแน่นอน
ปล
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 1401
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 68
ส่วนใหญ่ ที่ผมซื้อก็รอจังหวะมันขึ้นนี่แหละครับ ไม่ได้ลุ้นอะไรมากมาย หากมันขึ้นได้ก็ดีไป
ตัวอย่างหุ้นตัวหนึ่ง ผมซื้อไว้เมื่อ มิ.ย. ปีที่แล้ว มันสวิงขึ้นๆลงๆในกรอบแคบๆไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ หุ้นอื่นเค้าขึ้นกัน แต่เราก็มั่นใจพอสมควรว่า มันจะต้องรุ่งน่ะครับ มาตอนนี้คุ้มค่าครับ
แต่ถือไว้แล้ว หากมันไม่ขึ้นเลยเนี่ย มันก็ใจแป้วเหมือนกันครับ
แต่ไอ้ที่ลุ้นส่วนใหญ่คือเวลามันตกนี่แหละครับ (มันก็มีบ้างครับ ปุถุชนคนธรรมดา แต่ส่วนตัวคิดว่าตัวเองยังนิ่งครับ)
ตัวอย่างหุ้นตัวหนึ่ง ผมซื้อไว้เมื่อ มิ.ย. ปีที่แล้ว มันสวิงขึ้นๆลงๆในกรอบแคบๆไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ หุ้นอื่นเค้าขึ้นกัน แต่เราก็มั่นใจพอสมควรว่า มันจะต้องรุ่งน่ะครับ มาตอนนี้คุ้มค่าครับ
แต่ถือไว้แล้ว หากมันไม่ขึ้นเลยเนี่ย มันก็ใจแป้วเหมือนกันครับ
แต่ไอ้ที่ลุ้นส่วนใหญ่คือเวลามันตกนี่แหละครับ (มันก็มีบ้างครับ ปุถุชนคนธรรมดา แต่ส่วนตัวคิดว่าตัวเองยังนิ่งครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
คุณรู้สึกอย่างไร
โพสต์ที่ 70
ถ้าบริหาร port ดีเรื่องนี้ไม่น่าจะมารบกวนจิตใจเลยนะครับ แต่หากตัวที่พูดถึงเป็นตัว overweight นิยามของผมคิือ 30%+ ของ port พูดถึงเรื่องของ opportunity cost เข้ามาเกี่ยว ผมว่าคงลำบาก สำหรับผม opportunity cost ไม่มีอยู่จริง คนเรามันจะ assume ว่าสามารถทำอะไรที่ดีกว่าได้เลยมีหลักการของ opportunity cost.... ทุกอย่างเป็นเพียง state of mind.....ผมก็ปล่อยมันไปเรื่อยๆครับ รอ ........ แล้วก็ routine check พื้นฐาน แล้วก็ รอ...............