เรื่องของความกลัว

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
wiwato
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ต้องกราบขอโทษทุกก่อนนะครับ อยากแชร์ความรู้สึกของวันที่ 6กันยายนหน่อยครับ  ไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันรู้สึกว่าไม่มีความสุขที่จะถือหุ้นต่อ
แม้หุ้นในพอร์ทจะบวกทุกตัวโดยเฉลี่ย+30% แต่เมื่อเห็นพอร์ทโปรฟิตมันลดลง ใจก็อยู่นิ่งไม่ได้กลัวว่าพอร์ทจะดิ่งลงมา เลยตัดสินใจล้างพอร์ททั้งหมด อีกใจนึงก็เสียดายเพราะเคยคาดคะเนพอร์ทน่าจะเพิ่มได้อีกเท่าตัว  หลังจากเลิกงานปวดหัวนอนไม่หลับเลยครับ ในใจเสียดายมาก จะซื้อกลับก็เห็นราคามันไปมากแล้วเกรงว่าจะอยู่ยอดดอย ตอนนี้ก็เลยทำได้อย่างเดียวครับคือรอดูอยู่ห่างๆเพื่อเข้าไปซื้อกลับเข้ามาเหมือนเดิม แต่ก็เป็นไปได้ยากมาก จึงอยากขอแชร์ความรู้สึกและขอคำแนะนำ เพื่อนๆพี่ๆในบอร์ด  รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
ขายแล้วได้กำไรก็น่าจะดีใจนะครับ
ทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วเราสบายใจ ไม่เบียดเบียนผู้อื่นดีที่สุดครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
nw108
Verified User
โพสต์: 503
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมว่า ความรู้สึกเเบบนั้นเคยเกิดขึ้นกับผมนะครับ

มันเกิดตอนที่ผมไม่รู้ว่าจริงๆเเล้วหุ้นที่ซื้อไป มีพื้นฐานอย่างไร

ซื้อตามเเรงเชียร์บ้าง ซื้อตามความนิยมของตลาดบ้าง

ที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมใช้มาร์จิ้นเยอะมาก มันเลยเครียดสุดๆ

ตอนนี้ผมลงทุนจากเงินออมจริงๆ ทุกครั้งที่ลงทุนตั้งใจว่าจะไม่นำเงินไปทำ

อย่างอื่นถ้าตราบใดก็ตามที่หุ้นยังให้ผลตอบเเทนที่น่าพอใจ ราคาลดลงมาก็

ยิ่งดีเลย ซื้อได้ถูกลง ปันผลก็จะได้เยอะขึ้น (ผมจัดพอรท์ให้มีปันผลประมาณ

6 %+ ครับ )

ซื้อเเล้วก็เลยถือไปเเบบลืมๆ อ่านงบดุล ตามข่าวอยู่อย่างห่างๆ

ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องกำไรสูงสุด เเต่ถือว่าขอลงทุนเเล้วนอนหลับได้สบาย

มีผลตอบเเทนที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องไปวัดดวง ด้วยการซื้อๆขายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tae30866
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมด้วยครับ ช่วงนี้เป็นเหมือนกันเลยครับ
มีเพื่อนร่วมชะตาครับ
อย่าเครียดคนเดียว
ตรงข้ามนะผมกลับคิดว่ากำไรมาเยอะแล้ว(เยอะกว่าฝากออมทรัพย์) ดีออก
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
ภาพประจำตัวสมาชิก
kyoza
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมก้รู้สึกเหมือนกับเจ้าของกระทู้เหมือนกันครับ เลยขายทำกำไรไปส่วนนึง แต่ในใจก้เสียดายเพราะคิดว่าจะถือลงทุนระยะยาว เหมือนกับว่าใจยังไม่นิ่งพอ คงต้องพยายามต่อไป :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tsar
Verified User
โพสต์: 163
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 6

โพสต์

นึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีก
วันนี้ล้างพอร์ทซะสะอาดเลย

แต่ผมสบายใจนะครับ
เพราะรู้สึกว่าถ้าถือต่อมันจะลง
ก็สู้ขายทิ้งไปเลยดีกว่า

แล้วรอปัจจัยที่เคยใช้ตัดสินใจตอนซื้อ มันมาประสานรวมกันอีกครั้ง
Wei Han
Verified User
โพสต์: 167
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 7

