CHBT

[yoyo]

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับที่ต้องสงสัยไว้เสมอ ผมเองถือไปก็เสี่ยวไป  :lol:

ผมช่วยตอบครับ แต่ไม่รู้ว่าจะ Bias ไปรึเปล่านะครับ แต่ลองคิดหาเหตุผลให้มันดู
1. สินค้าของ chbt นั้นเป็น supplement ที่ราคาค่อนข้างแพงพอสมควร ผมว่า Turnover พวกนี้ต่ำอยู่แล้ว นอกจากนี้สินค้ามันขายขาดตลาดอยู่เสมอ ทำให้เวลาขายก็ไม่จำเป็นต้องเอามาวางไว้ตรงระดับสายตา เพราะถึงเอามาวางไว้ตำแหน่งดีๆ ก็ไม่มีของขายอยู่ดี สู้เอาพื้นที่ดีๆไว้ Boost sale ตัวที่ขายยากกว่าน่าจะ work กว่า

2. Utilization ผมว่าก็ไม่น้อยนะครับ เพราะมันเพิ่งเปิดผลิตจริงๆตอนเดือน 3 เท่านั้นเอง ดูโรงงานทั่วๆไปสร้างมาใหม่ๆกว่าจะเต็มก็ใช้เวลาหลายปีอยู่ อย่างเดือน 4-6 ก็ใช้ไปประมาณ 40% ผมว่าไตรมาสที่จะประกาศออกมานี้ก็น่าจะถึง 50% ได้ บริษัทคงไม่กล้าบอกตัวเลขเยอะๆแล้วทำได้ต่ำกว่าพูดแล้วละครับ เพราะในช่วงปีแรกๆบริษัทโม้ไว้เยอะครับ ช่วงหลังๆเลยดูเจียมๆตัวขึ้นพอสมควร

ส่วนเรื่อง Bulk จะไปแย่งลูกค้า Retail นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ สินค้าเป็นคนละกลุ่มกันเลย... retail นี่เป็น supplement ขายเป็นเม็ดๆ มีแบบเป็นผงด้วย (โปรตีนพาวเดอร์ ผมซื้อมาด้วย แต่ยังไม่ได้แกะห่อเลย) ส่วน Bulk ขายให้โรงงานเอาไปทำนมเปรี้ยว yogurt และอาหารสัตว์ จริงๆประเด็นเรื่องอาหารสัตว์นี่ไม่ค่อยมีคนแตะเท่าไหร่.. แต่ถ้าดูตัวเลขจริงๆจะเห็นว่า Bulk ที่ขายไปล่าสุด $10 ล้าน เป็นอาหารสัตว์ซะ 4ล้านแล้วนะครับ ... อาหารสัตว์นี่เป็นอุตหสากรรมใหญ่มากๆของจีน แถมพวกขายอาหารสัตว์นี่ Happy กับ Probiotics มาก เพราะว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2% ในการซื้อ Probio มาใส่ แต่ว่าขายได้ราคาเพิ่มอีก 10-15% แล้วเวลาเอาไปเลี้ยงก็เร่งการเติบโตในสัตว์ได้ดีเลย

เรื่องบริหารเงินผมว่าบริษัทนี้ห่วยครับ ... เงินก็เยอะ เพิ่มทุนจัง ได้ 25 ล้านแรกนี่ผมยังโอเคเพราะว่าเอามาสร้างโรงใหม่ 2 Phase ต้องใช้เงิน 45 ล้าน แต่ไอ้ 75 ล้านหลังนี่บอกจะเอามา Take over ผมคนนึงนะที่ไม่ค่อยชอบบริษัทที่ใช้กลยุทธ์ Take over เพราะส่วนใหญ่มักจะมีอะไรเน่าๆซ่อนไว้เสมอ ส่วน Deal ที่ดูดีก็มักจะแพงเกินไป ถ้าเอาไปซื้อเครื่องจักรหรือโรงงานมือสองก็ยังดีกว่า แต่อะไรที่ทำผ่านมาแล้วก็ต้องผ่านไป เงินที่เหลือตอนนี้ ถ้าจะให้เอาไป Takeover อีก ผมว่าสู้เอามาซื้อหุ้นตัวเองคืนให้เพิ่มขึ้นจะดีที่สุด... เพราะตอนนี้หุ้นตัวเอง Trade pe ประมาณ 5-6 เท่าของปีนี้เท่านั้น แต่ถ้าเอาไป Take คงหา Deal ระดับนี้ได้ยากพอสมควร