โพสต์

อย่าคิดมากครับ ไม่มีใครขายได้ที่ราคาดีสุดอยู่แล้ว และคุณก็แก้ไขสิ่งที่ทำไปแล้วไม่ได้ด้วย

นอกจากนี้คุณจะรู้ได้ไงว่าถ้าถือหุ้นตอนนี้คุณจะไม่กลัวว่ากำไรจะหดไปอีกครับ โอกาสก็ยังมีอยู่เสมอครับ มองไปข้างหน้าดีกว่า
viหัดคลาน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 230
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 8

โพสต์

คิดว่าคุณ wiwato คงลงทุนไม่นานนัก เลยไม่มั่นใจ เป็นเรื่องธรรมดาครับ สมมุติว่าเราลงทุนทำธุรกิจอะไรดีอ่ะ เช่นทำโรงงานตุ๊กตาขาย ซึ่งอาจเคยขายดี แต่ตอนนี้เริ่มมีคนก๊อปแบบเราได้แล้ว คุณกับผมอาจจะรู้สึกว่าอาจจะขายไม่ได้ล่ะช่วงนี้  ถ้าอีกสามเดือนเกิดเศรษฐกิจแย่ โครงการเราเจ๊งแน่ เราเลยรีบขายก่อนในภาวะที่ยังกำไร ๓๐ เปอร์ฌซ็นต์ อันนี้ เราทำถูกแล้ว อ่ะเปลี่ยนใหม่ เราขายของกินเช่นเป็นเจ้าของร้านบะหมี่ที่ใครๆก็ชอบ แต่ผมบอกคุณว่าไม่พอ ผมอยากให้เราเป็นอันดับ ๑ ด้วย คู่แข่งสู้ไม่ได้ เอาชนิดที่ยังไงต้องหาทางมากินร้านเราให้ได้ เอาแหละแค่นี้คุณอาจเริ่มรู้สึกว่า เราคงไม่ขายธุรกิจดีๆอย่างนี้ใช่ไหม นั้นไม่พอครับ ผมจะซื้อธุรกิจต่อเมื่อผมรู้สึกว่าผมซื้อได้ในราคาที่ถูกมาก หรือถูกเมื่อเทียบกับอนาคตมัน คุณก็จะยิ่งไม่อยากขายใช่ไหมครับ ถูกแล้วครับคุณไม่มีวันขายร้านบะหมี่อันดับ๑ ร้านนี้แน่นอน ดังนั้นลองกลับไปดูนะครับที่ขายไปเป็นแบบหนึ่ง หรือแบบสอง ถ้าธุรกิจนั้นไม่ยั่งยืน ขายก่อนดีแล้วครับ แต่ถ้ายั่งยืนก้ไม่จำเป็นต้องขายครับ ผมไม่ใบ้หุ้น่ะครับ คงเข้าใจนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
Verified User
โพสต์: 1141
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ถ้าคิดจะลงทุนยาวๆ และเราประมาณราคาที่เหมาะสมของหุ้นได้ การที่หุ้นราคาลงมา สิ่งที่ดีที่สุดก็คืออยู่เฉยๆนั่นแหละครับ หลายๆครั้ง(ไม่ใช่บางครั้ง) หุ้นมันก็ขึ้น หรือลงโดยไม่มีสาเหตุ

เราน่าจะใช้ความไร้เหตุผลตรงนี้มาเป็นประโยชน์นะครับ เช่นซื้อเพิ่มเมื่อมันราคาตกลงมา(ถ้าไม่มีเงินก็อยู่เฉยๆ) หรือขายทิ้งถ้าคิดว่าราคามันเวอร์เกินไปแล้ว ไม่ใช่ทำตรงกันข้าม

กับประโยคที่ว่า "อีกใจนึงก็เสียดายเพราะเคยคาดคะเนพอร์ทน่าจะเพิ่มได้อีกเท่าตัว" นี่แหละที่ผมว่าเป็นตัวปัญหา เพราะถ้าเรามั่นใจด้วยเหตุและผลว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นมันต้องมากกว่านี้ แล้วราคามันตกลงมา มันก็ยิ่งน่าซื้อเพิ่มมากกว่า แต่มันกลายเป็นว่าเรามากังวลกับกำไร ขาดทุนระยะสั้นๆ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับพฐ.ธุรกิจในระยะยาวเลย ทำให้เราทำสิ่งที่ตรงกันข้าม

จริงๆผมก็เข้าใจความรู้สึกนะครับ เพราะผมพึ่งเข้ามาตลาดต้นปี 08 โดนไปเต็มๆ ซึ่งถ้าเราคิดว่าราคามันจะตก แล้วจะขายทิ้งไปก่อน แล้วคิดว่าจะรับกลับตอนที่มันลงสุดแล้ว ถ้าทำได้ในทางปฏิบัตินั้นถือเป็นแผนการลงทุนที่วิเศษมากๆครับ แต่เราต้องมี assumption ที่สำคัญมาก 2 ข้อ

1.เราต้องรู้ว่า เมื่อไหร่ราคาจะลง
2.เราต้องรู้ว่า ลงถึงเท่าไหร่จะเรียกว่า"สุด"

ปัญหาคือในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้น่ะสิครับ  :lol:

ถ้าเป็นผมไหนๆก็ขายไปแล้ว เอาเวลามานั่งวิเคราะห์หุ้นเหล่านั้นใหม่ดีกว่ามั้ยครับ ถ้าตัดเรื่องที่ราคากำลังดิ่งลงออกไป แล้วพิจารณาดูดีๆว่า ณ ราคานี้ ถือเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่...ถ้าใช่...เป็นผมก็กลับเข้าไปใหม่เดี๋ยวนี้เลยครับ :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
ภาพประจำตัวสมาชิก
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 1

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เมื่อไหร่คือจุดต่ำสุด หรือจุดสูงสุด บางครั้งเราอาจขายหมู บางครั้งเราอาจติดดอย  

ดังนั้นทางที่ดีที่สุด ผมจะขายก็ต่อเมื่อ

1. พื้นฐานกิจการเปลี่ยนจริง ๆ

2. มันไม่โตแล้ว

3. วิเคราะห์ผิด

4. เจอตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า แต่ไม่เงินสดพอ

5. คิดว่ามันเต็มมูลค่าไปมาก (อันนี้วิเคราะห์ยากหน่อย)

ผมพยายามคิดอยู่เสมอว่า เราซื้อเพราะเหตุผลอะไร ถ้าจะขายก็ต้องเป็นเพราะเหตุผลนั้น เช่น ถ้าคุณซื้อเพราะว่ามันเป็นวัฎจักรขาขึ้น คุณอาจจะขายเพราะมันเริ่มวัฎจักรขาลงแล้ว หรือถ้าคุณซื้อเพราะว่ามันเป็นหุ้นกำลังโตเรื่อย ๆ คุณจะขายเริ่มมันเริ่มหยุดโตแล้ว

บางครั้งอาจจะรู้สึกเสียดายกำไรที่ลดลง ตอนที่หุ้นกำลังลง คุณอาจจะตัดสินใจถูก หรือผิดก็ได้ไม่มีใครรู้ได้ตอนนั้น  :?

แต่เราควรจะหาเหตุผลจริง ๆมารองรับ ไม่ได้ใช้อารมณ์ตัดสินใจ นั่นคือประเด็นครับ
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
linkdreams
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เป็นเหมือนกันเลยครับ
เครียดมาอาทิตย์กว่า วันที่6เครียดสุดๆ
เห็นดัชนีมันขึ้นเอาๆ หุ้นในportลดลงๆ
อยากซื้อเพิ่มก็ไม่มีเงิน
เลยสลับตัว ขายตัวที่คิดว่ายังไม่น่าขึ้น
ไปรับตัวที่น่าจะrebound
พอเย็นราคาปิดดันต่ำกว่าที่ซื้อไปหลายเปอร์เซนต์
เครียดหนักไปอีก

ต้องค้นหนังสือวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์มาอ่านทวน
นึกถึงคำสอนให้มองไกลๆ
เลยทำใจได้ สบายใจขึ้น