สังเกตุบริษัทจีนส่วนใหญ่ในตลาดจะเห็นว่าหนี้ไม่ค่อยจะใช้กันเท่าไหร่ ชอบใช้เงินเพิ่มทุน... ผมไปหาคำตอบมาได้ความว่าบริษัทที่จีนนี่หาเงินกู้กันไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะว่าเศรษฐกิจแย่งกันโต รัฐควบคุมสินเชื่อไม่อยากให้โตเร็วเกินไป เงินก็เลยต้องแย่งๆกัน เพราะงั้นบริษัทจีนส่วนใหญ่ที่มีเงินก็จะโตได้ง่ายกว่าเยอะ เรียกว่าช่วงนี้ขยายมายังไงก็ขายหมด บริษัทในตลาดพอมีโอกาสก็เลยเพิ่มทุนกันจัง

[yoyo]

บรรยากาศห้องต่างประเทศนี่ดีจังครับ เหมือนร้อยคนร้อยหุ้นสมัยก่อนเลย ไม่ต้องมาเชียร์ราคากัน ไม่ต้องดู nvdr คุยกันแต่พื้นฐานล้วนๆ  :lol:

[investment biker]

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองจากงบการเงินไม่ออกครับ ว่าหากบริษัท มั่วโดยไป Overstate Income มาแล้วบริษัทจะเอา Income ลมนั้นมายัดเอาไว้ที่ส่วนไหนของงบดุลได้ เพราะในงบกระแสเงินสดก็โชว์ Cash from operating activites ได้ดี ในงบดุลนั้น สินค้าคงคลังก็ต่ำ ( แสดงว่าไม่ได้เอามาไว้ที่ส่วนนี้ ) ลูกหนี้การค้า ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย  แต่ผมอาจต้องดู ส่วน Plant and Property เพิ่มเติมครับ ( Plant ที่ 1 นั้นบริษัทเช่าหรือเป็นเจ้าของกันครับ ??? ) แต่ไงๆ ตอนนี้ ก็ยังดูไม่เจอ Red Flag อะไรกับงบการเงินนี้ ครับ

ถ้าพูดถึงเรื่องแต่งงบ ที่น่ากลัวที่สุดคือแต่งเงินสดครับ มีให้เห็นในกรณีของ -- Satyam Computer Services Ltd.

[Green]

[quote="investment biker"][quote]แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองจากงบการเงินไม่ออกครับ ว่าหากบริษัท มั่วโดยไป Overstate Income มาแล้วบริษัทจะเอา Income ลมนั้นมายัดเอาไว้ที่ส่วนไหนของงบดุลได้ เพราะในงบกระแสเงินสดก็โชว์ Cash from operating activites ได้ดี ในงบดุลนั้น สินค้าคงคลังก็ต่ำ ( แสดงว่าไม่ได้เอามาไว้ที่ส่วนนี้ ) ลูกหนี้การค้า ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย

[yoyo]

[quote="investment biker"][quote]แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองจากงบการเงินไม่ออกครับ ว่าหากบริษัท มั่วโดยไป Overstate Income มาแล้วบริษัทจะเอา Income ลมนั้นมายัดเอาไว้ที่ส่วนไหนของงบดุลได้ เพราะในงบกระแสเงินสดก็โชว์ Cash from operating activites ได้ดี ในงบดุลนั้น สินค้าคงคลังก็ต่ำ ( แสดงว่าไม่ได้เอามาไว้ที่ส่วนนี้ ) ลูกหนี้การค้า ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย

[investment biker]

[quote="yoyo"][quote="investment biker"][quote]แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมมองจากงบการเงินไม่ออกครับ ว่าหากบริษัท มั่วโดยไป Overstate Income มาแล้วบริษัทจะเอา Income ลมนั้นมายัดเอาไว้ที่ส่วนไหนของงบดุลได้ เพราะในงบกระแสเงินสดก็โชว์ Cash from operating activites ได้ดี ในงบดุลนั้น สินค้าคงคลังก็ต่ำ ( แสดงว่าไม่ได้เอามาไว้ที่ส่วนนี้ ) ลูกหนี้การค้า ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย

[Green]

ลองดูนี้ยังครับ  ดูคร่าวๆ คือ เค้าปลอมเอกสารเองทั้งนั้นเลย  เอิ๊กๆๆ

http://docs.google.com/viewer?a=v&q=cac ... It1rph1P-g

[prodigy]