วันนี้หุ้นในportแดงไป2ตัวจาก5ตัว
ทั้งที่เคยบวกไปถึง60กว่าเปอร์เซนต์
ซื้อเฉลี่ยมาเรื่อยจนติดลบจนได้
ไอ้ซุปปลาไหลของคุณเด็กเลี้ยงแกะนี่แหละ

แต่ยังไง ส่วนตัวเชื่อว่าปลายเดือนนี้-เดือนหน้าหุ้นจะลงหนัก
เพราะสาเหตุทางการเมือง
เลยว่าจะหาจังหวะขายช่วงฝรั่งยังอยู่
ไปรอรับช่วงฝรั่งเผ่น ยังเกร็งๆอยู่ว่าคิดผิดอีกไหมเนี่ย
VIจำเป็นต้องถือรอด้วยหรือ ถ้าเราเชื่อว่ามันจะต้องตกแน่ๆน่ะ
เป็นVIต้องอดทน
pol256
Verified User
โพสต์: 201
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมเลือกอ่าน new buffetology เรื่อง bull-bear marker + correction ทำให้มีสติ ถอยออกมาคิดก่อนอารมณ์จะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดซ้ำๆเดิมๆ
มือใหม่หัดเดิน โตไปวิ่งให้ได้!
Pekko
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 676
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เอาเวลา ไปวิเคราะห์หุ้นตัวอื่นดีกว่ามั้ยครับ  ถ้าวิเคราห์ได้อย่างไร ช่วยบอกกันด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ  :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
GeneraX
Verified User
โพสต์: 1141
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 14

โพสต์

linkdreams เขียน:เป็นเหมือนกันเลยครับ
เครียดมาอาทิตย์กว่า วันที่6เครียดสุดๆ
เห็นดัชนีมันขึ้นเอาๆ หุ้นในportลดลงๆ
อยากซื้อเพิ่มก็ไม่มีเงิน
เลยสลับตัว ขายตัวที่คิดว่ายังไม่น่าขึ้น
ไปรับตัวที่น่าจะrebound
พอเย็นราคาปิดดันต่ำกว่าที่ซื้อไปหลายเปอร์เซนต์
เครียดหนักไปอีก

ต้องค้นหนังสือวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์มาอ่านทวน
นึกถึงคำสอนให้มองไกลๆ
เลยทำใจได้ สบายใจขึ้น

วันนี้หุ้นในportแดงไป2ตัวจาก5ตัว
ทั้งที่เคยบวกไปถึง60กว่าเปอร์เซนต์
ซื้อเฉลี่ยมาเรื่อยจนติดลบจนได้
ไอ้ซุปปลาไหลของคุณเด็กเลี้ยงแกะนี่แหละ

แต่ยังไง ส่วนตัวเชื่อว่าปลายเดือนนี้-เดือนหน้าหุ้นจะลงหนัก
เพราะสาเหตุทางการเมือง
เลยว่าจะหาจังหวะขายช่วงฝรั่งยังอยู่
ไปรอรับช่วงฝรั่งเผ่น ยังเกร็งๆอยู่ว่าคิดผิดอีกไหมเนี่ย
VIจำเป็นต้องถือรอด้วยหรือ ถ้าเราเชื่อว่ามันจะต้องตกแน่ๆน่ะ
มันก็กลับมาปัญหาเดิมว่า เราจะรู้ได้ไงว่าเมื่อไหร่หุ้นจะตก แล้วถ้ามันไม่ตกล่ะครับ  :?:

แหะๆ ไม่ได้กวนนะครับ อยากทราบจริงๆว่าพี่planไว้ว่าอย่างไร ถ้าล้าง port ไปแล้ว มันไม่ตก แล้วกลับพุ่งๆขึ้นไปต่อแบบตอนช่วงเผาเมือง แล้วเราก็จะมาคิดว่า"รู้งี้"อีกรึเปล่า

คห.ส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าถ้าใครก็ตามที่ทำนายตลาดได้แม่นยำขนาดที่ว่า รู้ว่าจะตกเมื่อไหร่จะขึ้นเมื่อไหร่ เป็นผมคงไม่มาเป็น VI วิเคราะห์หุ้นให้เหนื่อยอ่ะครับ ไปเล่นตลาด future เลยน่าจะรุ่งกว่า  :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
superchaos
Verified User
โพสต์: 62
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ถ้าอยากมองตลาดเป็นเกณฑ์ ในการซื้อขาย
ประสบการณ์จะสอนไปเรื่อยๆ ครับว่าสถานการณ์แบบไหนควรเริ่มขายได้แล้ว สถานการณ์แบบไหน เริ่มซื้อได้แล้ว
ต้องจำไว้เป็นครูไปเรื่อยๆ

ผมผ่านการขึ้นลงของหุ้นมามากมาย
ปัจจัยเศรษฐกิจสำคัญมากครับ ไม่อยากให้มองแต่ในตลาด มองสภาพเศรษฐกิจมากๆ เพราะหลายครั้งเป็นตัวมาชี้วัด การลงแบบกรู่ไม่กลับมาหลายครั้งแล้ว
ตลาดขึนอยู่กับอารมณ์ก็จริง แต่อารมณ์ก็มีที่มาของมันเสมอครับ
"I Think ,Therefore I am"
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 1

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง แม้แต่ชีวิตของเราเองก็เป็นอนิจจัง... ใยเราต้องไปยึดติดด้วย

กำไร/ขาดทุนเป็นแค่ตัวเลข ที่แสนจะไม่เที่ยง เป็นอนิจจังที่เห็นได้ชัด... แล้วทำไมใจเราต้องเป็นทุกข์ไปยึดติดมันด้วย...

ถ้าเราเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของกำไรและขาดทุนในระยะสั้นแล้ว การที่เราจะขาดทุนกำไร ขาดทุนขาดทุน ขาดทุน 30% ขาดทุน 50% เราก็คงจะใช้ชีวิตได้มีความสุขมากกว่านี้...
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 17

โพสต์

picatos เขียน:ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง แม้แต่ชีวิตของเราเองก็เป็นอนิจจัง... ใยเราต้องไปยึดติดด้วย

กำไร/ขาดทุนเป็นแค่ตัวเลข ที่แสนจะไม่เที่ยง เป็นอนิจจังที่เห็นได้ชัด... แล้วทำไมใจเราต้องเป็นทุกข์ไปยึดติดมันด้วย...

ถ้าเราเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของกำไรและขาดทุนในระยะสั้นแล้ว การที่เราจะขาดทุนกำไร ขาดทุนขาดทุน ขาดทุน 30% ขาดทุน 50% เราก็คงจะใช้ชีวิตได้มีความสุขมากกว่านี้...
:cool:  :cool:  :cool:  :cool:  :cool:
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ของผมชายออกบางส่วน
ขายหมูส่วนที่ขายออกมาแต่ที่เหลือก็ทำให้พอร์ทโตมากๆจะเสียก็กะไรอยู๋ ก็ต้องดีใจ

ขายแล้วช๊อตมาซื้อที่ต่ำกว่าก็รู้สึกดีใจที่ขายบางส่วนเล่นรอบได้

ผมก็ไม่เครียดครับ ชิวๆแม้นขายแล้วจะขึ้นหรือลงก็ตาม
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
wiwato
Verified User
โพสต์: 3
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยนะครับ สำหรับทุกความคิดเห็นและกำลังใจ ตอนนี้เป็นปกติแล้วครับ  แต่กำลังหาข้อมูลเพื่อศึกษาหุ้นตัวต่อไปที่จะลงทุนในหุ้น(กิจการ)ที่ได้เปรียบและสามารถชนะตลาดได้ในระยะยาวตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนกว่าเดิมและไม่ตกเป็นทาสอารมณ์ของตลาด ศึกษาพื้อนฐานของกิจการให้มากขึ้นทำการบ้านให้มากขึ้นเพื่อที่จะเป็นอิสระทางการเงินเสียที ขอบคุณทุกๆท่านมากนะครับที่สละเวลามาอ่าน จะไม่ลืมเลยครับเว็บนี้กำลังใจสุดยอดเลยครับ ผมจะสู้ต่อไปตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ไม่มีใครไม่เคยผิดครับ