สนใจตัวนี้เพราะคุณ yoyo เลย story แรงมากกเป็นห่วงแทนจริงๆ

ผมขอออกความเห็นข้อที่คุณ yoyo พูดเรื่อง turn over บน shelf นะครับ ผมคิดว่าปกติสินค้าที่ขายดีจะวางตรงกลางสาเหตุเพราะต้องการให้ความสะดวกผู้ซ์้อ แล้วร้านค้ามักจะโปรโมตสินค้าขายดีเพื่อให้มันขายดีขึ้นไปอีก ส่วนที่ขายไม่ดีจะวางในจุดที่มองยากใครอยากซื้อก็ถามเอาถ้าขายไม่ดีมากๆก็เลิกสั่ง ร้านทำการตลาดตามความต้องการผู้ซื้อ ดังนั้นถ้าสินค้าของ CHBT อยู่ด้านบนๆของ shelf มันก็น่าสงสัยพอสมควร

แต่ผมยังแอบให้กำลังใจนะ ผมว่าถ้าบริษัทที่จะโกงจริงๆไม่ต้องจัด investor day หรอกครับ เพราะมันยุ่งยากเกินไป  :D

ว่าแต่เราสามารถเช็คประวัติการซื้อ - ขายหุ้นของผู้บริหารแบบเดียวกับที่ทำได้ในตลาดเรามั้ยครับ ผมว่าข้อมูลตรงนั้นอาจจะบอกอะไรได้นิดหน่อยนะ

[yoyo]

[quote="prodigy"]สนใจตัวนี้เพราะคุณ yoyo เลย story แรงมากกเป็นห่วงแทนจริงๆ

ผมขอออกความเห็นข้อที่คุณ yoyo พูดเรื่อง turn over บน shelf นะครับ ผมคิดว่าปกติสินค้าที่ขายดีจะวางตรงกลางสาเหตุเพราะต้องการให้ความสะดวกผู้ซ์้อ แล้วร้านค้ามักจะโปรโมตสินค้าขายดีเพื่อให้มันขายดีขึ้นไปอีก ส่วนที่ขายไม่ดีจะวางในจุดที่มองยากใครอยากซื้อก็ถามเอาถ้าขายไม่ดีมากๆก็เลิกสั่ง ร้านทำการตลาดตามความต้องการผู้ซื้อ ดังนั้นถ้าสินค้าของ CHBT อยู่ด้านบนๆของ shelf มันก็น่าสงสัยพอสมควร

- เรื่อง retail นี่ต้องจะคุยกันจริงๆนี่อีกยาวเลยครับ จริงๆที่บอกว่าวางอยู่ข้างบน นั่นก็เป็นบางแห่งนะครับ หลายๆแห่งก็วางอยู่ตรงกลางบ้าง ข้างล่างบ้าง แล้วแต่ที่ แต่เอาเข้าจริงๆผมก็ไม่กล้า defend ให้บริษัทอยู่ดีแหละครับ เพราะฉะนั้นลงทุนตัวนี้ผมถือเป็น Very high risk, very high return จริงๆ

แต่ผมยังแอบให้กำลังใจนะ ผมว่าถ้าบริษัทที่จะโกงจริงๆไม่ต้องจัด investor day หรอกครับ เพราะมันยุ่งยากเกินไป

[prodigy]

ล่าสุด CHBT ปรับขึ้นตั้งหลาย % แหนะเอาใจช่วยอยู่ครับ

นอกเรื่องนิดครับคุณ yoyo ตอนนี้หุ้นหลายตัวอย่าง citigroup หรือในกลุ่ม finance ราคาถูกมาก แม้ยังขาดทุนอยู่ แต่มองในแง่ของการเป็น international banking ไม่ได้พึ่ง domestic investment อย่างเดียว คุณ yoyo ว่ามีโอกาสจะ turn around มั้ยครับ ผมรู้สึกรัฐบาลโอ๋กลุ่มแบงค์มาก ไม่ยอมให้เจ๊งเลย ถ้าเกิดออก QE2 จริงผมว่ากลุ่มนี้ก็น่าจะดีขึ้นๆ คุณ yoyo ได้จับตามั้ยครับ

[yoyo]

ล่าสุด CHBT ปรับขึ้นตั้งหลาย % แหนะเอาใจช่วยอยู่ครับ

นอกเรื่องนิดครับคุณ yoyo ตอนนี้หุ้นหลายตัวอย่าง citigroup หรือในกลุ่ม finance ราคาถูกมาก แม้ยังขาดทุนอยู่ แต่มองในแง่ของการเป็น international banking ไม่ได้พึ่ง domestic investment อย่างเดียว คุณ yoyo ว่ามีโอกาสจะ turn around มั้ยครับ ผมรู้สึกรัฐบาลโอ๋กลุ่มแบงค์มาก ไม่ยอมให้เจ๊งเลย ถ้าเกิดออก QE2 จริงผมว่ากลุ่มนี้ก็น่าจะดีขึ้นๆ คุณ yoyo ได้จับตามั้ยครับ

แหะๆ กลุ่มนี้ของเมืองไทยผมเคยพยายามเปิดงบมาแกะดู มึนไปหลายวันเลยครับ เพราะงั้นยิ่งถ้าเป็นของต่างประเทศด้วย มิบังอาจเลยจริงๆ ตอนนี้เลยขอดูอะไรที่ตัวเองถนัดไว้ก่อนดีกว่า

[keysersoze]

หลังจากผมได้กลับไปดูผลการดำเนินงาน สำหรับ 5 ไตรมาสที่ผ่านมาของ CHBT ผมก็เลยสงสัยต่อไปว่าทำไมผลการดำเนินงานแกว่งมาก คือว่าเป็น Seasonal หลอคับ พอดีว่าเห็นแล้วก็ดูน่าสนใจมากมาย  :D  แต่ก็เท่าที่เข้าใจว่าทางบริษัทได้เพิ่มทุนไปแล้วในปีที่แล้ว จะสามารถทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวกลับมาดีขึ้นได้ไหมอะคับ?

[Green]

[quote="keysersoze"]หลังจากผมได้กลับไปดูผลการดำเนินงาน สำหรับ 5 ไตรมาสที่ผ่านมาของ CHBT ผมก็เลยสงสัยต่อไปว่าทำไมผลการดำเนินงานแกว่งมาก คือว่าเป็น Seasonal หลอคับ พอดีว่าเห็นแล้วก็ดูน่าสนใจมากมาย

[yoyo]

http://seekingalpha.com/instablog/56695 ... is-a-fraud

ผมเพิ่งเขียนบทความ chbt เมื่อคืน มีความเห็นยังไง comment กันด้วยนะครับ

[prodigy]

^
^

ขอบคุณครับ คุณ yoyo แอบไปอ่านแล้วเซียนบัญชีจริงๆ ว่างๆเปิดสอนมั้ยครับ  :lol:

ผมนอกเรื่องอีกที ผมจะเข้ามาบอกว่าผมโทรไปคุยกับ บลจ ไอร่า ผมว่าค่าคอม ค่าโอนเงินอะไรของที่นั่นดีกว่า Philip เยอะ (โอนไป 800 กลับประมาณ 800) คอมของ US ตอนนี้คิดค่าคอม 0.02 เหรียญต่อหุ้น ตลาดอื่นก็เรตดีครับ  โปรแกรมเทรดไม่สวยงาม แต่ผมว่าประสิทธิภาพดีกว่านะ ผมเลยหลวมตัวของเปิดบัญชีละ  :lol:

เผื่อท่านใดสนใจ ดู demo ผมว่าแอบห่วยนะ แต่โปรแกรม trade ที่อื่นก็ห่วยกว่านี้เลยไม่อยากคิดมาก อิอิ

http://www.aira.co.th/th/inter/GlobalPresent/index.php

[yoyo]

ถ้าจะเล่น chbt ผมว่าควรจะอ่าน case study เรื่อง short squeeze เป็นตัวอย่างไว้ก่อนนะครับ เผื่อว่าจะเกิดขึ้นมาจริงๆ จะได้รับมือได้ถูกต้องว่าจะทำยังไงดี

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=44867

[Green]

น่าสนครับ น่าสน

ตอนนี้ Short น่าจะมีเกือบ 20% ของหุ้นทั้งหมดแล้วมั้ง ประกาศผลประกอบการในต้นเดือน พฤศจิกานี้ ก็น่าจะดีอยู่แล้ว

ไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท ถือเท่าไหร่กี่เปอร์เซนต์อ่ะครับ
เห็นสถาบันก็ถือกัน 3x % แล้ว

ถ้าพวก long ไม่ขายอยู่แล้ว short จะไปหาซื้อหุ้นจากไหนล่ะเนี้ย

[yoyo]

น่าสนครับ น่าสน

ตอนนี้ Short น่าจะมีเกือบ 20% ของหุ้นทั้งหมดแล้วมั้ง ประกาศผลประกอบการในต้นเดือน พฤศจิกานี้ ก็น่าจะดีอยู่แล้ว

ไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท ถือเท่าไหร่กี่เปอร์เซนต์อ่ะครับ
เห็นสถาบันก็ถือกัน 3x % แล้ว