แต่ขอให้เรารู้ว่าเราผิดพลาดเพราะอะไร เรียนรู้ และจำไว้เป็นบทเรียน
เพื่อที่จะไม่ผิดซ้ำ ในที่นี้หลายๆท่านก็เคยพลาดมาก่อน
แต่เมื่อผิด แล้วต้องยอมรับ และแก้ไข
สิ่งนี้ทำให้หลายๆท่านในเว็บนี้ สำเร็จวิชา จนบรรลุเป็นเซียนร้อยล้านพันล้านกัน
ผมก็พยายามเดินตามรอยหลายๆท่านที่บรรลุวิชาแล้ว

นั่นคือ วิชาความผิดพลาดครับ  :lol:  (แล้วแก้ไข)
ภาพประจำตัวสมาชิก
simpleBE
Verified User
โพสต์: 2335
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 21

โพสต์

แนะนำให้กลับไปอ่าน The Intelligent Investor ครับ
เป็นหนังสือที่ให้คติเตือนใจได้ดีมากสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นที่สุดแสนจะผันผวน

การเลือกหุ้นถูกตัว การวางแผนกลยุทธที่ดีสำหรับการลงทุนถือว่ายากแล้ว
แต่การฝึกฝนและเตรียมพร้อมเรื่องของจิตใจยากยิ่งกว่ายากครับ

ที่พูดมานี่ผมก็เตือนใจตัวเองด้วยเหมือนกันครับ
:roll:
zz99
Verified User
โพสต์: 480
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เส้นบางๆ ระหว่างการมองโลกในแง่ดีและแง่ร้าย รวมถึง "การบริหารความโลภ" ครับ
คนนึง มองราคา เปรียบเทียบกับ ต้นทุน มีกำไร 30%  "มีความสุข"  :D
อีกคน มองราคา เปรียบเทียบกับ ราคาที่จุดสูงสุด กำไรลดลง หรือขาดทุนกำไร "มีความทุกข์"  :oops:

ถ้าไม่ทำความเข้าใจให้ดีว่า การลงทุนจะเกิดเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา คือ มีขี้น และมีลง หรือ พูดง่ายๆ ว่ามีความผันผวน สิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขี้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อให้คุณลงทุนไปแล้วประสบความสำเร็จ แต่ แลกมาด้วยความทุกข์ สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าจะเรียกได้ว่า ชนะหรือแพ้

"มีความสุขกับสิ่งที่เราได้ตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้ว" น่าจะทำให้ชีวิตเบาขึ้นนะครับุ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนรวมถึงตัวผมเองด้วยนะครับ
The miracle of compounding,
ภาพประจำตัวสมาชิก
manza125
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 23

โพสต์

แต่ละคนแนะนำดีๆทั้งนั้นเลยครับ :D

และเห็นด้วยกับพี่ unnop.t ครับ

[quote="unnop.t"]เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เมื่อไหร่คือจุดต่ำสุด หรือจุดสูงสุด บางครั้งเราอาจขายหมู บางครั้งเราอาจติดดอย
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
zephyr
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 962
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ผมก็เป็นครับ ความกลัวแบบนี้

เลยจัดการปล่อยของออกไปบ้าง ยังเสียดายอยู่

ผมอาจจะพลาดกำไรในอนาคตก็ได้ แต่เมื่อมันสบายใจก็ทำไปก่อน
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 25

โพสต์

-__-a ดัชนีวิ่งปรู๊ดๆ งี้พอร์ตลดกันเหรอครับ
ทำไมในแบบสอบถามผมไม่มีคนมาติ๊กผลตอบแทนน้อยๆเลย

อ่ะ วันนี้ลงมา920แล้วนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
theerasak24
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 621
ผู้ติดตาม: 0

เรื่องของความกลัว

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นกับผมด้วยแต่ท่องในใจว่าเรา VI (จำเป็น) และก็ห่างๆหน้าจอเสียบ้างอาจจะช่วยให้ใจดีขึ้น เพราะเราลงทุน ไม่ใช่เก็งกำไร เป้าหมายยังไง ก็เดินไปเลยครับ แต่ถ้าไม่มั่นใจกำไรเท่าที่ได้ก็อย่าเสียดายเลยครับ
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
โพสต์โพสต์