ถ้าพวก long ไม่ขายอยู่แล้ว short จะไปหาซื้อหุ้นจากไหนล่ะเนี้ย

update ตัวเลขการถือหุ้นล่าสุดของกองทุนคือเมื่อวันที่ 30-9-2010
มีกองทุนใหม่เข้ามาซื้อ ที่เยอะก็มี 2 กอง คือ TRELLUS MANAGEMENT กับ RIVERSIDE ADVISORS 430000 กับ 250000 หุ้น บางรายก็มีล้างทิ้งออกไปบ้าง แต่พวกที่ล้างทิ้งเป็นพวกที่ถืออยู่น้อยๆ พวกที่ถือเยอะๆยังอยู่กันครบถ้วน

หุ้นมีทั้งหมดอยู่ 22.37 ล้าน
ผู้บริหารถืออยู่ครึ่งนึง ประมาณ 11 ล้าน
กองทุนถือ 34.2% ประมาณ 7.65 ล้าน
กองทุนรายใหญ่ๆส่วนใหญ่ถูกจัดว่ามี turn over ratio ต่ำ ไม่ค่อยซื้อขายเท่าไหร่ (จากเวป cnbc)

ถ้าเรามองว่ากองทุนพวกนี้ถือระยะยาวแล้วไม่คิดจะขายก็เท่ากับว่า
- หุ้นที่เหลืออยู่ในตลาดนั้นมีอยู่ 22.37-11-7.65 = 3.72 หุ้น
- บริษัทประกาศซื้อหุ้นไป $20 ถ้าคิดราคาที่ $12.5 ต่อหุ้นก็จะเป็นหุ้นประมาณ 1.6 ล้าน สมมติว่าซื้อคืนมาแค่ 1 ใน 4 ก็เท่ากับ 4 แสน หุ้นจะเหลือ 3.32 ล้านหุ้น

ตัวเลขล่าสุด วันที่ 15/10/2010 มีหุ้นโดน short อยู่ 4.4 ล้านหุ้น
พอเอามาเทียบกับหุ้นที่ Float ในตลาด 3.32 ล้านหุ้นนี่ ผมอยากเห็นจริงๆว่าถ้าบริษัทประกาศงบออกมาดี และปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือหายไป ตอนพวก short มา cover ราคาหุ้นจะเป็นยังไง

ปล. ความเสี่ยงที่สำคัญมากคือความน่าเชื่อถือครับ ที่ผ่านมามีข่าวร้ายโจมตีมาเยอะ เพราะฉะนั้นผมว่า Auditor ตรวจบัญชีรอบนี้ผมว่าเค้าต้องดูละเอียดเลยล่ะครับ ถ้าเพราะงั้นถ้าบริษัทโกงจริงๆ คราวนี้ก็คงจะรู้ออกมาในงบแล้วล่ะครับ ว่าต้องมีการแก้งบอะไรรึเปล่า และจะเป็นข่าวร้ายมากๆ (ขึ้นอยู่กับว่าโกงระดับไหน) แต่ถ้างบออกมาแล้วยังเป็นปกติ ผมว่าก็น่าจะหายกังวลไปได้ เพราะ Auditor ก็คงตรวจเต็มที่แล้ว แล้วคราวนี้จะได้มา Focus กันที่พื้นฐานจริงจังซะที อืมครึมกับข่าวลืมมานาน

[Green]

อืมม  ยิ่งอ่านยิ่งน่าสนนะครับ  เห็นว่าจะประกาศงบวันที่ 9 นี้แล้วหน่ะสิครับ ตอนนี้ ผมอยากให้มีประกาศข่าวดี อีกเรื่องด้วยคือถ้า มีการซื้อหุ้นคืน ซื้อไปเท่าไหร่แล้ว ก็จะเป็นข่าวดี ต่อที่สอง ว่าบริษัทสามารถจ่ายเงินซื้อคืนได้จริงๆ และ ต้นเดือนธันวา ก็ต้องคืน Bond ก้อนโตอีก ถ้าประกาศคืนเงินก้อนโตอันนี้ได้ ก็ยิ่ง เป็นข่าวดีกันเข้าไปใหญ่อีก โอ้วๆๆๆ

แต่เรื่องมันจะกลายเป็นอีกแบบนึงทันที ถ้าเรื่องมันออกมาในทางตรงกันข้าม

ขอบภาวนาให้มันเป็นข่าวดีนะคร้าบบ

[tok]

The Smart Money's Top 20 Small-Cap Stocks

The following is a list of small-cap stocks that have seen significant institutional inflows over the last three months. All the stocks in this list have market caps between $250M and $300M.

We won't be going into detailed analysis for each stock. The goal here is to give you a starting point for your own analysis.

Institutional data sourced from Reuters, short float data sourced from Finviz.

The list has been sorted by change in institutional research.

1. KEMET Corp. (KEM): Diversified Electronics Industry. Market cap of $274.25M. Institutional investors currently own 7,442,155 shares vs. 5,740,228 shares held three months ago (29.65% change). Short float at 0.31%, which implies a short ratio of 0.38 days. The stock has gained 181.67% over the last year.

2. Hi Tech Pharmacal Co. Inc. (HITK): Generic Drugs Industry. Market cap of $279.78M. Institutional investors currently own 8,374,171 shares vs. 6,686,561 shares held three months ago (25.24% change). Short float at 15.09%, which implies a short ratio of 11.73 days. The stock has gained 19.63% over the last year.

3. Anooraq Resources Corporation (ANO): Industrial Metals & Minerals Industry. Market cap of $262.29M. Institutional investors currently own 3,757,430 shares vs. 3,168,394 shares held three months ago (18.59% change). Short float at 0.17%, which implies a short ratio of 0.3 days. The stock has gained 68.83% over the last year.

4. Nanometrics Incorporated (NANO): Scientific & Technical Instruments Industry. Market cap of $292.4M. Institutional investors currently own 59,841,323 shares vs. 52,415,978 shares held three months ago (14.17% change). Short float at 7.98%, which implies a short ratio of 1.81 days. The stock has gained 84.67% over the last year.

5. Furniture Brands International Inc. (FBN): Home Furnishings & Fixtures Industry. Market cap of $256.33M. Institutional investors currently own 42,781,162 shares vs. 38,572,872 shares held three months ago (10.91% change). Short float at 5.17%, which implies a short ratio of 7.41 days. The stock has gained 8.86% over the last year.

6. China-Biotics, Inc. (CHBT): Drug Related Products Industry. Market cap of $276.27M. Institutional investors currently own 7,922,547 shares vs. 7,202,669 shares held three months ago (9.99% change). Short float at 40.12%, which implies a short ratio of 8.04 days. The stock has lost -3.59% over the last year.

7. Powerwave Technologies Inc. (PWAV): Communication Equipment Industry. Market cap of $260.21M. Institutional investors currently own 100,848,863 shares vs. 91,915,791 shares held three months ago (9.72% change). Short float at 10.56%, which implies a short ratio of 9.58 days. The stock has gained 60.66% over the last year.

8. ModusLink Global Solutions, Inc. (MLNK): Internet Software & Services Industry. Market cap of $297.14M. Institutional investors currently own 26,318,264 shares vs. 24,000,319 shares held three months ago (9.66% change). Short float at 4.02%, which implies a short ratio of 8.7 days. The stock has lost -16.15% over the last year.

9. Capital Gold Corp. (CGC): Gold Industry. Market cap of $264.38M. Institutional investors currently own 22,104,211 shares vs. 20,222,096 shares held three months ago (9.31% change). Short float at 4.08%, which implies a short ratio of 4.1 days. The stock has gained 50% over the last year.

10. Exar Corp. (EXAR): Semiconductor Industry. Market cap of $294.44M. Institutional investors currently own 35,695,828 shares vs. 33,077,248 shares held three months ago (7.92% change). Short float at 3.62%, which implies a short ratio of 4.97 days. The stock has lost -0.6% over the last year.

11. China Gerui Advanced Materials Group Ltd. (CHOP): Steel & Iron Industry. Market cap of $291.6M. Institutional investors currently own 1,962,406 shares vs. 1,845,100 shares held three months ago (6.36% change). Short float at 5.38%, which implies a short ratio of 7.6 days. The stock has lost -19.75% over the last year.

12. Advanced Battery Technologies, Inc. (ABAT): Industrial Electrical Equipment Industry. Market cap of $273.82M. Institutional investors currently own 24,387,756 shares vs. 23,052,913 shares held three months ago (5.79% change). Short float at 10.38%, which implies a short ratio of 7.86 days. The stock has gained 13.39% over the last year.

13. China MediaExpress Holdings, Inc. (CCME): Diversified Investments Industry. Market cap of $292.22M. Institutional investors currently own 6,024,676 shares vs. 5,726,007 shares held three months ago (5.22% change). Short float at 24.71%, which implies a short ratio of 6 days. The stock has gained 80.94% over the last year.

14. EMS Technologies Inc. (ELMG): Communication Equipment Industry. Market cap of $269.74M. Institutional investors currently own 14,332,324 shares vs. 13,645,916 shares held three months ago (5.03% change). Short float at 3.66%, which implies a short ratio of 7.33 days. The stock has lost -3.77% over the last year.

15. NCI, Inc. (NCIT): Information Technology Services Industry. Market cap of $256.3M. Institutional investors currently own 7,563,859 shares vs. 7,211,786 shares held three months ago (4.88% change). Short float at 3.22%, which implies a short ratio of 4.66 days. The stock has lost -27.84% over the last year.

16. Bel Fuse Inc. (BELFB): Diversified Electronics Industry. Market cap of $262.2M. Institutional investors currently own 1,892,214 shares vs. 1,811,229 shares held three months ago (4.47% change). Short float at 3.18%, which implies a short ratio of 10.52 days. The stock has gained 21.46% over the last year.

17. Main Street Capital Corporation (MAIN): Diversified Investments Industry. Market cap of $256.24M. Institutional investors currently own 1,974,402 shares vs. 1,907,598 shares held three months ago (3.5% change). Short float at 4.71%, which implies a short ratio of 5.16 days. The stock has gained 37.04% over the last year.

18. Aviat Networks, Inc. (AVNW): Communication Equipment Industry. Market cap of $259.58M. Institutional investors currently own 52,512,745 shares vs. 51,225,411 shares held three months ago (2.51% change). Short float at 3.66%, which implies a short ratio of 7.26 days. The stock has lost -34.68% over the last year.

19. Internap Network Services Corp. (INAP): Internet Software & Services Industry. Market cap of $255.92M. Institutional investors currently own 31,793,113 shares vs. 31,015,438 shares held three months ago (2.51% change). Short float at 3.35%, which implies a short ratio of 5.86 days. The stock has gained 57.51% over the last year.

20. Hyperdynamics Corporation (HDY): Oil & Gas Drilling & Exploration Industry. Market cap of $264.74M. Institutional investors currently own 2,178,462 shares vs. 2,126,985 shares held three months ago (2.42% change). Short float at 2.41%, which implies a short ratio of 2.26 days. The stock has gained 100% over the last year.

http://seekingalpha.com/article/233389- ... cap-stocks

[tok]

update ตัวเลขการถือหุ้นล่าสุดของกองทุนคือเมื่อวันที่ 30-9-2010มีกองทุนใหม่เข้ามาซื้อ ที่เยอะก็มี 2 กอง คือ TRELLUS MANAGEMENT กับ RIVERSIDE ADVISORS 430000 กับ 250000 หุ้น บางรายก็มีล้างทิ้งออกไปบ้าง แต่พวกที่ล้างทิ้งเป็นพวกที่ถืออยู่น้อยๆ พวกที่ถือเยอะๆยังอยู่กันครบถ้วน

หุ้นมีทั้งหมดอยู่ 22.37 ล้าน
ผู้บริหารถืออยู่ครึ่งนึง ประมาณ 11 ล้าน
กองทุนถือ 34.2% ประมาณ 7.65 ล้านกองทุนรายใหญ่ๆส่วนใหญ่ถูกจัดว่ามี turn over ratio ต่ำ ไม่ค่อยซื้อขายเท่าไหร่ (จากเวป cnbc)

ถ้าเรามองว่ากองทุนพวกนี้ถือระยะยาวแล้วไม่คิดจะขายก็เท่ากับว่า
- หุ้นที่เหลืออยู่ในตลาดนั้นมีอยู่ 22.37-11-7.65 = 3.72 หุ้น
- บริษัทประกาศซื้อหุ้นไป $20 ถ้าคิดราคาที่ $12.5 ต่อหุ้นก็จะเป็นหุ้นประมาณ 1.6 ล้าน สมมติว่าซื้อคืนมาแค่ 1 ใน 4 ก็เท่ากับ 4 แสน หุ้นจะเหลือ 3.32 ล้านหุ้น

ตัวเลขล่าสุด วันที่ 15/10/2010 มีหุ้นโดน short อยู่ 4.4 ล้านหุ้น
พอเอามาเทียบกับหุ้นที่ Float ในตลาด 3.32 ล้านหุ้นนี่ ผมอยากเห็นจริงๆว่าถ้าบริษัทประกาศงบออกมาดี และปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือหายไป ตอนพวก short มา cover ราคาหุ้นจะเป็นยังไง

The Smart Money's Top 20 Small-Cap Stocks

Institutional data sourced from Reuters, short float data sourced from Finviz.

The list has been sorted by change in institutional research.

6. China-Biotics, Inc. (CHBT): Drug Related Products Industry. Market cap of $276.27M. Institutional investors currently own 7,922,547 shares vs. 7,202,669 shares held three months ago (9.99% change). Short float at 40.12%, which implies a short ratio of 8.04 days. The stock has lost -3.59% over the last year.

http://seekingalpha.com/article/233389- ... cap-stocks

กองทุุนเก็บเพิ่มมาอีกครับ  :D

[yoyo]

โอ้ขอบคุณครับ...

[leaderinshadow]

น่าสนใจครับ
ขอเวลาไปทำการบ้านอีกนิดหน่อย

เผื่อจะได้ร่วมขบวนไปด้วย  :P
ส่วนเรื่องที่พวกฝรั่ง short ไว้เยอะ อันนี้ยิ่งน่าเล่นครับ

ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยน พวกที่ short ไว้ อาจจะอ๊วกได้  :lol:
อยากไล่เตะก้นฝรั่ง อิๆๆ

ปล. ตอนนี้รอเงินปันผล PTL ก่อน ไม่รู้ราคาจะวิ่งไปก่อนหรือเปล่า
อ้อ ข้อถามอีกนิด พี่โยเปิดพอร์ตลงทุนต่างประเทศของที่ไหนครับ
ของผมใช้ของฟิลิป ตอนนี้เปิดเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่โอนตัง
ค่าโอน 1000 ขั้นต่ำ 5 แสน
ค่าคอม 0.29% + 30 ดอลล์ต่อ order

หรือว่ามีพี่ๆ ท่านไหนอยากแนะนำที่อื่นมั้ยครับ
กะว่า ขอ Go inter ซักที ไม่รู้ว่าจะได้ตัง หรือ ได้แผลกลับมา  :lol:

[Green]

มันวิ่งแบบนี้ สงสัย เจอ Squeeze แล้วหรือป่าวอ่ะฮะ    :P

[yoyo]

[quote="leaderinshadow"]น่าสนใจครับ
ขอเวลาไปทำการบ้านอีกนิดหน่อย

เผื่อจะได้ร่วมขบวนไปด้วย

[yoyo]

[quote="Green"]มันวิ่งแบบนี้ สงสัย เจอ Squeeze แล้วหรือป่าวอ่ะฮะ

[Green]

CCME กับ CHBT นี้ ท่าจะไปกันใหญ่แล้วหล่ะฮะ  หนังคนละม้วนเลย

[yoyo]

[quote="Green"]CCME กับ CHBT นี้ ท่าจะไปกันใหญ่แล้วหล่ะฮะ

[A man from the Islay]

พูดถึงเรื่อง short, สงสัยคนจะ short เยอะจิง รวมถึงคน buy put ด้วย

ถ้าไปดู premium ของ CHBT ในการขาย put option จะเห็นว่าได้ราคาดีมาก, vol สูงมากๆ เช่น sell put ที่ 7.5 เดือน มค ต่อปีได้อยู่เกิน 30%..............

แบบนี้ก็ไม่เลวน่ะครับ แล้วผมก็ถนัดแบบนี้มากกว่า แย่ที่สุดคิดว่าได้ซื้อหุ้นที่ 7.5 ลบ premium, ได้อยู่ประมาณ 7 ถ้วน รอไปอีก 3 เดือน.........ไม่เลวน่ะครับ สำหรับคนคิดจะซื้อตัวนี้แต่ใจไม่ถึง แล้วกล้าๆกลัวๆแบบผม..................

[yoyo]

พูดถึงเรื่อง short, สงสัยคนจะ short เยอะจิง รวมถึงคน buy put ด้วย

ถ้าไปดู premium ของ CHBT ในการขาย put option จะเห็นว่าได้ราคาดีมาก, vol สูงมากๆ เช่น sell put ที่ 7.5 เดือน มค ต่อปีได้อยู่เกิน 30%..............

แบบนี้ก็ไม่เลวน่ะครับ แล้วผมก็ถนัดแบบนี้มากกว่า แย่ที่สุดคิดว่าได้ซื้อหุ้นที่ 7.5 ลบ premium, ได้อยู่ประมาณ 7 ถ้วน รอไปอีก 3 เดือน.........ไม่เลวน่ะครับ สำหรับคนคิดจะซื้อตัวนี้แต่ใจไม่ถึง แล้วกล้าๆกลัวๆแบบผม..................

ผมเองก็อยากเล่น option เหมือนกันครับ เห็นว่าโอกาสก็ดี แต่ว่า port ผมมันเล่นพวกนั้นไม่ได้อะสิ... พี่ man เล่นแล้วเป็นไงมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ ความรู้เรื่อง option ผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ยังงงๆกับมันอยู่เล็กน้อย